คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : อลิซ
อลิซ
17 ปีก่อน เจ้าแห่งปีศาจ มาณ์คาริส วางแผนจะทำลายล้างโลก แต่ด้วยความพยายามของวีรบุรุษทั้ง 6 จึงหยุดยั้งแผนชั่วร้ายของมาร์คาริสไว้ได้ นั่นคือเรื่องราวที่เหล่าเด็กๆต่างรู้ดี แถมมันยังเป็นเรื่องจริงที่เหล่าคนทั่วโลกได้เห็นกับตา เหล่าวีรบุรุษเองก็ยังมีชีวิตกันอยู่ด้วย มันจึงไม่ใช่ตำนาน แต่เป็นเรื่องราวเล่าขานที่เป็นจริง
“แล้วเขียนจดหมายมาหาแม่บ้างนะ”เสียงหวานของเนเน่พร้อมมือบางที่ลูบหัวเด็กสาวอายุราวๆ 15 ปีทำให้คิลที่มองอยู่ด้านหลังตีสีหน้าเรียบยิ่งกว่าเดิม
“โถ่ แม่ก็ ยังไม่รู้เลยว่าหนูจะสอบผ่านหรือเปล่า”เด็กสาวว่า พลางก้มหน้านิ่ง พรุ่งนี้จะเป็นวันสอบของโรงเรียนครอนาเรีย โรงเรียนเวทมนตร์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยวิธีคัดเลือกแบบพิเศษทางโรงเรียนจะส่งจดหมายเชิญไปให้บ้านที่มีเด็กอายุครบ 15 ปีมาเข้ารับการสอบ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเด็กทุกคนจะได้รับสิทธิ์นี้ทั้งหมด เพราะจดหมายจะส่งไปให้เด็กที่มีความสามารถเท่านั้น ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมถึงส่งมาที่บ้านของเธอก็เถอะ แต่เธอก็ดีใจมากจริงๆที่ได้รับจดหมายเชิญไปเข้าร่วมการสอบ แต่ว่าเด็กบ้านนอกอย่างเธอจะสู้คนอื่นๆได้เหรอ?
“ฝากด้วยนะจะเรวืน”เนเน่ยิ้มหวานก่อนจะหันไปมองเรวินที่ยืนรอเด็กสาวอยู่ที่ทางลงเขา
“แค่ส่งที่สถานีเองนี่ครับ”เรวินว่าพลางหัวเราะแฮะๆ
“แล้วพี่คิลไม่ไปส่งเหรอครับ”พูดจบ เรวินก็หันมามองพี่คิลของตนอย่างรู้ทัน เนทำท่านิ่งๆแบบนั้นก็เถอะ แต่จริงๆแล้วคงอยากไปส่งใจแทบขาดเลยมั้งลูกสาวสุดที่รักทั้งคนนี่นา
“โชคดีนะลูกแม่”เนเน่พูดเยงเบา ก่อนจะก้มลงกอดลูกสาวเอาไว้แน่น
“ขอพรแห่งจันทราอันสูงส่งจงอยู่เคียงใจเจ้า”พูดจบ เนเน่ก็ผละออกจากลูกสาวช้าๆ พร้อมโบกมือลา
“ไปนะคะ คุณพ่อ คุณแม่”เด็กสาวโบกมือตอบก่อนจะเดินตามน้าชายลงเขาไปตามทางช้าๆ ใจหายเหมือนกันที่ต้องจากบ้านมาทั้งๆที่ตลอดชวิตเธอแทบจะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านฟอร์ร่านี่ตลอดเวลาแท้ๆ นี่ถือเป็นครั้งแรกเลยที่เธอได้ออกมาจากหมู่บ้าน
“เป็นห่วงสินะ”เสียงของเนเน่ทำให้คิลที่ยืนอยู่ด้านหลังสะดุ้งเล็กน้อย
“จะตามไปก็ได้นะคะ”เนเน่ว่า พลางกอดแขนคิลหลวมๆ
“แล้วเนเน่......”
“แหม หนุเองก็เป็นห่วงอลิซเขาเหมือนกันนี่นา แต่หนูตามอลิซไปไม่ได้เหมือนพี่คิลนี่นา”พูดจบ เนเน่ก็หัวเราะออกมา ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านอย่างเชื่องช้า
“แต่ต้องกลับมาให้ทันข้าวเย็นนะคะ”สิ้นเสียงประตูก็ปิดลงทันที เล่นเอาคิลที่อยู่ข้างนอกถอนหายใจเฮือกใหญ่ นับวันเนเน่ยิ่งรู้ทันแล้วสิ แต่ก็จริงอย่างว่าละ เขาเป็นห่วงเธอจริงๆ
.
.
“ไม่ลืมอะไรนะอลิซ”เสียงของน้าเรวินที่มาส่งถึงชานชรลาทำให้ฉันได้แต่ยิ้มอย่างเดียว มันบอกไม่ถูกนี่นา ฉันนะเกิดและโตที่นี่ ไม่เคยไปไหนไกลมาก่อนเลย ถึงจะแปลกใจก็เถอะที่พ่อยอมให้ไปเรียนที่ไกลๆแบบนั้นด้วย แต่ที่ไม่เข้าใจที่สุดก็คงเป็นเรื่องที่มีจดหมายมาที่บ้านฉันนี่ละ ทั้งๆที่ฉันเป็นแค่ลูกครึ่งเอลฟ์ธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษแท้ๆ แม่ก็เป็นเอลฟ์ที่อยู่ที่ป่ามานาน พ่อก็เป็นแค่ชาวบ้านที่หาเลี้ยงครอบครัวด้วยการตีมีดเงินขาย ทั้งพ่อทั้งแม่เป็นแค่คนธรรมดาที่ใช้เวทมนตร์ได้นิดหน่อยเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องการเรียนก็เรียนจากลุงดาร์คที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเท่านั้น ถึงบางทีจะมีพวกป้าเฟรเนกริฟหรือน้าวอร์ตี้มาช่วยสอนก็เถอะ ส่วนเรื่องการต่อสู้ก็เรียนแค่จากน้าเรวินกับน้าเนสเท่านั้น ถึงพวกเขาจะเก่งที่สุดในหมู่บ้าน แต่คนในเมืองคงเก่งกว่าเยอะ อะ แต่ว่า ครอบครัวฉันก็มีความสุขดีนะ แม่ก็ใจดี พ่อก็ใจดี ฉันนะรักพวกท่านที่สุดเลยละ แม่มักจะทำตัวเหมือนเด็กตลอดเลย แต่เรื่องงานบ้านแม่ก็ทำเองหมด ถึงอายุจะปาไป 30 กว่าๆแล้ว แต่แม่ก็ยังดูเหมือนพี่สาวฉันมากกว่าอีก เพราะแม่เป็นเอลฟ์ละมั้ง ส่วนพ่อ พ่อมักจะพูดคุยกับฉันตลอดเวลา ทั้งเรื่องเล็กเรื่องน้อยที่ฉันถาม หรือเรื่องต่างๆที่ฉันไม่เข้าใจ ถึงพ่อฉันจะไม่ร่ำรวย หรือมีความสามารถล้นฟ้า แต่พ่อก็เป็นพ่อที่ดีที่สุดเท่าที่ลูกคนหนึ่งจะมีได้ แถมพ่อที่อายุมากกว่าแม่ซะอีก แถมเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่ดันหน้าหนุ่มพอๆกับน้าเรวินซะได้ แปลกดีใช่ไหมละ เพราะงั้นฉันที่เป็นลูกของทั้งสองคน เลยไม่ต้องห่วงเรื่องหน้าแก่ก่อนวัยแน่นอน
“ขอโทษคะ ขอนั่งด้วยนะคะ”ตอนนี้ฉันกำลังเดินทางด้วยรถไฟพลังเวทที่พึ่งสร้างเสร็จเมื่อราวๆ 5 ๆปีก่อน รถไฟนี่วีรบุรุษคิดขึ้นมาเพื่อให้พวกเราเดินทางกันได้สะดวกขึ้น เมื่อก่อนการเดินทางต้องใช้เวลาหลายวันแท้ๆ แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะอยุ่เมืองไหนก็สามารถเดินทางไปยังเมืองซันนีล่าด้วยเวลาเพียง 1 วันเท่านั้น และจะไปเมืองอื่นต่อไปด้วยเวลา 1 วันเช่นกัน นับว่าสะดวกกว่ารถม้าเยอะ
“เชิญจะ”ผู้หญิงที่นั่งอยู่ก่อนแล้วพูด พลางหันมามองฉันก่อนจะยิ้มให้ เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากเลยละ ผมสีเขียวอ่อนดัดลอนอย่างกับพวกเจ้าหญิง ผิวขาวผ่องอย่างกับหิมะ ส่วนดวงตาเป็นสีเขียวเข้มอย่างกับมรกตเลยละ
“จหมายนั่น”ฉันพึมพำเสียงเบาเมื่อเห็นจดหมายในมือของผู้หญิงคนนั้น มันจดหมายเชิญไปสอบที่โรงเรียนครอนาเรียเหมือนที่ส่งมาที่บ้านฉันเลยนี่นา
“หรือว่าเธอเองก็จะไปสอบด้วย”หญิงสาวคนนั้นหันมาถามพลางมองฉันอย่างดีใจ
“จะ ฉันเองก็เหมือนกัน”
“ดีจังเลย”หญิงสาวคนนั้นพูดจบก็ดึงมือฉันเข้าไปกุมไว้ทันที แถมยั้งยิ้มจนเห็นฟันอีกด้วย
“เธอชื่ออะไรเหรอ ฉันชื่อเคธ มาจากวินเธอเรีย”เคธว่า ก่อนจะดึงฉันให้ไปนั่งข้างๆ
“อลิซ จะ ว่าแต่ ทำไมเคธถึงมาทางนี้ละ ถ้ามาจากวินเธอเรียก็น่าจะเข้าซันนีล่าก่อนเลยนี่นา”
“พอดีพ่อฉันเขามาทำธุระที่นี่นะ”เคธตอบก่อนจะหัวเราะเบาๆ
“แล้วพ่อเคธไปไหนแล้วละ”ฉันถามพลามองไปรอบๆ ตอนนี้รถไฟก็ออกแล้วนะ หรือว่าไปห้องน้ำ
“พ่อเขาจะอยู่ที่หมู่บ้านนี้สักพักนะ เลยให้ฉันไปคนเดียวก่อน”พูบจบเคธก็ยิ้มบางๆ ก่อนจะกุมมือฉันเอาไว้แน่น
“บ้านที่ฉันต้องไปอยู่เป็นบ้านของเพื่อนพ่อนะสิ แถมฉันพึ่งจะเคยไปครั้งแรกด้วย อลิซช่วยไปอยู่เป็นเพื่อนหน่อยได้ไหม” เอ๋ ทำไมต้องให้ฉันไปอยู่เป็นเพื่อนด้วยละ
“บะ แบบนั้นไม่รบกวนเหรอ”
“ไม่หรอก บ้านของเพื่อนพ่อฉันใหญ่จะตาย ห้องว่างเยอะแยะ ให้อลิซไปอยุ่ด้วยอีกคนคงไม่เป็นไรหรอก”
“ตะ แต่ว่า”
“น่านะ อลิซเองก็ยังไม่ได้จองที่พักไม่ใช่เหรอ แถมไม่ต้องจ่ายค่าเช่ารายเดือนด้วย ดีออกนี่นา” จริงด้วยสิ รายได้ของพ่อก็ไม่ใช่ว่าจะเยอะ แต่ให้ไปอยุ่กับคนที่พึ่งเคยเขอครั้งแรกแบบนี้จะดีเหรอ แต่เอาน่า ผู้หญิงด้วยกันคงไม่เป็นไรหรอก
.
.
ภาพตึกตรงหน้าทำให้ฉันได้แต่อึ้ง บ้านหลังนี้ ไม่ใช่บ้านขนาดใหญ่สักหน่อย นี่มันใหญ่มากเลยนะ แถมด้านหน้ายังเป็นโรงฝึกที่มีนักเรียนเดิมเข้าออกหลายร้อยหลายพันชีวิตด้วย ฉันพึ่งรู้จากเคธเมื่อกี้นี้ละว่าที่นี่เป็นโรงฝึกดาบของเพื่อนพ่อ แต่นี่มันจะใหญ่เกินไปหรือเปล่า
“โรงฝึกเฟรเนซิส”ฉันอ่านป้ายพลางมองอย่างแปลกใจ ทำไมชื่อมันคุ้นหูจังเลยละ เฟรเนซิส ๆ ๆ ....... อ๊ะ อย่าบอกนะว่า
“เคธ นั่นมันนามสกุลของวีรบุรุษอัคคีไม่ใช่เหรอ”ฉันถามพลางมองเคธตาโต ตายแล้ว อย่าบอกนะว่าเพื่อนของพ่อคืออัศวินในตำนานคนนั้น
“เอ๋ ฉันยังไม่ได้บอกเหรอ”เคธว่าพลางหัวเราะแฮะๆ ทำไงดีละ แล้วเขาจะยอมให้เด็กบ้านนอกอย่างเธอมาพักด้วยงั้นเหรอ
“หนูเคธ มาแล้วเหรอจะ”เสียงหวานๆของผู้หญิงคนหนึ่งทำให้ฉันหันไปมองช้าๆ
“สวัสดีคะน้าคิม”เคธทักทายช้าๆ ก่อนจะเดินลากฉันเข้าไปหาหญิงสาวผู้มีเส้นผมสีชมพูสวยตรงหน้า
“มาแล้วเหรอ”เสียงหวานไม่แพ้กันของผู้หญิงอีกคนที่เดินเข้ามาทำให้ฉันต้องหยุดหายใจ คนอะไรเนี่ย สวยจังเลย ผมสีเทากับดวงตาสีเท่านั่นอย่างกับมีมนตร์สะกดเลยละ มีผู้หญิงสวยขนาดนี้บนโลกด้วยเหรอ
“น้าครอสสวัสดีคะ”เคธพูดพลางยิ้มห็หญิงสาวคนนั้น เอ๊ะ เมื่อกี้เคธพูดว่าน้าครอสเหรอ อย่าบอกนะว่า
“คุณคือ ครอเนเซย์เฟรเนซิสคนนั้นเหรอคะ”คำถามที่หลุดออกไปทำให้คุณครอสหันมามองฉันด้วยแววตาสงสัย
“ เธอเป็นใครเหรอ”ตายแล้ว อยู่ดีๆไปเรียกเขาแบบนี้ ต้องโดนว่าแน่เลยT^T
“จริงสิ น้าครอสคะ พอดีเพื่อนหนูที่เจอบนรถไฟเขายังไม่มีที่พัก หนูเลยอยากจะขอให้เขามาอยู่ที่บ้านของน้าครอสด้วย”เคธว่า พลางยิ้มบางๆ
“ได้อยู่หรอก แต่เธอชื่ออะไรนะ”คุณครอสมองมาทางฉันพร้อมถามคำถามออกมาช้าๆ ทำไงดีละ ประหม่าไปหมดล้ว ตรงหน้าฉันคือผู้กล้าเชียวนะ เป็นวีรบุรุษแห่งอัคคีผู้ซึ่งเป็นคนที่ปราบปีศาจลงได้เชียวนะ
“อลิซ คะ อลิซ ดาร์เลไลท์”สิ้นเสียง ทุกคนกลับทำหน้าแปลกๆกันหมดเลย นี่ฉันพูดอะไรผิดไปเหรอ
“ดาร์เลไลท์สินะ ได้สิ ยินดีต้อนรับเลย”คุณครอสว่าพลางหัวเราะเบาๆ เอ๋ เขาบอกยินดีต้อนรับงั้นเหรอ โกหกน่า เด็กบ้านนอกอย่างฉันเนี่ยนะ!
.
.
.
“โตขึ้นเยอะจนจำไม่ได้เลยนะ”ครอสพูดพลางเดินบนกระเบื้องหลังคาที่มีชายหนุ่มอีกคนนั่งอยู่
“เด็กก็แบบนี้หละ อยู่ดีๆก็โตจนเราแทบไม่รู้ตัวเลย”คิลที่นั่งอยู่บนหลังคาถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่นึกเหมือนกันว่าอลิซจะมาเจอกับเคธบนรถไฟ แถมยังชวนมาอยู่ที่บ้านของครอสเลย แต่ก็ดีเหมือนกัน เพราะบ้านของครอสเองก็ทำให้เขาวางใจได้หลายๆเรื่อง แถมเขาเองยังไม่ต้องหาข้ออ้างว่า ทำไมคนธรรมดาอย่างเขาถึงได้พาลุกสาวมาฝากที่บ้านของวีรบุรุษได้อีกด้วย นับว่าคราวนี้คิลโชคดีจริงๆ
“โตแล้วเหมือนเนเน่เลยนะ ถ้าหูยาวอีกหน่อยคงไม่ต้องให้บอกชื่อก็จำได้”ครอสว่าพลางหัวเราะเสียงเบา
“ยังไงก็ต้องฝากนายด้วยนะ ครอส”คิลว่าพลางมองขึ้นไปบนดวงจันทร์ช้าๆ
“ได้อยู่แล้วละ ลุกสาวนายทั้งคน”
ความคิดเห็น