ตอนที่ 5 : chapter 5 x maybe
Chapter 5 x Maybe
เดรโกไม่ชอบคิดถึงใครคนอื่นนอกจากตัวเองและพ่อกับแม่
แต่ตอนนี้เขากำลังคิดถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ลูน่า เลิฟกู๊ด...
คำว่า ‘คิดถึง’ ในที่นี้สำหรับเดรโก ตัวเขาเองคิดว่าคงไม่ใช่ด้วยความเสน่หาหรือความจงเกลียดจงชังแบบที่เขาคิดถึงพอตเตอร์ แต่ความรู้สึกที่เขามีอยู่ตอนนี้มันเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้แม้แต่ตัวเขาเองต่างหาก
เหตุผลที่ทำให้เดรโก มัลฟอยคิดถึงผู้หญิงสติเฟื่องชื่อเสียงกระฉ่อนด้านความเพี้ยนนั่นน่ะหรือ?
อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้แขนซ้ายของเธอถูกห้อยอยู่กับผ้าสีตุ่นๆ นั่นตั้งแต่เมื่อคืนวานล่ะนะ ลูน่าไม่ได้บอกใครว่าเขาเป็นคนทำ เธอบอกคนอื่นๆ เพียงแค่ว่าถูกเจ้าตัวเธสตอลทำร้ายเข้าที่แขนเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนเชื่อสนิท
ความจริงเขาไม่ควรจะต้องมาคิดถึงเรื่องของเธอเลยแม้แต่น้อย คุณชายเดรโก มัลฟอยไม่ใช่คนประเภทที่ชิ่งหนีได้แล้วย้อนกลับมาห่วงหาคู่กรณี เพียงแต่ท่าทางของลูน่า เลิฟกู๊ดที่เขาเห็นเมื่อเช้าระหว่างที่เธอกำลังเดินลงบันไดมานั้นน่าเป็นห่วงกว่าที่คิด...
ใช่.. น่าเป็นห่วง...
เดรโกครุ่นคิดด้วยท่าทางใจเย็น ทั้งๆที่ในใจนั้นอยากจะลุกพรวดออกไปจากชั่วโมงปรุงยาบ้าๆ นี่เต็มทนแล้ว
“อย่าลืมเก็บอุปกรณ์การเรียนของตัวเองออกไปให้ครบล่ะ ส่วนคนที่ไม่มีหนังสือมา ครั้งหน้าฉันจะถามคำถามกับพวกเธอนะ” ศาสตราจารย์ซลักฮอร์น อาจารย์ประจำวิชาปรุงยาพูดแล้วโบกไม้โบกมือไปมาเป็นเชิงไล่ให้นักเรียนออกไปนอกห้องเรียน
“เดรโก เธอจะไปที่ไหนต่อ” แพนซี่นั่นเองที่สะกิดเรียกเขาทันทีที่ชายหนุ่มก้าวเท้าออกจากห้องได้สองก้าว เดรโกตีหน้านิ่งแล้วคิดอะไรนิดหน่อยก่อนตอบ—
“เดินเล่นแถวนี้น่ะ”
“แครบกับกอยล์ล่ะ” เธอปั้นหน้าซื่อถาม ทั้งๆ ที่ตนเองเป็นคนไล่ให้สองคนนั้นไปรออยู่ที่ห้องโถงแล้ว
“ไม่รู้สิ” เดรโกพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมาทางจมูกแล้วพยายามเดินหนี แต่ก็ถูกแพนซี่คว้ามือไว้เสียก่อน
“นี่เธอจะทำอะไรน่ะ?”
“ฉันก็จะไปเดินเล่นด้วย” แพนซี่ส่งสายตาอ้อนวอนให้ชายหนุ่มสุดฤทธิ์ หวังเพื่อให้เขาเห็นใจเธอและอนุญาตให้เธอได้เดินตามเขาไปในที่ต่างๆ ได้ แต่ผลกลับออกมาตรงกันข้าม วินาทีที่เดรโกทำถลึงตาใส่แพนซี่นั้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เธอรู้ตัวแล้วว่าควรจะต้องปล่อยมือเขาออก
“จะไปเดินที่ไหนมันก็เรื่องของเธอ แต่อย่าตามฉันมา เข้าใจนะ” ว่าแล้วร่างสูงของชายหนุ่มผมบลอนด์สว่างก็ผละออกไปจากหญิงสาวหน้าตาสะสวยนามแพนซี่ พาร์กินสันทันที
หญิงสาวรู้สึกเสียหน้าและโกรธจัดจนแทบจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ไหว เดรโก มัลฟอยเป็นผู้ชายนิสัยไม่ดี แต่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยแสดงท่าทีเหมือนผลักไสไล่ส่งเธอขนาดนี้
ไม่ว่ายังไง แพนซี่สาบานกับตัวเธอเองแล้วว่าเธอก็จะต้องรู้ให้ได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันแบบนี้
อีกด้านหนึ่ง
เดรโก มัลฟอยที่เพิ่งกำจัดผู้ติดตามสาวคนสนิทออกจาก การเดินเล่น ก็กำลังจ้ำอ้าวอยู่ตามทางเดินอย่างเร่งรีบ
ไม่มี... ไม่มี.... ทั้งที่ห้องโถงหรือหน้าบันไดบ้านพักเรเวนคลอก็ไม่มี ทำไมกัน หรือเพราะตอนนี้ยังเป็นเวลาเรียนอยู่งั้นเหรอ?
เดรโกเพิ่งนึกถึงสิ่งที่เขาลืมคิดไปได้ เขาอยากจะเอามือตบหัวตัวเองซักร้อยรอบเพราะความซื่อบื้อของตน ทั้งหงุดหงิดและอารมณ์เสียจากการที่ต้องเดินขาลากไปทั่วปราสาท แล้วยังหาผู้หญิงที่เขากำลังนึกถึงไม่เจอ
เธออยู่ที่ไหนกัน เลิฟกู๊ด!!
เขาชะโงกหน้าเข้าไปในทางขึ้นบันไดของบ้านพักกริฟฟินดอร์ เผื่อว่าจะพบร่างของหญิงสาวที่มักจะเหน็บไม้กายสิทธิ์ไว้ที่หูซ้ายยืนอยู่แถวๆ นั้น
ไม่มีคนอยู่แถวนี้เลยรึไงนะ... เดรโกคิดอย่างหวาดหวั่น เรื่องผีสางที่ถูกเล่าขานเป็นตำนานในฮอกวอตส์เริ่มผุดขึ้นมาในสมองเรื่อยๆ ตัวเขาเองก็ไม่ค่อยจะถูกโรคกับเรื่องพวกนี้ด้วยสิ
“หืม?”
เดรโกแน่ใจว่าเขาเห็นแฮร์รี่กับลูน่ากำลังนั่งอยู่ตรงขั้นบันไดด้วยกันสองคน
ในใจของเขานั้นแทบอยากจะตรงดิ่งเข้าไปแล้วหาเรื่องกลั่นแกล้งไอ้ผู้ถูกเลือกนั่นเสียเต็มแก่ แต่สัญชาตญาณของเขาบอกให้ร่างสูงผมบลอนด์ซ่อนตัว แล้วแอบฟังว่าชายหญิงคู่นั้นว่ากำลังพูดคุยกันถึงเรื่องอะไร
“เธอแน่ใจนะว่ามัลฟอยไม่ได้เป็นคนทำให้เธอบาดเจ็บน่ะ”
แฮร์รี่เอ่ยถามลูน่าอย่างอ่อนโยน นัยน์ตาของเขาแฝงความเป็นห่วงอยู่อย่างชัดเจน ลูน่าละสายตาจากหนังสือเดอะควิบเบลอร์แล้วหันมามองแฮร์รี่ พอตเตอร์
“ไม่หรอก มันเป็นความผิดของฉันเองแหละที่มีอาหารให้ไม่พอสำหรับพวกมันทุกตัวน่ะ” ลูน่าพูดด้วยเสียงฝันๆ และคงจะมีเพียงเดรโกเท่านั้นที่รู้ว่าประโยคที่เธอพูดออกมาเมื่อกี้นี้เป็นเรื่องโกหกทั้งหมด
มันจะเป็นแบบนั้นแน่เหรอ?
แฮร์รี่แอบคิด การที่ลูน่าแขนหักกลับมาหลังจากที่ถูกเดรโกลากตัวไปทำให้เขาแทบจะคาดเดาได้ทันทีว่าเดรโกต้องเป็นตัวก่อเรื่องอะไรบางอย่างแน่ๆ แต่ถึงแม้เขาจะคิดแบบนั้นหลักฐานก็ยังไม่เพียงพอ แถมลูน่าเพื่อนสาวของเขายังคงยืนกรานว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่ฝีมือของเดรโกอีก แฮร์รี่จึงทำได้แค่เก็บงำความสงสัยเอาไว้ในใจเท่านั้น
“โอเค ฉันเชื่อเธอ”
แฮร์รี่ตอบรับแล้วยิ้มให้เธอ ลูน่ายิ้มให้เขาเช่นกัน เป็นไปได้ว่าทั้งสองคนตอนนี้กำลังรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัว เหมือนเด็กสาวและชายหนุ่มในวัยรุ่นที่กำลังมีความรัก
ลูน่าก้มหัวลงอ่านเดอะควิบเบลอร์ต่อ ส่วนแฮร์รี่ก็กำลังทำเขี่ยนิ้วเล่นไปมา ในหัวใจของเขาตอนนี้รู้สึกพองโตอย่างบอกไม่ถูก เขาคิดว่าช่วงเวลาที่เขาได้อยู่กับบุคคลที่ทำให้เขาสบายใจได้นั้นช่างรู้สึกเหมือนยาวนานเหลือเกิน และนั่นก็ทำให้เขาแทบจะหุบรอยยิ้มที่มุมปากไม่อยู่เลยทีเดียว
“ดูนั่นสิ”
เสียงหวานใสของลูน่านั่นเองที่เรียกให้แฮร์รี่สนใจสิ่งๆ เดียวกันกับเธอ แฮร์รี่มองตามสายตาของลูน่าไปด้านบนของเพดานและได้พบกับ—
“ช่อมิสเซิลโทล่ะ”
**************************
40%
ไม่รู้จะทักทายคนอ่านยังไงเลย ทิ้งฟิคนี้มา 6 ปี....... (อุแงงงงงงง)
ต้องขอโทษทุกคนที่รอจริงๆ ค่ะ ไม่มีอะไรจะแก้ตัวทั้งนั้น เพิ่งได้มีเวลาว่างอย่างจริงจัง และได้นั่งดูแฮร์รี่ตั้งแต่ภาค 1-7.2 มา เลยนึกถึงฟิคเรื่องนี้ที่ยังแต่งค้างไว้ TT
chapter 5 ที่จะเอามาลงนี้ก็เป็นตอนที่เราเขียนทิ้งไว้เมื่อ 6 ปีที่แล้วค่ะ ไม่รู้เลยว่าตอนต่อๆ ไปที่จะเขียน ฝีมือการเขียนของเราจะพัฒนาขึ้นหรือแย่ลง แต่เรารู้สึกอยากกลับมาต่อฟิคนี้จริงๆ เลยต้องขออนุญาตกลับมาอัพต่อนะคะ /ไหว้ย่อ
ตอนนี้มาลงแค่ 40% ก่อนนะคะ เดี๋ยวกลับมาต่อให้ค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่ยังเม้นถามหาหรือไม่ทิ้งกันไปไหนนะคะ เราจะ come back แล้วค่ะทุกท่าน T////T
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รอนะคะคุณไรท์♡