คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Mom&Dad 1 : งานใหม่ (Rewrited)
Chapter 1 : งานใหม่
“
นี่...เอาไปสิ”
เด็กชายในชุดแรพเปอร์รุ่นเล็กยื่นพวงกุญแจเงินสว่างรูปร่างคล้ายหมาป่าให้เด็กสาวที่ดูทึ่มๆเชยๆซึ่งกำลังเลิกคิ้วมองของสิ่งนั้นด้วยสายตาเหลือเชื่อ พลางขยับยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างถูกใจ
“อะไร..ฉันจำได้นะว่าไม่เคยมีของพรรค์นี้” ร่างสูงกว่ากล่าวอย่างยียวนนิดๆ แต่ดวงตาสีน้ำเงินจ้องมันเป็นนัยว่า ‘แต่ถ้าไปขายก็ได้หลายตังค์แฮะ’
“ยัยโง่สี่ตาเอ้ย..ฉันให้เธอ....เป็นของขวัญน่ะ” เด็กชายหลานผอ.โยโคกล่าวน้ำเสียงเซ็งชีวิต คิ้วเข้มขมวดแน่นเมื่อเริ่มปิดบังสีแดงจางๆบนใบหน้าไม่อยู่ เลนยะกอดอกเชิดใส่ซาโตรุอย่างกำชัย “นี่เหรอ ...ของขวัญ ไม่เห็นจะห่อกล่องผูกโบว์อะไรให้มันสวยกว่านี้เลย”
“คนอย่างเธอแค่นี้ก็หรูแล้ว..อีกอย่าง เรื่องอะไรฉันจะเสียเงินให้เธออีกค่าห่อของขวัญ แค่พวงกุญแจนี้ก็หลายหมื่นเยนแล้ว”
“แล้วทำไมต้องเอามาให้ฉัน”
เลนยะถามอย่างลองเชิง ก่อนจะหยิบพวงกุญแจมาส่องแสงแดดยามเย็นที่ส่องผ่านกระจกทางเดินของโรงเรียนโยโคเล่นเพื่อย้ำให้แน่ใจว่าเงินแท้ ธาตุเงินที่ดัดเป็นรูปหมาป่าเงินสะท้อนวาววับดูทรงอำนาจเกินกว่าจะเป็นเพียงแค่พวงกุญแจทั่วๆไป แต่เลนยะหยุดความสนใจมายังซาโตรุอีกครั้งเมื่อร่างเล็กยังตะกุกตะกักไม่บอกเหตุผลที่จริงสักที
แต่มันน่าจะเป็นการย้ำชัยชนะเหนือเด็กน้อยเสียมากกว่า
“ว่าไงไอ้เด็กเลี้ยงแกะ..ถ้าแกไม่ตอบ..ฉันไม่รับหรอกนะ ถ้าเผื่อแกเอาของโจรมาให้ฉัน...ฉันไม่ซวยแย่เรอะ?” ซาโตรุถึงขนาดตวัดดวงตากลมมาจ้องเลนยะอย่างเอาเรื่องที่สมองคุณเธอสามารถคิดอะไรได้ในแง่ร้ายขนาดนี้
“...ก็....ที่เธอช่วยฉันไว้...จากผีตนนั้นไง”
ภาพของเด็กชายที่หลับตาปี๋และสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวท่ามกลางสุสานมากมายที่ตั้งเรียงรายและวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนวนเวียนรอบร่างของเด็กชายเพื่อเรียกร้องความช่วยเหลือ แต่ที่เห็นจะใกล้ที่สุดก็เป็นวิญญาณทหารที่สภาพศพสาหัสด้วยการรบที่ยาวนานผุดขึ้นในความทรงจำของเลนยะ เด็กสาวขยับกรอบแว่นเบาๆ ก่อนจะเอาพวงกุญแจนั้นติดเข้ากับกระเป๋าเรียน
“ถ้าเต็มใจให้ ก็ขอบใจแล้วกัน..ไอ้เด็กบ้า”
เลนยะเยียดยิ้มมุมปากให้กับซาโตรุอีกครั้ง อะไรจะคุ้มปานนี้ ได้ทั้งเงินของแท้แถมความสะใจอีกที่เจ้าหล่อนปราบพยศเด็กชายสำเร็จ เด็กสาวค่อยๆเดินจากร่างเล็กอย่างสบายอารมณ์พลางกวักมือเรียกวิญญาณเด็กชายที่หลบอยู่มุมห้องเรียน ให้ไปด้วยกัน ทาโร่ยิ้มเจื่อนๆให้ซาโตรุแล้วลอยตามหมอผีสาวไปแบบสำนึกผิดแทน ซาโตรุบุ้ยปากอย่างขัดใจ “ทีตัวเองหลอกว่าไม่เห็นวิญญาณยังไม่ว่าอะไรสักคำ ยัยทึ่มสี่ตา”
“...ต...เค.น...ยะ...ตือ..เลน....ตื่น...โซเคนโย เลนยะ!”
เสียงที่ค่อยๆชัดเจนขึ้นเหมือนคลื่นวิทยุที่กำลังหมุนปรับเสียงปลุกเด็กสาวให้ตื่น(อย่างยากเย็น)จากภวังค์นิทรา ดวงตาโตแข็งกร้าวยังไม่ลืมอย่างเต็มตา อีกทั้งความงัวเงียยังเสมือนเป็นสมอใหญ่ที่คอยถ่วงเรือลำน้อยอย่างเลนยะให้จมอยู่กับทะเลเตียง คล้ายว่าต่อให้ชาติหน้าก็ไม่ลุกอย่างเด็ดขาด ต่อให้มีหมาที่ไหนมาปลุกก็เหอะ
เจ้าของเสียงทุ้มต่ำขมวดคิ้วเรียวเข้มแน่นอย่างรำคาญใจ หลังจากที่พยายามงัด ผลัก ดึงให้ร่างบางสูงลุกจากเตียงหนามานานหลายสิบนาทีแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ คิเอ็นจิถอนใจอย่างปลงๆก่อนจะค่อยๆจับไหล่ทั้งสองข้างของเด็กสาวอย่างเบามือที่สุดในท่านั่ง คอของเลนยะยังหมุนไปรอบทิศด้วยเพราะตื่นยังไม่เต็มที่
หมับ...
ดวงตาสีเทาเบิกกว้างขึ้นเมื่อริมฝีปากบนใบหน้าที่เอนไปมาเมื่อครู่ประทับเข้ากลางหน้าผากกว้างของเขาเอง ดวงใจของเจ้าปีศาจเต้นรัวเร็วอย่างช่วยไม่ได้
ร้ายนัก...ขนาดหลับยังฉวยโอกาสเก่งเหมือนเดิม
“ขอ...กะ..ก..”
คิเอ็นจิมองไปยังเด็กสาวที่พูดจางึมงำอย่างประหลาดใจ มือเล็กทั้งสองข้างค่อยๆยกขึ้นจับใบหน้ารูปสลักอย่างนุ่มนวล หมาป่าหนุ่มเริ่มคุมอารมณ์ไม่ถูก แต่ทว่า..
“ขอกัดคำนึงนะ แฮมเบอร์เกอร์~”
โครม!!!
“ไอ้หมาบ้า..แกจะฆ่าฉันรึไงห๊า!!”
เสียงหวีดแหลมสูงแทงโสตประสาทอันเยี่ยมยอดของหมาป่าหนุ่มพุ่งจากกองฟูกและผ้าห่มสีขาวออกมาเร็วเสียยิ่งกว่าแสง เด็กสาวเรือนผมสีน้ำตาลพยายามปัดกองผ้าห่มที่คลุมร่างให้ออกอย่างลำบาก พร้อมกับเท้าขาวๆถีบฟูกที่ทับอยู่ให้เด้งกลับไปยังเตียงที่เพิ่งจะถูกร่างใหญ่จับโยนลงพื้นอันนุ่มนวลพร้อมๆกับเธอที่ยังนั่งครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่บนเตียง
“ในเมื่อตื่นยากนัก ก็ช่วยไม่ได้” คิเอ็นจิโยนความผิดมายังหมอผีสาวอย่างเต็มๆก่อนจะเมินหน้าสีเรื่อไปทางอื่น เลนยะลุกจากพื้นพลางฟาดผ้าห่มลงบนเตียงเตรียมหาเรื่องกับหมาป่าหนุ่ม “แล้วปลุกให้มันดีกว่านี้ไม่ได้รึไง..ฉันไปทำอะไรให้แกหรือยังไงวะ”
แหม...ยังไม่รู้อีกเนอะ
ร่างสูงของเจ้าปีศาจถอนหายใจอย่างเนือยๆ ไม่รู้จะเบื่อต่อความยาวสาวความยืด หรือเสียดายที่เด็กสาวผู้ขโมยจูบจำที่ล่วงเกินเขาไม่ได้กันแน่ มือใหญ่หยิบซองกระดาษบนหัวเตียงยื่นให้เด็กสาวที่ยืนต้มอารมณ์ให้เดือดเพียงพอจะฆ่าสัตว์ตัดชีวิตอย่างไม่เสียดาย ดวงตาสีน้ำเงินมองซองปริศนาอย่างแปลกใจ “อะไร?”
“โยโค มิโนวะส่งมาให้เจ้า เรื่องงานใหม่”
“ไม่ไหวเล้ย..ขี้ข้าที่ไหนเขาให้สอดเรื่องเจ้านายขนาดเปิดจดหมายดูแบบนี้เนี่ย สงสัยฉันต้องฝึกแกให้รู้จักสมบัติผู้ดีมากกว่านี้แล้วล่ะมั้ง เผื่อเวลาแกกลับป่ากักปีศาจของแก จะได้สอนขี้ข้าของแกอีกทีว่าอย่าลำพองให้มันมากนัก” เด็กสาวแกล้งถอนหายใจเบื่อโลกเลียนแบบคิเอ็นจิ ก่อนจะเสียดสีแบบแพคเกตคู่ลามไปถึงชินแอนด้วยอย่างสนุกใจ นัยน์ตาคมไล่รายการในกระดาษบางๆอย่างรวดเร็วเหมือนคอมพิวเตอร์ที่คำนวณผลกำไรขาดทุนส่วนได้ส่วนเสีย ก่อนจะเด้งตัวจากเตียงพลางดึงเสื้อผ้าชั้นนอกออก
“จ...เจ้าคิดจะทำอะไร!?”
คิเอ็นจิอึ้งเมื่ออยู่ๆเด็กสาวก็อยากเปลื้องผ้าต่อหน้าเขาขึ้นมาซะเฉยๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่เพิ่งคุมสติอยู่เริ่มร้อนจัดขึ้นมาอีกครั้ง
รู้สึกว่าวันนี้หมอผีสาวจะเซอร์ไพรส์หลายอย่างเกินไปแล้ว
“ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าไง..งานนี้ฉันรับ”
เลนยะกล่าวอย่างฉัดฉาดก่อนควานหาเสื้อตัวเก่งเพื่อใช้ในทันที หมาป่าหนุ่มหันหลังให้แก่เด็กสาวแม้ว่าเธอจะไม่ได้ถอดเสื้อผ้าหมดทุกชิ้นก็ตาม ร่างสูงใหญ่หยิบกระดาษใบน้อยมาอ่านบ้างเพื่อศึกษาปีศาจที่จะไปปราบในวันนี้
“ดอปเปลเกงเกอร์...ปีศาจเลียนร่างน่ะหรือ”
เด็กสาวหันมายังคิเอ็นจิหลังจากที่สวมใส่เสื้อผ้าครบเรียบร้อย ก่อนว่า “ก็แค่พวกลูกกระจ๊อกล่ะน่า แกไม่ต้องไปก็ได้ งานแค่เนี้ยแค่ฉันกะโยชิฮาระก็เอาอยู่แล้ว” นัยน์ตาสีเทาอ่านข้อความบรรทัดต่อมาในใจอีกครั้ง “ตัวนี้ไม่ใช่ปีศาจเลียนร่างธรรมดาๆ ดูจากพลังปีศาจที่เยอะขนาดนี้ คงจะมีอายุไม่ต่ำกว่าร้อยปี ข้าไม่ให้เจ้ารับงานนี้”
คิเอ็นจิเอ่ยออกคำสั่งอย่างน่าเกรงขามไม่สนใจเลนยะที่เหวออย่างนึกไม่ถึงว่าเจ้าลูกหมาของเธอจะบังคับเธอไม่ให้ทำงานที่รายได้งามขนาดนั้น
“เรื่องอะไรฉันต้องทำตามคำสั่งแกด้วยหา..ไอ้ลูกหมา”
ร่างสูงที่กำลังจะออกจากห้องหมุนกลับมาประจันหน้ากับเด็กสาวที่จ้างให้ก็ไม่มีทางทำตามประกาศิตของเขาแน่ ก่อนส่งสายตาดุที่เจือความเป็นห่วงอย่างปิดไม่มิดไปยังเลนยะเพื่อจะย้ำความตั้งใจของตน
“อย่ามาทำหน้าหมาใส่ฉันแบบนี้..ไม่เปลี่ยนใจง่ายๆหรอกเว้ย”
เลนยะโพล่งขึ้นเมื่อรู้สึกถึงสายตาที่หมาป่าหนุ่มมีให้กำลังจะเปลี่ยนความคิดของเธอ คิเอ็นจิหลุบเนตรสีเทาลงต่ำก่อนจะก้าวเดินเพื่อออกจากห้องไป
แกร๊งงง
ฝีเท้าหยุดนิ่งอยู่หน้ากระเป๋าเรียนของเลนยะที่ถูกทิ้งขว้างรอเวลาเอาใช้ในตอนเช้า ร่างใหญ่ก้มลงหยิบวัตถุสะท้อนแสงขึ้นมาจากพื้น พวงกุญแจหมาป่าที่ดูเหมือนกำลังร่ำร้องเห่าหอนส่งสำเนียงเสนาะหูเมื่อมันกระทบกันในมือเจ้าปีศาจ ดวงตาสีเทาจ้องมองมันอย่างพินิจพิเคราะห์
“เจ้าได้มาจากไหน”
เด็กสาวเลิกคิ้วก่อนร้องอ๋อ “ไอ้เด็กมีปัญหาหลานลุงนั่นให้ฉันมา ก็สวยดี ฉันชอบ มีอะไรรึไง” เลนยะกล่าวถามอย่างจับพิรุธ แต่คำตอบมีเพียงความเงียบงันว่างเปล่า คิเอ็นจิวางมันลงบนโต๊ะข้างๆเตียงก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ หมอผีสาวมองตามอย่างงงในอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวเงียบของสัตว์เลี้ยงเป็นที่สุด
เมนส์ไม่มารึไงวะ
โรงเรียนโยโคยามเช้าสดใสจอกแจกจอแจด้วยนักเรียนชายหญิงมากมายที่มาโรงเรียนกันอย่างสนุกสนาน มีเพียงเด็กสาวสวมแว่นหนาเตอะเท่านั้นที่ดูไร้อารมณ์กับชีวิตเด็กม.ปลายเหลิอเกิน ดวงตาสีน้ำเงินใต้กรอบแว่นมองไปยังพวงกุญแจที่ทอดกายอยู่บนโต๊ะเรียนอย่างฉงนสงสัย ก่อนจะละสายตาจากมันไปบนท้องฟ้าสีทองอันเป็นสัญญาณของวันใหม่ที่มาถึง
“มีอะไรกับพวงกุญแจอันนั้นรึไงเลนยะ เห็นเธอจ้องมันหลายรอบแล้วนา”.
ทาโร่ที่ลอยอยู่ข้างๆทักขึ้นหลังจากที่เด็กสาวเงียบกริบผิดปกติมานาน แทนที่จะหาเรื่องกับหนุ่มมาดขรึมลูกพี่ลูกน้องโต๊ะข้างๆที่มักจะทำทุกวันหลังอาหารเช้า
“ไม่ใช่เรื่องของผี”
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอถามแทนว่าเธอเป็นอะไรไป” ซานาดะเอ่ยขึ้นหลังจากทนดูความอัดอั้นตันใจของผีน้อยไม่ไหว หมอผีสาวยังคงเท้าคางมองไปบนท้องฟ้า “ก็ไม่ได้เป็นอะไร ก็แค่สงสัยอะไร.....นิดหน่อย” เลนยะเปรยเบาๆในขณะที่นัยน์ตาใต้กรอบแว่นวาววาบเมื่อนึกพฤติกรรมที่เจ้าลูกหมาทำกับพวงกุญแจอันนี้ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามดูกี่ทีๆมันก็แค่พวงกุญแจเงินธรรมดา ไม่มีพลังวิญญาณ ไม่มีไอปีศาจ ไม่มีอาคม ไม่มีคำสาปอะไรทั้งสิ้น หรือว่าเธอแค่คิดมากไปเอง
“เกี่ยวข้องกับท่านคิเอ็นจิหรือไง”
อาเคเดะถามเมื่อเริ่มจะเดาเรื่องราวออก เลนยะตวัดดวงตามาจ้องพี่สาวของชายที่เธอเหม็นขี้หน้าที่สุดเมื่อเริ่มเบื่อคนรู้ทัน “ก็แหงล่ะนะ มีหมาเลว เวลาคนอยากให้เห่า ดันเงียบ” เด็กสาวเรือนผมน้ำตาลทิ้งประโยคอันไม่วายด่า ‘หมา’ ของเธอก่อนจะเดินออกไปจากห้องเรียนที่แทบไม่มีนร.นั่งอยู่ไปยังห้องผอ.โยโคเพื่อติดต่องานแทบจะในทันทีโดยไม่อยู่รอให้ใครได้ไขข้อสงสัยมากไปกว่านี้อีกแล้ว
“เกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคนนั้นรึไง”
หญิงสาวถามวิญญาณเด็กน้อยข้างๆที่ลอยค้างเติ่งมองตามหลังเลนยะไปโดยรู้ว่าไม่ควรตามไป ทาโร่จึงถอนหายใจ(ซึ่งไม่ควรจะมี)ก่อนจะตัดสินใจเล่าให้ท่านหญิงฟังเรื่องราวทั้งหมด
“ขอโทษทีนะโซเคนโยคุง ที่ไม่ได้บอกเรื่องงานเอง ตอนนั้นไม่ว่างจริงๆเลยส่งจดหมายไปให้เผื่อจะเตรียมตัวทัน” ร่างอ้วนในชุดสูทสบายๆดูอบอุ่นกล่าวพลางรินชาจากในกาดินเผาลงใส่แก้วให้เด็กสาวตรงหน้า เลนยะรับมาดื่มโดยไม่พูดอะไร ผอ.โยโคยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับนักเรียนหญิงที่ไม่เหมือนกับนักเรียนหญิงคนใด
“ได้รับแล้วสินะ ของขวัญจากซาโตรุคุง”
มือที่จะวางแก้วชาชะงักเล็กน้อยก่อนจะเงยใบหน้าขึ้นมองใบหน้าใจดีนั้น “เด็กนั่นซื้อพวงกุญแจนั่นมาจากไหน” เด็กสาวเอ่ย ผอ.โยโคจิบชาเบาๆให้เลนยะลุ้นเล่นๆว่าจะพูดอะไรต่อไป
“ไม่รู้สิ..เห็นว่าเขาซื้อมาจากเกียวโตน่ะ แพงมากเลยแหละ แต่เขาก็ยอมซื้อเพื่อให้กับเธอนะนี่ แปลว่าเขาคงอยากตอบแทนเธอจริงๆ ช่างเป็นเด็กดีจริงจริ๊ง” ผอ.โยโคกล่าวน้ำเสียงชื่นชม จนเลนยะเริ่งสงสัยว่าไปติดโรคอวดหลานมาจากตาเฒ่าโฮตาอิ โยรุจิเมะ นั่นรึเปล่า
“..เชอะ ไอ้เด็กนั่นน่ะเหรอ มันก็แค่ให้กันคนอื่นด่าว่ามีคนช่วยเหลือแล้วไม่ตอบแทนก็เท่านั้นเอง น้ำหน้าอย่างเด็กบ้านั่นก็ทำได้แค่สร้างปัญหาไปวันๆ” เด็กสาวเอ่ยปาวๆแบบไม่ไว้หน้าคุณปู่ของ’เด็กนั่น’ แม้แต่น้อย แต่ผอ.โยโคก็ทำหูทวนลม เทคำด่าเสียๆหายๆที่ออกมาจากปากหมอผีสาวลงแม่น้ำไปหมด เพราะเรื่องประตูห้องนอนเลนยะ ที่เจ้าหล่อนบ่นหนักหนาว่าเสียหลายเยนก็รับประกันได้อยู่ว่าหลานชายคนเดียวตระกูลโยโคซนพอได้เหมือนกัน
“ไม่เอาน่าโซเคนโยคุง...คำพูดแบบนี้ไม่สมควรออกมาจากปากคนที่จะเป็นแม่ในอนาคตเลยนะ”
พรืดดดดดดดดดด
ของเหลวสีเขียวอ่อนพุ่งจากปากของคนที่กำลังจะเป็นแม่อย่างแรง เลนยะหายใจอย่างลำบากเพราะชาที่ไปอัดหลอดลมสักพักก่อนจะมองหน้าโยโคเหมือนหาเรื่อง
“ใครจะเป็นแม่คนไม่ทราบห๊า พูดให้มันดีๆนะเฟ้ย”
“บอกแล้วไงว่าในอนาคตน่ะ อย่าร้อนตัวนักสิโซเคนโยคุง หรือว่าจองตัวคนเป็นพ่อเรียบร้อยไว้แล้วหือ?” ชายชราพูดยิ้มๆอย่างไม่กลัวหัตถ์ปีศาจในร่างเด็กหญิงขย้ำเข้าให้เลย ก่อนจะจินตนาการหน้าตาเลนยะกับคิเอ็นจิผสมกัน แต่ชายอ้วนต้องหยุดจินตนาการบรรเจิดสักพักเมื่อเด็กสาวจ้องเขาเหมือนว่าจะแทงให้ทะลุหรือบีบให้เละคามือดี
“ก็นะ โซเคนโยคุง ยังไงซะตัวเธอก็เป็นผู้หญิง สักวันก็ต้องแต่งงานออกเรือน เป็นภรรยาที่ดีของสามี และที่สำคัญคือมีทายาทตัวน้อยๆเพื่อเติมเต็มครอบครัวให้สมบูรณ์ ถ้าโซเคนโยคุงเหมารวมเด็กทั้งหมดว่าไม่ดี ต่อไปในอนาคตจะเป็นแม่ที่ดีของลูกๆได้ยังไง”
“แล้วหน้าตาฉันตอนนี้เหมือนหญิงสาวที่อยากแต่งงานออกเรือน ผลิตลูกให้ใครมากนักรึยังไง” หมอผีสาวจ้องผู้อาวุโสกว่าตาขวางอย่างติดใจในคำพูด ผอ.โยโคยังทำหน้าเหมือนแป๊ะยิ้มเหมือนเดิม แล้วเปลี่ยนเรื่องคุยเอาดื้อๆ
“เรื่องงานล่ะว่าไง 500,000 เยนพอมั้ย”
“อืม..ก็”
“ตัวนี้ไม่ใช่ปีศาจเลียนร่างธรรมดาๆ ดูจากพลังปีศาจที่เยอะขนาดนี้ คงจะมีอายุไม่ต่ำกว่าร้อยปี ข้าไม่ให้เจ้ารับงานนี้”
ไม่ให้รับงานนี้....งั้นรึ
เสียงของเด็กสาวขาดไปซะเฉยๆ จนผอ.โยโคเริ่มแตะกระเป๋าสตางค์ว่ายังมีเงินพอมากกว่า 500,000 หรือไม่
“ตกลงว่า...จะรับงานนี้หรือเปล่า โซเคนโยคุง”
แป๊ะยิ้มถามหมอผีสาวอีกรอบเพื่อย้ำให้แน่ใจ คิ้วของเลนยะขมวดแน่นจนกลายเป็นโบว์ นัยน์ตาสีน้ำเงินในตอนนี้ดูยากและซับซ้อนสับสนจนแม้แต่ผู้มองอะไรก็แม่นเหมือนจับวางจนน่าไปเป็นอาแป๊ะพยากรณ์ยังดูไม่ออก
“รับสิ...เตรียมเงินสดเอาไว้ด้วยแล้วกัน”
ร่างบางลุกขึ้นผละออกจากเบาะหนานุ่มทันที ผอ.โยโคมองตามหลังเลนยะที่ค่อยๆเดินออกจากห้องผู้อำนวยการไป ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มบางจริงใจของชายชราปรากฏขึ้นอีกคราเหมือนที่มีอยู่ทุกๆวัน ก่อนมืออวบของชายแก่จะหยิบถ้วยชาขึ้นมาดื่มแก้กระหายหลังจากโม้เสียตั้งนาน
ท้องฟ้าที่เคยสว่างด้วยแสงอำนาจแห่งดวงอาทิตย์ค่อยๆถูกระบายทับด้วยสีน้ำเงินเข้มอย่างช้าๆรอเวลาที่จะแปรเปลี่ยนเป็นมืดดำ ร่างใหญ่ของหมาป่าเจ้าปีศาจนั่งบนหลังสีอิฐตากลมแห่งยามเย็นที่หนาวลึกเข้าไปถึงก้นบึ้งของจิตใจ ดวงเนตรสีเทาวาววับจ้องไปยังท้องฟ้าที่ไร้ซึ่งพระจันทร์ในยามนี้
ราตรีกาลแห่งคืนเดือนดับ กำลังจะมาถึง
“ท่านคิเอ็นจิขอรับ...ท่านจะไม่ไปกับท่านเลนยะจริงๆรึขอรับ”
ซามูไรเจ้าของฉายา กบฏนัยน์ตาเหยี่ยวลอยเลื่อนออกมาอย่างแช่มช้าก่อนจะหยุดใต้หลังคาซึ่งเป็นที่ของเจ้าปีศาจหนุ่ม คิเอ็นจิตวัดดวงตาสีเทาไปยังหน้าต่างห้องนอนเลนยะซึ่งตอนนี้เปิดไฟสว่างฉายให้เห็นว่าเด็กสาวกำลังเตรียม(จะเรียกว่ายัดก็ได้)สัมภาระต่างๆใส่เป้เพื่อไปตะลุยงานราคา 500,000 เยนในอีกไม่นานนี้
“.....เด็กนั่น...จะไปเมื่อไหร่”
โยชิฮาระมองคิเอ็นจิอย่างเข้าใจความรู้สึก ก่อนตอบคำถามผู้สูงศักดิ์กว่า
“เที่ยงคืนนี้ขอรับ”
“ไปกันได้แล้วโยชิฮาระ”
เสียงตะโกนดังจากในบ้านออกมายังนอกบ้าน ก่อนที่เด็กสาวในชุดคล่องแคล่วสะพายเป้หมอผีที่หนักร่วม 3 กิโลเอาไว้จะตามมา ร่างบางไม่ทำแม้จะหันมองลูกหมาของเธอ เลนยะก้าวเท้าฉับๆราวกับจะออกจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุดจนทาโร่ผีน้อยตามแทบไม่ทัน โยชิฮาระก้มหัวลงให้แก่คิเอ็นจิอย่างนอบน้อมก่อนจะลอยตามเลนยะไป
“เรื่องอะไรฉันต้องทำตามคำสั่งแกด้วยหา..ไอ้ลูกหมา”
คิเอ็นจิค่อยๆลุกขึ้นนั่งรอให้เลนยะไปไกลลับสายตา เจ้าปีศาจเงียบไปสักพักเหมือนตัดสินใจอะไรบางอย่าง ก่อนที่ร่างใหญ่จะกระโดดออกจากบ้านหลังโทรมไปอย่างรวดเร็วประดุจสายฟ้าฟาด ปล่อยให้คุดะหลายสิบตัวออกมาทำหน้าที่ที่มักจะทำ
ในเมื่อเจ้าไม่ทำตามคำสั่งข้า ข้าก็ต้องไปปกป้องเจ้าเอง เลนยะ
ความคิดเห็น