ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MoonCrosS IV ภาค เจ้าหญิงแวมไพร์

    ลำดับตอนที่ #11 : แสดงละคร!!

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ค. 55


     ตอนที่ 11

    แสดงละคร!!

                    เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น เหมือนว่าร่างกายมันขยับไปเองอย่างงั้นละ ทั้งๆที่ไม่ได้คิดจะแตะต้อตัวอลิซเลยแม้แต่นิดเดียว  ไม่สิ ไม่อยากแตะต้องงั้นเหรอ ไม่ใช่หรอก ตั่งแต่วันแรกที่เจอ ผมกลับรู้สึกแปลกๆมาตั่งแต่แรก ราวกับตัวเธอมีแรงดึงดูดให้ผมเข้าไปหาอย่างไรอย่างนั้น ทั้งๆที่ผมไม่เคยคิดว่าผู้หญิงจะมีอะไรน่าสนใจมาก่อน กลับรู้สึกอยากเข้าไปดึงร่างเล็กๆนั่นมากอดอย่างบอกไม่ถูก บางทีก็หงุดหงิดกับท่าทีไม่ระวังตัวของเด็กผู้หญิงคนนี้เสียเหลือเกิน ทั้งๆที่อายุก็ 15 แล้ว โตพอที่จะเรียกว่าเป็นสาวได้แล้ว กลับยอมให้ใครต่อใครเข้ามากอดได้เสียเฉยๆ ถึงอีกฝ่ายจะเป็นผู้หญิงซะเกือบหมดก็ตาม แต่มันก็แอบหงุดหงิดอยู่ดีนะ ถึงเธอจะไม่รู้ตัว แต่เธอเป็นผู้หญิงที่เรียกได้ว่า น่ารักจนใจหาย บอกได้เลยว่าที่โรงเรียนหากไม่มีผมกับพวกเคธคอยประกบ ผู้ชายต้องคอยเดินตามไม่ยอมห่างแน่นอน  ผมเริ่มคิดว่าผมกำลังตกหลุมรักเธอมานานแล้วละ แต่ก็คิดว่าเป็นแค่ความหลงใหลที่รูปโฉมภายนอกมากกว่า จนเริ่มอยู่ด้วยกันมากๆเข้า ผมกลับเริ่มโดนดึงดูดเข้าหาเธอเรื่อยๆ ปกติผมก็ควบคุมตัวเองได้นะ แต่เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่   อากกก ผมทำบ้าอะไรลงไป

                    ว่าไงผมเอ่ยเสียงทักทายให้ร่างบางที่ยินอยู่ข้างๆแม่ของผมเอง แต่เธอกลับเดินเข้าไปหลบหลังแม่ของผมซะอย่างนั้น  ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ละ หรือว่าเธอโกรธผม ไม่สิ อาจจะถึงขั้นเกรียดเลยก็ได้ ผมจะทำยังไงดีละเนี่ย

                    .

    .

    เฮ้เสียงหวานออกแหลมของเคธทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย  นี่ผมนั่งเหม่อจนลืมเรื่องรอบตัวเลยเหรอ

    คริส นายฟังเรื่องที่พวกเราพูดหรือเปล่าเสียงของเคธทำให้ผมส่ายหัวเบาๆ โทษทีนะ ผมลืมฟังไปซะสนิทเลย

    โถ่ งั้นเอาใหม่  งานโรงเรียนที่จะถึง เราจะแสดงละครกันเสียงของเซฟิเรีย หัวหน้าห้องทำให้ผมจำใจต้องนั่งฟัง ก่อนที่จะคิดเรื่องเมื่อคืนจนใจลอยอีก

    อลิซ ได้ยินไหม โถ่ ฟังหน่อยสิเซฟิเรียตีกระดาษหนังสือเล่มบางที่ถูกม้วนเป็นทรงกระบอกเข้ากับโต๊ะของอลิซเป็นการปลุกให้วิญญาณกลับเข้าร่างของเจ้าหล่อนเสียที ดูเหมือนไม่ใช่แค่ผมสินะที่ใจลอย

    เอ้าฟังให้ดี ละครที่เราจะแสดงคือเรื่อง ตำนานรักเจ้าหญิงหยาดหิมะสิ้นเสียง อลิซก็เบิกตากว้างทันที ดูเหมือนเรื่องนี้จะมีคนเอามาเล่าเป็นนิทานอยู่ แถมดูเหมือนเจ้าตัวจะชอบเรื่องแบบนี้มากๆด้วยสิ เพราะคุณเธอเล่นทำตาเป็นประกายซะขนาดนั้น

    เรื่องตัวละคร เราจะให้ทุกคนจับฉลากกันเพื่อความเท่าเทียม แน่นอน ถ้าผู้ชายจับได้ตัวละครหญิงก็เปลี่ยนไม่ได้นะจะสิ้นเสียง เหล่าชายในห้องก็หน้าซีดเป็นแถม แต่พวกผู้หญิงนี่สิ ดันหันมามองหน้าผมแล้วหันไปซุปซิปกันซะอย่างนั้น

    มัวคิดอะไรอยู่นะคริส เล่นเหม่อไม่สนที่พวกเราพูดกันเลยเคธที่หมดหน้าที่แล้วถามขึ้น พร้อมมองคนที่ต่อแถวไปจับฉลากด้วยใบหน้าเหมือนคนกำลังอยากแกล้งเต็มแก่ ให้ตายสิ ยัยนี่ต้องรอหาผู้ชายดวงซวยอยู่แน่นอน

    นี่ ถ้าเอาแต่เครียดมันก็แก้ไขปัญหาไม่ได้นะ ทั้งเธอทั้งอลิซเลย เป็นอะไรกันเสียงบ่นของแคธทำให้ผมถอนหายใจ ให้ทำไงได้ละ ดันไปจูบเขาเข้าให้นี่นา อีกฝ่ายดันเป็นผู้หญิงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอีก พอเจอหน้าก็หลบ แบบนี้จะเครียยังไงได้ละ

    เธอเคยจูบใครไหมผมถามพลางหันไปมองเคธ แต่สิ่งที่ผมห็นตรงหน้าคือใบหน้าเหวอสุดๆของคุณเธอ

    อยะ อย่าบอกนะว่านายสองคน คะ คริส นายมันเลว นายมันพวกฉวยโอกาสพูดจบเคธก็ใช้มือบางๆทั้งสองข้างเขย่าคอเสื้อผมจนคนทั้งห้องหันมามอง      

    อย่าเสียงดังซี่ ผมว่า ก่อนจะดึงมือของเคธออก

    อย่าบอกนะที่นายนั่งเครียดมาแต่เช้าเพราะดันเผลอไปจูบหนูอลิซของฉันเข้า จบคำถาม ผมก็ได้พยักหน้าแทนคำตอบ

    นึกว่าคนอย่างนายจะจูบผู้หญิงแบบไม่คิดมากซะอีก เป็นสภาพบุรุษดีนี่นาเคธว่า พลางหัวเราะเบาๆ

    แล้วให้ทำไงละ ยัยนั่นเล่นไม่ยอมสบตาเลย

    ถามได้ เป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ ตื้อไปสิเคธว่าพลางหัวเราะเสียงใส

    ตื้อ ? แบบนั้นจะไม่โดนเกรียดหนักกว่าเก่าหรือไง

    ไม่แย่ไปกว่านี้มากมายหรอก เอาน่า เชื่อฉันสิเคธว่าพลางตบบ่าผมเบาๆ ทำให้ผมหันไปมองหน้าอลิซช้าๆ เป็นจังหวะเดียวกับที่ดวงตากลมสีฟ้านั่นหันมาสบกับดวงตาของผมพอดี เพียงมองตากันไม่กี่วินาที อลิซก็รีบหลบตาหนี แล้วก้มหน้าหงุดทันที แบบนี้คงแย่แล้วละมั้ง

    คริส มาจับได้แล้วเสียงของเซฟิเรียทำให้ผมต้องลุกจากเก้าอี้ไปจับฉลากในกล่องออกมาช้าๆ แต่เมื่อล้วงมือลงไป กลับพบว่ามีเพียงกระดาษใบเดียวเท่านั้นที่อยู่ในกล่อง

    ไนท์แมร์ผมอ่านข้อความในกระดาษของผมเบาๆ ไนท์แมร์ หมายถึงนักฆ่าในตำนานนะเหรอ หมายความว่าผมเป็นตัวร้ายงั้นสิ

    แหมตายจริง คริสได้เป็นพระเอกเลยเหรอเนี่ย

    เอ๊ะเสียงตกใจของอลิซทำให้ผมหันไปมองทันที ทำให้ผมเห็นกระดาษในมือของอลิซ ถึงจะไกล ตัวหนังสือเองก็เล็ก แต่ผมก็สายตาดีพอที่จะอ่านออก มันเขียนไว้ว่า เมโลดี้!!!

    เมโลดี้ ไนท์แมร์ ….. ให้ตายสิ อย่าบอกนะว่าเรื่องเจ้าหญิงหยาดหิมะที่ว่า เป็นเรื่องของเจ้าพ่อขี้หวงนั่น

    .

    .

    .

    มันก็ดีใตหรอกนะที่ได้แสดงละคร แต่เรื่องเมื่อคืนทำเอาฉันไม่ได้ฟังอะไรเลย แถมเรื่องตำนานอะไรนั่นฉันก็ไม่รู้จักด้วย เซฟิเรียเลยให้บทฉันมาอ่าน แล้วต้องกลับไปท่องให้เธอฟังพรุ่งนี้  ถึงจะแอบมาอ่านที่ระเบียงของบ้านคุณครอสที่เงียบขนาดไหน แต่ตอนนี้ฉันก็ไม่ค่อยจะมีกะใจจะอ่านบทเท่าไหร่นะสิ ยิ่งพอมองไปที่โรงฝึกทีไร หัวใจมันก็สะดุ้งวูบทุกทีเลย

    ความรักของนักฆ่าที่เต็มไปด้วยความแค้น กับเจ้าหญิงงั้นเหรอฉันอ่านบทไปมาหลายรอบ ถึงจะไม่มีใจจะอ่าน แต่ก็พอจับใจความได้บ้งเหมือนกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องของ ไนท์แมร์ หนึ่งในผู้กล้าที่เสียชีวิตไปแล้ว เป็นความรักของนักฆ่าที่เข้าไปทำงานลอบสังหารเจ้าชายซึ่งเป็นพี่ชายขององค์หญิงเมโลดี้และยังเป็นคนที่สร้างความแค้นให้แก่ไนท์แมร์ด้วย แต่ไนท์แมร์ก็ตกหลุมรักเจ้าหญิงจนยอมล้มเลิกการทำงานครั้งนั้น แต่เพราะเขาทำงานไม่สำเร็จ ทำให้เขาต้องโทษจากสมาคม มีทางหนึ่งคือเขาจะต้องยอมตายหรือไม่ก็ฆ่าเจ้าหญิงเมโลดี้เสีย แต่สุดท้ายเจ้าหญิงก็ยอมตายแทนไนท์แมร์ จนไนท์แมร์เลิกคิดแค้นต่อใครๆ จนกลับกลายมาเป็นผู้กล้าถึงทุกวันนี้

    นั่น เสียงอะไรนะ ฉันค่อยๆพูดตามบทช้าๆ ก่อนจะมองไปที่มุมหนึ่งในเงาของต้นไม้  อยู่ดีๆเจ้าหญิงก็จับตัวนักฆ่าได้ด้วยอาการเหม่อลอยแบบนี้ มันจะดีเหรอเนี่ย

    คุณเป็นใครฉันพูดตามบทต่อ ก่อนจะมองที่บรรทัดถัดมา เป็นบทพูดของไนท์แมร์ที่จะตอบกลับมาให้เข้าหญิง แต่ตอนนี้ฉันแค่ซ้อมคนเดียว คงไม่ต้องมีใครมา….

    แล้วเธอละเป็นใครเสียงนุ่มๆปนหวานของคนที่ฉันคุ้นเคยดังขึ้น คริส เขากำลังนั่งอยู่บนกิ่งไม้เหือนในบทที่เขียนมาให้ แต่ทำไมเขาต้องโผล่ออกมตอนนี้ด้วยละ ในเมื่อเมื่อคืนเขาพึ่ง….

    เธอ เป็นใครคริสถามซ้ำเพราะไม่ได้ยินคำตอบจากปากฉัน พร้อมมองมาทางฉันด้วยดวงตาสีแดงเพลิงคู่สวย  ทำไมถึงใจเต้นละ ไม่เข้าใจเลย

    ฉัน…..ฉันคือเจ้าหญิงเมโลดี้  คุณมาทำอะไรที่ระเบียงห้องของฉันฉันพูดตามบมก่อนจะมองไปที่ดวงตาของคริส เขาไม่คิดที่จะหลบตาเลยด้วยซ้ำ

    เจ้าหญิงเหรอ ขออภัยที่เสียมารยาท แต่ตรงนี้มองเห็นพระจันทร์ได้สวยงามกว่าที่ได  ไม่คิดว่าจะเป็นการรบกวนเสียงของคริสทำให้ฉันหยุดหายใจ ยิ่งร่างที่กระโดดเข้ามาใกล้ยิงทำให้ฉันไม่กล้าขยับแม้แต่ปลายนิ้ว ยิ่งเขาเข้ามาไกล้ ร่างกายก็พากันเกร็งไปหมด ภาพเมื่อคืนแล่นเข้าหัวมาทันทีที่เขาเริ่มก้มหน้าเข้ามาใกล้

    ขอโทษคริสพูดเสียงเบา ก่อนจะใช้ดวงตาสีแดงจ้องมาที่ฉัน ถึงจะไม่ได้ใช้คำพูดอะไรมากมาย แต่ดวงตานั่นกลับสื่อหลายๆสิ่งออกมาได้มากเกินพอที่จะทำให้ฉันรู้ว่าเขารู้สึกผิดจริงๆ

    คุณกลับไปเถอะ ถ้าหากใครมาเห็น….” ฉันกำลังพูดตามบทต่อ แต่คริสกลับใช้ปลายนิ่วชี้ทาบมาบนริมฝีปากของฉัน ความร้อนบริเวณริมฝีปากที่ถูกนิ้วเรียวสวยของเขาทาบทำให้ฉันรู่สึกเหมือนคนกำลังจะหัวใจวาย

    ฉัน ขอโทษคริสพูดซ้ำออกมา เหมือนจะบอกว่า สิ่งที่เขาพูดนั้นไม่เกี่ยวกับบทละคร

    ฉันไม่ถือหรอกฉันตอบ ก่อนจะหันหลังหนี ขืนอยู่นานกว่านี้ฉันได้หัใจวายตายแน่

    งั้น อย่าหนีหน้าฉันสิคริสว่า พลางดึงแขนของฉันเอาไว้

    ตกลงไหมคริสพูดจบก็หมุนตัวฉันไปให้จ้องหน้ากับเขา

    กะ ก็ได้

     _____________________________________________________________

    =j;นี้งานยุ่งจนไม่ได้แตะคอมจริงๆ แภมอีกไม่กี่วันน้องๆจะเข้ามาแล้ว ผมเลยต้องจัดงานรับน้องอีกเป็นเวลาหนึ่งเดือน อาจจะทำให้นิยายล่าช้าไปมาก แต่ก็จะพยายามแต่งมาเรื่อยๆนะครับ ขออภัยในความล่าช้าด้วย

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×