ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The lost story : บันทึกที่สาบสูญ (Online)

    ลำดับตอนที่ #2 : Story1:ภารกิจ

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ค. 57


    ภารกิจ

                    “ยินดีต้อนรับสู่มหานครเหมันต์ เอลเลน่า จ้ะ เรนาส” คุณยายวาเนลเอ่ยขึ้นก่อนเดินนำไปทางประตูเมืองที่ถูกปิดอยู่ ตอนแรกเขาก็คิดอยู่ว่าคุณยายจะเปิดประตูบานยักษ์นี่ได้ยังไง คุณยายนำมือทั้งสองข้างมาสัมผัสกับประตู ปรากฏละอองสีขาวกระจายออกมาก่อนจะซึมซับเข้าไปในประตู สัญลักษณ์เกร็ดหิมะบนบานประตูเรืองแสงสีขาวก่อนดับวูบไป พร้อมกับประตูที่แง้มเปิดออกมาเล็กน้อย

                    “ตามมา” หญิงชราเดินเข้าไป เด็กหนุ่มเดินตามแล้วเขาก็พบกับบ้านแบบยุโรปโบราณที่ตัวบ้านทำจากหินสีขาว แต่ละบ้านจะมีสัญลักษณ์เกร็ดหิมะสลักไว้ที่หน้าประโดยจะมีตัวอักษรที่เขาไม่เข้าใจสลักอยู่ด้านล่าง ทางเดินอิฐสีขาวสลับเทาอ่อนๆมีผู้คนเดินอยู่มากมาย

                    เด็กหลายสิบคนกำลังวิ่งเล่นบนถนนแห่งนี้ ชายในชุดอัศวินสีขาวขลิบฟ้าควบม้าสีขาว(อีกเช่นเคย)จากสี่แยกด้านหน้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว กลุ่มหญิงสาวแต่งชุดตัวแบบชาวอังกฤษกำลังพูดบางสิ่งบางอย่างก่อนจะมีก้อนพลังงานบางอย่างที่แผ่ไอความเย็นออกมา โคมไฟตามทางเดินส่องสว่างจากก้อนพลังงานสีขาวฟ้าจากด้านใน แม้ตอนนี้จะอยู่ในยามค่ำคืนแต่ผู้คนกลับมากมาย

                    จากที่เขาสังเกตดูคนในที่นี่ส่วนมากจะแต่งตัวโทนสีขาว ฟ้า น้ำเงิน ซึ่งตัวเขาคงแปลกแยกไม่น้อยด้วยชุดผู้เริ่มต้นที่เป็นเสื้อคอกลมกับกางเกงผ้าสีน้ำตาล

                    “ไม่ต้องไปสนใจสายตารอบข้างหรอกเรนาส เมืองนี้ไม่ได้มีนักผจญภัยมานานแล้ว อีกเดี๋ยวก็จะถึงบ้านของยายแล้ว ตอนนี้ทนไปก่อนแล้วกัน” เรนาสได้แต่พูด ครับ เป็นการตอบรับ เดินมาได้ไม่กี่สิบเมตรก็พบบ้านสไตล์ยุโรปโบราณขนาดกลางทำจากหินสีขาว คุณยายวาเนลนำกุญแจมาไขประตูก่อนเปิดออก ภายในบ้านตกแต่งอย่างเรียบง่าย ตรงกลางมีชุดโซฟาที่น่าจะทำจากหนังสัตว์และโต๊ะไม้สีขาว ด้านขวามีเต่าผิงไฟที่ตอนนี้ติดอยู่ ด้านซ้ายเป็นห้องสองห้องที่คุณยายบอกว่าเป็นห้องของลูกชายที่ชื่อวาเลนซึ่งตอนนี้แกเสียไปเมื่อสงครามเมื่อสามสิบปีที่แล้วที่แล้ว ส่วนสามีที่ชื่อพอลของคุณยายเสียไปจากโรคร้ายเมื่อสี่สิบกว่าปีที่แล้ว ตรงไปมีห้องครัวกับห้องสมุดซึ่งเป็นห้องทำงานของ

                    “ตอนนี้หลานพักที่บ้านของยายก่อนแล้วกัน เดี๋ยวยายจะไปทำซุปมาให้กิน หลานจะไปอ่านอะไรเล่นในห้องสมุดก็ได้”

                    “ขอบคุณมากครับคุณยาย” เรนาสเดินเข้าไปในห้องสมุด ระหว่างการเดินทางมาเมืองนี้มีสัตว์ระดับราชาอยู่ยั้วเยี้ย ถ้าไม่ได้คุณยายละก็เขาคงเป็นศพไปนานแล้ว แต่ยายท่านก็เก่งจริงๆนั่นแหละ ร่ายเวทย์ทีเดียวราชายังตาย...โหดไปแล้ว

                    ในห้องเต็มไปด้วยตู้หนังสือที่มีหนังสืออยู่แน่นเอียดแต่ยังมีพื้นที่ว้างมีโต๊ะทำงานกับเก้าอั้หนังสัตว์อยู่ เขาเดินไปดูหนังสือหลายเล่มตาพบว่าเขาไม่สามารถจะอ่านภาษาพวกนี้ออก

                    “ทำไงดีว่ะเนี้ย” เด็กหนุ่มถอนหายใจอย่างอ่อนแรงเดินไปนั่งเก้าอี้หนังสัตว์สีขาว สัมผัสที่นิ่มสบายทำให้เขายิ้มเล็กน้อย ทำไงได้ทั้งวันมีแต่เดินๆๆ ยายท่านก็เดินเร็วฉิบ เรียกว่าระหว่างทางเขาได้ทักษะอดทนมา 20 ระดับเลยทีเดียว เขาเปิดหน้าต่างระบบออกเข้าไปในเว็บบอร์ดของเกมแล้วลองค้นหาคำว่าภาษาดู

                    เขาพบว่าพวกผู้เล่นจะสามารถเข้าใจได้แค่ภาษาในทวีปเริ่มต้นกับทวีปหลักเท่านั้น ส่วนพวกภาษาอื่นๆนั้นต้องศึกษาเอาเอง พูดง่ายๆก็คือนับหนึ่งใหม่ พวกผู้เล่นไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้มากเท่าไหร่เพราะแค่ทวีปเริ่มต้นกับทวีปหลักพวกผู้เล่นยังสำรวจกันไม่หมดเลย แต่ก็มีผู้เล่นบางคนศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังจนได้รับตำแหน่งเป็นทูตให้ไปเชื่อมสัมพันธ์กับพวกภูติหรือเอลฟ์

                    เด็กหนุ่มตัดสินใจเดินหาหนังสืออีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาจะหาอย่างละเอียดเผื่อจะมีหนังสือสอนภาษาก็ได้ถ้าเขาคิดถูกต้อง และแล้วเขาก็เจอกับหนังสือเล่มอภิมหาโคตรวงศ์ตระกูลยักษ์ ตรงสันหนังสือเขียนไว้ว่า ตำราภาษาครอบจักรวาลเอ่อ...มันเวอร์ไปป่าว แต่ชั่งเถอะ

                    ในหนังสือบอกไว้ว่าในโลกแห่งนี้มีภาษาอยู่ทั้งหมด สิบห้าภาษา ได้แก่

    1.             ภาษาโมเลส ซึ่งผู้เล่นสามารถอ่านออกเขียนได้ ประมาณว่าต่อให้ผู้เล่นเขียนภาษาอังกฤษลงไปพอคนญี่ปุ่นมาอ่านระบบก็จะทำการแปลให้เป็นภาษาญี่ปุ่นให้

    2.             ภาษาภูติ ต้องศึกษาเอง

    3.             ภาษาเอลฟ์ ต้องศึกษาเอง

    4.             ภาษาเทพ ต้องศึกษาเอง

    5.             ภาษามาร ต้องศึกษาเอง

    6.             ภาษามังกร ต้องศึกษาเอง

    7.             ภาษามาเรดิก ต้องศึกษาเอง

    8.             ภาษาไซคิ ต้องศึกษาเอง

    9.             ภาษาเพนตากอน ต้องศึกษาเอง

    10.      ภาษาคาเมรอท ต้องศึกษาเอง

    11.      ภาษาจักรกล ต้องศึกษาเอง

    12.      ภาษายักษ์ ต้องศึกษาเอง

    13.      ภาษาโบราณ ต้องศึกษาเอง

    14.      ภาษาบรรพกาล ต้องศึกษาเอง

    15.      ภาษาดึกดำบรรพ์ ต้องศึกษาเอง

     

    “เหๆๆ เอาหละ มาดูกันดีกว่า ในโลกจริงฉันก็พูดได้หลายสิบภาษาเหมือนกันแค่นี้สบายๆ...มั้ง” ถึงจะพูดงั้นแต่เขาไม่สามารถควบคุมเหงื่อที่ไหลออกมาได้เลย ตอนเป็นเด็กเขาชอบดูหนัง การ์ตูน หรือนิยายอะไรทำนองนี้แต่เขารู้สึกว่าผู้แปลแปลไม่ได้ดั่งใจเขาเลย นั่นจึงเป็นเหตุทำให้เขาศึกษาภาษาอย่างจริงจังแม้จะอยู่คณะเศรษฐศาสตร์

            ด้านนอกคุณยายที่แอบมองดูอยู่ยิ้มเล็กน้อย “พอลค่ะ ดูเหมือนเด็กคนนี้จะสามารถสืบทอด ปณิธานของคุณได้ ฉันจะช่วยเขาหน่อยแล้วกัน กาลเวลาจงบิดเบี้ยว

            ทางด้านเรนาส

            /ตอนนี้ท่านอยู่ในห้องเร่งกาลเวลาค่ะ เนื่องจากความเร็วสมองของท่านคือ 200 ดังนั้น 1ชั่วโมงโลกภายนอก เท่ากับ200วันภายในเกม ท่านจะอยู่ในสภาวะอิ่มทิพย์และไร้ความง่วงค่ะ/

            “เห...ห้องนี้เร่งกาลเวลาได้หรอ ดี!!! ก่อนออฟไลน์ฉันจะเรียนมันให้หมด” เรนาสกล่าวอย่างมุ่งมั่น เขาจะไม่ออกจากห้องนี้จนกว่าเขาจะศึกษาภาษาเหล่านี้จนหมด

            ภาษาภูติกับเอลฟ์ยังไม่ค่อยเท่าไหร่เพราะมีลักษณะการผสมดัดแปลงจากภาษาในโลกความเป็นจริงห้าภาษาคือ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี และสเปน แต่เขาก็ใช้เวลาไปไม่น้อยเหมือนกันกว่าจะศึกษาจนถึงขั้นอ่านออกเขียนได้

            ภาษาไซคิ เป็นการรวมของภาษา จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งเขาก็ผ่านมันมาได้

            แต่จากนี้ไปแทบเรียกว่าลากเลือด เพราะภาษาที่เหลื่อเป็นสิ่งที่ถูกบันหยัดขึ้นมาใหม่ ตัวอย่างภาษาจักรกล คำๆหนึ่งหรือประโยคๆหนึ่งเหมือนกับเป็นการนำเส้นมาเรียงต่อกันจนมีลักษณะคล้ายแผงวงจร ทั้งการออกเสียงที่ไม่คุ้นสำเนียง

            แต่ท้ายที่สุดก่อนหมดเวลาออฟไลน์เขาก็สามารถทำมันสำเร็จ เขารู้ทุกภาษาภายในโลกนี้แล้ว...

            หลังจากออฟไลน์ตอน 8.00น. เรนอาบน้ำลงไปทานอาหารและขึ้นมาออนไลน์ต่อทันทีเนื่องจากเป็นวันเสาร์ หลังจากออนไลน์เข้ามาเขาก็มาอยู่ที่ห้องอ่านหนังสือตามเคย หลังจากที่เขาเข้าใจทุกภาษาเขาก็จัดการอ่านหนังสือพวกนี้ให้หมด

            เรนาสพบว่าหนังสือพวกนี้เป็นหนังสือประวัติศาสตร์ของโลกแห่งนี้แทบทั้งหมด ส่วนที่เหลือเป็นตำนานเกี่ยวกับเมืองที่สาบสูญหรือตำนานของบางเมือง เขาใช้เวลาในการอ่านและจดจำสิ่งเหล่านี้จนครบทวนก็ใช้เวลากว่าสามร้อยวัน

            /เนื่องจากผู้เล่นสามารถทำความเข้าใจทุกภาษาบนโลกแห่งนี้และอ่านหนังสือในห้องทำงานของพอลครบทุกเล่ม ทางระบบจึงมอบอาชีพให้ท่านค่ะ/

            /ระบบกำลังประมวลความเหมาะสม/

            /ท่านได้รับอาชีพ นักโบราณคดี ค่ะ/

            /ท่านได้รับชุดเซ็ทนักโบราณคดีค่ะ/

            “หะ เหะ เหหหห!!!!!

     

            ตอนนี้มีเด็กชายคนหนึ่งกำลังทานซุปที่คุณยายเตรียมมาให้ หลังจากออกมาจากห้องสมุดก็ผ่านมาได้สี่วันแล้ว สองวันที่ผ่านมาเขาใช้เวลาในการฝึกอาวุธให้ชินโดยที่อาวุธที่เลือกคือธนู ตอนแรกก็อยากจะฝึกดาบไปตัวๆกับสัตว์อสูรอยู่หรอก แต่มันติดตรงที่ว่าอาชีพที่เขาได้มันดันไม่มีทักษะโจมตีเลยนี่สิ ถ้าเป็นทวีปเริ่มต้นละก็เรื่องแค่นี้ถือว่าเล็กน้อยมาก แต่ที่ทวีปโบราณนี้สัตว์อสูรระดับต่ำสุดคือราชาเนี่ยสิ ถ้าจะถามว่าทำไมไม่ใช้เวทย์ละก็ เพราะตอนนี้เขาที่เป็นชนชั้นสามัญชนไม่สามารถฝึกเวทย์ระดับสูงได้เพราะงั้นฝึกไปก็ไม่สามารถอยู่รอดภายนอกกำแพงได้ ที่เขาฝึกส่วนมากจะเป็นการฝึกยิง เคลื่อนที่และพรางตัว

            “ผมไปฝึกก่อนนะครับ” เรนาสพูดพร้อมลุกจากเก้า “จ้ะ หลานรัก” ดูเหมือนระหว่างที่อยู่ด้วยกันทำให้คุณยายและเรนาสเริ่มรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เด็กหนุ่มคว้าธนูและสะพายที่เก็นลูกศรก่อนเดินออกจากบ้าน

            สถานที่ฝึกธนูอยู่ไม่ไกลมาก หลังจากเดินออกจากบ้านให้เดินขึ้นเหนือจะเห็นทางเลี้ยวให้เลี้ยวไปทางขวา หลังจากนั้นก็ตรงอย่างเดียว ไม่นานเขาก็เจอกับประตูทางเข้าสถานที่ฝึกทำจากไม้ที่คล้ายกับประตูทางเข้าค่ายลูกเสือ สี่วันมานี้เขาฝึกจนสามารถกระโดดตามกิ่งไม้พร้อมยิ่งธนูเวลาที่มีลมแรงเข้าเป้าในระยะไม่เกินหกร้อยเมตรมาแล้ว  วันนี้เขาจะมาฝึกที่นี้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนออกเดินทาง แม้จะยังไม่สามารถสังหารสัตว์อสูรได้แต่เขามันใจในความเร็วและไหวพริบของตัวเอง สิ่งที่เขาจะทำคือหาทางออกจากทวีปโบราณพร้อมเพื่อไปยังทวีปหลัก

            ตอนนี้เพิ่งตีสี่ยังไม่มีคนมา เขากระชับคันศรในมือซ้าย มือขวาหยิบลูกธนูขึ้นมา สายตาจ้องไปยังเป้ารูปคนที่อยู่ห่างออกไปหกร้อยเมตร ลูกธนูสัมผัสกับสายธนู ดวงตาสีเขียวรี่เล็กลง มือค่อยๆดึงลูกธนูจนสุด ฟิ้วววว ฉึก ตำแหน่งหัวใจ

            หลังจากนั้นเรนก็ยิ่งต่อไปเรื่อยๆด้วยระยะห่างที่มากขึ้น จากหกร้อยเมตรเป็นหกร้อยสิบเมตร หลังจากได้ระยะที่ไกลกว่าเดิมก็เปลี่ยนเป็นเป้าเคลื่อนไหว ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนถึงช่วงกลางวัน เขาจึงกลับบ้าน

            “กลับมาแล้วครับ” เรนพูดหลังจากปิดประตู

            “ยินดีต้อนรับกลับจ้ะ” ยายวาเนลตอบกลับ “มากินข้าวเถอะ ยายทำไว้ให้แล้ว” พอได้ยินเด็กหนุ่มก็วิ่งไปยังโต๊ะกินข้าวทันที สเต็กเนื้อกระต่าย คือเมนูกลางวันนี้

            “ยายครับ ผมว่า ผมจะออกเดินทางครับ” เรนพูดขึ้น คุณยายพยักหน้า “ยายรู้ว่าหลานจะต้องไป แต่ก่อนอื่นยายมีเรื่องจะขอร้อง”

            “ถ้าผมช่วยได้ผมก็ช่วยครับ” เรนยิ้มตอบ สีหน้าคุณยายผ่อนคลายลง

    “มันเป็นสิ่งที่พอล สสามีของยายตั้งใจไว้ ตอนแรกยายกับพอลเป็นคนที่มาจากทวีปมาเลซ(ทวีปหลัก) อาชีพที่หลานได้รับคืออาชีพที่บรรพบุรุษของพอลสร้างขึ้น หลังจากที่ยายและพอลมีพลังมากพอก็เดินทางมาปักหลักอยู่ที่นครแห่งนี้ ความฝันของพอลคือเดินทางมาสำรวจและไขปริศนาของอาณาจักรที่ล่มสลายและสถานที่ต่างๆ ตำราเรื่องสิ่งต่างๆในทวีปนี้เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของพอลเขียนขึ้นแต่ปริศนาต่างๆก็ยังไม่ได้ถูกแก้ แต่พอลก็มาตายซะก่อน”

                    “ยายอยากให้หลานสืบทอดปณิธานของพอล ไขความลับของทวีปแห่งนี้”

                    /ท่านได้รับภารกิจ ไขปริศนาแห่งทวีปโบราณ/

                    /ยอมรับ/                                                /ไม่ยอมรับ/

                    เด็กหนุ่มกดยอมรับ “ผมจะทำครับ”

     

    (มันจะโอเวอร์แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2025

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×