ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FanFic] โซเคนโย - สามีภรรยา&พ่อแม่จำเป็น!

    ลำดับตอนที่ #3 : Mom&Dad 3 : ผู้ยื่นมือเข้ามาในยามวิกฤต (Rewrited)

    • อัปเดตล่าสุด 10 มิ.ย. 52


    Chapter 3 :  ผู้ยื่นมือเข้ามาในยามวิกฤต

     

     

     

                    ........เคล้งงงงงงงงงงงงงงงงง..........

              เสียงโลหะกระทบกันดังก้องไปทั่วบริเวณชั้นสาม วิญญาณทั้งสองตาค้างกับภาพที่ตนเองได้เห็น เลนยะมองอาคันตุกะผู้มาช่วยเหลือตนเองอย่างงงงวยก่อนที่สติเส้นบางจะขาดลงดับวูบไป..

                ร่างของเจ้าปีศาจคิเอ็นจิตัวจริงเสียงจริงใช้ดาบทั้งสองรับดาบของชิมิสึปีศาจเอาไว้ ดวงตาสีเทาฉายแววขุ่นเคืองโกรธแค้นอย่างรุนแรง รังสีอำมหิตที่ส่งออกมาร้อนแรงจนร่างของปีศาจเลียนร่างแทบมอดไหม้ เขี้ยวงองุ้มเริ่มงอกออกจากปากเพราะความพิโรธที่ไม่อาจหยุดยั้งได้อีก จนแม้แต่ชิมิสึที่เหยียดยิ้มเมื่อครู่ถึงกับฉายความผวาหวั่นเกรงออกมาจากสายตา

                        ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!

                ระเบิดขนาดย่อมแตกตัวขึ้นท่ามกลางร่างทั้งสองจนต่างฝ่ายจะกระเด็นไกลจากที่เดิมหลายสิบก้าว หมาป่าหนุ่มซึ่งตอนนี้กำด้ามดาบแน่นด้วยความโกรธจัดมองศัตรูซึ่งทำร้ายเด็กสาวราวกับอยากจะเข่นฆ่าให้ตายหากดวงตาคู่นี้มีอำนาจมากเพียงนั้น

                            เป็นเจ้าจริงๆ...จิโงคุ

                            ไม่ได้เจอกันนานเลยนะขอรับ ท่านคิเอ็นจิ

                ร่างสูงเจ้าของดวงตาสีน้ำเงินจอมปลอมเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพที่แฝงเร้นด้วยการหยามเหยียด ริมฝีปากเรียวรูปกระจับเผยเขี้ยวที่เก็บไว้ใต้ใบหน้าของบิดาผู้กำเนิดเกล้าเลนยะ ทาโร่ถึงกับหน้าตาตื่นมองร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงข้ามกันสลับไปมาอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก

                        ทั้งสองคนนี้...รู้จักกันมาก่อน

                        แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อน ท่านคงจะฆ่าข้าตายไปตั้งนานแล้ว ทำไมตอนนี้ท่านถึงไม่ทำล่ะขอรับ ท่านอภัยให้ข้าให้กับอดีตที่ผ่านมา หรือท่านไม่มีปัญญากันแน่

                        เคล้งงง!

                ดาบคู่เรียวงามพาดเข้าหมายจะทำลายบุคคลตรงหน้าอีกครั้ง แต่ทว่าชิมิสึตัวปลอมกลับรับดาบไว้อย่างง่ายดาย กระแสไฟฟ้าสีดำแล่นออกมาจากจุดปะทะของดาบทั้งสามเล่ม เจ้าปีศาจกัดกรามแน่น

                        ขวับ!!

                ดาบยาวในมือของชิมิสึปัดดาบคู่ปีศาจออกไปไกลตัวก่อนจะเคลื่อนร่างอย่างรวดเร็วไปอีกทาง หมาป่าหนุ่มวิ่งเข้าหาเป้าหมายในอัตราความเร็วที่สูสีจนไม่สามารถมองออกว่าร่างที่แท้ของทั้งสองอยู่ที่ใดกันแน่

                โยชิฮาระมองการต่อสู้อย่างหนักใจเมื่อรู้ว่าคู่ต่อสู้คนนี้ร้ายกาจใกล้เคียงกับคิเอ็นจิมาก แถมตอนนี้ก็ยังเหลือพลังเพียงครึ่งเดียว ไม่รู้ว่าปีศาจหนุ่มจะทนไหวอีกสักกี่น้ำ เสียงดาบสัประยุทธ์ที่ยังกังวานไปทั่วทั้งจิตใจไหวสั่นยิ่งย้ำเตือนให้ความกลัวอาบท่วมทั่วร่างของโยชิฮาระจนกบฏนัยน์ตาเหยี่ยวยังสมเพชตนเองที่ขี้ขลาดกลัวความพ่ายแพ้ได้ถึงเพียงนี้

                        แต่สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้...คือภาวนา

                        ข้าขอร้องเถอะขอรับท่านคิเอ็นจิ...ท่านต้องชนะให้ได้นะขอรับ

                        เคล้ง...เคล้ง...ตูม....!!

                ดาบทั้งสามฟาดฟันกันตามจิตใจของผู้ถืออย่างเต็มที่ สำเนียงแห่งสงครามบรรเลงไปทั่วบริเวณ ทั้งอาคมและฝีมือต่างถูกงัดนำมาใช้ทุกกระบวน ปีศาจเลียนร่างนามจิโงคุยังคงดูสนุกและเพลิดเพลินในการต่อกรกับเจ้าแห่งปีศาจซึ่งตอนนี้สติถูกบดบังไปด้วยแรงอาฆาตเรียบร้อยแล้ว

                 ใบหน้าคมคายปรากฎร่องรอยชั่วร้ายขึ้นก่อนกล่าวขึ้นระหว่างที่ร่างกายยังหลบหลีกดาบคู่ที่ยังไม่หยุดมุ่งมาดชีวิตของตน ท่านทราบไหมขอรับว่าทำไมข้าถึงต้องแกล้งอ่อนแอให้โซเคนโยนั่นติดกับด้วย

                เนตรคู่งามที่ตอนนี้ดูน่ากลัวขนหัวลุกจับจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำเงินของคู่แค้นอย่างไม่อยากรับฟังเหตุผลซึ่งขัดกับนิสัยที่มีของหมาป่าหนุ่มโดยสิ้นเชิง เรี่ยวแรงทั้งหมดสูญเสียไปในการพยายามสร้างบาดแผลให้กับปีศาจที่ยิ้มยียวนอยู่ตรงหน้า แต่ก็ต้องชะงักเมื่อจิโงคุเริ่มโจมตีเจ้าปีศาจด้วยวาจาอีกครั้ง

                        เพราะข้าอยากให้ท่านมาเป็นสักขีพยาน ในการตายของคนที่ท่านรัก เป็นครั้งที่สองยังไงขอรับสิ้นคำ จิโงคุก็กระโดดขึ้นสูงพร้อมท่องอาคมรวนในลำคอ ไม่กี่เสียววินาทีต่อมาดวงไฟกัลป์ขนาดเท่าตึกสองชั้นก็พุ่งพรวดเข้าสู่ร่างสง่าที่ยืนอยู่ข้างล่าง คิเอ็นจิใช้ดาบคู่ฟันจนไฟอาคมขาดเป็นรูปกากบาทใหญ่ แต่ทว่าเส้นผมของปีศาจหนุ่มเริ่มปลิวสยายปกคลุมดวงตา มีเพียงพลังปีศาจที่เพิ่มขึ้นจนน่าใจหาย และแน่นอนว่า..

                        เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ

                        หืม? สะกดพลังเสียงทะเล้นยังคงพูดออกมาทั้งๆที่อาคมของตนเพิ่งถูกทำลายไปหยกๆ มิน่าล่ะ พลังท่านถึงได้ ต่ำกว่าปกติ      

                        ปีศาจชั้นเลวอย่างเจ้าน่ะ พลังแค่ครึ่งเดียวก็มากพอแล้ว

                        ฟ้าววววววววววววววววววว  

                คมคาบที่ชำแรกตัดผ่านอากาศเหวี่ยงเข้าโจมตีจิโงคุแทบจะในทันที ปีศาจเลียนร่างเอี้ยวหลบอย่างสบายๆก่อนใช้ดาบปีศาจของตนฟาดกลับอย่างรวดเร็ว เจ้าปีศาจหนุ่มกระโดดขึ้นเหยียบบนดาบก็พุ่งตัวลงกับพื้นเพื่อประจันหน้ากับจิโงคุอีกคราว

                จิโงคุหมุนดาบเข้ามาท่าโจมตีอีกครั้ง ปลายดาบสะท้อนเลียเลือดของเลนยะจนฉ่ำชุ่ม คิเอ็นจิมองชายหนุ่มอย่างเย็นชาทว่าแฝงไปด้วยความชิงชังและรังเกียจเหลือแสน

                        แต่ที่ไม่เปลี่ยนเลยคือสายตาท่านที่มองข้านะขอรับ ตั้งแต่วันนั้นแล้ว วันที่ข้าฆ่าท่านไคเ....

                        หุบปากเดี๋ยวนี้!!”

              เสียงประกาศิตดุจเสียงสีหนาทดังขึ้นจากร่างที่โกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้า แม้แต่จิโงคุยังต้องเงียบไปสักพัก วิญญาณทั้งสองที่รออย่างใจจดจ่อก็สั่นสะท้านไปทั่วร่างเพราะอำนาจที่แผ่ออกมาจากตัวของเจ้าปีศาจแม้รู้ทั้งรู้ว่าไม่อาจตายได้อีกเป็นครั้งที่สองก็ตาม

                คมเขี้ยวของคิเอ็นจิกัดแน่นรวมทั้งควันโขมงจากปลอกคอที่ยังไม่หยุดหย่อน  ดาบคู่ส่งเสียงแผดคำรามดุจอสูรร้าย คิเอ็นจิพุ่งส่งให้ร่างกายเคลื่อนเข้าไปประดาบกับจิโงคุอีก ดอปเปลเกงเกอร์บุ้ยปากด้วยความจำเจไม่รู้จักแพ้ชนะสักที

                        ข้าชักเบื่อแล้ว..อย่างนั้นข้าส่งโซเคนโยนั่นไปเฝ้าท่านไคเอ็นจิที่ปรภพเลยดีกว่านะขอรับสิ้นเสียง ผุยผงก้อนเนื้อที่เคยถูกตัดออกยามเป็นอาวุธขว้างเริ่มกลับมารวมกันเป็นดาบคู่ของคิเอ็นจิเตรียมแทงลงกลางลำตัวของเด็กสาวที่หมดสติ เจ้าปีศาจค้างนิ่งอย่างคาดไม่ถึงก่อนจะวิ่งไปหาร่างของเลนยะโดยไม่ต้องคิด

                ความหวาดกลัวสุดหัวใจ เกาะกินจิตใจของปีศาจหนุ่มเป็นครั้งแรก

                        ดาบคู่ปลอมทิ้งตัวลงสู่ร่างที่หายใจรวยรินอย่างรวดเร็ว ดวงตาสีเทาเบิกกว้างอย่างหวั่นกลัวสุดชีวิต แม้ว่าจะพยายามอย่างสุดความสามารถ แต่ทว่า เขาไปไม่ทัน

                        คมดาบจะฉีกร่างของหมอผีสาวเป็นชิ้นๆในอีกไม่กี่เซนติเมตร

                        โครมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!

              ก้อนเนื้อที่กลายเป็นดาบถูกเด้งออกจากตัวเลนยะอย่างแรง ก่อนจะพุ่งตัวเข้าปักกับกำแพงไม้เป็นหลุมลึกยับ และค่อยๆสลายกลายเป็นผุยผง จิโงคุเลิกคิ้วมองอย่างอึ้ง แต่ไม่ใช่เพียงเขาเท่านั้น ทั้งคิเอ็นจิและวิญญาณทั้งสองต่างงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

                เขตอาคมขนาดยักษ์ปกคลุมทั่วร่างของเลนยะ โดยที่เด็กสาวก็ยังไม่รู้สึกตัว เขตอาคมนั่นเปล่งแสงสีเงินจรัสเจิดจ้าไปทั่วทุกทิศจนแทบกลืนกินทุกสิ่งให้หายกลายเป็นสีขาว

                        ไม่ได้เจอกันนานมากเลยนะ จิโงคุ

                เสียงกระซิบจากลำแสงเอ่ยขึ้นข้างๆหูของชิมิสึจอมปลอมอย่างเบาๆแต่แทบทำให้หัวใจปีศาจหยุดเต้น ดวงตาสีน้ำเงินเบิกค้างอย่างตกใจสุดขีด

                        เขายังจำเสียงนี้...ได้ดี...ชีวิตนี้ยังไม่รู้ว่าจะลืมได้รึเปล่า

                        จ..เจ้า..ไคเอ็นจิปีศาจเลียนร่างพูดขึ้นอย่างกระวนกระวาย ร่างทั้งร่างสั่นเทาด้วยความกลัว ไม่...ไม่จริง...เจ้า...เจ้าตายไปแล้วนี่

                        เฮ้อออ..แกรู้รึเปล่าว่าอะไรคือสิ่งที่โง่ที่สุดสำหรับปีศาจสมองกลวงอย่างแก

                เสียงเหยียดหยามคุ้นหูดังขึ้นจากร่างที่แน่นิ่งบนพื้นซีเมนต์สีเลือด  จิโงคุในร่างชิมิสึหันขวับไปทางต้นเสียงที่สมควรจะสาหัสไม่สามารถขยับร่างกายได้อีก โซเคนโย เลนยะ ลุกขึ้นจากกองเลือดด้วยขาที่เซน้อยๆแต่ทว่าบนใบหน้าบอบช้ำมีรอยยิ้มอสูรเปื้อนอยู่ เด็กสาวชูมือซ้ายให้จิโงคุดู มันคือความมั่นใจเกินไปยังไงล่ะ

                        ตูมมมมมมม!!

                ระเบิดขนาดใหญ่แตกขึ้นท่ามกลางสมรภูมิวิกฤต เลือดเนื้อสีดำเข้มและมันสมองกระจุยกระจายไปทั่วทิศและสลายเป็นผงสีขาวสะอาด ร่างที่เหลือแค่ท่อนล่างทรุดลงคว่ำกับพื้น วิญญาณสัมภเวสีทั้งหมดที่ถูกตรึงไว้บนผนังต่างหลุดลอยพุ่งสว่างวาบวาวแทนพระจันทร์ที่หายไปขึ้นสูงไปบนท้องฟ้า ยันต์แผ่นน้อยที่โชกเลือดจนแปรเป็นสีดำไหลตามธารโลหิตที่ไหลท่วมพื้นอาคารมายังเลนยะ

                        ท่านเลนยะ..เป็นอย่างไรบ้างขอรับ!!”

                ทันที่ที่อาคมผนังสลายไปตามชีวิตของดอปเปลเกงเกอร์ ซามูไรหนุ่มก็ปรี่เข้ามาหาหมอผีสาวแทบจะในทันที สภาพของเด็กสาวยับเยินพร้อมบาดแผลที่ลึกถึงกระดูก เลือดไหลนองไม่หยุดคล้ายท่อประปาแตก คิเอ็นจิมองเด็กสาวราวกับตนได้รับบาดแผลนั่นเสียเอง ดวงตาสีเทาส่งกระแสความเจ็บปวดระคนโล่งใจมายังร่างเล็กกว่าอย่างเปิดเผย

                        อ..อะไรกัน...เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น

                ผีน้อยที่ถูกปลดปล่อยจนเป็นอิสระลอยมาหาเด็กสาวที่เจ็บสาหัสอย่างรวดเร็วที่สุด ดวงตากลมโตโปร่งใสมองไปยังร่างที่เละไม่มีชิ้นดีด้วยความสะอิดสะเอียน

                        จุดจบ...ที่มาเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน

                        ก็แผนขุดหลุมฝังตัวเอง แค่นั้นเสียงปนหอบเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ยังไม่วายฉีกยิ้มสะใจ ในเมื่อมันอยากซ้อนแผนโจมตีฉัน ฉันก็เลยสงเคราะห์ให้มัน

                ผีน้อยยังงุนงงแต่ก็ไม่อยากถามอะไรต่อเพราะสีหน้าเด็กสาวเริ่มทำให้ปีศาจข้างตัวใจไม่ดี ดวงตาสีอำพันของโยชิฮาระมองยันต์สีดำอย่างครุ่นคิด

                        พลั่ก!!

                หมัดนั้น...รึว่า...

                        วูบ

                ร่างที่หยัดยืนอย่างไม่ค่อยแข็งแรงอยู่ๆก็ทิ้งตัวลงกองกับพื้นอย่างไม่อาจทนทานพิษบาดแผลได้อีก หมาป่าหนุ่มรีบคว้าเด็กสาวเอาไว้ก่อนจะพลิกร่างหมดสติชุ่มเลือดคาวคละคลุ้งให้มานอนในอ้อมแขน คิเอ็นจิพาตัวเลนยะกลับไปบ้านอย่างรวดเร็วจนไม่เหลือทิ้งแม้รอยเลือด ทาโร่และโยชิฮาระพยายามติดตามเจ้าปีศาจไปอย่างรวดเร็วที่สุด เพราะอย่างไรก็ตาม เรื่องที่ต้องคิดหนักที่สุดคือความปลอดภัยของเด็กสาวซึ่งสำคัญต่อพวกเขาทุกๆคน

     

     

                ร่างบางถูกวางลงบนเตียงหนานุ่ม เตียงสีขาวเริ่มถูกย้อมจนแดงฉาน ดวงตาสีเทาสำรวจมองบาดแผลเหวอะหวะตามร่างกายหมอผีสาวอย่างเจ็บปวดใจ มือใหญ่กำหมัดจนสั่น

                ในชั่วขณะที่ดาบนั้นเข้าใกล้ร่างเธอ ลมหายใจสุดท้ายของเจ้าปีศาจแทบจะขาดหายไปในตอนนั้นด้วย ทั้งๆที่เขาอยากจะปกป้องเธอ แต่เขาก็ทำได้ยืนมอง

                        ให้คมดาบ ต่ำลงมาเรื่อยๆ

                ในเสี้ยววินาทีนั้น ทุกความรู้สึกก้นบึ้งจิตใจที่เขาไม่เคยเปิดเผยเหมือนปลดแอกตัวเองจากพันธนาการที่มีมาเนิ่นนาน ทั้งความโมโห โกรธ เคียดแค้นตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างประดังจนจิตใจไม่อาจรับได้ทัน

                มือขาวใต้ชายเสื้อยกขึ้นมาต้องสัญลักษณ์บนหน้าผากอย่างไร้ความลังเล ก่อนที่มืออีกข้างจะบรรจงวางกลางหน้าผากของใบหน้าซีดเซียว อาคมในลำคอเริ่มถูกท่อง พร้อมๆกับลำแสงประหลาดสีขาวส่องออกจากบาดแผลที่อยู่บนร่างกายของเด็กสาวที่ยังหมดสติ

                ทาโร่ต้องขยี้ดวงตาเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่ตนมองอยู่มันไม่ใช่เรื่องโกหก เลือดจากบาดแผลกว้างจากอาคมสายฟ้าค่อยๆหยุดไหล บาดแผลทุกที่ถูกสมานทีละเล็กทีละน้อย ถึงแม้กระนั้นใบหน้าคมคายของเจ้าปีศาจก็ยังไม่ถอดความหวั่นวิตกกังวลใจออกไป

                        พอแล้วขอรับ ท่านคิเอ็นจิโยชิฮาระปรามขึ้นหลังจากที่หมาป่าหนุ่มใช้พลังนานเกินไป ทว่าร่างใหญ่ที่เคียงข้างเลนยะอยู่ไม่แม้แต่จะฟังเสียงอย่างอื่น พลังในร่างทั้งหมดที่คิเอ็นจิเค้นออกมาได้ตอนนี้ถูกใช้ไปในการรักษาแทบทั้งหมด

                        แผลยังไม่หายดี

                        เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ

                        พอทีขอรับ ท่านคิเอ็นจิ!!”

                เสียงคำรามก้องของโยชิฮาระเรียกให้คิเอ็นจิหลุดจากภวังค์ ไฟฟ้าที่แล่นไปรอบปลอกคอส่งให้กลิ่นเนื้อไหม้เริ่มลอยไปทั่วห้องมุมฉาก

                คิเอ็นจิผละตัวออกจากเลนยะอย่างแรงก่อนจะหายใจหอบหาอากาศอย่างยากลำบาก เหงื่อเม็ดโตไหลลูบใบหน้าขาวไปทั่ว ดวงตาสีเทาถูกหลับลงหนึ่งข้างเมื่อพลังที่เหลือเพียงครึ่งถูกใช้มากเกินขีดจำกัด

                ดีที่เขายังเชื่อโยชิฮาระบ้าง ไม่อย่างนั้นคนที่จะแย่ คงเป็นเขาเองไม่ใช่เลนยะ

                บัดนี้ร่างที่บาดเจ็บหนักเหลือเพียงรอยฟกช้ำสีม่วงเข้มที่คงไม่เป็นอันตรายมากถึงชีวิตหากกักบริเวณหมอผีสาวไม่ให้ไปเล่นพิเรนทร์ได้สัก 2 สัปดาห์(แต่ยากมาก) เลือดที่ไหลไม่หยุดก็เหลือเพียงแผลบางๆที่มีเลือดไหลซิบๆ ต่อจากนี้ไปแค่ทายาสมานแผล ดูแลอย่างดีก็คงจะหายแล้ว

                        ถ้าข้ามีพลังเหมือนเดิม นางคงจะหายดีมากกว่านี้

                เสียงทุ้มต่ำทรงอำนาจกล่าวเปรยๆแต่ทว่ามันกลับทำให้หัวใจของทุกคนที่อยู่ที่นั่นรู้สึกหนาวชา เนตรสีเทาหรี่มองใบหน้าที่มีรอยขีดข่วนจากพื้นปูนของเลนยะ

                        แต่มันก็เท่ากับว่า.......

                คิเอ็นจิหยุดความคิดเอาไว้เพียงเท่านั้น อาจจะเป็นเพราะความเหนื่อยล้าจากการสูญเสียพลังหรืออาจเพราะไม่อยากรู้สิ่งที่จะเกิดต่อไป ร่างใหญ่ในอาภรณ์เจ้าปีศาจเกรียงไกรนั่งลงบนเก้าอี้ไม้เก่าๆข้างเตียงเลนยะ เพื่อเฝ้ารอจนกว่าเด็กสาวจะฟื้น วิญญาณซามูไรลอยเข้ามาใกล้ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ว่างตรงข้ามกับคิเอ็นจิ ท่านรู้จักกับปีศาจตนนั้น..หรือขอรับ

                พักตร์นิ่งสงบยังไม่ละจากจุดเดิม มีเพียงการพยักใบหน้าเบาๆเป็นเชิงตอบรับ โยชิฮาระหลุบดวงตาสีเหลืองสว่างลงมองพื้นห้องนอนของบ้านหลังโทรม ข้าขออภัยนะขอรับ เพียงแค่ข้าห้ามท่านเลนยะเอาไว้ เรื่องทั้งหมดคงไม่ลงเอยแบบนี้ แต่ข้ากลับไม่ทำ

                        ไม่ใช่ความผิดเจ้า โยชิฮาระเจ้าปีศาจเอ่ยเบาๆ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนถูกกำหนดมาแล้วทั้งสิ้น ไม่มีใครฝืนชะตาได้หรอก ซามูไรหนุ่มมองเข้าไปในนัยน์ตาของเจ้าปีศาจ เขารู้สึกถึงความสับสนในจิตใจของหมาป่าหนุ่มเป็นอย่างดี

                        คิเอ็นจิซังครับ

                ทาโร่ที่ลอยนิ่งดูอาการเลนยะมานานพูดขึ้นทำลายความเงียบที่เริ่มกินพื้นที่ไปทั่วห้องนอนซึ่งกลายสภาพเป็นห้องพยาบาล คิเอ็นจิหันมาทางผีน้อยเมื่อถูกเรียกนาม

                        เขตอาคมที่ปกป้องเลนยะตอนนั้น เป็นของเลนยะเหรอครับผีน้อยกล่าวถาม ภาพของเขตอาคมขนาดใหญ่ที่ป้องกันเลนยะจากดาบคู่ปีศาจผุดขึ้นในมโนภาพทันที แม้จะไม่แน่ใจนักว่าเป็นของเจ้าตัวรึเปล่า เพราะคุณเธอยังสลบไม่รู้เรื่องราว แต่ขึ้นชื่อว่าจอมเจ้าเล่ห์อย่างเลนยะ ก็มักมีเรื่องให้ฉงนใจได้เสมอ

                        ไม่ใช่เสียงทุ้มต่ำตอบสั้นๆ เลนยะบาดเจ็บหนักมาก นางไม่มีทางสร้างเขตอาคมแรงกล้าขนาดนั้นได้แน่..นอกเสียจาก... คิเอ็นจิเอ่ยประโยคช่วงท้ายอย่างแผ่วเบา เหตุเพราะในใจของปีศาจหนุ่มรู้คำตอบอยู่แล้ว ทาโร่เลือกที่จะไม่ถามอะไรอีก ปล่อยให้ความเงียบงันเป็นตัวนำพากาลเวลาให้เคลื่อนที่ต่อไปท่ามกลางบรรยากาศใกล้รุ่งสางเช่นนี้ โดยที่สายตาทุกคู่ไม่สังเกตถึงความผิดปกติของพวงกุญแจสีเงินที่ติดบนกระเป๋าซึ่งตั้งอยู่ข้างๆตัวของเลนยะเลย

                       

                       

                ภาพเลือนรางที่ผ่านมาเนิ่นนานนี้ยังคงติดอยู่ในหัวสมองของเจ้าปีศาจหนุ่มอย่างไม่มีทางลบเลือน ยังจำได้ วันที่เขามีตัวตนบนโลกใบนี้ วันที่เขาถือกำเนิด วันที่ขาได้พบกับชายผู้ทำให้ชีวิตของเขาต้องแปรเปลี่ยนไป เขายังคงจำมันได้ดี

                แสงแดดอบอุ่นฉายส่องลงมายังพื้นป่ากักปีศาจ ใบหญ้าเขียวชอุ่มแข่งกันอวดโฉมเจริญเติบโตคล้ายเป็นการต้อนรับสมาชิกใหม่ที่เพิ่งกำเนิดขึ้นมา ดวงตาสีเทาของเขากระพริบถี่ๆปรับแสงสว่างที่ส่องเข้ามาต้องร่างกาย ร่างใหญ่เท่าชายหนุ่มฉกรรจ์ลุกขึ้นจากผืนหญ้าอุดมสมบูรณ์อย่างช้าๆ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อนัยน์ตาที่มองเห็นได้กว้างไกลกว่ามนุษย์หลายเท่าจับเห็นร่างหนึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้

                        สวัสดี

                ปีศาจหนุ่มรูปงามน่าหลงใหลขยับยิ้มบางๆอย่างเป็นมิตรให้กับเขา ดวงตาสีฟ้าสดใสส่งกระแสความอบอุ่นอ่อนโยนสื่อไปถึงทุกผู้คนที่อยู่รายล้อม เส้นผมยาวละเอียดสีเงินสว่างไสวยามต้องแดดถูกมัดอย่างหลวมๆและนำมาไขว้ไว้ที่ไหล่ซ้าย ร่างสูงที่ดูนุ่มนวลใจดีเดินลงมาหาเขาไม่ถือตัว ต่อจากนี้ไป เจ้าเป็นน้องชายของข้านะ

                ร่างใหญ่ของหมาป่าหนุ่มมองผู้มาต้อนรับแถมยังอุปโลกน์ตนว่าเป็นพี่ชายของเขาเสร็จสรรพอย่างแปลกๆ ใบหน้าที่ดูสนุกสนาน สบายๆ ปรากฏร่องรอยของความสุขอย่างเห็นได้ชัดเจน มือใหญ่แตะที่หน้าผากของเขาเบาๆ นี่ยังไง สิ่งที่เรามีเหมือนกัน

                        ตราพันธสัญญาสามโลก

                        เจ้าเป็นปีศาจเลือดบริสุทธิ์เหมือนข้า และเจ้าเกิดหลังข้าตั้ง 1000 ปี เจ้าก็ต้องเป็นน้องชายข้าจริงไหมร่างสูงยังเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจือความเอ็นดู ก่อนจะโป๊กหัวตัวเองเข้าครั้งหนึ่ง เรียกให้ดวงตาสีเทาเบิกขึ้นอย่างประหลาดใจในท่าทางที่จะเรียกว่าติ๊งต๊องก็ได้ของชายหนุ่ม

                        ขอโทษทีนะ ข้าลืมไปเลยว่าเจ้ายังไม่มีชื่อปีศาจหนุ่มผิวขาวสะอาดกล่าวกลั้วหัวเราะ ข้าขอตั้งชื่อเจ้าว่า คิเอ็นจิ แล้วกัน ปีศาจหนุ่มที่เพิ่งได้รับการตั้งนามว่า คิเอ็นจิ ยังทำหน้านิ่งๆเหมือนเดิม ดวงหน้างดงามใจดียิ้มขึ้นอีกครั้ง ใช่ๆ ข้าก็ลืมแนะนำตัวเองไปเลยนะ

                นัยน์ตาสีฟ้าใสฉายแววขี้เล่นอีกคราก่อนจะเอ่ย

                            ข้าชื่อ ไคเอ็นจิ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×