คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ผู้รอต้อนรับ
ตอนที่ 1
ผู้รอต้อนรับ
ร่างทั้งสองร่างที่ทะลุผ่านช่องมิติเข้ามาทำเอาเหล่าทหารถึงกับแตกตื่นเป็นการใหญ่ ได้ข่าวว่ามีเทพบุกเข้ามา 2 คน ไม่นึกว่าจะทำให้ครอสและคิลหมดท่าขนาดนี้
“เป็นไงบ้างครับ”ไลท์ถามพลางมองเคียวของครอสอย่างลำบากใจ เมื่อครู่เฟรเนกริฟหลุดจากสถานะภูติ ทำให้ไลท์รู้ได้อย่างชัดเจนว่าเคียวของครอสโดนทำลายอย่างแน่นอน
“พวกมันแข็งแกร่งขึ้นจริงๆ”ไลท์ว่าพลางเดินมาหยิบเคียวของครอสขึ้นมาดู ส่วนเคียวที่เป็นเหล้กโดนทำลายจนหมดไม่มีเหลือ มีเพียงด้ามเคียวที่แทบจะขาดเป็นสองท่อนเท่านั้นที่รอดกลับมา
“คราวก่อนพวกลูกกระจ้องยังทำลายอาวุธภูติไม่ได้เลยนี่นา พวกมันคงมีพลังมากขึ้นแน่นอนสินะ”ดาร์คเสริมทันที
“ไม่หรอก เอสที่มากับเรย์ล่าจัดอยู่ระดับพวกมีฝีมือ ถ้าคิลกับครอสสู้กับพวกมันแบบ 1 ต่อ 1 ได้ คราวนี้อาจจะมีหวัง”ไลท์พูดพลางยิ้มบางๆ ยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะถึงเวลาที่กำหนด
“ไม่ พวกเรารุมแบบ 2 ต่อ 1 เทพผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เข้ามาช่วย”ครอสว่าพลางพยายามหายใจให้เข้าที่
“แค่นี้ก็ดีแล้ว”ไลท์ว่าพลางลุกขึ้นยืน การปะทะของ 2 ผู้ถือครองที่เก่งที่สุดกับเทพชั้นกลาง 1 คน ถ้าฝีมือมากพอที่จะหนีรอดมาได้ก็แสดงว่ายังพอจะต่อกรได้บ้าง การต่อสู้ครั้งแรกๆผู้ถือครองแทบจะโดนเป่าหายไปกับกองทหารเลยด้วยซ้ำ
“หลังจากนี้ เราจะเข้าสู่การฝึกที่แท้จริงแล้วละ”ไลท์ว่าพลางลุกขึ้นยืน
“ที่นี่คือดินแดนที่ถูกกักขัง พลังตามธรรมชาติน้อยมาก แถมแรงกดดันต่างๆยังสูงด้วย บางคนอาจจะรู้สึกไม่มีแรงไปบ้าง แต่ไม่นานคงชิน”ดาร์คว่าพลางมองไปรอบๆ ที่นี่ถือเป็นอีกมิติหนึ่งก็จริง แต่ก็เป็นกรงขังที่สร้างด้วยฝีมือของเทพ แทบจะไม่มีทางที่เหล่าปีศาจจะออกไปได้เลยถ้าเทพไม่เปิดมิติ
“มากันครบแล้วสินะ”เสียงห้าวๆของชายหนุ่มคนหนึ่งทำให้ดาร์คหันไปมองช้าๆด้วยท่าทีไม่สบอารม
“ครบแล่วละ มาร์คัส”ดาร์คตอบเสียงเรียบ ก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีดำสนิทมัดไว้ด้านหลัง ผิวคล้ำเล็กน้อยกับเครื่องแต่งกายที่ดูหรูหราเกินกว่าจะเห็นภาพเป็นปีศาจ
“นั่นนะเหรอพวกปีศาจที่เขาว่ากัน”จินพูดพลางหันไปมองชายคนนั้น
“สวัสดีทุกๆท่าน ข้าชื่อ มาร์คัส จะมารับหน้าที่ฝึกฝนทุกท่านต่อจากพวกภูติ”มาร์คัสว่า พลางโปรยตัวลงมาจากต้นไม้ช้าๆ
“รอบนี้พลังสูงจริงๆ เยี่ยมมากไลท์”มาร์คัสพูดพลางหันมายิ้มบางๆ ทำให้ไลท์ต้องก้มหัวลงช้าๆ
“เสียดายที่จำนวนน้อยไปหน่อย แต่ผมมั่นใจว่าคราวนี้จะมีโอกาสมากกว่าคราวก่อนๆครับ”
“ไหนดูสิ”มาร์คัสว่าพลางเดินมาไล่ดูทหารทีละคน เขาเพียงส่งเสียงอืมๆแล้วเดินผ่านไปทีละคนๆอย่างกับเดินเล่นเฉยๆ
“ที่ดูเข้าท่าก็มีเจ้าหนุ่มผมแดงกับเด็ก 3 คนนั้น แล้วก็ ผู้หญิงที่ใส่ชุดสีดำตรงนั้น”มารร์คิสชี้เรียงจากจิน ไปทางเรวิน เนส และ คีย์ ก่อนจะชี้ข้ามไปยังนานะที่อยู่ด้านหลัง
“เจ้าหนุ่มนี่”มาร์คัสพึมพำเสียงเบา ก่อนจะเดินมาจับตามแขนของจินไปมา
“ทำไมถึงใช้หอกละ”คำพูดของมาร์คัวทำให้จินขมวดคิ้วงงๆ
“ท่านมาร์คัสสายตาเฉียบแหลมจริงๆ”สโตรพูด ก่อนจะเดินเข้ามาหาจิน
“ลักษณะกล้ามเนื้อแบบนี้ทำไมไม่สอนวิชาหมัดให้ กล้ามเนื้อแบบนี้มันจะไปฝึกวิชาหอกได้เรื่องได้ไง”มาร์คัสว่าพลางหันไปตำหนิสโตร
“ขอโทษครับ แต่เราพึ่งเจอเขา เลยยังฟันไม่ได้ว่าเขาควรฝึกวิชาไหน”สโตรพูดเสียงเรียบ ก่อนจะมองมาร์คัสอย่างนับถือ เขาคิดแทบตายยังหาวิชาที่จินจะฝึกได้อย่างเหมอะสมไม่ได้ แต่มาร์คัสกลับมองไม่นานก็ดูออก สมแล้วที่เป็นถึงอาจารย์ผู้ช่วยของอิคารอส
“ส่วนสามคนนี้”มาร์คัสว่าพลางเดินมาดูเรวิน เนส และ คีย์ทีละคน
“คนผมน้ำตาลใช้ดาบดีแล้วละ แต่เด็กผมแดงน่าจะใช้มีดดีกว่า แต่คนผมเทานี่น่าจะใช้วิชาแบบดาร์คจะเหมาะที่สุด”มาร์คัสว่าพลางมองไปทางนานะต่อ
“เด็กคนนี้ท่าทางจะแค้นอะไรมาละสิ สายตาคมจริงๆ”มาร์คัสพึมพำเบาๆ ก่อนจะจับตัวนานะหมุนๆไปมา
“อืม อาวุธประเภทแส้หรือโซ่น่าจะเหมาะกว่านะ”มาร์คัสพูด ก่อนจะเดินมาทางครอสและคิลรวมถึงเหล่าผู้ถือครองทั้งหมด
“เด็กคนนี้”มาร์คัสพูดเสียงเบาก่อนจะมองหน้าครอสกับคิลอย่างแปลกใจ
“เหมือนเรกิออสกับโฟนิมไม่มีผิดเลยนี่”มาร์คัสว่าพลางมองครอสและคิลไปมา เหมือน เหมือนมากๆ โดยเฉพาะคนที่เหมือนเรกิออส ถ้าเปลี่ยนสีผมเป็นสีแดงเพลิงคงแยกไม่ออกแน่นอน
“ท่านอาจารย์ คือว่า”ไลท์เดินเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของมาร์คัสช้าๆ ก่อนจะเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ฟัง
“อย่างนั้นเองเหรอ ผลผลิตจาก cr project กับลูกหลานของโฟนิม หึ เหลือเชื่อจริงๆ”มาร์คัสว่าพลางมองแต่ละคนสลับกัน
“ เธอทั้งสองคนใช้อาวุธได้เหมาะสมแล้ว แต่ถ้าจะเก่งขึ้นต้องตระหนักถึงบางอย่างเสียก่อน”พูดจบมาร์คัสก็เดินผลัดจากพวกคิลมา ก่อนจะมาหยุดทางแกลนและเกล
“เด็กผมน้ำตาลนี่เก่งใช้ได้เลย ถ้าเป็นแบบ 1-1 คงสู้กับเทพได้แล้วละ” คำพูดของมาร์คัสทำให้คนทั้งกลุ่มหันมามองแกลนอย่างแปลกใจ แต่จะว่าไปพวกเขาก็ไม่เคยเห็นแกลนสู้แบบเอาจริงมาก่อนเหมือนกัน
“แต่ว่าเธอเหมือนจะไม่ได้รับการฝึกมามากพอนะ”มาร์คัสว่าพลางชี้มาทางเกล
“ครับ เป็นอย่างนั้นครับ”เกล่ว่าพลางหัวเราะแฮะๆ
“ส่วนเธอสองคน ใช่ผู้ถือครองแน่เหรอ”คำถามของมาร์คัสทำเอาโซลกับเรย์ล่าถึงกับอึ้ง หมายความว่า พวกเขาไม่มีพลังมากพอที่จะเป็นผู้ถือครองงั้นเหรอ?
“ท่านอาจารย์”แฟรี่พูดเสียงเบา ก่อนจะจับแขนาจารย์มาร์คัสไว้
“เพราะหนูละเลยเองคะอาจารย์”แฟรี่พูดพลางก้มหัวลงช้าๆ
“ละเลยงั้นเหรอ อย่าทำเป็นเล่นนะแฟรี่ เธอนะอายุเท่าไหร่แล้ว นี่ไม่การเรียนการสอนในโรงเรียน จะมาเล่นแบบทีจริงทีเล่นไม่ได้ เธอมีหน้าที่ทำให้เขาแข็งแกล่งไม่ใช่เลี้ยงดูเขา”เสียงมาร์คัสทำให้แฟรี่หน้าหงอทันที
“เอาละ ผู้มาเยือนทุกท่าน ต่อจากนี้ไปพวกเราจะต้องฝึกฝนกันอย่างหนัก”มาร์คัสพดเสียงเรียบ ก่อนจะเดินออกไปข้างหน้าของแถวช้าๆ
“จงลืมวิชาทุกอย่างที่เคยฝึกมาซะ เพราะมันไร่ประโยชน์”คำพูดนั่นเล่นเอาเหล่าทหารถึงกับอึ้งไปทันที อย่าว่าแต่พวกคิลเลย แม้แต่ทหารที่อ่อนแอที่สุดก็เป็นถึงอัจฉริยะในด้านๆหนึ่ง นี่มาร์คัสจะให้ทิ้งวิชาที่ฝึกฝนมาแรมปีทิ้งไปงั้นเหรอ
“หลังจากนี้คู่ต่อสู้ของพวกนายคือเทะและปีศาจ จะไม่มีเวลามานึกรำรึกวิชาเดิมๆที่ไร้ประโยชน์อีกแล้ว”พูดจบมาร์คัสก็ร่ายเวทออกมาช้าๆ ก่อนจะสร้างโล่สีดำสนิทที่มีลวดลายของดวงจันทร์และวงแหวนเวทอยู่ที่โล่
“ทุกคนโจมตีมาด้วยพลังสูงสุดซะ”มาร์คัสว่าพลางเอามือมาไขว้หลังราวกับพลังโจมตีที่จะโถมเข้ามาเป็นแค่ของเล่นเท่านั้น
“เร็วเข้าสิ ข้าไม่มีเวลามายืนเมื่อยทั้งวันนะ”สิ้นเสียงมาร์คัส เหล่าทหารก็บุกเข้ามาทันที แต่ไม่ว่าจะกระหน่ำโจมตีเท่าไหร่ก็ไม่มีท่าทีว่าเกราะมนตราของมาร์คัสจะร้าวเลยแม้แต่น้อย
“มูเนย์ดีชิล เวทมนตร์ระดับเดียวกับ วันโนดิเอ็ร์ค”คิลพูดเสียงเรียบ ก่อนจะกัดฟันแน่น ถ้าไม่มีการโจมตีที่มีพลังมากพอที่จะทำลายโล่นี่ได้ละก็ หมดหวังที่จะเอาชนะไปได้เลย
“คิล ช่วยใช้ท่านั้นหน่อยสิ”ครอสว่าพลางเดินถอยหลังออกมา
“ได้สิ แต่ช่วยให้ทุกคนถอยไปก่อนดวยละ” สิ้นเสียงคิล เจ้าตัวก้เริ่มร่ายบทคาถาทันที ด้วยพลังเวทมหาศาลของคิลไม่ได้ทำให้มาร์คัสเกิดอาการหวาดกลัวแต่อย่างไร แต่เมื่อพลังเวทเริ่มแสดงออกมาทั้งครอสและมาร์คัสต่างก็นิ่งอึ่งไปทันที
“ไม่มีทางน่า”ครอสพูดพลางมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ วงแหวนเวทของคิลค่อยๆผสานพลังธาตุแสงกับความมืดเข้าหากันอย่างช้าๆ ราวกับกำลังผสมสีบนจานอย่างไรอย่างนั้น
“เซลล์ อะตอม บ้าน่าเล็กกว่านั้นอีก”มาร์คัสพูดเสียงเบาก่อนจะมองคิลอย่างอึ้งๆ
“nanay dearforna”สิ้นเสียงคิล ลำแสงสีเทาก็ยิงวาบเข้ามาร์คัสทันที เล่นเอามาร์คัสหลบแทบไม่ทัน
“เหลือเชื่อ เวทมนตร์นั่นทำลายเวทของอาจารย์ได้เลยเหรอ”แฟรี่ว่าพลางมองมาทางคิลอย่างอึ้งสุดขีด หลายต่อหลายครั้งที่เธอมักเห็นชายหนุ่มคนนี้น่ากลัวเสมอ แต่ครั้งนี้นี่ละที่เธอรู้สึกกลัวเขามากที่สุด น่ากลัวเกินไปแล้ว
“การผสานพลงของแสงสว่างและความมืดทำได้ยากแม้จะผสานกันในระดับอะตอม”มาร์คัสว่า พลางลุกขึ้นจากพื้นช้าๆ
“แต่เจ้ากลับใช้การย่อยพลังออกเป็นอนุภาคระดับควาร์ก ที่ยากต่อการควบคุม ดูเหมือนเจ้าจะมีประสาทสัมผัสและการควบคุมพลังที่น่าเหลือเชื่อสินะ”มาร์คัสว่า พลางยิ้มบางๆ
“ดี เตรียมตัวเข้าต่อสู้กับเทพและปีศาจได้เลย”มาร์คัสว่าพลางยิ้มจนหุบไม่อยู่ นี่ขนาดยังไม่ได้เรียนรู้วิชาศาสตร์ของโลกแห่งปีศาจยังทำได้ขนาดนี้ ชายหนุ่มคนนี้ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ
“หมายความว่าไงที่ว่า เทพ และ ปีศาจ”คำถามของครอสทำให้มาร์คัสยิ่มที่มุมปากช้าๆ หมอนี่ก็ไหวพริบไม่เลว
“อย่างที่พูดนั่นละ สัญญาผู้นำที่แต่เดิมโฟนิม ดาร์เลไลท์เป็นผู้ถือครองได้จบลงแล้ว”มาร์คัสว่าพลางหัวเราะหึๆ
“หมายความว่าไงครับอาจารย์”ไลท์ถามเสียงแปลกใจ ก่อนจะมองอาจารย์ของตนอย่างม่เข้าใจ
“ไม่น่าถามอะไรโง่ๆลยนี่นา ศิษย์ข้า สิ่งที่ทำให้โฟนิมเป็นผู้นำของปีศาจมาตลอดคือพลังของฮาร์เดส ซึ่งได้มาจากการต่อสู้แลกเลือดแลกเนื้อกับเหล่าปีศาจทั้งหมด แต่ตอนนี้ ผลึกแห่งฮาร์เดสกำลังจะตกผลึกอีกครั้ง หมายความว่าชื่อของ โฟนิม จะไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว พวกเรากำลังจะเริ่มการหาผู้นำคนต่อไป ซึ่งถ้าพวกเธออยากได้สิทธิ์ในการนำทัพอีกครั้ง พวกเธอก็ต้องแข็งแกล่งจนสามารถแย่งชิงพลังนั่นมาจากปีศาจนับพันตนได้”ฟ
ความคิดเห็น