คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : รายชื่อ
รายชื่อ
“ก่อนอื่น ต้องขอให้ทุกคนจำใบหน้าพวกนี้ไว้”เสียงของมาร์คัสทำให้เหล่าผู้ถือครองและเหล่าทหารมองมาที่เจ้าตัวอย่างไม่วางตา
“หลักจบการฝึกแล้ว พวกเธอจะได้รับพลังของฮาร์เดสอย่างที่รุ่นก่อนเคยทำ ด้วยพลังนั่น พวกเธอจะสามารถต่อกรกับเทพได้ในระดับหนึ่ง”สิ้นเสียงมาร์คัสก็เปิดภาพหน้าตารของคนจำนวน 12 คนออกมาให้เหล่าหทารดู
“พวกเขาคือ 12 คนที่เก่งกาจที่สุดในเหล่าเทพรองผู้นำของเหล่าเทพ 2 คน”มาร์คัสว่าก่อนจะชี้ไปที่หน้าตาของแต่ละคนช้าๆ
“คนนี้คือ เจโนม เป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกของเทพ”พูดจบภาพของชายหนุ่มผมสั้นสีเงินก็ถูกฉายออกมาเดี่ยวๆ
“หมอนี่มีพลังในการตัดสูงมาก แม้แต่อาวุธของพวกเธอในตอนนี้อาจจะถูกตัดขาดได้ง่ายๆถ้าไม่นะวัง”พูบจบ รูปก็เปลี่ยนเป็นรูปหญิงสาวหน้าตาสะสวยที่มีผมสีบลอนยาวดัดลอนเข้ากับใบหน้าสวยๆของเธอเป็นอย่างดี
“คนนี้คือ รอร์ล่า เป็นนักดนตรีเวทที่เก่งกาจที่สุด แต่คนี้เราก็มีคนจัดการแล้ว”สิ้นเสียงมาร์คัสก็แหล่มองมาทางโซลเล็กน้อย เล่นเอาโซลกลืนน้ำลายลงคอทันที เขาไม่เคยบอกมาร์คัสสักครั้งว่าเขาเล่นดนตรีเป็น แต่กลับมองออกหมดตั้งแต่แรก น่ากลัวชะมัด
“คนที่ 3 คือ เมว เป็นนักรบธรรมดาที่ไม่ต่างจากพวกเธอนั้น แต่ท่วงท่าธรรมดาของเกลับไม่ธรรมดาอย่างที่พวกเธอคิด ขอให้อย่าประมาทละ”พูดจบภาพของชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าเรียบนิ่งก็โผล่ขึ้นมาแทนที่ภาพของรอร์ล่า
“คนที่ 4 เวนเดียร์ ผู้หญิงคนนี้เป็นนักเวทที่มีพลังป้องกันสูงที่สุดของนักเวททั้งหมด เธอมักจะอยู่ข้างกายสองเทพสูงสุดเสมอเพราะเธอคือโล่ที่แข็งแกร่งที่สุดยังไงละ”พูดจบภาพก็เปลี่ยนเป็นหญิงสาวที่มีเส้นผมตรงสีเงินยาวสลวยกับดวงตาสีฟ้าที่ดูน่าหลงใหล ภาพของเธอทำให้คนทั้งกองทัพมองตาค้างเลยทีเดียว
“คนที่ 5 คารอฟ เป็นชายที่สู้กลางอากาศได้เก่งที่สุด”มาร์คัสพูดจบชายผิวคล้ำผมสั้นก็โผล่ออกมา
“คนที่ 6 คาเรฟ เป็นน้องชายฝาแฝดของคารอฟ หมอนี่เก่งเรื่องการโจมตีทีเผลอที่สุด ระวังไว้ใหดีด้วยละ”หลังจากภาพของคารอฟภาพของคาเรฟที่โผล่ออกมาก็แทบไม่ต่างกันนัก ไม่สิ ไม่ต่างกันเลยมากกว่า
“คนที่ 7 เธอคือนักเวทสาวที่มีเวทโจมตีมากที่สุดชื่อว่า ไรย์ล่า”สิ้นเสียงพร้อมภาพที่ปรากฏออกมาก็ทำเอาไลท์ต้องหันหน้าหนีทันที เธอคือไรย์ล่า หญิงสาวที่ไลท์เฝ้าคิดถึงอยู่ตลอดนั่นเอง
“คนที่ 8 โซกุส เป็นผู้ใช้สัตว์เวทมนตร์ หมอนี่มีสัตว์ในสังกัตมากมายจนนับไม่ถ้วนรูปแบบการโจมตีหลากหลายจนน่ากลัว”สิ้นเสียงภาพของชายร่างบึกบึนก็โผล่ออกมา ตามแขนขาคอและส่วนต่างๆที่โผล่พ้นเอฟ้าออกมาล้วนแต่มีตราสัญลักษณ์ของสัตว์อสูรทั้งสิ้น ราวกับเป็นสวนสัตว์เคลื่อนที่อย่างไรอย่างนั้น
“คนที่ 9 เรกิอัซ เป็นเทพองค์ใหม่ที่พึ่งรับพลังหลังจากจบศึกคราวที่แล้ว แต่ทุกคนคงจะคุ้นเคยดี”สิ้นเสียงภาพของชายหนุ่มหน้าหวานที่มีเส้นผมสีแดงเพลิงราวกับไฟที่โผล่ออกมาก็ทำเอาเหล่าทหารอึ้งกันเป็นแถว
“ดูเหมือนหมอนี่จะเป็นตัวทดลองรุ่นแรกๆของเรกิออสโปรเจค แต่เพราะถูกเทพพาตัวไปก่อนทำให้ความทรงจำของเรกิออสหายไป”มาร์คัสพูดจบก็ปิดแสงจากอัญมณีไปทันที เล่นเอาเหล่าทหารงงกันเป็นแถว
“นอกจากนี้อีก 3 คนล้วนเป็นเทพใหม่ที่พวกเราไม่มีข้อมูล”มาร์คัสพูดจบก็เปลี่ยนอัญมณีออกมาทันที เมื่อเอาอัญมณีอีกอันออกมาฉายภาพของชายหนุ่มสองคนที่มีใบหน้าเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยนก็โผล่ออกมาทันที
“คนซ้ายคือ เนวิซ คนขวาคือ เนซิส เทพสูงสุดสองคนที่คอยนำทัพของเหล่าเทพทั้งหมด”สิ้นเสียงมาร์คัส คิลก็ได้แม่มองภาพชายตรงหน้าตาค้าง นี่มัเรื่องอะไรกัน?
“พวกเธอในตอนนี้นะอาจจะยังสู้ไม่ได้ แต่เมื่อได้รับพลังจากฮาร์เดสพรุ่งนี้แล้วอาจจะพอสูสี”
“เป็นอะไรเหอรคิล”ครอสหันมาถามพลางมองหน้าคิลอย่างแปลกใจ
“เปล่าหรอก”คิลรีบปัดทันทีก่อนที่จะเดินผละออกมาจากทุกคน
“คิล...”
“ขอไปพักก่อนนะ”คิลพูบจบก็หายออกไปจากสายตาคนอื่นทันที ทำไมคิลถึงเป็นแบบนั้นได้ละ เกิดอะไรขึ้นกันแน่
.
.
.
“โอเคแล้วละ”เสียงของมาร์คัสทำให้จินที่กำลังค่อยอากาศอยู่หยุดลงทันที
“ไม่ใช่แค่โอเคหรอก แต่ยอดเยี่ยมเลยต่างหาก”พูบจบมาร์ตัสก็จับไปที่บ่าของจิน
“ร่างกายของนายเหมอะกับวิชาหมัดจริงๆ พลังรุนแรงสามารถปล่อยออกมาได้อย่างมหาศาลจากกล้ามเนื้อนี่ ต่อให้ชนจังๆกับหอกก็อาจจะป่นหอกจนแหลก”
“ครับ”จินตอบเสียงเรียบ ก่อนจะเริ่มตั่งท่าหมัดต่อ
“ดีแล้วละ ทีนี้พวกเธอก็จะแข็งแกร่งขึ้นอีกขั้น”สิ้นเสียงมาร์คัสเสียงดนตรีก็ดังขึ้นจากไม่ไกลทันที เสียงที่ดังออกมาทำเอาเหล่าทหารถึงกับหยุดค้าทันที เสียงเพลงนี่ราวกับจะสั่นไหวไปทั้ง 3 โลกก็ไม่ปาน
“ทีนี้นายก็สืบทอดวิชาของฉันหมดแล้วละ”ไลท์ที่ยืนอยู่ข้างๆโซลพูด ก่อนจะกอดอกแน่น ในเรื่องวิชาดนตรีโซลมีพรสวรรค์เหนือกว่าใครจริงๆ แค่เขาแนะไม่มากก็สามารถฝึกฝนได้อย่างดี ราวกับคิลที่เรียนวิชาดาบอย่างรวดเร็วเลย ถ้าเป็นเรื่องดรตรีละก็ โซลไม่เป็นรองใครแน่นอน
“ขอโทษนะไลท์”เสียงของครอสทำให้ไลท์ชะงักขาลง
“ผมมีเรื่องอยากถาม”ครอสว่าพลางเดินเข้าไปหาไลท์ช้าๆ
“มีอะไรเหรอ”
“ผมอยากรู้ว่าภูติสามารถสู้รบได้หรือไม่”สิ้นคำถามำลท์ก็ถอนหายใจทันที
“ได้ แต่ ถ้าเราจะสู้เราก็ต้องคืนสู่ร่างจริงก่อน”ไลท์ว่าพลางมองครอสนิ่ง
“นั่นหมายความว่าถ้าเราตายไปก็จะไม่มีผู้ฝึกสอนรุ่นต่อไปอีกแล้ว”
“แต่บางทีมันก็น่าลองนะ”ดาร์คที่ยืนอยู่ไม่ไกลพูดเสียงเบาพลางเงยหน้าขึ้นมามองครอส
“นั่นสิ รอบนี้นะ เป็นรอบที่เรามีความหวังมากที่สุด”เฟรเนกริฟเสริมขึ้นทันที
“งั้น ถ้าหากว่า ผมจะขอให้พวกภูติร่วมรบด้วยละครับ”ครอสถามพลางมองเหล่าภูติด้วยแววตาจริงจัง
“เสี่ยงเกินไป”ไลท์พูดตอบทันทีที่ได้ยินคำถาม
“แต่มันก็ไม่ได้หมดหวังเสียทีเดียว”ไลท์พูดเสียงระรื่น ก่อนจะเริ่มร่ายเวทบางอย่างกับตัวเอง
“นั่นสินะ ถ้าไม่ลองดูก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสแบบนี้เมื่อไหร่”ดาร์คพูดจบก็เริ่มร่ายเวทตามลฺทันที แต่เมื่อหันไปมองที่ไลท์ร่างของไลท์ก็เริ่มเรื่องแสงสีเงินออกมาแล้ว ทันทีที่เวทมนตร์บทนั้นจบร่างของไลท์ก็กลับมาเป็นปกติทันที
“หลังจากนี้เราจะไม่สารถกลับเข้าไปในอาวุธได้อีกแล้ว”ไลท์ว่าพลางกำหมัดแน่น พร้อมเร่งพลังเวทขึ้นมาจนทหารรอบๆขนลุก
“เจ้าแห่งสัตว์อสูรคือพลังครึ่งหนึ่งขอเรา แต่ร่างจริงของเราก็มีพลังมากกว่าร่างภูตินับสิบเท่าเหมือนกัน”ดาร์คพูดต่อทันทีเมื่อสามารถปลดเวทออกได้
“ขอบคุณครับที่เป็นกำลังให้”ครอสพูดพลางก้มหัวให้เล็กน้อย
“วอร์ตี้ น้องไม่ต้องครายร่างภูตินะ”ดาร์คสั่งเสียงเรียบทันทีที่เห็นวอร์ตี้เริ่มจะคลายร่างภูติบ้าง
“ทะ ทำไมละคะ”วอร์ตี้ถามด้วยใบหน้างุนงงอย่างเห็นได้ชัด
“แค่เผื่อไว้นะ”ดารืคว่ะลางเดินไปลูบหัววอร์ตี้
“ถ้ารอบนี้พราด อย่างน้อยก็น่าจะมีน้องไว้สอนรุ่นค่อไป”ดาร์คพูดจบก็นั่งยองๆต่อหน้าวอร์ตี้ทันที พร้อมยิ้มบางๆให้น้องสาวสุดที่รัก อันที่จริงเขาไม่ได้ห่วงเรื่องสอนรุ่นต่อไปหรอก แต่อยากให้วอร์ตี้สามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกหน่อยมากกว่า
“น้องมิ่ดว่ารอบนี้จะพราดหรอกนะคะ”วอร์จี้ว่าพลางปลดร่างภูติออกอย่างรวดเร็ว
“ต่อให้พราด น้องเอกก็ขอพราดกับพวกพี่ดีกว่า”พูดจบ ร่างของวอร์ตี้ก็กลับมาเป็นร่างมนุษย์ทันที เล่นเอาดาร์คได้แต่ถอนหายใจ
“รอบนี้ เราจะพราดไม่ได้”
.
.
.
“โถ่เอ้ย ทำไมแกถึงมานั่งคนเดียวแบบนี้เล่า”เสียงของนานะที่ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคิลเอาแต่นั่งอยู่บนหลังคาเงียบๆคนเดียวมาได้สักพักแล้ว
“เธอไม่ต้องตามมาก็ได้นี่”คิลว่าพลางถอนหายใจ
“คิดว่าฉันอยากอยู่นักหรือไง เพราะไอ่โว่นี่ต่างหาก”นานะเถียงควับทันที ก่อนจะจับโว่เวทมนตร์ตามร่างกายขึ้นมา ก่อนที่มันจะล่องหนหายไปช้าๆ
“นั่นสินะ”คิลว่าพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอาสร้อยคอออกมาเปิดดูรูปภาพด้านใน รอยยิ้มของเนเน่ ใบหน้าของเนเน่ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นขึ้นก็จริง แต่คำถามมากมายที่เขาไม่เคยเข้าใจ เมื่อรู้ความขริงข่อนั้นแล้วเขากลับรุ้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูก พอรู้ความจริงเรื่องนั้นแล้ว เขาก็ตอบคำถามที่เขาค้างคามาได้หลายอย่าง ทั้งเรื่องของเนเน่ และ เรื่องของเขาเอง
ความคิดเห็น