คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : 4-2 คุณหมอหน้าตาดี (100%)
ธนัชนึกหงุดหงิดตัวเอง เป็นหมอมานับสิบปี จะมาเสียคนอะไรวันนี้ ขณะที่เขายังคงเก็บอาการในสีหน้านิ่งเรียบ หยิบแท็บเล็ตขึ้นมาบันทึกงานด้วยลายมือขยุกขยิกพลางถาม “คนไข้... อาการเป็นไงบ้างครับ?”
“ปวดแผลค่ะหมอ ขอยาแก้ปวดสักโหล ขอยาสลบเลยได้ไหมคะ?”
“ยาสลบคงไม่ไหวนะครับ ตื่นมาแล้วจะมึนยิ่งกว่าเก่านะ ไม่ได้ด้วยนะครับ”
“ปวดหัว เจ็บแผลค่ะ...”
ไม่แปลกเลยที่ลูกผู้ดี แทบไม่เคยโดนยุงกัดสักตัวจะทำงอแงกับคุณหมอ มารดาประคบประหงมเธอมาเสมือนไข่ในหิน เธอคงทนความเจ็บปวดไม่ไหว ขอคุณหมอจัดยาแก้ปวดซึ่งมันคงแค่บรรเทาอาการเจ็บปวดจากบาดแผลบริเวณด้านหลังศีรษะ เหนือท้ายทอยน้อยขึ้นไปเล็กน้อย บนหน้าผากอีกหนึ่งแผล แผลเย็บทางยาว แขนของเธอหักจนต้องดามไว้
คุณหมอหนุ่มตรวจอาการจากชาร์ตงานข้างเตียง ในแท็บเล็ตที่เป็นฐานข้อมูลกลาง จากนั้นก็ขออนุญาตเปิดดูแผล เพื่อตรวจโดยละเอียด ไม่ใช่แค่มองเพียงสายตา เขาเริ่มทดสอบเบื้องต้นว่าผู้ป่วยสามารถควบคุมใบหน้าและร่างกายได้ปกติ แม้ว่าเธอจะแสกนสมองไปก่อนหน้านี้ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง โดยให้ผู้ป่วยกรอกลูกตาซ้ายขวา ขึ้นลงตามปลายนิ้ว ทำปากให้ป่องเป็นลูกโป่ง ขยับแขนขาเล็กน้อย
“คนไข้หมดสติไปเพราะศีรษะกระแทกกับของแข็ง มีกระดูกหัก ฟกช้ำ แผลเย็บอาจเป็นแผลเป็น แต่ทางโรงพยาบาลมีแผนกรักษาแผลเป็น ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องผิวจะไม่สวยนะครับ หมอจะให้คำแนะนำอีกทีนะ”
ใบหน้าเรียวสวยพยักเบา ๆ “ค่ะหมอ” เอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า “ปวดมากเลยค่ะ”
“ถ้าปวดจนนอนไม่ได้ หมอให้พยาบาลจัดยาให้อีกนะ แต่ว่าเพิ่งให้ยาแก้ปวดไป ตอนนี้อดทนหน่อย หมอขอรีเช็กอาการหน่อยนะว่าไหวหรือเปล่า?”
“ค่ะ”
นวีนาพอได้สติสัมปชัญญะกลับมา หลังจากที่เธอเอาแต่จ้องหน้าคุณหมออย่างไม่ละวาง
ทั้งใบหน้าขาวเนียนราวกระจกใสชนิดชะนียังอาย นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่เหมือนกับว่าฝังประกายดาวอยู่ข้างใน จมูกโด่งเป็นสันคมรับริมฝีปากเรียวหนาหยักได้รูปสวยอมชมพูขยับเอ่ยถ้อยคำต่อเธอว่า ‘ปวดหน่อยนะ’
ดูคุณหมอหน้าหวานนี่สิ! เธอคงถูกสิบล้อทับจนสติฟั่นเฟือนไปแล้วแน่ ๆ ที่เห็นหมอผู้ชายสวย มือก็สวย ตาก็สวย แต่ก็นะ คงหนีไม่พ้นเป็นพวกชายรักชาย
ผู้ป่วยแอบคิดอะไรอยู่ในใจ ไม่มีใครล่วงรู้ ขณะร่างสูงในเชิ้ตหล่อเหลาเดินไปจับสายน้ำเกลือ พยาบาลนำถาดยาที่มีเข็มสำหรับฉีดตัวยาเข้าไปในสาย กลายเป็นว่าเธอไม่รู้สึกอะไรเลย แต่เพียงไม่นาน ดวงตาคู่สวยหรี่เล็กลงจนเหยียดตรง เริ่มปวดขึ้นตามลำดับ แต่เพราะเขาและเธอตกอยู่ในภวังค์ มองกันไปมองกันมา ท่ามกลางสายตาของพยาบาลสาวขี้สงสัยที่กำลังทำหน้าที่
“คุณหมอโรงพยาบาลนี้หน้าตาดีทุกคนค่ะคนไข้ โดยเฉพาะอาจารย์ธนัช”
พยาบาลอดไม่ไหวต้องแซว อันที่จริงพัชรีแซวทุกครั้งที่คนไข้สาว ๆ มองคุณหมอตาเป็นมันนั่นแหละ ส่วนคนไข้บนเตียงมีสีหน้าแปลกไป เธอจับผ้าพันแผลที่คุณพยาบาลพันให้ใหม่ ขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปม
“เหมือนเคยเจอคุณหมอที่ไหนนะคะ? หน้าคุ้นจัง”
จิตแพทย์หนุ่มได้ยินเข้าก็หัวเราะ “สงสัยต้องตรวจดูอีกรอบว่าสมองกระทบกระเทือนหรือเปล่านะครับ?”
ในรอยยิ้มที่ดูไร้พิษภัย คุณหมอหนุ่มหน้าหวานหมายความว่าเขาจะจับเธอเข้าเครื่องสแกนสมองอีกรอบ ถ้าไม่ติดว่าคนไข้สาว ๆ พูดประโยคนี้กับเขาอยู่บ่อยครั้ง ทันใดนั้นเอง เสียงประตูเปิดดังพร้อมการปรากฏตัวของหญิงสาว ดูไม่ออกเลยว่าเป็นคุณแม่ ทั้งสองคนในห้องมองขวับ พยาบาลที่เดินเข้า ๆ ออก ๆ หันไปทักทายญาติคนไข้ที่มุ่งตรงเข้าไปหาลูกสาว
“เป็นไงบ้างลูก? เจ็บมากไหม” คุณแม่จับมือน้อยที่ติดสายน้ำเกลืออย่างระวัง ธรรมดาคนเป็นแม่ เห็นลูกเจ็บปวด คงอยากรับความเจ็บปวดแทนลูก
“ไม่เท่าไรค่ะ มี๊... วีขอโทษนะ ร่างกายแม่ให้มา น่าจะดูแลดี ๆ กว่านี้”
“โธ่... ลูกแม่ ลูกรัก แม่ล่ะโมโหจริง ๆ ได้พวกเมาแล้วขับกลางวันแสก ๆ”
ไม่ต้องพูดถึงรถยนต์ที่เสียหลักพุ่งชนลูกสาวหล่อนหน้าร้านอาหาร ระดับคุณนายจิต้องเอาเรื่องเอาราวให้ถึงที่สุด! ถึงไหนถึงกัน จิดาภาพร่ำพูดอยู่นาน ไม่เกรงใจคนในห้อง แม้แต่คุณหมอหนุ่มที่ยืนนิ่งงัน กว่าหล่อนจะหันไปทักทายทั้งนัยน์ตาแดงก่ำ เอ่ยคำขอบคุณคุณหมอคนสำคัญ
“ไม่เจอกันนานมาก ๆ สบายดีนะคะ? ขอบคุณที่มาช่วยดูแลลูกวีนะ”
นัยน์ตาคู่คมใต้แว่นกรอบหนาระรื้นหยาดน้ำใส ทั้งเป็นห่วงผู้ป่วยตามคุณแม่ไปด้วยอีกคน ทั้งเกิดความคิดถึงคนในอดีตอย่างท่วมท้น ธนัชมองทั้งสองสลับกันไปด้วยความมั่นใจว่ารู้จักสองแม่ลูกคู่นี้ โดยเฉพาะจิดาภาที่ไม่ได้แก่ลงกว่าเดิมเลย หล่อนยังคงสวยสะพรั่งเหมือนเป็นพี่สาวน้องสาวมากกว่าจะเป็นคุณแม่ หล่อนก็คงดูแลตัวเองดีอย่างเศรษฐินี
เปลือกตาหนากะพือขึ้นลงเบา ๆ เพื่อไล่หยาดน้ำใสในแววตาเศร้าหมอง
นวีนา... น้องวี... นี่เขาลืมเธอได้ยังไง! คนชื่อนี้ หน้าตาแบบนี้ มีเยอะแยะซะที่ไหน แล้วคนไข้เรียกคุณแม่ว่า ‘มี๊...’ จะมีแม่ลูกสักกี่คนเรียกกัน
‘พี่ชายขี้เหร่... ห้ามลืมน้องวีนะ น้องวีจะกลับกรุงเทพฯ แล้ว น้องวีชื่อนวีนา นามสกุลพิชยเดชา คุณแม่ชื่อจิดาภา ถ้าพี่มีโอกาส... พี่ต้องมาเจอน้องวีให้ได้นะ น้องวีจะเขียนจดหมายมาหาพี่กับหมอดินบ่อย ๆ ว่าอยู่ที่ไหนยังไง สบายดีไหม น้องวีจะขออนุญาตคุณแม่มาเที่ยวหาพี่ปีหน้านะคะ’
แล้วเธอก็ไม่มา... เพียงมอบคำสัญญาเลื่อนลอย หายหน้าหายตาไปเลย จนเขาสอบติดแพทย์ แยกย้ายกันไปมีชีวิตของตนเอง
ทีแรกเขาก็นึกน้อยใจเธอ แต่พอเดินออกมาจากห้องผู้ป่วย เงี่ยหูฟังเรื่องราวมากมายอยู่หลังกำแพงโดยไม่มีใครทันเห็น ได้ข้อมูลจากป้าพัชผู้รอบรู้ทุกเรื่องของคนอื่น พยาบาลสาวหน้าห้องอีกคนมีความขวนขวายในชีวประวัติคนดัง พวกหล่อนรู้เรื่องดารา ไฮโซ รู้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องของตัวเอง
‘จบดอกเตอร์จากอเมริกา... ด้วยอายุแค่ยี่สิบแปดปี โอ้ว! แม่เจ้า ไม่ธรรมดาเลยค่ะ’
‘ไม่ธรรมดาแน่นอน หมอนัทนี่มองตาเป็นมัน สักพักแกช็อกไปเลยตอนเจอคุณแม่ ได้ยินว่ารู้จักกันมาก่อนนะ คนไข้ชานนท์เพื่อนหมอนัท...’
‘ฮะ... อะไรนะป้าพัช?’
‘พี่พัช ๆ เล่าให้หนูฟังบ้างสิ เรื่องราวมันเป็นยังไง?’
‘เบา ๆ หน่อยพี่ หนูเห็นหมอแกแว้บ ๆ’
‘หมอนัทแกใจดีจะตาย ป้าทำงานกับหมอมานานแล้ว แปดปีเชียว ไม่ต้องกลัวคุณหมอนะคะหนู ๆ เราไม่ได้พูดเรื่องไม่ดีของคุณหมอซะหน่อย คุณหมอน่ารักค่ะ’
‘แต่หนูได้ยินว่าหมอโหดกระทืบโจร ที่ลงข่าวหน้าหนึ่งน่ะ... อาจารย์ธนัชนะป้า’
‘ใช่เหรอ? ไปเอาข่าวมาจากไหน ข่าวกรองหรือเปล่ายะ อย่ามาปรักปรำคุณหมอของป้านะ’
‘ป้าดูในข่าวสิ รถเล็กซัสสีแดงคันนั้นน่ะ ที่เบลอทะเบียน รถหมอนัทชัด ๆ’
ร่างสูงชะลูดขยับฝีเท้าเหมือนแมวย่อง หยุดยืนอยู่ข้างหลังกลุ่มคนที่มุงรอบโต๊ะ ทั้งพยาบาลรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ บุรุษพยาบาล อาศัยช่วงผู้ป่วยไม่เยอะเพราะเป็นวันหยุดยาว จับกลุ่มร่วมวงสนทนา อยู่ดี ๆ พวกเขาก็ได้ยินเสียง
“นินทาอะไรกันครับ?”
พยาบาลสามคนสะดุ้ง อีกสองคนเดินอาด ๆ ไปทำงาน ทำไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนไม่เคยเดินมาตรงนี้ พยาบาลพัชรีรีบแก้ตัวแทน “ไม่มีอะไรค่ะหมอ คือ... สาว ๆ กำลังพูดถึงหมอโหดในข่าวเมื่อวันก่อนน่ะ ป้าพัชเลยบอกว่าไม่ใช่หมอนัทซะหน่อย”
“ใช่... ผมเอง กำลังจะกลับคอนโดฯ ดันเจอโจรควงสปาต้ามา ทีแรกผมเจรจาว่าเป็นหมอ แต่พวกนี้พูดดี ๆ ไม่รู้เรื่อง เลยต้องสั่งสอนเป็นกรณีพิเศษ เรียกรถพยาบาลของที่นี่ไปรับ จ่ายค่ารักษาให้ด้วย ผมใจดีสุด ๆ แล้วนะ”
เสียงลอบกลืนน้ำลายดังจากสาว ๆ ที่ได้ยินว่าใครเป็นหมอโหดในข่าว อ้าปากค้างไปทั้งแผนก คนไข้ที่นั่งอยู่มองคุณหมอตาไม่กะพริบ เพราะนั่นเป็นข่าวดัง!
จะมีก็แต่พยาบาลพัชรี รีบแก้ต่างให้คุณหมอไม่เลิกรา บอกว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ในข่าวว่าโจรทั้งสามเป็นนักโทษคดีอุกฉกรรจ์เก่า มีทั้งปืนทั้งสปาต้า ปล้นฆ่าคนแล้วก็ออกมาทำเรื่องเดิม ๆ ถ้าหมอไม่สู้โจร เราคงต้องเสียบุคลากรทางแพทย์ไปอย่างน่าเสียดาย
ส่วนคุณหมอธนัชถือโอกาสเตือนคนในวอร์ดว่าเข้าเวรกลางคืน ให้ระวังพวกปล้นชิงทรัพย์ จะเรียกแฟนมารับหรือทำยังไงให้ตนปลอดภัย ก็แล้วแต่สะดวก
ขออย่าโทรเรียกหมอนัทไปกระทืบโจรก็แล้วกัน หมอต้องไปเคลียร์คดีนี้ให้จบก่อน...
ความคิดเห็น