คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #38 : Special Chapter: Christmas Eve.
" หิมะสีขาวค่อยๆโปรยลงมาจากฟากฟ้าอันมืดมิด
หมู่ดาวต่างรวมตัวกันเป็นกลุ่มในคืนคริสต์มาส
เด็กๆต่างนำถุงเท้าไปแขวนเอาไว้ตรงหน้าต่าง
เพื่อรอคอยของขวัญจากซานตาครอส... "
-Krinas Adler-
----------------------------------------------------------------------
25 ธันวาคม ค.ศ.1935 ลอนดอน,ประเทศอังกฤษ
8.35 AM
หิมะสีขาวบริสุทธิ์โปรยลงมาจากท้องฟ้าสีเทาหม่นราวกับหยาดน้ำฝน เกล็ดน้ำแข็งพวกนั้นทับถมกันจนกลายเป็นสีขาวเต็มถนน ไอเย็นที่สัมผัสได้จากหน้าต่างค่อยๆคลืบคลานผ่านกระจกใสเข้ามาในห้องเรียน เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มนัยน์ตาสีฟ้าสดใสยกมือขึ้นแตะกระจกหน้าต่างตรงหน้า...ความหนาวเย็นเฉกเช่นน้ำแข็งที่เธอสัมผัสได้จากกระจกแผ่นใหญ่แทบทำให้มือของเธอเป็นน้ำแข็ง นัยน์ตาคู่สวยจ้องมองออกไปด้านนอกในขณะที่หูยังคงได้ยินเสียงสะอื้นของใครบางคนอยู่ใกล้ๆ--
โดโรธีคือเจ้าของเสียงสะอื้นนั่น ใบหน้าที่ดูมีเสน่ห์ของเธอเปรอะไปด้วยคราบน้ำตาในขณะที่มือเรียวยาวทั้งสองถูกยกขึ้นมาปิดบังใบหน้าของตนเอาไว้ราวกับไม่ต้องการให้ใครเห็นมัน มีเพื่อนสาวอีกสองสามคนยืนอยู่ข้างๆพลางปลอบประโลมเธอไม่ให้เธอร้องไห้ ไม่มีใครรู้เหตุผลที่ทำให้"ควีน"ของห้องเช่นเธอเสียน้ำตาอย่างแท้จริง
"ไอ้เลวเอ๊ย..."เสียงด่าทอของโดโรธีดังเข้าหูของแอดเลอร์ มันทำให้หญิงสาวถึงกับละสายตาออกจากหน้าไปมองเธอแทน"ให้ตายสิ ทำไมทิ้งฉันได้ลงคอนะ!"
"ไม่เป็นไรหรอกน่า ช่างหัวมันเถอะ...มันก็แค่ไอ้ผู้ชายเลวคนนึง"
"ใช่แซนดราพูดถูกนะ ใครๆก็รู้ว่าเท็ดน่ะเจ้าชู้ขนาดไหน"
แอดเลอร์เงี่ยหูฟังบทสนทนาต่อไปเรื่อยๆแม้จะไม่อยากก็ตาม
"แต่ฉันรักเขานี่--ฮือๆ"
สาวเจ้ายังคงปล่อยโฮออกมาอีกครั้งท่ามกลางสายตาของคนทั้งห้อง เพื่อนทั้งสองของเธอยิ่งต้องคอยปลอบเธอมากกว่าเดิมอีก แอดเลอร์ยิ้มนิดหน่อยพลางส่งเสียงหัวเราะหึๆในลำคอ
"รักหนอรัก..."
จริงๆแล้วเธอแค่พูดลอยๆออกมาเท่านั้นเอง แต่มันก็กลายเป็นจุดสนใจให้กับเหล่าสาวๆพสกนั้นทันทีโดยเฉพาะคู่กัดของเธอ..โดโรธี หล่อนรีบยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้าก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้แล้วเดินตรงมายังที่นั่งของแอดเลอร์ทั้งๆที่ใบหน้ายังคงหลงเหลือคราบน้ำตาไว้ให้เห็นอยู่ มือข้างหนึ่งฟาดลงบนโต๊ะนักเรียนเสียงดังตึงจนทำให้ห้องเรียนกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง
"เธอพูดอะไรของเธอยะ"
"เปล๊า..."แอดเลอร์รีบปฏิเสธทันควัน ใบหน้าของเธอดูยั่วโมโหอย่างไม่เคยมีมาก่อน"ฉันก็แค่เปรยอะไรลอยๆเท่านั้น"
"นี่! เธอกำลังลองดีกับโดโรธีอยู่นะ!"
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรือครั้งที่สองที่เธอมีเรื่องกับพวกควีนประจำห้องอย่างโดโรธี แซนดราและโมนิกา อันที่จริงเธอมีเรื่องกับพวกนี้มาหลายต่อหลายครั้งแล้วต่างหากแต่ครั้งนี้อาจจะหนักและแรงกว่าครั้งก่อนๆก็เท่านั้น ตอนนี้เธอพอจะเรียบเรียงได้แล้วว่าทำไมโดโรธีถึงร้องไห้ หล่อนคบกับใครคนหนึ่งแล้วคงโดยเขาเขี่ยทิ้งกระมัง
"ก็แล้วไงล่ะ ฉันไม่ได้หาเรื่องพวกเธอเลยนะรู้มั้ย"
"หนอย...อยากลองดีรึไงยะ"
โดโรธียกมือข้างหนึ่งขึ้นก่อนจะฟาดลงมาหมายจะให้โดนใบหน้าของหญิงสาว แต่กลับมีบางอย่างมารั้งมือเธอเอาไว้..
หมับ!
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองผู้มาเยือนในชุดเครื่องแบบสีดำด้วยสายตาที่ราวกับเห็นสัตว์ประหลาด พวกเธอเริ่มถอยกลับไปยกเว้นโดโรธีที่ถูกใครคนหนึ่งบีบข้อมือตนเองเอาไว้..จะเป็นใครไปได้นอกจากเขา...
"พอดีผมไม่ค่อยชอบความวุ่นวายเท่าไหร่น่ะ..."
"..."
"ฉะนั้น..อยู่เงียบๆไปซะ"
เจ้าของสำเนียงอเมริกันใช้สายตาจ้องมองโดโรธีสักครู่จนในที่สุดหญิงสาวก็พ่ายต่อสายตานั่นและตัดสินใจเดินกลับไปยังที่ของตนพร้อมกับเพื่อนๆทั้งสองของเธอ เบิร์ตเดินไปด้านหน้าของหล่อนก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ ดูเหมือนกับใบหน้าของเขาจะมีรอยแผลมากกว่าครั้งแรกที่เธอเห็นเสียอีก คงไปมีเรื่องกับใครมากระมัง...
"หน้าไปโดนอะไรมาน่ะ"เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยเต็มใจเท่าไร"ไปมีเรื่องกับใครมาสินะ"
"นั่นคงเป็นคำถามที่ผมควรถามคุณมากกว่าแอดเลอร์"
หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอพยายามจะละสายตาออกจากใบหน้าของเขาแต่มันก็ไม่ได้ผล
"นี่มันวันคริสต์มาสนะ"เธอยังคงบ่นไปเรื่อยตามนิสัย"ให้ฉันได้แก้แค้นพวกนั้นที่เอาแต่แกล้งฉันบ้างเถอะ"
"นั่นไม่ได้เรียกว่าการแก้แค้นหรอกนะ"
"อ้อเหรอ งั้นก็เลิกตามฉันได้แล้วล่ะขอร้อง"
ไม่มีครั้งไหนที่พวกเขาคุยกันดีๆเลย ส่วนใหญ่จะลงเอยด้วยการทะเลาะกันทุกครั้ง..ยิ่งช่วงนี้อีกด้วย
"วันนี้ผมมีอะไรให้คุณทำ"
เบิร์ตก้มลงไปหยิบบางอย่างขึ้นมา มันคือซองเอกสารสีน้ำตาลอ่อนซองหนึ่ง...เขาวางมันไว้บนโต๊ะของเธอราวกับต้องการให้เธอเปิดดูเอง แอดเลอร์ถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนจะเอาซองกระดาษนั่นมาเปิดออก ในซองเต็มไปด้วยกระดาษจำนวนมาก...หญิงสาวหยิบมันออกมาหนึ่งแผ่นแล้วพลิกดู เกมอักษรไขว้เหรอ? เธอคิด
"อักษรไขว้เนี่ยนะ เอามาทำอะไรเนี่ย"
"ก็..."ชายหนุ่มลากเสียง"อยากรู้เรื่องของผมนักไม่ใช่เหรอ"
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับอักษรไขว้เล่า"เธอยังคงไม่เข้าใจ
"เกี่ยวสิ ถ้าคุณหาคำในนั้นจนครบภายในเวลาเจ็ดนาที คุณก็ถามคำถามผมได้หนึ่งคำถาม"
"งั้นถ้าเกิดว่าฉันทำไม่ทันล่ะ"
หญิงสาวถามพลางกระตุกยิ้ม
"ผมก็จะถามคำถามคุณ และคุณต้องตอบ เล่นตามกติกาแล้วมันจะสนุก"
เกมงี่เง่า...เธอพูดในใจ
"ก็ได้นะ"ในที่สุดเธอก็ยอมรับ"ฉันถนัดของใช้สมองแบบนี้อยู่แล้วล่ะ"
"งั้นเหรอ ผมจะรอดูคุณพลาดก็แล้วกัน"
หญิงสาวแอบหัวเราะเบาๆกับคำพูดของเขาทั้งที่จริงๆแล้วเธออาจจะเป็นแบบนั้นจริงก็ไม่แน่ เขาเริ่มจับเวลาก่อนที่เธอจะลงมือทำเสียอีก อาจจะก่อนที่เธอจะตอบตกลงเสียด้วยซ้ำ แบบนี้เธอไปหาว่าเขาใจร้อนไม่ได้หรอกนะ บางทีนี่อาจจะเป็นเซอร์ไพรส์วันคริสต์มาสของเขาก็ได้ นี่ล่ะ...โอกาสดีที่เธอจะได้รู้เบื้องหลังชีวิตของเขา!
ราวกับบรรยากาศรอบตัวเงียบลงโดยพลัน ดีอยู่อย่างนึงคือโดโรธีกับเพื่อนๆของเธอเดินออกนอกห้องไปนานแล้วจะได้ไม่ต้องมากวนสมาธิเธอ แอดเลอร์จดจ่ออยู่กับแผ่นกระดาษตรงหน้าโดยไม่เบนความสนใจไปสิ่งรอบข้างเลย แค่คำแรกเธอก็ไม่รู้แล้วว่ามันคืออะไร นี่มันเกมอักษรไขว้ระดับยากสุดยอดชัดๆเลย! เธอคิด มือกำปากกาเอาไว้จนมันแทบจะหักออกเป็นสองท่อน
อะไรที่สามารถฆ่าแมวให้ตายได้?
อะไรล่ะ...แค่นี้ก็แทบจะหัวระเบิดอยู่แล้ว!
เธอตัดสินใจทิ้งคำแรกเอาไว้ก่อนแล้วไปดูคำอื่น ดูเหมือนกับว่าคำนี้จะง่ายลงมาหน่อย...เส้นทางชีวิตกับกลีบดอกไม้ เธอเคยได้ยินมาอยู่เหมือนกันว่าชีวิตของคนเราไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ ฉะนั้นคำตอบข้อนี้คือคำว่า"ดอกกุหลาบ"
"ใช้เวลานานเหมือนกันนะเนี่ย"เสียงของเบิร์ตดังขึ้นเบาๆ ถ้ามันดังกว่านี้เธอคงจะสมาธิเตลิดไปแล้ว"ผ่านไปสามนาทีเพิ่งได้แค่คำเดียวอยู่อีกเหรอ"
"เงียบๆเถอะน่า อย่าดูถูกฉันสิ"
คำใบ้ต่อไปคือสิ่งที่ฆ่าคนและทำให้คนเป็นบ้าได้ในเวลาเดียวกัน คำใบ้แค่นี้เธอก็คงพอจะเดาได้ว่าคำตอบคืออะไร เอาล่ะเธอต้องทำได้...เหลือแค่ไม่กี่คำเท่านั้น!
ในขณะนี้ห้องเรียนค่อนข้างเงียบเป็นพิเศษ ชนิดที่เงียบมากจนได้ยินเสียงเข็มนาฬิ กาพกของเธอเดินอยู่อย่างชัดเจน เวลาผ่านไปประมาณสี่ถึงห้านาทีแล้วแอดเลอร์ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าอะไรที่สามารถฆ่าแมวได้ ถ้าให้เดาละก็นี่คงไม่ใช่คำธรรมดาแน่ๆ หากแต่มันคือสำนวน...สำนวนที่เธอไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร
บางทีก็อดคิดไม่ได้เลยว่าถ้าหากเธอทำไม่ทันจริงๆเธอจะโดนถามคำถามแบบไหน แต่ตอนนี้ต้องจดจ่ออยู่แค่ไอ้กระดาษนี่ก่อน
"หมดเวลา"
เสียงทุ้มนั่นทำลายความตั้งใจของเธอทั้งหมด แอดเลอร์วางปากกาลงอย่างไม่เต็มใจเสียเท่าไรนัก เหลือแค่คำเดียวเท่านั้น...แค่คำเดียว!
"คำถามแรก"
"..."
"คุณคิดยังไงกับวันคริสต์มาสล่ะ"
ฟังจากคำถามแล้วดูเหมือนว่าคราวนี้เขาคงไม่พาเธอออกนอกประเด็นอีกแน่ ตอนแรกเธอคิดว่าเขาจะถามคำถามที่เขาสามารถเอาประโยชน์จากคำตอบมาได้เสียอีก แต่นี่กลับเป็นคำถามทั่วไปที่ให้เธอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวันคริสต์มาส...ซึ่งจริงๆแล้วเธอก็เป็นหนึ่งในล้านคนที่ไม่ชอบวันคริสต์มาสเสียด้วย แต่จริงๆแล้วคริสต์มาสมันก็มีหลายแบบล่ะนะ เอาเข้าจริงแล้วเธอยังคิดไม่ออกเลยว่าควรจะตอบแบบไหน
"ก็แบบว่า..."แอดเลอร์ลากเสียง ทั้งๆที่ยังไม่ได้เรียบเรียงคำตอบเลยสักนิด
"แบบว่า...?"
"จริงๆแล้วฉันค่อนข้างไม่ถูกชะตากับคริสต์มาสเลยล่ะ แต่ว่า..บางทีมันก็มีข้อดีอยู่เหมือนกันล่ะ"
ช่างเป็นคำตอบที่โครตจะสิ้นคิดเลย! เธอคิด ซึ่งนั่นมันก็อาจจะจริงก็ได้
"แผ่นต่อไปเลย คราวนี้ให้เวลาห้านาที"
"ยังไงก็ได้..."
เกมอักษรไขว้แผ่นต่อไปถูกดึงออกมาจากซองกระดาษซึ่งดูเหมือนว่าแผ่นนี้จะง่ายกว่าแผ่นก่อนเยอะ เธอคงใช้เวลาในการอ่านคำใบ้และหาคำได้ไม่มากเท่าไร...จะว่าไปเธอก็คิดๆอยู่เหมือนกันนะว่าทำไมเขาถึงเอาเกมนี้มาให้เธอเล่น นี่อาจจะเป็นอีกวันที่เธอจะต้องใช้เวลาอยู่กับการทำความเข้าใจความคิดของเขาให้ทะลุปรุโปร่งอีกแล้วสินะ แต่ว่า..ก็ช่างเถอะ อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้มาแบบนาซีเหมือนกับห้องอื่นหรอกใช่ไหม?
ก็..เขาไม่ใช่นาซีจริงๆเสียทีเดียวนี่
แอดเลอร์ใช้เวลาไปกับการเล่นเกมอักษรไขว้แผ่นนี้ไปประมาณสี่นาทีกว่าๆซึ่งมันช้ามากๆในความคิดของเธอเพราะปกติเธอเป็นคนคิดเร็วกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ยังไงก็ตาม...เอาเป็นว่าเธอทำแผ่นนี้เสร็จก่อนหมดเวลาละกัน เอาล่ะ..ได้เวลาถามคำถามกับคุณนาซีแล้วล่ะนะ!
"4 นาที 32 วินาที"เขาพูดก่อนจะวางนาฬิกาลง"...ถึงจะไม่เร็วเท่าไหร่แต่ก็..ใช้ได้"
"เอาล่ะ คำถามใช่มั้ย"
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มบางๆแทนการตอบคำถามว่าใช่ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆในขณะที่ยกมือทั้งสองขึ้นมากอดอกไว้เพื่อป้องกันความหนาวเหน็บ คราวนี้เธอต้องคิดคำถามไว้ในหัวก่อน...จะว่าไปเธอควรถามเรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวเขาดีล่ะ? ในเมื่อตัวตนที่เขาเป็นอยู่ในขณะนี่มันลึกลับและมีแต่คำถามหลายตำถามลอยเต็มไปหมด เธอควรถามอะไรดีล่ะเนี่ย..
"ทำไมเงียบไปซะล่ะสาวน้อย?"
"คิดคำถามอยู่น่ะสิ ช่วยเงียบหน่อยได้มั้ย"เธอยกมือขึ้นกุมขมับทั้งๆที่เริ่องแบบนี้ไม่เห็นจะต้องเครียดมากขนาดนั้น
"เอาเถอะ ผมมีหน้าที่ตอบอย่างเดียวนี่"
แอดเลอร์เงยหน้าขึ้นมามองค้อนเขาครั้งนึงก่อนจะก้มหน้าลงไปอีก มีคำถามเดียวที่เธอสงสัยอยู่เกี่ยวกับเขา แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะตอบนะ...
"ทำไม..."
"..."
"ทำไมคุณถึงต้องเข้าร่วมนาซีด้วย"
...
เบิร์ตเงียบไป ท่าทางของเขาเหมือนกับไม่อยากจะตอบคำถามนี้ของเธอเสียเท่าไรนัก เขาตัดสินใจลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าของหญิงสาวในขณะที่ใบหน้าของเธอก้มต่ำลงกว่าเดิม เขาเดินไปยังหน้าต่างบานใหญ่ด้านหลังของเธออย่างเงียบๆ มือข้างหนึ่งที่สวมถุงมือหนังสีดำยกขึ้นแตะกระจกหน้าต่างแบบเดียวกับที่แอดเลอร์เคยทำ นัยน์ตาสีครามเหลือบเทาอ่อนที่ดูไร้แววจ้องมองออกไปยังกระจกใส เกล็ดหิมะสีขาวปกคลุมทั่วอาคารเรียนที่เขามองอยู่
คำถามที่เธอถามมา...มันทำให้เขานึกถึงอดีตที่ถูกลืมไปเสียสนิท..ทำให้มันกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
"คุณอยากรู้จริงๆน่ะเหรอ"
"ก็ใช่นะสิ ฉันทำตามกติกาและ..คุณควรตอบฉันนะ"
เขาหันกลับมามองเธอแม้ว่าเธอจะหันหลังให้เขาอยู่ก็ตาม จริงๆแล้วนั่นก็ไม่ใช่คำถามที่เขาควรจะตอบเธอเลยด้วยซ้ำ...แต่..
เอี๊ยด...
ทั้งสองหันไปมองประตูห้องทันทีหลังจากที่เสียงเปิดประตูดังขึ้น ผู้มาเยือนไม่ใช่ใครที่ไหนเสียนอกจากเพื่อนร่วมงานของเขาเอง เบิร์ตพยักหน้านิดหน่อยก่อนจะเดินออกไปนอกประตู โดยทิ้งคำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบของแอดเลอร์เอาไว้ด้านหลัง หญิงสาวก้มหน้าลงตามเดิมก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบซองกระดาษที่วางอยู่ใกล้มือมาเปิดดูสิ่งที่อยู่ด้านใน เกมอักษรไขว้ที่เขาเอาให้เธอเล่นถูกตัดออกมาจากหนังสือพิมพ์ทุกแผ่นจนเธอเดาไม่ถูกเลยว่าตัดออกมาจากฉบับไหนบ้าง กว่าจะรู้ตัวอีกทีแอดเลอร์ก็หยิบปากกามาวงคำเอาไว้..เธอไม่คิดหรอกนะว่าจะเล่นเกมนี้หมดในคืนนี้...
...เพราะดูเหมือนว่า คืนนี้เธอต้องออกไปข้างนอกหน่อยเสียแล้วล่ะ
....
...
..
.
ฉันเงี่ยหูฟังเสียงกระดิ่งอันไร้ที่มานั่น
มือข้างหนึ่งถือแก้วไวน์เอาไว้...
ส่วนมืออีกข้างหนึ่งวางอยู่บนคีย์เปียโน
ข้างๆคือต้นคริสต์มาสสีเขียวสด..
หญิงสาววางปากกาในมือลงบนโต๊ะไม้อย่างช้าๆก่อนวางสมุดโน้ตตามลงไปด้วย เธอยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มพลางเหล่มองไปยังบุคคลที่นั่งอยู่ข้างๆเธอ นัยน์ตาสีฟ้าสดใสคู่นั้นสะท้อนใบหน้าของเขาอยู่ด้านใน เสียงเพลงคริสต์มาสยังคงดังคลอไปกับทุกช่วงเวลาของเธอในร้านเหล้านี่
"สรุป คุณไม่มีคำตอบให้ฉันสินะ?"
"ก็อาจจะ"
เบิร์ตพูด น้ำเสียงของเขาเบามากจนเธอแทบจะต้องเงี่ยหูฟังเสียจริงๆ
"ฮ่า...งั้นฉันก็คงคิดคำถามใหม่แล้วล่ะ"เธอยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม"คุณมีครอบครัวรึเปล่า"
"ผมมีน้องสาว"
"น้องสาวคุณเหรอ ถ้าให้เดานะเธอคงไม่ได้อยู่กับคุณมานานแล้วใช่มั้ย"
"ก็อาจจะ"
ชายหนุ่มวางกระป๋องเบียร์ยี่ห้อโปรดลงบ้างหลังจากที่ถือมันมานาน แม้ว่าจะดื่มหนักไปแบบนั้นเขาก็ไม่ดูเหมือนกับคนที่เพิ่งดื่มเบียร์มาเลยสักนิดต่อให้ตั้งใจมองเท่าไร แอดเลอร์ส่งยิ้มให้เขานิดหน่อยก่อนจะดื่มไวน์เข้าไปอีกจนหมดแก้ว เธอไม่ได้นับจำนวนแก้วเหมือนเมื่อก่อนแต่ก็คงจะเดาได้ว่านี่ไม่ใช่แก้วที่สามแน่ บรรยากาศในบาร์วันนี้ดูเงียบสงบมากกว่าปกติ ก็วันนี้มันวันคริสต์มาสนี่...ทั้งหิมะ ทั้งความหนาว มันทำให้ผู้คนรอบตัวเธอดูเฉื่อยชากันไปหมด ไม่เว้นแม้แต่เบิร์ต คาร์ล
"ทำไมคุณต้องชื่อเบิร์ต คาร์ลด้วยล่ะ"
"มันก็คำตอบเดียวกับคำถามที่ว่าทำไมคุณถึงชื่อว่าครีนัส แอดเลอร์นั่นแหละ"
เธอหัวเราะขบขันเบาๆพลางคลายผ้าพันคอผืนสีน้ำเงินเข้มเกือบดำออกแล้ววางมันไว้บนโต๊ะ สายตาของเธอยังคงมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา...
"เข้าใจเล่นมุขเนอะ"
"..."
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากช้าๆ
"คุณถามมามากพอแล้วล่ะแอดเลอร์ ถึงทีผมถามคุณบ้างล่ะ"
"เอาสิ"
เธอวางแก้วไวน์เปล่าลงบนโต๊ะไม้ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ รอยยิ้มที่เปื้อนอยู่ที่ใบหน้าของเขาดูมีเลศนัยแปลกๆ คำถามอะไรที่เขาตั้งใจจะถามเธอกันนะ?
"คริสต์มาสปีนี้..."
"..."
"...คุณอยากได้อะไรเป็นของขวัญล่ะ?"
--------------------------------
แอร๋ ก็จบกันไปแล้วนะคะสำหรับตอนพิเศษวันคริสสะมาสสสส(?) ซึ่งในความคิดเราเออก็คิดอยู่นะว่าสั้นไปมั้ย แต่จะแต่งต่อก็ตันแล้วค่ะ ฟฟฟ โอเค พรุ่งนี้ก็นะวันคริสสะมาสแล้ว อิม้อดไม่มีอะไรจะอวยพรให้ท่าผู้อ่านหรอกค่ะ~ แต่อยากจะขอให้ท่านผู้อ่านตอดตามงานเขียนงานนี้ของเราไปนานๆเลย! แต่มาเป็นปีแล้วก็ใกล้ถึงจุดจบ(พูดให้แลดูสยอง)ของภาคแรกแล้วล่ะค่ะ สองบทสุดท้ายจะมีไม่ถึงสิบตอนล่ะมั้งดูแล้ว 555 เค ช่างหัวมันฝรั่งตากแห้งแกงไตปลา ก็จะบอกเลยนะว่าคริสสะมาสแล้วก็เล่นอะไรระวังๆหน่อยละกันนะคะ ดอกไม้ไฟไรเงี่ย เวลาจุดพลุอ่ะ ใช่ๆอยา่ลืมกระทงด้วยนะ ถุ้ย วันลอยกระทงหมดแล้วเว้ย!!!
ก็ ในฐานะที่เราเป็นไรต์เตอร์หน้าใหม่ก็อยากอวยพร(ไหนว่าไม่มีไง ฟักทองเอ้ยย)ให้ทุกคนมีความสุขนะคะ กินให้เต็มที่เลยนะถ้ามีงานอ่ะเอาถุงไปห่อกลับบ้านด้วยยิ่งดี ถุ้ยยย แลกของขวัญก็ขอให้โชคดีจับได้ทองคำนาซี(?)ละกันนะ สำหรับวันนี้ ซียู!
ด้วยรักและฟักทอง
Sin Clarity :v
***************************************
ความคิดเห็น