คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : แรกพบ(ต่อ)
“พี่คะ…ไปกันเถอะ สายแล้ว” ไม่พูดอย่างเดียวเธอยังเอามือสะกิดพี่เขาด้วย
“เออ…ค่ะๆ ไปกันเถอะ” จากนั้นพี่ประชาสัมพันธ์ก็กลับไปทำหน้าที่ตนเองอีกครั้ง พวกเธอสองคนเดินขึ้นลิฟต์ ขึ้นไปยังชั้นห้าของโรงแรมแห่งนี้
ก๊อกๆๆ
“เชิญ” เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องก็พบผู้หญิงวัยกลางคนกำลังนั่งเซ็นเอกสารอะไรบางอยู่เธอจึงยกมือไหว้และแจ้งความประสงค์ของเธอ
“สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อ นันทรวิกาค่ะ มารายงานตัวฝึกงานค่ะ” พูดจบแถมด้วยรอยยิ้ม และเธอก็ได้รับรอยยิ้มตอบกลับมา
“เชิญนั่งจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวกล่าวขอบคุณพร้อมกับยกมือไหว้ ก่อนนะนั่งลง
“ก่อนอื่นพี่ขอแจ้ง หน้าที่ของน้องก่อนนะคะ น้องต้องไปฝึกงานอยู่ฝ่ายบัญชีนะคะ เริ่มงานวันนี้เลยได้ใช่ไหมคะ”
“ได้ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น ก็ตามพี่มาเลยค่ะ” ผู้จัดการเดินนำเธอออกไปยังแผนกบัญชี เมื่อเดินไปถึงเธอพบว่ามีพนักงานประมาณ 7-8 คนเลยทีเดียว เยอะเหมือนกันนะ สงสัยงานจะเยอะน่าดู
“ความจริง 7 คนก็ทำงานไหวค่ะ ยังไงก็ค่อยๆเรียนรู้งานไปนะคะ นั่นโต๊ะทำงานของน้อง พี่ต้องไปก่อนนะ”
“ขอบคุณคะ”
“ไม่เป็นไรจ๊ะ”พี่ผู้จัดการก็เดินออกไป
เธอเดินไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองพร้อมกับนั่งลง เมื่อเธอนั่งลงจากนั้นก็มีบุคคลมารายล้อมโต๊ะเธอเธอจึงกล่าวคำทักทายออกไป
“สวัสดีค่ะ” เธอยกมือไหว้พร้อมกับรอยยิ้ม เอาน่าเป็นมิตรกันไว้ก่อน
“ดีจ้า พวกพี่ๆ ยินดีต้อนรับน้องใหม่ทุกคน” คำตอบแบบนี้ชวนขนลุกนะ
“ อ่ะๆ อย่าได้ทำหน้าอย่างนั้น ยังไมได้ทำอะไรเลยนะ” หน้าตาของเธอสามารถเรียกเสียงหัวเราะได้จากคนพวกนี้เลยหรอเนี่ย คงตลกน่าดูนะพวกเขาคงแหย่เธอเล่นๆมั่ง
ตอนนี้ฉันเริ่มฝึกงานที่โรงแรมแห่งนี้มาสองเดือนแล้ว นับตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่ได้เจอผู้ชายคนนั้นอีกเลย เธอคิดกับตัวเองเล่นๆว่า จะมีโอกาสได้เจอกับคนคนนั้นอีกมั้ยนะ ผู้ชายที่หล่อ เพอร์เฟ็คแบบนั้น ยังหลงเหลืออยู่ในโลกนี้อีกหรอ แล้วความคิดเล่นๆของเธอก็พลันสลายไป เมื่อมีหน้าใครหนึ่งคนหนึ่งโผล่มา
“คิดอะไรอยู่จ๊ะ น้องนัน” ใบหน้าเปื้อนยิ้มของรุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกัน
“เปล่าค่ะ” เสียงตอบกลับไปแต่ก็ไม่ได้ทำให้คนคนนี้เชื่อ
“คิดถึงแฟนล่ะซี”
“นันยังไม่มีแฟนค่ะ พี่ก็พูดไป ตอนนี้โสดค่ะ แต่ว่า…” คำว่าแต่ว่าของเธอเหมือนจะทำให้ใครหลายคนที่นั่งทำงานด้วยด้วยกันหันมามองด้วยความสนใจ
“แต่ว่า หัวใจไม่โสดแล้ว” เท่านั้นแหละ บรรดาพี่ๆที่ทำงานทั้งหลาย กรูกันเข้ามาถามว่าใครคือคนที่ได้หัวใจน้องน้อยคนนี้ของพวกเธอไป
“ใครกัน” น้ำเสียงถามอย่างคาดคั้น
“นันก็ไม่ทราบค่ะ เจอกันตอนที่นันมาที่นี้ครั้งแรก”
“เห้อ อด”
จากนั้นพี่ๆก็สลายไปตามระเบียบ เพราะไม่มีใครรู้ว่าคนนั้นเป็นใคร ทำงานไปอีกสักพักก็ได้เวลาพักเที่ยง โดยส่วนใหญ่ก็จะพากันไปทานอาหารใกล้ๆกับโรงแรม ถ้าจะให้ทานในภัตตาคารโรงแรมก็แพงเกินไปสำหรับเงินเดือนที่ได้ ใช้กันแบบชนเดือน ไม่ใช่ว่าไม่เยอะหรอกนะ เพียงแต่ว่าค่าใช้จ่ายสำหรับผู้หญิงมันเยอะไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางค์ หรือเสื้อผ้า ไหนจะต้องเข้าสปาร์อีก เยอะจริงๆ
“เห้อ…วันนี้ทำไมอากาศวันร้อนแบบนี้นะ” พี่กุ้งสาวที่อายุมากที่สุดเอ่ยขึ้น
“สั่งอาหารเถอะ จะได้รีบทานรีบกลับไปทำงานต่อ” จากนั้นสาวๆทั้งหลายก็สั่งทานอาหารมาทาน ร้านอาหารร้านนี้เป็นอาหารตามสั่งราคาไม่แพง เหมาะสำหรับบุคคลที่มีได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือน
“อาหารมาแล้วๆ ทานเร็วเถอะ อีกครึ่งชั่วโมงจะหมดเวลาพักแล้ว เห็นว่าวันนี้ท่านประธานมาตรวจงานด้วยนิ ต้องเอาเอกสารไปให้ท่านด้วย” นันทรวิกาที่นั่งฟังอยู่ก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แล้วถามออกไป
“ปกติท่านประธานไม่ได้เข้ามาทำงานหรอคะ”
“มาจ๊ะ แต่ท่านไม่ได้มาบ่อย งานของท่านเยอะ บางทีก็ไปตรวจโรงแรมต่างจังหวัด เราที่ทำงานอยู่ที่นี้ ถ้าวันไหนท่านเข้ามาตรวจงานก็ต้องนำเอกสารที่ทำไว้ไปให้ท่านดูจ๊ะ”
“แล้ววันนี้ ใครจะไปส่งเอกสารล่ะ” พี่กุ้งผู้อาวุโสสุดถามออกไปอย่างเป็นเรื่องปกติที่ไม่ปกติ
“เออ นั่นสิ” จากนั้นบรรดานักบัญชีทั้งหลายต่างขบคิด
“ท่านประธานดุมากหรอคะ” เหมือนมีเสียงสวรรค์ที่ฟ้าประธานมาให้ คนทั้งหมดพร้อมใจกันหันไปมองหญิงสาว แล้วหันกลับมามองหน้าพร้อมพยักหน้าให้กัน เป็นอันตกลง
“นันจ๊ะ”
“คะ”
“พี่วานอะไรหน่อยสิจ๊ะ” น้ำเสียงแบบนี้บวกกับท่าทางเมื่อสักครู่นี้ ไม่นะ!!!!
“ช่วยนำเอกสารไปให้ท่านประธานเซ็นที ” ว่าแล้ว โอ้!! ไม่!!
“จะดีหรอค่ะ” ในใจของนันทรวิกาในตอนนี้ ไม่ฉันไม่ไป ยังไงก็ไม่ไปขนาดคนที่ทำงานอยู่มาหลายปียังไม่กล้าไปแล้วแบบนี้เธอจะกล้าไปได้ยังไง
“ดีจ๊ะ ถือซะว่าเป็นการรับน้องและห้ามปฏิเสธนะ เพราะพี่จะเขียนอณุมัติไม่ผ่านงานให้”
“ถือซะว่าช่วยพวกพี่เถอะงานที่ทำอยู่ก็หัวหมุนจะแย่ งานของนันไม่เยอะก็ไปให้หน่อยเถอะนะ อยากจะบอกว่าท่านนะหล่อมาก” พวกพี่ๆพากันทั้งขอร้องทั้งบังคับมีการเอาอนาคตเธอมาเป็นตัวบังคับด้วย มีการสปอยและติดสินบนว่าวันหน้าพวกพี่จะเลี้ยงข้าว เห้อ!! ทำไงดีล่ะเรา ต้องไปจริงๆหรอเนี่ย
“ก็ได้ค่ะ” นันทรวิกายอมรับด้วยเสียงอ่อยๆ
ในเวลานี้ก็เลยเวลาพักเที่ยงมานานแล้วทุกคนต่างทำหน้าที่ของตนเองอย่างขมักเขม้น นันทรวิกาเองก็พยายามทำงานเพื่อที่ตนเองจะได้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเข้าพบท่านประธาน จนเมื่อมีแฟ้มเอกสารอื่นมาตรงหน้าเธอ เธอจึงเงยหน้าขึ้นจากงานที่ทำอยู่
“นี่จ๊ะ” พี่กุ้งพูดพลางยิ้มหวายหยดย้อยให้เธอ
“อะไรค่ะ”เธอตอบกลับทำทีเหมือนว่าลืมไปแล้ว เพื่ออาจจะโชคดีไม่ต้องขึ้นไปส่งแฟ้มจะได้ไปต้องไปเจอที่น่ากลัวๆ อะไรสักอย่างที่พวกพี่ๆกลุ่มนี้ไม่ต้องการ ขนาดพี่ๆยังไม่ต้องการแล้วเราจะไหวหรอเนี่ย
“พี่รู้ทันเรา ไม่ต้องเลยไปได้แล้วจ๊ะเดี๋ยวท่านจะรอนาน”พี่กุ้งพูดพลางฉุดแขนของเธอให้ยืนขึ้นพร้อมกับยัดเยียดแฟ้มให้มือ พร้อมกับอวยพร
“ไปดีมาดีนะ”
“เออ พี่ค่ะ หนูไปส่งแฟ้มนะคะ”
“นั่นแหละจ๊ะ พวกเราทุกคนก็เห็นด้วยใช่มั้ยทุกคน” ทุกคนก็พร้อมใจกันพยักหน้า เธอจึงหันหลังแล้วเดินคอตกออกไปเธอจะรู้มั้ยว่าลับหลังนั่น พี่ๆเขาคุยอะไรกันบ้าง
“ทำแบบนี้ดีแล้วหรอพี่กุ้ง”
“เอาน่า หรือว่าเธอจะไปห่ะะ ยัยอุ้ม”
“ไม่ดีกว่าอ่ะ พี่กุ้ง เคยไปทีหนึ่งนะท่านทำหน้าตาดุจะตาย ถึงจะหล่อแต่ก็ไม่ไหวนะพี่” อุ้มพูดพลางส่ายหน้าพลางยังไงเธอก็ไม่อยากไปอยู่ดี
“จ๊ะๆ ทำงานต่อกันเถอะ” หลังจากนั้นเสียงพูดคุยก็หายไปทุกคนกลับไปทำหน้าที่ของตนเพื่อที่ตอนเย็นจะได้ไม่ต้องมีงานค้าง การทำงานของที่นี้ห้ามพนักงานบางแผนกนำงานกลับไปทำที่บ้าน ด้วยทางโรงแรมให้เหตุผลว่า เผื่อพนักงานทำเอกสารหายจนทำให้โรงแรมคู่แข่งมีข้อมูลเพื่อแย่งลูกค้าไปจากโรงแรมของตน
อ่านแล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง ช่วยคอมเม้นด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ว่างๆก็แวะมาทักทายกันได้ค่ะ
ความคิดเห็น