คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : โรงเรียนครอนาเรีย
ตอนที่ 2
โรงเรียนครอนาเรีย
“ตายจริง หนูอลิซตื่นเช้าจังเลยนะ”เสียงหวานข้องน้าคืม คืออย่างแรกที่ฉันได้ยินหลังจากเดินลงมาจากชั้นสองของตัวบ้าน ฉันนะตื่นเช้าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่เท่าที่ดูน้าคิมตื่นก่อนฉันมาพักใหญ่เลยนะเนี่ย
“ไหน ผมยังไม่เรียบดีเลยนี่นา”น้าคิมพูดเสียงเบาพร้อมเดินลากฉันให้ไปนั่งที่เก้าอี้ ก่อนจะควักหวีออกมาจากกระเป๋าผ้ากันเปื้อนมาหวีผมให้ฉันเบาๆ
“น้านะอยากทำแบบนี้มานานแล้วนะ แต่บ้านนี้ก็มีแต่ผู้ชาย ถึงผู้ชายแต่ละคนจะสวยกว่าน้าสะอีกก็เถอะ”น้าคิมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะยื่นกระจกมาให้ฉัน อ๊ะ เรียบร้อยดีแล้วนี่นา
“อลิวเนี่ยใช้ผมปิดใบหูมาตลอดเลยเหรอเนี่ย แบบนี้น่าสงสารออก”น้าคิมว่า ก่อนจะเปิดเส้นผมจนเห็นใบหูของฉัน ถึงจะไม่ยาวเหมือนของแม่ แต่ก็ยาวกว่าคนปกติทั่วไปมากอยู่ดี
“ไม่ต้องห่วงนะจะ โลกตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว กึ่งมนุษย์อย่างหนูอลิซนะมีมากมายจนไม่ใช่เรื่องแปลกไปแล้ว ไม่ต้องอายหรอกนะ เพราะหูของหนูคือสิ่งที่บอกว่าแม่ของหนูคือใครไงละจะ”พูบจบน้าคิมก็ลูบหัวฉันเบาๆ อย่างเอ็นดู ความจริงแล้ว เมื่อสมัยเด็กฉันมักจะโดนล้อเรื่องหูจากเด็กในหมู่บ้านประจำเลย ถึงฉันจะไม่ใส่ใจ แต่ก็คงเผลอปิดหูเอาไว้โดยไม่รู้ตัวสินะ
“ขอบตุณนะคะน้าคิม”แปลกจัง ทั้งๆที่พึ่งเจอกันได้แค่วันเดียว แต่น้าคิมกลับดูฉันออกถึงขนาดนี้เลยเหรอ ว่าแต่ ฉันบอกน้าคิมไปตอนไหนว่าแม่เป็นเอลฟ์ ไม่ใช่พ่อนะ
“จริงสิ มีของมาส่งให้หนูด้วยนะ จากพ่อของหนูนะจะ”น้าคิมชี้ไปที่กล่องใบหนึ่งซึ่งวางไว้บนโต๊ะตัวยาวของบ้าน แปลกจัง พ่อส่งอะไรมานะ ทั้งๆที่พึ่งจะผ่านไปคืนเดียวเอง อีกอย่างพ่อรู้ได้ไงว่าฉันมาพักที่นี่
“ตายจริง ดาบกับคทาเหรอ”น้าคิมพึมพำเบาๆเมื่อฉันเปิดกล่องที่พ่อส่งมาให้ ดาบเป็นดาบอ่อนอย่างที่ฉันใช้ประจำ ท่าเป็นทางเฟรเมนอสจะเรียกดาบแบบนี้ว่ากระบี่ หรืออะไรนี่ละ ส่วนคทา เป็นคทาด้ามยาวที่ตีขึ้นมาจากเงิน ลวดลายเป็นลวดลายเฉพาะของพ่อแน่ๆ น่าจะเป็นคทาที่พ่อตีให้กับมือเลยละ แหม ดีใจจังเลย
“จริงสี วันนี้พวกเธอจะไปสอบกันนี่นา”น้าคิมพูดพลางหัวเราะเสียงใส
“แต่ว่า วันสอบแท้ๆ พ่อตัวดีดันกลับซะมืด แถมยังตื่นซะสายอีก”พ่อตัวดี? ใครกัน แต่จะว่าไป น้าคิมก็บอกว่า บ้านหลังนี้มีแต่ผู้ชายนี่นา หรือว่าจะมีคนอื่นอยู่ด้วย
“คนที่ว่านั้น ใครเหรอคะ”
“จริงสินะ เมื่อวานเขาอยู่ที่โรงฝึกจนถึงมืดเลยยังไม่ได้เจอกันนี่นา อ้าว ลงมาพอดีเลย คริส ตื่นแล้วเหรอลูก”สิ้นเสียงของน้าคิม ฉันก็หันไปมองร่างสูงที่เดินลงบันได้มาทันที แต่ผู้ชายคนนั้นกลับทำให้ฉันรู้สึกตัวแข็งอย่างบอกไม่ถูก ดวงตาสีแดงของเขา จะว่าไงดีละ น่ากลัว ฉันรู้สึกอย่างกับว่าโดนเขาจ้องอยู่ตลอดงั้นละ เขาเป็นผู้ชายที่ จะบอกว่าหล่อก็คงไม่ได้ ต้องบอกว่าสวยมากกว่า ถึงจะทำหน้าบึ้งตึง แต่ก็ยังแสดงความสวยออกมาผ่านใบหน้าได้เป็นอย่างดี ถึงจะยังมองออกว่าเป็นผู้ชาย แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นลูกของใคร
“ คริส คนนี้คือหนูอลิซนะจะ เขาจะมาอยู่บ้านเราในช่วงที่เรียนอยู่”พูบจบ น้าคิมก็ดันฉันให้เข้าไปใกล้ผู้ชายคนนั้นมากขึ้น นะ น่ากลัวอะ T^T
“คริส ครีเนเซย์ เฟรเนซิส”คริสพูดเสียงเรียบๆ ก่อนจะยื่นมือมาตรงหน้า ทะ ทำไงดีละ ตะ ต้องจับมือเขาด้วยสินะ แต่ว่า ง่า อย่าจ้องมากสิ มันน่ากลัวนะ
“อะ อลิซคะ”พูบจบฉันก็จับมือเขาพอผ่านๆ ก่อนจะรีบเดินกลับไปหาน้าคิมทันที ฉันไม่ถูกกับผู้ชายเอาวะเลย นอกจากพ่อกับพวกลุงดาร์คน้าเรวินแล้ว ฉันแทบไม่ได้เข้าใกล้ผู้ชายคนอื่นเลยนะ ยิ่งคนที่แผ่รังสีน่ากลัวออกมาแบบนี้แล้ว ยิ่งไม่กล้าเข้าใกล้ใหญ่เลย
“นะ น้าคิมคะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ”ตอนนี้ ขอเผ่นก่อนละ T0T
.
.
.
ในที่สุดก็ถึงเวลาสอบเสียที บอกตามตรงนะ ฉันตื่นเต้นกับการสอบมากอยู่หรอก แต่ฉันกำลังประหม่ากับผู้ชายสองคนที่เดินตามเป็นบอดี้การ์ดอยู่มากกว่า คนหนึ่งคือคริสลูกชายของคุณครอสที่มาสอบพร้อมกับพวกเรา ส่วนอีกคนคือ ดีน หรือ เกรนาดีน ฟรินเซ้นต์ เพื่อนของคริสที่มาสอบเหมือนกันด้วย ดีนเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจา นานๆถึงจะเปิดปากพูดสักครั้ง แต่ก็ดีกว่าผู้ชายผมแดงที่แค่เดินตามยังเสียวสันหลังแบบคริสอะ
“ว้าว สวยจัง”พอเดินมาถึงกลางเมือง สิ่งแรกที่ทำให้ฉันต้องหยุดมองคือ รูปปั้นของเหล่าชายหญิง 6 คน ที่ถูกตั้งไว้กลางเมือง ขนาดของมันถ้าเทียบคงเทียบได้พอๆกับบ้าน 2 หลังเลยมั้ง รูปปั้นทั้ง 6 หันหลังเข้าหากัน รูปปั้นที่หันไปทางทิศเหนือสวมเสื้อเกราะสวยงาม ใบหน้าหวานของตัวรูปปั้นทำให้รู้เลยว่าคนๆนั้นคือคุณครอสแน่นอน ทางซ้ายของคุณครอสเป็นรูปปั้นของเด็กหนุ่มท่าทางเหมือนเด็กสาวที่อยู่ในชุดจอมเวท แต่ในมือกลับถือหอกยาวเอาไว้ ถัดมาอีกเป็นหญิงสาวในชุดจอมเวทไม่ผิดแน่นอน ส่วนรูปปั้นที่หันมาทางทิศใต้เป็นรูปปั้นของชายหนุ่มรูปร่างกำยำที่ปักดาบขนาดใหญ่เอาไว้กับพื้น ถัดจากเขาไปอีกเป็นชายหนุ่มที่ถือปืนทั้งสองมือ ดวงตาของรูปปั้นดูสดใสกว่าใคร แต่ ถัดมากลับเป็นรูปปั้นที่ไม่มีใบหน้า ทั้งๆที่รูปปั้นคนอื่นๆสวยงามราวกับมีชีวิตแท้ๆ อย่างรูปปั้นของคุณครอสเองยังเหมือนตัวจริงสุดๆเลย เหมือนจนไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือรูปปั้น
“รีบไปเถอะอลิซ อยู่ตรงนี้ไม่ดีหรนอก”เคธว่าก่อนจะรีบดึงแขนฉันให้เดินต่อ เพราะเหมือนว่าคนรอบๆข้างจะเริ่มหันมามองทางพวกฉันแล้วสิ จะว่าไปคงเพราะคริสเป็นลูกชายของคุณครอสละมั้งถึงได้มีคนมองขนาดนี้
“ถึงแล้วละ”สิ้นเสียงเคธ ภาพตรงหน้าก็ทำให้ฉันย้อนกลับไปเหมือนเจอรูปปั้นนั่นอีกครั้ง ไม่สิ คราวนี้ฉันอึ้งยิ่งกว่าเดิมอีก ถึงจะจินตนาการไว้เยอะ แต่โรงเรียนนี่มัน ยิ่งกว่าที่ฉันจินตนาการไว้หลายเท่าเลยละ
“ว้าย” อยู่ดีๆก็มีรถม้าแล่นเข้ามาจากข้างหลัง เล่นเอาฉันเกือบโดนชนแนะ ดีนะที่คริสดึงออกมาก่อน เอ๋ คริส?
“อย่าเดินบนทางวิ่งของรถสิ” อะ เอ่อ จริงสิ จะว่าไป เมื่อกี้ฉันเผลอยืนบนถนนสำหรับรถนี่นา แต่ โรงเรียนนี้มีเด็กที่เอารถมารับส่งเลยเหรอ !!
“รีบตามมาสิ เดี๋ยวก็หลงหรอก” คริสกันมาพูด ก่อนจะเดินนำไปช้าๆ หลงเหลิงอะไรกัน ถึงโรงเรียนจะใหญ่ เอ่อ ใหญ่มากก็เถอะ แต่คงไม่หลงหรอกมั้ง มั้งนะ........
“เคธ”นั่นคือคำพูดแรกหลังจากเดินเข้ามาในห้องประชุมใหญ่ของโรงเรียน นี่มันจุได้กี่แสนคนเนี่ย หอประชุมใหญ่มากเลย
“อะไรเหรอ อลิซ”
“แบบว่า....ทำไมถึงไม่มีคนมานั่งแถวข้างๆพวกเราเลยละ”ฉันถามก่อนจะเหล่มองข้างๆ พวกฉัน 4 คนนั่งอยู่เรียงกันเป็นแถวหน้ากระดาน แต่ในรัศมี 15 เก้าอี้ ไม่มีคนนั่งอยู่แลย แถมยังเว้นว่างไว้เป็นวงกลมอีกด้วย อย่างกับไม่กล้าเข้าใกล้งั้นละ
“ก็เพราะ พวกเราเป็นลูกของวีรบุรุษละมั้ง”เคธว่า พลางถอนหายใจ เธอมักโดนปฏิบัติแบบนี้จนชินแล้วละ แต่สำหรับอลิซคงเป็นเรื่องแปลกที่คนอื่นๆไม่กล้าเข้าใกล้แบบนี้
“พวกเรา?”
“อ่าว ยังไม่ได้บอกเหรอ ฉันเป็นลูกสาวของวีรบุรุษเหมือนคริสกับดีนนั่นละ”
“เอ๊ะ ดีนด้วยเหรอ”หะ อย่าบอกนะว่า ในกลุ่มนี้นอกจากฉันแล้ว ทุกคนต่างเป็นลูกของเหล่าวีรบุรุษทั้งนั้น มิน่าละ ทุกคนถึงได้มองแปลกๆ T0T
“พวกท่านลูกของวีรบุรุษนี่นา ไม่กล้านั่งใกล้ๆเลยอะ”เสียงคนด้านหลังทำให้ฉันหันไปมองช้าๆ เธอเป็นผู้หญิงท่าทางจะเป็นผู้ดีมีสกุลแต่งตัวด้วยเสื้อฟ้าท่าทางแพงๆ แต่พอเห็นพวกเคธ กลับทำท่าทีประหม่าแล้วเลือกที่นั่งในเขตปรอดภัย 15 เก้าอี้อย่างคนอื่นๆ แต่ตอนนนี้ ฉันก็อยากไปนั่งทางโน้นบ้างเหมือนกันอะ T-T
“แล้วยัยลูกครึ่งเอลฟ์นั่นเป็นใครนะ มาตีสนิทกับท่านบุตรแห่งวีรบุรุษได้ “ งะ ฉันเองก็อยากถามเหมือนกันคะ ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้
“อลิซ จะเริ่มแล้วนะ ตั้งใจฟังหน่อย”เสียงดุๆของคริสทำให้ฉันเลิกหันไปสนใจสองสาวนั่นอย่างช่วยไม่ได้ แต่ทันทีที่คนบนเวธีเดินออกมา ฉันก็ถึงกับสะดุ้งทันที
“นั่นมันท่านวีรบุรุษนี่นา”พูดจบ เคธก็ทำหน้าเหนื่อนใจทันที ก่อนจะตีแขนฉันเบาๆ
“นี่เธอมาสอบแล้วยังไม่รู้อีกหรือไงว่าน้าเกลนะเป็นผู้บริหารของโรงเรียนนี้”
“เอ๋ น้าเกล?”
“ก็บอกแล้วไงว่าพวกฉันเป็นลูกของวีรบุรุษ แถมวีรบุรุษแต่ละคนก็รู้จักกันอยู่แล้ว น้าเกลก็เลยสนิทกับพวกพ่อฉันจนเป็นเหมือนครอบครัวไปแล้วละ”เคธว่า ก่อนจะหันไปฟังที่ท่านเกลพูดต่อ จริงด้วยสิ ฉันนี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยสินะ เป็นแบบนี้ จะไหวหรือเปล่านะ
“ต่อไปจะเริ่มการทดสอบ ขอให้นักเรียนเข้าไปในประตูตามที่ประกาศชื่อด้วย” เอ๊ะอ่าว ท่านเกลพูดจบแล้วเหรอ ทำไมสั้นจัง แล้วเมื่อกี้เขาว่าทดสอบอะไรนะ แง มัวแต่คิดมาก ลืมฟังไปเลย
“ไปสิอลิศ พสกเราเป็น 4 คนแรกนะ”พูดจบคธก็ดึงฉันให้ขึ้นไปบนเวทีของหอประชุม แต่ ทดสอบอะไรละ ฉันยังไม่รุ้เลย
“ให้แต่ละคนเลือกประตูคนละบานนะ แล้วฟังบททดสอบของผู้คุมสอบในประตู”ท่านเกลพูบจบ ประตูสีน้ำเงิน 4 บ้านก็ถูกสร้างขึ้นมา อย่าบอกนะว่านี่คือเวทประตูมิติ โห ฉันพึ่งเคยเห็นครั้งแรกนี่ละ
“ไปก่อนนะ”เคธว่า พลางโบกมือให้ฉัน แล้วเปิดประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่หนุ่มๆทั้งสองคนจะตามไป แล้วจะให้ฉันเลือกอะไรละ ในเมื่อมันเหลือบานเดียวแล้ว T-T
.
.
“ป็นเธอเหรอเนี่ย คริส”เสียงเรียบๆของชายหนุ่มที่สวมหน้ากากเหล็กพร้อมเสื้อคลุมตัวใหญ่สีดำทำให้ร่างของคริสหยุดอยู่กับที่ทันที
“อยากให้เป็นใครละครับ ลูกสาวคุณงั้นเหรอ”คริสว่า พลางเรียกเคียวสีแดงออกมาถือในมือ ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองหน้ากากเหล็กอย่างเอาจริง วิชาเคียวที่ถ่ายทอดมาจากพ่อนะ ไม่มีใครรับได้เลยสักคน ถึงจะไม่ชอบที่ต้องใช้เคียวเหมือนพ่อก็เถอะ
“เฮ้อ เอาเถอะ ฉันจะทดสอบเธอให้แล้วกัน”คิลที่อยู่ในชุดคลุมค่อยๆถอดหน้ากากออกช้าๆ ก่อนจะเรียกดาบออกมาด้วยท่าทีสบายๆ แต่คริสกลับไม่ปล่อยให้คิลได้ดึงดาบออกมากลับรีบเข้าจู่โจมทันที โดยไม่ให้ตั้งตัว
“พ่อเธอไม่ได้สอนเรื่องมารยาทหรือไงนะ”คิลถอนหายใจ ก่อนจะใช้นิ้วชี้และกลางของมือซ้ายที่ว่างอยู่รับปลายเคียวเอาไว้อย่างกับมันมีน้ำหนักเท่าแผ่นกระดาษงั้นละ
“จริงสิแล้วอย่าบอกลูกสาวฉันเรื่องนี้ละ”สิ้นเสียงของคิล คริสก็หมดสติวูบไปทันที เล่นเอาร่างของคริสร่วงผล็อยลงทั้งๆที่เจ้าตัวยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโดนอะไรเข้าให้
.
.
“ฉันนี่โชคดีจริงๆเลยนะที่เจอลูกสาวของเอลฟ์เนี่ย”เสียงหวานของดาร์น่าทำให้อลิซที่โผล่ออกมาจากบานประตูสะดุ้งเล็กน้อย
“แต่ก็นะ ฉันให้โอกาสเธอ 10 นาทีในการจับกระต่ายทั้งหมดนี่”สิ้นเสียงของดาร์น่า กระต่ายสีดำจำนวน 30 ตัวก็โผล่ออกมาจากพื้นดินราวกับเรื่องโกหก
“จับกระต่าย?”อลิซถามพลางมองหน้าผู้คุมสอบอย่างแปลกใจ
“เจ้าพวกนี้เป็นกระต่ายจริงที่ฉันจับมา ถ้าเธอแตะตัวพวกมันได้ มันจะหยุดอยู่กับที่ทันทีตามคำสั่งของฉัน”ดาร์น่าว่า พลางยิ้มบางๆ อันที่จริงคะแนนที่เธอจะให้จะดูจากวิธีการจับ และความคร่องของร่างกาย ไม่ใช่เรื่องเวล
“เอาละนะ 10 นาทีเริ่มได้”
“มานี่”สิ้นเสียง กระต่ายทั้งห้องก็พากันเข้าไปออรอบๆตัวอลิซทันที เล่นเอาดาร์น่าอยากตบกะโหลกตัวเองให้ดังลั่น ลืมไปได้ไงว่าเนเน่เองก็เป็นที่รักของสัตว์เพราะมีสายเลือดเทพ แค่พูดคำเดียวพวกสัตว์ก็ทำตามหมดแล้ว แบบนี้มันโกงกันชัดๆ
ความคิดเห็น