คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : เจ้าหญิงสุดแกร่งที่แสนบอบบาง
ตอนที่ 99999999
เจ้าหญิงสุดแกร่งที่แสนบอบบาง
“ไม่นึกว่าจะมีแขกมาเยือน”เสียงเรียบๆที่ดังมาจากบนต้นไม้หลังพวกอลิซทำให้ทั้งคริสทั้งอลิซต่างมองหน้ากันอย่างแปลกใจ
“คุณเป็นใคร”คริสถามพลางมองไปรอบๆ แต่เมื่อร่างในชุดคลุมสีดำสนิทร่อนตัวลงมายืนตรงหน้า คริสก็นึกอ๋อทันที จะว่าไปที่ฟังจากพ่อมา แวมไพร์ก็เป็นพวกเดียวกับหมอนี่นี่นา
“คุณเป็นใครคะ”เสียงๆหวานๆของอลิซทำให้ชายหนุ่มที่ปิดใบหน้าด้วยฮูดที่ครุมไปครึ่งใบหน้า แถมยังมีหน้ากากที่ปิดตั่งแต่ปลายจมูกขึ้นไปอีก ทำเอามองไม่ออกเลยว่าเป็นใคร
“วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของหนึ่งในสองร่างในโรงศพครับ”ชายหนุ่มพูดจบก็เรียกเอาช่อดอกไม้ที่เรืองแสงส่องกับแสงจันทร์เป็นสีเงินสวยออกมาช้าๆ
“คุณ เป็นคนรู้จักของสองคนนี้เหรอ”คริสถามพลางมองหน้าชายชุดดำเคืองๆ หนอยแนะ ต่อหน้าลูกสาวทำเป็นเปลี่ยนเสียง เล่นซะเกือบฟังไม่ออกเลย
“พวกเธอ เป็นผู้หญิงที่ผมมอบหัวใจให้ครับ”คิลพูดจบก็นั่งลงวางดอกไม้ไว้บนพื้นหินสีดำสนิท ก่อนจะเร่งพลังเวทออกมาช้าๆเพื่อให้โลงศพแก้วของเขากลายเป็นสีโปล่งใส
“แปลก คุณมอบหัวใจให้สองคนเลยเหรอ”คริสถามพลางจ้องคิลด้วยสายตาเคืองๆ แบบนี้ไม่เท่ากับผิดลูกผิดเมียหรือไง
“จะว่าแปลกก็ได้ครับ แต่ว่า มันก็เป็นเรื่องจริงที่ผมมอบหัวใจให้คนถึง 3 คน”พูดเสร็จคิลก็ใช้ฝ่ามือทาบไปบนพื้นหินเบาๆ ราวกับจะต้องการเอื้อมมือไปสัมผัสร่างที่แสนเย็นเฉียบทั้งสอง
“คนหนึ่งคือคนที่ทำให้ผมพบหนทางที่ถูกต้อง เธอมักจะอยู่ข้างๆผมเสมอ และคอยให้กำลังใจมาตลอด เธอมักพูดว่าผมน่าสงสารเพราะมัวแต่เดินทางที่ผิด แม้แต่วินาทีสุดท้ายแห่งชีวิต เธอก็ยังคงยิ้มและบอกให้ผมทำสิ่งที่ถูกซะ”พอเริ่มเรื่องเล่า ทั้งคริสทั้งอลิซก็พากันเงียบกริบทันที สำหรับอลิซแล้ว นี่คือเรื่องของชายคนหนึ่งที่กำลังรำรึกถึงหญิงคนรักเท่านั้น แต่สำหรับคริสแล้ว นี่คือเรื่องราวของนักฆ่าในตำนานที่ไม่มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์
“ส่วนอีกคน เธอมักเข้ามาวุ่นวายตลอดเวลา บางทีก็หาเรื่องมาให้แถมยังดื้อกว่าคนที่เคยเจอมาทั้งหมด แต่ก็เป็นครั้งแรกที่ทำให้หัวใจสั่นไหว ทั้งๆที่คิดว่าจะอยู่ด้วยกันไปตลอดแท้ๆ แต่สุดท้ายก็ต้องจากลากันไป”พอพูดถึงแอลลี่ ดวงตาสีแดงก็เลื่อนไปยังร่างหญิงสาวในชุดสีชมพูข้างๆเมโลดี้ทันที ทุกครั้งที่ถึงวันครบรอบวันตายของพวกเธอ เขาจะนำดอกไม้มาวางไว้เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาก็คงจะทำแบบนี้ตลอดไป แม้อลิซจะไม่รู้ แต่เนเน่กลับรับรู้และยินยอมให้เขาทำแบบนี้ได้
“ส่วนคนที่สาม เธอคือหญิงสาวที่มักจะรอคอยผมเสมอ เธอยอมที่จะรอหลายต่อหลายปีเพื่อพบผมเท่านั้น ถึงจะนิสัยเหมือนเด็ก แต่บางทีก็เป็นผู้ใหญ่กว่าที่คิด ถึงจะดูอ่อนแอ แต่ก็แข็งแกร่งกว่าภายนอกมาก ถึงแม้จะเห็นว่าแข็งแกร่ง แต่ลึกๆไปอีกก็แสนบอบบาง สำหรับเธอแล้ว สิ่งที่หวังอย่างเดียวในโลกใบนี้คือการให้ได้อยู่เคียงข้างกับผม คุณหนูว่า ผมทำผิดหรือเปล่าที่มอบหัวใจให้คนถึงสามคน”คิลถามพลางหันมามองหน้าอลิซที่กำลังเช็ดน้ำตาอยู่ คงเพราะก่อนจะจุติเป็นร่างมนุษย์จิตวิญญาณแห่งโลกต้องอยู่กับเขาก่อน ทำให้ความทรงจำบางส่วนของเขาถูกจิตวิญญาณแห่งโลกซึมซับเข้าไป พออลิซเห็นเมโลดี้ กับ แอลลี่ถึงได้เกิดอาการเศร้าขึ้นมาแบบนี้
“ถ้าคุณเป็นพ่อหนู หนูก็คงโกรธ”สิ้นเสียง ถึงแม้ไม่ต้องถอดหน้ากาก คริสก็รู้ได้เลยว่าคิลหน้าเสียไปเลยทีเดียว
“เพราะพ่อกำลังนอกใจแม่ แต่ว่า..หนูจะเข้าใจ ว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ที่พ่อจะรักใครมาก่อน หนูเองก็ไม่เคยมีความรัก ไม่รู้ว่ารักแล้วเป็นยังไงด้วย เลยไม่รู้ว่าการตัดใจจากคนที่รักมันยากแค่ไหน สุดท้ายหนูก็คงโกรธพ่อแค่แปปเดียวอยู่ดีนั่นละ”อลิซว่าพลางหัวเราะแฮะๆออกมา เล่นเอาคิลต้องลอบถอนหายใจ
“พวกเธอหายไปไหนไม่ยอมบอกกันบ้างเลย”เสียงของเคธทำให้คนทั้งหลุ่มหันไปมองร่างของหญิงสาวสองคนที่เดินเข้ามาในบริเวณโลงศพ
“นั่นใครนะ.... ทะ ท่านแวมลอร์ด” สิ้นเสียงของเวียร์ ร่างทั้งร่างของเธอก็แทบจะลงไปแนบพื้นเลยทีเดียว
“ลุกเถอะ เซเวียร์”เสียงนั่นทำให้เวียร์ค่อยๆลุกขึ้นมาช้าๆ แต่ก็อดทำให้เธอแปลกใจไม่ได้ ทำไมเสียงท่านแวมลอร์ดถึงได้แปลกไปจากตอนแรกที่เธอเจอละ
“พวกเธอกำลังจะเดินทางไปที่ชุมชนสินะ”คิลถามพลางมองเด็กๆอย่างอารมดี ดีนะจินบอกเขาก่อนแล้วว่าพวกอลิซเลือกของอะไร และน่าจะไปที่ไหน เขาเลยมารับ แต่ไม่นึกเหมือนกันว่าอลิซจะมาเจอหลุมศพของเมโลดี้ กับ แอลลี่ แบบนี้
“คะ อย่างที่ท่านว่าคะ”
“งั้นไปทางนี้สิ”พูดจบ ประตูสีดำสนิทก็โผล่พ้นออกมาจากผืนดินช้าๆ ก่อนจะเปิดให้เด็กๆเข้าไป
“ดะ เดี๋ยวสิ ขอไปตามดีนก่อนนะ”เคธว่าพลางวิ่งกลับไปในปราสาท ไม่นึกเลยว่าจะมีคนมารับแบบนี้
.
.
“กลับมาแล้วเหรอครับท่านคิลิ...ท่านแวมลอร์ด”เจเนเซฟที่รอต้อนรับรีบปิดปากตัวเองทันทีเมื่อเห็นหญิงสาวที่เดินตามท่านคิลิออสออกมา อา โตขนาดนี้เลยหรือนี่ ไม่ได้เจอเพียงไม่กี่ปีท่านอลิซเติบโตถึงขนาดนี้ เจเนเซฟคนนี้ซาบซึ้งยิ่งนัก
“เฮ้ย คิล กลับมาช้า.....”คราวนี้เป็นเสียงของชายหนุ่มผมสีเขียวที่เดินเข้ามาทักเล่นเอาคิลถอนหายใจเฮือก ไอ้บ้านี่ไม่ได้ดูเลยหรือไงว่าใครเดินตามมาด้วย
“คณพ่อ”เสียงนั่นเล่นเอาคิลสะดุ้ง แต่ยังดีที่คำนั้นไม่ได้หลุดออกมาจากปากของอลิซ แต่มาจากเคธ ลูกสาวคนเดียวของไอ้นักล่าหัวเขียวข้างหน้านี่ต่างหาก
.
.
“สุดท้าย เรื่องพลอยโลหิตก็เหมือนเป็นของแถมเลยนะครับ”คริสที่เดินตามคุณพ่อทั้งสองคนมาที่โรงฝึกวิชาของชุมชน
“ขอถามหน่อยสิ สำหรับเธอแล้ว ลูกสาวฉันเป็นยังไง”คิลถามพลางมองมาที่คริสด้วยดวงตาที่คริสไม่อาจหลบสายตาได้
“แข็งแกร่งครับ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะใช้วิชาที่สุดยอดขนาดนั้นได้”คริสพูดจบก็ถอนหายใจออกมาช้าๆ สำหรับเขาแล้ว การจะต่อสู้กับอลิซในตอนนี้ คงมีแต่แพ้กับแพ้เลยละ
“จริงอยู่ที่อลิซนะเก่ง แต่ก็ไม่ได้ฝึกจนลากเลือดเหมือนพวกเรา พละกำลังยังไม่เข้าขั้น คงสู้แรงพวกเธอที่เป็นผู้ชายไม่ไหว ถึงจะเก่งเรื่องหลบหลีก แต่ถ้าพราดโดนไปสักทีจะเสียสมดุลไปหมด แถมเรื่องจิตสัมผัสยังอ่อนมากๆด้วย ถ้าไม่ได้ตั้งใจสู้ละก็ใครที่ไหนก็เดินเอามีดไปแทงได้ ถึงจะดูเก่งกาจก็จริง แต่อลิซนะ อ่อนแอมากเลยละ ฉันเองก็ดูแลไม่ได้ตลอดเวลาเพรภรรยาไม่ค่อยชอบที่ฉันจะไปตามอลิซตลอด คงไม่เป็นไรมั้งถ้าจะฝากให้เธอดูแลในบางครั้ง” คิลว่าพลางยิ้มบางๆ
“แต่เรื่องที่จะถามนะ คือเรื่องเธอรู้สึกยังไงกับลูกสาวฉันมากกว่า” พอเจอคำถามนี้เข้าไป คริสก็ยืนค้างไปสักพัก เขารู้สึกยังไงเหรอ นั่นสิ เจอกันครั้งแรกเธอเป็นผู้หญิงธรรมดา ที่หน้าตาสวยไปหน่อยแค่นั้น แต่ เขาละสายตาจากเธอไม่ได้ ตั่งแต่ครั้งแรกที่เจอ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังรู้สึกแปลกๆเวลามองดวงตาสีฟ้านั่น เป็ยความรู้สึกที่ยากจะอธิบายเป็นคำพูดได้ ไม่เกี่ยวกับว่านิสัยเธอเป็นยังไง หน้าตาแบบไหน แต่เป็นความรู้สึกที่เด่นชัดออกมาจากสิ่งเหล่านั้นมาก แปลกจริงๆ
“ผม บอกไม่ได้ครับ”คริสว่า พลางถอนหายใจ
“อืม แค่นั้นก็พอแล้วละ”คิลว่าพลางเรียกดาบสองเล่มออกมาจากหลุมมิติ ก่อนจะกระโดดไปยืนกลางลานฝึก
“ไม่ได้มาท้านายสู้นานแล้วนะเนี่ย ขอเต็มที่หน่อยเถอะ”โซลพูดจบก็ลงไปยืนที่มุมตรงข้ามกับคิลทันที เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น ก็ทำให้คริสรู้เลยว่า ความแข็งแกร่งมันคืออะไร บ้าเอ้ย แบบนี้ใครมันจะตามทันละ
ความคิดเห็น