คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตำแหน่งใหม่
หลังจากที่นันทรวิกาเดินออกจากห้องประธานก็เดินบ่นอุ๊บอิ๊บไปตลอดการเดินทางกลับสู่โต๊ะทำงานของเธอในวันสุดท้าย
“ต้องไปทำงานช่วยอีตานั่นจริงๆหรอเนี่ย คนอะไรกวนชะมัด แบบนี้รึเปล่านะที่พวกพี่ๆเขาไม่อยากจะเข้าใกล้เพราะชอบกวนประสาทแบบนี้รึเปล่านะ” นันทรวิกา เดินกลับมาถึงแผนกแล้วส่งเอกสารไปให้พี่กุ้ง แล้วเดินไปที่ของตนอย่างหงอย ส่วนพี่กุ้งได้แต่ทำหน้างงๆ
“เป็นไงบ้างจ๊ะนัน” เสียงถามอย่างห่วงใยของพี่กุ้ง ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างสดใสไปให้พี่กุ้ง เพื่อพี่แกจะได้สบายใจว่าไม่มีอะไรร้ายแรงเกินขึ้น
“ไม่เป็นไงหรอกค่ะ ท่านประธานให้นันไปเป็นผู้ช่วยเลขาคุณอรดีเธอนะคะ” ข่าวใหม่นี้ทำให้พี่ๆอีกหลายคนกรูเข้ามาหาเธออย่างตื่นเต้น
“อุ้ยดีจัง” พี่พนักงานคนหนึ่งพูดขึ้นจะว่าไปเธอก็จำไม่ได้ซะแล้วถ้าพี่คนนี้ชื่ออะไร เอาเถอะเดี๋ยวก็ย้ายแผนกแล้วนิ
“น่าอิจฉาเธอจังเลยนะนัน” พี่อุ้มพูดคิดพร้อมทำท่าเพ้อฝัน
“ดีอะไรล่ะค่ะ ท่านประธานกวนจะตาย” เธอพูดพร้อมกับทำท่าหน้าตึงๆ เมื่อคิดเรื่องนี้แล้วเธอก็อยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าจะให้เธอเรียกแบบนั้นได้ยังไง เขาเป็นเจ้านาย ส่วนเธอเป็นแค่ลูกจ้าง
“ฮะ ท่านประธานนี่นะ” เสียงถามแปลกใจของพี่กุ้งก็ทำให้ใครหลายๆคนก็พากันเริ่มขึ้นแล้วว่า เจ้านายของพวกเธอวันนี้เป็นอะไรปกติดุจะตาย ยิ่งตอนตรวจงานจะซีเรียสเป็นพิเศษ
“ค่ะ ท่านนั่นแหละ เออ..พี่ๆค่ะ พรุ่งนี้นันต้องไปทำแล้วนะคะ พี่ๆมีงานอะไรจะให้นันทำอีกมั้ยค่ะ นันจะเคลียงานให้เสร็จพวกพี่จะได้ไม่มีปัญหากับงานส่วนของนัน” เธอถามอย่างเป็นกังวล
“ไม่มีแล้วจ๊ะ น้องนันทำงานที่เหลือให้เสร็จ แล้วพรุ่งนี้ขอให้โชคดีนะจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอยกมือไหว้พร้อมกับขอบคุณ ถึงพวกเธอทั้งหมดจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ความผูกผันก็มีมากมาย
เช้าวันใหม่อากาศสดใสมองไปรอบๆทิวทัศน์แหม่ช่างหน้าไปเดินเลานเสียจริง และอย่าได้จริงจังเพราะทั้งหมดมันคือการประชด เช้าวันนี้ เป็นวันแรกที่ฉันต้องเริ่มทำหน้าที่ใหม่ ผู้ช่วยเลขา แล้วมันต้องทำไรมั่งนะ พิมพ์เอกสาร จดตารางงานชงกาแฟเหมือนในนิยายที่ฉันชอบอ่านล่ะมั่ง น่าจะใช่โดยส่วนใหญ่นิยายบางเรื่องก็เอามาจากชีวิตจริงกัน เป็นมุมมองความคิดของนักเขียน ฉันอยากเป็นนักเขียนบ้างแต่ว่าคงเป็นได้แค่ฝัน ตอนนี้ 7.30 น. ฉันยังไปไม่ถึงที่ทำงานเลย รถจะติดอะไรปานนั้น โว้ย!!!!! และฉันก็มาถึงที่ทำงานโดยสวัสดิภาพ แล้วรีบขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นบนสุดของโรงแรมทันที
ติ๋ง!!
เสียงประตูลิฟท์เปิดออกกลายเป็นทางเดินทอดยาวไป
“สวัสดีค่ะ คุณอรดี”
“สวัสดีค่ะคุณนัน” ทั้งสองต่างยิ้มให้กันเพียงแค่นั้น ก่อนที่อรดีจะพูดต่อ
“โต๊ะทำงานของคุณนันค่ะ ไม่ต้องเรียนพี่ว่าคุณหรอกค่ะ เรียกพี่จะดีกว่า อายุเราไม่น่าจะห่างกันมาก” อรดีพูดอย่างเป็นกันเองกับนันทรวิกา
“แล้วนันต้องทำอะไรบ้างคะ พี่อร” เธอนั่งลงที่โต๊ะทำงานของเธอพลางเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อจะได้ลงมือทำงานทันทีเลย
“ไม่มีอะไรมากค่ะ พี่จะให้น้องนันพิมพ์เอกสารการประชุมและเอกสารต่างๆที่ใช้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของแผนกต่างๆ ทำได้นะ” อรดีแจกแจงรายละเอียดงานให้นันทรวิกาทราบ พร้อมกับยื่นเอกสารชุดหนึ่งมาให้
“นี่งานชิ้นแรก น้องนันพิมพ์ให้พี่หน่อยค่ะ เพราะเดี๋ยวพี่ต้องเข้าประชุมกับคุณธีรนัย”
“ได้ค่ะ”เมื่อพูดจบเธอก็ลงมือทำงานของเธอในทันที ตอนแรกคิดว่าพิมพ์แค่แผ่นหรือสองแผ่น แต่นี่ไม่ใช่ล่ะ ยี่สิบกว่าแผ่น พระเจ้า!!! อะไรจะมากขนาดนั้น แล้ววันนี้เธอจะพิมพ์เสร็จมั้ยเนี่ย
“น้องนันค่ะ พี่ไปประชุมก่อนนะคะ ถ้าเลยเวลาเลิกงานแล้วกลับเลยก็ได้ค่ะ” นันทรสิกาเงยหน้าออกมาจากจอคอมพิวเตอร์
“ค่ะ” เธอตอบรับแค่นั้นและลงมือพิมพ์เอกสารต่อไป ด้วยที่เธอเป็นคนพิมพ์เอกสารค่อนข้างช้าแม้เวลาจะล่วงเลยมาจนถึงเที่ยงแล้วเอกสารที่เธอพิมพ์อยู่ เพิ่งจะพิมพ์ไปได้แค่ 7-8 แผ่น ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำและอีกสิ่งที่กวนเวลาเธอทำงานมากก็คือโทรศัพท์ ใครกันโทรมาอยู่ได้ นี่ มันเวลาพักเที่ยงของฉันแล้วนะ เข้าใจฉันบ้างเซ่
กริ๊ง กริ๊ง!!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นสัญญาณให้คนที่นั่งพิมพ์งานอยู่หันมาสนใจ
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีค่ะ คุณคือใคร” เสียงที่ตอบกลับมาเป็นเสียงผู้หญิง
“ดิฉัน นันทรวิกา ผู้ช่วยเลขาของท่านประธานค่ะ”
“หรอ แล้วคุณธีไปไหน” ธีไหนล่ะว่ะ
“ธี ไหนคะ”
“ก็ธีรนัยไง ยัยซื่อบื้อนิ” เออจริงสิพี่อร เรียกท่านประธานว่าธีรรัยน่าจะหมายถึงท่านประธาน
“ท่านติดประชุมค่ะ”
“หรอย่ะ งั้นฝากบอกเขาด้วยว่า ฉัน แคทธาลีน โทรมา ตอนเย็นจะเข้ามาหาเขา จะมาชวนธีเขาไปทานข้าว”
“ค่ะ ดิฉันจะบอกให้ค่ะ” เมื่อเธอพูดจบเสียงก็ตัดสายไป เห้อ ดีเนาะฝากข้อความให้คนอื่น ควรจะพูดกับคนฝากข้อความดีๆสิ ไม่ใช่มาสั่งๆ ไม่ชอบเลยคนแบบนี้เมื่อดูเวลาอีกครั้ง เธอพบว่าเที่ยงครึ่งแล้ว คงไปทานข้าวเที่ยงไม่ทัน จึงตัดสินใจที่จะไม่ไป เธอก้มหน้าทำงานต่อไปจนถึงเวลาเลิกงาน พี่อรเดินกลับมาที่โต๊ะอีกครั้งเพื่อเก็บของกลับบ้าน
“ยังไม่กลับหรอจ๊ะนัน มันเย็นแล้วนะ”เสียงถามอย่างเป็นห่วง
“อีกสักพักค่ะ งานที่พิมพ์ใกล้จะเสร็จแล้ว พี่อรกลับก่อนได้เลยค่ะ” อรดีมองรอยยิ้มของเพื่อนรุ่นน้องคนนี้ท่าทางจะดื้อเหมือนกันนะ
“จ๊ะ งั้นพี่ไปก่อนนะ” อรดีสะพายกระเป๋าเตรียมจะเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อนคะ พี่อร” อรดีที่กำลังจะเดินออกไปหันกลับมาถาม
“ว่าไงจ๊ะ”
“พรุ่งนี้นันต้องทำอะไรบ้างค่ะ” อรดีขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะคลายออก แล้วเดินมาที่โต๊ะทำงานของตน
“นี่จ๊ะ นี่เป็นเอกสารสรุปรายละเอียดการประชุมในวันนี้ พรุ่งนี้เที่ยงต้องให้ท่านประธานดูจ๊ะ” อรดียื่นเอกสารให้เธอ เธอรับมันมาไว้ในมือ เยอะเหมือนกันนะ
“ค่ะ กลับบ้านดีๆนะคะ”
“จ๊ะ เราก็กลับได้แล้วนะ พี่ไปล่ะ” แล้วอรดีก็เดินจากไป เธอจึงนั่งพิมพ์เอกสารของเธอต่อไป
“นี่เธอ” น้ำเสียงแสบแก้วหูนั่นทำให้เธอต้องมองผู้หญิงตรงหน้าว่าหล่อนเป็นใคร
“ค่ะ”
“คุณธีไปไหน”
“ไม่ทราบค่ะ แล้วคุณเป็นใครค่ะ เมื่อท่านมาดิฉันจะได้เรียนให้ท่านทราบว่าคุณมาพบ”
“ฉันแคทธาลีนไงละ ฉันก็บอกไปแล้วว่าจะเข้ามาตอนเย็น” เธอเดาว่าหล่อนคงเริ่มรู้สึกหงุดหงิด เมือ่มาแล้วไม่พบเป้าหมาย
“แล้วเธอไม่ได้บอกธีหรอ ว่าฉันจะมา”
“ขอโทษด้วยนะคะ คุณแคทธาลีน พอดีว่าดิฉันไม่ได้พบท่านประธานตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ อีกอย่างท่านประธานก็ไม่ได้เข้ามาที่นี่ด้วยค่ะ”เธอพยายามตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“ย่ะ” แล้วหล่อนก็เดินจากไป
เวลาล่วงเลยมาจนดึกดื่น ตอนนี้สี่ทุ่มแล้วเธอนั่งพิมพ์เอกสารชุดแรกเสร็จไปตั้งแต่ทุ่มหนึ่งแล้ว แต่ด้วยกลัวว่าพรุ่งนี้จะพิมพ์เสร็จไม่ทันจึงตั้งใจจะพิมพ์งานอีกชิ้นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เธอรู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่จึงละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์
“ท่านประธาน” เสียงอุทานอย่างตกใจเวลานี้ใช่เวลาที่เจ้านายของเธอจะกลับมาที่ทำงานหรอ
“ท่านประธานอีกแล้วนะ น้องนัน เดี๋ยวโดนทำโทษนะ” เขาขู่ด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนักด้วยเพราะมีอะไรที่ต้องการมากกว่านั้น
“ดึกแล้วทำไมยังไม่กลับครับ” เขาถามอย่างเป็นกันเองเพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกกลัวเขา
“พิมพ์เอกสารอยู่คะ คุณไทน์” ยังไงซะผู้ชายคนนี้ก็ยังเป็นเจ้านายเธออยู่ดีจะให้ตอบแบบไหนดีละ ตอบแบบนี้แหละดีแล้วเจ้านายจะได้เห็นว่าเราตั้งใจทำงาน จะได้เซ็นอนุมัติผ่านงานให้
“ไม่ต้องทำแล้วครับ กลับบ้านเถอะครับ ดึกแล้ว ผมไปส่งนะครับ” เขาพูดเองเออเอง ตัดสินใจเองเสร็จสรรพ
“ไม่เป็นไรดีกว่าคะ ดิฉันกลับเองได้” เธอปฎิเสธอย่างสุภาพ จะให้เธอกลับกับเขาเนี่ยนะไม่มีทางซะล่ะ เธอไม่ไว้ใจเขานิ
“ห้ามปฎิเสธครับ เดี๋ยวจะมีใครบางคนหาว่าผมดูแลพนักงานไม่ดี ไปครับ” เขาพูดพลางฉุดแขนหล่อนขึ้นเพื่อให้หล่อนเดินตามเขาไปแต่โดยดี หล่อนได้แต่คิดในใจผู้ชายอะไร เผด็จการชะมัด
เมื่อลงมาถึงชั้นล่างของโรงแรม พบ BMW จอดรออยู่หน้าโรงแรม ธีรนัยจัดการยัดเธอเข้าไปในเบาะหลังแล้วตนเองขึ้นตามไป ปิดประตูแล้วสั่งให้รถออก
“ออกรถได้” คนขับไม่ขานรับหรือมีปฎิกิริยาอะไรตอบรับแต่ปฎิบัติหน้าที่โดยทันทีชายหนุ่มจึงหันมาชวนสาวน้อยคุย
“น้องนันพักอยู่แถวไหนครับ”
“นันพักใกล้มหาวิทยาลัยค่ะ”
“แล้วน้องนันเรียนที่ไหนครับ”
“นันเรียนที่…”
“อืม ทางผ่านกลับบ้านของพี่พอดีเลย” เขาเปลี่ยนสรรพนามอีกแล้ว
“ทำไมหรือคะ” เธอถามออกไปอย่างสงสัย
“ก็ต่อไปกลับบ้านพร้อมกันนะ”
“อย่าดีกว่าค่ะ” เธอปฏิเสธทันทีโดยที่ไม่ต้องคิดให้เปลืองสมองเลย
“เถอะน่า กลับกับพี่แหละดีแล้ว”
“บางวันคุณไทน์อาจไม่ว่าง”
“สำหรับน้องนันพี่ว่างเสมอครับ อ่อ อีกอย่างนอกเวลางานแล้วเรียกว่าพี่ไทน์ ดีกว่า ”
“เออ…”
“ไม่เอาๆ ต่อไปนี้เรียกว่า พี่ไทน์นะครับ” เธอหันไปมองหันเขาอย่างเคืองๆ จนเขารู้สึกเหมือนมีรังสีอะไรบางอย่างกำลังคิดไม่ดีกับเขาอยู่
“คิดอะไรอยู่ครับ” เขาหันมาถาม
“คุณไทน์คะ แล้วแฟนของคุณจะไม่ว่าเอาหรอค่ะ ที่มาส่งนันแบบนี้” ฟังคำถามจบ เขาได้แต่ขมวดคิ้ว แฟนเขา ใครกันเมื่อคิดยังไงก็คิดไม่ออก จึงถามไปว่า
“ใครกันครับ”
“อ้าว แฟนคุณนี่ มาถามนันได้ไง”
“น้องนัน ผมยังไม่มีแฟนนะ”
“หรอค่ะ” เขายิ้ม
“ครับ แล้วว่าแต่ใครกันครับที่ทำให้น้องนันคิดว่าเป็นแฟนผมครับ”
“ก็คุณแคทธาลีนไงค่ะ วันนี้เขาก็โทรมาหาคุณไทน์ที่โรงแรมเมื่อเตอนเย็น”
“แคท ไม่ใช่แฟนผมครับ อีกอย่างบอกแล้วไม่จำนะ” เขาดุเธออีกแล้ว
“ค่ะ พี่ไทน์” และแล้วรถก็มาจอดถึงหน้าหอพักของเธอ รอจนรถจอดสนิทเธอก็เปิดประตูลงแล้วก้าวลงจากรถทันทีก่อนจะไปไม่วายกวนเขาอีก
“ขอบคุณที่มาส่งค่ะ ท่านประธาน” แล้วเธอก็ปิดประตูแล้วเดินขึ้นหอพักไปทันที ไม่หันหลังกับมามองเลยว่าคนที่นั่งอยู่ในรถกำลังขำกับท่าทีของเธอ
เอามาลงต่อแล้วจ้า
ความคิดเห็น