ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทวดาตกสวรรค์(ขึ้นไม่ได้ทำไงดีฟะ???)

    ลำดับตอนที่ #5 : กามเทพ???

    • อัปเดตล่าสุด 7 ธ.ค. 49


     ณ  ห้องนภา

    “การใช้ศรมนตร์กามเทพนั้น จะต้องมีพื้นฐานก่อน  โดยเริ่มจากการมอง จะต้องมองให้เห็นว่ามนุษย์คู่ใดเป็นคู่รักตามพรหมลิขิตกันซึ่งดูได้จากด้ายแดงแห่งดวงชะตาที่ปลายด้ายแดงทั้งสองข้างพันธนาการอยู่ที่นิ้วก้อยของทั้งสองฝ่าย  ด้ายแดงที่พันธนาการไว้นั้นเป็นหนึ่งเดียวกันจะไม่มีทางขาดจากกัน  ฉะนั้นถ้าพวกคุณยิงศรมนตร์ผิดพลาดล่ะก็ชีวิตของคนคนนั้นก็จะไม่มีวันได้พบกับเนื้อคู่ของตนอีกเลยตลอดชีวิต  ดังนั้นวันนี้ฉันจะสอนให้พวกคุณรู้จักดูว่ามนุษย์คู่ใดเป็นคู่แท้และคู่ใดไม่ใช่คู่แท้  เอาล่ะตรงหน้าของพวกคุณมีกระจกส่องโลกตั้งอยู่  ฉันจะให้พวกคุณดูว่าคู่ใดบ้างเป็นคู่แท้ที่มีด้ายแดงเชื่อมกันไว้  และคู่ใดที่ยังไม่พบคู่แท้ของตัวเอง  2คนต่อกระจกส่องโลกหนึ่งบาน  แล้วฉันจะเดินถามพวกคุณโดยการสุ่ม…เริ่มได้”หลังการบรรยายเกี่ยวกับหน้าที่ที่สำคัญยิ่ง  และอันตรายใหญ่หลวงถ้าผิดพลาดที่นักเรียนในชั้นฟังมาไม่ต่ำกว่าร้อยครั้งตั้งแต่เริ่มเรียนวิชานี้และหัวข้อของงานนี้ จาก อ. ไซคิ จบลง  รีเวสจับคู่กับคริฟตัน  ลีออยคู่กับดิสเดน  และทุกคนในห้องก็เริ่มจับคู่กัน  เหลือ  เฟรม  เรนอายส์  ฉัน…แล้วก็หมอนั่น  ฉันกำลังจะเดินไปจับคู่กับเฟรม  ทันใดนั้น…

    “เรนอายส์เราคู่กันนะ”เฟรมเอ่ยถามเรนอายส์  พลางคว้ามือเธอมาจับ

    “…”เธอไม่ได้ส่งเสียงตอบ  เพียงแค่พยักหน้า หงึก หงึก เป็นเชิงตกลงก่อนจะถูกเฟรมจูงมือไปนั่งที่หน้ากระจกบานหนึ่ง

     ฉันหันมองไปทั่วห้องว่ายังมีใครที่ไม่มีคู่อีก  แต่ก็ไม่มีจึงยกมือขึ้นเพื่อถาม อ.ไซติ

    “อ.ไซคิคะ ถ้าไม่มีคู่ดูคนเดียวได้มั้ยคะ”ฉันเอ่ยขึ้นเป็นความหวังสุดท้าย

    “ทำไมจะไม่มีคู่ล่ะคุณทราส ก็ในเมื่อคุณนอกซ์เองก็ยังไม่มีคู่เช่นเดียวกัน  ดังนั้นฉันไม่เห็นด้วยที่คุณว่าคุณไม่มีคู่นะคุณทราส”อ.ไซคิพูดด้วยน้ำเสียงเนิบเนิบแต่ในน้ำเสียงนั่นบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าต้องทำตามฉันจึงทำได้เพียงตอบรับอย่างเสียไม่ได้

    “เอาล่ะคุณนอกซ์คุณมานั่งตรงนี้คู่กับคุณทราสมา”อ.ไซคิพูดพลางกวักมือเรียกให้หมอนั่นให้มานั่งที่เก้าอี้ตัวที่อยู่ตรงข้ามกับฉันโดยมีกระจกส่องโลกกั้นกลางอยู่
     
    หมอนั่นเดินมานั่งลงที่เก้าอี้ตัวนั้นโดยไม่ทักท้วงอะไรซักคำ  ทำให้ฉันหมั่นใส้เหลือเกินในความเป็นเด็กดีของหมอนั่นเมื่ออยู่ต่อหน้าบรรดาอาจารย์

    “คุณทราสคุณคิดว่าคู่ไหนทีสมควรจะต้องปลายศรเวทมนตร์เพราะเป็นคู่แท้กันบ้าง?”อ.ไซคิเอ่ยถาม

    “อ…เอ่อคือว่า…”ฉันอึกอักตอบอะไรไม่ถูกเมื่อถูกถามอย่างไม่ทันตั้งตัว

    “คู่นั้นครับ   คู่ที่ฝ่ายชายใส่เสื้อสีขาว  ฝ่ายหญิงใส่เสื้อสีน้ำเงินน่ะครับ”หมอนั่นเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย  ช่วยฉันไว้ได้พอดี  แต่ยังไงฉันก็ยังไม่ชอบหมอนั่นอยู่ดี

    “ถูกต้อง..น้ำทิพย์10หยดให้หน่วย7”อ.ไซคิเอ่ยทันใดนั้นก็มีหยดน้ำพุ่งออกจากปลายนิ้วของอาจารย์ตรงไปยังคนโทแก้วของหน่วย7

    “ขอบคุณครับ”หมอนั่นเอ่ยเสียงเรียบ

    “คราวนี้คุณคิดว่าคู่ไหนที่ไม่ใช่คู่แท้บ้าง? คุณทราส”อ.ไซคิหันมาถามฉันอีกครั้งปลายเสียงนั้นบ่งบอกว่าฉันต้องเป็นคนตอบ

    “อ…คู่นั้นค่ะ..เสื้อสีฟ้ากับสีส้มน่ะค่ะ”ฉันชี้มั่วๆไปที่หญิงชายคู่หนึ่ง

    “หืม?..คู่นั้น…ไม่ใช่คู่แท้จริงๆน้ำทิพย์อีก10หยดให้หน่วย7”อ.ไซคิบอกเพิ่มน้ำทิพย์ให้หลังจากก้มดูหน้ากระจกอยู่นาน

    ~*~~~*~~~~*~~~~~*~~~~~~~*~~~~~…เสียงสัญญาณหมดคาบเรียนดังขึ้น

    “เอาล่ะเลิกเรียนได้   คุณสองคนนั้นช่วยเก็บกระจกส่องโลกทั้งหมดเข้าตู้ด้วยนะพอดีว่าฉันต้องรีบไปประชุมอาจารย์น่ะ”อาจารย์ชี้มาที่ฉันกับหมอนั่น 

    ในระหว่างที่ทุกคนทยอยออกจากห้องไปเกือบหมดแล้ว  ฉันหันไปมองหน้าหมอนั่นและเมื่อฉันหันกลับมาประตูก็ถูกปิดทิ้งให้ฉันกับหมอนั่นอยู่กันตามลำพัง

     อีกด้านหนึ่งของประตูก็ปรากฏร่างชายคนหนึ่งที่ควรไปอยู่ที่ห้องประชุมอาจารย์ตามที่เขากล่าวอ้างไว้  ยืนยิ้มมีเลสนัยพลางท่องมนตร์”ทวารบานประตูเอ๋ยจงสดับรับฟังคำแห่งข้า อีรอส”พลันเสียง”คลิ๊ก…วืบ”ก็ลอดออกมาจากรูกุญแจด้วยเวทมนตร์แห่งกามเทพและปรากฏเป็นกำแพงเวทมนตร์ขึ้นรอบห้องก่อนจะค่อยๆจางหายไป (คัลลิโอเฟีย:ก็เค้าสอนวิชากามเทพเวทมนตร์ก็ต้องเป็นเวทของกามเทพซิเจ้าค่ะ อ้ออีกอย่างที่บอกว่ากำแพงเวทจางหายไปเนี่นยหมายถึงมันแค่ล่องหนนะเจ้าค่ะไม่ได้หายไปเลย)แล้วกามเทพก็เคลื่อนกายไปห่างจากประตู


    “โอ๊ย!! ทำไม อ.ไซคิต้องให้ฉันทำงานกับนายด้วยเนี่ย!!?  ให้ไปอยู่กับมังกรไฟยังจะดีซะกว่าต้องมาอยู่กับไอ้เครื่องโทรเลข*เดินได้เนี่ย”ฉันโวยวายหาเรื่องหมอนั่นที่ไม่พูดอะไรเลยจน..

    “เธอเรียกใครโทรเลข?”หมอนั่นหันมาถาม

    “ก็นายไงล่ะ   พูดนับคำได้อย่างกะเครื่องโทรเลขบนโลกมนุษย์!!   สายวาโยเอ๋ยของจงพัดพาเอากระจกเหล่านี้คืนสู่ที่ที่ควรจะเป็นด้วยบัญชาแห่งข้า  เอวาน”ฉันตอบหมอนั่นพลางร่ายมนตร์ให้ลมพัดกระจกเข้าตู้

    “ง่ายไปล่ะมั้งคุณทราส   สายวาโยจงสดับรับฟังคำแห่งข้า  เอวาน “สิ้นเสียงร่ายเวทของกามเทพ กระแสพลังก็พุ่งผ่านกระจกส่องโลกในห้องกามเทพผ่านไปยังห้องนภา

     ในเวลาเดียวกับที่กระแสพลังผ่านไปยังห้องนภาลมก็หยุดพัด  เมื่อลมหยุดกระจกนับสิบบานก็หยุดนิ่งก่อนจะ…

     “ระวัง!!ซีเนีย  จงตีกรอ…โธ่เว้ย”
    เสียงของหมอนั่นที่เข้าสู่โสตประสาทของฉันกลายเป็นเสียงอื้ออึงฟังไม่ออกว่าหมอนั่นต้องการสื่ออะไรเพราะฉันตกใจกับภาพข้างหน้าภาพที่มีแต่กระจก  ทุกด้านมีแต่กระจก กระจกเต็มไปหมด

    “ทรีราส” เสียงของหมอนั่นดังไม่ได้สรรพเช่นเดิมแต่เมื่อสิ้นเสียงก็ปรากฏเป็นกระแพงพลังขึ้นเหนือตัวฉันกำแพงที่โปร่งใสราวกระจกสมชื่อจริงๆ

    “รีบวิ่งออกมาซิ!!ซีเนีย”หมอนั่นร้องเตือนเสียงดัง

    “อ…อือ”ฉันรีบก้าวออกมาจากบริเวณนั้นอย่างเก้ๆกังๆไปหาหมอนั่น

    “เพล้ง!!” ทันทีที่ฉันก้าวออกจากขอบข่ายของเกราะเสียงกระจกส่องโลกตกลงมาแตกกระจายเศษแก้วพุ่งกระเด็นไปทั่ว

    “กรี๊ด!!” ฉันตกใจกับเสียงกระจกแตกจนลืมตัวโผเข้ากอดหมอนั่น

    _________________เงียบกันไปพักหนึ่ง______________

    “เอ่อ…นี่เธอจะปล่อยฉันได้รึยัง?”เสียงหมอนั่นดังขึ้นในความเงียบ

    “อ๊ะ! ‘โทษที”ฉันพูดพลางดันตัวออกห่างจากหมอนั่น (O///O)

    “ไม่เป็นไร”หมอนั่นตอบสั้น

    “ทำไมฉันถึงใช้เวทไม่ได้ล่ะ??ทั้งๆที่ฉันไม่เคยใช้เวทพลาดมาก่อนเลยนะ”ฉันพูดเรื่มคิดทบทวนเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น

    “แต่เธออาจพลาดก็ได้นี่!!”หมอนั่นพูดตัดพ้อ

    “นี่!!ฉันบอกว่าไม่พลาดก็ไม่พลาดซินายไม่เห็นเหรอว่ามันลอยขึ้นไปแล้วนะแต่อยู่ๆก็เหมือนกับอยู่ๆลมมันก็หยุดชะงักไปกระจกมันถึงร่วงกราวลงมาน่ะ”ฉันกระแทกเสียงใส่หมอนั่นอย่างมีอารมณ์

    “เธอว่าไงนะลมหยุดชะงักเหรอ!!??”หมอนั่นถามเสียงเข้ม

    “ก็เออน่ะซิ!!”ฉันกระแทกเสียงใส่หมอนั่น

    “มีผู้ใช้เวทสกัด!!”หมอนั่นพูดเสียงห้วน

    “ห๊า!!..แล้วใครที่ใช้เวทสกัดเราล่ะ?”ฉันเอ่ยถาม

    “ไม่รู้..แต่คนที่ทำต้องมีเวทที่ไม่ธรรมดาแน่”หมอนั่นกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น

    “แล้วทำไมเค้าต้องทำร้ายเราด้วยล่ะ?”ฉันถามอย่างข้องใจ
    “อาจเพราะฉัน”หมอนั่นเอ่ยอย่างเหม่อลอยด้วยสายตาเศร้าสร้อย

    “ทำไมล่ะ?”ฉันเอ่ยถามเสียงอ่อนลง

    “เธออย่ารู้เลยเดี๋ยวเธอจะเดือดร้อนไปด้วยเปล่าๆ”หมอนั่นตอบด้วยเสียงที่หนักแน่น

    “แต่ตอนนี้ฉันก็เดือดร้อนเพราะนายอยู่แล้วนะ”ฉันเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่นไม่ยอมแพ้หมอนั่น

    “แต่ว่า…”หมอนั่นทำหน้าเหมือนกับมันเป็นเรื่องที่แย่มากที่จะเล่า

    “ช่างเถอะ  ฉันไม่อยากรู้แล้วฉันว่ารีบไปเรียกพี่เซดีสกับพี่คาตัสมาซ่อมกระจกพวกนี้ก่อนดีกว่า”ฉันเอ่ยตัดบทหหมอนั่น

    “อือ”หมอนั่นตอบสั้น
    ____________________________________________________________________________

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×