ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [KIHAE]ฺ Beauty and the Beast

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter :: 1 [Re]

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 52




    ลีดงแฮ ยืนมองประตูเหล็กสีเงินลวดลายสวยงามที่บ่งบอกถึงราคาและฐานะของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี

    ในมือก็กำหนังสือพิมพ์เอาไว้แน่น

    "โอ้โห.....บ้านใหญ่ยังกับวังเลยนะเนี่ย" ดงแฮสะดุ้งและหันไปมองทางด้านหลัง

    ก็พบเพื่อนสุดน่ารักของเขากำลังยืนมองเข้าไปในบ้านและเดินเข้ามาหาเขา

    "นี่นายมาที่นี่ทำไม....อย่าบอกนะว่านายจะทำอย่างที่นายบอกฉันจริง ๆ นะด๊อง"

    "ฉันจำเป็นต้องทำซองมิน เพราะมันเป็นทางเดียวที่ฉันจะช่วยครอบครัวของฉันได้"

    "ฉันจะช่วยนายเองด๊อง ยังไงฉันก็ไม่ให้นายทำ ฉันไม่ยอมให้เพื่อนรักต้องมาทำอะไรแบบนี้หรอกนะ"

    ดงแฮมองซองมินน้ำตาคลอ ซึ้งใจที่เพื่อนรักแล้วเป็นห่วงตัวเองขนาดนี้

     แต่ยังไม่ทันที่ดงแฮจะได้ตอบอะไรก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาก่อน

    "พวกคุณมาทำอะไรกันคะ" เด็กสาวถาม

    "มาตามประกาศรับสมัครในหนังสือพิมพ์ฮะ คือว่าปิดรับสมัครหรือยังฮะ" ดงแฮถามอย่างสุภาพ

    "ดิฉันก็ไม่แน่ใจคะ ขอไปถามคุณฮีชอลก่อนนะคะ รอสักครู่ค่ะ" หญิงสาวตอบและวิ่งเค้าไปในบ้าน

    ฮีชอลเดินลงมาจากห้องทำงานของคิบอมด้วยสีหน้าไม่พอใจ

    "ไปพาเข้ามา"  ฮีชอลบอกกับบีนาที่เพิ่งวิ่งเข้ามา

    อีชอลยืนมองทั้งสองคนผ่านกล้องวงจรปิดพร้อมกับคิบอม เขาไม่เห็นด้วยที่น้องชายตัวเองชอบใช้เงินซื้อคนอื่นแบบนี้

    "คะ" เด็กสาวเกาหัวอย่างงง ๆ และวิ่งกลับออกไป

    "เชิญด้านในค่ะ" เด็กสาวบอกและรีบมาเปิดประตูให้

    "ไม่นะด๊อง ฉันไม่ให้นายไปทำงานอย่างนี้แน่ ๆ" ซองมินจับแขนเพื่อนไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

    "ซองมินฉันตัดสินใจแล้ว ปล่อยฉันเถอะ" ดงแฮพูดพร้อมกับแกะมือเพื่อนรักออกจากแขนของตัวเอง

    "ฉันฝากดูแลแม่กับพี่แจจุงด้วยนะซองมิน" ดงแฮบอกพร้อมกับแกะมือของเพื่อนออกจากแขนได้สำเร็จ

    "ได้ด๊อง ฉันสัญญาว่าจะดูแลแม่กับพี่นายเป็นอย่างดี ด๊องไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนายจำไว้นะว่านายยังมีฉันเป็นเพื่อนเสมอ"

    ซองมินรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดต่อไปเพราะเพื่อนเขาได้ตัดสินใจไปแล้วไม่มีทางที่จะเปลี่ยนใจง่าย ๆ แน่

    "ขอบใจมากซองมิน" พูดจบดงแฮก็เดินตามนาบีเข้าไปในบ้าน

    "เชิญนั่งสิ" ฮีชอลที่นั่งรออยู่ที่ห้องรับเเขกบอกให้ดงแฮนั่ง

    "ขอบคุณฮะ"

    "เธอคงอ่านรายละเอียดในประกาศแล้วนะ ว่าจะต้องมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง"

    "ฮะ"

    "งั้นฉันขอดูประวัติพร้อมใบรับรองแพทย์ของเธอหน่อย"

    เมื่อฮีชอลพูดจบดงแฮก้อยื่นเอกสารให้ดู

    "อืม....ชื่อ ลีดงแฮสินะ เรียนจบสูงด้วยแล้วทำไมต้องมาทำงานแบบนี้" ฮีชอลเงยหน้าขึ้นมองดงแฮที่นั่งอยู่ตรงข้าม

    'ท่าทางก็ดูเรียบร้อย น่ารักอีกต่างหาก ไม่น่าจะมาทำงานแบบนี้เลย'

    "คือ...ผมเดือดร้อนเรื่องเงินนะฮะ และที่นี่ก็ให้เงินมากพอ"

    "ทุกคนที่มาก็พูดกันแบบนี้ทั้งนั้นแหล่ะ เดือดร้อนเรื่องเงินถึงมาทำงานนี้ เธอรู้ไหมว่ามีคนมาสมัครทำงานนี้

    กันเกือบจะเป็นร้อยแล้ว แต่ไม่มีใครอยู่ได้นานเกิน 1 เดือนสักคน"

    "ทำไมฮะ"

    "เดี๋ยวเธอก็จะรู้เองเมื่อถึงเวลา ฉันขอตัวเอาเอกสารไปให้คิบอมดูก่อนนะ"

    ฮีชอลบอกดงแฮและเดินถือเอกสารทั้งหมดขึ้นไปบนห้องของคิบอม

    "เอกสารของดงแฮ" ฮีชอลยื่นเอกสารให้คิบอมดู

    คิบอมอ่านรายละเอียดแล้วก็วางลง

    "รับไว้" ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบ

    "เมื่อไหร่นายจะหยุดทำตัวแบบนี้ซะทีคิบอม" ฮีชอลถามอย่างเหลืออด

    คิบอมไม่ตอบแต่เค้าลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างและแง้มผ้าม่านหนา ๆ ออกนิดนึง

    ฮีชอลเดินออกมาจากห้องนั้นด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยน้ำตาที่พร้อมจะไหลทุกเมื่อ

    'คิบอมทำไมนายถึงยังจมอยู่กับอดีตอีก พี่จะทำยังไง พี่ถึงจะได้น้องชายที่น่ารักคนเดิมของพี่คืนมา'

    คิบอมมองไปที่สนามหญ้าหน้าบ้านซึ่งเป็นที่ ๆ เขาและครอบครัวชอบมานั่งเล่นด้วยกันเป็นประจำ

    วันหยุดเมื่อปีที่แล้วเขาพ่อและแม่ได้ไปเที่ยวกันที่เกาะนามิและระหว่างที่กำลังขับรถกลับบ้าน

    ก็มีรถพุ่งออกมาจากซอยอย่างเร็ว

    คิบอมตกใจจึงหักรถหลบแต่รถเขาเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ข้างทางและความรู้สึกสุดท้ายก็ดับวูบไป

    มาฟื้นอีกทีเค้าก็อยู่โรงพยาบาลแล้ว คิบอมรู้สึกเเสบร้อนไปทั้งหน้า และเจ็บไปทั้งตัว

    "ฟื้นแล้วหรือคะ อย่าเพิ่งขยับนะคะ หน้าของคุณโดนกระจกบาดต้องพันหน้าไว้ก่อนค่ะ"

    พยาบาลสาวบอกและกดเรียกหมอเจ้าของไข้มาดูอาการคิบอม

    "เป็นยังไงบ้างครับคุณคิบอม" หมอพูดเมื่อเดินเข้ามาถึงเตียงที่คิบอมนอนอยู่

    "ที่นี่ที่ไหนแล้วคุณรู้จักชื่อผมด้วยหรอครับ" คิบอมถามเสียงเบาเพราะรู้สึกเจ็บที่ใบหน้า

    "ที่นี่โรงพยาบาลประจำจังหวัดครับ แล้วทำไมผมจะไม่รู้จักคุณล่ะครับ คุณคิมคิบอม เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจส่งออกชื่อดัง

    สาว ๆ ที่นี่ดีใจกันใหญ่ที่คุณเข้ามารักษาตัวที่นี่"

    หมอหนุ่มบอกและตรวจร่างกายให้เขาจนเสร็จ

    "หมอครับแล้วพ่อกับแม่ผมล่ะครับ" คิบอมถามเมื่อนึกขึ้นได้

    สีหน้าของหมอและพยาบาลสลดวูบลงทั้นที

    "ทางเราขอเเสดงความเสียใจด้วยนะครับ คุณพ่อคุณแม่ของคุณเสียชีวิตแล้วเพราะเสียเลือดมาก"

    คำบอกเล่าของหมอทำให้คิบอมช็อคและนิ่งเงียบ

    "คุณคิบอมครับ คุณคิบอม" หมอเขย่าตัวเรียกคิบอมจนสติเขากลับมาอีกครั้งพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา

    "ขอโทรศัพท์ให้ผมหน่อย" คิบอมบอก พยาบาลจึงรีบหยิบโทรศัพท์ที่ต่อสายนอกเอาไว้มาส่งให้เขา

    คิบอมกดโทรออกไปหาฮีชอลพี่ชายแท้ ๆ ของเขาและตอนนี้ก็เป็นญาติเพียงคนเดียวที่เขาเหลืออยู่

    อีก 4 ชั่งโมงต่อมาฮีชอลก็มาถึงโรงพยาบาลสองพี่น้องต่างก็กอดกันแล้วร้องไห้

    ฮีชอลทำเรื่องย้ายคิบอมไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลในโซล หมอที่โซลบอกว่าหน้าของเขาอาจจะรักษาไม่หาย

    เพราะเป็นรอยแผลใหญ่มากและกินเนื้อที่บริเวณกว้างหรือพูดง่าย ๆ คือหน้าเขาจะต้องเสียโฉม

    "คุณคิบอมไม่ต้องกลัวนะครับ เดี๋ยวผมจะลองติดต่อกับเพื่อนที่ต่างประเทศดู

    เครื่องมือที่นั่นมีครบและทันสมัยมากอาจจะช่วยศัลยกรรมหน้าของคุณให้กลับมาเหมือนเดิมได้"

    หมอบอกทำให้คิบอมมีความหวังและเมื่อเดือนก่อนเขาได้เดินทางไปผ่าตัดรอบสองและเดินทางกลับมา

    แต่ยังไม่มีใครเห็นใบหน้าของคิบอมเลยแม้แต่คนเดียวเพราะมีผ้าพันไว้ทั้งหน้า

    และเรื่องที่คิบอมไม่คิดว่าจะเกิดก็เกิดขึ้น หลังจากที่เขาเปิดผ้าพันแผลเพียงวันเดียว ลีจุนกิคนที่เขารักมากที่สุดมาบอกเลิก

    เพราะรับใบหน้าที่ยับเยินของคิบอมไม่ได้และบอกความจริงเรื่องที่คบกับคิบอมเพียงเพราะต้องการช่วยกิจการของทางบ้านเท่านั้น

    ทำให้คิบอมเสียใจมากขึ้นและเมื่อเสียใจมากก็กลายเป็นความแค้นในที่สุด.......

    คิบอมกำมือแน่นและกระชากผ้าม่านปิดเข้าหากันตามเดิม โดยที่ไม่ลืมความเจ็บปวดในครั้งนั้นได้เลย

    ยิ่งคิดคิบอมก็ยิ่งแค้นรอยยิ้มแห่งความแค้นผุดขึ้นที่มุมปาก

    "เธอจะได้รับรู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง" สายตาของคิบอมจ้องอยู่ที่รูปของดงแฮ

    ฮีชอลเดินลงมาด้านล่างพร้อมกับถอยหายใจ ก่อนจะเดินเข้าไปหาดงแฮ

    "ยินดีด้วย เธอได้ทำงานที่นี่ เรามาคุยเรื่องรายละเอียดทั้งหมดกันก่อนนะ" ฮีชอลบอก

    "แล้วรายละเอียดมีอะไรบ้างฮะ"

    "คิบอมประสบอุบัติเหตุเมื่อ 1 ปีก่อน จนหน้าเสียโฉม"

    "น่าสงสารนะฮะ" ดงแฮพูดออกมาเบา ๆ

    "ใช่ คิบอมน่าสงสารแต่อย่าไปพูดแบบนั้นให้เขาได้ยินล่ะ ไม่งั้นฉันไม่รับรองความปลอดภัย"

    "เขาโหดมากหรอฮะ"

    "ไม่หรอก สำหรับฉันนะ แต่กับเธอฉันไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะคิดแบบไหน" ฮีชอลยิ้ม

    "แล้วมีอย่างอื่นอีกหรือเปล่าฮะ" ดงแฮถามอย่างอยากรู้

    "เวลาคิบอมจะนอนกับเธอ....เขาต้องตัดไฟในห้องนอนของเธอเพื่อป้องกันเธอเห็นหน้าเขา"

    ดงแฮก้มมองมือตัวเองไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาทำงานแบบนี้  แม่ของดงแฮก็ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือด

    ต้องเปลี่ยนถ่ายเลือดทุกเดือน

    ดงแฮจึงต้องลาออกจากงานร้านดอกไม้ที่เค้ารัก  และถึงที่บ้านจะมีธุรกิจร้านอาหารของพี่แจจุงอยู่

    แต่เงินที่ได้มาก้อไม่พอที่จะเป็นค่ารักษาแม่และค่าใช้จ่ายในบ้านอยู่ดี

    ดงแฮจึงตัดสินใจมาที่นี่เพื่อครอบครัว เขายอมสละความสุขของตัวเอง

    เพื่อความอยู่รอดของครอบครัวและเพื่อแม่ผู้ให้กำเนิด ต่อให้แลกด้วยชีวิตดงแฮก็ยอม

    "คุณดงแฮเข้าใจหรือเปล่า คุณดงแฮ" ฮีชอลเรียกดงแฮทำให้ดงแฮหลุดออกมาจากโลกส่วนตัว

    "ฮ...ฮะ " ดงแฮหันไปมองฮีชอลและตอบรับออกไปทั้งที่ไม่ได้ฟังฮีชอลพูดเลย

    "ข้อสุดท้ายเธอต้องย้ายมาอยู่ที่นี่และเธอจะกลับไปเยี่ยมบ้านได้แค่เดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น"

    "1 ครั้งเองหรือฮะ" ดงแฮพูดเสียงดังแบบลืมตัว

    "เธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า" ฮีชอลถาม

    "ไม่  ไม่มีฮะ"

    "ดี งั้นพรุ่งนี้เธอขนของมาอยู่ที่นี่ได้เลย" ฮีชอลบอก

    "ฮะ" ดงแฮรับคำและขอตัวกลับบ้านของตนเอง



    ********************************************************



    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    ในที่สุดก้อจบหนึ่งตอน

    อาจจะอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ นะคับ เพราะเรื่องนี้แต่งตามอารมณ์ไรเตอร์

    ยังไงอ่านแล้วอย่าลืมเม้นให้กำลังใจไรเตอร์ด้วยนะทุกคน

    อ่า เหนื่อยจัง ไปหารัยกินก่อนดีก่า

    ไปล่ะทุกคน แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้านะคับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×