คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 3-1 ความรักที่ผิดหวัง (100%)
“หยิบกุหลาบขาวช่อใหญ่ในรถมาให้ฉันด้วย เหวิน...” ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาหันไปบอกคนสนิท อดีตมาเฟียหนุ่มในเชิ้ตคอเต่าสุภาพเข้ากับเจ้านายที่สวมเสื้อเชิ้ตสีกรมท่า ขณะก้าวลงจากเมอร์เซเดสเบนซ์สีดำเข้าไปในร้านอาหารเงียบเชียบไร้ผู้คน หย่อนก้นนั่งลงบนโซฟากำมะหยี่สีแดง บริเวณที่นั่งด้านในสุดข้างน้ำพุขนาดย่อม รายล้อมรอบด้วยสวนหย่อมที่มีดอกไม้สวยงามหลากสีสัน เป็นเอกลักษณ์ของร้านอาหารแห่งนี้
หยาดเหงื่อที่แซมบนหน้าผากบ่งบอกถึงความตื่นเต้นดีใจ ชานนท์นั่งเขย่าขาอย่างคนเก็บอาการไม่อยู่ ก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือเรือนหรู เขาแทบนับถอยหลังเวลาที่จะได้พบน้องสาวต่างสายเลือดเพื่อปรับความใจ
‘อุตส่าห์เหมาร้านดังย่านสุขุมวิทไว้เซอร์ไพรส์ น้องวีจะมาหรือเปล่านะ?’ ความคิดเป็นกังวลทอดผ่านนัยน์ตาคมกล้า ชายหนุ่มยังคงก้มหน้าลงมองนาฬิกาบนข้อมือเป็นระยะ โดยไม่สนใจคนสนิทข้างกายที่มีสีหน้านิ่งเรียบ ทว่ากวาดสายตามองหาแขกคนสำคัญ หลังวางช่อดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ไว้บนโต๊ะกระจกในร้านอาหารกว้างขวาง มีโต๊ะว่างนับยี่สิบโต๊ะ
นับตั้งแต่ถูกน้องสาวตัดความสัมพันธ์อย่างไร้เยื่อใย ขนาดว่าอยู่บ้านหลังเดียวกันยังไม่เคยพบหน้า เธอสรรหาข้ออ้างสารพัด บ้างไปนอนบ้านเพื่อน อยู่เพนท์เฮ้าส์หม่ามี๊ ไม่ยอมมารับประทานอาหารร่วมกับบ้านใหญ่กับคุณย่าชมนาดเหมือนเมื่อก่อน โดยเฉพาะวันไหนที่เขาหยุดงานอยู่บ้าน เธอไม่อ่านข้อความไม่รับโทรศัพท์ ไม่ฟังคำพูดใดของเขาทั้งสิ้น และอย่าได้คิดไล่ตามหรือไปดักรอเธอที่มหาวิทยาลัย ตราบใดที่นางจงอางหวงลูกสาวไม่ยอม
‘สงสัยว่าอยากจะรักษาภาพพจน์คุณแม่ผู้แสนดีอีกล่ะสิท่า’ คิดพลางแค่นหัวเราะในลำคอ เขาคิดว่าการที่ลูกสาวไม่ยอมไปพบจิตแพทย์ดี ๆ ทำให้คุณแม่ต้องมาวานใช้เขาให้พาเธอไป ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม ก่อนจะเอี้ยวหน้าไปทางชายร่างสูงใหญ่ในชุดสูทคอเต่าด้านหลังโซฟากำมะหยี่สีแดง
‘หยางเหวิน’ อยู่ในฐานะคนดูแล คนขับรถ เลขานุการ เรียกได้ว่าเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของบ้านพันธวงศ์ เป็นมิตรสหายที่ดีที่สุดของชานนท์ ลำพังหยางเหวินพยายามที่จะญาติดีกับบอดี้การ์ดนอกเครื่องแบบหลายคนของคุณนายจิดาภา เพียงเพื่อให้ชานนท์ได้พบน้องสาวต่างสายเลือดบ้าง นั่นก็นับว่าลำบากแล้ว เขามีความเห็นว่าสถานการณ์ค่อนข้างตึงเครียด
“แน่ใจนะว่าดอกเตอร์จะไม่เตรียมปืนมายิงกบาลคุณ นนท์ รอบนี้ผมคงเซฟชีวิตใครไม่ไหวนะครับ”
“แทนที่จะให้กำลังใจ มาพูดจาไม่เป็นมงคล ยืนทำหน้าซังกะตาย อ้อ... ลืมไปว่าหนังหน้ามึงมันเป็นแบบนี้”
“จะให้ผมทำหน้ายังไงดีล่ะ?” ไหวไหล่ถาม บนใบหน้าคมเข้มไร้อารมณ์ไม่ต่างจากว่าไม่อยากมา ยิ่งรู้ว่าดอกเตอร์พกสารพัดอาวุธป้องกันตัว ล่าสุดชานนท์ก็โดนสเปรย์พริกไทยตอนไปเคาะประตูห้องคอนโดมิเนียมใกล้มหา’ลัย ทำไมเจ้าตัวแสนหน้าด้านหน้าทน ไม่รับรู้ความเจ็บปวด ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเหม็นขี้หน้าเขาปานไหน ยังไงก็จะเจอให้ได้
“ไม่ต้องห่วง... ผู้หญิงตัวนิดเดียวจะทำอะไรได้ แต่ถ้ามึงยังยืนอยู่ล่ะไม่แน่”
“ไม่ให้ผมอยู่ช่วยสงบศึกแน่นะ?”
“ไปไหนก็ไปเหอะ มีธุระตั้งเยอะไม่ใช่หรือไง?”
“บายครับ... แล้วเจอกัน” มือหนายกขึ้นโบกไปมาก่อนเดินออกจากร้านไป เสียงถอนหายใจตามหลังชายร่างสูงใหญ่ ใจหนึ่งก็อยากให้หยางเหวินอยู่เป็นเพื่อน คอยแก้ไขปัญหาด้วยกันนั่นแหละ เขาถึงได้ชวนมาแต่ทีแรก ดูเหมือนว่าไอ้เหวินจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย ขอให้ช่วยทำอะไรก็ทำแค่นั้น
อย่าว่าแต่หยางเหวินที่แสนเอือมระอากับเรื่องน้องสาวต่างสายเลือด ใคร ๆ ก็เหนื่อยหน่ายหากพูดถึงเรื่องหัวใจของนายชานนท์ ในเมื่อไม่มีอะไรทำให้เขาคิดว่าเป็นความผิดของตนเองได้ ทุกวันนี้ยังเฝ้ากล่าวโทษว่าสองฝาแฝดนั่นเป็นต้นเหตุให้น้องสาวเกลียดชังเขาเข้ากระดูกดำ
ในความเป็นจริง หากใช้มาตรวัดความเกลียดชังของดอกเตอร์นวีนาว่าเหม็นหน้าใครมากกว่า ระหว่างหยางเหวินกับชานนท์ ก็ต้องชานนท์!
ชายหนุ่มนั่งกระหยิ่มยิ้มย่อง ไม่นานนัก สาวเอวบางร่างน้อยในชุดสุภาพ เสื้อเชิ้ตสีอ่อน กระโปรงยาวผ่าข้างสีดำสนิท หยุดอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าร้านอาหาร เพียงเห็นหน้าอยู่ไกล ๆ ดวงตาสุกใสหรี่เล็กจนเป็นเส้นตรง
ตาสบตาในระยะไกลสุดลูกตา ราวกับว่าเธอจะหยุดลมหายใจของเขาไปพร้อมกับเปลวไฟแห่งความเกลียดชังที่ลุกโชติช่วงอยู่ในอก ดูไม่ยินดีเลยสักนิดกับการพบเจอนักธุรกิจหนุ่มรูปงามที่เหล่าสาวน้อยใหญ่หมายปอง
อย่างน้อยเธอก็ยอมมา...
ชานนท์ได้แต่ปลอบใจตัวเอง ต่อให้น้องสาวกำลังเหลือกตามองอย่างขยาด เธอแทบอาเจียนเมื่อได้ยินว่าจะต้องมารับประทานอาหารกับพี่ชายต่างสายเลือดสองต่อสอง มือเรียวขาวกอบกุมประตูกระจกไม่ขยับเขยื้อน
ไม่อยากเสวนากับมันสักนิด! ร่างบางกัดฟันกรอด ขณะลมเย็นยะเยือกในร้านปิดทึบพัดวูบไหว บางอย่างเพิ่งสัมผัสใบหน้าของเธอ มันให้ความรู้สึกหนาวไปถึงขั้วหัวใจ ไรขนทุกอณูบนเรือนกายลุกชูชัน
‘ระวังตัวด้วยนะวี...’
คำเตือนของลิลลี่ดังขึ้นในหัว การเป็นคนมีการศึกษาร่ำเรียนมาสูงถึงปริญญาเอกทำให้เธอไม่เชื่อในเรื่องราวเหนือธรรมชาติ เรื่องผีเพื่อน! แม้กระทั่งลางเตือนในความฝัน แต่นั่นไม่มากไปกว่าสัญชาตญาณ เธอขยับรองเท้าส้นสูงสองนิ้ว หมุนตัวเดินออกจากร้านไปทันควัน
เอี๊ยด!
“มาที่นี่ทีไร ดาสบายใจทุกที ขอบคุณมากนะคะ ถ้าไม่ได้อาจารย์ ดาคงแย่” เสียงหวานเอ่ยพลางระบายยิ้มเต็มวงหน้า หล่อนเอ่ยคำขอบคุณซ้ำซากกับชายในฝั่งตรงกันข้าม มีโต๊ะทำงานกั้นกลางระหว่างคนไข้กับคุณหมอ
“เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว ยังไงอย่าลืมเรื่องการทำจิตบำบัด มาตามนัดหมายแพทย์ด้วยนะครับ ถ้าเริ่มลดปริมาณยาคลายเครียด ยานอนหลับลงได้ เป็นเรื่องดี หมอแนะนำว่าว่าง ๆ ลองมาเข้าคอร์สกับทางโรงพยาบาลดู เป็นกิจกรรมกลุ่มจิตบำบัดสบาย ๆ นั่งล้อมวง ปรึกษาพูดคุยปัญหาชีวิต”
“ดีจังเลยนะคะ ฟีลลิ่งเหมือนที่ดูในหนังรึเปล่า? ดาเคยคิดอยู่นะว่าถ้ามีในเมืองไทยคงดี”
“โรงพยาบาลเราลองมาทำให้มันเป็นรูปธรรม อืม... น่าเสียดายที่บ้านเราไม่ค่อยเปิดรับอะไรใหม่ ๆ เอะอะโทษเวรกรรม โบ้ยให้เจ้ากรรมนายเวรแต่ชาติปางก่อนเป็นอย่างแรก ไม่คำนึงต้นเหตุของปัญหา ทั้งที่ผู้ป่วยแสดงอาการตั้งหลายอย่าง ญาติควรพามาพบหมอแต่เนิ่น ๆ จริง ๆ แล้วโรคทางจิต โรคซึมเศร้า โรคเครียด โรคจิตเภท โรคอื่น ๆ ไม่ใช่โรคที่น่ารังเกียจ สังคมประณาม พบจิตแพทย์ตามนัดหมาย ทานยาต้านซึมเศร้าก็หาย...”
คุณหมออธิบายเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าและโรคทางจิตประเภทต่าง ๆ ว่ามีหนทางการรักษา ตัวผู้ป่วยต้องมาพบแพทย์ ญาติคนไข้ต้องมีความรับผิดชอบต่อคนไข้ เป็นผู้ปกครองคนสำคัญ นำผู้ป่วยมาพบจิตแพทย์ กำชับให้รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ ญาติเป็นส่วนร่วมสำคัญในการที่จะทำให้คนไข้หายขาด ยิ่งคนไข้ซึมเศร้ามารับการรักษาเร็วเท่าไร อาการก็จะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่เกิดโศกนาฏกรรมอย่างเช่นในยุคปัจจุบันที่ครอบครัวละเลยผู้ป่วย
“ดาจะลองมาค่ะ ดา... เอ่อ... ถ้ามีโอกาส ดาอยากเลี้ยงกาแฟสักแก้ว...”
“ถ้าเป็นนอกเวลางาน หมอไม่สะดวกจริง ๆ เชิญคนไข้รับยาได้เลยนะครับ” คุณหมอยิ้มหวานใจดีผายมือเชื้อเชิญคนไข้นางแบบสาวที่มาปรึกษาปัญหาสุขภาพทางจิตอย่างสุภาพชน ทว่าเด็ดขาดในแววตา ไม่เปิดโอกาสให้ใครได้ก้าวล้ำเส้น เขาส่งสัญญาณเรียกพยาบาลให้มารับช่วงต่อ ด้วยการมองผ่านประตูที่อ้าแง้มไว้ คนไข้สาวสวยออกอาการผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด เดินตามคุณพยาบาลซึ่งนำทางไปช่องชำระเงินและจ่ายยา
ด้วยใบหน้าหวานคมคายอย่างลูกครึ่งญี่ปุ่น บิดามารดาของเขาก็หน้าตาดีไม่หนีไปจากเขา พยาบาลซุบซิบนินทาว่าเป็นเรื่องธรรมดาหากอาจารย์ธนัชจะมีสาว ๆ มาทอดสะพานให้ และสะพานเหล่านั้นล้วนขาดสะบั้น ก่อนที่มันจะขาด ยังกลายเป็นน้ำแข็งเสียก่อนด้วยน้ำคำของหมอนัทผู้แสนเย็นชา
หมอนัทหรือจะสนใจใคร เขาไม่สนใจสาว ๆ เท่ากับการนั่งฆ่าเวลาอ่านหนังสือสักเล่ม คนมีเงินระดับเขา เกิดอารมณ์ขึ้นเมื่อไร ซื้อกินเอาได้ แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยออกไปเที่ยวเตร็ดเตร่กับเพื่อนฝูงเพราะว่าไม่ใช่อุปนิสัย
ความคิดเห็น