คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Mom&Dad 5 : ลูกชาย(ของเรา) (Rewrited)
Chapter 5 : ลูกชาย (ของเรา)
โครม!!
“เกิดอะไรขึ้นเลนยะ!!”
เสียงน่าเกรงขามทรงอำนาจคำรามขึ้นพร้อมกับประตูไม้(ที่เพิ่งซ่อมเสร็จ)ที่ถูกโค่นลงนอนกับพื้น ดวงหน้าของคิเอ็นจิเปี่ยมไปด้วยความตื่นตระหนก ดวงตาสีเทาเบิกกว้างกับภาพที่เห็นเบื้องหน้า เปรียบเหมือนถูกน้ำแข็งถังใหญ่สาดเข้าที่ร่างเข้าเต็มๆ ปากของเจ้าปีศาจเหวออ้าอย่างอึ้งที่สุดในชีวิต
ผีทั้งสองที่ติดตามมาทีหลัง คราวแรกก็ตระหนกตกใจไม่แพ้หมาป่าหนุ่ม ทว่ามันเปลี่ยนไปแล้ว
“ออกไปนะเฟร้ยยย...ไอ้เด็กบ้า!!”
ภาพตอนนี้ก็คือหมอผีสาวจอมโฉดซึ่งกำลังแงะเด็กน้อยออกจากหัวและใบหน้า แต่ว่าร่างเล็กก็เกาะเลนยะแน่นราวตุ๊กแก ซึ่งไม่รู้ว่าพันธุกรรมถึกนี้มาจากใครกันแน่
“หม่า~~ม้า!”
เด็กน้อยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างมีความสุข กลับกันคนที่เพิ่งได้เป็นหม่าม้ากลับเดือดจัดจนจะขย้ำทารกน้อยให้แหลกได้อยู่แล้ว
หมับ
กรงเล็บปีศาจของเลนยะที่จะบีบเด็กน้อยที่เกาะติดใบหน้าต้องชะงักเมื่ออยู่ๆคิเอ็นจิก็พราดเข้ามาอุ้มเด็กน้อยไว้ในอกราวกับพ่อหมาที่ปกป้องลูก เจ้าปีศาจจ้องเข้าไปในดวงตาของเด็กน้อยอย่างงงๆ ทารกน้อยทำหน้างุนงงไร้เดียงสาก่อนจะหลับตาพริ้ม ริมฝีปากเล็กสีชมพูอ้าขึ้นอีกครั้ง
“ป่ะป้า!!!”
ดวงตาสีเทาต้องเบิกค้างเมื่อได้รับตำแหน่งคุณพ่อไปเรียบร้อยเสร็จสรรพทั้งๆที่ยังไม่ได้แต่งงาน(กับคนที่อยากแต่ง)ซะหน่อย เจ้าปีศาจหันไปทางคุณแม่ของเด็กน้อยเชิงคำถาม แต่ก็มีเพียงรังสีอำมหิตคุกรุ่นทั้นที่ตอบกลับมา
“ท...ท่าน...คิเอ็นจิขอรับ”
“อย่าถามข้าเลย คนให้กำเนิดแท้ๆยังไม่รู้ไม่รับผิดชอบ ข้าก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว”
เสียงเยียบเย็นโยนความผิดไปให้แม่ยังสาวรับเต็มๆ ร่างของเลนยะพรวดขึ้นอย่างลืมเจ็บและสร่างมึนเพื่อจะไปจัดการพ่อของเด็กแทน มือที่ยังใช้การได้หยิบพวงกุญแจสีเงินสว่างขึ้นมาชูให้หมาป่าหนุ่มได้ดูชัดๆ
“บอกมาไอ้ลูกหมา ใครเป็นเจ้าของ ฉันจะไปอัดมันให้น่วม” เลนยะแหวพลางสาปแช่งซาโตรุคุงในใจเป็นร้อยเป็นพันรอบจนเด็กชายอาจจะจามจนตายไปแล้วก็ได้ คิเอ็นจิขมวดคิ้วอย่างหนักใจ แต่ว่า ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ ก็ช่วยไม่ได้
เด็กก็เกิดมาแล้วทั้งคน
“มันเคยเป็นสร้อยคอของท่านไคเอ็นจิ เจ้าปีศาจรุ่นก่อน”
สิ้นคำเด็กสาวก็ปรอทแตกทันที
“ไอ้หมาหัวหงอกนั่นน่ะนะ!!”
เลนยะกำหมัดแน่นจนสั่นระริก ใบหน้าเปื้อนยิ้มบางที่แฝงไปด้วยเงายมบาล(ในความคิดของเลนยะคนเดียว)ผุดขึ้นมาแทบจะในทันที ดวงตาสีน้ำเงินตอนนี้คือดวงตาปีศาจของจริง เขี้ยวในปากกระทบกันพร้อมเสียงสบถด่าในลำคอ เธอเพิ่งเข้าใจคำว่า ‘หน้าที่สำคัญ’ ขึ้นมาก็ตอนนี้ และในวินาทีนี้ วิธีการถ่วงวิญญาณลงน้ำเป็นคำตอบแรกสำหรับไคเอ็นจิ
“เจ้ารู้จักท่านไคเอ็นจิ” คำถามที่ออกมาจากร่างสูงทำให้ดวงตาเกรี้ยวกราดอยากฆ่าวิญญาณให้ตายรอบสองหันไปหาแทบจะในทันที “เออ แล้วอย่าฉันฉันเจอมันอีกแล้วกัน ถ้าแกไม่อยากให้พี่แกดับสูญนะ ไอ้ลูกหมา”
“ป่ะป้า~~~หม่าม้า~~”
เสียงใสเจื้อยแจ้วดังขึ้นทำลายบรรยากาศมาคุของพ่อแม่ที่กำลังจะโชว์มวยปล้ำให้ลูกเรียนรู้ คิเอ็นจิลบความไม่พอใจที่เด็กสาวมาว่าร้ายพี่ชายออกไปกับอากาศก่อนจะหันมาสนใจทารกน้อยอีกคราว มือเล็กๆที่แตะใบหน้าขาวทำเอาหมาป่าหนุ่มนิ่งไป
ความรู้สึกแบบนี้...มันคืออะไร.
มีความสุขและอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
“เฮ้ยย ไอ้แม่หมา แล้วเรื่องเด็กนี่จะเอายังไง” เลนยะเอ่ยเมื่อดวงตาสีเทาตอนนี้มีร่องรอยของความรู้สึกที่บอกไม่ถูกปรากฏขึ้น คิเอ็นจิมองไปหาเด็กสาว “เจ้า...ลองอุ้มเขาดูสิ”
หมอผีสาวมองคิเอ็นจิที่กิริยาเปลี่ยนแปลงไป ก่อนจะรับทารกน้อยในอ้อมแขนแกร่งมาโอบไว้ชิดอก เลนยะมองเด็กน้อยก่อนเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อย
หน้าเหมือน... ไอ้ลูกหมาเด๊ะเลยแฮะ
ใบหน้าเล็กๆที่ดูน่ารักน่าชังมองผู้เป็นแม่ตาแป๋ว ดวงตาคนละสีบ่งบอกได้ว่าเด็กน้อยไม่ใช่เด็กธรรมดาสามัญ ดวงตาข้างหนึ่งดูแกร่งกร้าวเกินเด็กสีน้ำเงินเข้มแม่สี ส่วนอีกดวงเป็นสีเทาดูมีอำนาจอันคุ้นเคย เด็กสาวใช้ดวงตาทั้งสองข้างพินิจทารกที่ยิ้มแป้นในอก แต่ทว่า..
ฉ่า..
“ไอ้เด็กบ้านี่!!! ฉันจะฆ่าแก๊!!”
เลนยะที่โชกไปด้วยฉี่ของเด็กทารกน้อยคำรามขึ้นดังก้องก่อนจะตัดสินใจฆ่าเด็กอีกครั้งแบบไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง คิเอ็นจิรีบดึงร่างเล็กออกจากวิถีอันตรายเพื่อไม่ให้มารดายังสาวฆ่าเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง
“อย่าไปฉี่รดแม่เขาแบบนั้นสิลูก ไม่ดีเลยนะ” เสียงทุ้มดุทารกเบาๆอย่าไม่จริงจังนักส่งผลให้ลูกน้อยในอกหัวเราะคิกคักสนุกสนาน หมอผีสาวที่เปียกปอนเดินเข้าไปหาเจ้าปีศาจอย่างเอาเรื่อง “ใครเป็นแม่ไม่ทราบ!!”
“ก็เจ้าไงเลนยะ” คิเอ็นจิกล่าว พลางมองลึกเข้าไปในนัยน์ตาสีน้ำเงินครามเข้ม “หรือเจ้าจะปฎิเสธว่าเขาไม่ใช่ลูกของเจ้า หลักฐานก็ออกมาขนาดนี้แล้ว”
ได้ผล... เลนยะเงียบไปครู่หนึ่ง เด็กสาวหันขึ้นมาประจันหน้ากับคุณพ่อป้ายแดงนามคิเอ็นจิ ก่อนว่า “พาเด็กนั่นออกไปถ้ายังไม่อยากให้มันตายล่ะก็” ว่าจบ เลนยะก็หยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นเตรียมเข้าห้องน้ำ ร่างสูงกว่าเดินเข้าไปขวางพลางส่งเด็กชายที่เพิ่งโจมตีหมอผีสาวด้วยฉี่ให้กับเธออีกครั้ง เลนยะมองคิเอ็นจิก่อนอ้าปากพูดอย่างตะกุกตะกัก “แกอย่าบอกนะว่า...”
“ใช่” หมาป่าหนุ่มตอบคำถามอย่างรู้ทัน “ในเมื่อเจ้าทั้งสองก็เปียกด้วยกันทั้งคู่ ก็เข้าไปอาบด้วยกันซะเลยสิ” ร่างสูงพูดกับภรรยา(จำเป็น)แกมบังคับเล็กน้อย เด็กสาวเรือนผมสีน้ำตาลมองคิเอ็นจิแบบอึ้งๆ ก่อนแสยะยิ้มอย่างมัจจุราช “แกไม่กลัวฉันจะจับเด็กนี่กดน้ำมั่งรึไง”
เจ้าปีศาจหนุ่มทอดถอนใจกับหญิงสาวผู้ไม่มีความเป็นแม่ในตัวเลยแม้แต่น้อยอย่างเบาๆ ใบหน้ารูปสลักยังนิ่งเฉย แต่ทว่าคำพูดของคิเอ็นจิกลับเป็นหมัดที่น๊อคหมอผีสาวได้ง่ายๆ “ถ้าเจ้าทำ ข้าก็คงทำอะไรไม่ได้มากนัก นอกจากผลิตคนใหม่”
เฮือกกก
ทั้งผีทั้งคนในห้องต่างจ้องร่างสูงเป็นตาเดียว ทาโร่กลืนน้ำลายเอื้อกเมื่อท่าทางของหมาป่าหนุ่มไม่ใช่ท่าทางของการล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย และถ้าเอาจริงเอาจังขนาดนี้แล้ว
เลนยะเสร็จแน่ๆ
หมับ
“ก็ได้เว้ย กะอีแค่อาบน้ำเด็กแค่นี้ งานหมูๆ ใครก็ทำได้ทั้งนั้น” เด็กสาวกล่าวพลางหิ้ว(ขอย้ำว่า หิ้วจริงๆ) ร่างเล็กเข้าห้องน้ำไปด้วยกัน คิเอ็นจินั่งลงบนเตียงนุ่มเพื่อรอจนกว่าทั้งแม่และลูกจะออกมาอย่างปลอดภัย
(สำหรับลูกแล้ว คงกลัวแม่จะฆ่าทิ้งซะตั้งแต่ยังแบเบาะนี่แหละ
ส่วนแม่นั้น กลัวว่าทนลูกไม่ไหว แล้วทำร้ายตัวเองซะมากกว่า)
“ท่านคิเอ็นจิขอรับ” ซามูไรหนุ่มที่เปื้อนยิ้มบนใบหน้าเอ่ยเรียกชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ใกล้ๆกัน “พวงกุญแจอันนั้นมันคืออะไรกันแน่ขอรับ”
ดวงตาสีเทาคู่งามมองออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนว่า “ข้าไม่เคยปกปิดอะไรจากเจ้าได้เลยใช่ไหม โยชิฮาระ” ซามูไรหนุ่มยิ้มบางให้กับเจ้าปีศาจ เพราะถึงแม้เค้าจะเป็นเพียงแค่วิญญาณ แต่ความสามารถมองลึกถึงก้นบึ้งจิตใจของเขาไม่ตายตามตัวไปด้วย
มือใหญ่หยิบพวงกุญแจสีเงินสว่างวาววับเมื่อต้องแสงแดดวันอาทิตย์ขึ้นมาวางไว้บนเตียงหนา หมาป่าหนุ่มสัมผัสมันอย่างคุ้นเคย เขายังจำได้ติดตาเสมอ ถึงเจ้าของดั้งเดิมของพวงกุญแจอันนี้
ชายหนุ่มในชุดเจ้าปีศาจ ซ้อนด้วยผ้าคลุมสีขาวสะอาดตา ใบหน้างดงามหล่อเลาดูอ่อนเยาว์เพราะจิตใจที่อ่อนวัยเป็นเด็กอยู่เสมอ ดวงตาสีฟ้าสดใสตัดกับเส้นผมยาวสีเงินที่เจ้าตัวมักจะมัดไขว้เอาไว้ที่ไหล่กว้างอยู่เสมอ และที่สำคัญคือบนต้นคอของชายหนุ่ม
สร้อยคอที่หลอมขึ้นด้วยเงินบริสุทธิ์ดัดเป็นรูปร่างหมาป่าสีเงินที่เห่าหอนร้อยกับเชือกเงินที่ดัดม้วนติดกันคล้ายลูกโซ่ มันหายสาบสูญไปในวันที่เจ้าของสิ้นชีวิต
“มันคือ งินโอคามิ” เสียงทรงอำนาจกล่าว โดยที่ไม่รู้ตัว มือของปีศาจหมาป่าก็กำมันแน่น “เป็นสมบัติตกทอดของเจ้าปีศาจทุกตนที่จะครอบครอง เป็นสัญลักษณ์สูงสุดของเจ้าปีศาจทุกตนที่อยู่เหนือปีศาจทั่วไป และผู้ที่จะครอบครองงินโอคามิได้ต้องเป็นปีศาจเลือดบริสุทธิ์เท่านั้น”
โยชิฮาระพยักใบหน้าเบาๆในเชิงรับรู้ ดวงตาสีอำพันฉายประกายวาววาบถึงจิโงคุที่เพิ่งสิ้นชีพไปด้วยลูกไม้อุบายของเลนยะ
เหตุเพราะความมักใหญ่ใฝ่สูง ต้องการความยิ่งใหญ่เหนือสรรพสิ่ง ทำให้จิโงคุสังหารท่านไคเอ็นจิ และพยายามชิงงินโอคามิมาเป็นของตนเอง
แต่เพราะบางสิ่ง ไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ได้ครอบครอง ชะตาจึงได้เป็นตัวผลักดันให้มันเดินทางเหนือห้วงเวลา
จนกระทั่งมาพบ ผู้ที่มีสิทธิ์โดยชอบธรรมในการเป็นนายของมัน
เจ้าปีศาจ ผู้นั่งอยู่ใกล้เขา เพียงแค่นี้
“มันเป็นสิ่งเดียวที่ติดตัวเจ้าปีศาจตนแรกมาแต่กำเนิด ตามตำนานว่าไว้ว่ามันคือสิ่งที่แปรพลังของสามโลกเพื่อให้กำเนิดปีศาจเลือดบริสุทธิ์ จะว่าไป มันก็คือสิ่งที่ทำให้ข้าเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้” หมาป่าหนุ่มเอ่ยเบาๆ ทาโร่มองพวงกุญแจที่น่าจะเป็นของธรรมดาอย่างไม่เชื่อสายตา
นี่น่ะเหรอ คือสิ่งที่ทำให้ปีศาจเลือดบริสุทธิ์ทุกรุ่นเกิดมา
ตัวกลางในการแปรพลังของสามโลกให้ก่อเกิดเป็นรูปร่าง
....แปรพลัง???
“เดี๋ยวนะฮะ คิเอ็นจิ” ผีน้อยแทรกขึ้นระหว่างการสนทนาของทั้งสอง ก่อนจะลอยเข้าไปดูงินโอคามิอย่างใกล้ๆ “จะเป็นไปได้ไหมครับว่า เจ้าหนูคนนั้นก็เกิดมาจากการแปรพลังของงินโอคามิ” ทาโร่กล่าว ทำให้ความเงียบงันแผ่ขยายตนทั่วบริเวณห้องนอนของเลนยะ
“มีเหตุผลนะขอรับท่านคิเอ็นจิ เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นหลังจากที่ท่านได้แบ่งพลังอสูรของท่านเพื่อรักษาบาดแผลให้กับท่านเลนยะ บางทีพลังของท่านทั้งสองอาจจะถูกแปรด้วยงินโอคามิ และก่อให้เกิดร่างกายของเด็กคนนั้นขึ้นมาก็ได้นะขอรับ” โยชิฮาระเสริมเมื่อคิดว่าสมมติฐานของผีน้อยอาจเป็นความจริง
“ถ้าอย่างนั้น เจ้าบ้าเด็กนี่ก็เกิดมาจากพลังวิญญาณของฉัน กับไอ้ลูกหมา อย่างงั้นล่ะสิ”
เสียงที่คุ้นเคยสำหรับทุกสิ่งในห้องสี่เหลี่ยมเรียกให้ทุกคนหันไปทางต้นเสียง เลนยะในชุดใหม่กับเด็กน้อยในอ้อมแขนที่ดิ้นขลุกขลักไปมาอย่างนึกสนุกยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำ
ทั้งสองชีวิตยืนฟังอยู่นานแล้ว
เด็กชายในชุดหลวมๆ(ของเลนยะ)กลิ้งไปมาบนฟูกนุ่มๆ โดยมีพ่อและแม่ผู้ให้กำเนิดนั่งอยู่บนเตียงด้วย เด็กน้อยหัวเราะคิกคักมีความสุข จนคิเอ็นจิทนไม่ไหว เอามือไปหยิกแก้มยุ้ยๆแดงๆของลูกชายเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว ควงตาสองสีของเด็กน้อยมองบิดามารดาสลับกันไปมา
เลนยะนั่งกอดอกมองหมาป่าหนุ่มที่เล่นกับทารกน้อยเหมือนเด็กๆทั้งๆที่เจ้าตัวมีอายุมาเป็นพันปีอย่างเนือยๆ ในขณะที่ตัวเองเพิ่งเกิดบนโลกนี้มาแค่ 16 ปีก็นั่งเก๊กทำฟอร์มอยู่นานสองนาน เด็กน้อยหลับตาพริ้มก่อนดึงผมยาวๆของเจ้าปีศาจเข้าปาก
“แล้วจะเอายังไงหรือขอรับท่านเลนยะ ท่านคิเอ็นจิ” วิญญาณซามูไรหนุ่มผู้ปลาบปลื้มเมื่อตนเองได้พบกับ ‘นายน้อย’ แห่งโซเคนโยแล้ว เอ่ยขึ้นพลางมองเด็กชายอย่างเอ็นดูราวกับตัวเองได้คลอดเด็กชายออกมา “เวลาท่านเลนยะไปเรียนหนังสือน่ะขอรับ”
“ข้าจะเลี้ยงเขาเอง” คุณพ่อหมา(ก็มีลูกแล้ว เรียกลูกหมาไม่ได้อีกแล้ว) กล่าวตอบในขณะที่ลูกชายยังทึ้งเส้นไหมสีดำไปมา ทาโร่ที่กั้นหัวเราะกับความน่ารักน่าเอ็นดูของเด็กชายอยู่นานแล้วก็ทนไม่ได้ ถึงกับปล่อยก๊ากออกมา “ต่อไปข้าคงจะนั่งเฝ้าบ้านอย่างเดียวไม่ได้อีกแล้ว” โยชิฮาระพยักหน้าเบาๆสนับสนุนความคิดของคิเอ็นจิ ทาโร่ถึงกับซึ้งในสัญชาตญาณพ่อหมาของเจ้าปีศาจรูปงาม
ดีแล้วแหละที่เลนยะเจอคนที่รับผิดชอบดีอย่างคิเอ็นจิ
ว่าแต่เจ้าตัวจะเห็นค่ารึเปล่า
“แกเลี้ยงเด็กเป็นรึไงไอ้ลูกหมา เผลอๆแกเล่นหยอกมันไปมาแล้วคอหักขาหักขึ้นมา จะหาว่าฉันไม่เตือน” เด็กสาวผู้เกลียดเด็กพูดขึ้นพร้อมกับใบหน้าสีเรื่อ เจ้าปีศาจหนุ่มยิ้มบางๆในท่าทีที่เป็นห่วงลูกแต่ไม่อยากให้ใครรู้ของเลนยะ
ฟอร์มจัดจริงๆ
“ไม่ต้องห่วงหรอก ข้าจะดูแลอย่างดี”
จ๊อกกก~~~~
สำเนียงโอเปร่าไร้ที่มาบรรเลงขึ้นกลางห้อง ทั้งคิเอ็นจิและเลนยะต่างสำรวจตัวเองว่าดนตรีนี้มาจากตัวเองรึเปล่า ปรากฏว่า ไม่ใช่
จ๊อกก~~~
“หม่าม้า~~~หิววว” เสียงใสจากร่างเล็กจมฟูกดังขึ้น ก่อนจะคลานขึ้นไปบนตักของเลนยะ เด็กสาวดวงตาสีน้ำเงินมองทารกน้อยอย่างงๆ “แกจะทำอะไร”
“นม..นม...หม่าม้า~~~”
เป็นอันว่าทุกสิ่งคลี่คลาย ดวงตากลมโตใสแจ๋วมองหน้าอกของเลนยะราวกับว่าเป็นขุมทรัพย์ใหญ่ที่มีน้ำนมรสโอชาอยู่ภายใน ใบหน้าหมอผีสาวเริ่มแดงจัดขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเด็กชายหน้าตาก็ถอดแบบออกมาเหมือนคิเอ็นจิไม่มีผิดเพี้ยน
ทำให้คิดถึงจินตนาการเรตเอ๊กซ์นั้นขึ้นมาอีกแล้ว
“จะบ้ารึไง ฉันไม่มีนมให้แกกินหรอกนะเว้ย อยากกินก็ไปหากินกะพ่อหมาแกแล้วกัน” เด็กสาวโยนภาระของเพศแม่ไปยังปีศาจหนุ่มแทบจะในทันที คิเอ็นจิถึงกับสะอึก มองมายังคุณแม่ที่ไม่มีน้ำนมให้กับลูกอย่างเอาเรื่อง “เจ้านั่นแหละบ้ารึเปล่า ข้ามีน้ำนมที่ไหนกัน แค่หน้าอกข้ายังไม่มีเลย”
“หนวกหูเว้ย ฉันหมายถึงไปหาซื้อนมต่างหาก ไอ้ลูกหมา แกแปลงเป็นคนธรรมดาแล้วไปหาซื้อนมให้เจ้าเด็กตาแปลกนี่กัน ถ้าไม่อยากให้มันไปหานมที่หน้าอกแฟบๆของแกนะ”
เลนยะแหวลั่น ก่อนจะโยนเด็กน้อยบนตักไปหาพ่อหมา ก่อนที่เด็กน้อยจะหิวไม่ลืมหูลืมตาขึ้นมาจริงๆ แล้วจะเอาผลิตจากฟาร์มที่แห้งแล้งอย่างเลนยะ
ติ๊งต่อง~~~~
“ท่านผู้มีเกียรติโปรดทราบ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าฮาราชิเปิดใหม่ของเรา ขอให้ผู้มีอุปการคุณทุกท่านมีความสะดวกสบายในการบริการของเรา ตอนนี้มีโปรโมชั่นสำหรับคุณพ่อและคุณแม่ทุกท่าน เพราะทางห้างของเราได้ลดราคาเครื่องใช้สำหรับเด็ก 50% ต้อนรับวันเด็ก ขอให้ทุกท่านจับจ่ายสินค้าและรับการบริการอย่างสวัสดิภาพ ขอบคุณค่ะ”
เสียงประกาศของประชาสัมพันธ์ห้างดังก้องไปทั่วห้างสรรพสินค้าใหญ่โตที่เปิดใหม่ใจกลางเมือง เลนยะในชุดที่เรียกได้ว่าเอสกิโม+บ้าหอบฟางมาเห็นแล้วจะอึ้งเดินนำสามีในชุดไปรเวทธรรมดาแต่เพราะรูปโฉมของชายหนุ่มทำให้ดุเปล่งรัศมีเกินกว่าคนทั่วไปซึ่งในอ้อมแขนมีทารกหน้าตาน่ารักนอนนิ่งอยู่ เด็กสาวเรือนผมสีน้ำตาล(ซึ่งตอนนี้มองไม่เห็นแล้ว เพราะมีทั้งหมวกไหมพรมและผ้าพันคอพันกันยุ่งไปหมด) เดินเข้ามาหาทั้งสองอย่างลำบากลำบน
“นี่ไอ้ลูกหมา แกมองหาแผนกของใช้สำหรับเด็กให้ฉันหน่อยซิ” เสียงบัญชาการอู่อี้ใต้ผ้าคลุมดังขึ้นสั่งชายหนุ่มผู้เคยเป็นปีศาจเมื่อไม่นานมานี้ คิเอ็นจิถอนใจก่อนเอ่ยน้ำเสียงปลงๆ
“แค่เอากิโมโนพิลึกๆนั่นออกเจ้าก็เห็นแล้วล่ะว่ามันอยู่ข้างหน้า”
“เรื่องอะไรวะ ถ้าเกิดมีคนรู้จักมาเจอจะให้ฉันแก้ตัวยังไง” เลนยะกล่าวก่อนเชิดปลายหมวกขึ้นเบาๆทำให้ทัศนวิสัยกว้างขึ้นมาหน่อยหนึ่ง
หมาป่าหนุ่มในร่างมนุษย์ถอนหายใจเบาๆอย่างหน่ายๆภรรยาจอมคิดเล็กคิดน้อย ทาโร่บุ้ยปากให้กับเลนยะโดยไม่ให้เจ้าตัวเห็น
คนรู้จักอะไรล่ะ...ศัตรูซะมากกว่า
ก็คุณเธอเล่นสร้างศัตรูไว้ทั่วบ้านทั่วเมืองขนาดนั้น
กลัวเขาจะเอาคืนได้ก็พูดมาตรงๆดีกว่ามั้ง
เลนยะเดินเข้าไปหยิบสิ้นค้าเด็กทั้ง ที่นอน ขวดนม กะละมัง ของเล่นและอีกมากมายขึ้นมาส่องราคาก่อนจะคำนวณรายได้ที่เพิ่งไปปราบปีศาจมาลบเข้ากับค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ไปมาจนมึนหัว “ปัดโธ่เว้ย...รู้แบบนี้น่าจะเอามากกว่า 500,000 อีกนะเนี่ย แค่ค่ารักษาแผลจิปาถะก็จะหมดอยู่แล้ว ไม่คุ้มเลย”
“แต่มันก็ลดตั้งครึ่งแล้วไม่ใช่รึขอรับ” โยชิฮาระกล่าว เด็กสาวตวัดนัยน์ตาสีน้ำเงินแม่สีมาหาวิญญาณประจำตระกูลทันที แต่เพราะหมวกไหมพรมสีชมพูแปร๋นนั้นทำให้ซามูไรหนุ่มสบตาหมอผีสาวสาวได้ไม่ชัดนัก
ว่าแต่ว่า ใส่สีชมพูแบบนี้แล้วบอกว่าไม่อยากโดดเด่น เว่อร์ไปรึเปล่า
“ของพวกนี้แพงจะตายชัก ขนาดลดแล้วนะเนี่ย แล้วทำไมข้าวของมันเยอะอย่างนี้วะ วุ่นวายชะมัดยาด” เลนยะบ่นเหมือนหมีกินผึ้งก่อนจะส่องหาสินค้าที่ถูกที่สุดในจำนวนนั้น
“แต่ท่านเลนยะขอรับ รู้ไหมขอรับ ตอนที่ท่านมาซาโกะตั้งท้องท่านเลนยะน่ะ ท่านทำทุกอย่างกับมือเองเลยนะขอรับ ไม่ว่าจะเสื้อผ้า ถุงมือ ถุงเท้า แม้แต่เปลนอนก็ฝีมือของท่านเองทั้งนั้น ขนาดท่านชิมิสึบอกห้ามไม่ให้ทำงานหนักแล้ว ท่านมาซาโกะก็ยังไม่ฟังเลย แม้ว่าท่านจะไม่ได้เลี้ยงท่านเลนยะด้วยสิ่งของที่ท่านทำให้ แต่ข้ารู้ว่าท่านต้องดีใจที่ได้ทำเพื่อท่านเลนยะนะขอรับ นี่แหละคือความรู้สึกของแม่ที่มีให้กับลูก”
ซามูไรหนุ่มเอ่ยถึงอดีต เค้ายังจำได้แม่น หญิงสาวรูปร่างงดงามกำลังนั่งถักไหมพรมให้เป็นถุงมือถุงเท้าเอาไว้ให้กับลูกสาวที่อยู่ในท้อง ใบหน้าราวนางฟ้านั้นแย้มยิ้มอย่างมีความสุข
เลนยะเงียบไปเมื่อโยชิฮาระยกเรื่องของมารดาที่ไม่ได้ทำแม้กระทั่งเรียกท่านว่าแม่มาเล่าให้ฟัง หมอผีสาวมองเด็กชายที่หลับสนิทในอกอบอุ่นของหมาป่าหนุ่มด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เต็มตื้นในอก ก่อนจะสะบัดใบหน้าลบความคิดออกจากหัว ตั้งหน้าตั้งตาเลือกของต่อไป
คิเอ็นจิยิ้มให้กับลูกชายที่นอนหลับด้วยความเพลีย เขาจะดีใจไหมนะถ้ารู้ว่าแม่ของเขาเริ่มมีความรู้สึกของความเป็นแม่ขึ้นมาบ้างแล้ว
“แผนกเครื่องเรียนเหรอคะ ข้าว่าน่าจะอยู่ใกล้ๆแผนกเครื่องใช้เด็กนะคะ” เสียงของวิญญาณสาวผู้ถือง้าวดังขึ้นระหว่างที่ลอยตามชายหนุ่มบุคลิกเคร่งขรึม ชายหนุ่มขยับกรอบแว่นก่อนเหลียวมองไปรอบๆทิศ “ห้างนี้ใหญ่มากจริงๆนะท่านหญิงอาเคเดะ”
“เจ้าค่ะ” หญิงสาวรูปร่างสง่างามกล่าวตอบชายหนุ่มผู้เหลือรอดจากโศกนาฏกรรมของบ้านหลังที่สอง ร่างระหงในกิโมโนสีดำลอยไปพลางมองหาป้ายแผนกเครื่องเรียน แต่ทว่ากลุ่มคนกลุ่มหนึ่งทำให้ดวงตาสีงาช้างค้างนิ่งอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เป็นไปไม่ได้แน่
“มีอะไรเหรอครับท่านหญิง”
ซานาดะถามวิญญาณคู่ใจเมื่อหล่อนเงียบไปไม่ยอมตามมา ชายหนุ่มเดินเข้ามาหาร่างวิญญาณที่อึ้งอยู่กับที่พร้อมกับหันไปทางทิศทางที่นัยน์ตานั้นจับจ้องอยู่ และแล้วก็เจอแจ๊คพ๊อตเป็นรายที่สอง
“น...นั่น...เลนยะ...กับท่านคิเอ็นจินี่นา”
อาเคเดะพยักหน้างดงามเบาๆเมื่อภาพที่ปรากฎคือเด็กสาวปีศาจนาม โซเคนโย เลนยะ ในชุดแปลกประหลาดอุบาทว์โลกเหนือความคาดหมาย(แต่ถึงแม้กระนั้นก็ยังจำได้ดี) วิญญาณทั้งสองดวงที่ติดตามอยุ่เสมอ และชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายแม้จะแปลงรูปแล้วก็ยังไม่ทิ้งเค้าของคิเอ็นจิ เจ้าปีศาจแห่งป่ากักปีศาจผู้สูงศักดิ์ ซึ่งกำลังช่วยกันคัดเลือกของใช้เด็กกันอย่างขะมักเขม้นกลัวจะมีใครมาเห็นอย่างนั้นล่ะ(แต่ก็เห็นแล้ว) แต่ทว่าในอ้อมแขนของเจ้าปีศาจมีร่างของอะไรบางอย่างทอดกายอยู่
“ท่านซานาดะ ลืมใครไปรึเปล่าคะ” อาเคเดะถามชายหนุ่มเมื่อเห็นร่างในนั้นเต็มตา อีกทั้งพลังที่เปล่งออกจากจากร่างกายเล็กๆนั้นมีกลิ่นไอของมนุษย์กึ่งอสูรอย่างเลนยะ กับปีศาจเลือดบริสุทธิ์อย่างคิเอ็นจิอย่างชัดเจน
“อืม” ซานาดะตอบ “ลูกของเค้าทั้งสองคนไง”
ความคิดเห็น