คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : 6-1 บาดแผลในจิตใจ Trauma (100%)
เปลือกตาเปียกชื้นปรือขึ้นลงพร้อมหยดน้ำใสที่เกาะกุมบนขนตาเป็นแพหนา หญิงสาวสาวหลับ ๆ ตื่น ๆ เพราะความฝันประหลาดในวัยเยาว์ ความกังวลใจเรื่องเพื่อนรักทั้งสอง
คืนก่อนนายป๋องหน้าเลือดโทรมาบอกว่าไมค์หลุดจากคดีฆาตกรรมน้องสาวฝาแฝด เนื่องจากว่ามีการโต้แย้งที่ถูกกล่าวขึ้นโดยลูกขุนคนหนึ่งซึ่งกุมหลักฐานสำคัญ ทำให้ศาลอุทธรณ์รัฐอิลลินอยส์กลับคำตัดสินของศาลชั้นต้น ทั้งแรงจูงใจในการฆ่าน้องสาวไม่มี ทางตำรวจสืบสาวได้ว่ามีนายทุนข้ามชาติเข้ามาพัวพันจนเรื่องราวไปกันใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นไมค์ก็ติดคุกอยู่สักพัก สู้คดีจนหมดเนื้อประดาตัว เขาไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากเธอที่ส่งเงินไปให้ผ่านมิตรสหายคนสำคัญอย่างแองเจโล เฮมิลตัน ถ้าหากว่าแองเจโลไม่โกหกว่าเป็นเงินของตน ขอให้เอาไปใช้ก่อนค่อยมาคืนเมื่อไรก็ได้ ไม่ต้องคิดว่าเป็นบุญคุณ ไมค์คงไม่ยอมรับเงิน
‘ไมเคิล เดวย์น’ ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่เป็น ‘เดนนิส แอนเดอร์สัน’ หลังจากที่ตำรวจสากลนำหลักฐานสำคัญไปแลกกับอิสรภาพของเขา น่าจะไปทำงานกับทางตำรวจหรือเปล่า ข้อมูลนี้ยังไม่แน่ชัด นายป๋องหน้าเลือดสืบค้นประวัติมาได้เพียงเท่านี้ ลูกค้าได้คำตอบที่พึงพอใจ
‘โอนเงิน XXXXX’
‘โอนไว แต่งานยังไม่จบนะคะ คุณสืบเรื่องไมค์มาให้ฉันต่อไป ฉันเปย์ได้มากกว่านี้ ถ้างานดี’
วีน่าสายเปย์ ใจป๋า ใจป้ำ! สมเป็นลูกสาวคุณนายจิ เป็นฉายาสมัยเรียนของเธอ ลำพังตัวเธอไม่ลำบากอะไร แค่เงินค่าขนมที่คุณแม่โอนให้ไว้ใช้ ด้วยความที่เธอไม่ใช่คนฟุ้งเฟ้อ มองการณ์ไกล เลยเปลี่ยนเงินมาเป็นโฉนดที่ดินหลายใบ ยังมีหุ้นปันผลต่าง ๆ กิน ๆ นอน ๆ ทั้งชาติไม่ต้องทำงานก็ยังได้
นวีนาได้ยินจากพยาบาลว่าเธอน่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลวันนี้ หลังถูกกักตัวไว้เพราะแผลติดเชื้อ จึงกระตือรือร้นหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาทำงาน ขอให้มารดานำแท็บเล็ตสำหรับอ่านหนังสือมาให้เธออ่านฆ่าเวลา ยังมีกระเป๋าโทรศัพท์และที่ชาร์จ ไว้ค่อยติดตามข่าวสารบ้านเมืองทางโซเชียล
การนอนนิ่ง ๆ ในโรงพยาบาลยิ่งทำให้ฟุ้งซ่าน ยาคลายเครียดที่คุณหมอจัดมาให้ทำง่วงงุน สะลึมสะลือ หลับลึกไปสักคืนสองคืน ไม่สามารถเยียวยารักษาจิตใจที่เศร้าหมอง เพียงจำเป็นต้องรับประทานอาหารและนอนหลับ เพื่อการรักษาที่อาจารย์หมอสุดเนี้ยบว่าให้ลุยที่ต้นเหตุ
‘แล้วบอกว่าหมอนัทใจดี ไม่เห็นจริงตรงไหน มี๊นะ หาจิตแพทย์มาวุ่นวายกับลูกสาวอีก น่าปวดหัวเป็นบ้า คนปกติดีจะให้เป็นคนบ้าให้ได้...’
“คนไข้ต้องทานให้มากกว่านี้นะคะ กับข้าวมาแล้ว ยามาแล้วต้องทานนะ ไม่หายไม่ได้กลับบ้านนะคะ”
“ค่ะคุณพยาบาล” เสียงหวานรับคำอย่างว่าง่าย เพื่อให้สายตาคาดโทษเลื่อนมองไปทางอื่น เธอหยุดนินทาคุณหมอในใจ พอพยาบาลสาวใหญ่ก้มหน้าลงมองอุปกรณ์ สัมภาระที่เตรียมไว้ให้คุณหมอมาจัดการ ก่อนจะส่ายหน้ามองถาดอาหาร หยิบช้อนตักเข้าปากแค่คำเดียว ใครเดินเข้ามาเธอก็ยิ้ม
นวีนาคิดว่าคงไม่มีใครเข้ามารบกวนเธอ แต่เป็นตรงกันข้าม! คนเดินเข้าออกจนเธอไม่ได้นอน วันก่อนเธอเพิ่งรู้มาว่าคุณนายจิรู้จักกับนายแพทย์ใหญ่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล อาจารย์ลงมาทักทายเธอด้วยตนเอง ไหนจะอาจารย์แพทย์ขาโหดประจำแผนกจิตเวชเข้ามากำชับเรื่องโภชนาการ ให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารและยาโดยเคร่งครัดในปริมาณเหมาะสม การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เป็นเรื่องสำคัญของการรักษา
แต่เธอแค่กินข้าวเหมือนแมวดมมาตั้งนานแล้ว จะมาให้เธอกินเยอะแยะมากมายอะไรล่ะ
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูตามด้วยเสียงรองเท้าหนังมันวาวกระทบลงบนพื้นกระเบื้องยาง หญิงสาวมองตามคนมาใหม่ หลบเลี่ยงสายตาเขาด้วยความรู้สึกประหม่าอาย
“ขอรบกวนเวลานอนหน่อยนะครับ”
“ค่ะหมอ...” แล้วยิ้มตอบอย่างเป็นมิตร คุณหมอเริ่มตรวจความเรียบร้อยโดยรวมจากบันทึกของหมอคนอื่น ๆ ไล่สายตาไปตามแผ่นชาร์จงาน แพทย์เวร พยาบาล อาจารย์ศัลยแพทย์เข้ามาดูแลไม่ขาด เห็นบาดแผลฟกช้ำหายสนิทดี เหลือแค่เหล็กที่ดามไว้กับแขนข้างซ้าย จะต้องทำกายภาพบำบัดในอนาคต
ทุกอากัปกิริยา แม้แต่การขยับเรียวปากหนาที่มีเขี้ยวคมฝังอยู่ทั้งสองข้างทำเอาคนไข้บนเตียงนิ่งงัน เธอขมวดคิ้วมุ่นมองเขาเหมือนกับว่าเคยเห็นหน้ามาก่อนที่ไหนสักแห่ง
คงไม่ใช่มั้ง...
“ดอกเตอร์เป็นไงบ้าง? อาการดีขึ้นมั้ย”
“ดีค่ะ... หมอ” พลันเลิกทำหน้ายุ่งมองเจ้าของร่างสูงในชุดกาวน์ข้างเตียง กว่าจะตอบ “ดีขึ้นเยอะเลย แต่ว่าอยากกลับบ้านแล้วค่ะคุณหมอ ขอกลับเร็ว ๆ ได้มั้ย?”
“เดี๋ยวได้กลับแล้วนะ หมอขอตรวจอีกรอบ มาครับ จะทำแผลให้ครับ” เร็วกว่าฝ่ามือหนาที่เลิกผ้าห่มขึ้น คว้าข้อเท้าเรียวเป็นที่แรก เพื่อจัดการแผลให้เธอด้วยตนเอง หลังสวมถุงมือยางแล้วบรรจงมือทำแผลบริเวณศีรษะของคนไข้ พยาบาลสองคนเข้ามาช่วยเปลี่ยนผ้าพันแผล ดวงตาคู่หวานสั่นไหว ก่อนที่ความหวาดกลัวจะหายไปครู่หนึ่ง เพียงได้ยิน
“เจ็บเหมือนมดกัดนะครับ เดี๋ยวเดียวก็เสร็จ อดทนหน่อยนะ”
นวีนายิ้มแหย แสร้งประชดประชัน “อย่าทำเหมือนฉันเป็นเด็กห้าขวบสิคะหมอ แผลแค่นี้ไม่เท่าไร คุณหมอคุณพยาบาลที่นี่มือเบ๊าเบา รับรองว่าถ้าคราวหน้าโดนสิบล้อทับ ฉันจะกลับมาใช้บริการที่นี่อีกแน่นอน”
“ขอบคุณสำหรับคำชมนะ แต่หมอคงไม่ดีใจ ถ้าคนไข้เกิดคิดสั้นเพราะอยากมาหาหมอหล่อ เอ้อ...” เขาเงียบไปครู่ แสร้งหัวเราะปล่อยมุกตลก “อันที่จริงหมอไม่เซ็นให้กลับบ้านก็ได้ อยากอยู่ที่นี่นานแค่ไหนล่ะ? สามเดือน หกเดือน... สองปี แผนกจิตเวชตอนนี้เตียงเต็มตลอด แต่จองคิวได้”
“ขอผ่านละกันค่ะ สุขภาพจิตฉันปกติดี คนปกติดีจะให้เข้าไปอยู่กับคนบ้าเนี่ยนะคะ” พูดจบ เธอหรี่ตาเล็กจนเหยียดตรง พอคุณพยาบาลเริ่มเปลี่ยนสายน้ำเกลือ เจาะแขนเธออีกรอบ แถมเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เส้นเลือดมันเปราะ เข็มจิ้มเข้ามาแต่ละทีเส้นแตกไปหมด เธอกัดฟันอดทน เพราะกลัวเสียหน้าที่ทำกล้าหาญไว้ กลายเป็นคุณหมอเข้ามาจับเข็มให้พยาบาลหยุด...
“ไปทำงานอื่นต่อเลยครับ ผมจัดการเอง”
พยาบาลสาวอายุน้อยหน้าตะลึงลาน กลัวจะถูกคุณหมอตำหนิว่าทำงานไม่ดี แต่มันก็พลาดกันได้ คนไข้บางคนเส้นเลือดเล็กมาก โดยเฉพาะห้องนี้ พยาบาลรุ่นใหญ่เข้ามายังต้องเพ่งแล้วเพ่งอีก แต่คุณหมอไม่ทันพูดอะไร หันไปมองพวกหล่อน รีบเผ่นแน่บออกจากห้องตรวจยังกับหนีผี!
‘แปลกจริง... คนที่นี่ ทำไมเกรงใจหมอนัทขนาดนั้นนะ? กับหมอคนอื่นก็ดูร่าเริงดี’
คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นมองประตูที่ปิดลงอย่างระวัง เท่าที่นอนเล่นในโรงพยาบาลนี้มา คุณหมอคุณพยาบาลยิ้มแย้มแจ่มใสให้บริการดี เป็นมิตรทุกคน แต่เวลาเข้ามาทำงานกับอาจารย์ธนัช บางคนจะดูเกร็ง ๆ ปิดปากเงียบสนิท ถ้าเป็นพยาบาลใหม่ดูอายุน้อย ๆ ก็ทำหน้าตาเลิ่กลั่กลนลาน
คนไข้เก็บความสงสัยไว้ ขณะรอให้คุณหมอทำงานอย่างใจเย็น ด้วยประสบการณ์ทำงานของเขา เพิ่งแย่งงานพยาบาลทำ เพราะมีงานใหญ่กว่า อีกฝ่ายยังคงไม่รู้ตัว กระทั่งเขาจัดการงานของตนเสร็จ ถอดถุงมือยางโยนทิ้งลงถังขยะ เห็นช่อกุหลาบขาวที่นายชานนท์ถือมาเมื่อตอนเช้า...
“อ้าว... สาว ๆ เขาไม่ชอบดอกไม้กันหรือ? ทำไมรีบทิ้งจังล่ะครับ”
คนฟังเบือนหน้าไปทางหน้าต่างกระจกที่มีผ้าม่านสีครีมอ่อน คุณหมอไม่สนใจกิริยาห่างเหิน หย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ล้อลากข้างเตียง เอ่ยคำที่ควรพูดกับตัวเองมากกว่า
“ผู้รู้จักการให้อภัย ย่อมเป็นสุข อะไรที่หนักก็วางบ้าง ทุกคนมีความผิดพลาดกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าจะให้อภัยกันหรือเปล่า”
“สาธุค่ะ..”
“หมออยากคุยด้วยนะ หันมาก่อนสิ คุยไม่นานหรอก จะให้นอนพัก ให้กลับบ้านด้วยนะ” เสียงทุ้มอ่อนโยน ราวร่ายมนตร์สะกดให้อารมณ์คนไข้ผ่อนคลายลง ซึ่งเธอไม่ได้อยากทำกิริยาเง้างอนใส่ว่าที่ลูกเขยของคุณนายจิดาภาหรอก แต่ถ้าจะมาถามเรื่องดอกไม้ เธอคงลำบากใจ แถมโชคดีเท่าไร เธอไม่ลุกไปอาละวาดพี่ชายต่างสายเลือดจนสายน้ำเกลือหลุด
ความคิดเห็น