คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : แตกแยก
ตอนที่ 11
แตกแยก
ร่างของเหล่าผู้ถือครองเดินออกมาจากห้องที่มาร์คัสจัดเตรียมไว้ให้ช้าๆ ก่อนจะผ่านแถวของทหารที่คอยอยู่ด้านหน้าอย่างเชื่องช้า ในที่สุดก็ถึงวันที่พวกเขาจะก้าวเข้าสู่โลกแห่งการต่อสู้แล้ว
“เอาละทุกคน หลังจากผ่านประตูบานนี้ไปแล้ว ทุกคนจะตายได้ทุกวินาที”เสียงของไลท์ทำให้เหล่าทหารพากันเกร็งจนหมด
“แต่ก่อนอื่น พวกเราจะใช้สิ่งนี้”ไลท์ว่าพลางมองไปทางดาร์ค ซึ่งดาร์คเองก็รู้หน้าที่ดีอยู่แล้วจึงเปิดหลุมมิติขนาดเท่าลูกฟุตบอลออกมา แต่ทันทีที่สิ่งของด้านในโผล่ออกมา เหล่าทหารก็พากันงงจนพูดอะไรไม่ถูก เพราะสิ่งที่ดาร์คดึงออกมาไม่ใช่อะไรอื่น นอกจาก แก้วเปล่าเท่านั้น
“ถึงผลึกแห่งฮาร์เดสจะชื่อว่าผลึกก็จริง แต่มันก็เป็นสิ่งที่กลั่นออกมาจากผลึกของจริง”ไลท์ว่า ก่อนจะหันไปที่วอร์ตี้
“พูดง่ายๆก็คือ ของเหลวนั่นละคะ”วอร์ตี้พูดพลางเดินเข้ามาใกล้ๆดาร์ค ทันทีที่พูดจบ วงแหวนเวทขนาดใหญ่ก็โผล่พรวดออกมารายวกับมีคนวาดมันไว้ก่อนแล้ว ภูคิที่ปลดร่างภูติออกแล้วมีพลังนับสิบเท่าของเร่างเดิม อาจจะมากกว่าพวกคิลหลายเท่าเลยก็ว่าได้ แต่เวทมนตร์นี่กลับทำให้ใบหน้าของวอร์ตี้เต็มไปด้วยเหงื่อจนน่าเป็นห่วง
“นั่นนะเหรอ ผลึกที่ว่า”ครอสพูดเสียงเรียบเมื่อเห็นว่ามีหยดน้ำเล็กๆค่อยๆผุดขึ้นมาจากผืนดิน หยดน้ำสีแดงราวกับไวน์แดงชั้นดีนะเหรอคือสิ่งที่พวกเขาต้องใช้เพื่อเพิ่มพลังต่อจากนี้
“ขอโทษที่ให้รอคะ”วอร์ตี้พูดเสียงเบา ก่อนจะบังคับให้หยดน้ำเหล่านั้นลอยไปอยู่ในแก้วของดาร์ค ซึ่งปริมาณของมัน แทบจะไม่ถึงครึ่งแก้วด้วยซ้ำ
“เชิญ”ดาร์คพูดพลางส่งแก้วให้ครอส ดวงตาของดาร์คจ้องมองครอสนิ่งราวกับจะสั่งให้ครอสรีบรับแก้วไปซะ
“หนึ่งคน หนึ่งหยด เข้าใจสินะ”ดาร์คพูด พลางมองครอสเช่นเดิม
“ครับ”ครอสตอบรับเสียงเบา ก่อนจะใช้เวทสายวารีควบคุมให้น้ำลอยไปอยู่ข้างหน้าทหารแต่ละคน ที่ต้องใช้ครอสเพราะวอร์ตี้เหนื่อยจนไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้อีก แถมครอสยังเป็นผู้นำ น่าจะเหมาะที่สุดที่จะเป็นคนแจกจ่าย
“กลืนมันเข้าไปซะ”สิ้นเสียงดาร์ค เหล่าทหารก็อ้าปากแล้วรับเอาหยดน้ำสีแดงสดนั่นเข้าไป แต่ทันทีที่หยดน้ำเข้าไปในร่างกาย
“อากกกกกกกกกกกกก” เสียงร้องลั่นของเหล่าทหารไม่ได้ทำให้เหล่าผู้ถือครองแปลกใจแต่อย่างไร อย่าว่าแทหารธรรมดาเลย แม้แต่คิลที่นิ่งที่สุดก็ถึงกับลงไปทรุดกับพื้น ร่างกายของเหล่าทหารปวดตุบๆราวกับจะระเบิด เส้นเลือดตามร่างกายขยายใหญ่จนปูดออกมา ทั้งหน้าและลำคอ แดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด
“ทุกคน”เสียงของครอสดูตกใจเป็นอย่างมาก ในความทรงจำของเรกิออสไม่มีเรื่องแบบนี้นี่นา ไม่สิ ความทรงจำของเรกิออสไม่ได้บันทึกการฝึกฝนของตัวเรกิออสไว้ คงเพราะอยากให้ครอสฝึกฝนเอง แต่ทำไมเหตุการณ์แบบนี้ถึงไม่มีละ
“ดาร์ค หรือว่าพวกนาย”ครอสพูดเสียงเบา แต่ก็ถูกคิลห้ามไว้ก่อน
“ไม่หรอกครอส นี่คืออาการปกติ ผลึกพวกนี้จะเข้าไปแทรกทุกโมเลกุลของร่างกาย เปลี่ยนรหัส DNA บางส่วน เหมือนการสร้างระบบใหม่ ความเจ็บปวดระดับนี้ถือว่าธรรมดากับเรื่องแบบนี้”คิลพูดจบก็ผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ดูเหมือนคิลที่มีพลังของผลึกแต่แรกจะหายจากอาการนี้เร็วกว่าคนอื่นๆ
“แล้วจะทำยังไงกับที่เหลือละ”ครอสถามพลางมองดาร์คนิ่ง เพราะผลึกที่ว่ายังเหลืออยู่อีกอึกใหญ่เลยละ
“มนุษย์ธรรมดาคงรับได้แค่หยดเดียวเท่านั้น”ไลท์พูดเสียงเรียบ ก่อนจะมองทางครอสและคิล
“แต่ร่างกายของนายท่านกับครอสคงรับไหว”ไลท์พูดเสียงเรียบ พลางส่งสายตามาทางครอสและคิลเหมือนต้องการสื่อว่าแค่นี้ก็รู้คำตอบแล้วใช่ไหม
“คิล”ครอสหันไปหาคิลช้าๆ ก่อนจะใช้เวทสายวารีเพื่อดึงผลึกขึ้นมาช้าๆ ก่อนที่ผลึกนั่นจะแบ่งออกเป็นสองส่วน
“คิดว่าไหวนะ”ครอสถามพลางมองหน้าคิลนิ่ง แต่เหมือนว่าความลังเลจะไม่อยู่ที่ใบหน้าของคิลเลยสักนิด
“แน่นอนสิ”สิ้นเสียง ครอสก็บังคับให้ของเหลวเหล่านั้นเข้าไปในปากของตนกับคิลทันที ความทรมานของพลังที่เข้าไปในร่างกายเล่นเอาทั้งคิลและครอสถึงกับล้มทั้งยืน ดวงตาของทั้งสองคนเบิกกว้างจนน่าตกใจ ทั้งแขนและขาแกร็งแน่นจนน่ากลัว
“เรียบร้อยแล้วสินะ”ดาร์คถามพลางมองร่างของครอสกับคิลที่เริ่มจะหยุดเกร็ง
“ครับ”ครอสตอบเสียงเรียบ ก่อนจะลุกขึ้นมายืนกับพื้น
ฉึก! เสียงดาบที่แทงเข้าที่มือขงอครอสซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมาทำเอาเหล่าทหารตะลึงเป็นการใหญ่ แต่เมื่อเห็นว่าบาดแผลของครอสที่ดาร์คถอนมีดออกมาแล้วกำลังสมานตัวเข้าหากันช้าๆเหมือนร่างกายของเหล่าแวมไพร์ก็พากันอึ้งเข้าไปใหญ่
“ต่อจากนี้ร่างกายของพวกนายจะมีพลังกึ่งปีศาจอยู่”ไลท์ว่า พลางยิ้มบางๆออกมา ทีนี้ก็คงไม่มีใครตายง่ายๆหรอกมั้ง
“นี่ละคือที่มาของเหล่าแวมไพร์ที่ทุกคนกลัว ผมที่อยู่กับนายท่านมาหลายปีอยากจะให้ทุกท่านเข้าใจไว้”ไลท์พูดจบก็หันหลังเดินไปที่ๆประตูขนาดใหญ่ตั้งอยู่ทันที แต่คำพูดของเขากลับทำให้เทหารหลายๆคนมองคิลอย่างรู้สึกผิดทันที หลายครั้งที่พวกเขานึกรังเกียจที่คิลเป็นแวมไพร์ แต่เมื่อรู้ถึงการกำเนิดแวมไพร์ก็เริ่มลดความกลัวที่มีต่อคิลบ้าง แต่เมื่อได้สัมผัสถึงขั้นตอนนั้นด้วยตัวเองก็เริ่มเข้าใจทันทีว่าคิลรู้สึกแบบไหน ร่างกายแบบนี้นะจะโดนหาว่าเป็นปีศาจก็ไม่แปลก แต่พวกเขาเองก็ยังคงเป็นมนุษย์อยู่ไม่ใช่หรือไง
“ดูท่าพวกเราจะต้องกลับไปแก้ไขเนื้อหาในหนังสือรายชื่อปีศาจแล้วละ”ชายคนหนึ่งพูดขึ้น ก่อนจะหัวเราะแฮะๆ
“นั่นสินะ”เสียงตอบรับของชายอีกคนทำให้ครอสอมยิ้มบางๆ ดีแล้วละที่เข้าใจ
“ทุกคน พร้อมหรือยัง”ไลท์ว่าพลางยิ้มบางๆ ในที่สุดประตูข้ามมิติก็พร้อมทำงานแล้ว
“หลังจากนี้พวกเราเหล่าปีศาจ 1000 ตนกับภูติ 6 ตน จะเดินทางไปกับพวกนายเพื่อชิงเอาพลังของเทพ ผลึกแห่ง โครนัสมาให้ได้ เมื่อได้ผลึกมาแล้ว เราจะนำพลังแห่งโลกมาปำกป้องทุกชีวิต”ไลท์พูดจบ ประตูก็เปิดออกทันที พร้อมๆกับร่างของคิลและครอสที่เดินออกหน้าไปอย่างช้าๆ เท้าที่ก้าวเข้าไปในประตูหนักอึ้งราวกับจะแบกทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ก็ว่าได้
“มาถึงแล้วสินะ เหล่าผู้มาจากโลกเก่า”เสียงของชายหนุ่มที่ดังขึ้นเล่นเอาคิลและครอสสะดุ้งวาบ เทพ มีเทพมารอพวกเขางั้นเหรอ ไม่จริงน่า
“มาสิ”ชายหนุ่มผู้มีเส้นผมสีดำสนิทตัดสั้นกับดวงตาสีฟ้าราวกับสีท้องฟ้าพูด ก่อนจะยื่นมือไปข้างหน้า
“จัดการเลยครอส”คิลพูดเสียงเรียบ ก่อนจะพุ่งวาบเข้าหาเทพคนนั้นอย่างไม่รอรี เล่นเทพคนนั้นสะดุ้งวาบ
“เดี๋ยวสิ”เทพคนนั้นว่าพลางมองครอสและคิลที่เคลื่อนตัวเข้าหาอย่างตกใจ แต่พอมองดีๆแล้ว เทพคนนี้กลับดูมีอายุน้อยเหลือเกิน อาจจะมากกว่าเรวินนิดหน่อยเองกระมัง แต่คงเอารูปกายภายนอกมาวัดไม่ได้หรอก เพราะเทพคือผู้มีอายุขัยมานานกว่าแสนปี
“รับไปซะ”คิลว่าพลางใช้ดาบผันใสร่างของเทพคนนั้นทันที แต่เพราะพลังที่ได้มาทำให้ดาบที่คิลฟันไปเร็วและแรงกว่าเดิมหลายสิบเท่า เล่นเอาแขนของเทพคนนั้นขาดไปในทันที่
“บอกว่าเดี๋ยวไง”เทพคนนั้นว่าพลางกระโดดถอยออกห่างคิลและครอส
“ขอโทษนะ แต่พวกเราออมมือให้ไม่ได้”คิลพูดจบก็ยื่นฝ่ามือไปข้างหน้าทันที พร้อมกับใช้ท่าที่เขามักใช้ประจำ พลังเวทที่เพิ่มพูนจากผลึกของฮาร์เดสรวมกับพลังเวทบริสุทธิ์ทำให้ Elly D shock เพิ่มความรุนแรงเข้าไปหลายเท่าตัว อย่าว่าแต่โล่ซันโนดิแอร์คเลย ให้โดนท่า Ellu D shock ตอนนี้เข้าไปคงปลิวหายราวเศษกระดาษ
ตูมมมมมม เสียงกึกก้องนั่นทำให้เหล่าทหารที่ตามมาทีหลังพาหันมองมาทางคิลเป็นตาเดียว พอเห็นว่ามีเทพอยู่ทุกคนก็ชักอาวุธออกมาทันที
“หยุดสักทีเซ่”เสียงของเทพคนนั้นทำให้คิลชะงักไปเล็กน้อย โดนเป่าจนร่างแปลกเละไปรอบแล้วยังไม่มีท่าทีจะสู้อีก
“ข้าคือ เนริม รับคำสั่งจากท่าน เนวิซ ให้มารับพวกเจ้า”เสียงของเนริมทำให้คิลขมวดคิ้วทันที รับตัว หมายความว่าไง
“ไม่คุ้นหน้าเลยแฮะ คงเป็นหนึ่งใน 3 เทพที่จุติใหม่สินะ”มาร์คัสที่เดินออกมาข้างหน้าถามพลางมองหน้าเนริมอย่างถี่ถ้วน
“รูปหน้าคล้าย เนวิซ จริงๆ คงเป็นบุตรชายของหมอนั่นสินะ”มาร์คัสพูดจบ ก็เดินเข้าไปหาเนริมทันที ก่อนจะมองตามร่างกายอีกครั้ง
“แปลก ทำไมหูเจ้าถึงเป็นแบบนี้ละ”มาร์คัสว่าพลางเปิดเส้นผมของเนริมออกจนเห็นใบหูที่ยาวและแหลมกว่าคนธรรมดานิดหน่อย แต่แค่นั้นก็พอแล้วที่จะทำให้คิลเชื่อมโยงกับปริศนาที่เขาไขออกเมื่อวานได้
“ไหนเล่ามาสิ”คิลว่าพลางเดินเข้าไปห้ามมาร์คัสไม่ให้ทำอะไรเนริมมากกว่านี้
“ข้าได้รับคำสั่งจากท่านผู้นำ เนวิซ ให้มารับพวกเจ้าไปยังปราสาทตะวันออก เพื่อขอความร่วมมือจากพวกเจ้า”เนริมพูด ก่อนจะมองคิลอย่างจริงจัง
“งั้นเหรอ ทำไมต้องขอความร่วมมือจากเราด้วยละ”คิลถามเสียงเรียบเพื่อปูทางไปยังคำตอบที่เขาต้องการภายในใจ
“เพราะท่านเนวิซเข้าใจถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์จากโลกเก่าอย่างพวกเจ้า จึงอยากจะให้พวกเจ้ามาร่วมมือด้วย เพื่อปกป้องโลกเก่าของพวกเรา”
“จากใคร”คิลถามเสียงเรียบพลางจ้องมองดวงตาสีฟ้านั่นกลับไป
“จาก เนซิส อีกหนึ่งท่านผู้นำของพวกเรา คนที่ต้องการจะทำลายโลกเก่ามากที่สุด”สิ้นเสียง เหล่าทหารก็ยิ่งตีหน้างงเข้าไปใหญ่ อย่าบอกนะว่าก่อนที่พวกเขาจะบุกมา เทพก็เปิดสงครามกันเองไปก่อนแล้ว
“ทำไมเราต้องเชื่อด้วยละ”ครอสถามพลางมองหน้าเนริมนิ่ง
“ฉันเชื่อ”คิลพูดเสียงเรียบ ก่อนจะเดินไปข้างๆเนริม
“ทะ ทำไม......”
___________________________________________
วะ ฮ่า ฮา จงใจให้ค้่างจริงจังเลยตอนนี้ (บ้าดิ คนอ่านเขาเดาได้หมดแล้วมั้ง - -)
ความคิดเห็น