คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Mom&Dad 4 : พ่อแม่มือใหม่ (Rewrited)
Chapter 4 : พ่อแม่มือใหม่
“ฮ้าววววววววววววว”
เสียงหาวปนบิดขี้เกียจของเด็กสาวผู้ใช้สกุลต้องสาปโซเคนโยดังขึ้นท่ามกลางห้องนอนมุมฉาก แต่เด็กสาวก็ต้องทำหน้าเหยเกเมื่อบิดผิดท่าไปหน่อย ไปเจอแผลที่ยังไม่หายสนิทเข้า ดวงตาสีน้ำเงินหรี่มองเก้าอี้ไม้ข้างตัวซึ่งมีร่องรอยว่ามีคนนั่งอยู่ทั้งคืน บนโต๊ะเล็กข้างเตียงมีกล่องปฐมพยาบาลกล่องใหญ่วางอยู่ เลนยะสำรวจไปทั่วตัวก็พบผ้าพันแผลและพลาสเตอร์ที่ติดเต็มตัวไปหมด ซึ่งผู้ทำให้ก็ทำอย่างเบามือมาก ทั้งประณีตและเรียบร้อย
“อ้า...ตื่นแล้วเหรอเลนยะ ทุกคนเป็นห่วงเธอแทบแย่แน่ะ!” ทาโร่ผีน้อยซึ่งลอยทะลุกำแพงมาหาเลนยะเป็นคนที่สองของเช้านี้ ดวงตากลมโตมีน้ำตาคลอด้วยความตื้นตันใจอย่างสุดซึ้งซึ่งกำลังจะทำให้เลนยะอ้วกในไม่ช้า “แล้วนี่ไปไหนกันหมดล่ะ”
“โยชิฮาระเหรอ อยู่แถวๆนี้แหละ เดี๋ยวฉันไปตามมาให้ไหม”
“ไม่ต้อง แล้วเจ้าลูกหมาล่ะ หายไปไหนของมัน”
ทาโร่ยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนว่ากลับ “อ้าว ฉันก็นึกว่าเธอจะตื่นมาเห็นคิเอ็นจิเป็นคนแรกซะอีก ไม่เหมือนในละครเลยนะ” ผีน้อยกล่าว แถมเอาจินตนาการของตัวเองบวกกับละครน้ำเน่าที่ได้ดูไม่นานมานี้
นางเอกผู้น่าสงสารยืนตากฝนอย่างเดียวดาย..ทรมานร่างกายอันบอบบางน่าถนอมจนเป็นไข้หวัดนอนซม
พระเอกผู้แสนดี ไปเฝ้าไข้คอยดูแลหญิงสาวที่รักจนตัวเองผล็อยหลับไป ข้างกายยังมีอุปกรณ์ในการเฝ้าไข้อยู่ครบครัน (แถมบางเรื่องยังนอนซุกหน้ากับเตียงนางเอกซะอีก)
เช้าขึ้นมา นางเอกก็ตื่นขึ้นพบกับพระเอกสุภาพบุรุษที่อุตส่าห์ดูแลเฝ้าไข้ให้เธอ ความรักเบ่งบาน แต่งงานกลางทะเล เป็นลูคีเมียระยะสุดท้าย ....
ปัง!
เสียงปิดประตูโดยเลนยะทำลายจินตนาการไข้เลือดออกของทาโร่จนจบสิ้น ผีน้อยยิ้มอย่างดีใจแทนหมาป่าหนุ่ม
ยังไงซะ ที่อุตส่าห์ทุ่มใจดูแลขนาดนี้ ก็โกยคะแนนสงสารขึ้นมาบ้างแหละ
ร่างใหญ่นั่งอยู่บนหลังคาตากอากาศบริสุทธิ์ ดวงตาสีเทามองไปยังท้องฟ้าสีครามที่มีปุยเมฆน้อยล่องลอยประดับไปทั่ว แต่ทว่าความสนใจของเจ้าปีศาจสุนัขป่าก็ถูกเบนไปอย่างรวดเร็วเมื่อเนตรคู่งามเห็นร่างครึ่งมัมมี่ที่เดินออกมาหน้าบ้าน
“เจ้าออกมาเดินทำไม ไปนอนพักซะ แผลเจ้ายังไม่หายดี” หมอจำเป็นเอ่ยสั่งคนไข้หัวดื้ออย่างปลงอนิจจานิดๆเพราะมันแน่ว่าต้องมีประโยคปฏิเสธพ่วงมาอย่างแน่นอน แต่ทว่า...
“.....”
คิเอ็นจิมองไปยังเลนยะที่เงียบผิดปกติ ร่างที่พันทั่วด้วยผ้าสีขาวสะอาดยืนนิ่งไม่ตอบโต้อะไรทั้งๆที่ผิดอุดมการณ์ที่สั่งสมมาอย่างแรง เจ้าปีศาจลงจากหลังคาอิฐมาหาร่างเล็กกว่าทันที เพราะอาจจะเป็นพิษบาดแผลก็ได้ที่เป็นตัวการสำคัญ
“..ขอ..โทษ...นะเว้ย”
สิ้นคำ นัยน์ตาสีเทาเบิกกว้างอย่างประหลาดใจ เพราะถึงแม้คำลงท้ายจะไม่ค่อยพิสมัยรูหูไปสักหน่อย แต่เธอ
ขอโทษเขา
“ขอโทษที่ไม่เชื่อแก ถึงได้เป็นอย่างนี้” เลนยะกล่าวพลางหรี่ดวงตามองพื้นดินหน้าบ้าน สายลมพัดผ่านร่างทั้งสองซึ่งยืนเงียบสบตากันและกันราวกับอยากให้ทั้งสองพูดอะไรกันสักอย่าง ริมฝีปากช้ำเลือดขยับขึ้นอีกครั้ง “ขอบคุณ..ที่ช่วยทำแผล และก็ที่นั่งเฝ้าด้วย”
เด็กสาวกล่าวอย่างแผ่วเบาจนลมเย็นแทบจะพัดพามันให้ปลิวไปได้ แต่ทว่าหูเรียวยาวของคิเอ็นจิฟังทุกถ้อยคำได้อย่างชัดเจน รอยยิ้มอบอุ่นที่หาได้ยากปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมคายส่งให้แกหมอผีสาวคนสำคัญเพียงผู้เดียว เลนยะหมุนตัวกลับเข้าไปในตัวบ้าน พลางหันกลับไปหาเจ้าลูกหมารูปงามอีกครั้ง “ฉัน...จะไปนอน”
ดวงตาสีเทางดงามมองตามหลังเลนยะอย่างเหลือเชื่อ ใบหน้าหล่อเหลามีรอยแห่งความสุขใจอย่างชัดเจน ปีศาจหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าของวันนี้อีกครั้ง สายลมเย็นโชยพัดมาคลายอากาศที่ร้อนรุ่มยามบ่าย ทำให้เส้นผมสีนิลปลิวไสวไปตามแรงลม ยิ่งเพิ่มพูนความสง่างามให้แก่ร่างสูงอีกมากมาย
วันนี้จะมีอะไรที่น่าประหลาดใจกว่านี้อีกไหมนะ
“โธ่เว้ยยยย” เสียงสบถด่าตัวเองดังขึ้นในห้องนอนที่ปิดตายเรียบร้อย ใบหน้าที่แดงด้วยแผลรอยฟกช้ำยิ่งแดงร้อนจัดยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อเธอกล้าพูดคำที่นานๆทีจะหลุดออกมาจากปากให้กับเจ้าลูกหมา
แถมรอยยิ้มนั่นอีก
เลนยะข่มความอายของตัวเองอย่างเบาๆคนเดียวในห้อง เด็กสาวทิ้งตัวลงบนเตียงซึ่งถูกเปลี่ยนผ้าปูเรียบร้อยแล้วโดยแม่บ้านมืออาชีพอย่างคิเอ็นจิ เลนยะใช้มือข้างที่ไม่หักลูบเตียงหนานุ่มอบอุ่นของตัวเองเบาๆ
ไอ้นี่น่าจะเกิดมาเป็นผู้หญิงนะเนี่ย
วาบ!
ดวงตาสีน้ำเงินชะงักค้าง เมื่อพวงกุญแจสีเงินที่เธอเคยคิดว่าแค่ของธรรมดา บัดนี้เปล่งแสงแรงกล้าจนสว่างวาบวาวไปทั่ว จะเป็นเพราะแสงอาทิตย์ก็ไม่ใช่ หมอผีสาวยื่นมือเข้าไปก่อนจะจับพวงกุญแจเอาไว้
ตึ่ก..ตึ่ก..!!
“อึ่ก...นี่มัน...อะไร...กันเนี่ย”
เลนยะเอามือกุมหน้าอกเอาไว้แน่น ร่างของเด็กสาวตะเกียกตะกายอย่างทรมาน ลมหายใจเริ่มขาดตอนเป็นช่วงๆ ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน หัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาสีน้ำเงินเริ่มพร่าเลือน
นี่ฉัน...กำลังจะตาย..รึไงวะ
ริมฝีปากแตกถูกกัดข่มความเจ็บแสบร้อนทั่วร่างจนกระทั่งสร้างแผลใหม่ให้กับตัวเอง เด็กสาวรู้สึกเหมือนกับถูกไฟเผาทั้งเป็น เหงื่อใสผุดขึ้นเต็มใบหน้าไหลเลียอาบทั่วร่าง นัยน์ตาเริ่มว่างเปล่างุนงงกับสิงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง มือขวาที่เหยียดออกไปด้านหน้าพยายามไขว่คว้าทุกสิ่งทุกอย่างแต่ไม่เป็นผล ลมหายใจสุดท้ายของเธอใกล้เข้ามาทุกที
ฟิ้ววววววว..
ลำแสงจากพวงกุญแจพุ่งตัวขึ้นลอยเปล่งแสงสว่างอยู่เหนือร่างของเลนยะเริ่มดึงพลังจากร่างของเลนยะไปเรื่อยๆคล้ายพรายดูดวิญญาณ ลมหายใจร้อนๆรดเส้นผมสีน้ำตาลที่ชุ่มโชกด้วยเหงื่อ ทุกอย่างดูหมุนไปมาและซ้อนทับกัน
มันเกิด...อะไรขึ้น
ท่ามกลางแสงสีเงินแรงกล้า พลังที่เปล่งออกมาไม่หยุดหย่อนรวมลอยมารวบรวมกัน ดวงตาพร่ามัวของเลนยะแม้จะพยายามแค่ไหนจะเห็นเพียงแสงสว่างเจิดจ้าที่รวมเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ และเริ่มจะกลายเป็น
รูปร่างคน
ร่างของเลนยะค่อยๆหยุดนิ่งเมื่อพลังในร่างกายไม่มีเหลือ ความอ่อนล้าผลักดันให้ร่างบางสลบซบใบหน้าลงกับพื้นไม้เก่าโทรม โดยไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอและทุกคนที่เกี่ยวข้องไปในชั่วข้ามคืน แสงสว่างสีเงินที่พุ่งไปรอบทิศค่อยๆหยุดลงพร้อมๆกับประจุพลังมหาศาลที่ค่อยๆถูกกลืนโดยอำนาจของอากาศที่ไร้ตัวตน แสงสว่างสีเงินบนพวงกุญแจหมาป่าค่อยๆหายไป
แต่ทว่า มันกลับทิ้งสิ่งหนึ่งเอาไว้
ข้างๆเลนยะ...
“โซเคนโย เลนยะ เจ้านี่ตื่นยากเย็นจริงๆนะ มิน่าล่ะน้องชายข้าถึงได้เหนื่อยทุกๆวัน” เสียงอบอุ่นที่แฝงไปด้วยความเอ็นดูดังขึ้นในโสตประสาทของเลนยะ เด็กสาวเริ่มลืมดวงตาสีน้ำเงินทะเลลึกอย่างช้าๆก่อนจะกระพริบอย่างถี่รัวเมื่อดวงตาที่ยังขยายไม่เต็มที่ก็ต้องเข้ากับแสงสว่างอย่างรวดเร็ว
มือของเลนยะยันตัวขึ้นจากพื้นอย่างช้าๆ แต่ทว่าเด็กสาวก็ต้องสะดุ้งเมื่อร่างกายของเธอไร้ซึ่งรอยบาดแผลจากการสู้รบปรบมือกับจิโงคุ แขนซ้ายที่หักและถูกทำร้ายอย่างแรงด้วยอาคมสายฟ้าบัดนี้หายสนิทจนเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้น แต่เรื่องใหญ่กว่ากลับเกิดขึ้นเมื่อหมอผีสาวมองไปรอบตัว
ป่ากักปีศาจ!
ร่างสูงดูคล่องแคล่วแข็งแรงยืนมองรอบตัวอย่างหาคำตอบให้กับคำถามในใจไม่ได้ แสงแดดที่อบอุ่นสาดส่องผ่านแมกไม้ที่สูงใหญ่ครอบคลุมป่า หญ้าเล็กบางที่อยู่ใต้เท้าให้ความรู้สึกชุ่มชื่นสดใส ท้องฟ้าสีครามตัดกับความเขียวขจีเข้มของพืชพรรณนานาในป่าได้เป็นอย่างดี
“สวัสดีโซเคนโย เลนยะ ยินดีที่ได้รู้จักเจ้านะ”
ผู้ถูกเรียกชื่อหันขวับไปทางต้นเสียงเมื่อทัศนียภาพงดงามของป่าดึงความสนใจของเธอออกไปจนลืมว่าเธอตื่นขึ้นมาเพราะเสียงของใครบางคน
ชายหนุ่มร่างสูงในอาภรณ์เจ้าปีศาจที่คลุมด้วยเสื้อนอกสีขาวสะอาดตาและดูสบายๆกำลังส่งรอยยิ้มอ่อนโยนมายังเด็กสาว ใบหน้าหล่อหวานไม่ดูเย็นชานี้ถ้าเป็นสาวๆคนอื่นคงหลงใหลได้ปลื้มจนคุมสติไม่อยู่ เส้นผมยาวสีเงินรับกันดีกับดวงตาสีฟ้างดงามที่ดูคุ้นตา
หูเรียวแหลมเป็นสิ่งบ่งบอกได้ดีว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา
ทว่าสิ่งที่เลนยะให้ความสนใจ ไม่ใช่ที่รูปโฉมอันสง่างามของปีศาจหนุ่ม
แต่เป็นสิ่งที่อยู่บนหน้าผากขาว สิ่งที่เจ้าลูกหมาของเธอก็มีเช่นเดียวกัน
“แกเป็นใคร”
เด็กสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงยะเยือก เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็แปลกๆ แถมยังมีปีศาจเลือดบริสุทธิ์โผล่มาอีก
ก็ไหนว่าเจ้าลูกหมานั่นเป็นตัวสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่
จึ้ก!!!
“อ้ากกก...แกทำบ้าอะไรของแกนะไอ้หัวหงอก!!” ดวงตาสีน้ำเงินเบิกกว้างเมื่ออยู่ดีๆร่างสูงนั้นหายจากเบื้องหน้าเธอและปรากฎขึ้นประชิดหลังเธออย่างว่องไวจนแม้แต่ดวงตาก็ไม่อาจจับภาพได้ทัน และสิ่งที่ปีศาจหนุ่มทำก็คือ
หยิกแก้มเธอ...
รอยยิ้มน่ารักน่าชังปรากฏขึ้นบนใบหน้าน่าทะนุถนอมของร่างสูง นัยน์ตาสีนภาแวววาวด้วยความขี้เล่น “คิเอ็นจินี่ ก็รู้จักเลือกคนดีเหมือนกันนะ”
ฟ้าว!!
หมัดของเลนยะทำได้แค่ต่อยอากาศ เมื่อเจ้าของร่างหลบเลี่ยงไวยิ่งกว่าจรวด แต่เลนยะก็ต้องหยุดคิด ก่อนลูบแก้มข้างที่โดนหยิกเบาๆ
“ไม่เจ็บ นี่หว่า”
“ก็ที่นี่ มันไม่ใช่ความจริงหรือปัจจุบันที่เป็นอยู่ยังไงล่ะ” น้ำเสียงอ่อนโยนกล่าวขึ้น ทำให้เลนยะหรี่มองชายหนุ่มตาขวาง “หมายความว่าไง”
“ที่นี่คือความทรงจำของข้าในช่วงที่มีชีวิตอยู่ ป่ากักปีศาจ เมื่อหนึ่งพันกว่าปีก่อน และที่ที่เจ้ายืนอยู่ตรงนั้น ก็คือที่ที่คิเอ็นจิเกิดขึ้นมา”
เลนยะมองลงบนพื้นหญ้าที่ตนเองยืนอยู่โดยอัตโนมัติพลางมองปีศาจตรงหน้า ซึ่งสายตานั้นไม่มีการโกหกแม้แต่นิด หญ้าตรงที่เธอยืนอยู่ทั้งอ่อนนุ่มพลิ้วบาง เหมือนมันยังคงไม่ลืมเมื่อร่างกายของเจ้าปีศาจหนุ่มได้ทอดกายลงนอนบนมัน
“ข้าคือ ไคเอ็นจิ เจ้าปีศาจคนก่อน และเป็นพี่ชายของ’เจ้าลูกหมา’ของเจ้านั่นล่ะ” ไคเอ็นจิเอ่ยอย่างขบขันเมื่อน้องชายผู้เย็นชาของตนเองถูกเรียกซะหมดรูป เลนยะตวัดดวงตาสีฟ้าไปทางไคเอ็นจิ “และไอ้จิโงคุนั่นก็ฆ่าแก ใช่มั้ยล่ะ”
คำถามที่ยิงส่งตรงเข้าตัวทำเอาเจ้าปีศาจผู้ร่าเริงถึงกับเงียบไปโดยพลัน ใบหน้าที่เคยดูสนุกสนานหม่นหมองลงแทบในทันที “หากข้าย้อนเวลาได้ ข้าคงอยากให้ตัวเองเข้มแข็งมากกว่านี้ และไม่ให้การจากคิเอ็นจิไปของข้าเป็นเหมือนกับการทอดทิ้งเขา” ดวงตาสีฟ้าที่ดูเศร้าโศกหลุบลงต่ำ เขายังจำได้
วันที่เขาตาย
วันที่คิเอ็นจิถูกพลังที่ใช้สะท้อนกลับทำร้ายตนเองจนเกือบตาย เหตุเพราะพิโรธหนัก รังสีอำมหิตของหมาป่าหนุ่มคราวนั้นน่ากลัว จนแม้แต่เขาก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้
“เอาเป็นว่า เมื่อกี้ฉันไม่ได้พูดอะไรแล้วกัน เลิกทำหน้าหมาหงอยแบบนั้นได้แล้ว เห็นแล้วจะอ้วกว่ะ” เลนยะกล่าวปาวๆแบบไม่สนใจว่าคำพูดที่พูดไปเมื่อกี้นั่นล่ะจะทำให้หมาหงอยหนักกว่าเดิม “มาเข้าเรื่องดีกว่า แกจะเอาไงกับฉัน”
นัยน์ตาสีฟ้าที่เคยปรากฏความเศร้าโศกแปรเปลี่ยนกลับมาเป็นไคเอ็นจิคนเดิมอีกครั้ง เจ้าปีศาจหนุ่มยิ้มพรายให้แก่เด็กสาว
“ก็แค่อยากรู้จักเจ้ามากขึ้น ก็แค่นั้นเอง” ไคเอ็นจิเอ่ย น้ำเสียงอบอุ่นนั้นบ่งบอกได้ชัดถึงอุปนิสัยที่แท้จริงของเขา “ก่อนที่เจ้า..จะได้ทำหน้าที่บางอย่าง ที่สำคัญมากๆสำหรับชีวิตของเจ้า” ประโยคหลังทำให้เลนยะหันไปมองผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ชายของคิเอ็นจิอย่างแปลกๆ “อย่ามาอ้อมค้อมไอ้ลูกหมาหัวหงอก หน้าที่สำคัญอะไร”
ลูกหมาหัวหงอกยกมือเรียวบางป้องปากยามหัวเราะอย่างเบาๆ ก่อนที่จะมองไปบนท้องฟ้าในความทรงจำของตนเอง “ตื่นไปก็รู้เองนั่นแหละ”
ฟิ้วววววววววววว
ลมไร้ที่มาเริ่มก่อตัวกันพัดทุกอย่างที่ขวางหน้าให้หมุนวนไปด้วยอำนาจแห่งสายลม ใบไม้ที่อิงกายอยู่บนพื้นป่าถูกพัดขึ้นสูงเหมือนระบำแห่งเทพีพืชพรรณ ใบไม้ที่ต้องแสงแดดส่องประกายเลื่อมพรายราวอัญมณี ลมหมุนนั้นรายล้อมกายของเลนยะจนเด็กสาวมองเห็นร่างสูงสง่าได้ไม่ชัดเจนนัก
แต่ที่แน่ๆ
เขากำลังยิ้ม
มือข้างขวาที่พันผ้าแน่นยกขึ้นป้องกันดวงตาจากแรงลม ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะดูเลือนรางลงเรื่อยๆ ปีศาจหนุ่มกำลังเอ่ยบางสิ่งบางอย่าง...อะไร...ไม่ได้ยิน..
ดวงตาสีฟ้าราวกับท้องฟ้ายามคิมหันตฤดูรอดูเด็กสาวที่หายไปจากเขตอาคมพวงกุญแจจนลับตา สายลมที่หมุนแรงค่อยๆเอื่อยลงจนกลายเป็นแค่ลมเย็นที่พัดพลิ้วตามปกติ ใบไม้หลากหลายสีทิ้งตัวลงสู่ดินอย่างเชื่องช้า เส้นผมสีเงินปลิวสยายค่อยๆหยุดลงนอนซบกายบนไหล่กว้างของไคเอ็นจิอีกครั้ง
“ในที่สุด เจ้าก็เป็นพ่อคนแล้วนะ คิเอ็นจิ”
หืม???
เลนยะที่คว่ำหน้าลงซบบนพื้นไม้หนาลืมตาขึ้นเป็นครั้งที่สองของเช้านี้ หน้าตาเจ้าเล่ห์ตอนนี้ดูเหนื่อยล้าไม่มีเค้าของจอมบงการเลยแม้แต่น้อย เรี่ยวแรงที่ถูกสูบไปทั้งหมดยังคงแผลงฤทธิ์ใส่หมอผีสาวจนคนตื่นยากอย่างเธอต้องเจอกับศึกที่หนักกว่าครั้งใดๆ
อาการแฮงค์และความเจ็บปวดจากแผลที่กลับคืนมาอีกคราวของเลนยะแทคทีมกันรุมจนเด็กสาวคิดจะใช้วิธีแก้เผ็ดโดยการเอาหัวโขกคอนกรีตสักสองสามที(แม้จะไม่ใช่วิธีที่มนุษย์มนาเค้าทำกันนักก็เหอะ) เลนยะค่อยๆลุกจากพื้นที่ได้เป็นเตียงนิทราให้เธอไม่นานมานี้ไปยังเตียงหนาของจริง เด็กสาวถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เหงื่อหลายสิบเม็ดผุดขึ้นเต็มใบหน้า
ผลุบ
เฮือกกกก..
ลมหายใจที่ขาดๆหายๆของเลนยะถึงกับแข็งเป็นหินไปชั่วพริบตา เมื่อเท้าของเธอสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ..ซึ่งกำลังมุดอยู่ใต้เตียง...ของเธอ!?
เหมือนเป็นขนของอะไรสักอย่าง
เรียบๆ ลื่นๆ ฟูๆ
และแล้วคำตอบในใจที่ปรากฏขึ้นมาเกือบทำให้หมอผีสาวหัวใจวาย
ไอ้ลูกหมา!!!
“บ้าน่า...เจ้านั่นมันไม่เล่นอะไรแบบนี้...หรอกมั้ง”
เด็กสาววัยสิบหกกล่าวให้กำลังใจตัวเอง เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่เจ้าปีศาจที่รักนักรักหนาในศักดิ์ศรีจะมามุดใต้เตียงของเธอในห้องปิดตายเช่นนี้
เว้นแต่ว่า....
เหงื่อเม็ดโตอีกหลายสิบเม็ดไหลจากใบหน้าของเด็กสาวราวกับเขื่อนแตกเมื่อหนังเรตเอ๊กซ์ที่โรงเรียนโยโคเปิดให้ดูวิชาเพศศึกษามันดันมารบกวนเธอตอนนี้ซะได้
“เลนยะ...” เสียงทุ้มต่ำครางเอื้อนเรียกชื่อเธอดังขึ้นท่ามกลางความคิดที่ฟุ้งซ่าน มือใหญ่อบอุ่นของเจ้าปีศาจลูบไล้เส้นผมสีน้ำตาลของเด็กสาวอย่างแผ่วเบา ดวงตาสีเทาคุกรุ่นด้วยไฟพิศวาสรุนแรงที่ไม่อาจหักห้าม
หมอผีสาวตัวแข็งทื่อไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งสิ้นราวกับประสาทสัมผัสทุกส่วนในร่างกายเธอหยุดทำงานเอาดื้อๆ คิเอ็นจิยกมือแกร่งขึ้นลูบใบหน้าของเลนยะอย่างแผ่วเบา ก่อนจะลดต่ำลงมาเรื่อยๆจนกระทั่งถึงเสื้อชั้นนอก
“เฮ้ย...บ้าน่า” สติของเลนยะที่ยังคงทำงานตามปกติดังขึ้น แต่ทว่า
ฟุบ!!
เสื้อนอกของเธอถูกปลดกระดุมและโยนทิ้งไปราวกับของเล่นที่พังเสียหาย ร่างใหญ่โอบเด็กสาวเข้าประชิดตัวอย่างนุ่มนวล ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ริมฝีปากบางเริ่มพรมจูบบนต้นคอของเลนยะ ก่อนที่เจ้าปีศาจจะเริ่มขั้นต่อไป
ฟับ!!
บราและชั้นในของหมอผีสาวถูกเขวี้ยงออกไปอีกทาง ท่อนบนเปลือยเปล่าเริ่มหนาวๆร้อนๆ ดวงตาสีน้ำเงินเบิกค้าง คิเอ็นจิค่อยๆดึงใบหน้าของเลนยะลงใกล้กับใบหน้าของตนขึ้นเรื่อยๆ ไฟสลัวค่อยๆถูกดับสนิท และแล้ว....
“เฮ้ยยยย ไม่วันซะหรอกเฟ้ยยยยย!!”
เด็กสาวที่เกือบจะเสียพรหมจรรย์ในความคิดของตัวเองโพล่งขึ้นดังก้องในห้องปิดตายเพื่อดึงตัวเองออกจากหนังรักอีโรติก จนมีเสียงสะท้อนตามกลับมาหลายรอบ ร่างโทรมเหงื่อโชกกำหมัดแน่น เด็กสาวหายใจลึกๆรวบรวมความกล้า มือขวาเตรียมกระชากผ้าห่มที่ปิดใต้เตียงอยู่ เด็กสาวนับเลขในใจด้วยจิตที่หวั่นระทึก
1
2
3!!!
ควับ!!!!
ความคิดเห็น