ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MoonCrosS III ภาค สงครามแห่งผลึก

    ลำดับตอนที่ #1 : ผู้รอต้อนรับ

    • อัปเดตล่าสุด 13 ธ.ค. 54


    ตอนที่ 1

    ผู้รอต้อนรับ

                    ร่างทั้งสองร่างที่ทะลุผ่านช่องมิติเข้ามาทำเอาเหล่าทหารถึงกับแตกตื่นเป็นการใหญ่ ได้ข่าวว่ามีเทพบุกเข้ามา 2 คน ไม่นึกว่าจะทำให้ครอสและคิลหมดท่าขนาดนี้

                    เป็นไงบ้างครับไลท์ถามพลางมองเคียวของครอสอย่างลำบากใจ เมื่อครู่เฟรเนกริฟหลุดจากสถานะภูติ ทำให้ไลท์รู้ได้อย่างชัดเจนว่าเคียวของครอสโดนทำลายอย่างแน่นอน

                    พวกมันแข็งแกร่งขึ้นจริงๆไลท์ว่าพลางเดินมาหยิบเคียวของครอสขึ้นมาดู ส่วนเคียวที่เป็นเหล้กโดนทำลายจนหมดไม่มีเหลือ มีเพียงด้ามเคียวที่แทบจะขาดเป็นสองท่อนเท่านั้นที่รอดกลับมา

                    คราวก่อนพวกลูกกระจ้องยังทำลายอาวุธภูติไม่ได้เลยนี่นา พวกมันคงมีพลังมากขึ้นแน่นอนสินะดาร์คเสริมทันที

                    ไม่หรอก เอสที่มากับเรย์ล่าจัดอยู่ระดับพวกมีฝีมือ ถ้าคิลกับครอสสู้กับพวกมันแบบ 1 ต่อ 1 ได้ คราวนี้อาจจะมีหวังไลท์พูดพลางยิ้มบางๆ ยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะถึงเวลาที่กำหนด

                    ไม่ พวกเรารุมแบบ 2 ต่อ 1 เทพผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เข้ามาช่วยครอสว่าพลางพยายามหายใจให้เข้าที่

                    แค่นี้ก็ดีแล้วไลท์ว่าพลางลุกขึ้นยืน การปะทะของ 2 ผู้ถือครองที่เก่งที่สุดกับเทพชั้นกลาง 1 คน ถ้าฝีมือมากพอที่จะหนีรอดมาได้ก็แสดงว่ายังพอจะต่อกรได้บ้าง การต่อสู้ครั้งแรกๆผู้ถือครองแทบจะโดนเป่าหายไปกับกองทหารเลยด้วยซ้ำ

                    หลังจากนี้ เราจะเข้าสู่การฝึกที่แท้จริงแล้วละไลท์ว่าพลางลุกขึ้นยืน

                    ที่นี่คือดินแดนที่ถูกกักขัง พลังตามธรรมชาติน้อยมาก แถมแรงกดดันต่างๆยังสูงด้วย บางคนอาจจะรู้สึกไม่มีแรงไปบ้าง แต่ไม่นานคงชินดาร์คว่าพลางมองไปรอบๆ ที่นี่ถือเป็นอีกมิติหนึ่งก็จริง แต่ก็เป็นกรงขังที่สร้างด้วยฝีมือของเทพ แทบจะไม่มีทางที่เหล่าปีศาจจะออกไปได้เลยถ้าเทพไม่เปิดมิติ

                    มากันครบแล้วสินะเสียงห้าวๆของชายหนุ่มคนหนึ่งทำให้ดาร์คหันไปมองช้าๆด้วยท่าทีไม่สบอารม

                    ครบแล่วละ มาร์คัสดาร์คตอบเสียงเรียบ ก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีดำสนิทมัดไว้ด้านหลัง ผิวคล้ำเล็กน้อยกับเครื่องแต่งกายที่ดูหรูหราเกินกว่าจะเห็นภาพเป็นปีศาจ

                    นั่นนะเหรอพวกปีศาจที่เขาว่ากันจินพูดพลางหันไปมองชายคนนั้น

                    สวัสดีทุกๆท่าน ข้าชื่อ มาร์คัส จะมารับหน้าที่ฝึกฝนทุกท่านต่อจากพวกภูติมาร์คัสว่า พลางโปรยตัวลงมาจากต้นไม้ช้าๆ

                    รอบนี้พลังสูงจริงๆ เยี่ยมมากไลท์มาร์คัสพูดพลางหันมายิ้มบางๆ ทำให้ไลท์ต้องก้มหัวลงช้าๆ

                    เสียดายที่จำนวนน้อยไปหน่อย แต่ผมมั่นใจว่าคราวนี้จะมีโอกาสมากกว่าคราวก่อนๆครับ

                    ไหนดูสิมาร์คัสว่าพลางเดินมาไล่ดูทหารทีละคน เขาเพียงส่งเสียงอืมๆแล้วเดินผ่านไปทีละคนๆอย่างกับเดินเล่นเฉยๆ

                    ที่ดูเข้าท่าก็มีเจ้าหนุ่มผมแดงกับเด็ก 3 คนนั้น แล้วก็ ผู้หญิงที่ใส่ชุดสีดำตรงนั้นมารร์คิสชี้เรียงจากจิน ไปทางเรวิน เนส และ คีย์ ก่อนจะชี้ข้ามไปยังนานะที่อยู่ด้านหลัง

                    เจ้าหนุ่มนี่มาร์คัสพึมพำเสียงเบา ก่อนจะเดินมาจับตามแขนของจินไปมา

                    ทำไมถึงใช้หอกละคำพูดของมาร์คัวทำให้จินขมวดคิ้วงงๆ

                    ท่านมาร์คัสสายตาเฉียบแหลมจริงๆสโตรพูด ก่อนจะเดินเข้ามาหาจิน

                    ลักษณะกล้ามเนื้อแบบนี้ทำไมไม่สอนวิชาหมัดให้ กล้ามเนื้อแบบนี้มันจะไปฝึกวิชาหอกได้เรื่องได้ไงมาร์คัสว่าพลางหันไปตำหนิสโตร

                    ขอโทษครับ แต่เราพึ่งเจอเขา เลยยังฟันไม่ได้ว่าเขาควรฝึกวิชาไหนสโตรพูดเสียงเรียบ ก่อนจะมองมาร์คัสอย่างนับถือ เขาคิดแทบตายยังหาวิชาที่จินจะฝึกได้อย่างเหมอะสมไม่ได้ แต่มาร์คัสกลับมองไม่นานก็ดูออก สมแล้วที่เป็นถึงอาจารย์ผู้ช่วยของอิคารอส

                    ส่วนสามคนนี้มาร์คัสว่าพลางเดินมาดูเรวิน เนส และ คีย์ทีละคน

                    คนผมน้ำตาลใช้ดาบดีแล้วละ แต่เด็กผมแดงน่าจะใช้มีดดีกว่า แต่คนผมเทานี่น่าจะใช้วิชาแบบดาร์คจะเหมาะที่สุดมาร์คัสว่าพลางมองไปทางนานะต่อ

                    เด็กคนนี้ท่าทางจะแค้นอะไรมาละสิ สายตาคมจริงๆมาร์คัสพึมพำเบาๆ ก่อนจะจับตัวนานะหมุนๆไปมา

                    อืม อาวุธประเภทแส้หรือโซ่น่าจะเหมาะกว่านะมาร์คัสพูด ก่อนจะเดินมาทางครอสและคิลรวมถึงเหล่าผู้ถือครองทั้งหมด

                    เด็กคนนี้มาร์คัสพูดเสียงเบาก่อนจะมองหน้าครอสกับคิลอย่างแปลกใจ

                    เหมือนเรกิออสกับโฟนิมไม่มีผิดเลยนี่มาร์คัสว่าพลางมองครอสและคิลไปมา เหมือน เหมือนมากๆ โดยเฉพาะคนที่เหมือนเรกิออส ถ้าเปลี่ยนสีผมเป็นสีแดงเพลิงคงแยกไม่ออกแน่นอน

                    ท่านอาจารย์ คือว่าไลท์เดินเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของมาร์คัสช้าๆ ก่อนจะเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ฟัง

                    อย่างนั้นเองเหรอ ผลผลิตจาก cr project กับลูกหลานของโฟนิม หึ เหลือเชื่อจริงๆมาร์คัสว่าพลางมองแต่ละคนสลับกัน

                    เธอทั้งสองคนใช้อาวุธได้เหมาะสมแล้ว แต่ถ้าจะเก่งขึ้นต้องตระหนักถึงบางอย่างเสียก่อนพูดจบมาร์คัสก็เดินผลัดจากพวกคิลมา ก่อนจะมาหยุดทางแกลนและเกล

                    เด็กผมน้ำตาลนี่เก่งใช้ได้เลย ถ้าเป็นแบบ 1-1 คงสู้กับเทพได้แล้วละ คำพูดของมาร์คัสทำให้คนทั้งกลุ่มหันมามองแกลนอย่างแปลกใจ แต่จะว่าไปพวกเขาก็ไม่เคยเห็นแกลนสู้แบบเอาจริงมาก่อนเหมือนกัน

                    แต่ว่าเธอเหมือนจะไม่ได้รับการฝึกมามากพอนะมาร์คัสว่าพลางชี้มาทางเกล

                    ครับ เป็นอย่างนั้นครับเกล่ว่าพลางหัวเราะแฮะๆ

                    ส่วนเธอสองคน ใช่ผู้ถือครองแน่เหรอคำถามของมาร์คัสทำเอาโซลกับเรย์ล่าถึงกับอึ้ง หมายความว่า พวกเขาไม่มีพลังมากพอที่จะเป็นผู้ถือครองงั้นเหรอ?

                    ท่านอาจารย์แฟรี่พูดเสียงเบา ก่อนจะจับแขนาจารย์มาร์คัสไว้

                    เพราะหนูละเลยเองคะอาจารย์แฟรี่พูดพลางก้มหัวลงช้าๆ

                    ละเลยงั้นเหรอ อย่าทำเป็นเล่นนะแฟรี่ เธอนะอายุเท่าไหร่แล้ว นี่ไม่การเรียนการสอนในโรงเรียน จะมาเล่นแบบทีจริงทีเล่นไม่ได้ เธอมีหน้าที่ทำให้เขาแข็งแกล่งไม่ใช่เลี้ยงดูเขาเสียงมาร์คัสทำให้แฟรี่หน้าหงอทันที

                    เอาละ ผู้มาเยือนทุกท่าน ต่อจากนี้ไปพวกเราจะต้องฝึกฝนกันอย่างหนักมาร์คัสพดเสียงเรียบ ก่อนจะเดินออกไปข้างหน้าของแถวช้าๆ

                    จงลืมวิชาทุกอย่างที่เคยฝึกมาซะ เพราะมันไร่ประโยชน์คำพูดนั่นเล่นเอาเหล่าทหารถึงกับอึ้งไปทันที อย่าว่าแต่พวกคิลเลย แม้แต่ทหารที่อ่อนแอที่สุดก็เป็นถึงอัจฉริยะในด้านๆหนึ่ง นี่มาร์คัสจะให้ทิ้งวิชาที่ฝึกฝนมาแรมปีทิ้งไปงั้นเหรอ

                    หลังจากนี้คู่ต่อสู้ของพวกนายคือเทะและปีศาจ จะไม่มีเวลามานึกรำรึกวิชาเดิมๆที่ไร้ประโยชน์อีกแล้วพูดจบมาร์คัสก็ร่ายเวทออกมาช้าๆ ก่อนจะสร้างโล่สีดำสนิทที่มีลวดลายของดวงจันทร์และวงแหวนเวทอยู่ที่โล่

                    ทุกคนโจมตีมาด้วยพลังสูงสุดซะมาร์คัสว่าพลางเอามือมาไขว้หลังราวกับพลังโจมตีที่จะโถมเข้ามาเป็นแค่ของเล่นเท่านั้น

                    เร็วเข้าสิ ข้าไม่มีเวลามายืนเมื่อยทั้งวันนะสิ้นเสียงมาร์คัส เหล่าทหารก็บุกเข้ามาทันที แต่ไม่ว่าจะกระหน่ำโจมตีเท่าไหร่ก็ไม่มีท่าทีว่าเกราะมนตราของมาร์คัสจะร้าวเลยแม้แต่น้อย

                    มูเนย์ดีชิล เวทมนตร์ระดับเดียวกับ วันโนดิเอ็ร์คคิลพูดเสียงเรียบ ก่อนจะกัดฟันแน่น ถ้าไม่มีการโจมตีที่มีพลังมากพอที่จะทำลายโล่นี่ได้ละก็ หมดหวังที่จะเอาชนะไปได้เลย

                    คิล ช่วยใช้ท่านั้นหน่อยสิครอสว่าพลางเดินถอยหลังออกมา

                    ได้สิ แต่ช่วยให้ทุกคนถอยไปก่อนดวยละ สิ้นเสียงคิล เจ้าตัวก้เริ่มร่ายบทคาถาทันที ด้วยพลังเวทมหาศาลของคิลไม่ได้ทำให้มาร์คัสเกิดอาการหวาดกลัวแต่อย่างไร แต่เมื่อพลังเวทเริ่มแสดงออกมาทั้งครอสและมาร์คัสต่างก็นิ่งอึ่งไปทันที

                    ไม่มีทางน่าครอสพูดพลางมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ วงแหวนเวทของคิลค่อยๆผสานพลังธาตุแสงกับความมืดเข้าหากันอย่างช้าๆ ราวกับกำลังผสมสีบนจานอย่างไรอย่างนั้น

                    เซลล์ อะตอม บ้าน่าเล็กกว่านั้นอีกมาร์คัสพูดเสียงเบาก่อนจะมองคิลอย่างอึ้งๆ

                    “nanay dearforna”สิ้นเสียงคิล ลำแสงสีเทาก็ยิงวาบเข้ามาร์คัสทันที เล่นเอามาร์คัสหลบแทบไม่ทัน

                    เหลือเชื่อ เวทมนตร์นั่นทำลายเวทของอาจารย์ได้เลยเหรอแฟรี่ว่าพลางมองมาทางคิลอย่างอึ้งสุดขีด หลายต่อหลายครั้งที่เธอมักเห็นชายหนุ่มคนนี้น่ากลัวเสมอ แต่ครั้งนี้นี่ละที่เธอรู้สึกกลัวเขามากที่สุด น่ากลัวเกินไปแล้ว

                    การผสานพลงของแสงสว่างและความมืดทำได้ยากแม้จะผสานกันในระดับอะตอมมาร์คัสว่า พลางลุกขึ้นจากพื้นช้าๆ

                    แต่เจ้ากลับใช้การย่อยพลังออกเป็นอนุภาคระดับควาร์ก ที่ยากต่อการควบคุม ดูเหมือนเจ้าจะมีประสาทสัมผัสและการควบคุมพลังที่น่าเหลือเชื่อสินะมาร์คัสว่า พลางยิ้มบางๆ

                    ดี เตรียมตัวเข้าต่อสู้กับเทพและปีศาจได้เลยมาร์คัสว่าพลางยิ้มจนหุบไม่อยู่ นี่ขนาดยังไม่ได้เรียนรู้วิชาศาสตร์ของโลกแห่งปีศาจยังทำได้ขนาดนี้ ชายหนุ่มคนนี้ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ

                    หมายความว่าไงที่ว่า เทพ และ ปีศาจคำถามของครอสทำให้มาร์คัสยิ่มที่มุมปากช้าๆ หมอนี่ก็ไหวพริบไม่เลว

                    อย่างที่พูดนั่นละ สัญญาผู้นำที่แต่เดิมโฟนิม ดาร์เลไลท์เป็นผู้ถือครองได้จบลงแล้วมาร์คัสว่าพลางหัวเราะหึๆ

                    หมายความว่าไงครับอาจารย์ไลท์ถามเสียงแปลกใจ ก่อนจะมองอาจารย์ของตนอย่างม่เข้าใจ

                    ไม่น่าถามอะไรโง่ๆลยนี่นา ศิษย์ข้า สิ่งที่ทำให้โฟนิมเป็นผู้นำของปีศาจมาตลอดคือพลังของฮาร์เดส ซึ่งได้มาจากการต่อสู้แลกเลือดแลกเนื้อกับเหล่าปีศาจทั้งหมด แต่ตอนนี้ ผลึกแห่งฮาร์เดสกำลังจะตกผลึกอีกครั้ง หมายความว่าชื่อของ โฟนิม จะไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว พวกเรากำลังจะเริ่มการหาผู้นำคนต่อไป ซึ่งถ้าพวกเธออยากได้สิทธิ์ในการนำทัพอีกครั้ง พวกเธอก็ต้องแข็งแกล่งจนสามารถแย่งชิงพลังนั่นมาจากปีศาจนับพันตนได้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×