ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Blind [Junghoon x Heechul ft. TRAX-Jay]

    ลำดับตอนที่ #2 : Ch. 2 Blind [Junghoon x Heechul ft. TRAX-Jay]

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 54




    แสงสว่างจ้าทิ่มแทงดวงตาทำให้ต้องลืมตาขึ้นช้าๆ และแสงสว่างนั้นเองก็ทำให้ต้องหลับตาลงอีกครั้ง

    “ตื่นแล้วหรือคะคุณหนู?”

    เสียงทักจากสตรีกลางคนร่างท้วมทำให้มองอย่างแปลกใจ

    “คุณ?.....”

    “ฉันเป็นคนดูแลคุณหนูใหญ่ค่ะ...สกุลลี”

    “คุณนายลี...” ฮีชอลทวนเบาๆ อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นรอยยิ้มใจดีถูกส่งมาให้

    “คุณหนูหลับไปนานเชียวนะคะ เป็นยังไงบ้าง หิวหรือเปล่า?”

    “ป้าทำซุปไว้ให้ ไม่ร้อนหรอกนะ อุ่นๆกำลังพอดี คุณหนูทานหน่อยนะคะ”

    น้ำเสียงใจดีและท่าทางเอาอกเอาใจนั้นทำให้ยากจะปฏิเสธ ฮีชอลรับถ้วยซุปมาตักกินช้าๆ

    “อร่อยมั้ยคะ? คุณหนูใหญ่เธอสั่งเอาไว้ว่าให้คุณหนูทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่ายๆ”

    คำว่า “คุณหนูใหญ่” ทำให้ความอยากอาหารก็ลดลงจนแทบจะวางช้อน

    “อิ่มแล้วหรือคะ? ทานไปนิดเดียวเอง”

    ฮีชอลฝืนยิ้มให้ แต่เพียงแว่บเดียวรอยยิ้มก็หายไปพร้อมเสียงห้าวๆที่ดังขึ้นจากประตู

    “คนไข้เป็นยังไงบ้างครับคุณลี?”

    ร่างสูงในชุดลำลองเดินเข้ามาในห้อง ฮีชอลเผลอสบตาแว่บหนึ่งก่อนเบือนหน้าหนี

    จองฮุนมองดูคนบนเตียงที่ทำท่าเหมือนเขาเป็นตัวเชื้อโรคก่อนเบนสายตาไปยังถ้วยซุปที่พร่องไปเกินครึ่งแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ

    “กินอะไรแล้วก็ดี จะได้กินยา”

    คำว่ายาทำให้ใบหน้าซีดเซียวหันกลับมาอีกครั้งอย่างไม่ตั้งใจ  ดวงตามองถ้วยยาบนโต๊ะอย่างไม่ชอบใจนัก

    ท่าทางปฏิเสธยิ่งกว่าตอนให้กินข้าวทำให้จองฮุนรู้สึกได้ว่า การบังคับให้กินข้าวว่ายากแล้ว บังคับให้กินยาน่าจะยากกว่าหลายเท่า

    “คุณลียกอาหารที่เหลือออกไปได้เลยครับ ตรงนี้ผมจัดการเอง”

    เสียงทุ้มสั่งผู้ดูแลก่อนพยักหน้าให้ผู้ติดตามในห้องออกไปเช่นกัน ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบจนได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆเดินมาหยุดที่หน้าเตียง

    “กินยาซะ”

    ถ้วยยาถูกยื่นมาให้พร้อมเสียงบอกเรียบๆ ไม่มีการขู่เข็ญ แต่ก็ไม่ได้ปลอบโยนเอาใจเหมือนคุณแม่บ้านผู้ดูแล

    ฮีชอลเงยหน้ามองอย่างถือดี

    “ถ้าไม่กิน นายจะทำกับฉันแบบคราวก่อนอีกหรือไง?”

    “ถ้าอยากให้ทำแบบนั้นก็ย่อมได้”

    ร่างสูงเดินมาชิดจนคนบนเตียงต้องถอยกรูด ตามองถ้วยยาอย่างไม่ไว้ใจ จองฮุนยื่นถ้วยยามาจ่อตรงหน้า

    “กินยาซะ”

    “ไม่กิน! อยากกินก็กินเองเลยไป!

    พูดไม่พูดเปล่ายังกล้าพอจะปัดมือออก จองฮุชะงักนิดหนึ่งก่อนยักไหล่

    “จะเอาอย่างนั้นก็ได้ ถ้านายไม่กินเอง ฉันจะช่วยกินให้”

    ถ้วยยาถูกยกขึ้นใส่ปากคนพูดเอง ฮีชอลมองตามตาโต แต่ก่อนจะทันพูดอะไรมือใหญ่ก็คว้าลำคอบางไว้แล้วแนบริมฝีปากลง

    “อื๊อ!!!!!!!” เสียงประท้วงพร้อมดิ้นสุดแรงแต่มือหนายังคงกดท้ายทอยไม่ปล่อย ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากอุ่นเพื่อส่งผ่านของเหลวในปากไปให้และยังคงประกบริมฝีปากไว้แบบนั้นจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายกลืนยาทั้งหมดลงคอไปแล้ว

    “ไอ้บ้า! ไอ้โรคจิต!!!

    ฮีชอลตะโกนสุดเสียงเมื่ออีกฝ่ายถอนริมฝีปากออก ร่างบางพุ่งเข้าหาหมายจะทำร้ายคนตรงหน้าที่บังอาจทำแบบนี้กับเขา

    มือหนาคว้าหมัดเล็กๆที่ลอยมาได้ทันก่อนจะดึงร่างเล็กจนเซมาปะทะอก ถามเสียงยั่ว

    “ติดใจหรือไง? หรืออยากโดนอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่มียาแล้วนะ มีแต่ปากกับน้ำลายเพียวๆนี่แหละจะเอารึเปล่า”

    เพียะ!

    มือเล็กสะบัดออกจากการเกาะกุมได้ก็ตบเข้าที่แก้มสากเต็มแรงจนรอยนิ้วแดงเห่อขึ้นทันใจ

    นายใหญ่แห่งฮวายงตาวาวโรจน์

    “คุณชายครับ”

    ลูกน้องคนสนิทปราดเข้ามาขัดจังหวะเพื่อรายงานบางอย่างอย่างรวดเร็ว จองฮุนนิ่งไปอึดใจ ปรายตามองร่างเล็กที่นั่งซุกอยู่มุมเตียง

    เมื่อผู้รายงานถอยไปแล้วคุณชายแห่งฮวายงจึงหันกลับมาที่ฮีชอลอีกครั้ง ชายหนุ่มมองท่าทางกราดเกรี้ยวนั้นก่อนจะแค่นหัวเราะในคอ

    “หึ”

    “หนึ่งจูบกับโดนตบหนึ่งที แลกกันแค่นี้ก็ยังไหวนะฮีชอล...”

    ดวงตายิ้มเย้ยแปรเป็นแข็งกระด้างเมื่อจับต้นแขนเล็กบีบแน่น

    “ฉันเคยบอกนายแล้วว่าฉันไม่ใจดีเหมือนพระเอกในละคร เพราะฉะนั้นถ้ายังรักตัวเองรักครอบครัวล่ะก็ ต่อไปหัดทำตัวว่าง่ายกว่านี้บ้าง!

    อีกครั้งที่ร่างเล็กถูกปล่อยลงเหมือนตุ๊กตาไร้ค่า ฮีชอลกัดริมฝีปากจนรู้สึกถึงเลือดที่ซ่านขึ้นในปาก

    ราวกับจะให้รสเลือดนั้นล้างรสจูบที่ได้รับไปให้หมดสิ้น

     

    ฮีชอลละมือจากพู่กันเมื่อได้ยินเสียงภาชนะดังกระทบกันกรุกกริก

    “หิวรึยังคะคุณหนู พักทานของว่างก่อนนะคะ”

    “ยังไม่ค่อยหิวเลยฮะ ตอนเที่ยงกินข้าวไปตั้งเยอะ” บอกพร้อมยิ้มให้ด้วยท่าทางของเด็กน้อย

    “ทานเยอะๆดีแล้วค่ะ คุณหนูใหญ่กำชับนักหนาว่าให้คอยดูแลให้คุณหนูทานข้าวให้ได้ ถึงกับบอกว่าถ้ามื้อไหนคุณหนูไม่ทาน หรือทานได้น้อยล่ะก็ พ่อครัวจะถูกลงโทษเชียวนะคะ”

    ประโยคนั้นฟังเหมือนจะดี แต่ก็ยังคงแสดงความใจร้ายและเอาแต่ใจแบบนายใหญ่เหมือนเดิม

    ผู้สูงวัยคงสังเกตสีหน้าที่ซีดลงได้จึงรีบบอก

    “ปกติแล้วคุณหนูใหญ่ไม่ใช่คนใจร้ายหรอกค่ะ แต่ที่ขู่แบบนั้นก็เพราะกลัวคุณหนูจะไม่ยอมทานข้าว คราวก่อนที่คุณหนูไม่สบายไป เธอยังห่วงจะแย่ เรียกหาหมอวุ่นวาย พอคุณนอนเพ้อ เธอก็โวยวายยังกับเป็นคนเจ็บซะเอง”

    “..................”

    “ตอนคุณยังไม่ฟื้น ก็คุณหนูใหญ่นี่แหละค่ะที่เข้ามาดูคุณทุกวัน เห็นคุณตัวร้อนไปหน่อย หน้าซีดไปนิด อะไรผิดตานิดเดียวก็โวยวายให้ตามหมอ จนแทบไม่มีใครเป็นอันทำอะไร”

    ฮีชอลตาโต ฟังคำบอกเล่าของคุณลีอย่างประหลาดใจ

    คนใจร้ายคนนั้นดูแลเขาขนาดนั้นจริงๆหรือ

    “เพราะต้องดูแลงานทุกอย่างแทนคุณท่านที่เสียไป คุณหนูใหญ่เลยต้องทำตัวเข้มแข็ง จนบางทีก็กระด้างไปบ้าง แต่จริงๆแล้วเธอใจดีนะคะ แล้วก็เป็นคนขี้สงสาร....”

    “....................”

    “คุณลี...ฮีชอลกินข้าวรึยังครับ?”

    เสียงถามดังขัดบรรยากาศดังมาก่อน ร่างสูงเดินเร็วๆมาตามระเบียง ชะงักนิดหนึ่งเมื่อเห็นคนที่ถามถึงนั่งวาดรูปหน้าเฉย

    คุณนายลียิ้มให้ก่อนจะตอบคำถามนั้นเสียเอง

    “ทานข้าวเที่ยงเรียบร้อยแล้วค่ะคุณหนูใหญ่ นี่กำลังจะทานของว่าง คุณหนูใหญ่ไปไหนมา ทานอะไรมารึยัง”

    “ยังเลยครับ คุณลีจัดอะไรให้ผมอย่างนึง ยกออกมาให้ตรงนี้ก็ได้”

    หญิงกลางคนรับคำสั่งแล้วเดินออกไป

    “.................”

    “ยังปวดท้องอีกรึเปล่า?”

    เสียงถามเรียบเหมือนถามงานกับลูกน้องคนหนึ่ง ฮีชอลเม้มปากนิดก่อนส่ายหน้า

    “ทำอะไรอยู่?”

    “..................”

    ไม่มีคำตอบ แต่ถึงจะไม่ตอบคนถามก็เห็นได้ไม่ยากเพราะทั้งสมุดวาดเขียน พู่กัน และสีวางอยู่ตรงหน้า

    “วาดรูปอะไร?”

    “................”

    ไม่มีคำตอบอีกครั้ง คราวนี้คนถามชักหมดความอดทน เสียงจึงเข้มขึ้น

    “คุยกับฉันมันเสียเกียรติคุณหนูแห่งแทฮวานักรึไง?!

    คำตอบคือความเงียบ คราวนี้มือหนาเอื้อมมาดึงสมุดวาดเขียนจากมือเล็กโยนทิ้งไปอีกทางก่อนจับต้นแขนเล็กเขย่า

    “ฉันถามทำไมไม่ตอบ?!

    ฮีชอลนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ พยายามบิดตัวจากมือที่บีบแขนเขาไว้แน่น

    “ปล่อย!

    “ตอบคำถามมาก่อน!

    “ทำไมต้องตอบ? ก็เห็นๆอยู่ว่าทำอะไรทำไมต้องถาม ไม่มีตาดูเองรึไง!

    เสียงใสตะโกนตอบกลับไปบ้าง พยายามใช้กำลังทั้งหมดที่มีดันไหล่อีกฝ่ายสุดแรงจนร่างสูงล้มลงกับพื้น

    แต่ยังไม่ทันที่ฮีชอลจะรู้สึกอิ่มเอมกับชัยชนะครั้งนี้ สัมผัสเปียกชื้นที่ฝ่ามือทำให้ต้องยกมือขึ้นดูก่อนอุทานอย่างตกใจ

    “คิมจองฮุน!

    ร่างสูงที่ล้มลงนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด มือหนากดหัวไหล่ตัวเองที่มีเลือดไหลซึม

    “จองฮุน!

     

    ร่างหนาที่ถูกพันด้วยผ้าพันแผลทั้งส่วนบนของร่างกายพยายามยันตัวลุกขึ้นอย่างช้าๆพลางโบกมือห้ามลูกน้องที่จะเข้ามาช่วยเหลือ ดวงตาสีเหล็กแสดงความเจ็บปวดวูบเดียวก็จางหาย

    สิ่งที่มากกว่าความเจ็บปวดคือความคั่งแค้น

    ไอ้จองฮุน!

    สีหน้าและแววตาเยาะเย้ยของมันยังติดตา หลังจากที่เจย์พากลุ่มแทฮวาบุกคฤหาสน์ฮวายงแต่ไม่พบตัวฮีชอลแม้แต่เงา

    “แกโง่รึเปล่าที่คิดว่าฉันจะเอาตัวคุณหนูของแกมาไว้ที่นี่?”

    “คนอย่างคุณหนูคิมฮีชอลเหมาะกับสถานที่ทรงเกียรติก็แค่เฉพาะคฤหาสน์ของแทฮวาเท่านั้นแหละ อย่าหวังว่าฉันจะพาคนของแกเข้ามาเหยียบบ้านฉันเลย”

    “แกพาฮีชอลไปไว้ไหน?!” เจย์กระชากเสียงถาม คำตอบที่ได้รับคือรอยยิ้มหยัน

    “ไม่นานหรอกเจย์ คิม...ไม่นาน...ถ้าแกจะใช้กำลังน้อยลงแล้วใช้สมองทบทวนข้อตกลงของเราให้มากกว่านี้”

    “ไอ้เหี้ยเอ๊ย!

    มือหนาปัดแจกันข้างเตียงตกพื้นดังเปรื่อง เสียงทุ้มตวาดก้อง

    “หาตัวฮีชอลให้เจอ! ต่อให้ต้องถล่มเขตคุ้มครองของฮวายงยังไงก็ตาม พาตัวฮีชอลกลับมาให้ได้!

    ฮีชอล...

    ได้โปรด...อย่าเป็นอะไรไปเลยนะฮีชอล

     

    ร่างเล็กยืนลังเลอยู่หน้าห้องนอนใหญ่ นานๆครั้งจึงทำท่าเหมือนจะเปิดประตูเข้าไปแต่ก็ไม่กล้า จึงได้แต่เดินวนไปวนมาอย่างนั้น

    นึกโกรธตัวเองเหมือนกันที่คิดกังวลกับความเจ็บป่วยของอีกฝ่ายขนาดนี้ ทั้งๆที่เขาน่าจะดีใจที่ได้เห็น

    คุณชายใหญ่แห่งฮวายงล้มทั้งยืน

    ถ้าเป็นเจย์ คงรีบซ้ำจนไม่เหลือ

    เพราะแบบนี้สินะ พ่อถึงเลือกเจย์ให้เป็นคนดูแลทุกอย่าง รวมถึงดูแลเขา

    ป่านนี้....จะเป็นยังไงบ้าง?....

    ความคิดถึงเจย์บวกกับภาพร้ายๆที่คนใจร้ายเคยทำเอาไว้ทำให้ความห่วงกังวลลดลงไปได้ ฮีชอลถอนหายใจยาว

    คนคนนี้จะเป็นอะไรไปก็ไม่เกี่ยวกับเขา

    ดีเสียอีก ถ้าจองฮุนแย่ลงเท่าไหร่เขาก็ยิ่งมีโอกาสรอดได้มากเท่านั้น

    “แค่ก.....แค่ก....แค่ก....”

    เสียไอแหบๆดังมาจากในห้อง ทำให้คนที่คิดจะเดินจากไปชะงัก

    “แค่ก...แค่ก...แค่ก...แค่ก.....”

    เป็นอะไรมากหรือเปล่า?...

    “แค่ก...แค่ก...แค่ก....แค่ก....แค่ก....”

    มือบางค่อยๆเปิดประตู โผล่หน้าเข้าไปช้าๆ

    ร่างสูงนอนหลับอยู่บนเตียง ครึ่งตัวบนถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผล เมื่อเดินเข้าไปใกล้จึงเห็นแผลที่หัวไหล่มีเลือดซึมเล็กน้อย และยังมีบาดแผลอื่นๆตามร่างกายรวมถึงรอยฟกช้ำอีกหลายแห่ง

    ใบหน้าที่เคยเครียดขรึมดูซีดเซียวและอ่อนกำลัง ริมฝีปากแตกแห้ง

    “น้ำ.....”

    เสียงพึมพำแหบแห้ง ฮีชอลขมวดคิ้วก่อนชะโงกตัวเข้าไปใกล้

    “น้ำ.....หิวน้ำ.....”

    น้ำงั้นเหรอ?......

    เหยือกน้ำพร้อมแก้ววางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง แต่ในสภาพแบบนี้ให้ดื่มเข้าไปก็สำลักตายเท่านั้น

    จะหาผ้าชุบแตะให้ก็ไม่มี

    เสียงไอถี่ๆดังอีกครั้งราวจะเร่งเวลา ทำให้คนยืนมองต้องตัดสินใจ

    ฮีชอลเม้มปาก ภาพที่ถูกบังคับให้กินยาวันก่อนย้อนกลับมาในสมอง

    มือบางรินน้ำใส่แก้วยกขึ้นดื่มเอง 2-3 อึก ก่อนจะอมน้ำไว้ในปากแล้วค่อยๆก้มตัวลงประกบปากกับคนเจ็บ

    ...

    ริมฝีปากแห้งปิดสนิททำให้ต้องสอดลิ้นเข้าไปเปิดทางเพื่อจะถ่ายเทน้ำให้...ถอนปากออกเมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายกลืนน้ำทั้งหมดลงไปแล้ว

    ...

    “น้ำ....”

    เสียงบอกเบาๆดังมาอีก ฮีชอลขมวดคิ้ว

    สัมผัสเมื่อครู่บอกให้รู้ว่ามีความร้อนในตัวคนเจ็บค่อนข้างสูง คนตัวเล็กจึงตัดสินใจ

    ยอม...ทำให้อีกครั้ง

    ริมฝีปากนุ่มแนบลงอีกครั้ง คราวนี้ไม่ต้องใช้ความพยายามเหมือนคราวก่อนเพราะริมฝีปากแห้งเผยอรับ ลิ้นร้อนสอดเข้ามาก่อนที่ฮีชอลจะทันตั้งตัวเสียอีก

    “อื้อ! อื๊อ!!!

    ร่างเล็กดิ้นเมื่อรู้ตัวว่าโดนหลอกแต่มือหนากดท้ายทอยไว้ไม่ยอมปล่อย ริมฝีปากร้อนกดย้ำพร้อมสอดลิ้นสำรวจโพรงปากเขาจนแทบหมดลม

    “อื้อ.........”

    เสียงประท้วงดังในคอ มือเล็กทุบลงตรงหน้าอกอย่างอ่อนแรง เมื่อนั้นแหละจองฮุนจึงยอมถอนจูบ

    “คนบ้า! ไอ้โรคจิต!

    ฮีชอลตวาดใส่หน้าด้วยความโมโหสุดขีด สารพัดคำด่ามารออยู่ปลายลิ้นแต่กลับพูดไม่ออกเมื่อเห็นแววตาขำขัน

    สนุกนักใช่มั้ยที่ได้แกล้งกันแบบนี้

    คนตัวเล็กกำหมัดแน่น รู้สึกถึงเลือดร้อนๆที่ฉีดขึ้นมารวมกันบนใบหน้า

    ไม่เคยสักครั้งที่จะมีใครกล้าทำกับเขาขนาดนี้

    “เรียนรู้เร็วเหมือนกันนี่ หรือว่าติดใจวิธีแบบนี้แล้ว?”

    เสียงห้าวดังมาอีก ไม่ว่าคนพูดจะตั้งใจให้มันมีความหมายอย่างไรก็ตาม แต่ฮีชอลก็ตีความได้แค่การเยาะหยันเท่านั้น

    ดวงตาวาววับคุโชนจ้องลึกลงไปในดวงตาสีนิล

    ไม่มีคำพูดอื่น นอกจากน้ำตาเพียงหยดเดียวที่เอ่อล้นหน่วยตาเท่านั้นที่จองฮุนมีโอกาสได้เห็นก่อนร่างบางจะหันหลังเดินออกไปจากห้อง

    “ฮีชอล...”

     

    คิมจองฮุนโกรธและเกลียดตัวเองนักที่ทำให้เรื่องทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้

    เมื่อไหร่กันที่เขาสนใจความรู้สึกของคนที่เขาคิดว่าเป็นตัวแทนของฝ่ายตรงข้าม เป็นตัวแทนของศัตรู

    คนที่เขานำมาเป็นข้อต่อรอง คนที่เขาคิดว่าถ้าจะต้องทำลายให้สิ้นไปพร้อมกลุ่มแทฮวาก็ไม่เป็นไร

    แต่เพียงแค่ได้เห็นน้ำตาหยดนั้น เพียงแค่ได้รับรู้ถึงความเกลียดชังจากสายตาคู่นั้น

    ทำไมเขาถึงรู้สึกเจ็บปวด?....

    เจ็บปวดในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ทั้งที่เป็นเรื่องเล็กน้อย ทั้งที่แค่เพียงจะแกล้งเล่นด้วยอารมณ์ชั่ววูบ

    แต่ปฏิกิริยาที่ตอบกลับมาทั้งร่างกายและดวงตาแสดงความโกรธเคืองจริงจังจนเขารู้สึกเจ็บ

    เจ็บปวดเมื่อเห็นสายตาคู่นั้นมองมาอย่างหวาดระแวง

    ใจหายเมื่อเขาเดินเข้าไปหาแล้วอีกฝ่ายถอยหนี

    มันก็แค่ปฏิกิริยาของเหยื่อที่มีต่อผู้ล่าที่เหนือกว่า

    ชิงชังและหวาดกลัว

    ฮีชอลแสดงความรู้สึกตัวเองได้ถูกต้องแล้ว และเขาเองก็ควรพอใจที่มันเป็นไปแบบนั้น

    แต่กลับเป็นตัวเขาเองที่รู้สึกผิดแปลกไป

    เสียงประตูเปิดและปิดลงเบาๆ จองฮุนหันไปมองพร้อมหัวใจที่โลดขึ้น

    ร่างบางประคองถาดอาหารเดินหน้าเฉยเข้ามาในห้อง วางถาดอาหารลงแล้วถอยออกไปในระยะที่กะแล้วว่าปลอดภัย

    “คุณลีให้เอาข้าวมาให้” เสียงบอกเรียบ ไม่ต่างจากเวลาได้รับรายงานจากลูกน้อง

    “ขอบใจ”

    บอกพลางพยายามยันตัวลุกขึ้น ฮีชอลเหลือบตามองการขยับตัวอย่างลำบากนั้นแต่ไม่ยอมเข้าไปช่วยเหลือ จองฮุนยืดแขนที่ใช้การได้ดีเพียงข้างเดียวเลื่อนถาดอาหารเข้ามาใกล้ก่อนพยายามตักกินเอง แต่ความตึงบาดแผลทำให้ต้องราช้อนบ่อยครั้ง

    ในที่สุด คนยืนมองก็หมดความอดทน มือบางคว้าช้อนมาจากมือใหญ่ก่อนจัดการตักข้าวป้อนให้

    “คุณลีไปไหน?”

    ถามเพราะอยากได้ยินอีกฝ่ายพูดอะไรบ้าง ฮีชอลเหลือบตามองก่อนตอบด้วยท่าทางเสียไม่ได้

    “ออกไปข้างนอก”

    “แล้วทำไมต้องเอาเข้ามาเอง?”

    “ไม่มีใครอยู่ กลัวคนอดข้าวตาย”

    คำตอบรวนๆทำให้คนฟังเกือบยิ้ม แต่ต้องทำหน้าเฉยต่อไป

    “ฉันตายไปนายน่าจะดีใจนะ”

    “ไม่ใจดำขนาดนั้น”

    “เป็นห่วงรึไง”

    “ห่วงตัวเองมากกว่า ถ้าคุณชายใหญ่แห่งฮวายงตายไปใครจะเป็นคนต่อรองกันแทฮวา”

    คำตอบนั้นเหมือนมีดกรีดบรรยากาศที่เริ่มผ่อนคลายให้ขาดสะบั้น ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาขันเกลียวความรู้สึกให้ตึงขึ้นอีกครั้ง

    “งั้นหรือ...”

    จองฮุนแค่นเสียง

    ทั้งหมดก็แค่เขาคิดไปเองคนเดียวเท่านั้น

    “คุณชายใหญ่แห่งฮวายงไม่ตายง่ายๆหรอก ถ้าจะห่วงก็ห่วงนายใหญ่แห่งแทฮวาเถอะ ป่านนี้ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตล่ะมั้ง”

    มือที่จับช้อนป้อนข้าวให้ตกลงทันที ดวงตากลมโตเบิกกว้างมีแววตกใจสุดขีดที่ทำให้คนมองเจ็บแปลบ

    เจย์!

    ที่เขาเป็นแบบนี้ เพราะมีเรื่องกับเจย์งั้นหรือ?

    ดวงตายังคงจ้องมองร่างที่พันด้วยผ้าพันแผลไว้ตาไม่กระพริบ

    ถ้าคุณชายใหญ่แห่งฮวายงเจ็บขนาดนี้ แล้วเจย์จะเจ็บขนาดไหน

    ฮีชอลวางถ้วยข้าวลงบนโต๊ะก่อนจะลุกยืนอย่างช้าๆ

    “.................”

    “ฮีชอล”

    “.................”

    “ฮีชอล”

    อีกครั้งที่จองฮุนต้องมองร่างเล็กหันหลังเดินจากเขาไป

     

    TBC




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×