ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    shadow-moonlight พันธะสัญญารักอาณาจักรแวมไพร์

    ลำดับตอนที่ #7 : จากลา....อย่างไม่มีวันกลับ (แก้ไขคำผิด)

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ค. 50


    บทที่เจ็ด  จากลา…อย่างไม่มีวันกลับ

     ตลอดทางกลับบ้าน สาวน้อยเฝ้าครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ได้รับรู้  เธอไม่เข้าใจในหลายสิ่งในจดหมายนั้น แต่อัสรันไม่ได้โกหกเธอแน่ เพราะนั่นเป็นลายมือของพ่อจริงๆ  ชื่อที่ลงท้ายไว้ นอกจากเธอกับแม่แล้วไม่มีใครรู้ว่าพ่อเธอชื่ออะไร แม้เธอจะยังสงสัยอยู่  แต่เขาก็ขอให้เธอกลับบ้านไปพักผ่อน เพราะเธอคุยกับเขาจนเลิกเรียน อัสรันบอกว่าจะรับเธอไป วันที่เธออายุสิบเจ็ด ....นั่นก็เป็นวันพรุ่งนี้แล้วนี่ ! เธอจะไปได้ยังไงในเมื่อเธอยังมีแม่ให้ต้องดูแล  แต่ก็เอาเถิด อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
     

    ร่างเพรียวระหงเดินใจลอยจนถึงบ้าน รีบถอดรองเท้า แล้ววิ่งเข้าไปในครัวด้วยความเคยชิน มือเรียวสวมกอดคุณแม่จากข้างหลัง
     " คิดถึงคุณแม่จัง " สาวน้อยอ้อน
    พักนี้เธอมักจะคิดถึงคุณแม่บ่อยๆ มากกว่าที่เคย
    ไม่ว่าจะนึกถึงเรื่องอะไรอยู่
    ภาพของแม่ก็มักจะมาซ้อนทับภาพนั้นเสมอ
     " เตรียมตัวรึยังลูก "คุณแม่หันมาเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มเศร้าๆ จนเธอรู้สึกแปลกใจ ตั้งแต่ที่คุณพ่อจากไป
    คุณแม่ก็มักจะเศร้าอย่างนี้เสมอ
    แต่คงไม่ใช่ครั้งนี้แน่ มันเศร้าเกินไปเหมือนกำลังจะสูญเสียสิ่งที่รัก
     " คุณแม่หมายถึงอะไรคะ ? คุณแม่คิดว่าคีย์จะไปไหน? "
    เธอเอ่ยอย่างเบาๆ มือยังคงกอดแม่ที่หันกลับมาคุยด้วย
     " ลูกพบกับคุณอัสรันแล้วใช่ไหมจ๊ะลูก? "
     ถ้อยคำนั้นทำให้สาวน้อยตกใจที่สุด คุณแม่ทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร ในเมื่อเธอยังไม่ได้เอ่ยปากเล่า
    มันเป็นสิ่งยืนยันให้เธอได้รู้ว่า สิ่งที่เขาคนนั้นพูดเป็นความจริง
    ร่างระหงยืนนิ่ง ในใจสั่นไหวสับสน
    มือเรียวชุ่มไปด้วยเหงื่อตกลงข้างลำตัว
     " เขามารับลูกของแม่แล้ว ลูกจะได้กลับไปในที่ๆลูกควรอยู่ตั้งแต่แรก ที่ๆไม่ใช่ที่นี่ "
    ปลายเสียงขาดหาย หยาดน้ำตาไหลลงอาบใบหน้ามารดา
    มือขาวบรรจงกอดลูกสาวไว้แนบอก เศร้าใจเหลือเกิน
    เมื่อต้องจากสิ่งอันเป็นที่รักและหวงแหน
     " คุณแม่อย่าร้องไห้สิคะ หนูจะไม่ไปไหนจะอยู่กับคุณแม่ตลอดไป เพราะฉะนั้นคุณแม่อย่าร้องไห้นะคะ"
    มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาของผู้เป็นแม่
    เธอไม่อยากเห็นคนที่เธอรักร้องไห้อย่างนี้เลย
     " อย่าเลยลูก หนูอยู่กับแม่ต่อไปไม่ได้แล้ว 
    ลูกจำเป็นต้องไป  สัญญากับแม่นะลูก 
    ว่าลูกของแม่คนนี้จะเข้มแข็ง ยืนหยัดต่อสู้อุปสรรคโดยไม่ท้อถอย
    ลูกของแม่จะต้องเป็นคนที่สง่างามที่สุดในอาณาจักรแวมไพร์
    สัญญากับแม่สิจ๊ะลูกรัก ........"
     "ไม่ ! คีย์จะไม่ไปไหนทั้งนั้น หนูจะอยู่กับคุณแม่
    ถ้าคุณแม่ยังคงผลักไสหนูแบบนี้
    หนูจะไม่ไปกับใครหน้าไหนทั้งนั้น ! "
    ร่างระหงเถียงจนตัวงอ
    เธอจะไม่ยอมไปไหนแน่นอนไม่ว่าจะถูกบังคับเช่นไร
    ผู้เป็นมารดามองดูลูกสาวด้วยแววตาเศร้าสร้อย
    ไม่มีปฏิกิริยาใดๆอีกเลย
    ได้แต่มองลูกสาวอย่างยืนยันในคำพูดของตัวเอง
    ไม่มีการยอมอีกแล้ว เธอไม่ยอมทิ้งลูกในเหวลึก
    เพียงเพราะอารมณ์อยากรั้งลูกเอาไว้อีก
    ความสุขของลูกทั้งชีวิตต้องไม่พังด้วยมือของเธอ
    สาวน้อยมองสบตามารดาอย่างรวดร้าว
    แม่ไม่รักเธอหรือจึงผลักไสเธอให้คนอื่น
    ทำไมไม่กอดเธอแล้วบอกกับเธอว่า
    "ไม่มีใครจะพรากลูกของแม่ไปจากแม่ได้"ดังที่เธอหวัง
    เธอจะอยู่ไปทำไมในเมื่อแม่ไม่รักเธออีกแล้ว
    คิดอย่างนั้นเธอจึงหันหลังวิ่งออกจากบ้านไป
    โดยไม่ฟังเสียงร้องเรียกด้วยความเป็นห่วงของผู้เป็นแม่...
    ท้องฟ้ามืดมิดลงไม่มีดาวสักดวง
    ซ้ำร้ายสายฝนยังกระหน่ำตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา 
    แต่ร่างระหงยังคงวิ่งไม่หยุด
    จนเมื่อถึงสวนสาธารณะอันแสนคุ้นเคย
    ความอบอุ่นที่เธอเคยได้รับทำให้เธอเลือกที่จะหยุดพักใจที่รวดร้าว
    ไว้ตรงนี้ ร่างระหงที่ชุ่มไปด้วยน้ำจนหนาวสั่นนั่งลงบนม้านั่งใต้ต้นไม้ ใบที่บางของไม้ยืนต้นไม่อาจบดบังสายฝนที่กระหน่ำลงมาได้
    จึงไม่ต่างอะไรกับการที่เธอนั่งกลางสายฝน
    ที่แห่งนี้ เธอกับแม่เคยมาปิกนิกด้วยกัน
    แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เธอก็มีความสุขมาก
    แม่มักทำเค้กสตรอเบอรี่ที่เธอชอบ กับน้ำส้มคั้นสดๆให้เธอกิน
    เธอเองก็ชอบที่จะนอนหนุนตักคุณแม่ แล้วก็ผล็อยหลับไปเสมอ
    นับเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขช่วงหนึ่ง
    ที่เธอเก็บรักษาไว้ในความทรงจำ
     

    แต่! ถ้าเธอจากแม่ไปแล้วมันจะมีช่วงเวลาแบบนี้อีกหรือ
    สมองน้อยๆเริ่มคิดทบทวน
    เธอไม่อยากจากแม่ไป บางทีถ้าเธอลองพูดกับแม่ด้วยเหตุผล
    แม่อาจจะเปลี่ยนใจ เธอน่าจะกลับไปหาแม่
    ดีกว่าการหนีไปอย่างนี้  ร่างระหงลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ
    เธอหาทางออกได้แล้ว 
    จึงรีบวิ่งไปตามทางเพื่อรีบกลับไปทำสิ่งที่เธอหวังว่าจะได้ผล
    มุ่งหน้าผ่านตึกรามบ้านช่องที่เธอคุ้นเคย
    แม้จะมืดมาก เพราะเธอออกจากบ้านมานานแล้ว
    แต่ความมืดก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการกลับบ้านเลยแม้แต่น้อย
    เธอวิ่งมาได้พักใหญ่
    จึงได้เห็นร่างบางของผู้เป็นมารดายืนรอรับเธออยู่บนถนน
    รอยยิ้มแสนดีใจถูกฉายชัดบนใบหน้าเรียว
    เธอรีบเร่งฝีเท้าเพื่อวิ่งเข้าไปหาแม่ที่แสนใจดีของเธอ
    อยากขอโทษที่วิ่งหนีออกมาจากบ้านและทำให้แม่เป็นห่วง 

     ฉับพลัน! รถสิบล้อคันใหญ่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง
    พุ่งเข้าชนร่างผู้เป็นแม่เข้าอย่างจัง ร่างบางกระเด็นไปริมถนน
    เพราะแรงกระแทก หัวใจสาวน้อยกระตุกวูบ
    ถลามาประคองร่างบอบบางไว้บนตัก
    เลือดของแม่ไหลกระจายเป็นวงกว้าง
    ทั้งที่แม่เธอบาดเจ็บขนาดนี้
    แต่รถสิบล้อตัวต้นเหตุกลับรีบขับหนีไปด้วยกลัวความผิด
    "แม่! ...ฮือ...ฮือ อย่าเป็นอะไรนะ ช่วยด้วย! ช่วยด้วยค่ะ!   
    คุณแม่ของหนูถูกรถชน!ช่วยด้วย!" ร่างระหงตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างสุดเสียง
    แต่เพราะเธออยู่ในซอยที่เปลี่ยวจึงไม่มีรถคันไหนยอมจอดช่วยเหลือเธอเลยแม้แต่น้อย
     ใบหน้าของแม่ซีดเซียวลง ดวงตาปิดสนิทอย่างยอมรับความตาย   
    ที่กำลังจะมาถึง ร่างบางเริ่มกระตุก ลมหายใจขาดห้วง...       
      แม่ของเธอ พยายามหายใจ แต่ดูเหมือนการหายใจแต่ละครั้ง         มันช่างยากเหลือเกิน ร่างเพรียวระหงกอดแม่ไว้แนบอก 
            เฝ้าบอกให้คุณแม่อดทน                                                    
    แต่แล้วความพยายามดูจะไม่เป็นผล                                      
    ร่างบางกระตุกแรงๆเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะแน่นิ่งไป             
    มือขาวแสนอบอุ่นเสมอยามสัมผัสลูกตกลงกับพื้น.....   
      
    หยุดแล้วชีวิตที่ดิ้นรนมาตลอด
    จบแล้วการทำหน้าที่ของแม่ที่แสนดี                
    มัจจุราชได้ฆ่าชีวิตแม่ของเธอเสียแล้ว........
     

    "คุณแม่ !....."
    เสียงกรีดร้องอย่างรวดร้าวสะท้อนก้องไปทั่วฝั่งถนน
    ผสานกับเสียงนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืน    
    ช่างตอกย้ำความรู้สึกของผู้สูญเสียอย่างไม่มีวันจบสิ้น     
    เธออายุครบสิบเจ็ดปีแล้ว.........
    แต่ทำไมวันเกิดของเธอ.....ถึงต้องเป็นวันตายของแม่ด้วย   
    ทำไมถึงใจร้ายพรากแม่สุดที่รักไปจากเธอ        
    ใจร้าย...ใจร้ายที่สุด 
    สายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด             
    ได้ชะล้างเลือดที่กระจายเป็นวงกว้างไปจนเกือบหมด  

    แต่ไม่มีวันชะล้างความทรงจำแสนโหดร้ายในใจเธอให้บรรเทาลงได้...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×