คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : S: yandere
ช่วงเย็นของวันที่ไม่มีภาระกิจที่ต้องออกไปไหนเหล่าการ์เดียนสาขาอังกฤษต่างพักผ่อนอยู่ในที่ทำการสาขาซึ่งตอนนี้ถือเป็นบ้านของพวกเขา เช่นเดียวกันกับคนเก่าทั้งสามซึ่งอยู่ในฐานนี้ก่อนที่จะได้เลื่อนขั้นเป็นการ์เดียนในห้องนั้งเล่นที่พวกเขามักมาอยู่ร่วมกันในเวลาว่างมิร่ากับเซจิคุยกันเรื่อยเปื่อยโดยที่สาวผมทองแย้มยิ้มอย่างสดใสเหมือนเด็กผู้หญิงธรรมดาต่างจากเวลาปกติที่ชอบทำตัวเหมือนพวกโรคจิตขณะที่ชายหนุ่มผมสีเทาเข้มยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนกว่าปกติแสดงถึงความที่ทั้งสองต่างยกให้อีกฝ่ายเป็นคนพิเศษโดยไม่ทันรู้ตัวว่าดวงตาสีน้ำตาลทองงดงามกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ที่อีกมุมของห้องนั่งเล่น
ชายหนุ่มผมแดงเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลทองนามเอเรียสแสร้งทำเป็นอ่านหนังสือขณะที่แอบจ้องมองอีกสองคนในห้องด้วยความไม่พอใจ
“ทั้งที่ฉันมาก่อนแท้ๆ ทั้งที่เมื่อก่อนเซจิคอยดูแลฉันคนเดียว ทั้งที่เมื่อก่อนฉันคือน้องชายคนสำคัญของเซจิ แต่ทำไม ทำไมตอนนี้เซจิกลับสนใจแต่เธอ ยัยมิร่า! เป็นเพราะความกระแดะของเธอ เธอมารยาเสแสร้งสินะ ทั้งๆที่ทุกคนก็รู้ว่าเธอน่ะมันจิตวิปริต แล้วทำไมเซจิถึงให้ความสำคัญกับเธอมากกว่าฉัน ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาพี่ชายก็เปลี่ยนไปเลิกสนใจฉันสนใจแต่เธอคนเดียว คิดจะแย่งเซจิ คิดจะแย่งพี่ชายไปจากฉันใช่ไหม เธอแย่งความรักจากพ่อแล้วยังไม่พอใจอีกสินะถึงต้องมาแย่งพี่ชายไปอีกคน ถึงจะดีใจที่ได้มีน้องสาวก็เถอะ แต่น้องสาวอย่างเธอน่ะตายๆไปซะยังดีกว่า!!!”
ตกช่วงกลางคืนหลังจากที่ทุกคนเข้านอนภายในห้องพักส่วนจิตใจที่ร้อนรนทำให้ชายหนุ่มผมแดงไม่อานข่มตาหลับได้ เมื่อนึกถึงใบหน้าพี่ชายและน้องสาวคนเล็กที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขและท่าทางที่รักใคร่ทำให้จิตใจของเขาว้าวุ่น สายตาตอนที่มิร่ากอดเซจิแล้วเหล่มองเขาราวกับจะเยอะเย้ยนั้นทำให้ยิ่งหงุดหงิด ทันใดนั้นเอเรียสหันไปห็นมีดที่เขาใช้ปฏิบัติภารกิจดวงตาสีน้ำตาลทองมองมีดนั้นด้วยแววตาเย็นชาปนอาฆาตก่อนตัดสินใจคว้ามีดนั้นแล้วตรงไปที่ห้องนอนของผู้มิร่า
ร่างบนเตียงสีขาวซุกอยู่ใต้ผ้าห่มนุ่มนิ้มอย่างสงบลมหายใจที่สม่ำเสมอนั้นทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังหลับสนิท เอเรียสกำมีดแน่นมองร่างบนเตียงด้วยสายตาอาฆาต
“อะไรกันที่เธอใช้ล่อลวงเซจิ ผิวขาวๆนั้นของเธอที่ดูเหมือนไม่มีกล้ามเนื้อแต่พลังช้างนั้น? หรือจะเป็นดวงตากลมของเธอที่คอยมองเซจิด้วยสายตาออดอ้อน แขนเล็กๆนั้นที่คอยกอดเกาะแกะพี่ชายสินะ หรือเธอใช้เสียงเพราะๆนั้นเรียกพี่ชายอย่างอ่อนหวานแต่สำหรับฉันมันน่าสะอิดสะเอียนสุดๆ หุ่นเพรียวของเธอที่มักใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดสีขาวนั้นทำใหพี่ชายหลงหรือไง ดวงตาสีน้ำเงินส่อประกายโรคจิตที่มักจะดูใสซื่อเมื่ออยู่ต่อหน้าเซจิงั้นเหรอ? แต่จะอะไรก็ช่างเถอะพอถึงเช้าวันพรุ่งนี้เธอจะไม่ได้ล่อลวงพี่ชายอีกต่อไป”
“ต่อจากนี้พี่ชายจะเป็นของฉันคนเดียว”
คนเดียวเท่านั้น
มือเรียวง้างมีดเตรียมแทงทะลุหัวใจของร่างบนเตียงแต่แล้วกลับหยุดชะงักเมื่อจิตสำนึกคิดถึงเมื่ออดีตตอนที่มาสเตอร์รับเธอคนนี้เข้ามาอยู่ในครอบครัว เด็กหญิงที่ดูภายนอกเหมือนจะอายุเก้าปี ดวงตาสีน้ำเงินสงบนิ่งไร้แววตา ใบหน้านิ่งราวกับว่าเป็นตุ๊กตาที่ขนาดเท่าคนจริง บอบบางใสซื่อราวกับเด็กน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลก ตุ๊กตาที่เขาและคนอื่นๆช่วยกันดูแลจนกลายเป็นมนุษย์ ขณะที่เอเรียสกำลังลังเลใจร่างบางคนเตียงก็ค่อยๆลืมตาขึ้น
“อ้าว อรุณสวัสดิ์เอเรียส” เสียงหวานกล่าวทักทายเขาอย่างงัวเงียขณะที่เอเรียสทำอะไรไม่ถูกจึงได้แต่ลดมีดลงแล้วนิ่งเงียบ
“วันนี้แปลกนะที่นายมาที่ห้องนี้น่ะ ก็ พี่ ไม่ได้มาหาฉันเป็นการส่วนตัวนานแล้วนี่” มิร่าพูดขณะยิ้มบางๆ
“แต่ฉันดีใจนะที่นายสนใจฉันบ้างน่ะ เพราะนายชอบเย็นชาแล้วก็ถากถางฉันแต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ดีใจนะที่ได้อยู่ทีมเดียวกับนาย ถึงจะไม่ได้อยู่กับเซจิแต่ว่าถ้าได้อยู่กับนายฉันก็ยังอุ่นใจ ก็นายเป็นพี่ชายของฉันนี่” มิร่าพูดแล้วยิ้ม ขณะที่ฝ่ายคนฟังนิ่งเงียบน้ำตาใสๆไหลออกมาจากดวงแก้วสีต้ำตาลทองโดยไม่รู้ตัว
“ฉ......ฉัน....ฉันทำไม่ได้ ฮึก” น้ำตาที่ล้นออกมาไม่ขาดสายเอเรียสปล่อยมีดในมือตกพื้น
“แต่ฉันทำได้” เสียงหวานเม่อครู่แปลเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงเย็นชา รอยยิ้มบริสุทธิ์กลายเป็นแสยะยิ้มกว้างมือขาวกำชับมีดที่ซ่อนไว้แทงเข้าที่ท้องเอเรียสจนคนถูกแทงล้มลง
“มิร่า......” ร่างของเอเรียสนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น ดวงตาสีน้ำตาลทองเบิกตากว้างจับจ้องผู้เน น้องสาว
“นี่เซจิ” มิร่าพูดเสียงเรียบ
“ฉันรู้ส่านายรักเซจิมาก มากจนน่าชื่นชม แต่ว่าฉันน่ะรักเซจิมากกว่านายหลายเท่า สำหรับนายเซจิเป็นแค่พี่ชายแต่สำหรับฉันแล้วเซจิเป็นมากกว่านั้น เซจิเป็นเหมือนแสงสว่าง เป็นผู้ให้ชีวิต เป็นคนที่ฉันรักที่สุด......” มิร่าเว้นระยะแล้วก้มลงมองร่างที่นอนหอบอยู่บนพื้นด้วยสายตาสะใจ
“ฉันรักเซจิซะจนแทบจะเสียสละชีวิตฉันแทนได้ถ้าเกิดเขาตาย แต่ถ้าทำแบบนั้นเซจิก็จะตกเป็นของนาย ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็สู้ให้เซจิตายซะยังดีกว่า” เท้าขาวเหยียบลงบนอกของเอเรียสแล้วลงน้ำหนักกดลงไปจนได้ยินเสียงกระดูกหัก
“อึก!!” คนถูกทำร้ายครางออกมา ตอนนี้เขาไม่มีแรงแม้แต่จะร้องทำได้เพียงจ้องหญิงสาวด้วยเววตาอาฆาต
“แต่ถ้าเซจิตายไปฉันคงอยู่ไม่ได้ เพราะงั้นทางที่ดีที่สุด” มือเรียวลูบลงบนเส้นผมนุ่มสีแดงอย่างเบามือ
“คือการทำให้นายหายไปซะเอเรียส หลังจากนี้พี่ชายจะเป็นของฉันคนเดียว.........”
http://www.youtube.com/watch?v=zME2vrz_Hho
ส่วนเนื้อเรื่องหลักไรท์แต่งเรื่อยๆค่ะขอโทษที่ช้าแต่ไม่ทิ้งเรื่องนี้แน่นอน ถึงไรท์จะดองแต่ไรท์ก็ยังต้องการเม้นบ้างนะT T
คิดว่าจบแล้วสินะ
ต่ออีกหน่อยนะจ๊ะ
“แล้วทำไมฉันต้องถูกยัยนี่ฆ่าตายด้วย?” เสียงของชายหนุ่มถามอย่างไม่พอใจ
“ก็มันเป็นบท” ผู้รับหน้าที่เป็นผู้กำกับจำเป็นตอบ
“แต่ฉันว่าบทแบบนี้มันคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหน” หญิงสาวพูดอย่างครุ่นคิด
“อาร๊าย ไม่ได้ลอกใครมาซะหน่อย” ผู้กำกับจำเป็นตอบเสียงสูง
“เสียงสูงเลยนะแก” นายหนุ่มร่างสูงผมสีอ่อนพูดขึ้นทั้งที่ดวงตาทำท่าจะหลับ
“เรื่องกัดผมนี่ไม่เห็นจะง่วงเลยนะน้องแมว” คนถูกจับผิดเหล่มองผู้จับผิดตัวเอง
“ร้อนตัว ฮ้าว.......” ผู้ถูกเขม่นอ้าปากหาวแล้วกอดหมอนโซฟากลับทันที
“นายนี่นะ.....” แคปพูดยิ้มๆพรางส่ายหัวเบาๆ
“นี่แล้วทำไมคนอื่นๆไม่มีบทล่ะ?” ชาวนอร์เวย์นามคิลหรือที่คนอื่นเรียกว่าฮันนี่เป็นตัวแทนคนไร้บทถามขึ้น
“ก็ต้นฉบับ เอ๊ย บทของเรื่องนี้มันมีตัวละครน้อย” แคปพูดพรางหลบตามองไปทางอื่น
“ต้นฉบับ? แสดงว่าไปลอกมาสินะ” มิร่าพูดขณะที่ทุกสายตาในห้องจับจ้องไปที่แคปคนเดียว
“เปล๊า บทพูดน่ะผมแต่งเองหมดเลยนะ เฮ้เดี๋ยวสิเชื่อผมสิ เฮ่ยเย็นน่า เย็นไว้โยมว๊ากกกกกกก” แล้วเสียงร้องของแคปก็ดังออกมาจากห้องนั่งเล่นใหญ่ที่ใช้เป็นห้องประชุมเรื่องละครสั้นที่ต้องส่งให้สาขาใหญ่ในเทศกาลฮาโลวีนทุกปีแม้ว่าสำหรับสาขาเชฟฟิลจะเป็นครั้งแรกก็ตาม หลังผู้กำกับจะมีชีวิตรอดไปถึงปีหน้านะ
ความคิดเห็น