คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : chapter 1 : Friend*
It ‘s so hard to pretend to be friends with someone special
when everytime you look at the person,
all you see is everything you want to have.
01
แสงแห่งรุ่งอรุณสาดส่องผ่านม่านสีทึบ เป็นเครื่องเตือนร่างบางที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงให้ตื่นจากการนิทรา ขนตาหนาแพรยาว ค่อยๆกระพริบส่งสัญญาณว่าเจ้าของร่างได้ตื่นจากความฝันที่กักขังตนเอาไว้แล้ว
"อืม อะ..โอ๊ย!" คนง่วงงุนร้องขึ้นทันทีเมื่อขยับตัวแล้วรู้สึกถึงความเจ็บปวดแล่นไปตามร่างกาย ตากวางลืมขึ้นฉับพลันพลางมองฝ้าเพดานค้างนิ่งเมื่อยังรู้สึกว่าตัวเองพึ่งผ่านเหตุการณ์เมื่อคืนมาเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว หัวใจที่เต้นด้วยความหนักหน่วงจนเจ็บอกทำให้รู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝันแต่อย่างใด
คนตัวเล็กยันตัวขึ้นจากเตียงด้วยความเหนื่อยล้าพลันสายตาสังเกตเห็นรอยช้ำน่ากลัวบริเวณข้อมือ ก่อนจะค่อยๆเลื่อนชายเสื้อนอนขึ้นไปแล้วก็อดตกใจไม่ได้เมื่อรอยช้ำประปรายปรากฏอยู่ทั่ว
นี่มันอะไรกัน..
"ไม่ใช่แค่ฝันสินะ...." ร่างบางลูบไปตามรอยช้ำพวกนั้นพลางนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน สายตาทั้งสามคู่ที่มองมาให้ความรู้สึกแตกต่างกัน
คนหนึ่งหิวกระหาย...
คนหนึ่งซ่อนเร้นอะไรบางอย่าง...
ส่วนอีกคนเป็นสายตาที่ตรึงเขาไว้กับที่ เมื่อกลั้นใจสบตาไปแล้วเหมือนถูกช่วงชิงลมหายใจและจะตายให้ได้กับดวงตาที่มีเสน่ห์คู่นั้น
"ไม่อยากจะเชื่อเลย ให้ตายเถอะ" ว่าพลางยกมือขึ้นขยี้ผมที่ยุ่งเหยิงของตน เขาต้องขอบคุณทุกๆอย่างที่ช่วยให้เขารอดมาได้ ไม่อย่างนั้นดีโอคงช็อคตายถ้าเห็นคดีน่าสยดสยองในหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เป็นรูปศพเขาน่ะนะ
ถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าก่อนจะเตรียมลุกจากเตียง ในขณะที่ขาสัมผัสพื้นเย็นเฉียบ สายตาก็เหลือบไปเห็นรูปที่ตั้งอยู่หัวเตียง และก็เป็นอีกครั้งที่มันหม่นแสงลง มือเรียวหยิบกรอบรูปขึ้นมาพลางจดจ้องไปยังรูปภาพที่ครั้งหนึ่งเคยพูดได้ว่าเป็นรูปครอบครัว
"ใจร้ายกันจังเลยนะ" กล่าวกับใบหน้ายิ้มแย้มของคนในรูปก่อนที่รอยยิ้มเจ็บปวดจะปรากฏขึ้นบนใบหน้า ลู่หานพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อไล่ความรู้สึกน้อยใจพวกนี้ไปแต่แล้วมันก็ไม่เคยสำเร็จเหมือนทุกครั้ง
“ทำไมถึงทิ้งผมไว้คนเดียว..” ปลายนิ้วสวยลูบไล้ไปตามใบหน้าของคนที่เขารักที่สุด “มันทรมานมากรู้ไหมที่ต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวแบบนี้”
“ผมเหนื่อย...ผม--ฮึก” เสียงสั่นพร่าเกินกว่าจะเอ่ยจบ ลู่หานพยายามกลืนก้อนสะอื้นลงไป เขาร้องไห้อีกแล้ว ช่างน่าผิดหวังในตัวเองเสียจริงๆ ทั้งที่สัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าจะไม่อ่อนแอ “ทำไมพี่..ฮึก—ถึงเลือกที่จะหายไป”
“คุณแม่บอกให้เราดูแลกันและกันไม่ใช่หรอ—ฮึก ฮือ แล้วทะ ทำไมมีแค่ผมที่โดนทิ้งไว้คนเดียวแบบนี้ ฮือ” ใบหน้าสวยซบลงกับหัวเข่าที่ตอนนี้นำมันมาโอบกอดต่างพี่ชาย น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลลงมา จนทำให้บรรยากาศในเช้าที่แสนสดใสนี้หม่นหมองลง.....เหมือนกับทุกวัน..
#
"สายแล้ว!" ลู่หานร้องขึ้นหลังเหลือบดูนาฬิกาข้อมือที่เหลืออีกสิบนาทีก็จะถึงเวลาเข้าเรียน สองขารีบวิ่งไปตามฟุตบาทด้วยความร้อนรน ต้องรีบไปให้ทันก่อนประตูรั้วโรงเรียนจะปิดลง
"ลู่หาน!" ขาเรียวหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคยเรียกชื่อตน ใบหน้าหวานหันไปตามเสียงเรียกก่อนรอยยิ้มกว้างจะเผยออกมาด้วยความดีใจ
"ดีโอ!"
เรียกชื่ออีกคนออกมาด้วยความยินดี ดีโอที่นั่งอยู่ในรถประจำตระกูลของตน กวักมือเรียกให้ลู่หานรีบขึ้นไป
"ทำไมวันนี้มาสายล่ะ" มือเล็กไม่ต่างกันเอื้อมมาปัดใบไม้ออกจากเส้นผมของอีกคน ริมฝีปากอิ่มเอ่ยคำถามพร้อมกับใช้สายตากวาดพิจารณาดวงหน้าของเพื่อนสนิทที่กำลังถอดกระเป๋าออกจากบ่าเพื่อมาวางไว้บนหน้าตัก
"ตื่นสายหน่ะ" ลู่หานเลี่ยงที่จะตอบความจริงก่อนจะหันไปสบตากับเพื่อนสนิทก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้อีกคนเหมือนทุกวัน
ดีโอพยักหน้าด้วยเข้าใจ ตากลมโตสำรวจไปตามใบหน้าของเพื่อนสนิทอย่างละเอียดถี่ถ้วน จนสังเกตเห็นรอยช้ำตรงขอบตาสวย เพียงแค่นั้นดีโอก็เม้มปากแน่น สายตาถอดมองอีกคนที่เบนสายตากลับไปมองทางข้างทาง สิ่งที่เต้นอยู่ในอก มันกำลังแผลงฤทธิ์เพียงเพราะรู้ว่าอีกคนคงผ่านการร้องไห้อย่างหนักมาและก็คงมีไม่กี่เรื่องที่ทำให้เพื่อนสนิทคนนี้เสียน้ำตาได้ สองแขนเล็กเอื้อมไปดึงตัวเพื่อนสนิทมากอดปลอบโดยไม่ทันคิดส่งผลให้อีกคนร้องขึ้นด้วยความตกใจ
"นะ...นาย!" ลู่หานนิ่งอึ้งเมื่อสัมผัสอุ่นที่แผ่นหลังกำลังลูบไล้ปลอบประโลมเหมือนอ่านเขาออกทุกอย่าง...ไม่สิ เขาน่าจะรู้ตั้งแต่แรกว่าเขาไม่สามารถโกหกเพื่อนคนนี้ได้เลย “ดีโอ ฉัน--”
"ไม่ต้องพูดอะไร" เจ้าของคำพูดกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นก่อนจะกดใบหน้าของเขาให้ซบกับไหล่แคบๆแต่หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นหอมบางอย่าง “นายก็รู้ ลู่หาน..ฉันอยู่ตรงนี้มาตลอด”
“ฮะ..ฮึก--” อีกแล้ว...เป็นอีกครั้งที่เขาร้องไห้ต่อหน้าอีกคน เพื่อนสนิทของเขาคนนี้
“ชู่ว....อนุญาตให้ร้องไห้ได้แค่ก่อนเราจะเข้าเรียนนะ” มือเล็กที่ลูบหัวเขาเหมือนคุณแม่ปลอบลูกทำให้ลู่หานกดตอบอีกคนอย่างโหยหาความอบอุ่น
ลู่หานโถมตัวกอดอีกคนแน่น ปล่อยน้ำตาให้ไหลซึมไปกับเสื้อนักเรียนเนื้อดี คงมีแต่ดีโอนี่แหละ ที่เข้าใจเขาที่สุด เพราะอย่างนั้นคงไม่แปลกเลยที่เขาจะเผยด้านอ่อนแอให้อีกคนได้เห็นเหมือนอย่างตอนนี้
เพราะเขาไว้ใจดีโอที่สุด..และหวังว่าอีกคนจะรับรู้ความรู้สึกนี้ได้เช่นกัน
#
ออด......!
เสียงที่บ่งบอกถึงเวลาพักกลางวันทำให้นักเรียนที่เบื่อหน่ายกับการเรียนยิ้มออกมาด้วยดีใจพร้อมกับเสียงสนทนาที่ดังขึ้นเกี่ยวกับมื้อกลางวันที่ต่างคนต่างมีความชอบของตัวเอง ในขณะที่ลู่หานปิดหนังสือลงอย่างเงียบๆ ก่อนที่ร่างบางจะค่อยๆทรุดตัวลงไปซบหน้ากับโต๊ะเรียนแล้วผ่อนลมหายใจหนักๆออกมา วันนี้เขาเหม่อตลอดจนโดนอาจารย์ดุ ซึ่งมันดูน่าผิดหวังมากแต่ตอนนี้เขาก็ไม่มีเวลามาให้นั่งคิดเรื่องพวกนี้มากนักเพราะความอ่อนล้าทางร่างกายและจิตใจส่งผลให้ลู่หานเลือกที่จะค่อยๆปิดเปลือกตาลง
แปะ!
"โอ้ย!" คนนอนหลับร้องลั่น
เสียงฝ่ามือกระทบกับแขนของลู่หานดังขึ้นซึ่งสาบานได้ว่ามันจะไม่เจ็บเลย ถ้าไม่โดนตรงรอยช้ำที่ได้มาจากเมื่อคืนนี้
"เฮ้! โทษๆเจ็บขนาดนั้นเลยหรอ ฉันแค่จะมาชวนไปกินข้าว" ตาโตๆของดีโอเหลือกขึ้นเมื่อได้ยินเสียงร้องของเพื่อน ลู่หานที่สะดุ้งขึ้นมากุมตำแหน่งที่เขาตีลงไปด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวดยิ่งทำให้เขาใจไม่ดี ดีโอรีบถกเสื้อเชิ้ตแขนยาวของอีกคนซึ่งเป็นชุดเครื่องแบบของโรงเรียนขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนสนิทตนดูเจ็บกว่าที่ควรจะเป็น และแล้วสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำให้เขาหัวร้อนไม่ยากเลย
"เฮ้ย! สาบานได้ว่าฉันตีไม่แรงเลยนะ แต่ทำไมมันช้ำน่ากลัวขนาดนี้ บอกความจริงฉันมาลู่หานเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น เพราะเมื่อวานรอยบ้าๆนี่ยังไม่มีเลย"
เมื่อลู่หานเห็นปฏิกิริยาของอีกคนเจ้าตัวก็รีบดึงแขนเสื้อลง ในหัวพยายามคิดหาข้อแก้ตัวที่ดีที่สุดพยายามไม่เล่าเรื่องบ้าๆที่เกิดขึ้นเพื่อให้เพื่อนของตนกังวลใจจนห้ามไม่ให้เขาไปทำงานพิเศษอีก
"ไม่มีอะไรหรอก บังเอิญว่าเมื่อวานฉันเดินชนโต๊ะตอนทำงานน่ะ" เขาดึงมือเล็กไม่ต่างกันมาจับก่อนจะเขย่าไปมา
“ที่ข้อมือนี่ก็ด้วย” ดีโอไม่สนใจการกระทำของเขากลับกันอีกคนก็สังเกตเห็นรอยช้ำที่ข้อมืออีกแห่งนึง คิ้วหนานั่นขมวดจนกลายเป็นปมจนลู่หานผุดลุกขึ้นพลางเอาเส้นผมหนานุ่มของตนถูไถไปตามไหล่แคบของเพื่อนตาโต
“โถ่ ใครมันจะไปรู้ละว่าจะเดินชน ถ้าเลือกได้ฉันก็ไม่ได้อยากมีรอยช้ำพวกนี้หรอก จริงๆนะ”ลู่หานพยายามหว่านล้อมอีกคนพร้อมกับยิ้มให้อย่างที่สามารถทำได้ในตอนนี้ ดีโอจ้องหน้าเขานิ่งงันจนในใจเขาหวั่นว่าอีกคนจะถามอะไรต่อ บางทีถ้าถูกไล่ถามอีกสักหน่อยเขาคงเผลอเล่าความจริงไปแน่ๆ
"ถ้าเลือกได้ฉันก็ไม่อยากให้นายเจ็บ" อีกคนพลิกข้อมือเขาไปสำรวจก่อนจะลูบเบาๆที่ข้อมือสวยช้ำนั้น “เอาเถอะวันหลังก็ระมัดระวังตัวด้วย รีบไปกินข้าวกันเถอะ ก่อนที่โต๊ะจะเต็มซะก่อน”
คนตรงหน้าเขายิ้มบางๆมาให้ก่อนจะจูงข้อมือเขานำไปด้วยความอ่อนโยน พลันลับหลังเพื่อนสนิท สีหน้าที่เคยยิ้มแย้มของลู่หานก็เลือนหายไป คำขอโทษเป็นพันๆคำกล่าวย้ำอยู่ในความคิด เขาไม่อยากโกหกดีโอ แต่ถ้าเลือกได้เขาก็ไม่อยากให้อีกคนกังวลใจเกี่ยวกับเขามากเกินกว่านี้อีกแล้ว..เพราะเขาคงทนกล้ำกลืนความรู้สึกผิดนี้ได้อีกไม่นาน
#
หลังเลิกเรียนเป็นเวลาที่นักเรียนทุกคนรอคอย ลู่หานและดีโอค่อยๆก้าวเท้าของตนไปตามทางเดินก่อนจะเดินผ่านสนามหญ้าเขียวชอุ่มบ่งบอกถึงการดูแลอย่างดีของภารโรงลู่หานกวาดสายตามองไปยังสนามที่มีเหล่านักเรียนชายวิ่งไล่ตามลูกหนัง ริมฝีปากสวยยกยิ้มเมื่อพวกนักกีฬาโรงเรียนกวักมือเรียกเจ้าตัวให้ไปร่วมเกมครั้งนี้เหมือนทุกครั้ง และเขาชอบที่จะเป็นส่วนหนึ่งของเกมนี้
ลู่หานชอบฟุตบอล มันเป็นกีฬาที่ลู่หานคิดว่าตนเองเล่นได้ดีและคงมีเพียงสิ่งนี้ที่ดึงเขาออกจากความโดดเดี่ยวที่ฝังเล็กอยู่ในจิตใจได้ ร่างบางฝากกระเป๋าไว้กับดีโอที่รับไปถือไว้ให้พลางวิ่งลงไปร่วมเกม สองมือถลกชายเสื้อนักเรียนออกเพื่อความถนัดในการเคลื่อนไหว รอยยิ้มถูกแต้มบนใบหน้าสวยเมื่อได้ผ่อนคลายด้วยกีฬาที่ตนเองโปรดปราน เสียงโหวกเหวกโวยวายตามประสานักกีฬาเลือดร้อน ทำให้เลือดในกายลู่หานพลุ่งพล่านเหมือนทุกครั้ง
ดีโอยืนมองเพื่อนสนิทของตนอยู่ห่างๆ ขาเล็กก้าวขึ้นมาบนแสตนด์ชั้นสามก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงพลางวางสัมภาระของเขาทั้งคู่ไว้กับเก้าอี้ข้างๆ ตากลมโตมองเพื่อนสนิทที่เลี้ยงลูกด้วยความคล่องแคล่วก่อนจะส่งต่อด้วยความชำนาญ ในโลกนี้ มีไม่กี่อย่างที่ทำให้เพื่อนคนนี้ของตนยิ้มได้ ตั้งแต่เกิดเรื่องเลวร้ายกับครอบครัวลู่หาน เขาก็คอยประคับประคองเพื่อนสนิทให้อยู่ได้จนมาถึงทุกวันนี้ และคงจะคอยปกป้องไม่ยอมให้ใครทำหัวใจที่บอบบางไม่ต่างจากแก้วของลู่หานแตกสลาย
แต่สิ่งที่อันตรายที่สุดในตอนนี้คือเขาต้องหยุดบางสิ่งในตัวเองให้ได้ซะก่อน
เกมในสนามกำลังดุเดือดขึ้น ลู่หานวิ่งประคองลูกด้วยความชำนาญและส่งต่อให้ทีมของตน สองขาวิ่งนำขึ้นไปดักรออยู่หน้าประตูด้วยความคล่องตัวและรวดเร็ว เมื่อเพื่อนส่งบอลมาก็เป็นโอกาสที่จะทำประตู ดวงตาสวยมองช่องโหว่ของผู้รักษาประตู พยายามมีสมาธิก่อนที่ขาเรียวตั้งท่าที่จะส่งลูกหนังผ่านประตูไป
"อั่ก!"
ลู่หานกลิ้งล้มลงไปนอนกับพื้นหญ้า เมื่อถูกผู้เล่นอีกทีมขัดขา แต่นั่นก็หลังจากที่ส่งลูกบอลไปในวิถีทางที่มันควรจะเป็น
"เฮ้!"
เสียงดีใจของผู้ร่วมทีมดังขึ้นเมื่อลูกบอลได้ข้ามผ่านผู้รักษาประตู เข้าโกลด์ไป นำชัยชนะมาให้ทีมอีกครั้ง ตามที่ทุกคนคาดหวังไว้ในตัวลู่หาน ผู้ร่วมทีมเฮลั่นก่อนจะไล่ไฮไฟว์มือกันอย่างดีใจ
ดีโอที่คอยจับตามองเพื่อนสนิทของตนอยู่ตลอดเวลา รีบวิ่งเข้าไปดูเพื่อนที่ตอนนี้นอนอยู่กลางสนามด้วยความรวดเร็ว นักกีฬาร่วมทีมต่างทยอยกันเข้ามาช่วยเหลือคนตัวเล็กที่นอนหอบอยู่กลางสนาม
"ลู่หานเป็นอะไรมากไหม...!" ดีโอชะงักทันทีไปเมื่อเห็นเลือดที่หัวเข่าเพื่อน คนตัวเล็กชะงักนิ่งไปคู่เหมือนพยายามรวบรวมสติจากนั้นจึงตะโกนเรียกให้คนมาพยุงตัวลู่หานไปทำแผล
"ฉันไม่เป็นไร ดีโอ อย่าหน้าซีดอย่างนั้นสิ เล่นเกมแบบนี้มันต้องมีเจ็บกันบ้าง อย่าเครียดเลยนะ"ว่าพลางเอามือสวยลูบใบหน้าเพื่อนสนิท ก่อนจะเอาแขนคล้องคอเพื่อนร่วมทีมที่พยายามช่วยประคองร่างคนเจ็บไปทำแผลที่ห้องพยาบาล
ดีโอกำมือที่สั่นระริกของตนพลางมองตามแผ่นหลังร่างบางที่มีนักเรียนชายพยุงอยู่สองคน ริมฝีปากอิ่มขบเม้มแน่นเมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งที่อยู่ข้างใน ขาที่เหมือนถูกเสาเข็มตรึงไว้กับที่ค่อยๆขยับหลังจากทิ้งระยะห่างได้สักพักแล้ว ดวงตากลมโตเหม่อลอยมองร่างคนเจ็บอยู่อย่างนั้นพลันพึมพำบางสิ่งที่คงมีเพียงเจ้าตัวที่ได้ยิน
"นายไม่เคยรู้อะไรเลย...ลู่หาน..ไม่เคยรู้เลย"
TBC
"ถ้าเลือกได้ฉันก็ไม่อยากให้นายเจ็บ"
Talk
แมนๆเพื่อนกัน ไม่มีอะไรเล๊ย
ภาษาโอเคขึ้นไหมคะ คำเพิ่มมาเป็นพันอักษรเลย555 เส้นเรื่องยังเหมือนเดิมแต่รายละเอียดไม่เหมือนเดิม ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้อ่านใหม่นะคะ
จะพยายามไม่ดองถ้ายังคงเห็นว่ามีฟีดแบ็คกับมาอยู่
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ เลิ๊ฟ
(* ถ้ามีสัญลักษณ์นี้ตามหลังเท่ากับรีไรท์แล้วนะคะ)
#2HVP
ความคิดเห็น