คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 8 คุณหมอยมทูต? (100%)
บทที่ 8
เปิดเทอมใหม่ เจอสิ่งใหม่ๆ มีทั้งดีและไม่ดี เอาเรื่องดีก่อนละกันฉันได้อาวุธใหม่ เคียวยมทูต อาวุธประจำตัวสูงสุดของยมทูต ที่ต้องมี Level8 ขึ้นไปถึงจะใช้ได้ มีเรื่องดีแล้วก็ต้องมีเรื่องไม่ดีตามมา ปัญหาแรกคือยิ่งLevel ของฉันเพิ่มมากเท่าไหร่ ฉันก็สามารถเห็นปีศาจ Level สูงๆ ที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งต้องกำจัดทิ้ง ทำให้ฉันกับเอมิลี่หาเวลาพักไม่เจอเลย ไล่ล่าจับปีศาจกันแทบทุกวัน
ปัญหาที่ 2 มีปีศาจบางตนที่รู้แล้วว่า น้องสาวฉัน ซาเนียเป็นเทวทูต พวกมันแบ่งเป็น 2 พวก พวกแรกรู้แล้วกลัว ไม่ยุ่งด้วย ส่วนพวกที่ 2 คือพวกอวดเก่งชอบมาระรานน้องตลอดเวลา เหมือนอย่างวันนั้น
วันนั้น เวลาประมาณ 3 ทุ่ม ฉันกลับมาจากลาดตะเวน
“กรี๊ด!” เสียงซาเนียกรีดร้องจากข้างบนบ้าน
ฉันรีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที หน้าห้องน้ำชั้นสองที่ซาเนียอาบน้ำอยู่ แม่กับพ่อทุบประตูเรียกน้อง
“ซาเนีย เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น”
“เปิดประตูสิลูก”
ฉันเห็นแบบนี้ แสดงว่าในห้องน้ำต้องมีปีศาจอยู่แน่ๆ น้องถึงไม่ยอมเปิดประตูให้พ่อแม่เข้าไป ว่าแล้วฉันเปลี่ยนเป็นร่างยมทูตสั่งให้ร่างนี้มองไม่เห็นสำหรับมนุษย์ แล้วเดินทะลุประตูเข้าไปในห้องน้ำทันที
ซาเนียนั่งกอดตัวเองอยู่บนพื้นตัวสั่น ร่างกายเปลือยเปล่า รอบข้างมีดวงวิญญาณ 3 ดวงลอยอยู่
ฉันเข้าใจเหตุการณ์ในทันที...
ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้นมาเห็นฉัน
“กรี๊ด!” น้องกรีดร้อง
“ใจเย็นๆ นี่พี่เอง” ฉันพยายามปลอบน้อง
ซาเนีย ค่อยๆ ตั้งสติ
“พี่วาเนสซ่า” เธอโผเข้ากอดฉันแล้วรองไห้โฮด้วยความมตกใจ
“ใจเย็น ซาเนีย” ฉันว่าพลางเอื้อมมือไปคว้าผ้าเช็ดตัวมาคลุมร่างเปลือยของน้องสาว
“ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวพี่จัดการปีศาจให้” ฉันผละจากน้องมาผนึกวิญญาณทั้งสาม
“เดี๋ยวพี่ไปรอข้างนอกนะ” ฉันบอกแล้วเดินทะลุกำแพงออกมา เปลี่ยนเป็นร่างมนุษย์แล้วลบความทรงจำพ่อแม่ซะ น้องจะไม่ต้องตอบคำถามที่ยากจะตอบ
มีอะไร เกิดอะไรขึ้น
จะให้ตอบว่ามีปีศาจมาทำร้ายน่ะเหรอ บ้าสิ
เอาแบบนี้แหละดีแล้ว ตั้งแต่นั้นมาฉันเลยให้ซาเนียกางเวทย์ป้องกันหรือชิลด์รอบบ้านกันปีศาจ เวลาจะไปไหนมาไหนต้องรายงานทุกระยะถ้าไม่ติดธุระอะไรฉันก็จะตามไปอยู่ด้วย
ปัญหาที่ 3 ที่โรงเรียนมีวัดส่วนสูงชั่งน้ำหนักอีกแล้ว ฉันไม่มีปัญหาเรื่องอ้วนผอมเตี้ยสูงหรอกเพราะมันไม่ขยับเลยสักกะอย่าง แต่นั่นแหละที่เป็นปัญหา คราวก่อนที่พ่อแม่เห็นฉันในร่างยมทูตสู้กับปีศาจโชคดีที่Blade ช่วยลบความทรงจำให้เพราะตอนนั้นฉันไม่เหลือพลังแล้ว เคียวยมทูตนี่กินพลังเยอะชะมัด แต่ไม่ได้ลบความทรงจำไปถึงเรื่องที่พ่อแม่สงสัยเรื่องส่วนสูงกับน้ำหนักของฉันน่ะสิ
"รู้สึกไหมว่าตั้งแต่อุบัติเหตุไฟไหม้ วาเนสซ่าทานอาหารน้อยลง ส่วนสูงน้ำหนักก็ไม่เพิ่มขึ้นเลยในขณะเด็กวัยเดียวกันส่วนสูงเพิ่มเอาๆ" แม่ว่า
"พ่อไม่ทันได้สังเกตน่ะ แต่จะว่าไปตอนนี้ซาเนียก็ดูจะสูงเท่าวาเนสซ่าแล้ว ที่แม่พูดก็คงจะจริง"
"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ"
"ไม่รู้เหมือนกัน กลับบ้านแล้วคงต้องพาไปหาหมอ"
ที่พ่อพูดตอนนั้นคงไม่เอาจริงหรอกนะ
“วาเนสซ่า โรงเรียนให้ชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูงรึยัง” แม่ถามขึ้นในวันหนึ่งขณะทานอาหารเช้าก่อนไปโรงเรียน
ฉันถึงกับผงะ
“วัดแล้วค่ะ” ฉันตอบเสียงอ่อย
“ได้เท่าไหร่ล่ะ”
ซวยแล้วไง
“สูง 151 หนัก 40 กิโลค่ะ” ฉันตอบ
“ซาเนียล่ะ” แม่หันไปถามน้อง
“สูง 152 หนัก 42 ค่ะ” น้องตอบอย่างไม่ได้คิดอะไร แต่ฉันนี่สิตอบอย่างนั้นไปเท่ากับอภิมหาซวยสุดๆ
“ซาเนียสูงกว่าวาเนสซ่าแล้ว วาเนสซ่าทำไมหนูถึงไม่สูงขึ้นเลยล่ะ” แม่ถาม
“หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” ฉันตอบ
“งั้นวันพรุ่งนี้แม่จะพาหนูไปหาหมอนะ” แม่บอก
“หาหมอ!” ฉันสะดุ้งเลยเมื่อได้ยินคำนี้
“ไม่ไปไม่ได้เหรอคะ”
“ไม่ได้ ส่วนสูงที่ควรจะเพิ่มกลับไม่เพิ่มเลยแบบนี้ ผิดปกติแล้ว ต้องไปหาหมอ” แม่ยื่นคำขาด
เอาล่ะสิทีนี้ จะทำไงดี ลบความทรงจำของแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยดีไหม ไม่ได้ ไม่ได้ ถึงวันนี้จะลืม แต่สักวันแม่ก็ต้องคิดเรื่องนี้ขึ้นมาอยู่ดี แล้วจะทำไงดีล่ะ
ฉันครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ทั้งวัน หลังเลิกเรียนฉันพาเอมิลี่เดินลาดตะเวนไปทางอีกด้านหนึ่งของเมือง ผ่านหน้าโรงพยาบาลแห่งเดียวของเมืองที่ฉันเคยมารักษาตอนหลังตายและจะต้องมาในวันพรุ่งนี้
พวกเราเดินไปหยุดที่สวนสาธารณะข้างโรงพยาบาล ฉันสังเกตเห็นหญิงสาวผมสีแสดสั้นซอยระต้นคอในชุดกาวน์สีขาวท่าทางน่าจะเป็นหมอ นั่งในม้านั่งยาวของสวนสาธารณะคนเดียวดูเบื่อๆ ซึมๆ เหงาๆ ไม่สดใสเอาเสียเลย แต่ที่ฉันสนใจไม่ใช่เรื่องที่เธอเศร้าแต่เป็นเรื่องที่เธอไม่มีลมหายใจ
ปีศาจก็ไม่ใช่ งั้นก็ต้องเป็นยมทูต
ฉันพาเอมิลี่เข้าไปทัก
“สวัสดีค่ะ” ฉันทัก
“สวัสดีค่ะ” เธอยิ้มให้พยายามกลบเกลื่อนสีหน้าเศร้า
“มีอะไรเหรอคะ” เธอถาม
“คือว่า...” ฉันลืมคิดเรื่องที่จะคุยไปเสียสนิท จะทักเรื่องยมทูตเลยก็กะไรอยู่
“คุณหมอเป็นอะไรคะ ทำไมดูเศร้าจัง” เอมิลี่ถามแทนให้
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจเหรอคะ บอกพวกหนูได้นะเดี๋ยวพวกหนูช่วย” ฉันแอ๊บเด็ก
“พวกเธอนี่น่ารักจังนะ” คุณหมอสาวยิ้มเศร้าๆ
“อกหักมาสินะเนี่ย” เอมิลี่พูดลอยๆ
“บ้า!” ฉันขัดทันที คุณหมอขำเบาๆ ดูสดชื่นขึ้นแล้ว
“ไม่ได้อกหักหรอกจ๊ะ แค่มีปัญหากับพี่ชายนิดหน่อย” คุณหมอบอกยิ้มๆ
“ปัญหาอะไรเหรอคะ” เอมิลี่ถาม คุณหมอก้มหน้าเศร้าเหมือนจะร้องไห้
“ไม่ต้องบอกก็ได้นะคะ” ฉันบอกแต่ประโยคหลังนี่สิไม่พูดออกไปเลย
”หนูพอจะเดาเรื่องได้อยู่หรอก”
ทั้งเอมิลี่ทั้งคุณหมอมองฉันด้วยความฉงนเป็นสายตาเดียว
ก่อนที่ฉันจะได้อธิบายอะไร กลิ่นปีศาจฉุนกึกก็ลอยมาแตะจมูกฉันกับเอมิลี่
"เหม็นชิบ" เอมิลี่บีบจมูก
ฉันหันมองหาต้นกลิ่นทันที ต้นกลิ่นมาจากกลางสนามหญ้า ปีศาจสูงชะลูดเหมือนต้นเสาสีดำสนิทตั้งตระหง่านท่ามหลังผู้คนที่ออกกำลังกาย นั่ง เดิน กันอย่างเป็นสุข ไม่รับรู้ถึงตัวตนของมันเลยสักนิด มันยืดเข็มปลายแหลมออกมาแทงชายคนหนึ่งที่กำลังวิ่งออกกำลังกายอยู่
พริบตานั้นเขาล้มลงแน่นิ่งไป ปีศาจดึงเข็มพร้อมวิญญาณของชายเคราะห์ร้ายกลับเข้าร่าง มันแทงมนุษย์รอบๆตัวมันด้วยความเร็วสูงจนจับตามองไม่ทัน levelมันต้องสูงมากแน่ๆ
"เกิดอะไรขึ้น" คุณหมอรู้สึกถึงความผิดปกติที่มีคนหลายคนล้มลงในเวลาไล่เลี่ยกัน เธอวิ่งเข้าไปดูอาการผู้เคราะห์ร้ายคนหนึ่ง ฉันกับเอมิลี่วิ่งตามไปด้วย
"ไม่มีวิญญาณ" แพทย์สาวครุ่นคิดแล้วมองไปรอบตัวเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง
เธอคงเป็นยมทูตที่มี level ต่ำกว่าปีศาจถึงมองไม่เห็นปีศาจแบบนี้ ถ้าเป็นอย่างนี้เธอก็ไร้ประโยชน์เหมือนกับมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ช่วยไม่ได้ คงต้องลงมือเองแล้วล่ะ
"เอมิลี่ ฝากคุณหมอด้วย" ฉันบอกPartnerแล้วชักปืนพกขึ้นมายิงไปทางปีศาจ
"ปัง!" กระสุตติดไฟพุ่งไปกระแทกตัวมันแล้วตกลงพื้น
"เจาะไม่ได้ ร่างมันแข็งเกิน" ฉันสบถอย่างไม่สบอารมณ์ ถึงจะมองเห็นก็จัดการไม่ได้งั้นเหรอ
"เกิดอะไรขึ้นน่ะ" คนในสวนสาธารณะตกใจกับเสียงปืนที่ฉันยิง
"ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้" ฉันตะโกนสั่งพร้อมกับยิงปืนขึ้นฟ้า ผู้คนพากันวิ่งออกมาเกาะกลุ่มล้อมรอบสวนสาธารณะ แล้วทุกคนก็ล้มลง ดูเหมือนคุณหมอจะเข้าใจสถานการณ์แล้ว เธอใช้พลังของเธอทำให้ผู้คนสลบไปชั่วขณะ
"จะเอาไงต่อล่ะ สาวน้อยยมทูต" เธอหันมาถามฉัน เธอเปลี่ยนเป็นร่างยมทูตแล้ว ผมสีดำขลับ ดวงตาสีแดงเลือด ใบหน้าซีดขาว หูยาวเหมือนเอลฟ์ สร้อยคอรูปหัวกระโหลกสัญลักษณ์ของยมทูต
ฉันยิ้มให้แล้วเปลี่ยนเป็นร่างยมทูตบ้าง หันไปมองที่ปีศาจอีกที มันหายตัวไปแล้ว อต่มันยังิยู่แถวนี้อน่นอนเพราะกลิ่นยังอยู่
"ทีนี้ทั้งฉันทั่งคุณหมอก็มองไม่เห็นตัวมันไม่ใช่เหรอคะแล้วจะทำยังไงต่อดีล่ะ" ฉันว่า
"ถึงจะมองไม่เห็นแต่ก็ทำแบบนี้ได้" คุณหมอว่าพลางปามีดล้อมรอบสวนสาธารณะนี้ไว้ กางสนามตาข่ายไฟฟ้าเต็มพื้นที่ของสนาม ฉันเห็นมีจุดนึงที่ไฟฟ้าหายไปเป็นวง
"ตรงนั้นแหละ" คุณหมอบอก
"แจ๋ว" ฉันยิ้มเปลี่ยนอาวุธเป็นเคียวยมทูต ฟาดใส่ปีศาจทันที
ถึงกระสุนจะเจาะไม่เข้าแต่ถ้าเป็นเคียวล่ะก็ เข้าแน่นอน
"เพล้ง" Coreปีศาจแตกออก ดวงวิญญาณนับสิบลอยออกมา
"ผนึก" ฉันจัดการส่งพวกมันไปที่ชอบๆ แล้วทรุดลงนั่งทันที
"คุณหมอฝากจัดการพวกมนุษย์ด้วยนะ หนูไม่ไหวแล้ว เคียวยมทูตกินพลังเยอะมาก" ฉันบอก
"ได้สิ" เธอรับคำ ในไม่ช้าทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม พวกเราก็พากันมานีางพักที่ม้านั่งที่เดิม
"ไม่นึกเลยนะว่าเด็กอย่างเธอจะเป็นยมทูตที่เก่งขนาดนี้" คุณหมอชม
"ขอบคุณค่ะ" ฉันขอบคุณ
"แถมโชคดีจังนะที่มีPartnerน่ารักแบบนี้" เธอชมเอมิลี่
"ทำไมคุณหมอไม่ให้พี่ชายเป็นPartnerให้ล่ะคะ" ฉันเสนอแนะ
"เรื่องที่มีปัญหากับพี่ชายก็คือเรื่องยมทูตนี่ไม่ใช่เหรอคะ"
"รู้ดีอีกนะ" คุณหมอว่า
"ฉันไม่อยากให้เขา.." คุณหมอแย้ง
"เจออันตรายแบบนี้" เอมิลี่ต่อให้
"เหมือนวาเนสซ่าเปี๊ยบเลย เอะอะก็อันตราย ถามเจ้าตัวก่อนสิคะว่าเขารับได้รึเปล่า เขาอาจรับได้ก็ได้นะ" เอมิลี่แนะ
"นั่นสินะ" คุณหมอรำพึง
"ไม่ได้มีแต่คุณหรอกที่มีปัญหากับครอบครัว หนูก็เหมือนกัน นี่พรุ่งนี้แม่จะพามาหาหมอเรื่องที่ส่วนสูงกับน้ำหนักไม่เพิ่ม ยังไม่รู้จะแก้ปัญหายังไงเลย" ฉันบอก
"ถ้าเป็นเรื่องนั้น ฉันแก้ปัญหาให้ได้นะ" คุณหมอเสนอ
"พรุ่งนี้มาที่โรงพยาบาลแล้วติดต่อคุณหมอ แจสมิน โลแลนด์ ที่เหลือฉันจัดการเอง"
"ขอบคุณมากนะคะ" แบบนี้ฉันค่อยโล่งใจหน่อย
"วาเนสซ่า" เอมิลี่สกิด
"งั้นพวกเราขอตัวกลับก่อนนะคะ" ฉันลา
"เดี๋ยว เธอโค้ดเนมอะไร ฉัน Knife"
"S ค่ะ"
ทันทีที่ฉันถึงบ้าน
“กลับมาแล้วค่า...” ฉันตะโกนบอกคนในบ้าน ตั้งใจให้น้องได้ยินเพื่อคลายเวทย์ป้องกันรอบตัวบ้านฉันจะได้เข้าบ้านได้ ไม่อย่างนั้นก็คงจะเป็นเหมือนเจ้าพวกนี้ ฉันมองไปที่ฝูงวิญญาณรอบรั้วบ้านวิญญาณที่เคยเป็นของปีศาจ
“ผนึก” ฉันจัดการเก็บกวาดพวกมันก่อนเข้าบ้านอย่างเป็นสุข
…วันต่อมา...
พ่อแม่ก็พาฉันกับน้องไปโรงพยาบาล ติดต่อคุณหมอแจสมิน พยาบาลก็พาแม่กับฉันไปที่ห้องตรวจ หลังบานประตูที่เปิดออก คุณหมอสาวในชุดกาวน์นั่งอยู่หลังโต๊ะ เธอเชิญให้ฉันกับแม่นั่งลงหน้าเธอ
“น้องมีอาการอะไรคะ” เธอเริ่มสอบถามอาการ ลักษณะท่าทางสมกับเป็นหมอ
“คือว่า.. คุณหมอคะ คุณแม่รู้มาว่าเด็กวัยนี้เป็นวัยเจริญเติบโต ส่วนสูงเพิ่มมากเป็นพิเศษใช่ไหมคะ” แม่ถาม
“ค่ะ”
“แต่ส่วนสูงของน้องไม่เพิ่มขึ้นเลย” แม่บอก
“เป็นนานมารียังคะ”
“ประมาณ 6-7 เดือนหลังน้องประสบอุบัติเหตุไฟไหม้น่ะค่ะ”
“งั้นเหรอคะ” คุณหมอทำเป็นครุ่นคิด
“เดี๋ยวหมอขอตรวจหน่อยนะคะ” เธอหันมาทางฉัน ฟังเสียงหัวใจ เอาไฟฉายส่องปาก เหมือนตรวจร่างกายปกติ แล้วสรุปว่า
“เท่าที่หมอดู น้องน่าจะเป็นโรคโลหิตจางนะ หมอจะจัดยาให้ถ้าเดือนนึงแล้วอาการไม่ดีขึ้นให้กลับมาพบหมอใหม่นะคะ” เธอบอก
“ถ้าอาการไม่ดีขึ้นหมายความว่าไงคะ” แม่คาใจ
“อาการของน้องเป็นอาการเบื้องต้นของหลายโรคน่ะค่ะ แต่คุณหมอสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเป็นโรคโลหิตจาง” เธออธิบาย
“เสร็จแล้วค่ะ รับยาด้านนอกได้เลยนะคะ” คุณหมอยิ้มให้
ฉันกับแม่ไหว้ลาคุณหมอแล้วเดินออกมา ทันทีที่เดินออกจากประตูโรงพยาบาลฉันก็ได้กลิ่นปีศาจจางๆ ฉันหันมองหน้าน้องรู้กัน
“แม่คะ หนูกับน้องขอไปเที่ยวเล่นแถวนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวกลับบ้านตอนเย็นๆ” ฉันขอแม่
“กลับเองได้แน่นะ” พ่อซัก
“ค่ะ” น้องยืนยัน
“อย่ากลับมืดล่ะ” พ่อย้ำ
“หนูไปก่อนนะคะ” ฉันกับน้องลา ก่อนจะจูงมือกันวิ่งกลับไปหาคุณหมอแจสมิน
“คุณหมอคะ” ฉันร้องเรียกจากหน้าประตูห้องตรวจ
“มีอะไรสาวน้อย” คุณหมอยิ้มหวาน
“งานมารอแล้ว” ฉันบอก คุณหมออึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะว่า
“รอแปปนะ” คุณหมอเดินออกจากห้องไปสักพักก่อนจะเดินกลับมา ถอดเสื้อกาวน์เก็บใส่กระเป๋าแล้วหันมาพูดฉัน
“ไปกัน” เธอชวน
“ซาเนีย” ฉันเรียกน้อง เด็กสาวพยักหน้าก่อนจะใช้เวทย์เคลื่อนย้ายพาพวกเราไปปรากฏตัวที่สวนสาธารณะข้างโรงพยาบาล
“เวทย์เคลื่อนย้าย” คุณหมอมองหน้าซาเนียอย่างตกใจ
“เทวทูตน่ะ” ฉันบอก
“เทวทูต!” เธออึ้ง
“Cure เทวทูตแห่งการเยียวยา ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ซาเนียแนะนำตัว
“ยินดีที่ได้รู้จัก” คุณหมอประหม่าเล็กน้อย
“เอาล่ะปัญหาของเราอยู่ที่....” ฉันเดินมาที่ต้นไม้ใหญ่ท้ายสวนติดกับกำแพงโรงพยาบาล
“มีอะไรงั้นเหรอ” คุณหมอกับซาเนียที่เดินตามมาถามขึ้น
ฉันเปลี่ยนร่างเป็นยมทูต กระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ แหวกกิ่งไม้ออกแล้วถึงกับช็อก
“นี่มันอะไรกัน”
..............................................................
ไรท์เตอร์ขอโทษที่อัพช้า ไรท์เตอร์ป่วย+งานที่ร.ร.เยอะมากๆๆๆๆๆๆ
เดี๋ยวตอนต่อไปไรท์เตอร์ขอลงตอนปิดเทอมเลยนะ
ขอโทษด้วยนะคะ
ความคิดเห็น