คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : รายงานหน้าที่3
วันต่อมา
ชายหนุ่มผมแดงนามเอเรียสเดินลงมาจากบันไดกลางโรงแรมที่ตกแต่งอย่างหรูหรา เอเรียสกวาดตามองไปรอบๆเพื่อหาใครบางคน และหยุดอยู่ที่คนกลุ่มหนึ่งที่กำลังนั้งอยู่ในร้านอาหารของโรงงแรม
“ไง คุณชายตื่นสาย” แคปริคอนเป็นคนแรกที่กล่าวทักเพื่อนซึ่งเป็นหัวน่าทีมที่ไม่ค่อยน่าเคารพของเขา
“ยังไม่ตายอีกหรอ คิดว่าโดนจับไปทำแกะย่างซะแล้ว นี่ๆฉันสั่งมาด้วยนะกินไหม?” มิร่ากล่าวด้วยน้ำเสียงใสบริสุทธิ์แล้วยื่นจานที่ตักเนื้อแกะย่างใส่ไว้ให้เอเรียส โดยที่เอเรียสเริ่มเดือนปุดๆ
“ใครว่าตื่นสายครับ ที่มันบ่ายสามแล้วนะครับแคป” เอไนท์พูดพร้อมดูนาฬิกา ทำเอาแคปพูดไม่ออกกับความซื่อของเพื่อน
-จะเรียกแกว่า ซื่อสัตย์ หรือ ซื่อบื้อ ดีฟะ-
“เอาน่าๆ เอเรียสมากินข้าวเถอะเดี๋ยวจะถึงเวลาออกไปทำภารกิจต่อแล้วนะ” เซจิบอกเอเรียส พรางสะกิดให้เชสเซียร์ที่หลับไปแล้วตื่นขึ้นมาทานข้าวเย็น
“ถ้าปล่อยให้ท้องว่างเดี๋ยวจะได้หิวจนเผลอกินอสูรเข้าไปนะ” เซจิเตือนด้วยรอยยิ้มแล้วตักอาหารใส่ปาก
เมื่อทานอาหารเสร็จเซจิก็ได้เรียกรถมารับ รกตู้แล่นผ่านเขตเมืองของญี่ปุ่นหลายคนดูวิวรอบๆอย่างตื่นตาเพราะนานมาแล้วที่พวกเขาไม่ได้ออกมาในเมืองใหญ่แบบนี้ และญี่ปุ่นก็ต่างจากอังกฤษหลายๆอย่าง
เวลาประมาณห้าโมงรถแล่นมาถึงที่หมาย เหล่าสมาชิกการ์เดียนทั้ง6ก้าวลงมาจากรถด้วยชุดเครื่องแบบการ์เดียนสีดำมันขอบเงินเย็บจากผ้าสังเคราะห์พิเศษทำให้มีความทนทานมากกว่าผ้าปกติ
“ที่นี่........”เอเรียสมองไปรอบๆพร้อมจัดชุดให้เข้าที่เพราะการเปลี่ยนเสื้อผ้าบนรถนั้นยากลำบากพอสมควร
“อดีตที่ทำการการ์เดียนสาขาญี่ปุ่น” มิร่าพูดพร้อมจ้องมองไปที่ตึกร้างเก่าๆที่มีต้นไม้ขึ้นรกราวกับอาคารในหนังเรื่องจุลสิคปาร์ค2 ส่วนเรื่องเสื้อผ้ามิร่าแค่ใส่เป็นเสื้อคลุมยาวกับเสื้อแขนกุดสีขาวและกางเกงขาสั้นสีดำ ที่ใส่ไว้ข้างใน
“มีคนแจ้งมาว่ามีคนถูกทำร้ายด้วยสัตว์ประหลาดแถวๆนี้ มันอาจอยู่ในป่าด้านหลังหรืออาจซ่อนอยู่ในตัวตึกก็ได้ ให้พวกเราช่วยตรวจสอบกันหน่อยแล้วกัน” เซจิประกาศภารกิจให้ทุกคนในทีมฟัง
“น่าขำนะ ที่ทำการการ์เดียนแท้ๆแต่ดันมอสูรอาศัยอยู่”เชสพูดขึ้นมา
“นั้นสิแล้วไหนพวกฮันเตอร์ บอกว่าที่นี่เป็นเขตของตัวเองไม่ใช่หรอไม่เห็นมาจัดการ?” แคปพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อพูดถึงฮันเตอร์
“ก็พวกเค้าทำงานเพื่อหวังค่าตอบแทนนี่ครับ ถ้าไม่มีคนไปว่าจ้างพวกนั้นก็ไม่ทำหรอก” เอไนท์บอก
“ดูร้างน่าดูเลยนะที่นี่น่ะ” มิร่าพูดพร้อมสำรวจด้านหน้าของอาคาร
“ก็ย้ายออกไปนานแล้วที่นะ ในอดีตเคยมีที่ทำการการ์เดียนสาขาญี่ปุ่นมาก่อน แต่ที่ญี่ปุ่นนั้นมีพวกฮันเตอร์อยู่เยอะพอๆกับที่อิตาลีเพราะเป็นเขตแดนของพวกยากุซ่า การ์เดียนที่เป็นเหมื่อนทหารมักจะมีปัญหากับฮันเตอร์ประจำ จนเกือบเกิดสงครามเงียบๆระหว่างฮันเตอร์กับการ์เดียนสาขาญี่ปุ่น ทางเบื้องบนกลัวว่าจะเกิดความเดือนร้อนไปถึงประชาชนเลยตัดสินใจทำสัญญาสงบศึกกับพวกฮันเตอร์ด้วยการยุบการ์เดียนสาขาญี่ปุ่นซะ พวกเราเลยถูกแยกกันไปคนละทาง”แคปเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง ในอดีตเขาเคยอยู่สังกัตการ์เดียนสาขาญี่ปุ่นแต่อยู่ได้ถึงหนึ่งปีเต็มสาขานี้ก็ต้องถูกยุบแล้วเขาก็ถูกส่งตัวไปสำนักงานใหญ่ที่รัสเซีย
“บ้านเก่านายสินะ” เชสพูดแล้วมองแคป อีกฝ่ายให้คำตอบมาด้วยการพยักหน้า
“งั้นแบ่งกลุ่มกันเถอะ เอเรียส มิร่า แคป พวกนายสำรวจภายในอาคารกับพื้นที่รอบๆ ส่วนฉัน เชส เอไนท์ จะสำรวจป่าแถวนี้ เริ่มภารกิจ” เมื่อสิ้นเสียงของเซจิ ทุกคนต่างแยกย้ายไปทำงาน
ด้านในป่า
เซจิที่เมื่อสั่งการเสร็จก็รีบเข้ามาในป่าทั้นที เขาเหลือบมองท้องฟ้ากลายเป็นสีแดงแสดงให้เห็นถึงเวลาอาทิตย์อัสดง ซึ่งเป็นเวลา ‘ออกหากิน’ ของอสูรหลายชนิด ชายหนุ่มกระชับอาวุธในมือแล้วมองไปรอบๆอย่างระวังตัว
กรรรรรรรร!
เสียงร้องคำรามดังออกมาจากเงามืด พร้อมร่างเจ้าของเสียงที่กระโดดออกมาจากด้านหลังเซจิ เมื่อสัมพัสได้ถึงอันตรายเซจิจึงกระโดดหลบขึ้นไปบนต้นไม้ แล้วมองลงมาที่อสูรข้างล่าง
“คิเมร่า?” เซจิกล่าวสายพันธ์ของอสูรตนนั้นอย่างแปลกใจ ปกติคิเมร่าจะอยู่ในป่าลึก และไม่น่าจะมีมันอยู่ในที่ใกล้ผู้คนแบบนี้
“ กรรรรรร!!” ไม่มีเวลาให้คิดมาก เจ้าคิเมร่าตัวใหญ่ใช้กรงเล็บของมันตะปบโคนต้นไม้ที่เซจิอยู่จนหักเป็นสองท่อน
ปั้งๆ ๆ
ไม่รอให้อีกฝ่ายโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว เซจิยิงปืนกระสุนเงินสวนกลับไปโดนขาขวาเจ้าคิเมร่าจนล้ม แต่ไม่จบแค่นั้นดูเหมือนจะยิ่งทำให้มันโกรธแล้วพุ่งเข้าหาเขาอีกรอบ
“งานนี้เจอของหนักแล้วไงล่ะ” เซจิพูดเสียงแห้งพร้อมกับดวงตาสีแดงที่เรืองแสงออกมา
รากไม้และเถาวัลย์ตามทางขาดออกจากกันด้วยมือของหนุ่มผมเขียว ‘เชสเซียร์’ ส่วนมืออีกข้างกุมจมูกของตัวเองไว้
ดวงแก้วสีอัมพันสวยจ้องมองไปตามทางหาต้นตอของ ‘กลิ่น’ อันไม่น่าพิษมัย กลิ่นเหม็นเน่าของซากศพ
“กลิ่นแรงขึ้นแล้วใกล้ๆนี่แหล่ะ” เชสพูดกับตัวเองพร้อมเท้าทั้งสองที่ลดความเร็วลง
“ให้ตายสิ กลิ่นแรงเป็นบ้าเลย” เชสบ่นออกมาเมื่อใกล้ถึงต้นตอของกลิ่นเหม็นเน่านี้ สาบานได้ว่าถ้าไม่ใช่ภาระกิจคนจมูกดีอย่างเขาจะไม่เฉียดเข้าใกล้กลิ่นเม็นเน่าพวกนี้แน่ มือขาวเกือบซีดปัดเถาวัลย์ที่ขวางทางออก เมื่อพบสิ่งที่ตามหาเชสรีบหลบหลังม่านไม้ทันที่
ซูปราคาบราสองตัวรุมกินซากศพของสัตว์ชนิดหนึ่งที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นตัวอะไรเนื่องจากซากศพเหมือนถูกกระชากออกจากกันจนไม่เป็นรูปเป็นร่าง
“ชิ ดันมาเจอพวกไก่หมู่นี่ได้ คำสั่งว่าให้ตรวจไม่ได้ให้สู้สินะ งั้นไปรายงานคุณหัวหน้าผมแดงดีกว่า” เชสพูดอย่างเลี่ยงๆพรางปิดปากหาว
แซกๆ!!
กรรรร!! แต่ไม่ทันนที่จะได้ไปจากจุดนั้น ซูปราคาบราสองตัวที่รับรู้ว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญมามองพวกมันกินอาหารเย็นต่างพากันส่งเสียงร้องออกมา และส่งสัญญาณเรียกเพื่อนของมันมาอีก4ตัว
‘งานงอกอีกแล้ว ให้ตายสิ’ เชสสถบในใจก่อนจะเข้าไปลงมือฟัดกับพวกกลิ่นตัวเหม็นเน่าที่เขาเกลียดนักเกลียดหนา
อีกฟากหนึ่งของป่า
“อ.....เอ๋” ดวงตาสีฟ้าเนื่องจากการตกแต่งของเอไนท์กวาดตามองไปรอบๆมีแต่ ต้นไม้ ต้นไม้ และต้มไม้ หนุ่มร่างเล็กความสูงน้อยเอไนท์มองสภาพรอบๆอย่างงงๆเพราะไม่รู้จะไปทางไหนดี ถ้าจะให้กลับทางเดิมขอตอบตรงๆเลยว่าเขาลืมไปแล้วว่ามันทางไหน
“เอาไงดีเนี่ย” เอไนท์บ่นเบาๆ พรางสุ่มทางเดิน
กรึก แกรบๆ ตึก
“ว...หวา!!!!!!!!” ด้วยโชคหรือความซุ่มซ่ามก็ไม่อาจรู้ได้ เอไนท์ผู้น่ารักสะดุดล้มกลิ้งตกเนินเขา
“ แอก ” เอไนท์ร้องออกมาเมื่อเข้าชนกับต้นไม้ด้านล่าง เจ้าของส่วนสูงอันน้อยนิดเมื่อเทียบกับคนรุ่นเดียวกันดันตัวให้ลุกขึ้นนั่ง ความรู้สึกโล่งๆบนหัวทำให้หนุ่มร่างเล็กใช้มือลูบๆบนศรีษะของตน
“แว่น!!!!!! แว่นหายไปไหน!!!!!!!” เอไนท์ร้องลั้น แล้วคลำหาแว่นตาสีชาของรักของหวงที่มักคาดไว้บนหัว
ตุบ!! อยู่ๆแว่นตาสีชาเจ้ากรรมก็ตกลงมาตรงหน้าพร้อมความรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆรดเหนือศรีษะ และเมื่อเงยหน้าดู
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” เอไนท์ร้อวด้วยความตกใจแล้วรีบกระโดดขึ้นต้นไม้
“ม....หมา?” หมาป่าขนฟู สีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีเขียวเข้มจ้องมองไปที่เขา เอไนท์เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงทำไมน่ะเหรอ ก็เจ้าสุนัขป่าตั้วนั้นดันตัวใหญ่เท่ารถยนต์น่ะสิ
“โฮ่ง!!” หมาป่าสีน้ำตาลตัวยักษ์เห่าขึ้น พร้อมกระดิกหางไปมาเหมือนชิสุเจอเจ้านาย
“อ....เอ่อ” เอไนท์ในตอนนี้มึนตึบสมองเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามเตมไปหมดจนเมื่อ.....
“โฮ่ง!!” หมาป่าที่ทำท่าทางเหมือนชิสุคาบแว่นสีชาที่เอไนท์ลืมหยิบขึ้นมาด้วย แล้ววิ่งหายไปในป่า
“อ....ไอ้หมาบ้าเอวแว่นฉันคืนมา!!!!!!!!!!!!!!” เอไนท์ที่เห็นหมาป่าคาบแว่นสุดหวงไปต่อหน้าต่อตากระโดดลงจากต้นไม้แล้ววิ่งตามหมาป่าไป
แสงสว่างเรืองรางอยู่ด้านหน้าอย่างน่าสงสัยพร้อมร่างหมาป่าสีน้ำตาล เอไนท์ได้ทีกระโดดตระคุบหางหมาป่าเอาไว้ จนมันเสียหลังล้มทั้งสองร่างกลิ้งออกมาในพื้นที่ราบกลางป่า ดาวตาสีฟ้าหลี่ลงเพื่อปรับให้ชินกับแสงทั้งที่นี่เป็นตอนกลางคืนแต่กลับมาแสงเจิดจ้า เมื่อสายตาปรับเข้ากับความสว่างได้เอไนท์จึงพอเห็นอะไรชัดเจนขึ้น
เปลวไฟลุกโหมเผ่าไหม้กอหญ้าแห้ง ซากซูปราคาบราจำนวนหนึ่งกองกระจายอยู่บนพื้น พรรคพวกของมันที่เหลือรุมล้อมร่างหนึ่งเข้าไว้ ชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของเลือนผมสีเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ที่ขารู้จักดี
“เชส...” เอไนท์เรียกเพื่อนของตน
“หือ?...” เชสเซียร์หันกลับมามองเขาด้วยสีหน้าเฉียชาเหมือนปกติ
“ให้ช่วยไหม?” เอไนท์ถามขึ้นเพราะดูเพื่อนของตนจะไม่ค่อยลำบากเท่าไรในการจัดการกับอสูรมารพวกนี้
“อืม.....ไม่ต้องหรอก นายช่วยกัดการไอ้เห็บข้างหลังนั้นทีสิ” เชสเซียร์ตอบพร้อมมองไปด้านหลังของเพื่อน เอไนท์หันมองตามเห็นเข้าหมาป่าตัวใหญ่สีน้ำตาลนั้งหนาสลอนพร้อมคาบแว่นสีชาของเขาอยู่
“อ๊ากกกกกกกก แว่นช้านนนนนนนน แกเอาคืนมานะไอ้หน้าเห็บ ” เอไนท์ที่เห็นแว่นตัวเองอยู่คาปากเจ้าหมายักษ์ก็ตรงเข้าไปฟาดด้วยท่อนไม้ที่เก็บได้ข้างทาง ทำเอามันเซหัวหมุนเลยทีเดียวแต่มันก็ยังไม่ยอมปล่อยแต่กลับวิ่งหนีเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย
ในอาคารทางด้านมิร่า
แสงจากไฟฉายส่องให้ทางเดินสว่างพอที่จะมองเห็นอะไรได้บ้าง ดวงตาสีฟ้าใสกวาดมองตามทางแต่ยังไปพบสิ่งมีชีวิตใด จนเมื่อเดินผ่านห้องห้องหนึ่งรางสังหรบางอย่างเรียกให้เธอเปิดประตูเข้าไป ห้องคล้ายๆห้องเก็บของขนาดใหญ่เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ผุๆพังๆ มิร่าจึงลองสำรวจภายในห้องดูจนไปถึงซอกหนึ่ง ร่างเด็กสาวผมดำในชุดนักเรียนญี่ปุ่นถูกมัดด้วยโซ่อย่างแน่นหนาเส้นผมสลวยสีดำตกลงมาปลกหน้าดูหลอนอย่างบอกไม่ถูก
“ไม่ใช่ภาระกิจไม่ต้องสนก็ได้มั้ง” มิร่าบ่นปัดๆไป อย่าเข้าใจผิดไปเธอไม่ได้กลัวผีนะแค่ไม่ชอบอะไรหลอนๆสยดสยองแค่นั้นเอง(ทำเหมือนคุณเธอไม่สยองเลย)
“....เดี๋ยวสิคะ ช่วยฉันด้วย ช่วยด้วยค่ะ” เด็กสาวผมดำตื่นขึ้นมาร้องเรียกเธอเอาไว้
“เธอเป็นใครน่ะ” มิร่าหันกลับไปมองหน้าเด็กสาว ดวงตาสีดำสนิทคู่สวยประดับบ่นใบหน้ามนสวยขาวเนียนได้รูปดูสวยแบบสาวญี่ปุ่น
“ฉัน.....” คนถูกถามกำลังเอ่ยตอบแต่ไม่ทันไดพูดอะไรเสียงประตูห้องถูกเปิดออกทำเรียหความสนใจจากบุคคลทั้งสอง
“ไง รอนานไหมคุณหนู” เสียงทุ้มของผู้ชายดังขึ้นจากหน้าห้องพร้อมร่างสูงโปร่งสองร่างเดินเข้ามา
“พวกแกเป็นใคร” มิร่าอาศัยความมืดเข้าล็อคคอชายคนหนึ่งเอาไว้แล้วเอามีดเล่มยาวที่ยืมเซจิมาจ่อคอเพื่อขู่
“ก....แก การ์เดี้ยน” ชายอีกคนร้องออกมาพร้อมกระชับปืนในมือให้แน่นขึ้น
“พวกฮันเตอร์?” มิร่าพูดอย่างสงสัยเพราะดูจากรูปภายนอกแล้วไม่น่าใช่โจรธรรมดาเป็นแน่
“หึ ก็รู้ดีนี่ ว่าแต่พวกแกเข้ามาทำอะไรในนี้ คงไม่ได้คิดจะทำผิดสัญญาระหว่างสมาคมใช่ไหม” ชายผู่ถูดเธอล็อคเอาไว้พูดขึ้น
“หึไม่หรอก แค่มาเดินเล่นน่ะ” มิร่าพูดด้วยน้ำสียงหยี่ยวนกวนประสาท
“งั้นก็เชิญไปเดินเล่นที่อื่นด้วย อย่ามาขัดขวางการทำงานของเราแล้วปล่อยเพื่อนฉันได้แล้ว” ฮันเตอร์หนุ่มพูดเสียงเย็นพรางจ่อปืนมาที่เธอ
“ไม่ได้หรอกนะ เพราะฉันน่ะ.....อั๊ก” เมื่อเห็นจังหวะที่มิร่าเผลอคนถูกล็อคก็ใช้ศอกฟาดเข้าที่ท้องของเธอจนมิร่าทรุดลงด้วยความเจ็บปวด
“คุณ.....อ๊ะ” สาวญี่ปุ่นที่ตอนนี้กลายเป็นเป้าหมายร้องขึ้นด้วยความเป็นห่วงแต่แล้วเธอก็ถูกชายคนหนึ่งกระชากคอเสื้อขึ้น
“นี่.....หาเรื่องกันแล้วคิดจะชิ้งหนีกันหรือไง ชักจะโมโหขึ้นมาแล้วนะ พวกแกน่ะต้องชดใช้ที่ทำร้ายฉันด้วยการถูกเชือดเป็นชิ้นๆ” มิร่าแสยะยิ้มกว้างพร้อมกระชับมีดในมือ ส่วนฮันเตอร์อีกสองคนจ้องมาที่เธอพร้อมเตรียมอาวุท
ทุกคนเค้ากลับมาแล้วTwT ใครสาปแช่งไรท์ไปแล้วบ้าง?
ขอโทษที่ดองเป็นเดือนมันตัน+เทอมนี้ต้องจัดการเรื่องเกรดให้ดีเพราะมันส่งผลถึงโควต้า+ความสามารถในการแต่งลดน้อยลงนิดหน่อย(มั้ง)
ไรท์จะพยายามหาเวลาว่างมาแต่งเรื่องนี้เรื่อยๆสลับกับฟิคสั้นเทศกาล(ที่โดดไปหลายงานแล้ว)
เค้าขอโทษจริงๆนะT T
ความคิดเห็น