คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Mom&Dad 2 : คนที่เชื่อใจที่ไว้ใจไม่ได้ (Rewrited)
Chapter 2 : คนที่เชื่อใจที่ไว้ใจไม่ได้
อาคารหลังเก่าร้างผู้คนในยามสนธยาส่งกระแสแห่งความเสื่อมโทรมให้อับไปทั่วบริเวณ หญ้าที่ขึ้นรกท่วมเป็นสิ่งบ่งบอกว่าที่นี่ไร้ผู้มาเยือนมาเนิ่นนานมากแล้ว จึงไม่แปลกเลยที่จะมีวิญญาณร้ายและเหล่าภูตผีปีศาจมาอาศัยอยู่อย่างมากมาย
เด็กสาวผู้พันมือขวาอย่างมิดชิดเดินเข้ามาในบริเวณเขตตึกร้างอย่างไม่เกรงกลัวทุกสรรพสิ่งที่จ้องมองเธอเหมือนดังเหยื่อที่เดินเข้าสู่หลักประหาร ตามหลังเธอคือวิญญาณซามูไรหนุ่มที่ลอยตามร่างสูงอย่างชินชากับเหล่าสัมภเวสี และผีน้อยที่ตอนนี้เกาะชายฮากามะของซามูไรอย่างแน่นหนา แม้ว่าเขาก็เป็นแบบเดียวกันกับพวกมันก็ตาม
“..น..แน่ใจเหรอว่าเป็นที่นี่น่ะ เลนยะ”
เด็กสาวหันมาหาวิญญาณเด็กชายอย่างเบื่อๆ “ไม่ใช่ที่นี่จะที่ไหนล่ะ”
“ปีศาจเลียนร่างอยู่ตรงส่วนไหนของตึกหรือขอรับท่านเลนยะ” โยชิฮาระเอ่ยบ้าง นัยน์ตาสีเหลืองใสสำรวจไปทุกชั้นตึกใหญ่โต เลนยะมองไปยังไปบนตึกก่อนว่า “ไม่รู้แหละ เข้าไปก็รู้เอง”
“จะบ้ารึไงเลนยะ!! จะเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้ได้ไง ไหนว่าเกลียดเรื่องเสี่ยง” ทาโร่แว้ดใส่เลนยะทันทีที่รู้วิธีตะลุยปีศาจบ้าดีเดือดของหมอผีสาว โดยยืมเอาคำพูดของเธอเองมาอ้าง
“แล้วแกนึกว่าไอ้ดอปเปลเกงเกอร์นี่มันจะรออยู่ที่ใดที่หนึ่งให้มีคนมาเด็ดหัวมันง่ายๆรึไง มันก็คงย้ายไปทั่วแหละ ฉันถึงบอกไงว่าถ้าเข้าไปก็รู้เอง”
เลนยะพูดน้ำเสียงเซ็งๆ ก็จะสาวเท้าเข้าไปในตึกร้างแทบจะในทันที โดยรอให้วิญญาณผีน้อยนั่งนับนิ้ว เข้า ไม่เข้า อยู่คนเดียว แต่ถึงแม้ว่าจะได้ ไม่เข้า ยังไงเขาก็ต้องตามเลนยะไปอยู่ดี ผีน้อยจึงลอยคอตกเข้าไปในอาคารศูนย์รวมปีศาจอย่างช่วยไม่ได้
ผุบ
ต้นไม้ใหญ่ที่ยืนต้นตายเคียงข้างตึกใหญ่มาหลายสิบปีในพริบตาก็มีร่างใหญ่ของผู้หนึ่งปรากฏแทบจะในไม่กี่เสี้ยววินาที ดวงตาสีเทาของร่างนั้นมองไปยังเด็กสาวที่แบกกระเป๋าหนักหนาได้สบายๆ ริมฝีปากได้รูปของร่างในความมืดมิดแสยะยิ้มน้อยๆก่อนทั้งร่างจะหายไปกับสายลมหนาวเหน็บอีกครา...
โครมมมมมม!!
“อ่ะจ้ากกกกกกกกกก!” เสียงที่บ่งบอกว่าตกใจสุดๆออกมาจากปากของผีน้อยโดยอัตโนมัติเมื่อเสียงไม่ชอบมาพากลดังขึ้น ก่อนที่ทาโร่จะโผล่หน้าจากหลังโยชิฮาระไปเห็นเก้าอี้เหล็กเก่าๆขึ้นสนิมซึ่งบัดนี้ลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นสากๆของตึกร้างชั้นที่หนึ่ง ข้างๆมันคือเลนยะที่ยังยกขาค้างอยู่ในท่าเตะ
“หายหัวไปไหนของมันวะ”
ทาโร่ทำหน้าหงิกทันทีเมื่อรู้ว่าตนเองเกือบหัวใจวายเพราะการลงอารมณ์ของเลนยะ เด็กสาวเอาหลังมือเช็ดเหงื่อบนใบหน้าช้าๆ “ร้อนตับจะแตกอยู่แล้ว”
“ไม่มีไอปีศาจเลยนะขอรับ จนน่าแปลกใจ”
หมอผีสาวขบเขี้ยวในปากเบาๆตอบรับคำพูดของผีประจำตระกูล หลังจากที่เธอเดินเข้ามาในนี้หลายสิบนาทีแล้วแต่กลับไม่มีพลังหยินเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆที่สถานที่ที่มักมีปีศาจสิงสู่จะเต็มไปด้วยพลังแง่ลบจนแม้แต่หญ้าก็ยังไม่สามารถผุดขึ้นเติบโตได้ แต่หน่วยข่าวกรองของโยโค มิโนวะก็ไม่เคยผิดพลาด ความคิดตอนนี้เริ่มตีกันวุ่นวายจนปวดหัวไปหมด
“เอาอย่างนี้ โยชิฮาระ แกกับทาโร่ไปสำรวจตึกชั้นสอง ฉันจะไปดูชั้นสามเอง” ว่าจบโยชิฮาระก็ค้านทันที “ไม่ได้ขอรับ ถ้าเรื่องเป็นแบบปีศาจลวงจิตอีก ข้าไม่ยอมให้ท่านเลนยะไปคนเดียวแน่ๆ” ทาโร่พยักหน้างึกๆเพราะเมื่อตอนที่พบปีศาจลวงจิต ทั้งเลนยะและคิเอ็นจิต่างก็เกือบจะเสียท่าให้ ทั้งที่เลนยะย้ำนักหนาว่าเป็นพวก’ลูกกระจ๊อก’
“ข้าจะไปกับเลนยะเอง”
เสียงที่คุ้นเคยเรียกให้สายตาทุกคู่หันไปทางต้นเสียงแทบจะในทันที ปรากฎเป็นร่างของเจ้าปีศาจหนุ่มรูปงามยิ่งกว่าชายใดในโลก ใบหน้าขาวสะอาดหล่อเหลานิ่งสงบเหมือนเงาที่สะท้อนจากกระจกเงา ดวงเนตรสีเทาสุกสกาวในความมืดจับจ้องไปยังเด็กสาวที่ตนเรียกชื่อ ทาโร่ดีใจลิงโลดเมื่อได้โอกาสทำหน้าที่พ่อสื่ออีกครั้ง
“แก....” เด็กสาวกล่าว ก่อนจะหลุบนัยน์ตาสีน้ำเงินลงมองพื้น “..มา...ได้ยังไง”
คิเอ็นจิเดินเข้ามาใกล้เลนยะที่ก้มหน้างุดอย่างช้าๆ ก่อนจะหันไปหาโยชิฮาระที่ยืนอยู่ไม่ไกล “ถ้าข้าไปด้วย เจ้าจะวางใจได้รึยัง” เสียงทรงอำนาจเอ่ยถามวิญญาณซามูไรหนุ่ม ทาโร่ระริกระรี้เต็มที่ แต่แปลกที่โยชิฮาระยืนนิ่งไม่ตอบอะไรจนผิดปกติ
“ตกลงตามนี้ ..แกกับทาโร่ไปชั้นสอง ส่วนฉันกับ...ไอ้ลูกหมา จะไปดูชั้นสามเอง”
ทาโร่นิ่งอึ้งนึกไม่ถึงว่าเลนยะจะทำตามใจ(ของผีน้อย)เรียกร้องขนาดนั้น เด็กสาวหมุนตัวหันหลังให้กับวิญญาณทั้งสองก่อนจะแบกกระเป๋าขึ้นชั้นสามไป ร่างใหญ่ของหมาป่าหนุ่มตามหมอผีสาวคนสำคัญไปอย่างไม่รอช้า ปล่อยให้ผีน้อยอ้าปากเหวออยู่คนเดียว
เลนยะ...ไวไฟจริงๆ
“ไปกันเถอะขอรับท่านทาโร่ เราต้องไปตรวจชั้นสองนะขอรับ” ผีผู้ดูแลเลนยะมาตั้งแต่เกิดเอ่ยน้ำเสียงแปลกๆเล็กน้อยก่อนจะลอยขึ้นข้างบนทะลุกำแพงไปยังชั้นสองในทันที ทาโร่ลอยตามอย่างสงสัยในท่าทาง
ถ้าเป็นเลนยะ ก็คงเพราะมาทำสิ่งที่คิเอ็นจิห้าม แล้วคิเอ็นจิตามมาคุมประพฤติเลยรู้สึกผิด(ละมั้ง?)
แต่ถ้าโยชิฮาระนี่ ผีน้อยสับสนระหว่าง หวงเลนยะไม่ให้คิเอ็นจิ หรือห่วงคิเอ็นจิจะโดนเลนยะฆ่าตายเอาเสียก่อนจะได้กลับป่ากักปีศาจ
ตึก...ตึก...ตึก..
เสียงฝีเท้าที่ก้าวอย่างสม่ำเสมอบนพื้นชั้นสามที่เกลื่อนกลาดเต็มไปด้วยขยะมากมายที่คนจรจัดมาอาศัยและทิ้งทุกอย่างเอาไว้ อาจจะรวมทั้ง”ชีวิต”ก็ด้วย เพราะจากที่ได้ยินมา ใครที่เข้ามาที่นี่ ส่วนใหญ่จะไม่ได้กลับออกไป
ร่างบางสูงสาวเท้าอย่างรวดเร็วในระหว่างที่ไฟฉายกระบอกใหญ่สาดแสงไปทั่ว ดวงตาสีน้ำเงินจดจ้องเพียงจุดที่ไฟสาดแสงเข้าไป เหมือนลืมไปว่ามีใครติดตามมาด้วย
“เจ้ามาที่นี่ทำไม เลนยะ” เสียงน่าเกรงขามดังขึ้นจากข้างหลังของหมอผีสาว เลนยะหยุดฝีเท้าที่ก้าวอย่างรวดเร็ว แต่ถึงแม้กระนั้นเธอก็ยังไม่สนใจร่างสง่าที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“มาทำงานไงล่ะ ว้า~ แต่น่าเสียดายที่ตัวการหายไปไหนก็ไม่รู้นะ” เด็กสาวดัดเสียงทำจริตจะก้านเต็มที่ ดวงตาคมบัดนี้ดูลึกล้ำและห่างเหินต่อชายหนุ่มอย่างมากมาย
“ข้าบอกเจ้าแล้ว ไม่ให้เจ้ามาที่นี่” เสียงเข้มออกคำสั่งหนักขึ้น “ทำไมเจ้าไม่หัดฟังข้าบ้าง โซเคนโย เลนยะ ที่ข้าทำไปเจ้าไม่รู้อีกรึว่าข้าทำเพื่ออะไร” เจ้าปีศาจเคลื่อนร่างเข้ามาใกล้เด็กสาวทุกทีจนลมหายใจอุ่นๆของร่างใหญ่กว่ารดลงบนเส้นผมของเด็กสาว ร่างที่ประชิดใกล้ค่อยๆสอดวงแขนแกร่งเข้ามาเพื่อโอบกอดเด็กสาว เลนยะยืนนิ่ง
“แต่ที่ฉันจำได้ คนที่พูดคือไอ้ลูกหมาที่ชื่อ ‘คิเอ็นจิ’ ไม่ใช่แกนะ ดอปเปลเกงเกอร์”
มือใหญ่ที่จะเข้ากอดเลนยะชะงักค้างนิ่ง ดวงตาสีเทาเบิกกว้างมองหมอผีสาวอย่างไม่เชื่อสายตา “จ..เจ้า..พูดอะไร..ก็ข้าไง..คิเอ็นจิ” ร่างใหญ่พูดติดขัดแบบถ้าเจ้าตัวจริงๆมาเห็นคงอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปในบัดดล เลนยะฉีกยิ้มร้ายอย่างนึกสนุก
“จ๊ะเอ๋! เจอตัวแล้ว~”
ตูมมมมมมมม!
“ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซ!!”
หมัดอัดพลังวิญญาณอัดเข้ากลางลำตัวของร่างใหญ่เจ้าของเส้นผมยาวสีนิลอย่างรุนแรง ในทันทีเกิดควันสีดำพุงจากทั่วทุกทิศมาปกคลุมร่างที่เคยเป็นคิเอ็นจิ และไม่กี่เสี้ยววินาทีต่อมา เจ้าลูกหมาที่สง่างามบัดนี้กลายเป็นปีศาจเนื้อตัวสีขาวโพลนดุจหิมะ สามารถเลื้อยไปมาเหมือนเป็นของเหลว ดวงตาสีดำกลมโปนคล้ายเอเลี่ยนในนิยายวิทยาศาสตร์ของมันจ้องเด็กสาวอย่างเคียดแค้นปนตกใจสุดขีด
“เจ้า...รู้ตัวตั้งเมื่อไหร่กัน” เสียงหวีดหวิวแหลมสูงกรีดถามเลนยะที่ยืนแสยะยิ้มอย่างอนาถใจให้ปีศาจเลียนร่าง “ก็ตั้งแต่แกทำตัวลับๆล่อๆหน้าตึกนั่นแล้ว คิดว่าแปลงร่างเป็นเจ้าลูกหมาแล้วจะกำจัดฉันได้ง่ายขึ้นงั้นเหรอ ไอ้ตัวเหลว”
ปีศาจเลียนร่างก่นด่าเลนยะอยู่ในลำคอเมื่อเริ่มเข้าใจว่าเลนยะไม่ใช่เด็กสาวธรรมดาที่จะยุ่มย่ามด้วยง่ายๆอีกแล้ว มันพุ่งตัวใส่เลนยะพร้อมทั้งเลียนกรงเล็บของเสือเข้าฟาดฟันใส่ร่างของเลนยะ เลนยะหลบหลีกกรงเล็บอย่างรวดเร็วก่อนจะปาแผ่นยันต์2แผ่นที่เตรียมเอาไว้แล้วใส่ร่างเป้าหมาย
“หิมะหนาวเหน็บโปรยปราย-ลงสู่หลุมน้ำเวียนวน-สายลมแห่งโดดเดี่ยว”
สิ้นเสียงบทสวด แผ่นยันต์ที่ติดเข้ากับร่างเหลวของปีศาจเริ่มปล่อยไอเย็น ทำให้ท่อนล่างของปีศาจเริ่มประกอบตัวขึ้นเป็นน้ำแข็ง เขี้ยวนับร้อยซี่เหมือนฟันปลาฉลามของดอปเปลเกงเกอร์ขบแน่นจนได้ยินเสียงฟันกระทบกันอย่างชัดเจน ดวงตากลมโตจ้องเด็กสาวที่ดูท่าทางสนุกสนานอย่างอาฆาต
โครมมมมม!!!
กรงเล็บเมื่อครู่บัดนี้กลายเป็นดาวกระจายหลายสิบอันบินชำแรกอากาศมาเพื่อฉีกกระชากเนื้อของเลนยะโดยเฉพาะ เลนยะหุบยิ้มเล็กน้อยก่อนกระโดดหลบดาวกระจายที่ปามา เมื่อพลาดเป้า อาวุธนินจาก็กลายสภาพกลายเป็นก้อนเนื้อที่เหมือนถูกตัดทิ้ง ก่อนจะสภาพเป็นผุยผงปลิวไปในอากาศ
เลนยะเลิกคิ้วมองเศษผงที่ยังปลิวหายไปไม่หมดแบบประหลาดใจ “โอ้โห~ ดอปเปลเกงเกอร์นี่ทำอะไรได้หลายอย่างดีนะ ขนาดตัดเนื้อทิ้งไปยังไม่เสียดายเลย” ปีศาจเลียนร่างจ้องเลนยะพลางหาทางโจมตี แต่ก็ต้องใช้เวลาเมื่อเธอพยายามยั่วโทสะกวนสมาธิอยู่ได้ “คงอยากฆ่าฉันมากเลยงั้นสิ”
“หุบปากแล้วตายซะ! นังมนุษย์!!”
ปีศาจกู่ร้องจนดังไปทั่วทั้งชั้น ก่อนพุ่งท่อนแขนที่ยืดยาวได้เพื่อที่จะแทงเข้าร่างเลนยะแทบในทันที เด็กสาวชักน้ำมนต์ออกจากกระเป๋าก่อนสาดมันเข้าใส่แขนยาวเหยียด
กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซ
แขนที่พุงมาด้วยความเร็วสูงเด้งกลับไปอย่างรุนแรงพร้อมรอยไหม้ดังถูกสาดน้ำกรด ปีศาจเลียนร่างยังไม่ละความพยายามที่จะฆ่าเด็กสาวได้ แต่ทว่า.. ท่อนล่างของมันหมดความรู้สึกไปแล้ว
“ฉันชักเสียดายเงินแทนเจ้าแป๊ะยิ้มนั้นซะแล้วสิ” เลนยะกล่าว ดวงตาสีน้ำเงินมองเห็นว่าท่อนล่างที่เคยเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเริ่มถูกแผ่นยันต์แช่แข็งจนนิ่งซะแล้ว และเริ่มลุกลามมาเรื่อยจนใกล้หัวใจปีศาจเข้ามาทุกที “อย่างแก ห้าแสนมันคงมากไปนะ”
เพล้งงง!!
นัยน์ตาคู่แข็งกร้าวเบิกค้างอย่างผิดคาด เมื่ออวสานของปีศาจราคางามของเธอที่อุตส่าห์ตั้งตารอดูกลับถูกทำลายพร้อมๆกับน้ำแข็งที่แตกมลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แผ่นยันต์ถูกเด้งออกและลุกโชนด้วยไฟกัลป์ก่อนจะถึงพื้นดิน หมอผีสาวมองผลงานที่ผิดพลาดอย่างขัดใจ
“แล้วเจ้าจะต้องเสียใจที่ไม่เชื่อคำสั่งของเจ้าปีศาจตนนั้น!”
โครมมมมมม!!!
ผนังอาคารที่ถูกปกคลุมด้วยรากไม้และขยะอับชื้นเขย่าตัวอย่างช้าๆก่อนจะทิ้งตัวลงมาหวังจะทับเด็กสาวเสียให้ตาย เลนยะรีบพลิกตัวหนีจากบริเวณอันตราย แต่ทั่วอาคารตอนนี้ดูมืดมนและเปี่ยมไปด้วยพลังปีศาจที่รุนแรงจนอยากจะอาเจียน ความอึดอัดจากพลังแง่ลบเริ่มมาเบียดเบียนออกซิเจนและอากาศบริสุทธิ์มากขึ้นทุกที
เม็ดเหงื่อเริ่มไหลบนใบหน้าขาวซึ่งมีร่องรอยงุนงงสงสัยในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เลนยะมองไปทั่วทิศพลางหลบหลีกสิ่งก่อสร้างที่เหมือนต้องการเข่นฆ่าเลนยะเสีย หมอผีสาวเอี้ยวตัวหลบขื่อไม้ที่อยู่ๆก็หักลงมาพร้อมกับฝุ่นผงปูนที่ฟุ้งกระจายไปทั่วชั้นสาม ดวงตาสีน้ำเงินหันไปทางปีศาจที่เพิ่งเกือบเสียท่าให้กับเธอเมื่อครู่ และสิ่งที่เห็นตอนนี้ตอกย้ำให้เด็กสาวรู้
เธอคาดคะเนผิดไป
ปีศาจตัวสีขาวเริ่มแปรสภาพร่างกายไปจากของเหลวสีขาวดุจหิมะเป็นสีดำลื่นทะมึน มันเริ่มดึงดูดพลังร้ายรวมทั้งสัมภเวสีที่อยู่รายล้อมที่อยู่ทั่วไปให้เข้ารวมในร่างกาย ร่างที่เหมือนน้ำเหลวพุพองขึ้นเหมือนเจลที่ต้มกำลังเดือด นัยน์ตาสีดำเริ่มเปลี่ยนไปเหมือนเป็นปีศาจคนละตัว
วาบบบบบบบบบบ!!
ดวงตาสีน้ำเงินค้างนิ่ง ร่างทั้งร่างของเธอเหมือนถูกจับถ่วงลงในวังเวียนน้ำแข็ง พลังวิญญาณร้ายและไอปีศาจจำนวนมหึมามหาศาลพุ่งผ่านร่างกายของเด็กสาวไปอย่างรุนแรงเพื่อเข้าสู่ร่างของปีศาจที่กำลังวิวัฒนาการ ลมพายุหมุนรุนแรงโถมซัดเลนยะให้ออกห่างจากปีศาจเลียนร่างไปเรื่อยๆจนชิดผนังตึกที่ปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงกรีดร้องแสบแก้วหูร้องระงมไปทั่ว เลนยะพบว่ากำแพงที่เธอถูกตรึงอยู่ด้วยลมพายุปรากฏใบหน้าของมนุษย์มากมายทั้งชายหญิง ทั้งคนแก่ไปจนถึงเด็กนับหลายพันหน้า ร้องระงมของความช่วยเหลือ เด็กสาวหลับดวงตาลงหนึ่งข้างพยายามสู้กับลมแรงที่โถมซัดเข้ามา เพื่อจัดการเรื่องราวให้หมดสิ้นไปเสีย..
“อ้ากกกกกกก เลนยะ.....ช่วยด้วยยยยยยย”
เลนยะหันขวับไปทางต้นเสียง หัวใจของเด็กสาวเต้นจนแทบทะลุออกมาจากอกด้วยความหวาดหวั่น เมื่อร่างเล็กๆของวิญญาณเด็กชายทาโร่ที่กำลังถูกตรึงเข้ากับกำแพงวิญญาณสัมภเวสีร้องให้เธอช่วยเหลือ และอีกฝั่งคือผีประจำตระกูลที่มีร่องรอยโดนโจมตีด้วยอณูวิญญาณที่แรงกล้า แต่ทว่าโยชิฮาระสลบไปแล้ว..
“นี่มันบ้าอะไรกัน!! ดอปเปลเกงเกอร์!!”
เด็กสาวผู้ไม่เคยหวั่นกลัวต่อปีศาจตะคอกใส่ศูนย์กลางพายุอย่างสุดทนเมื่อสองวิญญาณที่อยู่กับเธอมาเนิ่นนานถูกทำร้ายต่อหน้า ด้วยแรงโมโหส่งให้เลนยะใช้แรงทั้งหมดเดินสู้ลมไปยังร่างสีดำที่ยืนจังก้าอยู่กลางชั้นที่เต็มไปด้วยใบหน้าวิญญาณ
“อย่างไรล่ะนักปราบปีศาจ เจ้าคิดว่าอะไรคือสิ่งที่โง่เง่าที่สุดสำหรับมนุษย์” เสียงแหบกร้าวที่เปลี่ยนไปเปรยขึ้นกับหมอผีสาวอย่างใจเย็นขัดกับภายในใจของเลนยะอย่างสิ้นเชิง
ดวงตาสีน้ำเงินหรี่ลงอย่างฉุนขาดเมื่อปีศาจเลียนร่างอยากมาทายปัญหาเอาตอนนี้
“ความทะนงตน ความประมาท และการไม่เชื่อในใจของมิตรสหายยังไงล่ะ”
สิ้นคำ สายฟ้าสีดำก็ฟาดเปรี้ยงเข้าที่แขนซ้ายของเลนยะอย่างแรงจนร่างเด็กสาวกระเด็นไปกระแทกกับพนังวิญญาณอย่างรุนแรง เลือดสดๆกระอักออกจากปากของเลนยะอย่างแรงเพราะแรงปะทะ กระดูกแขนซ้ายของเธอหักไปเรียบร้อยแล้ว
“เลนยะ!!”
หมอผีสาวพยุงร่างตนเองขึ้นจากพื้นซีเมนต์ที่ยังฉาบไม่เสร็จซึ่งขูดเอาเลือดเนื้อของเธอไปบ้างตอนที่ล้มลงมา แขนซ้ายมีแผลกว้างและเลือดสีเข้มที่พุ่งดังน้ำพุเต้นระบำห้อยต่องแต่งเหมือนหุ่นกระบอกที่ด้ายขาด เลนยะข่มความเจ็บปวดเอานิ้วหัวแม่มือมือที่ยังใช้การได้เช็ดมุมปากอย่างเบาๆ
เด็กสาวมองไปยังรูกว้างจนเพดานตึกซึ่งเกิดขึ้นจากสายฟ้าสีดำที่ฟาดผ่าลงมาเมื่อครู่ ซึ่งเธอรู้ได้เลยว่าถ้ามันแม่นว่านี้อีกสักนิด มันคงจะผ่าลงมากลางลำตัวของเธอซะมากกว่า
ข้าไม่ให้เจ้ารับงานนี้
เสียงเตือนของคิเอ็นจิดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในจิตใจของเลนยะดังเทปที่กรอไปมา ความรู้สึกผิดที่ค่อยจะเกิดขึ้นในใจเลนยะเริ่มผุดตัวขึ้นในก้นบึ้งจิตใจ เด็กสาวคลำหยิบแผ่นยันต์อีกสามแผ่นขึ้นมาเตรียมตัวเข้าโจมตี
สายลมที่เคยพัดรุนแรงค่อยๆเบาบางลงจนกลายเป็นลมเอื่อยๆ ทำให้ดวงตาสีน้ำเงินสามารถมองเห็นร่างในพายุหมุนนั้นได้ชัดเจนขึ้น แต่ทว่าเมื่อเด็กสาวสามารถมองเห็นร่างในพายุหมุนได้อย่างชัดเจน น้ำเสียงในลำคอกลับแห้งผาก มือที่กำยันต์แน่นเริ่มสั่นน้อยๆ โยชิฮาระที่ฟื้นจากการสลบอ้าปากค้าง ก่อนจะแผดเสียงอย่างหวาดหวั่นกว่าครั้งใด
“ท่านชิมิสึ!!!”
ร่างกายที่น่ารังเกียจของปีศาจเลียนร่างบัดนี้กลายเป็นชายหนุ่มผู้มีดวงตาสีน้ำเงินเข้ม ใบหน้าของชายหนุ่มดูคมคายและมีส่วนคล้ายกับเลนยะ ชายหนุ่มในชุดผู้นำของโซเคนโยเดินเข้ามาใกล้เด็กสาวที่ยืนค้างเหมือนโดนสตาฟอย่างช้าๆ
“ว่าไง ลูกรัก”
พลั่กกกก!!
“ท่านเลนยะ!!!”
หมัดที่ปล่อยไปเต็มแรงตรงเข้าที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างพอดีจนแม้แต่โยชิฮาระยังลืมตัวไปว่าที่ยืนอยู่มิใช่เจ้านายที่ตนเคารพเทิดทูน เลนยะหายใจหอบด้วยสูญเสียแรงไปมาก ชิมิสึตัวปลอมหันไปตามทิศของหมัดก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับเลนยะอีกครั้ง รอบบุบฟกช้ำที่หมอผีสาวได้ฝากเอาไว้ค่อยๆสมานตัวอย่างช้าๆจนไม่มีแม้รอยขีดข่วน
“นี่ลูกกล้าชกพ่องั้นเหรอ เลนยะ” เสียงทรงอำนาจกระซิบข้างหูเด็กสาวเบาๆจนทำให้เลนยะค้างอึ้งไม่มีความรู้สึกทั้งๆที่เสื้อผ้าของเธอเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงของเลือดเพราะบาดแผลใหญ่ ในดวงตาสีอำพันฉายแวววิตกกังวลอย่างสุดหัวใจ
เหมือน....เหมือนมาก....เหมือนจนเกินไป
“สงสัยว่าพ่อ คงต้องสั่งสอนลูกซะหน่อยแล้ว”
ฉัวะ!!
“อั่ก!!”
ดาบใหญ่ที่สะพายอยู่ของชิมิสึตัวปลอมถูกชักฟันเลนยะและเก็บเข้าฝักอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครมองตามทัน นอกจากว่าเลือดที่พุ่งสาดเป็นวงกว้างของเลนยะ เด็กสาวล้มโครมลงกับพื้นอาคาร สสารสีแดงข้นเจิ่งนองไปทั่วจนกลายเป็นทะเลเลือด
เป็นการเสียท่า ที่ไม่เคยมีมาก่อน
“เลนยะ!! ฟื้นสิ ไอ้ปีศาจเลว!! แกห้ามทำอะไรเลนยะเด็ดขาด!!”
ชายหนุ่มที่ยืนยิ้มมองดูร่างเด็กสาวที่ล้มลงไปทั้งที่ดวงตายังไม่ปิดสนิท เลือดที่กระอักจากแผลทั้งหมดยิ่งทำให้ปีศาจดีใจในผลงาน จนไม่สนใจคำด่าเสียงนกเสียงกาของทาโร่เลย โยชิฮาระกำหมัดแน่นอย่างคับแค้นแต่ช่วยอะไรไม่ได้
สิ่งที่เขาเกลียดที่สุด คือมันบังอาจทำให้เลนยะรู้สึกเหมือนพ่อของตัวเองทำร้ายอย่างนี้ หากวิญญาณของชิมิสึรับรู้ จะรู้สึกอัปยศเพียงไหน!
“จบสิ้นสักทีนะ เลนยะ”
เสียงนุ่มๆของปีศาจเอ่ยขึ้นเบาๆ ดาบสีเงินวาววับเปื้อนเลือดในคราวแรกถูกเงื้อขึ้นหมายจะทำลายลมหายใจของเลนยะที่กำลังรวยรินจะดับเมื่อใดก็ได้ ดวงตาสีน้ำเงินที่แปดเปื้อนด้วยเลือดลืมขึ้นมองระยะดาบที่เข้าใกล้ร่างเธอเข้ามาเรื่อยๆ เด็กสาวนับเวลาชีวิตตัวเองถอยหลังอย่างช้าๆ
10
9
8
7
6
5
4
3
2
1
“ม่ายยยยยยยย เลนยะ!!!!”
ความคิดเห็น