พ่อค้าคนกลาง เสือนอนกิน? - พ่อค้าคนกลาง เสือนอนกิน? นิยาย พ่อค้าคนกลาง เสือนอนกิน? : Dek-D.com - Writer

    พ่อค้าคนกลาง เสือนอนกิน?

    น้องๆคงเคยได้ยินหรือได้เรียนมาจากโรงเรียนจนเกิดทัศนคติที่ไม่ดีกับพ่อค้าคนกลางว่าเป็นผู้เอาเปรียบ เอาเปรียบทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค เช่นพ่อค้าพวกนี้จะไปซื้อสินค้าเกษตรกรในราคาถูกมากเหมือนการขูดรีด เกษตรกรก็ไม่มีทางสู้เพราะหากไม่ขาย ผลผลิตก็เน่าเสีย แล้วพ่อค

    ผู้เข้าชมรวม

    590

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    590

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 พ.ค. 51 / 22:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      พ่อค้าคนกลาง เสือนอนกิน?

       

      น้องๆคงเคยได้ยินหรือได้เรียนมาจากโรงเรียนจนเกิดทัศนคติที่ไม่ดีกับพ่อค้าคนกลางว่าเป็นผู้เอาเปรียบเอาเปรียบทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค เช่นพ่อค้าพวกนี้จะไปซื้อสินค้าเกษตรกรในราคาถูกมากเหมือนการขูดรีด เกษตรกรก็ไม่มีทางสู้เพราะหากไม่ขาย ผลผลิตก็เน่าเสีย แล้วพ่อค้าพวกนี้ก็จะนำสินค้ามาขายพวกเราในราคาแพง

       

                      คราวนี้เรามาลองมองข้อดีของพ่อค้าคนกลางกันบ้าง โดยพี่จะขออ้างอิงข้อมูลจากหนังสือวิถีของธุรกิจขนาดเล็กซึ่งเขียนโดยคุณ นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์

       

      เหตุผลที่หลายๆคนมองว่า พวกพ่อค้าคนกลางเป็นกาฝากของสังคมหรือพวกเสือนอนกิน เพราะว่าพ่อค้าคนกลางเพียงแค่ซื้อสินมาจากผู้ผลิตแล้วนำมาขายต่อในราคาสูงกว่าเพื่อกินกำไรส่วนต่าง โดยไม่ได้ผลิตสินค้าเป็นของตัวเองซึ่งกระบวนการนี้ไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจเลย

       

        เมื่อยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาหลังจากอินเตอร์เน็ตเกิดขึ้น หลายคนได้ทำนายว่าพ่อค้าคนกลางจะหมดไปเพราะผู้บริโภคจะซื้อสินค้าโดยตรงกับผู้ผลิตผ่านโลกออนไลน์โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางอีกต่อไป มาถึงวันนี้ธุรกิจออนไลน์ต่างๆต่างหาก ที่เป็นฝ่ายล้มหายไป โดยที่ธุรกิจพ่อค้าคนกลางกลับแข็งแกร่งขึ้นทุกวันๆ แสดงให้เห็นว่าธุรกิจพ่อค้าคนกลางต้องมีคุณค่าอะไรบางอย่างที่เรามองไม่เห็น

       

                  เราลองมามองในแง่ของผู้บริโภคกันก่อน พ่อค้าคนกลางซึ้อสินค้าหลายๆอย่างมาจาก ผู้ผลิตหลายๆรายเพื่อนำมาขายต่อ ลองคิดดูว่าหากโลกนี้ไม่มีพ่อค้าคนกลาง วันไหนเราอยากกินสตอเบอร์รี่ขึ้นมา เราอาจจะต้องเดินทางไปไกลถึงภาคเหนือเพื่อซื้อสตอเบอร์รี่หนึ่งกล่องมากิน แต่ทุกวันนี้เราสามารถซึ้อสตอร์เบอร์รี่จากตลาดหน้าบ้านได้ด้วยเวลาไม่ถึงสิบห้านาที แล้วลองคิดดูว่าหากเราเปลี่ยนโจทย์จากสตอเบอร์รี่เป็นต้มยำกุ้งสักชาม เราไม่ต้องเดินทางไปหาเกษตรกรเกือบสิบรายเลยหรือ ลองคิดดูว่าเราสามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้มากขนาดไหนในการซื้อของจากพ่อค้าคนกลาง

       

                      คราวนี้มาลองมองในแง่ของผู้ผลิตกันบ้าง พ่อค้าสามารถแบ่งเบาภาระของผู้ผลิตได้มาก หากผู้ผลิตมีผู้รองรับว่าจะซื้อสินค้าของตนทั้งหมด ผู้ผลิตก็จะสบายใจ โดยไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะขายสินค้าให้ใคร ถ้าสินค้าเหลือจะทำอย่างไร ทำให้ผู้ผลิตมีเวลาเพื่อวางแผน พัฒนา และทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดที่ตนมีอยู่ให้กับการผลิต เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในขณะที่ผู้ผลิต เช่น ชาวนา หรือ เกษตรกร ที่ไม่สามารถนำผลผลิตหรือสินค้าของตนเองไปสู่ผู้บริโภคได้ในวงกว้าง ก็ต้องอาศัยพ่อค้าคนกลางในการนำผลผลิตของตนไปสู่ตลาด เพราะต้องการให้ผลผลิตของตนขายได้มากที่สุด ดังนั้น ระบบพ่อค้าคนกลาง จึงจำเป็นต้องมีอยู่ในระบบเศรษฐกิจ

       

        

                  น้องๆจะเห็นได้ว่าธุรกิจพ่อค้าคนกลางก็ไม่ได้มีแต่ความเลวร้ายเท่านั้น ก็เหมือนสัจธรรมของโลกนั่นแหละครับ ไม่มีอะไรขาว ไม่มีอะไรดำ แล้วแต่เราจะมอง

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×