คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : เทพธิดาที่หลับใหล
เทพธิดาที่หลับใหล
“โถ่เอ้ย พวกนี้กระจอกจริงๆ”เสียงบ่นของเวียร์ทำให้ฉันได้แต่หัวเราะแฮะๆ ตั่งแต่เช้าวันนั้นที่ฉันเอาชนะ 4 คนที่เข้ามาท้าได้ ฉันก็โดนเมินทันที สุดท้ายเลยกลายเป็นเวียร์ที่อยู่อันดับ 7 ของห้องที่โดนหมายหัวแทนฉัน เพราะที่สอง สาม ต่างเป็นลูกของเหล่าวีรบุรุษ ผู้หญิงที่อันดับสูงที่สุดนอดจากฉันกับเคธแล้วอย่างเวียร์ก็เลยโดนหมายหัวแทบทุกเช้าเย็นเลยละ
“แหม พูดแบบนั้นก็น่าสงสารนะ”ฉันว่า ก่อนจะมองเหล่าชายหนุ่มที่เข้ามาท้าประลองกับเวียร์รีบลุกหนีไป จะว่าไป เวียร์เองก็เก่งนะ พอๆกับคริสเลยละ
“พูดแบบนั้นจะได้มีคนมาน้อยลงไง มันน่ารำคาญออก”เวียร์บ่นพลางปัดฝุ่นบนร่างกายช้าๆ
“แต่ว่า การได้แบกรับความรำคาญแทนท่านอลิซนี่ช่างเป็นเกียติยิ่งนัก”พูดจบเวียร์ก็จับมือฉันแล้วคุกเข่าลงกับพื้นทันที งะ ไหงมาตีบทเป็นอัศวินซะละ
“ไปได้แล้ว”คริสพูดเสียงเรียบ ก่อนจะ ลากฉันออกมา
“บู่ แค่นี้ต้องหึงด้วย คริสคุงใจร้าย”เวียร์ว่า พลางเดินตามมาด้วบใบหน้าบูดบึ้งแบบแกล้งทำของเธอ
“วิชาต่อไปเนี่ย อะไรเหรอจะ”ฉันถามพลางมองในตารางเรียน นี่ก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้วนะ แต่วิชาต่อไปที่จะเรียนเป็นครั้งแรกเลยที่ได้เข้าเรียน เป็นวิชาแปลกที่มีสอนทุกๆ1 เดือน โดยกินเวลาสอนร่วม 3 วัน ใช้ชื่อวิชาว่า ล่าสมบัติ
“เดี๋ยวก็รู้เองน่า”คริสว่า พลางเดินพรวดเข้าไปในห้องที่เป็นห้องประชุมขนาดใหญ่ วิชานี้เป็นวิชาที่เรียนร่วมกันทุกระดับชั้นของห้องนั้นๆเลยละ แต่รุ่นพี่ดูท่าทางไม่เครียดเท่าไหร่เลยแฮะ
“ดูเหมือนกลุ่มสุดท้ายของห้องเอจะมาแล้วนะ”เสียงสบายๆของอาจารย์หนุ่มที่ยืนสอนอยู่กลางห้องทำให้ฉันได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาจากรุ่นพี่ ก็ใครใช้ให้พวกนั้นมาท้าสู้กับเวียร์ตอนก่อนเริ่มวิชาเรียนละ
“ขอโทษครับคุณจิน”คริสว่า พลางหาที่นั่งแถวหลังห้อง
“เอาเถอะ ยังไงก็ยังอยู่ในเวลา”อาจารย์จิตอบรับเสียงเรียบ ก่อนจะใช้เวทมนตร์ใส่ลูกแก้วสำหรับเก็บภาพช้าๆ ทันทีที่ลูกแก้วทำงาน ภาพของหลากหลายชนิดรวมๆเกือบพันชนิดก็โผล่ออกมาทันที โดยแต่ระรูปมีชื่อ และระดับ A B C D E F เขียนเอาไว้ได้วย
“สำหรับปี 1 คงยังไม่รู้สินะ วิชาของผมจะให้นักเรียนใช้เวลา 3 วันในการตามล่าหาของชิ้นหนึ่งซึ่งพวกคุณสามารถเลือกได้จากในภาพทั้งหมดนี่ คะแนนของแต่ละชิ้นจะแบ่งไปตามเกรดที่แยกเอาไว้ในรูปแบบ A B C อย่างที่เห็น ให้จับกลุ่มตามใจชอบ แล้วมาลงชื่อพร้อมระบุของที่ต้องการ แล้วกลับไปหาได้”สิ้นเสียงอาจารย์ พวกรุ่นพี่ก็ลุกพรึบทันที คงเพราะจัดกลุ่มไว้อยู่แล้วละมั้ง
“เอาไงดีละคริส”เคธถามพลางมองคนในกลุ่มด้วยสีหน้านิ่งๆ
“ถามแปลกๆ ก็ต้องเลือกของระดับ A อยู่แล้วสิ”คริสว่า พลางชี้ไปที่อัญมณีสีแดงบนรูปใบหนึ่ง
“พลอยโลหิต นี่นา พลอยแบบนั้นเป็นเครื่องหมายของผู้ได้รับการยอมรับจากสมาคมแวมไพร์เท่านั้น แล้ว พวกเรา อ๋อ”พอเคธหันหน้ามาเจอเวียร์ เธอก็ร้องอ๋อออกมาทันที จริงด้วย เวียร์เป็นลูกครึ่งแวมไพร์นี่นา
“สมาคมแวมไพร์อันตรายตรงที่เข้าถึงได้ยาก เพราะป่ากักวิญญาณรอบๆทำให้เสี่ยงที่จะเข้าไป แต่พวกเรามีคนนำทางชั้นเยี่ยมอยู่นี่นา”คริสว่าพลางมองมาทางเวียร์อีกคน
“นำทางนะได้ แต่พลอยโลหิตนะพวกนายจะเอามาได้หรือเปล่าฉันไม่รู้หรอกนะ เอ แต่ถ้าเป็นอลิซคงเอามาได้มั้ง” เวียร์ว่า พลางกอดแขนฉันแน่น
“ไม่ต้องห่วงน่าพวกเรานะเก่งกันพอตัวเลยนะ”เคธพูดพลางหัวเราะเสียงใส เป็นอันว่า ฉัน เคธ คริส เวียร์ และ ดีน ตกลงที่จะไปชุมชนแวมไพร์กัน อยากรู้เหมือนกันว่าที่นั่นจะเป็นยังไง ตื่นเต้นจริงๆ
.
.
.
“เห ชุมชนเป็ยแบบไหนงั้นเหรอ”เวียร์ทวนคำถามของฉันระหว่างที่พวกเรากำลังนั่งคุยกันบนรถไฟที่มุ่งสู่หมู่บ้านแสงจันทร์
“มันก็พูดยากละนะ เหมือนบ้านหลังใหญ่ที่ครอบครัวทั้งหมดอยู่ในบ้านหลังเดียวกันละมั้ง”
“ฟังดูอบอุ่นดีนี่นา”
“แล้วทำไมต้องไปอยู่ที่ป่าอันตรายแบบนั้นด้วยละ”พอฟงคำถามจบเวียร์ก็ยิ้มเจือนๆทันที
“อันที่จริง พวกเราแวมไพร์นะเมื่อก่อนถูกเรียกว่าปีศาจ ถึงฉันจะเกิดไม่ทันช่วงนั้นก็เถอะ แต่พวกพ่อกับแม่นะเจ็บปวดกับเรื่องพวกนั้นมากเลย”
“แต่ในหนังสือ แวมไพร์เป็นกึ่งมนุษย์เหมือนเอลฟ์ไม่ใช่เหรอ”เคธถามพลางมองเวียร์งงๆ
“นั่นมันหลังจากสงครามนะสิ ก่อนหน้านั้นพวกเราแวมไพร์นะไม่สามารถโดดแสงอาทิตย์ได้เพราะคำสาป ทำให้พวกมนุษย์ เอ่อ ขอโทษ พวกคนบางกลุ่มนะคิดว่าพวกเราเป็นปีศาจ ถึงขนาดไล่ฆ่าแบบไม่เลือกหน้า พวกเราเลยต้องย้ายเข้าไปอยู่ในป่าแบบนั้นไงละ”
“พอเจ้าปีศาจโดนกำจัดคำสาปของแวมไพร์ก็หายไปสินะ”คริสถามพลางมองเวียร์ที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างที่เปิดรับแสงอาทิตย์ยามเย็นเข้ามาอย่างไม่มีปิดบัง
“ก็แบบนั้นละ พวกเราเลยเปลี่ยนจากปีศาจ เป็นครึ่งหมุษย์ที่มีสายเลือดของเหล่าภูติแห่งความมืดแทน”เวียร์พูดจบก็ยิ้มบางๆออกมา
“น่าสงสารนะ”
“นั่นสิ อลิซพูดถูก ทั้งๆที่แค่โดนแสงอาทิตย์ไม่ได้ กลับต้องโดนหาว่าเป็นปีศาจ แบบนี้น่าสงสารออก”
“ไม่เป็นไรหรอก พวกมนุษย์ก็แก้ไขความเชื่อแล้ว ถึงจะไม่ทั้งหมด แต่ฉันก็สามารถเข้าเรียนโรงเรียนครอนาเรียได้เลยเชียวนะ”เวียน์ว่าพลางยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม
.
.
.
“เอาละ เดี๋ยวเราพักที่ปราสาทนี้ก่อนนะ พรุ่งนี้เราถึงจะเข้าไปในชุมชนกัน” เวียร์พูดจบก็เปิดประตูไม้เก่าๆของปราสาทสีดำหลังหนึ่งที่ตั่งอยู่ที่เขตทางเข้าป่าช้าๆ
“ปราสาทนี่ของใครเหรอ”
“ไม่มีใครรู้หรอก มันถูกทิ้งร้างเอาไว้หลายปีแล้วละ”เวียร์ตอบ ก่อนที่จะเปิดไฟจากหลอดไฟเวทมนตร์ช้าๆ แปลกจัก ไหนว่าทิ้งร้างไง แต่ที่นี่กลับถูกทำความสะอาดจนไม่มีฝุ่นเลยทีเดียว แถมผ้าม่านหรือพวกผ้าคลุมโต๊ะยังขาวสะอาดอีกด้วย
“ถึงจะไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของปราสาทหลังนี้เป็นใคร แต่ พวกเราชุมชนแวมไพร์ก็ดูแลปราสาทหลังนี้เป็นอย่างดีตามคำสั่งของท่านเจเนเซฟผู้นำชุมชน”พูดจบเวียร์ก็เดินเอาของไปวางไว้มุมหนึ่งของห้องทันที
“รูปนี่มัน”ฉันมองไปที่รูปวาดที่ติดอยู่บนผนังอย่างประหลาดใจ แปลกจัง ทำไมรูปผู้หญิงผู้ชายกับเด็กผู้ชายตัวเล็กๆที่อยู่บนผืนผ้าใบกลับทำให้ฉันรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด ถึงแต่ละรูปจะเก่าจนมองไม่ค่อยออกแล้วก็ตาม
“มีอะไรเหรออลิซ”คริสที่เข้ามาถามทำให้ฉันได้แต่ยิ้มตอบไปเท่านั้น ก็มันอธิบายไม่ถูกนี่นา
“ขอโทษนะเวียร์แต่เราอยากรู้รายระเอียดของพลอยโลหิตนิดหน่อยนะ”เคธที่นั่งลงบนโซฟาสีแดงถาม ก่อนจะเรียกรูปของพลอยโลหิตออกมา
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่พลอยนี่จะมอบให้แก่ผู้เป็นสหายของเหล่าแวมไพร์เท่านั้นนะ”เวียร์ว่าพลางเริ่มอธิบายขั้นตอนอะไรสักอย่าง แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจฟังนักรอก เพราะมัวแต่สนใจรูปอยู่ แต่พอเหลือบมองไปทางหลังปราสาท ฉันก็สังเกตเห็นกลุ่มแสงบางอย่างที่อยู่หลังปราสาท
“ที่นี่มีดอกแสงจันทร์ด้วยเหรอ”ฉันพึมพำเบาๆ ก่อนจะเดินตามแสงนั้นไปช้าๆ ดีจัง ฉันนะชอบดอกแสงจันทร์ที่สุดเลยละ ที่บ้านฉันปลูกไว้เยอะมากๆ แต่พอไปที่โรงเรียนแล้วแทบไม่ได้เห็นเลย เพราะวันนีล่าไม่ค่อยปลูกดอกแสงจันทร์กัน
“มีอะไรเหรอ” เสียงเรียบๆของคริสทำให้ฉันหยุดก้าวเดินทันที เอ๋ เขาตามมาเหรอ นึกว่ากำลังฟังเวียร์เล่าเรื่องพลอยอยู่ซะอีก
“ฉันแค่อยากออกมามองดูดอกไม้นะ”
“ออกมาคนเดียวมันอันตรายนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันปกป้องตัวเองได้ ว้าย” พูดไม่ทันขาดคำ ฉันลื่นลงไปนั่งกับพื้นเสียอย่างนั้น อะไรกันเนี่ย ทำไมพื้นตรงนี้ถึงได้เรียบกว่าตรงอื่นละ เล่นเอาลื่นเลย
“เป็นอะไรหรือเปล่า”คริสเดินเข้ามาถามฉันทันที ดีนะที่พื้นเรียบเลยไม่ทำให้เกิดแผล แต่ก็เล่นเอาช้ำเลย ฉันเกรียดแผลช้ำมากกว่าแผลโดนกรีดซะอีก แผลที่มีปากแผลนะ ร่างกายฉันจะหายเร็วกว่าคนปกติมากเลยละ อย่างแผลมีดบาดหรือโดนของมีคน แม้แต่แผลถลอกนะ ฉันมักจะหายในวันเดียวเลยละ แต่พวกแผลช้ำเนี่ยหายยากกว่ากันเยอะ แปลกมากๆเลย
“บอกแล้วไงมันอันตราย”คริสพูดจบ ก็ใช้เวทสายวารีรักษาฉันช้าๆ แต่เพราะพลังเวทหรืออะไรไม่ทราบ พื้นที่แต่เดิมเป็นสีดำสนิทกลับส่องแสงสีขาวออกมาช้าๆ
“อะไรนะ”คริสถามพลางมองพื้นที่กลับเป็นสีดำอย่างประหลาดใจ
“ดูเหมือนมันจะทำงานเพราะเวทมนตร์นะ ลองใช้พลังเวทมากกว่านี้ดีไหมคริส”ฉันถามพลางมองพื้นสีดำมันเงาตรงหน้าอย่างแปลกใจ
“นั่นสิ”สิ้นเสียง คริสก็ใช้พลังเวทส่งผ่านไปยังพื้นสีดำนั่น ทันทีที่แวทมนตร์ทำงาน แสงสีขาวก็ส่องออกมาจากพื้นทันที พร้อมกับสีของพื้นที่ค่อยๆใสขึ้นทีละนิดๆ
“ผู้หญิง”คริสพึมพำเสียงเบาพลางมองร่างของหญิงสาวสองคนที่อยู่ในโลงศพโปล่งใสอย่างประหลาดใจ
“เมโลดี้ แอลลี่ แด่หญิงที่เป็นที่รักของข้าทั้งสอง ขอพรแห่งจันทราจงอยู่เคียงใจเจ้า”คริสอ่านข้อความที่เรืองแสงออกมาช้าๆ ก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ
“คงเป็นหลุมศพละมั้ง”คริสพึมพำออกมาช้าๆ ก่อนจะหันมามองหน้าฉัน
“อลิซ เป็นอะไรนะ”คริสถามพลางมองหน้าฉันด้วยใบหน้าตกใจยิ่งกว่าที่เห็นผู้หญิงสองคนนี้เสียอีก
“มะ ไม่รู้ ตะ แต่ว่า น้ำตามันไม่ยอมหยุดไหล” ไม่รู้ทำไม พอเห็นผู้หยิงสองคนนี้แล้ว ฉันกลับร้องให้ออกมาอย่างกับว่าเธอทั้งสองคนเป็นคนสำคัญของฉันอย่างงั้นละ ทำไมกันนะ ทำไมน้ำตาถึงไม่ยอมหยุดไหลละ
ความคิดเห็น