ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KIHAE]ฺ Beauty and the Beast

    ลำดับตอนที่ #9 : [[SF]] รักแรก Ver.YunJae*

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ย. 52


    ** BabyLuv แต่งเรื่องนี้มาให้อ่านแก้ขัดแทนเรื่อง Beauty and the Beast ก่อนนะคะ ช่วงนี้ Cupid เพิ่งเปิดเรียนเลยยังเคลียร์ตัวเองไม่เรียบร้อยน่ะค่ะ
    ** อีกอย่างเรื่องนี้ BabyLuv ก็ขอนอกเรื่องแต่งเป็นยุนแจนะคะ แต่พล็อตบางส่วนก็อิงมาจาก Beauty and the Beast เลยค่ะ อ่านให้สนุกนะคะ ^^





    คำว่ารักแรกเกิดขึ้นได้กับทุกคน รักแรกจะเป็นความทรงจำที่เราไม่มีวันลืม ไม่ว่าความทรงจำนั้นจะเป็นยังไง บางคนอาจจะสมหวังกับรักแรก แต่บางคนอาจต้องเจ็บปวดเจียนตายกับรักแรก .... และผมก็กลัวคำนี้มากที่สุด
     
    'Taisetsu de taisetsu de Sekai de ichiban taisetsu na hito Itsumade mo itsumade mo Boku no soba de waratte mitsumesasete' ((Tea for Two))
     
    เสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรียกให้คนที่เป็นเจ้าของต้องรีบควานหาเจ้ามือถือเครื่องเล็กที่ส่งเสียงเพลงไม่หยุดอยู่บนหัวเตียงเป็นการใหญ่
     
    "สอบเสร็จแล้วหรอ" แจจุงรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงสดใส เมื่อเห็นว่าชื่อที่โชว์อยู่หน้าจอนั้นคือคนรักของตน
     
    "อืม ยุนสอบเสร็จแล้ว แต่ว่ายุนทำไม่ค่อยได้น่ะแจ" เมื่อได้ยินยุนโฮพูดดังนั้น แจจุงถึงกับสลด เพราะรู้ว่าตลอดระยะเวลาร่วมเดือนที่ผ่านมา ยุนโฮทุ่มเทและจริงจังกับการอ่านหนังสือมาก มากซะจนมีเวลาให้ตัวเองน้อยลง แต่แจจุงก็ไม่อยากทำตัวงี่เง่าให้ยุนโฮต้องหนักใจ ทั้งที่ลึก ๆ ในใจของแจจุงนั้นน้อยใจมาก อยากงี่เง่า อยากงอแง อยากเอาแต่ใจ อยากให้ยุนโฮสนใจตัวเองมากกว่าการอ่านหนังสือนั่น แต่เพราะรู้ว่าที่ยุนโฮทำไปทั้งหมดนั้นมีเหตุผล และแจจุงเองก็โตพอที่จะแยกแยะได้
     
    "แล้วนี่ยุนอยู่ไหนล่ะ แจได้ยินเสียงรถ กำลังจะกลับคอนโดหรอ" ด้วยความที่ไม่อยากให้ยุนโฮรู้สึกไม่ดีมากไปกว่านี้ แจจุงจึงชวนยุนโฮเปลี่ยนเรื่องทันที
     
    “อืม ยุนกำลังจะกลับคอนโด ว่าแต่ พรุ่งนี้แจว่างไหน ยุนอยากเจอแจ” คำถามของยุนโฮ ทำให้แจจุงอมยิ้มอย่างมีความสุขที่จะได้เจอกับคนรัก
     
    “แจว่าง จะให้ไปหาที่ไหนหรอ” ยุนโฮเลิกคิ้วอย่างใช้ความคิด
     
    “คอนโดยุนได้ไหม ยุนอยากพัก ไม่อยากออกไปไหนน่ะ” แจจุงตอบรับคำชวนของยุนโฮไป เข้าใจว่ายุนโฮคงต้องการจะพักผ่อนจริง ๆ หลังจากที่ต้องนั่งเครียดกับการอ่านหนังสือเป็นระยะเวลาติดต่อกันนาน ๆ ร่วมเดือน
     
    “อ๊ะ ยุนถึงคอนโดแล้วใช่ไหม งั้นไปอาบน้ำ กินข้าว แล้วก็นอนพักผ่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน แค่นี้นะยุน” ด้วยความที่บ้านยุนโฮอยู่ใกล้มหาลัยเพียงนิดเดียว ทำให้ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางกลับบ้านนั้นไม่มากนัก
     
    ยุนโฮได้แต่มองโทรศัพท์ด้วยความงุนงง นิสัยนี้ของแจจุงยังไม่เปลี่ยนจริง ๆ คิดจะวางก็วาง
     
     
    .
    .
     
     
    วันรุ่งขึ้นแจจุงตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี รู้สึกมีความสุขที่จะได้เจอกับยุนโฮ แจจุงอาบน้ำแต่งตัวและออกไปหายุนโฮพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส
     
    พอมาถึงคอนโดแจจุงก็ถือวิสาสะไขประตูและเดินเข้าห้องของยุนโฮทันที เพราะรู้ว่าเวลานี้เจ้าของห้องคงยังไม่ตื่นแน่ ๆ แจจุงเดินไปเตรียมอาหารเช้าง่าย ๆ สำหรับหรับสองคนในครัว ฮัมเพลงอย่างมีความสุข แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมีเจ้าของวงแขนอันอบอุ่นที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีกอดจากทางด้านหลังของตัวเอง
     
    “ตื่นแล้วหรอ ไปอาบน้ำแล้วมากินข้าวกันนะ แจเตรียมไว้ให้แล้ว อ๊ะ จั๊กจี้นะยุน อย่าเพิ่งเล่นสิ แจทำอาหารอยู่นะ” แจจุงพยายามย่นคอหนียุนโฮด้วยความขวยเขิน ลมหายใจอุ่น ๆ ตรงลำคอ เรียกให้ใบหน้าหวานแดงกล่ำอย่างห้ามไม่ได้
     
    “อืม ยุนไปอาบน้ำก่อนละกัน แล้วเดี๋ยวกินข้าวเสร็จเราดูหนังกันนะ” คนถูกถามพยักหน้าหงึก ๆ ไม่กล้าสบตาคนพูด จึงมองไม่เห็นว่ายุนโฮดูแปลกไปจากปรกติ หน้าตาที่เหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา แล้วสาเหตุที่ทำให้ยุนโฮนั้นดูแปลกไปคืออะไรกันล่ะ
     
    หลังจากกินข้าวเสร็จยุนโฮและแจจุงก็ไปนั่งดูซีดีกันที่ห้องนั่งเล่น แต่แจจุงก็เห็นว่ายุนโฮนั้นไม่ได้สนใจกับหนังที่ดูเลย ทั้งที่เจ้าตัวเป็นคนเอ่ยปากชวนแท้ ๆ แล้วยังดูอารมณ์แปรปรวนตั้งแต่ตอนกินข้าว เดี๋ยวเหม่อลอย เดี๋ยวหงุดหงิด เดี๋ยวงุ่มง่าม หรือจะเป็นเพราะยุนโฮทำข้อสอบไม่ได้ คิดได้แบบนั้นแจจุงจึงตัดสินใจชวนยุนโฮคุย เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของยุนโฮ ไม่อยากให้หงุดหงิดไปมากกว่านี้
     
    “หนังไม่สนุกหรอ เราเปลี่ยนเรื่องกันก็ได้นะ หรือยุนเบื่อ งั้นเราไปเดินเล่นกันไหม” ยุนโฮหันมามองหน้าแจจุง ก่อนจะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยจนแจจุงรู้สึกหวาดหวั่นกับอารมณ์ที่แปลกไปของอารมณ์ยุนโฮในครั้งนี้
     
    "ไม่ล่ะ" ยุนโฮตอบมาเพียงแค่นั้น แต่แจจุงเองก็ยังไม่ละความพยายาม ชวนยุนโฮคุยนู้นคุยนี่ สารพัดเรื่องที่ยุนโฮชอบ แต่สิ่งที่ได้มาจากความพยายามของแจจุงคือน้ำเสียงเสียงที่ดุดัน เสียงที่ยุนโฮใช้ตะคอกกลับมา
     
    "หยุดพูดสักทีเถอะ" ยุนโฮตะคอกกลับมาแบบไม่ทันคิด กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่รู้สึกถึงแรงสั่น และเสียงสะอื้นที่ดังมาจากคนข้างกาย
     
    "แจ ยุนขอโทษ อย่าร้องไห้เลยนะ" เสียงปลอบโยนจากยุนโฮเพียงแค่นั้น ไม่สามารถทำให้แจจุงหยุดร้องไห้ได้ ตั้งแต่คบกันมายุนโฮไม่เคยตะคอกแจจุงเลยแม้แต่ครั้งเดียว นี่เป็นครั้งแรกที่ยุนโฮใช้อารมณ์กับแจจุงแบบนี้ มันทำให้แจจุงทั้งตกใจและน้อยใจจากการที่ยุนโฮไม่มีเวลาให้มากกวาเดิม
     
    "จริง ๆ แล้วยุนมีเรื่องจะสารภาพ แจจะโกรธหรือจะว่ายุนยังไงก็ได้ แต่ว่าแจรู้ไว้นะ ยุนรักแจมาก" เมื่อถึงที่สุด ยุนโฮไม่รู้ว่าจะปลอบแจจุงยังไง ยุนโฮเองก็ไม่ใช่คนที่พาลถึงขนาดที่ทำข้อสอบไม่ได้และจะเอาอารมณ์มาลงกับคนรักได้ และยุนโฮก็ไม่ต้องการที่จะปิดบังเรื่องนี้กับแจจุงด้วย
     
    "อะ อึก ยุนมีอะไรจะบอกกับแจ" แจจุงพยายามกลืนก้อนสะอื้นลงคอ เพราะรู้ว่าถ้าตนยังร้องไห้ต่อไปเรื่องจะต้องแย่ไปยิ่งนี้ รู้ว่าแค่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ทำให้ยุนโฮเครียดมากพออยู่แล้ว ไม่อยากให้ยุนโฮต้องมาหนักใจเรื่องตัวเองมากขึ้นไปอีก และแจจุงเองก็รู้ดีว่า
     
    'ยุนโฮแพ้น้ำตาของแจจุงเป็นที่สุด'
     
    "วันนี้ก่อนสอบ คน ๆ นั้นเขาโทรมาหายุน คนที่เป็นรักแรกของยุน" สิ่งที่ได้ยินจากยุนโฮทำให้แจจุงรู้สึกตัวชาไปหมด ไม่รับรู้ถึงสิ่งรอบข้าง เสียงรอบตัว จะรู้สึกได้ก็แต่หัวใจตัวเองที่เต้นระรัวจนปวดหนึบที่หน้าอกข้างซ้ายไปหมด
     
    "เขาโทรมาหายุนทำไม" แจจุงพยายามปรับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น ไม่อยากให้ยุนโฮรู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังกลัวมากแค่ไหน
     
    "เขาโทรมาขอโทษยุน ขอโทษเรื่องที่เขาเคยทำร้ายหัวใจของยุนไว้เมื่อก่อน ตั้งแต่ที่ยุนยังอยู่ไฮสคูล ยุนเคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ อาการยุนตอนนั้นสาหัสมาก ยุนต้องการกำลังใจจากเขาแต่เขาไม่เพียงไม่ให้กำลังใจยุน เขากลับมาพูดทำร้ายจิตใจยุนเขาบอกยุนว่าที่เขาคบยุนมาตั้งแต่ต้นเพียงเพราะเขาหวังผลตอบแทนเขาแค่หวังเงินทองจากบ้านของยุน" ยุนโฮกลั้นใจตอบออกไป พยายามเรียบเรียงคำพูด เพราะตอนนี้สมองของเขารวนไปหมด กลัวจะพูดอะไรที่ทำให้แจจุงเข้าใจผิด กลัวจะทำให้แจจุงร้องไห้ไปมากกว่านี้
     
    "...................." แจจุงรู้สึกจุกจนพูดไม่ออก แต่ละเรื่องที่ยุนโฮเล่ามา เรื่องพวกนี้ตนไม่เคยได้รับรู้มาก่อน ไม่รู้ว่ายุนโฮผ่านช่วงเวลาที่โหดร้ายแบบนั้นมาได้ยังไงกัน คิดได้แบบนั้นแจจุงก็ได้แต่ร้องไห้ออกมาเงียบ ๆ และฟังยุนโฮเล่าต่อไป
     
    "เขาโทรมาบอกว่ารักยุน อยากเริ่มต้นใหม่กับยุน ยุนรู้ว่ายุนผิด ที่ตอนนั้นยุนไม่กล้าที่จะวางโทรศัพท์เขา ไม่กล้าที่จะปฏิเสธเขาไปตรง ๆ ทั้งที่ผ่านมาเขาทำกับยุนไว้มาก แต่ตอนนั้นยุนรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรไม่ถูก ตั้งแต่รู้ว่าคนที่โทรมายุนคือสเตฟานี่" จากตอนแรกที่แจจุงรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นระรัวจนปวดหนึบ กลับกลายเป็นว่าตอนนี้รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นแผ่วราวกับว่ามันพร้อมที่จะหยุดเต้นได้ตลอดเวลา
     
    'ผู้หญิงคนนั้นชื่อสเตฟานี่งั้นหรอ'
     
    "ยุนขอโทษที่ยุนเอาเรื่องผู้หญิงคนนั้นมาคิดมาก จนมาพาลใส่อารมณ์กับแจแบบนี้" ทั้งที่มีคำพูดมากมายอยากจะพูดอยากจะปลอบแจจุง อยากจะพูดให้แจจุงมั่นใจในตัวเขา แต่เขาก็ไม่กล้าพอ เพราะรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปมันผิดมากแค่ไหนสิ่งที่ยุนโฮได้จากแจจุงคือความเงียบ และเสียงสะอื้นที่แผ่วเบาจากแจจุง เสียงสะอื้นที่แม้จะแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่มันก็ทำให้รู้ว่าแจจุงต้องเจ็บปวดแค่ไหนกับความโลเล ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่กล้าปฏิเสธไปให้เด็ดขาดแบบนั้นของเขา
     
    'นายมันโง่ที่สุด ชองยุนโฮ'
     
    "แจจะไม่บอกเลิกยุนเพียงเพราะยุนตัดสินใจไม่เด็ดขาดแบบนี้ แต่ถ้ายุนยังรักผู้หญิงคนนั้นอยู่ แจก็พร้อมที่จะเป็นคนไปถึงแจจะรักยุนมากแค่ไหนแต่ถ้ายุนไม่ได้รักแจแล้วแจก็ไม่อยากที่จะฝืนความรู้สึกของยุนต่อไป" คำพูดที่ยุนโฮได้ยินจากปากของแจจุงทำให้ยุนโฮถึงกับตกใจ
     
    "ไม่ใช่อย่างนั้นนะแจ ยุนไม่ได้รักสเตฟานี่แล้ว แม้มันจะเหมือนคำแก้ตัวของยุน แต่คนที่ยุนรักและแคร์มากที่สุดคือแจนะ แจเชื่อยุนเถอะ จะให้ยุนทำยังไงก็ได้ ยุนจะยอมทำจนกว่าแจจะมั่นใจในตัวยุน" ยุนโฮละล่ำละลักพูดออกมา กลัวเหลือเกิน กลัวว่าจะต้องเสียแจจุงไป
     
    ถึงแม้มันจะฟังดูเหมือนคำแก้ตัวมากแค่ไหน แต่แจจุงก็เลือกที่จะเชื่อยุนโฮ ตอนนี้แจจุงอาจจะพูดได้ไม่เต็มปากว่าตัวเองไม่หวั่นไหวกับการกลับมาของสเตฟานี่ แต่สักวันนึงแจจุงต้องกล้าพูดอย่างเต็มปากแน่นอน ตอนนี้แจจุงรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยเหลือเกิน อยากอยู่เงียบ ๆ อยากใช้ความคิด งั้นถ้าเราสองลองอยู่ห่างกันสักพักนึงล่ะ ความรู้สึกของเราทั้งสองคนมันจะดีขึ้นหรือเปล่า เขาจะมั่นใจในตัวยุนโฮได้มากกว่านี้ใช่ไหม
     
    "ยุนยอมทำทุกอย่างเพื่อให้แจมั่นใจได้แน่นะ" แม้จะไม่รู้ว่าตอนนี้แจจุงคิดอะไรอยู่ แต่ยุนโฮก็เลือกที่จะตอบรับแจจุง เพื่อให้แจจุงมั่นใจในตัวเขา เขาทำได้ทุกอย่าง ขอเพียงแค่แจจุงมั่นใจในตัวเขา และไม่จากเขาไปไหน
     
    "งั้นแจขอให้เราสองคนลองอยู่ห่างกันสักพัก ขอแจอยู่กับตัวเองสักพัก ยุนจะทำให้แจได้หรือเปล่า" แจจุงเงยหน้ามองยุนโฮด้วยสีหน้าที่ยากจะคาดเดา แม้ยุนโฮอยากจะปฏิเสธแทบขาดใจ แต่ก็ทำไม่ได้ ในเมื่อตัวเขาเองรับปากแจจุงไปแล้ว
     
    “ได้ ยุนจะให้แจอยู่กลับตัวเองสักพัก” ยุนโฮตอบด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เขารู้สึกว่าตอนนี้ลำคอตัวเองแห้งผากเหลือเกิน
     
    “งั้นแจกลับบ้านก่อนนะ” พูดจบแจจุงก็ลุกและเดินออกไปจากห้อง ยุนโฮอยากจะวิ่งไปดึงแจจุงเอาไว้ อยากหยุดแจจุงเอาไว้แต่ก็ทำไม่ได้ ขาเขาไม่มีแรงเลย ต้องอยู่ห่างจากแจจุงเขาจะทำได้ยังไงกัน แต่มันก็สมควรแล้วกับคนแบบเขา คนที่ทำให้คนที่รักที่สุดต้องร้องไห้
     
    คนที่ทำใจแข็งพูดให้ห่างกันสักนั้นก็ไม่ต่างกันเลยสักนิด แจจุงทรุดลงที่หน้าห้องของยุนโฮ พิงประตูอย่างเหนื่อยล้า น้ำตาที่ไหลออกมาเงียบ ๆ นั้นก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดไหล กลัวเหลือเกินว่าระยะเวลาที่ตัวเองและยุนโฮอยู่ห่างกันสักพักนั้นจะทำให้ทั้งเขาและยุนโฮเปลี่ยนไป
     
     
    .
    .
     
     
    “แจจุง นายอย่าพยายามทำตัวร่าเริงเลย รู้ไหมมันดูตลกแค่ไหน” จุนซูทนไม่ไหวกับอาการของเพื่อนรัก ในเมื่อเจ็บปวดขนาดนั้น ทำไมยังต้องฝืนยิ้ม ทำไมถึงเก็บไว้คนเดียว แจจุงไม่จำเป็นที่จะต้องทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าเขาขนาดนั้น
     
    “อยากร้องไห้ อยากระบายอะไรก็พูดออกมา อย่าเก็บเอาไว้คนเดียวเลย จุนซูรู้ว่าแจจุงมีปัญหากับยุนโฮ แล้วก็รู้ว่าแจจุงน่ะแอบไปร้องไห้คนเดียวทุกวัน” แจจุงเงยหน้ามองจุนซู ที่เขาพยายามทำตัวร่าเริงเป็นเพราะไม่ต้องการให้จุนซูเป็นห่วง แต่ไม่คิดว่า การที่เค้าฝืนยิ้มออกไปแบบนั้น จะยิ่งทำให้คนรอบข้างเป็นห่วงยิ่งขึ้น
     
    “แจจุงขอโทษ แจจุงไม่รู้จะเล่ายังไง ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน แจจุงคิดอะไรไม่ออก รู้แค่ว่าตอนนี้แจจุงเจ็บมากเลย มันอึดอัดเหมือนหายใจไม่ออก แจจุงจะทำยังไงดีล่ะจุนซู” แจจุงโผลเข้าหาเพื่อนรัก ร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
     
    “อยากร้องไห้ก็ร้องมาให้พอนะแจจุง อย่าเก็บเอาไว้อีกเลย ระบายมันออกมาบ้าง” จุนซูได้แต่คอยลูบหลังปลอบใจเพื่อนรัก
     
    “แจจุงไม่น่าพูดแบบนั้นออกไปเลย ยุนเขาต้องเจ็บมากเลยแน่ ๆ” แจจุงนึกเสียใจ ที่ตอนนั้นพูดออกไปแบบนั้น
     
    แจจุงคิดว่าการที่ได้อยู่ห่างจากยุนโฮสักพักอะไร ๆ น่าจะดีขึ้น แต่เปล่าเลย ยิ่งอยู่ห่างกัน เขายิ่งคิดถึงยุนโฮมากขึ้น รู้ตัวว่าขาดยุนโฮไม่ได้ก็ตอนนี้ เพียงแค่ไม่ได้คุย ไม่ได้เจอกับยุนโฮเพียงไม่กี่วัน ก็รู้สึกคิดถึงจนแทบทนไม่ไหว อยากคุย อยากเจอ อยากเห็นหน้า อยากรู้ว่าตอนนี้ยุนโฮเป็นยังไงบ้าง
     
    “แจจุงจะลองไปดูยุนโฮที่คอนโดไหม เดี๋ยวจุนซูไปส่ง จุนซูรู้ว่าแจจุงอยากเจอยุนโฮ” จุนซูยิ้มอมยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อเริ่มเห็นประกายสดใสในสายตาเพื่อนรัก
     
    “ไป ๆ แจจุงจะไป” แจจุงพยักหน้าหงึกหงักอย่างกระตือรือร้น
     
    “ป่ะ งั้นเราไปกันเลย คาบบ่ายไม่ต้องเข้าเรียนแล้วล่ะ” จุนซูยื่นมือให้เพื่อนรัก ซึ่งแจจุงก็ยื่นมือจับ ก่อนจะพากันมุ่งหน้าไปยังคอนโดของยุนโฮ
     
    หลังจากใช้เวลาเดินทางได้พักใหญ่ ๆ ก็ถึงของโดของยุนโฮ จุนซูเดินมาส่งแจจุงถึงหน้าห้องของยุนโฮ แล้วในขณะที่กำลังจะผละตัวออกไปมือของแจจุงก็ยื่นมาจับมือของจุนซูจนแน่น
     
    “อย่ากลัวสิ เข้าไปคุยกันให้รู้เรื่องนะ จุนซูกลับแล้ว” จุนซูโบกมือลา ก่อนจะเดินออกมา
     
    แจจุงหันกลับไปทางประตูห้องของยุนโฮ ก่อนจะค่อย ๆ ยื่นมืออันสั่นเทาของตัวเองไขประตูห้องของยุนโฮเข้าไป เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าห้องนั้นมือสนิท จะมีก็แต่แสงสว่างที่รอดผ่านมาจากประตูห้องนอนของยุนโฮ แจจุงจึงเดินเข้าไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ และเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เห็นยุนโฮนอนหน้าซีดอยู่บนเตียง แจจุงรีบถลาเข้าไปดูยุนโฮใกล้ ๆ ก่อนจะเอามืออิงหน้าผากของยุนโฮ อุนหภูมิที่ร้อนมากกว่าปรกติ ไอร้อนที่แผ่กระจายออกมาจากตัวของยุนโฮ ทำให้แจจุงร้อนรนจนทำอะไรแทบไม่ถูก
     
    “ยะ ยุน ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ” แจจุงถามยุนโฮด้วยน้ำเสียงอันสั่นเทา
     
    “แจ แจยุนขอโทษ แจกลับมาหายุนแล้วหรอ” ยุนโฮพูดออกมาด้วยความยากลำบาก มือของยุนโฮพยายามจะไขว่คว้ามือของแจจุง ถึงแม้ตอนนี้สติเขาจะเลือนราง แต่เขาก็รู้ว่าไออุ่นจากมือคู่นั้น มือที่สัมผัสใบหน้าของเขาต้องเป็นมือของแจจุงอย่างแน่นอน
     
    แจจุงมองยุนโฮน้ำตาคลอ เขาผิดเองที่พูดออกไปแบบนั้น ผลที่ออกมาทั้งเขาและยุนโฮต้องเจ็บกันทั้งคู่ มันไม่ได้คุ้มกันเลยกับการเอาผู้หญิงที่เป็นรักแรกของยุนโฮมาทำให้เราต้องเป็นแบบนี้
     
    “เดี๋ยวแจไปทำข้าวต้มให้นะยุน กินข้าวแล้วจะได้กินยา” แจจุงพยายามดึงมือออกจากการเกาะกุมของยุนโฮ แต่ดึงยังไงก็ดึงไม่ออกเพราะคนที่นอนซมอยู่บนเตียงแรงเยอะอย่างไม่น่าเชื่อ
     
    “ถ้ายุนไม่ปล่อยแจโกรธนะ อย่าดื้อสิ จะได้หายไว ๆ นะยุน” ยุนโฮจำใจต้องปล่อยมือของแจจุง ก่อนที่แจจุงจะเดินผละออกไปทำอาหารและหายามาให้ยุนโฮกิน
     
    จากนั้นไม่นานแจจุงก็เดินเข้ามาพร้อมกับข้าวต้ม และยา แจจุงประคองคนป่วยขึ้นมาก่อนจะป้อนข้าวต้มให้ยุนโฮกินจนหมดถ้วย จากนั้นก็นั้นก็ให้ยุนโฮกินยา ก่อนจะประคองคนป่วยให้นอนลงอีกครั้ง แต่คนป่วยกลับดื้อไม่ยอมนอนลง ฝืนตัวเองด้วยแรงทั้งหมดที่มี
     
    “วันนี้แจนอนเป็นเพื่อนยุนได้ไหม” ยุนโฮช้อนตามองแจจุงด้วยแววตาออดอ้อนจนแจจุงใจอ่อน พยักหน้ารับอย่างช่วยไม่ได้ อาการขี้อ้อนจนเกินความจำเป็นของยุนโฮตอนป่วยกำเริบอีกแล้ว
     
    “อุ่นจัง ฝันดีนะแจ” ยุนโฮกอดแจจุงเอาไว้ ซึ่งแจจุงก็ไม่ขัดขืนซุกเข้าหาอ้อมอกอันอบอุ่นของยุนโฮทันที
     
    “อืม ฝันดียุนโฮ” แจจุงอมยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไปพร้อม ๆ กับยุนโฮ
     
     
    .
    .
     
     
    “ทำไมถึงไม่ดูแลตัวเอง ปล่อยตัวเองจนไม่สบายแบบนี้ สารภาพกับแจมาเดี๋ยวนี้ว่าไปทำอะไรมา” แจจุงกอดอกมองยุนโฮอย่างขัดใจ เมื่อวานหลังจากพยาบาลจนคนป่วยจนอาการดีขึ้นมากแล้ว แจจุงก็จับยุนโฮมานั่งซักจนยุนโฮหน้าหงอยสารภาพออกไปอย่างหมดเปลือก
     
     
    Flash Back
     
    “นายกลับบ้านดี ๆ นะแจจุง ฝนตกด้วยอย่าปล่อยให้ตัวเองโดนฝนล่ะ” จุนซูตะโกนบอกแจจุง ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายเพื่อนรักแล้วเดินขึ้นรถไป
     
    “เฮ้อ น่าเบื่อจัง ฝนตกแบบนี้ไม่ชอบเลย” แจจุงงึมงำออกมาด้วยท่าทีเซื่องซึม
     
    ‘ฝนทำให้คิดถึงใครบางคน’
     
    แจจุงนั่งรอรถได้พักใหญ่ ๆ ก่อนจะขึ้นรถกลับบ้าน ตลอดทางที่กลับบ้านแจจุงรู้สึกเหมือนมีคนเดินตาม แต่ว่าเมื่อหันไปก็ไม่เจออะไร แจจุงจึงไม่ได้สนใจ และมุ่งหน้ากลับบ้านอย่างเดียว
     
     
    Flash Come
     
    “อย่าบอกนะที่แจรู้สึกว่ามีคนเดินตามคือยุนน่ะ” แจจุงตะโกนอย่างตกใจ ยุนโฮพยักหน้ารับอย่างยอมจำนน
     
    “วันนั้นยุนลืมเอาร่มไป ก็เลยเดินตากฝนมาตลอดทางเลย ยุนเป็นห่วงแล้วก็อยากเห็นหน้าแจด้วยนี่น่า” คนฟังเงยมองหน้ายุนโฮน้ำตาคลอ นี่ยุนเป็นห่วงเราขนาดนั้นเลยหรอ
     
    “แจขอโทษที่วันนั้นแจพูดไปแบบนั้น ยุนไม่โกรธแจใช่ไหม” แจจุงสะอื้นออกมาน้อย ๆ ทำให้ยุนโฮรีบดึงคนขี้แงเข้ามากอดปลอบ
     
    “ยุนจะไปโกรธแจได้ยังไง ในเมื่อเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะเขายุนเอง ยุนไม่กล้าปฏิเสธสเตฟานี่ไปตรง ๆ แจจุงไม่ผิดที่จะรู้สึกหวั่นไหวจนต้องการเวลาอยู่คนเดียวสักพัก” คำพูดของยุนโฮยิ่งทำให้แจจุงร้องไห้เข้าไปใหญ่
     
    “อย่าร้องสิ ยุนรักแจมากที่สุดนะ” แจจุงพยักหน้าหงึกหงักอยู่ที่อกของยุนโฮ ยุนโฮอมยิ้มอย่างเอ็นดู เวลางอแงทำตัวเด็กได้เด็กได้ตลอดสิน่า
     
    “อึก ฮือ ๆ อึก แจก็รักยุนนะ รักที่สุดเลย” พูดจบก็ยิ่งซุกหน้าเข้าหาอกแกร่งของยุนโฮ ก็คนเขาอายอ่ะ
     
    “เฮ้อ หมดเรื่องแล้วสินะ เราไม่ต้องไปสนใจผู้หญิงคนนั้นอีก แล้วเราก็จะไม่อยู่ห่างกันอีกแล้ว ตกลงไหม” แจจุงเงยหย้ามองยุนโฮด้วยใบหน้าแดงกล่ำ
     
    “อืม ไม่ต้องไปสนใจอีกแล้ว” แจจุงฉีกยิ้มกว้างจนยุนโฮใจกระตุก ทำตัวน่ารักแบบนี้จับกดสักทีดีไหมเนี่ย
     
    “อ๊ะ ยุนจะทำอะไรน่ะ ปล่อยแจลงเดี๋ยวนี้นะ” เสียงโหวกเหวกโวยวายของแจจุงค่อย ๆ เงียบไป พร้อมกับเสียงปิดประตูห้องนอนของยุนโฮ จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นก็ใช้จินตนาการกันเอาเองแล้วกันเนอะ คิกๆ
     
     
    ‘แถม’
     
    ไม่มีใครรู้หรอกว่าความรักที่แท้จริงจะมาถึงเมื่อไหร่ เราจะได้เจอคน ๆ นั้นเมื่อไหร่ หรือคน ๆ นี้ที่เจอจะใช่คนที่เรารอไหม บางคนอาจได้เจอคน ๆ นั้นตั้งแต่ยังเด็กเป็นเพื่อนเล่นกันมา ในขณะที่บางคนกลับใช้เวลารอคอยครึ่งค่อนชีวิตกว่าจะได้เจอบางคนคิดว่าใช่แน่นอนแล้ว แต่สุดท้ายกลับต้องแยกจากกัน บางคนรู้จักกันมานานไม่ได้คิดอะไรกลับได้ลงเอยกันในที่สุด

    คู่ของใครก็สำหรับคนนั้น ถ้าคน ๆ นี้ของเราเขาทำเพื่อเราทุกอย่าง ถึงเราจะไม่สวย ไม่หล่อ ไม่โดดเด่นกว่าใคร ๆ เขาก็ยังคงมองเราเพียงคนเดียว ปฏิบัติต่อเราอย่างเสมอต้นเสมอปลาย และทำให้เรารู้สึกว่าเรามีค่าสำหรับเขา นั่นแหละคือคนที่เราควรจะให้ความรักและควรจะฝากชีวิตไว้ด้วยตลอดไป


    Ending.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×