คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 1-2 หมอยากูซ่า (100%)
นัยน์ตาคู่คมสีน้ำตาลอ่อนใต้แว่นกรอบหนาทอดมองประตูสีขาวที่ปิดลง หลังเสร็จสิ้นคนไข้รายสุดท้ายของวัน คุณหมอหนุ่มก้มหน้าทำงานต่ออย่างนิ่งเงียบ
ด้วยประสบการณ์การเป็นจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ให้บริการคำปรึกษาด้านโรคผิดปกติทางพฤติกรรมและอารมณ์ โรคการเรียนรู้บกพร่อง ทำให้คุณหมอมีความอดทนกว่าคนทั่วไป มีความเมตตาในฐานะแพทย์
เฉพาะในเวลางาน!
หลายคนเดินเข้า ๆ ออก ๆ ห้องตรวจ มองเห็นเส้นเลือดปูดโปนบนขมับ ชายร่างสูงใหญ่ในชุดกาวน์ถอดเสื้อตัวโตโยนลงกระเป๋า พยาบาลสาวใหญ่รุ่นป้าที่คอยช่วยงานทุกวันก็เข้ามาทักถาม พอจะเดาออกว่าหมอหงุดหงิดเรื่องอะไรถึงได้เก็บของกลับบ้านท่าทางฮึดฮัดเช่นนั้น
“เดินทางกลับบ้านปลอดภัยนะหมอนัท” เสียงหวานล่ำลาคุณหมอหนุ่มที่เพิกเฉยหล่อน เขาเพียงเงยหน้าขึ้นจากสัมภาระด้วยสีหน้านิ่งเรียบแล้วโบกมือลา มือคว้ากระเป๋าหนังสีดำคู่กายตวัดพาดบ่า ก้าวฉับ ๆ ออกจากห้องตรวจไปไม่สนใจใคร
‘หมอนัทอารมณ์ไม่ดีแหง ๆ ป้าดูสิ แกเดินหนีกลับบ้านไปแล้วนั่น’
‘ไม่น่าไปแทงใจดำหมอนัทเล้ยย เจ้าอเล็กซ์ตัวแสบ ดีนะ ลูกชายมาเป็นเคสสุดท้ายตอนเลิกงานพอดี’
นอกเสียจากคุณพยาบาลพัชรี พยาบาลรุ่นใหญ่ประจำแผนกแล้วพยาบาลนอกห้องซุบซิบนินทา คุณหมอก็ได้ยิน ใครเล่าจะรู้ว่าจิตแพทย์เชี่ยวชาญงานระดับอาจารย์ธนัช ดันเก็บคำพูดของเด็กน้อยมาครุ่นคิด เรื่องแฟนบ้าบอคอแตก ใช่ว่าอยากมีซะเมื่อไร ไม่มีก็ไม่เห็นจะตายสักหน่อย!
เจ้าของร่างสูงชะลูดในเชิ้ตสีขาวสะอาดเดินผ่านแผนกจิตเวชชายที่มีประตูไฟฟ้าล็อกสนิทแน่น จากแผนกผู้ป่วยในถึงลานจอดรถยนต์ในเวลาหนึ่งทุ่ม ปริมาณรถยนต์เข้า-ออกเป็นปรกติโรงพยาบาลเอกชนใจกลางเมืองกรุงฯ ในเวลากลางคืน มีเคสฉุกเฉินเข้ามาไม่ว่ากี่โมงกี่ยาม จนมาถึงซูเปอร์คาร์สีแดงสดถัดจากรถยนต์ญี่ปุ่นอีกสามคันในที่จอดรถแพทย์บริเวณชั้นใต้ดิน หยุดปลายเท้าลงหน้ากระจกข้างรถคู่ใจทางด้านซ้าย มือขยับเนคไทหลุดลุ่ยในเวลาเลิกงานให้เข้าที่ ผูกหัวคิ้วเข้าหากันตรงหว่างกลางหน้าผาก
โดยปกติแล้วอาจารย์ธนัชมักจะนอนค้างที่หอพักแพทย์หลังเลิกงาน วันนี้เขาต้องไปเอาเสื้อผ้ากับเอกสารสำคัญ จำต้องยอมเสียเวลาเทียวไปเทียวมา พรุ่งนี้เข้างานสายได้คงไม่มีอะไร ถ้าหากว่ารถไม่ติดคงแค่สิบนาทีก็ถึง
ความคิดฟุ้งซ่านหยุดลงเมื่อความมืดเข้าปกคลุม เพราะกำลังรีบกลับห้องไปทำธุระ แถมมีงานต้องสะสางอีกมาก กระเป๋าหนังสะพายไหล่สีดำถูกโยนลงบนเบาะหลังของรถยนต์ กระโจนกายขึ้นรถบึ่งคันเร่งแรงผ่านถนนโล่งกว้าง ในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ที่คุณหมอบางคนไม่ได้หยุด กระทั่งถึงจุดหมายในซอยมืดแคบมีแสงไฟกะพริบริบหรี่ ทันใดนั้นเอง สาวน้อยคันสวยที่ทะนุถนอมมาเป็นอย่างดีก็เกิดเสียงดังครืดคราด บังคับล้อได้อย่างยากลำบาก พวงมาลัยหนักเหมือนยกหิน มันน่าจะไปเหยียบอะไรเข้า
‘เมื่อไรจะปรับปรุงเสร็จซะที ชาตินึงละคอนโดฯ นี้ กลับบ้านทีมืดจะตายห่า ทำไมไม่ทำอะไรว่องไวเหมือนตอนส่งจดหมายเรียกเก็บเงินวะ!’ คิดหงุดหงิดพลางลงจากรถ ด้วยความเป็นคุณหมอขี้บ่นฮอร์โมนแปรปรวน เขาเดินวนไปรอบ ๆ รถอย่างหัวเสีย ก้มหน้าลงมองล้อฟีบแบน
“แม่งเอ๊ย!”
ใครมันช่างกล้า! รับรองว่าพวกมันจะได้ไถ่โทษด้วยการเลียล้อและชดใช้ค่าเสียหายอย่างสาสม!
ร่างสูงขบกรามแน่นจนเป็นสันนูน วินิจฉัยอาการของรถยนต์คันโปรดคร่าว ๆ พลันนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานนี้อ่านหนังสือพิมพ์ออนไลน์หน้าข่าวอาชญากรรม ขณะนัยน์ตาประกายเข้มจัดผละจากยางฟีบแบนเบื้องล่างเพื่อมองหาร่องรอยบาดเจ็บอื่น เสียงท่อรถจักรยานยนต์ดังขึ้นพร้อมเสียงฝีเท้าหนัก ๆ
“เฮ้ย! อย่าขยับ... ส่งของมีค่ามาให้หมด อย่าตุกติก ไม่งั้นมึงตาย!” ชายร่างผอมเกร็งยกปืนขึ้นขู่ ก่อนจะขยิบตาให้พรรคพวกตรงไปจัดการเป้าหมาย โจรโฉดอีกคนไม่รอช้า ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราพยักตอบอย่างรู้กัน มือคว้ามีดเล่มโตที่ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำออกมา
“ผมเป็นหมอนะ กำลังจะกลับบ้านไปพักผ่อน รู้ไหมว่าหมอช่วยชีวิตผู้คนทุกวัน โดยเฉพาะผู้ป่วยจิตเวช จะมาปล้นหมอทำไมกัน?” ในสีหน้าแย้มยิ้ม แลดูร้ายกาจตรงมุมปากหนาหยักได้รูป คุณหมอหนุ่มหน้าหวานไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับภัยคุกคาม เป็นตรงกันข้าม พอโจรคนหนึ่งส่งเสียงขู่ฟ่อ
“ดีเลยหมอ กูว่าหมอน่าจะรวยแน่ ๆ ขับรถคันเป็นยี่สิบล้าน โอนเงินมาให้กูเร็ว ๆ”
“อะไรนะครับ?”
“โอนเงินมา หยิบโทรศัพท์ออกมาคุณหมอหน้าสวย ให้ไว ไม่งั้น...” ปลายเสียงเงียบไป สายตาหื่นกระหายจ้องมองใบหน้าหวานคมของคนที่ยกมือขึ้นกางในอากาศ เมื่อโจรโฉดอีกคนกำลังรื้อค้นรถยนต์คันหรู ถึงแม้ว่าหมอจะเป็นผู้ชาย แต่รูปร่างหน้าตาสวยหวาน ผิวขาวสะอาด อาจมีมัดกล้ามสักหน่อย พวกโจรชั่วก็คงไม่ถือเรื่องเพศเดียวกัน เอาเป็นว่าแค่มีรู...
ทางด้านคุณหมอหนุ่มหน้าหวานกวาดสายตามองหาอาวุธของศัตรู นับโจรได้สี่คนพร้อมวางแผนจัดการ เขาส่งเสียงหัวเราะดังลั่น มือทำทีเป็นล้วงกระเป๋ากางเกงหาโทรศัพท์ ทว่าอาศัยจังหวะแปลกใจของโจรโฉด คงคิดว่าเขาเมายาหรือเปล่า สะบัดปลายเท้าใส่ปืนในมือของชายฉกรรจ์กระเด็นกระดอน ซัดหมัดหนักสองสามทีแสกกลางหน้า
“มึงปล้นผิดคนแล้วไอ้กร๊วก!”
ชายหน้าเหี้ยมไม่ได้สนใจคำขู่ พอเพื่อนล้มคะมำก็รีบกระโจนกายเข้าหาเหยื่ออย่างกระหาย หมายจะเอาชีวิตด้วยอาวุธทั้งมีดปืน ในขณะที่ฟาดฟันได้แค่อากาศ หลังถูกลูกถีบสุดจุกพาล้มลงไม่เป็นท่า พร้อมอาวุธมีดสปาต้าที่ถือมา ชายร่างผอมเกร็งไม่รอช้า กระเสือกกระสนลนลานพยายามคว้าปืนที่อยู่ไม่ไกลจากสายตามาจัดการเป้าหมาย คุณหมอหนุ่มจัดการอาวุธเจ้าปัญหาด้วยการไถลตัวสกัดส่งปืนหายวับไปในความมืดราวนักฟุตบอล โดยไม่ได้สนใจว่าเสื้อสีเชิ้ตขาวของเขาจะเปรอะเปื้อนฝุ่นดินหินกรวด
“เผ่นเว้ย!” เสียงกร้าวตะโกนบอกเพื่อนร่วมงานโฉด หลังสัมผัสได้ถึงความช่ำชองในทักษะการต่อสู้เกินกว่าจะเป็นเหยื่อ พวกมันมาดักรอปล้นหนุ่มหน้าหวานอยู่หลายวัน กลับกลายเป็นว่าต่างคนลากสังขารหนีอย่างไม่คิดชีวิต วิ่งตรงไปยังคนขับรถจักรยานยนต์ซึ่งจอดรออยู่ แต่ดูเหมือนว่าหนุ่มวัยสามสิบปลาย ๆ ที่หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำเคลื่อนไหวได้เร็วกว่า
ฝีเท้าที่ควบไปข้างหน้าราวม้าศึกชั้นดีไม่ปล่อยให้โจรชั่วได้โอกาสหลบหนีแม้สักคน คนหนึ่งถูกถีบเข้ากลางหลัง กระโดดเตะก้านคอขาซิ่งชิงทรัพย์จนสลบเหมือดคาแฮนด์ เสียหลักล้มลงพื้นกลิ้งตุบ! ทั้งคนทั้งมอเตอร์ไซค์
“อย่าคิดว่าจะหนีกูพ้น พวกมึงมานี่!” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าเกรี้ยวกราด แน่นอนว่าเขาไม่ได้อยู่ในชุดกาวน์ขาวสะอาด ไม่ใช่หมอตี๋ใจดี แต่เป็นลูกหลานยากูซ่า[1]! ‘เรียวสุเกะ โอดะ’ เขาตัดสินใจแล้วว่าจะเชือดพวกขยะสังคมทีละตัว เพื่อไม่ให้บรรพบุรุษผิดหวังว่าลูกหลานจะเป็นผู้ชายเหลาะแหละ และอีกเรื่อง...
“เมื่อกี้พวกมึงเรียกใครคุณหมอหน้าสวย?”
“ขะ... ขอโทษครับหมอ ปล่อยพวกผมไปเถอะนะ” คนหนึ่งยกมือไหว้ปลก ๆ หันไปมองเพื่อนชายหน้าเหี้ยมที่นอนแน่นิ่ง โจรโฉดอีกสองหน้าซีดหน้าเผือด ด้วยกลัวจะถูกจับโยนเข้าซังเต หาได้รู้ไม่ว่าพวกเขาอาจไม่โดนแค่นั้น จิตแพทย์หนุ่มจัดการเหยื่อโทสะจมพื้น ล้มลุกคลุกคลาน บาดเจ็บหนักจนเดินไม่ไหว มือกระตุกลายเน็กไทลายขวางจากเชิ้ตขาวที่เปรอะเปื้อนเลือดออกมากระชากปมเพื่อคลี่ขยายเป็นเส้นยาว ทาบรองเท้าคู่สีดำมันวับลงบนอกแกร่งของชายฉกรรจ์ที่นอนตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า
“พวกมึง... มีอะไรจะสั่งเสียมั้ย?”
[1] ยากูซ่า (ヤクザ yakuza ?) หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า โกะคุโด (極道 gokudo) นั้นเป็นสมาชิกของกลุ่มอาชญากรรมที่ก่อตั้งขึ้นมาแต่โบราณ มีรากมาจากวิวัฒนาการทางสังคมตั้งแต่สมัยเอโดะ (พ.ศ. 2146 - พ.ศ. 2410) คำว่า “ยากูซ่า” นั้นเดิมทีมาจากการเล่นไพ่ของญี่ปุ่น ค่าของไพ่จะถูกบวกเข้าด้วยกัน และตัวเลขสุดท้ายของผลรวมจะถูกนับเป็นคะแนน ไพ่ที่ถือในมือที่แย่ที่สุดในเกมส์คือ ชุดของเลข 8 ,9 และ 3 ซึ่งจะให้ค่ารวมกันเท่ากับ 20 และคะแนนก็จะได้เท่ากับศูนย์หรือแต้มบอด ไม่มีค่า หรือพวกไร้ค่านั่นเอง
ความคิดเห็น