ที่ที่มีความทรงจำ : สิริกมล - ที่ที่มีความทรงจำ : สิริกมล นิยาย ที่ที่มีความทรงจำ : สิริกมล : Dek-D.com - Writer

    ที่ที่มีความทรงจำ : สิริกมล

    ผู้เข้าชมรวม

    187

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    187

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 เม.ย. 54 / 11:20 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ในช่วงที่ผู้คนกำลังมีความสุขในวันที่หิมะกำลังตกลงมาในประเทศไทย กลับมีผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังนั่งน้ำตาไหลอยู่.....
    ที่ที่มีความทรงจำ : สิริกมล
    ที่ที่มีความทรงจำ : สิริกมล
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ในเดือนธันวาคมปี 55 ในวันที่โลกเกิดการวิปริตผิดเพี้ยนไปหมดสภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลงไป เกิดมีหิมะตกในประเทศไทย แม้ว่านี้จะไม่ใช่การตกครั้งแรกแต่คนไทยก็ต่างมีความสุขลั้นลากับเกร็ดสีขาว ที่โปรยปราย

      น่าอิจฉาจังนะทุกคนดูมีความสุขจริงๆ

      หญิงสาวสวย ผิวขาว ผมดำ ใบหน้ารูปหัวใจ สวมชุดเสื้อกันหนาวอย่างหนา กางเกงวอร์มสีดำแถบลายน้ำเงินที่ข้างขา นั่งอยู่บนเก้าอี้ม้าหินอ่อนอย่าเหม่อลอย น้ำใสๆไหลออกมาเลอะข้างแก้มเป็นสายช่างดูขัดกับบรรยากาศรอบตัวนัก

      31 มีนาคม 2554  ณ ศูนย์การค้าแปซิฟิคปาร์ค ศรีราชา  ผมเทกระหน่ำลงมาในตอนที่ฉันกำลังจะกลับบ้าน

      “ฝนบ้าอะไรมาตกในหน้าร้อนว้ะ” ตอนนั้นเงินในโทรศัพท์ฉันหมดพอดีห้างก็ปิดแล้วฉันจึงวิ่งฝ่าสายฝนไปยังตู้ โทรศัพท์ที่ติดถนนแล้วตรงนั้นเองที่ทำให้ฉันได้พบกับคนที่แสนพิเศษคนหนึ่ง

      “เอ่อ....” มีผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาไม่เอาไหนยืนอยู่ในตู้โทรศัพท์แต่เขาไม่ได้ใช่เครื่อง เขาหันมามองฉันแล้วส่งยิ้มปลกๆมาให้ฉัน “เอ่อ...จะโทรศัพท์คะ” ฉันชี้ไปที่เครื่อง

      “เชิญเลยครับ”

      แกก็ออกมาก่อนสิโว้ยไอ้บ้า คนจะโทรศัพท์โว้ย ฉันนึกโมโหอยู่ในใจ บอกได้ว่าไม่ได้นึกกลัวเค้าแม้แต่น้อยเพราะหน้าตาไม่เอาไหนนี่แหละแต่เค้าก็ ยังคงยิ้มตาหยี่ๆมาให้ฉัน ด้วยฝนที่ตกมาอย่างหนักทำให้ฉันจำใจเดินเข้าไปในตู้ เพื่อเป็นการกันไว้ก่อนฉันจึง...

      “หมวดหรอคะ บอกพ่อหนูส่งคนมารับหนูหน่อยที่โรบินสันคะ” คริๆ เรานี่มันฉลาดเป็นบ้า

      “หืม?” พ่อฉันทำเสียงงงๆก่อนตอบตกลง ใช้เวลาสักพักก่อนที่พ่อจะมาถึง ฉันจึงต้องทนอยู่กับอีตาบ้าตาหยี่ในตู้โทรศัพท์อย่างจำใจ เวลาที่มีเหลือเฟือทำให้ฉันได้พิจารณาเค้าดีๆ มองไปเขาก็ไม่เลวเท่าไหร่ มีทีท่าเขินอายเล็กน้อยมองพื้นตลอดเวลาไม่ได้คิดจะมองฉันเลยสักนิดและก่อน ที่ฉันจะออกเขาก็พูดขึ้น

      “คุณครับ” นั่นแน่....ในที่สุดก็พูดออกมาจนได้

      “คะ...” ฉันหันไปพร้อมสะบัดผมที่เปียกน้ำเหมือนโฆษนาแชมพูสระผม  อ๊ะๆ จะขอเบอร์ชั้นละสิ ไม่ง่ายหรอกนะไอ้ตี๋ ฉันคิด

      “คุณเหยียบขี้หมาเข้ามา ช่วยเตะออกไปที เหม็นมากเลย อ๊อก!!” ชายหนุ่มที่เกือบจะอ้วกพูดด้วยท่าทีเกรงใจ แต่ชั้นละแค้นใจ อีตาบ้าเอ้ย!!! ฉันทำอะไรไม่ถูกนอกจากวิ่งผ่าฝนเหมือนนางเอก mv ที่เห็นแฟนอยู่กับคนอื่น ไปขึ้นรถพ่อที่จอดอยู่

                  และนั่นก็เป็นการพบกันครั้งแรกของเรา แต่อีกไม่นานเรื่องเหลือเชื่อก็เกิดขึ้นเพราะเราทั้ง 2 ได้พบกันอีก เขาเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทไม้จิ้มฟัน ส่วนฉันเองเป็นเลขานุการการบริษัทพลาสติกแล้วพอดีบริษัททั้ง 2 ได้ร่วมงานกันฉันกับเขาจึงมีโอกาสได้พบเจอและได้พูดคุยกัน

      เขาเป็นคนสุภาพอ่อนโยน ผิดกับที่ฉันคิดกับเขาไว้ในวันแรกเลยละเขาเหมือนเป็นคนมีพลังพิเศษ เขาชอบมาอยู่ในเวลาที่ฉันต้องการใครสักคน....

      ในวันนั้นเป็นวันหยุดสงกรานต์รถที่จะเข้าไปในบ้านฉันมันก็มีนานๆคัน  ฉันนั่งรอด้วยความเซ็งมาเกือบ 1 ชั่วโมง รถก็ยังไม่มาสักที บรรยากาศเริ่มมืด ความรู้สึกกลัวเข้ามาแทนที่ พ่อกับแม่ก็ไปต่างจังหวัด อันที่จริงบ้านก็ไม่ได้ไกลนักเดินไปก็ถึงแต่ว่าตรงนั้นมันมืดมากอันตรายกว่า อยู่ตรงนี้เสียอีก และแล้วก็เหมือนฟ้ามาโปรด ปัญญาขับมอเตอร์ไซต์เก่าๆของเขาผ่านมาแต่ฉันก็ไม่กระโตกกระตาก เพื่อเป็นการวางมาดฉันส่งยิ้มให้เขาแต่ทว่าเหมือนเขาไม่เห็นและขับเลยไป

      “ทำไมไม่เรียกเค้าวะ ยัยโง่เอ้ย” ฉันหัวเสียกับตัวเองแปบหนึ่งก่อนจะกลับมานั่งกลัวต่อรถ 2 แถวก็ไม่มีสักทีแต่แล้วเสียงรถของปัญญาที่ยังคงถูกบันทึกในสมองก็แว่วเข้ามา เขาย้อนกับมา โอ้พระเจ้า ฉันจะไม่ปล่อยเขาไปเด็ดขาด ฉันรีบโบกมือเรียกเขา

      “โอ้ ผมว่าแล้วผมเห็นคุณแว้บๆ” ปัญญาเอ่ยขึ้นมา

      “คะ ไปไหนคะเนี่ย” ฉันถามหยั่งเชิงกลัวเสียฟอร์ม

      “อ่อ...เอ่อ..เอ่อ.อ่อผมมาลองรถนะครับ รถมันเก่าแล้ว” ปัญญายิ้ม “ ไปไหนละครับ ให้ผมไปส่งมั้ย”

      เข้าเป้า เป๊ะ ฮ่าๆ  ฉันรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที

      “จะดีหรอ” ฉันรีบปีนขึ้นคร่อมรถทันทีแต่ทว่าหลังจากเขาดับเครื่องตอนคุยกันรถของเขาก็สตาร์ทไม่ติด

      โอ้ เซง เซง ซวย ผันเป็นกริยา 3 ช่องเชียวเลยละฉัน วันนั้นฉันต้องเดินกลับบ้านไปพร้อมกับเขาแต่ฉันก็รู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่ มีเขาอยู่เคียงข้าง ในที่สุดเราก็เริ่มคบหาดูใจกัน

      31 ธันวาคม 2554

            และแล้ววันหนึ่งเขาก็ชวนฉันมาออกเดท ฉันรู้สึกเสียใจมากที่วันนั้นฉันไปช้า ฉันลืมวันครบรอบ 7 เดือน ฉันมัวแต่ทำงานแต่เขาก็ยังรอฉันอยู่

      “รอนานมั้ย” ฉันถามเขาไปทั้งๆที่จริงฉันผิดนัดเค้าตั้ง 3 ชั่วโมง

      “หิมะสวยดีนะ” วันนั้นเป็นวันที่มีหิมะตกครั้งแรกในประเทศไทยมันทำให้ฉันลืมเรื่องผิดนัด กับเขาไปเลย ผู้คนมากมายที่กำลังรอรถโดยสารอยู่ด้านหน้าห้างสรรพสินค้า บ้างก็เล่นหิมะกันสนุกสนาน บ้างก็ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกมันเป็นวันที่เหลือเชื่อมากว่าจะมีหิมะตกส่งท้าย ปีเก่าต้อนรับปีใหม่

      “อ้าว อิตาบ้านั่นหายไปไหนแล้ว สงสัยจะหลงทางละมั้ง” ยังไม่ทันที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น

      “คะ สวัสดีคะ”

      “คุณสิริกมลใช่ไหมครับ” เสียงนุ่มๆที่ฟังแล้วนึกถึงใบหน้าหล่อๆพูดชื่อฉัน

      “คะ ใครคะ”

      “คุณจำสถานที่วันที่เราพบกันครั้งแรกได้ไหม” ต้องเป็นไอ้บ้านั่นแน่ฉันมองไปที่ตู้โทรศัพท์ที่เราพบกันครั้งแรกมันดูโทรม ไปเยอะเนื่องจากตากแดดตากฝนมายาวนาน ฉันเห็นปัญญาถือหูโทรศัพท์อยู่

      ปัญญายักคิ้วหลิ่วตาให้กับคนรักของเขา

      “ผมว่านี่มันอาจจะเร็วไป แต่ว่าผมก็มั่นใจแล้วละ แต่ง....”

      แปร๊น แปร๊น แปร๊น

      เสียงแตรรถทัวร์ที่จะเข้ามาจอดรับผู้โดยสารดังมาแต่ไกลนี่ไม่ใช่เรื่อง ผิดปกติอะไรมันเป็นสิ่งที่ชาชินของคนโดยสารไปแล้วแต่ทว่าวันนี้มันไม่ปกติรถ ทัวร์กรุงเทพ-พัทยา พุ่งชนตู้โทรศัพท์ที่ปัญญาอยู่อย่างจัง

      “ปัญญา” ฉันตะโกนออกมาสุดเสียง น้ำตาไหลออกมาด้วยความตกใจ ขาทั้ง2 ข้างของฉันเก้าไม่ออก ฉันสับสนไปหมด

      “มันไม่ใช่เรื่องจริงๆ” ฉันพยายามจะปลอบใจตัวเองแต่เหตุการณ์ตรงหน้าไม่อาจปฏิเสธได้เลย ฉันพยายามฝืนร่างกายที่แข็งถือไปหาเขาให้ได้

       5 นาทีต่อมารถพยาบาลก็มาถึงพาฉันและปัญญาไปส่งโรงพยาบาล

      “เค้ากำลังขอฉันแต่งงาน มันไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นความฝัน เค้าต้องไม่ตายๆๆๆ” ทุกคำพูดทุกสิ่งเข้ามาในสมองฉันในทุกวินาทีที่ผ่านพ้นไป น้ำตาที่ไหลยังคงไหลไม่รู้จักหยุดสิ้น คุณพ่อคุณแม่ของปัญญาโอบกอดฉันไว้ไม่กี่วินาทีต่อมาพยาบาลสาวก็เดินออกมา

      “เสียใจด้วยนะคะ” เธอพูดอย่างเศร้าๆ “ขอโทษนะคะ คุณฝ้ายหรือปล่าวคะ”

      “คะ” ฉันยังคงสะอื้นไม่หยุด

      “ก่อนไปเขาฝากฉันบอกคุณว่า เขาไม่ได้รักคุณเลย คุณจะไปมีใครก็ตามสบาย” เธอพูด “แต่ว่าฉันไม่เชื่อรอกนะคะเพราะว่าเค้ากำแหวนนี้กับรูปคุณไม่ยอมปล่อยเลยละ คะ”

      นายมันบ้า นายมันบ้า ยังจะมาห่วงฉันอีก ฮือๆ ฮือๆๆๆๆ

            เช้าวันต่อมาตำรวจรายงานว่าสาเหตุของอุบัติเหตุเกิดจาก รถทัวร์ 2 คัน ขับแข่งกันมาจามาแย่งที่จอดหน้าโรบินสันประกอบกับถนนที่ลื่นเพราะมีหิมะตกทำ ให้เบรคไม่อยู่พุ่งชนตู้โทรศัพท์ดังกล่าว

      ที่แห่งหนึ่งที่แสนธรรมดาของคนทั่วไป กลับทำให้ฉันต้องคนพบเรื่องราวมากมายยังที่แห่งนี้ ถ้าเป็นไปได้วันนั้นฉันไม่น่ามาเจอเธอเลย ฉันน่าจะเติมเงินโทรศัพท์เสียก่อน ฉันน่าจะรอให้หยุดฝนตก วันนี้เธอคงไม่ต้องไปอยู่ที่ตรงนั้น ฉันขอโทษนะ...

      ปล.เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาโดยอาศัยความเป็นไปได้สูงจากความเป็นจริง
      ปล.เจ้าของเดียวกับ http://13lucky13.exteen.com/

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×