คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ประลองโดยไร้เวทมนตร์
ตอนที่ 3
ประลองโดยไร้เวทมนตร์
ร่างของคิลที่กำลังเกล็งร่างกายทั้งตัวดูราวกับมีแผ่นกระจกบานเล็กๆนับสิบบานเรียงรายรอบตัวก็ไม่ปาน ดวงตาสีแดงสดค่อยๆหลับลงช้าๆ ก่อนจะยกขาขึ้นข้างหนึ่งแล่วกระทืบลงไปอย่างแรงจนพื้นห้องเกิดรอยร้าว
“ดูเหมือนจะผ่านชั้น เงิน มาได้แล้วสินะ”ดาร์คว่าพลางกัดฟันกรอด หนอยแนะ แค่วันเดียวดันเรียนวิชาจนผ่านชั้นเงินไปเป็นชั้นทองได้ กว่าเขาจะถึงชั้นสามัญอย่างทุกวันนี้เล่นเอาเวลาหายไปกว่า 40000 ปีเลยนะเว้ย
“สุดยอดจริงๆนั่นละ”คิลว่า พลางกำหมัดแน่น รอยแตกที่พื้นเป็นหลักฐานยืนยันได้อย่างดี ต่อให้ใช้เวทมนตร์ที่แรงที่สุดของโลกมนุษย์ยังไม่แน่เลยว่าจะทำรอยร้าวแบบนี้ได้ ต่อให้เป็น elly d shock เองก็เถอะ แต่คงทำรอยร้าวถึงขนาดนี้ไม่ได้ เพราะเป็นวัตถุในโลกปีศาจ ทำให้ทุกอย่างแข็งแกล่งไปหมด ไม่รู้ว่าพวกเขาจะทำได้หรือเปล่า
พลัก!!
“อู้ยยยย เจ็บชะมัด”ชายคนนหึ่งในเหล่าทหารที่ตามมาด้วยร้องออกมาเบาๆ เมื่อโดนคนข้างๆต่อยเข้าอย่างจัง
“เกิดอะไรขึ้น”ครอสรีบหันไปถามมันมีมี่เห็นเหตุการณ์ อย่าบอกนะว่ามีเรื่องกัน
“เปล่าหรอกครับท่านแม่ทัพ พวกเราแค่ลองวิชากันนะ”ชายคนนั้นว่าพลางกุมท้องตัวเอง คงให้เพื่อนที่สำเร็จวิชาเท่าๆกันลองใช้ลมปราณต่อยใส่ท้องที่อัดลมปราณเข้าไปป้องกันสินะ
“เข้าท่าดีนะคิล ลองดูไหม”ครอสว่าพลางยิ้มหน้าบาน
“ก็ดีนะ งั้นให้แต่ละคนที่ฝึกถึงขั้นเดียวกันจับคู่กันฝึกซ้อม”คิลว่าพลางหันมามองครอส
“ถึงผมจะยังไม่ถึงขั้นทอง แต่ผมก็ถึงขั้นเงินสูงสุดแล้ว คงไม่เสร็จคิลง่ายๆหรอก”ครอสว่าพลางเดินออกมาห่างคิลพอประมาณ
“ในที่สุดก็ได้ประลองกันแบบเต็มกำลังเสียทีนะครับ”ครอสว่าพลางกำหมัดแน่น นานแค่ไหนแล้วนะที่เขาต้องประลองกับคิลที่ใช้พลังได้อย่างไม่เต็มที่ นานแค่ไหนแล้วนะที่ต้องกัดฟันอย่างเจ็บใจที่เกือบจะแพ้คิลทั้งๆที่เขาไม่สามารถใช้พลังได้เต็มที่
“งั้น เอาเลย”คิลว่า พลางพุ่งหายวับไปต่อหน้าต่อตา
“ชิ ยังไม่ได้สอนก็ใช้วิชาตัวเบาได้แล้ว ไม่อยากจะเชื่อเลย”ดาร์คบ่นเบาๆ ก่อนจะเดินมาพิงกำแพงเซ็งๆ ลงเป็นแบบนี้เขาคงไม่ต้องสอนวิธีเคลื่อนลมปราณไปใช้ในจุดต่างๆให้นายท่านแล้วละ เล่นคล่องซะ
“ยังไงคิลก็หนีไม่พ้นวิชาสายลอบสังหารสินะ”ครอสว่าพลางชูสองนิ้วขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะเร่งพลังออกมาเป็นรูปดาบเล่มบางๆจากปลายนิ้ว
“ปราณกระบี่ ฝั่งนี้ก็ไม่เลวนะ ดาร์ค”ไลท์ว่าพลางหัวเราะเสียงเบา ให้ตายสิ สองคนนี้เก่งจริงๆนั้นละ แต่ก็เพราะแบบนั้น พวกเขาถึงได้มีความหวังไงละ ยิ่งเก่งเหนือพวกเขาเก่งเหนืออาจารย์มาร์คัสได้นะยิ่งดี
“เอ้า ถอยๆ เดี๋ยวโดนลูกหลง ถอยหน่อยๆ”โซลว่าพลางส่งสัญญาณให้เหล่าทหารออกมาประลองกันเองรอบนอกของพวกคิล เพราะไม่มีใครรับประกันได้หรอกว่าการต่อสู้ของสองคนนี้จะรุนแรงขนาดไหน
“ไม่ได้หรอกคิล”ครอสว่าพลางกระโดดหลบอย่างรวดเร็วทำให้มือที่คิลฟันใส่พราดเป้าไปอย่างน่าเสียดาย
“ต่อสู้แบบไม่มีอาวุธเนี่ย ยังไงก็ต้องประชิดตัว พอไม่มีระยะดาบแล้วผมก็จับทางนายทันนะ”ครอสว่าพลางม้วนตัวใช้ปราณกระบี่ฟาดใส่อย่างไม่มียั่ง แต่คิลเองก็หลบได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
“ก็คงต้องสู้ประชิดละนะ”คิลว่าพลางพุ่งวาบเข้าไปหาครอส แล้วใช้ฝ่ามือที่อัดลมปราณไปพอสมควรกระแทกเข้าที่ไหล่ของครอส แต่ก็ถูกสองนิ้วของครอสจิ้มเข้าที่บริเวณต้นเขนจนไม่สามารถขยับหมัดไปไหนได้ นี่คือวิชาหมัดที่ครอสเคยแสดงให้เห็นที่โรงเรียนวันเซฟา พอเจอกับตัวแล้วถึงได้รู้ว่ามันน่ากลัวขนาดไหน หลังจากโดนนิ้วนั่นจิ้มจะทำให้หมัดหยุดไป 2 วินาที ทำให้ไม่สามารถทั้งโจมตีหรือป้องกันได้ ทำให้ด้านขวาของคิลเปิดช่องว่างโล่งทันที
“ท่าทางสู้ประชิดตัวนายจะเก่งกว่านะ”คิลว่าพลางใช้เข่าขึ้นมากันหมัดที่ครอสต่อยเข้ามาที่ช่องว่างอย่างรวดเร็ว
“ผมเองก็มั่นใจพอสมควรนะครับ”ครอสว่าพลางหัวเราะแฮะๆ
“แต่ ถ้ามีอาวุธก็อีกเรื่อง”คิลว่าพลางสร้างปราณกระบี่ขึ้นมาสองเล่มจากทั้งสองมือ
“นั่นสินะ ถ้ามีอาวุธผมเองก็แย่”ครอสพูด ก่อนจะตั้งท่าเหมือนคิลไม่มีผิด นั้นคือแขนทั้งสองข้างแนบลำตัวแบบสบายๆ เหมือนยืนนิ่งๆอย่างไรอย่างนั้น
“ผมเองก็ไม่ได้มองคิลสู้เฉยๆหรอกนะ”ครอสว่า พลางถอยหลังไปหนึ่งก้าว ทันทีที่ได้จังหวะ ร่างของทั้งคู่ก็หายวับไปทันที เล่นเอาเหล่าทหารอึ้งกันเป็นแถว ดูเหมือนว่าวิชาลมปราณจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการต่อสู้ประชิดตัวอย่างแท้จริง เป็นการเสริมสร้างพลังให้ร่างกายอย่างมหาศาล นี่ถ้าทั้งสองคนมีอาวุธในมือ หรือใช้เวทมนตร์ไปด้วยจะเป็นอย่างไรกันนะ
“ยังฝีเท้าไม่เบาพอนะครอส”คิลพูดเสียงเบาหลังจากโผล่ออกมาต่อหน้าทหารทุกคน ที่ลานประลองตอนนี้มีเพียงคิลเท่านั้นที่ยืนอยู่ เพราะครอสได้ล้มลงไปนอนกับพื้นเสียแล้ว
“อึก ดูเหมือนว่าเรื่องลอบสังหารยังไงผมก็สู้คิลไม่ไหวสินะ”ครอสว่า ก่อนจะดันตัวขึ้นมาช้าๆ
“ยังไม่จบอีกแฮะ”โซลว่า ก่อนจะลงไปนั่งกับพื้น สองคนนี้สู้กันทีไรได้มีเรื่องตื่นเต้นตลอดเลยสิน่า
“ตัดสินกันทีเดียวเลยดีกว่านะครับ”ครอสพูดเสียงเบา ก่อนจะลุกขึ้นมาเร่งลงปราณอย่างรวดเร็ว
“นั่นสินะ”คิลว่าก่อนจะทำอย่างครอสเช่นกัน ในตอนนี้คนในห้องมีเพียงสายตาลุ้นระทึกเท่านั้น ภาพตรงหน้าราวกับทำให้เวลาหยุดหมุน ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องล้วนหยุดนิ่ง ทั้งสองคนต่างเพ่งสมาธิไปที่กันและกันอย่างไม่มีการวอกแวก วินาทีนี้ ใครเผลออาจจะถึงกับแพ้เลยก็ได้
“พอๆ”เสียงมาร์คัสทำเอาคนทั้งสองสะดุ้งทันที
“ใครใช้ให้พวกเธอมาประลองกันเองแบบนี้”มาร์คัสว่าพลางถอนหายใจเฮือก
“ขอโทษครับ”ครอสว่าก่อนจะก้มหัวให้มาร์คัสอย่างนอบน้อม
“หลักจากฝึกพวกเธอต้องไปแย่งชิงผลึกทันที ถ้าอยากประลองไว้ประลองวันหลัง ตอนนี้พวกเธอต้องฝึกให้มากเข้าไว้”
“นั่นสินะ”ครอสว่า ก่อนจะเริ่มฝึกต่อ
“แต่วิชานี่คงลบข้อแตกต่างด้านร่างกายได้สินะ”คิลพูดก่อนจะมองไปตามร่างกายที่เร่งพลังจนรู้สึกถึงกระแสลมปราณไอย่างดี
“ถูกต้องแล้วละ วิชาลมปราณไม่ใช่วิชาที่สะดวกอย่างเวทมนตร์ทำให้ไม่ค่อยมีผู้ฝึกนัก แต่เพราะร่างกายของเทพและปีศาจต่างกับมนุษย์มากเกินไปทำให้มนุษย์ไม่มีทางเอาชนะได้เลย บาดแผลที่มนุษย์โดนแล้วถึงตาย ปีศาจอาจจะหายในพริบตา นี่ละคือข้อแตกต่างใหญ่ๆของพลัง”มารืคัสว่า ก่อนจะเดินไปรอบๆช้าๆ
“เราจะให้เวลาฝึกลมปรารอีก 1 วันหลังจากนั้นเราจะฝึกเวทมนตร์บริสุทธิ์กัน”เสียงของดาร์คทำให้เหล่าทหารถึงกับงง อะไรกัน พึ่งฝึกได้ไม่ถึงไหนเลยนี่นา
“ลมปราณเป็นแค่พลังที่ใช้เพื่อกลบข้อด้อยของร่างกายเท่านั้น แถมยังไม่มีอะไรที่ต้องสอนแล้วด้วย พวกเจ้าก็เพียงแต่ขยันฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มขั้นพลังไปเรื่อยๆเท่านั้นก็พอ เพราะปัจจัยหลักที่จะทำให้พวกเราชนะในศึกนี้ได้คือเวทมนตร์บริสุทธิ์กับพลังดั้งเดิมของพวกเธอเท่านั้น”มาร์คัสพูด ก่อนจะยิ้มบางๆ
“ดีใจได้เลย นี่คือรอบที่ทหารมีพลังสูงที่สุด เพราะงั้นฉันจะฝึกทุกคนที่นี่ให้เอง”
ความคิดเห็น