คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : จากลา....อย่างไม่มีวันกลับ (แก้ไขคำผิด)
บทที่เจ็ด จากลา อย่างไม่มีวันกลับ
ตลอดทางกลับบ้าน สาวน้อยเฝ้าครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ได้รับรู้ เธอไม่เข้าใจในหลายสิ่งในจดหมายนั้น แต่อัสรันไม่ได้โกหกเธอแน่ เพราะนั่นเป็นลายมือของพ่อจริงๆ ชื่อที่ลงท้ายไว้ นอกจากเธอกับแม่แล้วไม่มีใครรู้ว่าพ่อเธอชื่ออะไร แม้เธอจะยังสงสัยอยู่ แต่เขาก็ขอให้เธอกลับบ้านไปพักผ่อน เพราะเธอคุยกับเขาจนเลิกเรียน อัสรันบอกว่าจะรับเธอไป วันที่เธออายุสิบเจ็ด ....นั่นก็เป็นวันพรุ่งนี้แล้วนี่ ! เธอจะไปได้ยังไงในเมื่อเธอยังมีแม่ให้ต้องดูแล แต่ก็เอาเถิด อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ร่างเพรียวระหงเดินใจลอยจนถึงบ้าน รีบถอดรองเท้า แล้ววิ่งเข้าไปในครัวด้วยความเคยชิน มือเรียวสวมกอดคุณแม่จากข้างหลัง
" คิดถึงคุณแม่จัง " สาวน้อยอ้อน
พักนี้เธอมักจะคิดถึงคุณแม่บ่อยๆ มากกว่าที่เคย
ไม่ว่าจะนึกถึงเรื่องอะไรอยู่
ภาพของแม่ก็มักจะมาซ้อนทับภาพนั้นเสมอ
" เตรียมตัวรึยังลูก "คุณแม่หันมาเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มเศร้าๆ จนเธอรู้สึกแปลกใจ ตั้งแต่ที่คุณพ่อจากไป
คุณแม่ก็มักจะเศร้าอย่างนี้เสมอ
แต่คงไม่ใช่ครั้งนี้แน่ มันเศร้าเกินไปเหมือนกำลังจะสูญเสียสิ่งที่รัก
" คุณแม่หมายถึงอะไรคะ ? คุณแม่คิดว่าคีย์จะไปไหน? "
เธอเอ่ยอย่างเบาๆ มือยังคงกอดแม่ที่หันกลับมาคุยด้วย
" ลูกพบกับคุณอัสรันแล้วใช่ไหมจ๊ะลูก? "
ถ้อยคำนั้นทำให้สาวน้อยตกใจที่สุด คุณแม่ทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร ในเมื่อเธอยังไม่ได้เอ่ยปากเล่า
มันเป็นสิ่งยืนยันให้เธอได้รู้ว่า สิ่งที่เขาคนนั้นพูดเป็นความจริง
ร่างระหงยืนนิ่ง ในใจสั่นไหวสับสน
มือเรียวชุ่มไปด้วยเหงื่อตกลงข้างลำตัว
" เขามารับลูกของแม่แล้ว ลูกจะได้กลับไปในที่ๆลูกควรอยู่ตั้งแต่แรก ที่ๆไม่ใช่ที่นี่ "
ปลายเสียงขาดหาย หยาดน้ำตาไหลลงอาบใบหน้ามารดา
มือขาวบรรจงกอดลูกสาวไว้แนบอก เศร้าใจเหลือเกิน
เมื่อต้องจากสิ่งอันเป็นที่รักและหวงแหน
" คุณแม่อย่าร้องไห้สิคะ หนูจะไม่ไปไหนจะอยู่กับคุณแม่ตลอดไป เพราะฉะนั้นคุณแม่อย่าร้องไห้นะคะ"
มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาของผู้เป็นแม่
เธอไม่อยากเห็นคนที่เธอรักร้องไห้อย่างนี้เลย
" อย่าเลยลูก หนูอยู่กับแม่ต่อไปไม่ได้แล้ว
ลูกจำเป็นต้องไป สัญญากับแม่นะลูก
ว่าลูกของแม่คนนี้จะเข้มแข็ง ยืนหยัดต่อสู้อุปสรรคโดยไม่ท้อถอย
ลูกของแม่จะต้องเป็นคนที่สง่างามที่สุดในอาณาจักรแวมไพร์
สัญญากับแม่สิจ๊ะลูกรัก ........"
"ไม่ ! คีย์จะไม่ไปไหนทั้งนั้น หนูจะอยู่กับคุณแม่
ถ้าคุณแม่ยังคงผลักไสหนูแบบนี้
หนูจะไม่ไปกับใครหน้าไหนทั้งนั้น ! "
ร่างระหงเถียงจนตัวงอ
เธอจะไม่ยอมไปไหนแน่นอนไม่ว่าจะถูกบังคับเช่นไร
ผู้เป็นมารดามองดูลูกสาวด้วยแววตาเศร้าสร้อย
ไม่มีปฏิกิริยาใดๆอีกเลย
ได้แต่มองลูกสาวอย่างยืนยันในคำพูดของตัวเอง
ไม่มีการยอมอีกแล้ว เธอไม่ยอมทิ้งลูกในเหวลึก
เพียงเพราะอารมณ์อยากรั้งลูกเอาไว้อีก
ความสุขของลูกทั้งชีวิตต้องไม่พังด้วยมือของเธอ
สาวน้อยมองสบตามารดาอย่างรวดร้าว
แม่ไม่รักเธอหรือจึงผลักไสเธอให้คนอื่น
ทำไมไม่กอดเธอแล้วบอกกับเธอว่า
"ไม่มีใครจะพรากลูกของแม่ไปจากแม่ได้"ดังที่เธอหวัง
เธอจะอยู่ไปทำไมในเมื่อแม่ไม่รักเธออีกแล้ว
คิดอย่างนั้นเธอจึงหันหลังวิ่งออกจากบ้านไป
โดยไม่ฟังเสียงร้องเรียกด้วยความเป็นห่วงของผู้เป็นแม่...
ท้องฟ้ามืดมิดลงไม่มีดาวสักดวง
ซ้ำร้ายสายฝนยังกระหน่ำตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา
แต่ร่างระหงยังคงวิ่งไม่หยุด
จนเมื่อถึงสวนสาธารณะอันแสนคุ้นเคย
ความอบอุ่นที่เธอเคยได้รับทำให้เธอเลือกที่จะหยุดพักใจที่รวดร้าว
ไว้ตรงนี้ ร่างระหงที่ชุ่มไปด้วยน้ำจนหนาวสั่นนั่งลงบนม้านั่งใต้ต้นไม้ ใบที่บางของไม้ยืนต้นไม่อาจบดบังสายฝนที่กระหน่ำลงมาได้
จึงไม่ต่างอะไรกับการที่เธอนั่งกลางสายฝน
ที่แห่งนี้ เธอกับแม่เคยมาปิกนิกด้วยกัน
แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เธอก็มีความสุขมาก
แม่มักทำเค้กสตรอเบอรี่ที่เธอชอบ กับน้ำส้มคั้นสดๆให้เธอกิน
เธอเองก็ชอบที่จะนอนหนุนตักคุณแม่ แล้วก็ผล็อยหลับไปเสมอ
นับเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขช่วงหนึ่ง
ที่เธอเก็บรักษาไว้ในความทรงจำ
แต่! ถ้าเธอจากแม่ไปแล้วมันจะมีช่วงเวลาแบบนี้อีกหรือ
สมองน้อยๆเริ่มคิดทบทวน
เธอไม่อยากจากแม่ไป บางทีถ้าเธอลองพูดกับแม่ด้วยเหตุผล
แม่อาจจะเปลี่ยนใจ เธอน่าจะกลับไปหาแม่
ดีกว่าการหนีไปอย่างนี้ ร่างระหงลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ
เธอหาทางออกได้แล้ว
จึงรีบวิ่งไปตามทางเพื่อรีบกลับไปทำสิ่งที่เธอหวังว่าจะได้ผล
มุ่งหน้าผ่านตึกรามบ้านช่องที่เธอคุ้นเคย
แม้จะมืดมาก เพราะเธอออกจากบ้านมานานแล้ว
แต่ความมืดก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการกลับบ้านเลยแม้แต่น้อย
เธอวิ่งมาได้พักใหญ่
จึงได้เห็นร่างบางของผู้เป็นมารดายืนรอรับเธออยู่บนถนน
รอยยิ้มแสนดีใจถูกฉายชัดบนใบหน้าเรียว
เธอรีบเร่งฝีเท้าเพื่อวิ่งเข้าไปหาแม่ที่แสนใจดีของเธอ
อยากขอโทษที่วิ่งหนีออกมาจากบ้านและทำให้แม่เป็นห่วง
ฉับพลัน! รถสิบล้อคันใหญ่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง
พุ่งเข้าชนร่างผู้เป็นแม่เข้าอย่างจัง ร่างบางกระเด็นไปริมถนน
เพราะแรงกระแทก หัวใจสาวน้อยกระตุกวูบ
ถลามาประคองร่างบอบบางไว้บนตัก
เลือดของแม่ไหลกระจายเป็นวงกว้าง
ทั้งที่แม่เธอบาดเจ็บขนาดนี้
แต่รถสิบล้อตัวต้นเหตุกลับรีบขับหนีไปด้วยกลัวความผิด
"แม่! ...ฮือ...ฮือ อย่าเป็นอะไรนะ ช่วยด้วย! ช่วยด้วยค่ะ!
คุณแม่ของหนูถูกรถชน!ช่วยด้วย!" ร่างระหงตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างสุดเสียง
แต่เพราะเธออยู่ในซอยที่เปลี่ยวจึงไม่มีรถคันไหนยอมจอดช่วยเหลือเธอเลยแม้แต่น้อย
ใบหน้าของแม่ซีดเซียวลง ดวงตาปิดสนิทอย่างยอมรับความตาย
ที่กำลังจะมาถึง ร่างบางเริ่มกระตุก ลมหายใจขาดห้วง...
แม่ของเธอ พยายามหายใจ แต่ดูเหมือนการหายใจแต่ละครั้ง มันช่างยากเหลือเกิน ร่างเพรียวระหงกอดแม่ไว้แนบอก
เฝ้าบอกให้คุณแม่อดทน
แต่แล้วความพยายามดูจะไม่เป็นผล
ร่างบางกระตุกแรงๆเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะแน่นิ่งไป
มือขาวแสนอบอุ่นเสมอยามสัมผัสลูกตกลงกับพื้น.....
หยุดแล้วชีวิตที่ดิ้นรนมาตลอด
จบแล้วการทำหน้าที่ของแม่ที่แสนดี
มัจจุราชได้ฆ่าชีวิตแม่ของเธอเสียแล้ว........
"คุณแม่ !....."
เสียงกรีดร้องอย่างรวดร้าวสะท้อนก้องไปทั่วฝั่งถนน
ผสานกับเสียงนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืน
ช่างตอกย้ำความรู้สึกของผู้สูญเสียอย่างไม่มีวันจบสิ้น
เธออายุครบสิบเจ็ดปีแล้ว.........
แต่ทำไมวันเกิดของเธอ.....ถึงต้องเป็นวันตายของแม่ด้วย
ทำไมถึงใจร้ายพรากแม่สุดที่รักไปจากเธอ
ใจร้าย...ใจร้ายที่สุด
สายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ได้ชะล้างเลือดที่กระจายเป็นวงกว้างไปจนเกือบหมด
แต่ไม่มีวันชะล้างความทรงจำแสนโหดร้ายในใจเธอให้บรรเทาลงได้...
ความคิดเห็น