ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพปีศาจ (junseob/b2st)

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 57


      



    ชอบจริงๆเลยยยยยยย  รูปนี้

     






    รัตติกาลอันมืดมิด  ท้องฟ้ามืดมนไร้ซึ่งแสงแห่งดาราและจันทรา  ป่าเหนือดินแดนแห่งความชั่วร้ายเขตแดนของเหล่าอสูร  เทพและปีศาจนักโทษผู้ถูกขับไล่ออกจากแดนสวรรค์และแดนปีศาจ บรรยากาศยามค่ำคืนเย็นยะเยือก  ผืนป่ามืดทึบเงาไม้รกครึ้มบดบังไร้ซึ่งแสงสว่างส่องนำทาง

     

     

     

    ร่างสูงโปร่งของหนึ่งบุรุษกลับเยื้องย่างเข้ามายังผืนป่า ชุดคลุมยาวสีดำที่สวมใส่กลืนกินไปกับความมืดมิดที่โอบอยู่รอบกาย  ใบหน้าคมคายที่ซ่อนไว้ภายใต้ฮู้ดดำสนิทเรียบเฉยเย็นชา  สายตาแน่วแน่เยียบเย็นทุกย่างก้าวหนักแน่นมั่นคงดั่งภูผาไม่ได้มีทีท่าหวาดหวั่นต่อความเงียบวังเวงรอบกาย  ในตาคมกริบมองสำรวจไปโดยรอบอย่างใจเย็น ก่อนเสียงร้องหวีดแหลมที่ดังแหวกความมืดยามค่ำคืนจะดึงรั้งความสนใจ  ใบหน้าคมคายหันมองใบยังทิศทางที่มาของเสียงร้องทันที

     

     

     

    กร๊าซซซ!!!

     

     

     

    ...สัตว์อสูร  ใครกันช่างกล้าถึงขนาดย่างกลายเข้าไปท้าทายพวกมัน...

     

     

     

    คิ้วเข้มขมวดมุ่น  ตาคมที่จับจ้องไปยังทิศทางของเสียงเบิกขึ้นอย่างแปลกใจ  ออร่าสีขาวสว่างสไวอาบไล้ผืนป่าปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าฝั่งตะวันตก  แสงนั่นคงเป็นต้นเหตุให้สัตว์อสูรพวกนั้นส่งเสียงกรีดร้องดังลั่นเมื่อคิดว่ามันได้เจอเหยื่ออันโอชะ

     

     

     

    ออร่าสีขาวแผ่คลุมรอบกายร่างสูงค่อยๆเลือนหาย  ก่อนจะปรากฏกายอีกครั้งยังผืนป่าฝั่งตะวันตก  ลำแสงสีขาวที่สว่างวาบตรงหน้าเรียกความสนใจ  สัตว์อสูรที่กำลังจดจ้องเหยื่ออันโอชาหันมาหาผู้มาเยือนอีกราย

     

     

     หัวใหญ่โตชูขึ้นในอากาศหนวดยาวยั้วเยี้ยส่ายไปมาอย่างน่ารังเกียจ  ลำตัวราวกับหนอนยักษ์ตวัดเปลี่ยนทิศทางมายังร่างสูงโปร่ง  ในตาแดงกล่ำลุกโพรงจับจ้องเหยื่อรายใหม่อย่างยินดี  ปากใหญ่อ้ากว้างส่งเสียงร้องคำรามจนเห็นคมเขี้ยวแหลมยาว

     

     

     

    กร๊าซซซ...

     

     

     

    แต่ร่างสูงโปร่งตรงหน้ากลับไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย  ในตาคมจับจ้องไปยังอสูรร้ายนิ่งเฉยก่อนเสียงทุ่มจะเอ่ยออกมาเรียบๆแต่หนักแน่นมั่นคง

     

     

     

    “ไปซะ”

     

     

     

    กร๊าซซซ...

     

     

     

    อสูรร้ายกลับไม่ฟังเสียง  ร่างใหญ่น่าเกลียดเคลื่อนตรงเข้ามาหา  ปากอ้ากว้างหวังสังหารร่างที่ยืนสงบนิ่งท้าทายอยู่ตรงหน้า

     

     

     

    ร่างสูงถอนหายใจช้าๆค่อยๆหลับตาลงอย่างอ่อนใจ  ในเมื่อพูดดีๆไม่ฟังเขาคงต้องใช้กำลังเหมือนเคย  ออร่าสีขาวแผดจ้าขยายวงกว้างไปทั่วทั้งชายป่า  ร่างอสูรที่กำลังพุ่งเข้าหาหยุดมองอย่างอย่างหวาดกลัว  เมื่อรับรู้ถึงรังสีสังหารพร้อมปราณพลังที่ถูกส่งออกมาจากร่างที่มันคิดว่าเป็นเหยื่อ

     

     

     

    “ข้า ยงจุนฮยอง ในนามเทพแห่งสงคราม  อสูรร้ายที่คอยเข่นฆ่าผู้อื่นเช่นเจ้า  จงอย่าได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป”

     

     

     

    กี๊ซซซ...

     

     

     

    เสียงกรีดร้องโหยหวนดังก้องป่า  พร้อมๆกับที่วงแหวนเพลิงปรากฎล้อมรอบร่างอสูรร้ายที่พยายามตะเกียกตะกายหนี  จุนฮยองเหยียดยิ้มเย็นชาในตาคมบังคับเปลวเพลิงให้โหมแรงขึ้นก่อนจะค่อยๆตีวงแคบ ล้อมกรอบเข้าไปหาสัตว์ร้ายที่กำลังดิ้นอย่างทุรนทุราย  เจ็บปวดทรมานจากการถูกเปลวเพลิงสวรรค์แผดเผาทั้งเป็น  ก่อนร่างนั้นจะระเบิดเป็นเศษซากกลายเป็นสิ่งโสโครกไร้ค่าที่ร่างสูงไม่แม้แต่จะเหลียวมอง

     

     

     

    หลังจัดการอสูรร้ายสำเร็จ  จุนฮยองจับตามองไปยังต้นกำเนิดแสงสีขาวสว่างตา  สาเหตุที่ล่ออสูรร้ายตัวนั้นมาออร่าสีขาวยังสว่างเจิดจ้า ปีกสีขาวกางออกกว้างโอบอุ้มผู้เป็นเจ้าของเอาไว้

     

     

    “เทพ...ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่”

    เท้าหนาค่อยๆก้าวเข้าไปหาเจ้าของปีกสีขาวคู่นั้นช้าๆ ภาพที่เห็นตรงหน้ายิ่งปรากฏชัดขึ้นในสายตา  ก่อนทั้งร่างจะถูกตรึงอยู่กับที่ตาคมเบิกกว้างจ้องมองทารกน้อยในห่อผ้าขาวอย่างตกตะลึง

     

     

     

    “ปีศาจ”  ครางเสียงแผ่วอย่างที่ไม่เคยทำ  ตาคมจับจ้องทารกน้อยนิ่งอย่างต้องการยืนยันให้แน่ ว่าภาพที่เห็นไม่ได้เป็นเพียงแค่ความฝัน

     

     

     

    บนศรีษะเล็กของเด็กน้อยที่เขาเผลอคิดว่าเป็นเทพนั้น  มันกลับปรากฎเขาแหลมสีเงิน สัญลักษณ์ของปีศาจตัวแทนของความมืดสิ่งยืนยันการถือกำเนิด ของ...

     

     

     

    ...เทพปีศาจ...

     

     

     

    เป็นไปได้อย่างไรกัน  ใครที่มันกล้าฝ่าฝืนกฎของสองเผ่าพันธุ์เช่นนี้  เทพและปีศาจตนใดกันที่มันกล้าสมสู่จนก่อกำเนิดเทพปีศาจตัวน้อยนี่ออกมา

    การให้กำเนิดเทพปีศาจ  เท่ากับเป็นการประกาศตนว่าคนๆนั้นพร้อมจะเป็นกบฎต่อดินแดนแห่งเทพและปีศาจถือเป็นการทรยศต่อเผ่าพันธุ์  และมันผู้นั้นต้องถูกลงโทษอย่างสาสม  ส่วนทารกที่ก่อกำเนิดขึ้นมานั้นก็ไม่อาจจะปล่อยให้คงชีวิตอยู่ต่อไปได้  ชีวิตน้อยๆจะต้องถูกทำลายในทันทีที่ถือกำเนิด

     

     

     

    ดวงตาคมดุกระด้าง  ตวัดมองทารกน้อยเยียบเย็นเท้าหนาค่อยๆย่างกลายเข้าไปหาจับจ้องร่างเล็กในห่อผ้าขาวอย่างเลือดเย็น 

     

     

     

    “เด็กน้อย  เจ้าจะโทษข้าคงไม่ได้ต้องโทษผู้ที่ให้กำเนิดก่อให้เกิดตัวเจ้าขึ้นมา” ตาคมเย็นเยียบจับจ้องทารกน้อย  ที่ไม่ได้รู้ชะตา  เด็กน้อยไร้เดียงสาส่งยิ้มให้มัจจุราชตรงหน้า ที่กำลังจะลงมือสังหารตนเอง

     

     

     

    “ข้าเพียงทำตามกฎ  เจ้าผิดเองที่เลือกเกิดมาเป็นเทพปีศาจเช่นนี้  สิ่งมีชีวิตที่ถือเป็นกาลกิณีไม่มีดินแดนแห่งใดยอมรับ”

     

     

     

    ร่างสูงรวบรวมลมปราณออร่าสีขาวสว่างจ้าอีกครั้ง  มือหนายื่นออกไปหาร่างน้อย  เตรียมปล่อยปราณพลังเพื่อหวังเข่นฆ่าชีวิตน้อยๆให้ดับสลาย

     

     

     

    “จงกลับไปยังที่ที่เจ้าควรอยู่  กลับไปสู่ดินแดนที่เจ้าจากมา”

     

     

     

    ก่อนที่ปราณพลังจะพุ่งเข้าใส่  มือเล็กกลับไขว่คว้ามือหนามือน้อยกำมือใหญ่เอาไว้แน่น  จุนฮยองถึงกับนิ่งค้างกระแสอบอุ่นจากมือน้อยหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกาย  จนเผลอตัวสลายพลังที่หวังทำลายล้างอีกฝ่าย

     

     

     

    ตาคมจับจ้องไปยังมือน้อยๆที่เกาะกุมมือใหญ่ของตน  จุนฮยองมองใบหน้าทารกน้อยที่กำลังหัวเราะราวเจอเรื่องถูกใจ มือเล็กอีกข้างพยายามปัดป่ายหมายให้เจ้าของมือใหญ่ที่ตัวเองกอบกุมโอบอุ้มร่างน้อยขึ้นมา

     

     

     

    จุนฮยองเผลอจ้องมองทารกน้อยอย่างตกตะลึง ความรู้สึกผูกพันธ์ต่อร่างน้อยไหลซึมไปทั่วร่าง  จนยากที่จะถอยห่างปล่อยมือจากทารกในห่อผ้านั้น  ตาคมจับจ้องร่างเด็กน้อยอย่างหลงใหล  มือหนาโอบอุ้มร่างนั้นไว้ในอ้อมแขนก่อนปากหนาจะเปิดยิ้มกว้างเมื่อมือน้อยๆยื่นขึ้นมาจับใบหน้าของเขาราวจะออดอ้อน

     

     

     

    อา...ทำไมกันหนอ ตัวข้าถึงรู้สึกว่าเด็กน้อยในอ้อมแขนนี้ ช่างงดงามยิ่งนัก

     

     

     

    รอยยิ้มกว้างที่ไม่เคยมีใครได้เห็นหายลับไป  เมื่อความเป็นจริงยังกระจ่างชัดในใจ เขาจะปล่อยให้เด็กน้อยนี้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง  ในเมื่อมันคือสิ่งยืนยันความผิดพลาดระหว่างสองเผ่าพันธุ์  และนั่นจะก่อให้เกิดเรื่องราวเลวร้ายในภายภาคหน้า

     

     

     

    “แอ้...แอ้...” เสียงเล็กพร้อมมือน้อยที่แตะลงบนผิวหน้า  เรียกสติให้ร่างสูงหันกลับมา  จุนฮยองมองร่างเล็กในอ้อมแขนอีกครั้ง  ก่อนร่างสูงจะตัดสินใจอย่างแน่วแน่

     

     

     

    ไม่ว่าเด็กคนนี้จะเป็นบุตรของใคร  ต่อไปข้าจะถือว่าเด็กคนนี้คือคนของข้า  เทพแห่งคังจิโดเด็กน้อยคนนี้จะเป็นหนึ่งในกำลังของกองทัพสวรรค์ที่ข้าเป็นผู้ปกครอง

     

     

     

    “ยังโยซอบ...เจ้าชอบชื่อนี้หรือไม่”

     

     

     

    “คิคิ...”  เด็กน้อยหัวเราะอย่างชอบใจ ดวงตาใสซื่อมองมาที่ร่างสูง  ความไร้เดียงสาที่เด็กน้อยแสดงออกมาทำให้เทพแห่งสงครามผู้ไม่เคยสนใจผู้ใดยิ่งหลงไหลร่างน้อยๆในอ้อมแขน

    “ข้าจะเลี้ยงเจ้าให้เติบใหญ่  จะไม่มีใครรู้เรื่องชาติกำเนิดของเจ้า  เทพปีศาจไม่เคยถือกำเนิดขึ้นที่นี้จะมีก็เพียงเทพตัวน้อยๆที่ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อข้า”

     

     

     

    จุนฮยองประกาศกร้าวก่อนจะนำร่างน้อยๆกลับไปยังคังจิโด  เลี้ยงดูจนเด็กน้อยเติบใหญ่ท่ามกลางความรักความเอาใจใส่ของเหล่าเทพทั้งหลายในคังจิโด  จากเด็กน้อยกลับกลายเป็นเด็กหนุ่มผู้ที่สามารถกุมหัวใจเทพแห่งสงคราม  ก่อเกิดเป็นตำนานความรักความผูกพันที่สิ่งใดก็ไม่อาจกั้นให้ทั้งสองนั้นต้องพรากจากกัน 

     





                +++++++++++++++++++++++












     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×