คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : หมาป่าหิมะในกล่องเงิน
- 3 -
หมาป่าหิมะในกล่องเงิน
ดวงจันทร์ดวงโตลอยเด่นอยู่เหนือนภาในยามราตรี ดาวมากมายที่รายล้อมเดือนส่องแสงระยิบระยับจับตา ดาวตกพุ่งฉิวเป็นระยะ อากาศหนาวเริ่มโรยตัวแล้ว มาทิลดานั่งอยู่เดียวดายบนฟุตบาทข้างถนน ตึกราบ้านช่องต่างปิดไฟมืดมิด มีเพียงเสาไฟข้างถนนเท่านั้นที่ส่องแสงริบหรี่อยู่เป็นเพื่อนเธอ
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไรที่เธอยังคงหลงทางอยู่คนเดียวท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น (เธอเดินหลงทางหาทางออกอยู่แถวนี้มาเป็นชั่วโมงแล้ว) ความสับสน ความหนาวเย็น ความหิว ความง่วง และความเดียวดายที่รุมเร้า ทำให้มาทิลดาอึดอัดใจยิ่งนัก เธอจะต้องอยู่ในสภาพนี้ไปอีกนานเท่าไร
พลันเธอก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างคล้องอยู่รอบคอ เย็นและค่อนข้างหนัก เธอจึงดึงมันออกมาจากในเสื้อ
สร้อยที่มีจี้เป็นกุญแจสีเงิน อัญมณีสีน้ำเงินเข้มสะท้อนแสงดวงดาวลงมาอย่างงดงาม
เสียงบางอย่างดังมาจากข้างหลังไกลๆ มาทิลดาหันไปดูด้วยความสงสัย
“เจ้าเอาไปให้นางสิ” หญิงสาวผมแดงคนหนึ่งพูด เธอสวมชุดกระโปรงแบบสุ่มไก่สีส้ม พยายามยัดยอกกล่องสีเงินใบหนึ่งให้หญิงสาวผมม่วงประหลาดสวมชุดกระโปรงสั้นแค่เข่าสีเผือก และมือหนึ่งถือร่ม
“ไม่เห็นเรอะว่าข้ามือไม่ว่างตั้งข้างนึง มือเจ้าว่างทั้งสองข้างทำไมเจ้าไม่เอาไปให้นางเองล่ะ” เธอว่าพลางแกว่งร่มในมือไปมา
“เจ้าก็เหลือมือตั้งข้างนึงนี่” หญิงสาวผมแดงโต้
“ให้ข้ายื่นไอ้นี่ให้นางโดยใช้มือเดียวมันไม่งามนี่” หญิงสาวผมม่วงแย้ง “เจ้าเอาให้นาง
“เออ ข้าประจำนั่นแหละ” ว่าแล้วหญิงสาวผลแดงก็เดินย่ำเท้าตึงๆ ไปหามาทิลดา แล้วยื่นกล่องเงินให้
“ของเจ้าน่ะ” เธอพูดพลางเบ้หน้า “เปิดซะนะ”
“เปิดยังไง?” มาทิลดาถามเธออ่อนเพลียมากจนลืมสงสัยว่าหญิงผู้นี้คือใคร
หญิงสาวผมแดงครุ่นคิด ก่อนตะโกนไปหาหญิงสาวผมม่วง
“เรนนี่ นางถามข้าว่าเปิดยังไง”
“ซันนี่ ยัยเซ่อ เจ้าก็รู้นี่ ว่าให้ใช้กุญแจเปิด” เรนนี่ตะโกนกลับมา
“เจ้าได้ยินที่นาง
เมื่อสิ้นประโยคของซันนี่ จู่ๆมาทิลดาก็สลบไปด้วยความเหนื่อยล้า
“อ้าว---เอ๊ะ อย่าหลับนะ แม่หญิงๆ” ซันนี่ตะโกนกรอกหูมาทิลดาพลางเขย่าเธอไปมา
“ซันนี่ นั่นเจ้าทำบ้าอะไรของเจ้าอยู่” เรนนี่ตะโกนแล้วเดินไปหาซันนี่
“เจ้าเล่นอะไรไม่เต็มบาทอีกแล้วเนี่ย”
“ยัยนี่หลับเฉยเลย” ซันนี่ว่านังไม่ยอมหยุดเขย่า “นี่ตื่นเดี๋ยวนี้นะแม่หญิง”
“ปล่อยหล่อนเถอะน่า” เรนนี่ว่าพลางเอาร่มในมือเขี่ยแก้มสีกุหลาบของมาทิลดา “เราได้รับคำสั่งเพียงเอากล่องเงินให้นาง นางจะทำอะไรกับกล่องนั่นต่อก็ไม่ใช่ธุระของเรา”
“แต่จะปล่อยให่นางนอนหนาวอยู่นี่เหรอ”
“งั้นเอางี้” ว่าแล้วเรนนี่ดีดนิ้วเป๊าะฝนก็ตกลงมาเหนือตัวมาทิลดา “เดี๋ยวนางได้ตื่นตามใจเจ้านึกแน่”
มาทิลดาสะดุ้ง ขยับเปลือกตาเล็กน้อย
“ยัยบ้า เจ้าทำอะไรของเจ้า เดี๋ยวนางก็ตายกันพอดี อากาศยิ่งหนาวๆอยู่” ซันนี่ต่อว่าเรนนี่เสียงดัง “เผ่นเหอะ”
“ทำไมล่ะ...เอ๋---”
ไม่พูดพร่ำ ซันนี้กระทืบเท้า ทั้งสองก็หายวับไปทันที
มาทิลดาที่ไม่ได้สติ สะลึมสะลือตื่นขึ้นมา เอาแขนเสื้อปัดหยกน้ำบนใบหน้า เธอรู้สึกหนาวและอึดอัดมาก บนตักของเธอมีกล่องสีเงินคล้ายกล่องเครื่องประดับ สลักเป็นลายดาวและพระจันทร์ เธอมองหาสองหญิงสาวประหลาดผู้นำกล่องนี้มา แต่ทั้งสองจากไปเสียแล้ว
“ใช้กุญแจเปิดสิ” คำพูดสุดท้ายที่เธอจำได้จากหญิงสาวผมแดงก่อนที่เธอจะสลบไป
“กุญแจ...” มาทิลดาพูด
เธอหยิบกุญแจที่คล้องอยู่บนลำคอใส่ลงไปในรูกุญแจบนกล่อง
แกล็ก
กล่องถูกไขเปิดออก ทันใดก็เกิดแสงสีขาวสว่างจ้าขึ้น เป็นแสงที่อบอุ่นอย่างประหลาด โอบล้อมอยู่รอบตัวของมาทิลดา
เธอเห็นเงารางๆเงาหนึ่งปรากฏอยู่เบื้องหน้า ดูเหมือนสัตว์สี่ขาขนาดใหญ่
“นี่เราต้องเหนื่อยจนเพ้อไปแล้วแน่ๆ” เป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่เธอจะสลบไป
“ไม่นะ!” มาทิลดาอุทานเสียงดัง ตัวของเธอกระเด้งลุกขึ้นจากเตียง “ฝัน -- ฉันแค่ฝันไปงั้นเหรอ”
มาทิลดาตื่นขึ้นบนเตียงในห้องของเธอ ในใจยังคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่เธอเองก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นความจริงหรือความฝัน
แสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่ในห้องของเธอ เมื่อมองออกไปเห็นท้องทะเลกว้างใหญ่ ในทะเลมีเรือลำน้อยลำใหญ่แล่นผ่านอยู่ตลอด อีกทั้งมีเสียงคลื่นซัดกระทบชายฝั่งประสานกับเสียงนกร้อง ลมทะเลพัดผ่านเข้ามายังห้องนอนของมาทิลดาเอื่อยๆ ช่างเป็นเช้าวันใหม่ที่ดีจริงๆ
มาทิลดาเดินลงมาชั้นล่าง กลิ่นหอมของอาหารเช้าลอยตลบอบอวน ทำให้เธอที่หิวโซรีบสาวเท้าไปยังห้องอาหารอย่างไม่รีรอ
“นาตาลี ฉันหิวนะ” เสียงเด็กชายนั้งอยู่หัวโต๊ะอาหารพูด เบื้องหน้าของเขามีจานเปล่าที่เหลือแค่เศษอาหารกองอยู่หลายใบ
“หุบปากไปเลยเดย์ มากินบ้านคนอื่นแล้วยังกินล้างกินผลาญอีก” นาตาลีพูด มือของเธอถือถาดใสขนมปังถาดใหญ่
“พี่เจมส์ ขนมเค้กชิ้นสุดท้าย ของผมนะ” แดเนียลพูดเมื่อเห็นเจมส์กำลังเอาเค้กช็อคโกแลตเข้าปาก
“ไม่เกี่ยว ใครดีใครได้สิ” เจมส์โต้
“ไหน เค้กอะไรขอดูหน่อย” เด็กชายอีกคนโผล่มากลางวงฉกเค้กไปจากมือเจมส์
“เฟียส์ นายจะดูอะไรกะอีแค่เค้กช็อคโก...” เจมส์ถาม แต่ต้องหยุดชะงัก เมื่อเฟียส์เขมือบเค้กไปครึ่งชิ้นอย่างหน้าตาเฉย ในปากเคี้ยวตุ้ยๆอย่างหน้าหมั่นไส้
“เฟียส์ ไอ้บ้าเอ๊ย” เจมส์พูดเสียงดัง
“พี่เฟียส์ขี้โกง” แดนเนียลเสริม
“ใครดีใครได้ไงเพื่อน” เฟียส์พูด ก่อนเอาขนมเค้กที่เหลืออีกครึ่งเข้าปากแล้วดูดนิ้วเอาเศษที่เหลือ ปล่อยให้อีกสองคนมองอย่างโกรธแค้นปนเสียดาย
“เอาน่า อย่างแย่งอาหารกันเลยทำเป็นอดอยากไปได้ เดี๋ยววันนี้ทำให้ใหม่” ไลลาพูดโผล่หน้ามาจากห้องครัว
“ไม่ต้องไปทำให้มันหรอก ไม่รู้มีพยาธิหรือไง กินอย่างกับสูบ” คิม เบอร์รี่ โผล่มาจากข้างหลังไลลา ขมวดคิ้วอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะสังเกตเห็นใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าห้องอาหาร “อ้าว มาทิลดาตื่นแล้วเหรอ”
“สวัสดี...” มาทิลดารู้สึกโล่งใจอย่างประหลาดเมื่อได้เห็นเพื่อนๆของเธอ “ฉันมาทันอาหารเช้ารึเปล่า”
“ทันสิ ทัน -- มาทิลดาอยากกินอะไรก็บอกนะ” นาตาลีพูดอย่างกระตือลือล้น “เป็นหวัดรึเปล่า มีไข้ไหม” เธอถามพลางเอามือแตะหน้าผากและใบหน้าของมาทิลดา (มืออีกข้างยังถือตะหลิวอยู่เลย แถมกลิ่นตัวเธอเหมือนเบคอนไหม้ๆอีกด้วย) “ไปไหนมา เมื่อคืนนี้ฉันเป็นห่วงมากนะรู้ไหม แล้วเป็นไงมาไงถึงมานอนกองอยู่หน้าประตูบ้าน รู้ตัวบ้างรึเปล่า”
“ฉันเนี่ยนะนอนอยู่หน้าบ้าน” มาทิลดาถาม พลางชีนิ้วไปที่ตัวเองแล้วสลับชี้ออกไปที่ประตูบ้าน อย่าแสดงให้เห็นภาพ
“นี้เธอไม่รู้ตัวจริงๆเหรอเนี่ย” กาเบรียลพูด ขณะที่ยืนคนซุบในหม้อเล็กอยู่ที่หน้าประตูห้องครัว
“แล้วไอ้เนี่ย ใช่ของเธอรึเปล่า” คิม เบอร์รี่พูด “แถมเจ้ากล่องนี่ฉันลองเปิดดูแต่เปิดยังไงก็เปิดไม่ออก”
มาทิลดาจับที่หน้าอก หัวใจของเธอเหมือนดิ่งวูบลงสู่เท้า เพราะสิ่งที่เธอนึกว่าเป็นความฝันก็กลายเป็นความจริง เมื่อสิ่งที่เธอสัมผัสเจอคือกุญแจเงินอันนั้น
“มันเป็นกล่องอะไรเหรอมาทิลดา” เฟียส์ถาม
“พี่มาทิลดาต่างหูของพี่หายไปไหน” แดนเนียลถาม
มาทิลดาเปลี่ยนไปจับที่ติ่งหู ก็นึกบางอย่างขึ้นได้
“คิม ส่งกล่องนั่นมาที”
คิม เบอร์รี่ยื่นกล่องมาให้มาทิลดา เธอจึงเปิดมันด้วยกุญแจทันที
มาทิลดารวมถึงทุกคนที่เฝ้ามองปริศนาในกล่องต้องตกใจ เมื่อของที่อยู่ในกล่องคือสุนัขจมูกแหลมหูตั้ง ขนของมันเป็นสีขาวเหมือนหิมะ ฟูฟ่อง และหนานุ่มน่าจับเป็นที่สุด
ความคิดเห็น