คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : 10-1 เผชิญหน้า
“พี่ซื้อขนมร้านที่เราชอบมา เป็นไงบ้างน้องวี อาการดีขึ้นมั้ย?” เสียงเข้มถามพลางวางถุงหิ้วพะรุงพะรัง ชานนท์จัดข้าวต้มกลิ่นหอมกรุ่นในชามลายกระต่ายน่ารักที่มีฝาปิดลงบนโต๊ะ ข้างกันนั้นเป็นถุงขนมวาฟเฟิลใบเตยย่านรถติดมหาโหด ขณะชำเลืองมองการกระทำของอีกคน กำลังขนอาหารจากตู้เย็นใส่ถุงผ้าใบใหญ่ เตรียมขังตัวเองไว้ในห้องนอน
“เลิกทำตัวเป็นเด็กซะที มากินข้าวกินยาเร็ว”
“ไสหัวไป อย่ามายุ่ง”
ท่าทีรังเกียจเดียดฉันท์ทำให้เจ้าของร่างสูงในเชิ้ตหล่อเหลาสีดำสนิทขบกรามแน่นเป็นสันนูน เขาหมดความอดทนกับเธอแล้วจริง ๆ เข้าไปกระชากต้นแขนเรียวเข้าหมับ
“โอ๊ย! เจ็บนะ ไอ้บ้า” โวยวายหน้าตาเหยเก เมื่อฝ่ามือหยาบกร้านออกแรงบีบต้นแขนเล็ก ๆ ตามโทสะที่คุกรุ่น เธอเบิกตาโพลงมองใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาที่เหล่าสาวน้อยใหญ่หลงใหล ลึกลงไปนั้นปรากฏความเจ็บปวด ขอบตาคล้ำจัดบอกถึงการอดนอนเพราะมารอเฝ้าเช้าเย็นกว่าจะได้พบหน้า
“อย่าให้ต้องพูดซ้ำซาก มากินข้าวกับพี่ ถ้าไม่อยากให้ป้อนถึงปาก”
“กู-ไม่-กิน ข้าวมึงไอ้นนท์ เอาไปให้หมาหน้าบ้านมันกินก็แล้วกัน”
“น้องวี!” ตะคอกด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด แล้วเริ่มตัดพ้อเธอสารพัด อ้างถึงเรื่องคุณย่าและตนเองที่เอ็นดูครอบครัวเธอมาโดยตลอด นับตั้งแต่เธอกลับมาจากเชียงใหม่ พอเธอไปเรียนต่อเมืองนอก เขาก็ตามไปเรียนที่เดียวกัน ทำตัวติดน้องสาวต่างสายเลือดเพียงเพื่อจะดูแล เขาทำทุกอย่างด้วยความเอาใจใส่แม้แต่กับข้าวที่อุตส่าห์ไปเข้าครัว ใส่กล่องอาหารเก็บอุณหภูมิอย่างดี นำมาให้เธออยู่เสมอ ไม่ว่าในเมืองไทยหรือเมืองนอก จนกระทั่งวันที่เธอได้พบสองฝาแฝดนั่น
สำหรับชานนท์แล้ว ไม่มีอะไรเจ็บปวดไปกว่าถูกผู้หญิงที่รักปฏิบัติไม่ต่างจากว่าเป็นขยะอันน่ารังเกียจ เขาสบมองใบหน้าแดงก่ำ ในแววตาคู่สวยเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“น้องวี... เวลาวิ่งเล่นของเธอมันจบแล้ว จะบอกอะไรให้อย่าง ตอนนี้คนในบ้านใหญ่ โดยเฉพาะย่าชม อยากอุ้มเหลนเต็มทน ไม่นานเธอคงได้ใช้นามสกุลพันธวงศ์ นวีนา พัน...” ปลายเสียงขาดช่วงไป พร้อมกับที่น้ำเหนียวข้นกระเซ็นใส่ใบหน้าคร้ามคม มืออีกข้างหนึ่งยกขึ้นปาดแก้มสากแล้วหัวเราะออกมา “อุตส่าห์ไปเรียนดอกเตอร์ถึงเมืองนอก สรุปว่าไม่ได้ไปเรียนหนังสือ ไปคั่วฝรั่งขี้นกเพื่อกลับมาถ่มน้ำลาย คิดว่าพี่รังเกียจน้ำลายเธอรึไง? หืม...”
“มึงกลับไปได้ละ อย่าให้ต้องโทรเรียกบอดี้การ์ดคุณนายมาจัดการ กูไม่เสวนากับฆาตกร”
“โธ่ ๆ น้องวี ไม่รู้เหรอว่าคุณน้าคุยอะไรกับพี่ไว้ เรื่องคนติดตามนอกเครื่องแบบที่คอยดูแลลูกสาว ต่อไปนี้จะไม่มี เพราะว่าเธอโตแล้วไม่เป็นจำเป็นต้องเฝ้า อื้ม... คุณแม่เป็นคนรักษาคำพูดอยู่นะ เลยอนุญาตให้พี่มาปรับความเข้าใจกับเรานี่ไง”
นัยน์ตาคู่สวยแดงก่ำด้วยความโกรธ ขณะที่เธอไม่สามารถขัดขืนฝืนแรงผู้ชายตัวโต ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บ ทั้งแขนซ้ายที่ดามเหล็กไว้ ต้นแขนขวาถูกกระชากเป็นรอยเขียวช้ำ ชายร่างกำยำรั้งเธอให้งอแขนวางลงบนหน้าอกกว้างทั้งน้ำตา โน้มตัวลงหาใบหน้าแดงก่ำที่ส่ายหน้าหนี ทว่าทันใดนั้นเอง
“อุ๊บ!” คำประท้วงหายไปกับมือหนาที่เข้ามาปิดปาก บังไปครึ่งหน้า ฝ่ายรุกรานสัมผัสได้เพียงหลังมือนุ่มเนียน ไม่ใช่เรียวปากอิ่มงามที่ใจถวิลหา
“อี๋... เอาปากมึงออกไปจากมือกูได้แล้วไอ้นนท์ น่าขนลุกจะตายไป”
ชายร่างสูงกำยำในเสื้อแขนยาวคอเต่าลายตาราง กางเกงสแล็คขาเต่อ เซ็ตผมทรงโอปป้าดูเป็นแบ้ดบอย เกินคาดหมายของหญิงสาวที่ถูกดึงตัวไว้ ธนัชอาศัยจังหวะอีกฝ่ายตกใจ คว้าจับชายเสื้อยกขึ้นเช็ดปากด้วยสีหน้าขยะแขยง พอได้จูบหลังมือชายทั้งแท่ง! ถึงแม้ว่ามือของเขาจะนุ่มเนียนไม่ต่างไปจากมือผู้หญิงก็ตาม ชานนท์เงยหน้าขึ้นเอาเรื่อง
“มึงมาทำอะไร?”
“มาดูแลคนไข้ไงครับ สองคนเลย”
“งานของมึงจบตั้งแต่โรงพยาบาลแล้ว อย่ามายุ่ง”
“อ้าว... ทำไมงั้นล่ะ? ตอนดิ้นรนมาขอความช่วยเหลือ อ้อนวอนให้ไปช่วยดูน้องวีหน่อย กูก็ทำให้อย่างดี พอทำงานให้แล้วเฉดหัวทิ้ง ตกลงว่าจะเลิกคบกันแล้วใช่มั้ย?”
“จำได้ว่าขอให้ช่วยรักษาคนไข้ ไม่ใช่มาทำเกินหน้าที่หมอ เงินก็จ่ายไปแล้ว หรือจะเอาพิเศษ?”
“หมอทำงานด้วยจรรยาบรรณ ได้เงินเป็นรางวัล ไม่ควรใช้ลมหายใจเข้าออกขับเคลื่อนด้วยเงินเหมือนนักธุรกิจบางคนนะครับ”
ถ้าจะต่อปากต่อคำกับคุณหมอธนัชละก็ยาว! ชานนท์เลยหันไปโวยวายแม่บ้านที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ป้าเอี่ยมป้าลำดวนยืนตกใจอยู่หน้าห้องครัว บอกว่าคุณนายสั่งให้รอเปิดประตูต้อนรับคุณหมอ ใครมาก็ให้การต้อนรับ ฝากดูแลลูกสาวระหว่างที่หล่อนไปประชุมงานต่างประเทศ
ด้านนวีนาไม่รู้จะทำยังไง เมื่อครู่นี้ถ้าหากว่าถูกช่วงชิงริมฝีปากไปโดยไม่เต็มใจ เธอคงสู้แรงผู้ชายตัวโตไม่ไหว และต่อให้ไม่เป็นอย่างที่คิด ถ้าไอ้นนท์บังคับจับช้อนป้อนข้าวใส่ปากเธอก็คงไม่เต็มใจ เธอเอาแต่หลบอยู่หลังเสื้อเชิ้ตกลิ่นหอม กลอกตาไปมากระซิบบอกคุณหมอว่าช่วยไปส่งเธอด้วย ชายร่างสูงกำยำบังเธอไว้มิด มองไม่เห็นแม้ไรผม ใบหน้าหล่อเหลาไร้แว่นกรอบหน้าเหมือนเคยแลดูเข้มเครียด เผยให้เห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนอย่างหนุ่มลูกครึ่ง ปากเถียงฉอด ๆ ยั่วโทสะเพื่อนที่เหมือนกับว่าจะเลิกคบกันแล้ว
“ทำไมมึงตกข่าวนะ ไม่รู้เรื่องเลยเหรอ?”
“ข่าวอะไร?”
“ก็คุณแม่... บินไปญี่ปุ่นตั้งกี่ครั้ง เพื่อไปคุยกับอิจิโร่เรื่องลูกสาว คงกะจะให้แต่งกับกูให้ได้ กูบอกที่บ้านไปว่าขอคิดดูก่อน เพิ่งลงจากสนามบินมานี่” เอ่ยพลางลากเก้าอี้จนเกิดเสียงสุดแสบแก้วหู สะกิดคนตัวเล็กเบา ๆ ให้นั่งลงบนเก้าอี้อุ้มด้วยเบาะหนังอย่างดี เพื่อตรวจดูร่องรอยบาดแผลทั้งเก่าและใหม่ ขณะอารมณ์เกรี้ยวกราดระลอกหนึ่งพุ่งปะทะเข้ามาจิตใจ
“การดามกระดูกด้วยโลหะ แต่ละคนมีระยะเวลาไม่เท่ากัน ยิ่งอายุน้อย กระดูกติดกันเร็ว เอาออกได้ไวกว่า อันนี้รอยใหม่เหรอ? บ้าไปแล้ว...”
รอยเขียวช้ำชัดเจนบนต้นแขนขวาเป็นฝ่ามือผู้ชายโต ๆ ซึ่งถูกคุณหมอต่อว่าอย่างปัญญาชนว่าทำแบบนี้ไม่ถูก ผู้หญิงเขาไม่ชอบ ไม่เล่นด้วย มีสิทธิอะไรไปล่วงละเมิดเขา?
ดูเหมือนว่าเรื่องของดอกเตอร์จะกลายเป็นเรื่องของเขาไปแล้ว ยิ่งเห็นใบหน้าสดสวยแดงก่ำด้วยความโกรธละวางอารมณ์ลงได้ ดวงตาสวยใสมีหยาดน้ำใสเอ่อคลอน้อย ๆ เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความโกรธและกลัว... ออกไปทางว่ากลัวมากกว่า
ธนัชเลยไม่ใส่ใจเพื่อนในคราบคนไข้อีก เรียกลูกน้องให้เข้ามาช่วยพาอาจารย์ไปเก็บสัมภาระใส่กระเป๋า ซึ่งเขาเรียกเธออย่างสุภาพและให้เกียรติกับลูกน้องว่าเซ็นเซ นวีนาก้มศีรษะเป็นการขอบคุณชายแปลกหน้าหลายคน แม้แปลกใจอยู่ไม่น้อย เธอใช้เวลาไม่นานแค่หยิบกระเป๋าสะพายคว้าโทรศัพท์มือถือที่ชาร์จ ค่อยกลับเข้ามาในห้องครัวหยิบขนมเค้กในตู้เย็น เห็นคุณหมอยืนรอเธออยู่ ตั้งใจรอ! แต่ไม่เลิกกวนประสาทเพื่อน
“ว้าว... นี่มันวาฟเฟิลใบเตยร้านดังย่านสยาม รอคิวนานมากเลยนะ สั่งไลน์แมนมาเหรอ? ขอบใจนะเพื่อน” มือหยิบถุงขนมบนโต๊ะอาหารที่อีกคนซื้อมาให้น้องสาวกิน เคี้ยวแก้มกลมตุ่ย ตบบ่าเพื่อนเบา ๆ “มีแต่คนสั่งให้ดูแลน้องวีด้วย ถ้าไม่ดูละก็ ตายแน่... มึงพอรู้ใช่ไหม? เรื่องคนที่บ้านกูน่ะ ยังไงขอรับน้องไปก่อน ค่อยเจอกันที่โรงพยาบาลตอนมารับยาล่ะ”
“ไอ้นัท! กูไม่ได้ซื้อขนมมาให้มึงกิน มึงอย่ามายุ่งกับน้องวี กูไปส่งน้องเอง”
“คายไหม? ให้คายออกมาไหม ขนมวาฟเฟิลสุดอร่อยน่ะ” เอี้ยวหน้ากลับไปบอกคนที่ไม่สามารถตามเขาได้ทัน เสียงหัวเราะดังหลังจากนั้น
ชานนท์โมโหจนขมับเต้นตุบ ตะโกนเรียกน้องสาวให้กลับมาด้วยคำขู่ฟ่อสารพัด ทว่าติดกำแพงมนุษย์สี่คนในเชิ้ตสีเทาและสีดำสนิท หน้าตาไม่เป็นมิตร คอยกันท่าเขาไม่ให้ถึงตัวทั้งสอง คนสนิทอย่างหยางเหวินแอบดูอยู่ห่าง ๆ เลยเข้ามาดึงตัวเขาออกไป
ความคิดเห็น