ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~๐Oo>>The Moonlight Worriors<

    ลำดับตอนที่ #6 : ~๐Oo>>โพรเทกเตอร์ตัวจริง

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 48


              

              บรรยากาศอันชวนสลดหดหู่และความเงียบวังเวงชวนสังเวชแทรกซึมทุกพื้นที่ภายในร้านกาแฟถ้วยเดียว  ไคน่าและลีโอดีนนอนสลบไม่ไหวติง  แลนซ์แน่นิ่งกลายร่างเป็นสิงโตตัวเท่าฝ่ามืออีกครั้งไม่ต่างจากคีซ   ซากของจีจี้แหลกเหลวอยู่กลางห้องลับของครีแกน  เลือดสีแดงฉานเปรอะเปื้อนไปบนพื้นห้อง  เนื้อตัวถูกฉีกทึ้งจนไม่เหลือเค้าความเป็นตัวตุ่นที่น่ารักเลยแม้แต่น้อย  



              ไม่ต่างจากเจ้านายของมัน  ตอนนี้ชายชรานอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ไม่ห่างจากซากจีจี้มากนัก  ผมสีขาวโพลนของครีแกนเปรอะเปื้อนสีแดงสด  เสื้อผ้าถูกสัตว์ร้ายอย่างโซลิคฉีกทึ้งจนขาดวิ่น  ไม่เพียงเท่านั้นมันยังฝากรอยเขี้ยวรอยเล็บไว้ทั่วตัวชายชราเจ้าของร้าน  บาดแผลลึกเหวอะหวะจนเห็นกระดูกยังมีเลือดไหลซึมออกมาตลอดเวลา  ร่างกายอันชราของครีแกนคงรับกับสภาพความเจ็บปวดสาหัสอย่างนี้ได้อีกไม่นาน  ลมหายใจของเขาแผ่วเบาลงเรื่อยๆ  เปลือกตาที่ครึ่งปิดครึ่งเปิดกระพริบถี่รัวเป็นระยะบ่งบอกถึงความทรมานแสนสาหัส  เลือดค่อยๆไหลออกจากมุมปากช้าๆ  ทำให้รู้ว่านอกจากบาดแผลภายนอกจากคมเขี้ยวสัตว์ร้ายแล้ว  บาดแผลภายในของเขาก็บอบช้ำไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน



              เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ภายใน ร้านกาแฟถ้วยเดียว ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น  ความเงียบยังคงปกคลุมอยู่ทุกอณูบริเวณ  ยามรัตติกาลเริ่มถูกแทนที่ด้วยแสงอาทิตย์แห่งวันใหม่  ภายนอกร้านผู้คนเริ่มทยอยออกเดินสู่ภาระหน้าที่ของตน   ผู้หญิงคนหนึ่งหยุดยืนหน้าร้านและพยายามเพ่งมองผ่านความมืดเข้ามาข้างใน  ปกติ ร้านกาแฟถ้วยเดียว จะเปิดบริการพร้อม ๆ กับเวลาใกล้เช้าวันใหม่เช่นนี้  เธอยืนชะโงกรอชายแก่ใจดีออกมาเปิดร้านอยู่สักพัก  แต่แล้วเธอก็เหลือบดูนาฬิกาข้อมือเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากหน้าร้าน  ผู้คนที่ผ่านไปมาอีกหลายคนทำเช่นเดียวกับเธอ  พวกเค้าคิดว่าการบริการจากร้านกาแฟถ้วยเดียวจะเป็นไปตามปกติเหมือนทุกๆเช้า  เพียงแต่พวกเขาอาจไม่รู้เลยว่าภายในร้านเกิดเหตุการณ์เลวร้ายอะไรขึ้นบ้าง  





              เสียงนาฬิกาไขลานแขวนผนังบอกเวลาสิบโมงเช้าแล้ว  ทุกอย่างภายใน ร้านกาแฟถ้วยเดียว ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่แล้วก็มีเสียงบางอย่างเกิดขึ้น  ประตูไม้สักสีทองบานใหญ่ภายในห้องลับก็ค่อยๆเลื่อนออก  เมื่อบานประตูเลื่อนออกไปจนสุด  ชายชราที่หน้าตาถอดแบบมาจากเจ้าของร้านก้าวเดินออกมาพร้อมกับอุ้มเจ้าตุ่นตัวน้อยเอาไว้  สองหนุ่มสาวเดินตามชายชราออกมาติดๆ  ตามมาด้วยสิงโตตัวใหญ่และนางแมวป่ารูปร่างปราดเปรียว  



              ครีแกนยืนมองร่างไร้วิญญาณของตัวเองด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด  จีจี้ที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาส่งเสียงเล็กๆพลางม้วนตัวเอาหน้าซุกแขนของครีแกนไว้  ราวกับมันอยากจะบอกว่ามันรับสภาพอันน่าสยดสยองของตัวเองอย่างนั้นไม่ได้  ไคน่าและลีโอดีนยืนตกตะลึงอย่างไม่เชื่อสายตา  คีซและแลนซ์ค่อยๆกลายร่างเป็นสัตว์ตัวเล็กเท่าฝ่ามืออีกครั้ง  มันทั้งสองกระโดดขึ้นไปบนตัวเจ้านายของมันโดยที่ไม่ละสายตาไปจากภาพเบื้องหน้าได้เลยเช่นกัน



              “ครีแกน...ทุกอย่างโอเคใช่มั๊ย”  



              ในที่สุดไคน่าก็ต้องพูดอะไรบางอย่างออกไป  เพื่อทำลายความเงียบสงัดชวนหดหู่ที่เกิดขึ้น  เธอหันมามองหน้าลีโอดีนที่ยืนอยู่ข้างๆเธออีกครั้ง  ทั้งสองส่งสายตาแห่งความสงสัยให้แก่กัน  พวกเขากำลังรอคำตอบบางอย่างจากชายแก่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า  ส่วนครีแกนนั้นเพียงถอนหายใจเบาๆ แต่เสียงถอนหายใจของเขาก็ดังไปทั่วห้องลับ  เขาหันหลังมาสบตากับหลานทั้งสอง  ใบหน้าของเขาบ่งบอกถึงความวิตกกังวลและความโล่งใจคละเคล้ากันไป  ครีแกนพยายามฝืนยิ้มส่งมาให้กับไคน่าและลีโอดีน  ก่อนที่เขาจะก้มลงไปลูบหลังจีจี้เพื่อปลอบโยนมันอีกครั้ง  



              “ตอนนี้มันโอเคแล้วล่ะสาวน้อย  แต่เรื่องราวที่มันจะตามมาในวันข้างหน้านี่สิ....”



              ครีแกนพูดขึ้นโดยไม่ละสายตาไปจากจีจี้เลยแม้แต่น้อย  ไคน่าและลีโอดีนได้แต่มองหน้ากันเหรอหรา  สิ่งที่ชายแก่ตรงหน้าพูดหมายถึงอะไรกันแน่  มันจะเลวร้ายมากกว่าเหตุการณ์ตรงหน้าพวกเขาในตอนนี้ซักแค่ไหนกันเชียว ในขณะนั้นเองมีบางสิ่งเคลื่อนตัวตามพวกเขาออกมาจากทางเดินด้านในประตูไม้สักสีทองบานใหญ่  มันเป็นหมีขาวตัวโตราวกับพรมปูพื้นที่วางหน้าเตาผิงไม่ผิดเพี้ยน  มันเคลื่อนตัวตรงรี่เข้าไปคลอเคลียครีแกนราวกับคนที่ไม่ได้เจอกันนาน  ชายแก่หัวเราะเบาๆพร้อมกับลูบหัวเล็กๆ ของมันด้วยท่าทีอ่อนโยน



              “พวกเราต้องขอบคุณแกนะชาร์ล็อต  โพรเทกเตอร์ตัวจริงของชั้น”



              ครีแกนพูดพลางก้มตัวลงไปจุมพิตที่หัวของเจ้าหมีขาวชาร์ล็อต  เค้าคลายมือที่กอดจีจี้ออกข้างนึงไปโอบกอดเจ้าหมีขาวตัวอ้วนไว้ด้วย  รอยยิ้มของครีแกนตอนนี้เป็นรอยยิ้มของชายแก่ที่บริสุทธิ์  ภาพที่เกิดขึ้นราวกับเค้าได้ใช้เวลาอยู่กับลูกแท้ๆของเขาทั้งสอง  ในขณะที่ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นมาก่อนหน้า





              ย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ก่อนหน้านี้  หลังจากที่ทั้งสามตะโกนเรียกโพรเทกเตอร์  คีซและแลนซ์ก็กลายร่างเป็นนางแมวป่าและสิงโตตัวใหญ่  จีจี้เองก็กลายร่างเป็นตัวตุ่นท่าทางปราดเปรียวตั้งท่าคอยรับการมาเยือนจากศัตรูด้านบนเช่นกัน  แต่แล้วสิ่งที่นอกเหนือจากความคาดหมายของไคน่าและลีโอดีนก็เกิดขึ้น  เมื่อพรมปูพื้นหมีขาวผืนที่วางอยู่หน้าเตาผิง  กลายร่างเป็นหมีขาวตัวโตอุ้ยอ้ายแต่ดูเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง  มันหันซ้ายทีขวาทีแล้วก็เดินไปตรงกลางห้องเหมือนจะเตรียมทำอะไรซักอย่าง  ครีแกนเดินตรงไปหาเจ้าหมีขาวตัวนั้นพร้อมกับพยักหน้าเรียกลีโอดีนและไคน่าให้เข้าไปรวมอยู่ด้วยกัน



              จากนั้นเจ้าหมีขาวตัวนั้นก็อ้าปากกว้าง  ไคน่าสังเกตเห็นเหมือนมีไอบางๆลอยออกมาจากปากมันทีละน้อย  ซักพักอากาศรอบตัวพวกเขาก็เริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ  เริ่มมีละอองหิมะปลิวว่อนภายในห้องลับราวกับจะเกิดพายุหิมะ  อยู่ดีๆจีจี้ก็วิ่งวนรอบตัวเองสองสามรอบแล้วมันก็กระโดดขึ้นไปหมุนตัวคว้างในอากาศ  มีพลังงานบางอย่างพุ่งตรงออกมาจากตัวของจีจี้อย่างรวดเร็ว  พลังงานเหล่านั้นพุ่งเข้าล้อมรอบพวกเขา  เพียงเวลาไม่กี่วินาทีพวกเขาทั้งหมดก็อยู่ภายในลูกพลังงานบางอย่าง



              ตอนนี้ภายนอกลูกพลังงานเต็มไปด้วยพายุหิมะ  พวกเขามองไม่เห็นอะไรนอกจากความขาวโพลน  ครีแกนออกเดินนำพวกเขาไปทางประตูไม้สักแกะสลักสีทองบานใหญ่โดยที่พวกเขาทั้งหมดยังอยู่ภายในลูกพลังงานนั้น  เมื่อใกล้ถึงพายุหิมะก็เริ่มสงบ  พวกเขาสังเกตเห็นเงาราง ๆ ของคนสามคนกับสัตว์อีกสองสามตัวข้างโต๊ะอาหาร  ครีแกนเอื้อมมือไปเลื่อนเปิดประตูไม้สักแกะสลักสีทองบานใหญ่บานนั้นแล้วเดินนำพวกเขาเข้าไปหลบในทางเดินหลังประตู  แต่ภาพที่พวกเขาได้เห็นก่อนที่ประตูบานใหญ่จะเลื่อนปิดกลับไปนั้น  ไคน่าเห็นตัวเองกำลังยืนตัวสั่นหันหน้าไปทางบันไดเวทมนตร์ที่ทอดยาวลงมา  ก่อนจะสั่งให้คีซวิ่งขึ้นไปจัดการกับแขกไม่ได้รับเชิญโดยที่ตัวเธอเองก็วิ่งตามขึ้นไปติดๆ



              \"นี่มัน....\" เธออุทานออกมาเบาๆด้วยความประหลาดใจยิ่งนัก  ไม่ต่างจากลีโอดีนที่ตอนนี้หันมาสบตากับเธอด้วยท่าทีประหลาดใจไม่น้อยไปกว่าเธอเท่าไหร่  คงมีแต่ครีแกนเท่านั้นที่มีแววตานิ่งมั่นคง  เมื่อเขาเลื่อนปิดประตูไม้สักแกะสลักสีทองบานใหญ่บานนั้นสนิทแล้ว  เขาก็นิ่งเงียบไม่พูดจาเหมือนรอฟังอะไรบางอย่าง  ไคน่าและลีโอดีนจึงไม่กล่าถามอะไรออกไปในตอนนั้นทั้งสิ้น  หลังจากนั้นทุกบทสนทนาและทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอกก็ดังเข้าหูพวกเขาโดยชัดเจนทั้งหมด  พวกเขายืนรออย่างนั้นจนนาฬิกาไขลานแขวนผนังส่งเสียงบอกเวลาสิบโมงเช้า  ครีแกนก้มลงไปกระซิบอะไรบางอย่างกับจีจี้ที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา  ลูกพลังงานที่ล้อมรอบตัวพวกเขาหายไป  แล้วครีแกนก็เลื่อนเปิดประตูไม้สักบานนั้นออกพร้อมกับเดินออกไปยังภายนอก





              \"ฮ่าๆๆ พวกเธอคงตกใจมากสินะกับภาพลวงตาที่เจ้าหนูอีกตัวของชั้นจัดการสร้างมันขึ้น\"



              ครีแกนพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีที่ชุดรับแขกหน้าเตาผิง  ในขณะที่เจ้าชาร์ล็อตกำลังอ้าปากกว้างขึ้น ไอหนาวเย็นแผ่ปกคลุมห้องนั้นขึ้นมาอีกครั้ง  ละอองหิมะเริ่มปลิวว่อนไปทั่ว  แต่เวลาเพียงเสี้ยววินาทีละอองหิมะเหล่านั้นก็ลอยหายเข้าไปในปากของเจ้าชาร์ล็อต  ร่างอันไร้สติของทุกคนกับข้าวของเครื่องใช้ที่แตกพังกระจัดกระจายก็อันตรธานหายไป  สภาพเดิมอันน่าอยู่ของห้องลับห้องนั้นก็คืนกลับมาอีกครั้ง



              \"จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงล่ะคะ อยู่ดีๆก็มีตัวเองเพิ่มขึ้นมาอีกคนนึง  แล้วยังพรมปูพื้นที่อยู่ดีๆกลายมาเป็นเจ้าหมีขาวตุ้ยนุ้ยนี่อีก\"

              

              ไคน่าพูดพลางพยายามจะเข้าไปกอดชาร์ล็อต  แต่มันก็คลานต้วมเตี้ยมหนีไปหลบอยู่หลังครีแกนที่กำลังนั่งลูบหลังจีจี้ที่กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่



              \"แล้วไอ้พลังงานที่มันมาล้อมรอบพวกเราไว้ตอนนั้นล่ะคับ\" ลีโอดีนเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าขี้สงสัย



              \"อ่อ  มันเป็นพลังงานเสียงที่จีจี้สร้างขึ้นน่ะ  มันช่วยกันพวกเราจากโลกภายนอกให้ไม่สามารถได้ยินเสียงของพวกเราจากภายในลูกพลังงานเสียงได้  โดยที่พวกเราภายในจะได้ยินเสียงจากพวกเค้าภายนอกชัดเจนขึ้นกว่าเดิม  แต่ท่าทางจีจี้ของชั้นจะสร้างพลังงานต่อเนื่องนานมากไปหน่อยนะ  ดูสิ .... หลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องเลย\" ครีแกนกล่าวอย่างภาคภูมิใจในผลงานของจีจี้



              \"แล้วนี่ตกลงมันเป็นโพกเทกเตอร์ของนายทั้งสองตัวเลยหรอครีแกน\" ลีโอดีนยังคงความสงสัยอยู่



              “ความจริงเจ้าชาร์ล็อตน่ะเป็นโพรเทกเตอร์ตัวจริงของชั้น ส่วนจีจี้น่ะเป็นโพรเทกเตอร์ของมาร์จ”



              \"มาร์จ..!?!\" ทั้งลีโอดีนและไคน่าทวนชื่อขึ้นมาพร้อมกัน



              \"ฮื่อ..มาร์จ  ภรรยาชั้นเองแหล่ะ\" เขาพูดพร้อมกับชี้มือไปที่รูปผู้หญิงผมทองหน้าตาสะสวยที่แขวนไว้เหนือเตาผิงข้างๆรูปเขาเองในตอนหนุ่ม  ในรูปเธอกำลังส่งยิ้มหวานมาให้พวกเขา

            

              “แล้วมาร์จไปอยู่ไหนแล้วล่ะคะครีแกน” ไคน่าถามด้วยแววตาขี้สงสัย



              “เธอจากโลกนี้ไปห้าปีกว่าๆแล้วล่ะ...” น้ำเสียงของครีแกนเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด  



              “หนูขอโทษค่ะ  ...หนูไม่ได้ตั้งใจ”



              “ไม่เป็นไรหรอก  ชั้นทำใจมาหลายปีแล้วล่ะว่ามาร์จอาจไปปิกนิคถาวรกับหนุ่มคนใหม่ ฮ่าๆๆ  เอาเป็นว่าเราคุยเรื่องเดิมต่อดีกว่า  เมื่อกี๊ชั้นพูดถึงไหนแล้วนะ...” ครีแกนพยายามเปลี่ยนเรื่องเพื่อทำให้ไคน่าเลิกกังวลเรื่องเขา



              “อ่อ  พอหลังจากมาร์จไม่อยู่จีจี้ก็ติดฉันแจเลยล่ะ   มันเลยอยู่กับฉันซะจนเหมือนมันเป็นโพรเทกเตอร์แท้ๆของชั้นเลย  ส่วนเจ้าอ้วนชาร์ล็อตเนี่ย  ชั้นตั้งใจให้มันเป็นไพ่ใบสุดท้ายของชั้นไงล่ะ  แล้วเห็นมั๊ยล่ะว่ามันเจ๋งแค่ไหน” ครีแกนพูดอย่างอารมณ์ดี  



              “จริงมะเจ้าอ้วน...ฮึ”



              เขาหันลงไปเล่นกับชาร์ล็อตอีกครั้ง  ตอนนี้มันกำลังนอนหงายให้ครีแกนจี้พุงของมันอย่างสนุกสนาน



              “ชั้นกับพวกมันดูแลกันและกันมาตลอดหล่ะ  แต่เจ้าชาร์ล็อตเนี่ยลำบากที่สุด  เพราะมันอยู่ในสภาพพรมปูพื้นมาหลายปีแล้ว  ดีที่มันเป็นหมีขาวรู้จักจำศีล  ไม่งั้นล่ะวันดีคืนดีมีเสียงท้องร้องออกมาจากพรมแน่ๆ 5555” ทั้งสามคนหัวเราะกันอย่างอารมณ์ดี



              \"ชั้นว่านะตอนนี้เรารีบเก็บข้าวของแล้วย้ายไปหาที่อื่นอยู่กันดีกว่า  เดี๋ยวถ้าพวกมันย้อนกลับมาเยี่ยมกันใหม่  ท่าทางมุขเดิมจะเล่นไม่สนุกแน่\" ครีแกนหันไปพูดกับหลานๆทั้งสอง



              \"เราก็สู้กับมันสิคะ  ดูท่าทางก็ไม่เห็นจะเท่าไหร่เลย ถ้ามันมาอีกพวกเราจะสั่งสอนซะให้เข็ด\" ไคน่าเถียงทันควันพร้อมทั้งกำมือแน่น  ลีโอดีนก็ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับคำพูดของไคน่า



              \"ชั้นว่าพวกที่มาก็ไม่ใช่เนห์รีนกับเพอราซโซ่ตัวจริงหรอก\"



              \"ทำไมล่ะครีแกน\" ลีโอดีนถามกลับอย่างไม่เชื่อหูตัวเองในสิ่งที่เพิ่งได้ยินจากปากของชายแก่



              \"เท่าที่จำได้  เพอราซโซ่ไม่เคยหลุดปากพูดอะไรกับใครซักคำ  ส่วนเนห์รีน...ยัยนั่นไม่มีทางปล่อยเธอแน่ไคน่า\"



              ข้อสังเกตของครีแกนก็เป็นเรื่องจริง  คนอย่างเพอราซโซ่ไม่เคยพูดอะไรกับใคร จนไม่มีใครชี้ชัดได้ว่าจริงๆแล้วเขาเป็นใบ้หรือเปล่า  ส่วนเรื่องราวความหลังระหว่างเนห์รีนกับไคน่าก็เป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่า  ถ้ามีโอกาสมอบความตายให้ไคน่าไหนเลยเนห์รีนผู้อำมหิตจะตัดใจปฏิเสธลงได้  ไคน่าและลีโอดีนรู้สึกใจเต้นขึ้นมาผิดปกติอย่างบอกไม่ถูก  เรื่องที่เกิดขึ้นในเวลาเพียงชั่วข้ามคืนกลับพลิกแพลงไปมาได้ถึงเพียงนี้



      



              คืนนั้นหลังจากที่พวกเขาช่วยกันเร่งมือเก็บข้าวของที่จำเป็นแล้วย้ายออกจาก ร้านกาแฟถ้วยเดียว  พวกเขาก็ออกมาเที่ยวตระเวนหาที่อยู่ใหม่แถบชานเมือง  ไม่นานพวกเขาก็ตัดสินใจเช่าห้องพักอยู่ที่  อพาร์ตเม้นท์ฝันดี พวกเขานอนรวมกันอยู่ในห้องพักหมายเลข306  ภายในห้องมีเตียงสองเตียง  โซฟาสีดำหนึ่งตัว  กับตู้เสื้อผ้าใบใหญ่สีดำอีกหนึ่งใบ  สัมภาระต่างๆถูกวางกองรวมไว้หน้าตู้เส้อผ้าสีดำกลางห้อง  ไคน่านอนหลับไปบนเตียงริมหน้าต่างมีเจ้าคีซนอนขดตัวอยู่ด้วยที่ปลายเท้า  ครีแกนนอนหลับอยู่อีกเตียงนึงโดยที่มีจีจี้น้อยหลับสบายอยู่ในอ้อมกอด  ลีโอดีนนอนเหยียดยาวเต็มพื้นที่โซฟาสีดำ  เจ้าแลนซ์ที่กลายร่างเป็นสิงโตตัวเท่าฝ่ามือก็กำลังกรนเบาๆหลังจากที่ค่อยๆคลานเข้าไปนอนใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับลีโอดีน  ประตูห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องเปิดแง้มไว้  เจ้าหมีขาวชาร์ล็อตคงชอบอากาศเย็นๆชื้นๆในห้องน้ำเหลือเกิน  มันเลยแอบไปนอนขดหลับสนิทอยู่ในอ่างอาบน้ำเสียตัวเดียว



              ในตอนนี้พวกเขาทุกคนหลับสนิทอย่างสบายใจ  เพราะเช้าวันรุ่งขึ้นพวกเขายังต้องทำภารกิจสำคัญที่พวกเขาได้รับมอบหมายมาจากบาทหลวงโดมินิก  ตอนนี้ภายในห้องพักหมายเลข306ของ อพาร์ตเม้นท์ฝันดี จึงมีแต่ความเงียบสงบไร้แสงไฟ  ต่างจากภายในห้องพักข้างๆหมายเลข307  ซึ่งในขณะนี้ภายในห้องเปิดไฟสว่างจ้า  เสียงพุดคุยดังสลับต่อเนื่องกับเสียงหัวเราะ  ครีแกน ไคน่า และลีโอดีนที่เป็นภาพลวงตากำลังนั่งเล่นไพ่โป๊กเกอร์กันอย่างสนุกสนาน  โดยมีแลนซ์  คีซและจีจี้วิ่งไล่แย่งอาหารกันอย่างวุ่นวาย  แม้ทั้งสองห้องจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง  แต่กลิ่นอายความสุขที่คุกรุ่นอยู่ภายในกลับไม่แตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×