คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : รายงานหน้าที่1
เสียงนกร้องเพลงยามเช้า สายลมพักเฉื่อยๆเย็นสบาย แสงแดดที่ยังไม่ร้อนมากเพราะตอนนี้เป็นยังถือว่าเป็นช่วงเวลาเช้า แม้ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงมันจะเที่ยงก็เถอะแต่สำหรับประเทศที่มีอากาศเย็นแล้วแม้จะตอยเที่ยงก็ไม่ได้ร้อนมากเหมือนประเทศทางใต้ มีรถสัญจรไปมาไม่ขาดสายก็จริงแต่ก็ไม่แออัดนักถ้าเทียบกับในเมือง กลิ่นไอของธรรมชาติและความเก่าแกของชานเมืองแห่งนี้เป็นจุดที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งแม้จะไม่ค่อยมีใครสนใจก็เถอะ เพราะส่วนมากจะเข้าไปเที่ยวในตัวเมืองมากกว่า
" นี่ยังไม่ถึงอีกหรอ " เสียงอ่อยๆปนเบื่อดังขึ้น ดวงตาสีอำพันของเขาจ้องมองคนที่เดินนำหน้าสุดเหมือนสงสัยว่าเธอพาพวกเขามาผิดทางหรือเปล่า
" ใกล้ถึงแล้วเดินอีกหน่อยเถอะ " เสียงเรียบของเจ้าของเรือนผมสีเงินแปลกตาตอบเขาพลางอ่านแผนที่ต่อไป
" ก็ฉันง่วงแล้วนี่ นี่เดินมานานแล้วเมื่อยแล้วนะ " ชายหนุ่มคนเดิมเริ่มโวยวาย
" เอาน่าๆ เดินชมธรรมชาติตากลมเย็นๆแบบนี้ก็สบายดีออก " เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มพูดกับเพื่อนของตาพลางเอามือประสานไว้ที่ท้ายทอยอย่างสบายใจ
" เห็นไหมทีเอลี่จังยังไม่บ่นเลยเนาะ " ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงพลางมองหน้าเด็กสาวข้างๆเหมือนจะให้เธอเออออกับเขาด้วย
" ค่ะ นั้นสินะ.....ว้าย " เอลี่ หรือเอลนีโญ่ตอบเขาก่อนตะสดุดล้มเป็นรอบที่เท่าไรของการเดินทางแล้วก็ไม่อาจจะนับได้ แต่โชคดีที่ชายหนุ่มข้างๆฉุดแขนของเธอไว้ทัน ก่อนที่เธอจะลุกกลับมาเดินต่อเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น
" สะดุดอะไรครับ สสะดุดรักของคนแถวนี้รึเปล่าเอลี่จัง " ชายผมสีน้ำตาลเข้มพูดทำเอาคนในกลุ่มคนอื่นๆทำท่าจะอวกทันที
" ไอ้แคป ไม่ต้องมาเล่นมุขจีบสาวแถวนี้เลย แกจะไม่ให้ฉันบ่นได้ไงแกลองมาแบกไอ้ตัวซุ่มซ่ามนี่แทนฉันไหมล่ะ " ชายผมเขียวพูดกับเพื่อนของตน ส่วนไอ้ตัวซุ่มซ่าม ที่เขาพูดถึงก็ยังหลับไม่ได้สติอยู่
" ไม่ได้หรอกฉันเองก็ต้องดูแลแม่สาวซุ่มซ่ามแถวนี้เหมือนกันนะเจ้าแมวน้อย " แคปบอกเพื่อนของตนและใช้ศัพนามที่เจ้าตัวไม่ค่อยชอบนัก
" แกเรียกใครว่าแมวน้อยฟะ ไอ้โอตาคุโรคจิต " ผู้ถูกเรียกว่าแมวน้อยสวนกลับ แต่ดูเหมือนจะได้ผลแถมเจ้าตัวคนโดนว่ายังดูจะชอบที่ตนถูกเรียกว่า โอตาคุโรคจิต อีกด้วย
" เลิกกัดกันได้แล้วน่า อีกประมาณสามช่วงตึกจะถึงแล้ว พอเข้าไปแล้วพวกนายช่วยทำตัวสุภาพด้วยนะ เพราะในนั้นมีสมาชิกระดับsถึง2คน " เจ้าของเรือนผมสีเงินพูดเตือนคนอื่นๆในกลุ่ม
ไม่นานเกินรอ สิ่งมีชีวิตทั้น5ก็ได้มายืนอยู่หน้าร้านน้ำชาเล็กๆแห่งหนึ่ง แต่ดูเหมือนมันจะยังไม่เปิด ในที่สุดหญิงสาวเจ้าของผมสีเงินแปลกตาก็กดกริ่งหน้าร้าน แล้วรอสักพัก
" ใช่ที่นี่แน่หรอรูฟ " แคปถามอย่างไม่แน่ใจ ยังไงมันกูดูเหมือนร้านน้ำชาเล็กๆมากกว่าฐานทัพ
" ก็ตามแผนที่ล่ะนะ อย่าดูอะไรจากภายนอกสิ เหมือนเด็กผมทองคนนั้นไง...... " รูฟตอบแคปพรางพูดถึงเด็กผมทองที่ละไว้ฐานเข้าใจ
" นั้นสินะ ยัยนั้นน่ะเหมือนเสือร้ายในร่างลูกแมวเลยล่ะ แต่ก็เป็นเพื่อนที่ดีนะ "
" เพื่อที่ดี แกเป็นมาโซรึไงถึงบอกว่ายัยนั้นนิสัยดีน่ะ " เชสเซียร์พูดกับแคป
" ฉันบอกว่าเพื่อนที่ดี ไม่ใช่นิสัยดี นี่แหล่ะน้าแมวฟังภาษาคนไม่ค่อยออกสินะ " แคปพูด
" แกนี่มัน " เชสบอกอย่างเหลืออด เขาอยากไปจากที่ตรงนี้ในตอนนี้เลยถ้าไม่ติดที่ ปลอกคอร่ามโซ่ที่รูฟใส่ให้เขา แล้วที่มันขขัดใจเขาก็คือ ลูกกระพรวนที่ส่งเสียงกริ้งๆน่ารำคาญนี่แหล่ะ
' นี่หล่อนเห็นฉันเป็นอะไรกันแน่'
" ฉันมันอะไรหรอ ฉันมันหล่อจนไม่มีใครเทียบได้ใช่ไหม " แคปพูดแบ้วยิ้มอย่างภูมิใจ ผิดกัยคนอื่นที่ทำท่าเหมือนอยากอวก
- นอกจากจะเป็นโอต่คุโรคจิดแล้วยังเป็นพวกหลงตัวเองด้วยเรอะ -
" แคป!!!! มาต่อยกันไหม " ตุบ!!! เชสพูดพรางทำท่าจะชกแคป แต่ปัญหาน่ะหรอ ก็เขาลืมคนที่ขี่หลังเขาอยู่น่ะสิ
" โอ๊ย อะไรกันเนี่ย ที่นี่มันที่ไหน พวกคุณเป็นใคร แล้วผมกินข้าวเช้าหรือยัง " ร่างที่ตกถึงพื้นถามขึ้นมาเป็นชุด ถ้าดูจากประโยคแรกๆแล้วอาจนึกว่าเอไนท์ที่น่ารักความจำเสื่อมไปแล้ว ถ้าไม่ติดประโยคสุดท้ายที่ฟังดูแปลกๆ
" หึหึ เจ้าหญิงความจำเสื่อมซะแล้ว อยากให้เจ้าชายจุมพิษเรียกความทรงจำคืนมาไหม " แคปเลื่อนมือไปจับที่แก้มของเอไนท์
" โอ้ท่านเจ้าชาย ไม่จำเป็นหรอก แต่ข้าไม่อยากให้คนที่ชอบแต่งหญิงมาเรียกข้าว่าเจ้าหญิงหรอกนะ " เมื่อเล่นมาเอไนท์ก็เล่นกลับ
" เฮ่ย!!! ว่าใครชอบแต่งหญิงน่ะเจ้าเตี้ย " แคปพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
" ผมไม่ได้ว่านะ ผมพูดความจริงถามรูฟได้เลย รูฟก็เคยเห็นแคปแต่งหญิงบ่อยๆใช่ไหม " เอไนท์หันไปถามรูฟ รูฟก็พยักหน้าตอบ
" ฮะๆๆๆ โอตาคุโรคจิตแต่งหญิง " เชสพูดแล้วหัวเราะต่อ
" ก็ดีกว่านายน่า ถึงขนาดนี้แต่ดันมีหูแมวกับหางแมว แอ๊บแบ๊วซะไม่มี " แคปพูดกับเชส
" หยุดได้แล้ว ทั้งสามคนเลย " รูฟที่เห็นท่าว่าจะเกิดสงครามขนาดย่อมรีบห้ามเอาไว้
" หยุดก็ได้ครับ/ชิกำลังมันเลย/นั้นสิ " ทั้งสามคนบ่นออกมาเล็กน้อย ถึงดูเหมือนมีเรื่องแต่ที่จริงก็แค่เล่นกันเท่านั้นแหล่ะตามประสาเด็กที่โตมาด้วยกัน
อยากรู้ไหมทำไมพวกเขาต้องฟังรูฟ? นั้นก็เพราะรูฟเป็นถึงการ์เดียนขั้นAไงล่ะ น่าเชื่อไหมเนี่ยแม้อายุยังน้อยแต่รูฟเข้ามาอยู่การ์เดียนก่อนพวกเขาถึงหลายปี แถมยังเป็นอัฉริยะอีกด้วย แซงหน้าคนแก่ๆบางคนไปอีกแต่ถึงเป็นแบบนั้นก็ยังมีมารยาท มีความเคารพไม่ถือตัว น่านับถือจริงๆ (ในความคิดของหลายๆคน)
" ว่าแแต่ นี่มันนานแล้วนะคะทำไมไม่ออกมารับสักที " เอลี่พูดขึ้นพรางดูนาฬิกาที่ข้อมือ
" หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น " เชสพูดขึ้น พรางกดกริ่งอีกรอบแต่ก็ไร้เสียงตอบรับ
" คงต้องเปิดเข้าไปเองสินะ " แคปหันไปทางรูฟเหมือนจะขออนุยาต
" ก็ได้เพราะนี่มันก็แปลกจริงๆนั้นแหล่ะ " รูฟตอบ
" อืมงั้น เอไนท์พอใช้ลวดเปิดประตูเป็นไหม " รูฟถามเอไนท์
" ผมใช้แต่เวลาต่อสู้เท่านั้น เรื่องแบบนั้นผมทำไม่เป็นหรอกครับมันเหมือนโจร " เอไนท์ตอบ
" นั้นสินะ แล้วก็ดูเหมือนจะล็อคข้างในด้วย ไฟฟ้าของแคปคนเปิดมันไม่ได้ พลังของเอลี่ก็คงแรงไม่พอที่จะกระชากให้มันหลุด งั้นคงต้องพับประตู " รูฟพูดพรางสำรวจประตู พอหันกลับมาก็เห็นคนอื่นๆเตรียมอาวุทขึ้นมาพร้อม ยกเว้นเอลี่ที่เพียงทำสมาธิเพื่อเรียกพลังจิต
- เตรียมพังเต็มที่เลยหรอพวกนาย-
" งั้นลุยล่ะนะ " แคป เชส เอไนท์ เอลี่ ปล่อยจิตสังหารแล้วเข้าไปโจมตีประตู แต่รูฟที่ได้รู้สึกได้ถึงจิตสังหารอีกแห่งจากด้านหลังประตู แม้จะมีน้อยนิดแต่ก็ทำให้หนาวสันหลังได้ กระโดดไปหลบอยู่ด้านข้างของหน้าต่าง
ประตูร้านน้ำชาเปิดอย่างรวดเร็ว ลูกระเปิดจำนวนหลายลูกกับมีดสั้นอีกเป็นสิบพุ่งเข้ามาหาพวกเขาอย่างรวดเร็วถ้าเป็นคนธรรมดาคงโดนมีดปักคอไปแล้ว แต่พวกเขาที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีจากการ์เดียนมาสารถมองเห็นและกระโดดหลบมันได้ อย่างสบาย คงจะพูดแบบนั้นได้ถ้าไม่ติดระเบิดเจ้ากรรมนั้น
ตูม!!!!!!
ระเบิดจำนวนหลายลูกระเบิดพร้อมๆกัน พวกเขาคงเละไปแล้วถ้าเอลี่ไม่กางม่านพลังครอบระเบิดเอาไว้
" ต้อนรับได้อบอุ่นดีนะ สาขาเชฟฟิลด์ " รูฟพูดกับบุคคลที่อยู่ข้างใน
" อ้าว พวกเธอเป็นมนุษย์หรอกหรอ " ร่างบางกับเรือนผมยาวสรวยสีคาราเมลเดินออกมาจากร้าน
" พวกเราคือมนุษย์ ที่ไม่อาจอยู่ร่วมกับมนุษย์ เป็นเพียงเงาที่ไร้ตัวตน " รูฟตอบพรางมองหน้าผู้ที่ออกมาต้อนรับ
" ระหัสถูกต้อง เชิญเข้ามาได้เหล่าเพื่อนร่วมฐานะ " พูดจบก็เชิญแขกเข้าไปด้านในก่อนที่จะล็อคประตูอย่างแน่นหนา
ร่างบางในชุดเสื้อกราวยาวสีขาว เดินนำเหล่าผู้มาเยือนเข้าไปในร้าน ร้านนำชาถูกจัดอย่างเรียบง่ายไม่หรูหรามากหากแต่ดูมีรสนิยม สีที่ใช้เป็นโทนสีอิฐ โต๊ะสำหรับลูกค้ามีหลายขนาด ตั้งแต่นั่งสองคนจนถึงแปดคนจัดวางอย่างเป็นสัดส่วน มีโคมไฟทรงชามคว่ำแขวนจากแพดานร้านเพื่อให้ความสว่างแก่ลูกค้า ตามเสาติดด้วยตะเกียงแบบโบราณ ทำเอาแต่ละคนสงสัย บ้างก็คิดว่าอาจใช้ประดับ แต่บางคนกลับคิดว่ามันอาจเอาไว้ใช้ตอนกลางคืน แต่ก็ไม่มีใครได้คำตอบเพราะเรื่องไร้สาระแบบนี้คงไม่ต้องเสียเวลาถาม บวกกับเจ้าบ้านที่เดินนำอยู่เพิ่งจะโดยระเบิดใส่พวกเขาจึงทำให้บางคนหวาดๆอยู่ เพราะจากที่อ่านรายงานคนผู้นี้ไม่น่าจะใช่การ์เดียน
หญิงสาวเดินนำแขกมายังหลังร้านแล้วหยุดที่หน้าห้องเก็ยของเก่าๆ ก่อนที่มือบางจะเปิดมันออกเผยให้เห็นห้องที่เต็มไปด้วยผุ่นและของเก่าๆที่ผุพังแล้ว ด้านในสุดของห้องเป็นตู้เก็บของเก่าๆสนิมเขรอะจำนวนสามตู้
" เล่นเกมส์กันหน่อยไหมคะ " ผู้นำทางถามขึ้นแต่สิ่งที่ได้รับคือความเงียบ เธอจึงสรุปเองว่าเป็นการตอบรับ
" ง่ายๆค่ะ เพียงแค่ให้พวกคุณเลือกตู้สามตู้นี้สมุติว่า ตู้ทางซ้ายคือตู้ทองคำ ตู้ตรงกลางคือเงิน และขวาสุดคือทองแดง "
" เชิญเลือกกันได้เลยค่ะ แน่นอนว่าไม่มีผลต่อการเข้าไปแน่ๆมันเป็นเพียงเกมส์ " หญิงสาวพูดด้วยรอยยิ้มเล็กๆ
ผู้มาเยือนทั้งห้าคนค่อยๆทยอยกันเลือก รูฟเลือกยืนด้านหน้าตู้ทางซ้านสุด ถัดมาเป็นเอไนท์ที่ยืนหน้าตู้ตรงกลาง ส่วนแตป เชส และเอลี่ยืนอยู่หน้าตู้ฝั่งขวา เจ้าบ้านยิ้มเล็กๆออกมาเป้นดั่งที่เธอคิดไว้จริงๆ
" ค่ะงั้นจะเฉลยนะ เมื่อคุณเปิดตู้เข้าไปแล้วปรากฎว่ามันคือประตูมิติ ตู้ทองคำนั้นเป็นเพียงเส้นทางของคนธรรมดาแต่เป็นเส้นทางที่ทุกคนอยู่อย่างมีความสุข อุดมสมบูรณ์ ตู้เงินเมื่อเปิดไปแล้วแตกต่างจากตู้ทองคำเล็กน้อยตรงที่มีความยากรำบากในการใช้ชีวิต สภาพยากจน ส่วนสุดท้ายตู้ทองแดง เมื่อเปิดเข้าไปต้องเจอกับนรก ปัญหามากมาย ควาามทรมารที่ไม่มีวันสิ้นสุดค่ะ " หญิงสาวเฉลยคำตอบด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม หากแต่เหล่าผู้ฟังคำตอบส่วนมากถึงกับเหวอ
" ในการเลือกทางเดิน ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณใช้อะไรในการเลือกแต่สำหรับการเป็รการ์เดียนมืออาชีพนั้นจงเชื้อในทางที่ตนเองคิด ตามนิทานต่างๆอาจสอนให้เลือกทางสายกลาง หรือให้มักน้อยเข้าไว้ แต่การที่พวกเราอยู่มาได้นั้นให้เลือกตามที่ตนเองคิด ถ้าหากไปหลงเชื่อนิทานของเหล่าผู้ที่อยู่ดีมีสุขก็อาจนำเราไปสู่หายนะ ทำดีไม่ได้ได้ดีเสมือไปเรื่องนี้คาดว่าทุกคนคงเจอมาแล้ว และการทำชั่วก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีอีกด้วย อย่างที่ทุกคนเห็นพวกที่ทำให้พวกเราต้องอยู่ในสถานที่แห่งนี้นะคะ นี่เป็นเกมส์ที่มาสเตอร์ให้ทุกคนที่จะเข้าไปได้เล่นค่ะ "
เมื่ออธิบายเสร็จเธอก็เปิดประตูตู้ทางฝั่งขวา แล้วคลำๆอะไรสักอย่างที่ติดอยู่ด้านใต้ของชั้นวาง ก่อนที่ประตู้ลับจะเปิดออก แสงไฟจากลิฟสีขาวสะอาดส่องออกมา ดูสะอาดตาขัดกับพื้นที่ที่พวกเขากำลังยืนอยู่โดยสิ้นเชิงราวกับสลำกับวังหลวงยังไงยังงั้น
" เชิญ " เจ้าบ้านสาวเดินนำเข้าไปในลิฟตามด้วยรูฟและคนอื่นๆ หลังจากที่เข้าไปครบคนประตูลิฟก็ปิดลงแล้วพาทุกคนลงไปในชั้นใต้ดินของร้าน
" ไม่ได้เจอกันนานนะรูฟ " หลังจากเงียบไปนานเจ้าบ้านสาวก็เปิดบทสนทนา รูฟที่ได้ยินก็ทำสีหน้างุนงงเล็กน้อยเพราะเธอจำไม่ได้ว่ารู้จักคนคนนี้
" เธอ...... " รูฟพยายามคิดให้ออกว่าคนข้างๆของเธอคือใคร
" จำไม่ได้จริงๆด้วยสินะ ก็ไม่แปลกหรอกเพราะตัวฉันเองก็เปลี่ยนไปมาก เนอะ 'คู่แข่ง' " หลังจากฟังคำนั้นรูฟก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ
" อย่าบอกนะว่าเธอ.....เวอร์โก้!!!! " รูฟอุทานชื่อคนตรงหน้าอย่างตกใจ คู่แข่งเพียงคนเดียวของเธอเวอร์โก้ที่ข่าวคราวหายสาปศูนย์ไปหลายปี
" อื้อ แต่ตอนนี้ฉันชื่อพีริสนะ เรียกให้ถูกด้วยล่ะ " พีริสยิ้มให้เพื่อนเก่าของตน
" รูฟรู้จักด้วยหรอ " เอลี่หันมาถามรูฟเพราะเธอไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
" อื้อ เวอร์โก้น่ะเป็นคู่แข่งของฉันเอง สมัยก่อนพวกเราได้ชื่อว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งการ์เดียน สมัยนั้นฉันกับเธอเป็นอัฉริยะอันดับต้นๆของการ์เดียนรุ่นเด็กเลยก็ว่าได้ อืม......คงดังพอๆกับมิร่าในสมัยนี้เลยล่ะมั้ง แล้วพวกเราก็ยังเป็นตัวเต็งตำแหน่งราชินีแห่งการ์เดียนด้วย พวกเราแข่งกันว่าใครจะได้ตำแหน่งนั้นในรุ่นต่อไป แต่ข่าวของเธอก็หายไปในช่วงสี่ปีก่อน เธอหายไปไหนมา มีข่าวว่าเธอตายไปแล้ว " หลังจากเล่าให้รุ่นน้องฟัง รูฟก็หันมาถามเพื่อนเก่าของเธอ
" ก็เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยล่ะนะ อย่างที่เธอได้ยินมาเวอร์โก้น่ะตายไปแล้ว ฉันไม่สามารถเป็นการ์เดียนได้ " พีริสตอบรูฟ น้ำเสียงและดวงตาสีชมพูเข้มหม่นหมองลง
" อุบัติเหตุ? แต่ถ้าเธอไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรหรอก "
" ไม่เป็นไร ระหว่างช่วงฝึกงานตอนที่ทำภาระกิจกับพวกมาสเพื่อนทดสอบการ์เดียนน่ะ ฉันโดนพิษของอสูรเข้า ไม่สามารถรักษาให้หายได้ แล้วตาของฉันก็กลายเป็นแบบนี้ " พีริสพูดพรางเอามือขวามีแตะที่ตาข้างขวาของตน ในอดีตดวกตาของเธอเคยเป็นสีฟ้าสนใสแต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนสีไปแล้ว
" อ๊ะ ถึงแล้วล่ะ " เสียงสัญญาณดังขึ้นเพื่อเตือนให้รู้ว่าลิฟได้มาถึงที่หมายของมันแล้ว
" ยินดีต้อนรับสู่ การ์เดียนสาขาเมืองเชฟฟิลด์ "
ประตูลิฟต์เปิดออก เผยให้เห็นข้องโถงขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ตกแต่งให้มีลักษณะเหมือนห้องนั้งเล่นในบ้านแบบยุโรป ประดับด้วยรูปวาดที่ดูแปลกตา มีชุดโต๊ะรับแขกขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็สามารถรับแขกได้เยอะพอสมควร นอกจากชุดโต๊ะรับแขกแล้วนห้องนี้มีเพียงตู้โชว์จากเหล็กสลักเป็นลายดูหรู ในห้องจึงดูโล่งผิดปกติ แถมของที่อยู่ในห้องนี้ยังดูเซฟผิดปกติอีกด้วย
" รูปในห้องนี้เป็นฝีมือของพวกเราเอง ตอนเด็กๆในเวลาว่างมาสจะให้พวกเราวาดรูปเพื่อฝึกจินตนาการแต่ดูเหมือนพวกเราจะเอาไว้ให้ละบายอารมณ์มากกว่า " พีริสเดินนำผู้มาใหม่ดูรูปวาดในแต่ละโซน
" ผนังทางซ้ายเป็นของ ฉัน เอเรียส แล้วก็เซจิ ส่วนทางขวาเป็นของมิร่าคนเดียวเลย " ทุกคนมองตามที่พีริสพูด แต่จะดูแปลกที่ว่า ตามผนังทางซ้ายนั้นมีรูปภาพน้อยกว่าผนังทางขวาซะอีก
" มิร่าเค้าชอบวาดรูปน่ะ โดยเฉพาะเวลากลับมากจากตรวจร่างกายก็ชอบมาวาดรูปใหม่ๆอยู่บ่อยๆ เห็นบอกว่าอ่านการ์ตูนกับแคปมา " พีริสชี้ไปทางรูปฝั่งขวา หนึ่งในสามของจำนวนนั้นเป็นภาพแนวลายเส้นการ์ตูนญี่ปุ่นแบบที่แคปอ่ายบ่อยๆจริงๆ ทำเอาคนถูกพูดถึงอมยิ้มเล็กน้อย แต่แปลกที่ว่า เขาให้มิร่าอ่านการ์ตูนตั้งหลายเรื่องแต่ในรูปวาดนั้นมีแต่การ์ตูนแนวฆาตกรรม หรือไม่ก็ต่อสู้ทั้งนั้น อย่าง ไฮสคูลออฟเดท รีบอร์น(ในนี้มีแต่รูปเบลตอนฟิวส์ขาด) มาโดกะ(มีแต่รูปคิวเบย์โดนเฉือน) หรืออะไรประมาณนี้ ที่ตกใจสุดๆก็คือมีการ์ตูนแปลกๆอย่าง โนมันนี่ จุนโจว เซเว่นโกสต์ ปริสนาห้องกรงนก แต่ละภาพนี้ก็ชวนเลือดพุ่งเป็นอย่างมาก
คนอื่นๆที่เห็นรูปเซทหลังตากหันมามองแคป ที่ตอนนี้กำลังเหงื่อตก
- ทำไมมองกันอย่างนั้นล่ะเฟ่ย พวกนายคิดว่าฉันเป็นพวกแบบนั้นรึไง - แคปกริดร้องในใจ
" แล้วก็ต่อจากรูปการ์ตูนก็เป็น รู้ที่มิร่าชอบวาดเวลามีเรื่องกับเอเรียส " พีริสที่เห็นทุกคนอึ้งกับรูปเซทที่สองก็แนะนำเซทที่สาม
รูปเซทที่สามของมิร่านี้ ออกโดนดำแดงมาแต่ไกล สวยแบบดาร์กมากจนถ้าเาไปขายอาจมีคนตีราคาเป็นล้าน อาร์ตออกแนวซาดิษม์ บ่งบอกได้ถึงอารมณ์อยากเชือกคนของผู้วาดอย่างเห็นได้ชัด
- ปีศาจสมชื่อที่ได้ยินมาจริงๆ - ทำเอาคนดูเสียวสันหลังบาบเลยทีเดียว
" ส่วนรูปทางซ้าย ถ้าเทียวกับของมิร่าแล้วคงจะดูธรรมดามาก มีของเอเรียสบางรูปที่ออกแนวฆาตกรรมแต่ไม่เท่าของมิร่า ส่วนของเซจิส่วนมากออกโทนขาวดำ แล้วถัดมาก็ของฉัน " พีริสแนะนำรูปทางซ้าย
" และนี่คือทั้งหมดของหน้าบ้านค่ะ เข้าไปข้างในดีกว่า " พีริสเดินนำทุกคนเข้าไป
ผ่านเข้ามาอีกห้องหนึ่งคาดว่าจะเป็นห้องทำงานในฐานทัพ ดูทันสมัยกว่าที่คิดถึงจะไม่เท่าสำนักงานใหญ่ก็เถอะ
แต่สิ่งที่อยู่ในหัวทุกคนตอนนี้ก็คือ เหล่าสมาชิกในสาขาที่มีสภาพที่ต่างอะไรไปจากซอมบี้เลยสัดนิด
" เอเรียสตื่นได้แล้วจ๊ะ " พีริสเข้าไปปลุกเอเรียสที่กำลังหลับคาเก้าอี้ แต่ก็ไร้ผลเอเรียสหลับเป็นตาย
" ขอโทษนะ " พีริสกล่าวขอโทษก่อนที่จะเดินเข้าไปเตะขาเก้าอี้ ทำเอาทั้งเก้าอี้และคนหลับล้มเสียงสนั้น
" โอ๊ย อะไร เกิดอะไรขึ้น พีริสหรอ พวกนี้เป็นใคร มาทำไม " เอเรียสที่ตกใจตื่น ถามขึ้น
" มาจากสำนักงานใหญ่ ส่วนเรื่องมาทำไมฉันไม่รู้มาสไม่ได้บอกเธอหรอ " พีริสตอบและถามเอเรียส แต่เอเรียสที่ยังมึนๆอยู่เพราะเพิ่งตื่นและหัวฟาดพื้นเพราะการปลุกของพีริสได้แต่นั้งมึนคิดไม่ออก
" พวกเขาก็มาเป็นสมาชิคใหม่ในทีมของเราไง เมื่อวานมาสบอกไปแล้วนี่ " ชานหนุ่มร่างสู่เดินเข้ามาจากอีกทางหนึ่ง พร้อมผ้าขนหนูที่ใช้เช็ดผมที่ยังเปียกอยู่เล็กน้อย
" สวัสดีฉันชื่อ เซจิทาเรียส เรียกว่าเซจิก็ได้นะ ยินดีที่ได้รู้จักพวกเธอ แล้วก็ดีใจที่เจอเธอนะรูฟ " เซจิทักเพื่อนใหม่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ต่างจากเอเรียสที่ทำหน้าบูดบึ้ง
" อื้อ ไม่เจอกันนานเซจิ " รูฟยิ้มตอบเพื่อนเก่า
" แต่พวกนายมาเยอะกว่าที่คิดนะ สามบอกว่าส่งสมาชิกมาแค่สามไม่ใช่หรอ " เอเรียสถามเพราะเขานับได้ห้าคน
" ฉันกับเอลี่มาส่งน่ะ ช่วงนี้มีคำสั่งไม่ให้การ์เดียนระดับD-Aไปไหนมาไหนคนเดียว " รูฟตอบ
" อ๋อ ถึงเวลาแล้วสินะที่พวกเขาจะมา อยากรู้จังว่าจะไปอยู่กับใคร " เซจิพูด
" นั้นไม่ใช่เรื่องของเราหรอก เป็นเรื่องไม่ดีสำหรับเราด้วยซ้ำเพราะเงามืดอาศัยช่วงนี้ในการออกมาเที่ยวเล่นน เป็นการเพิ่มงานให่เราอีก " เสียงทุ้มดังมาอีกทาง ทุกคนหันไปทางต้นเสียง ชายร่างสูงผสมีดำสนิทกับดวงตาสีดำ ในชุดสีดำ รองเท้าสีดำ
- ที่คุณท่านไว้ทุกให้ใครรึ - เสียงในใจผู้มาใหม่ดังขึ้นหร้อมกันโดยมิได้้นัดหมาย
" เอาน่ายังไงซะมันก็มีเยอะอยู่แล้ว พวกเราแค่จัดการตามหน้าที่ก็พอ แล้วฉันว่าสำหรับใครบางคนนี่เป็นเรื่องดีที่ได้อาระวาดจริงไหมเอเรียสซี่ " เสียงอีกเสียงขัดขึ้นมา พร้อมร่างเจ้าของเสียง เส้นผมสีทองอ่อนๆจนเกือบขาว กับชุดสีขาว เดินเข้ามายืนข้างๆชายคนแรก
- พวกท่านจะแต่งคอสเพลน์ทางม้าลายกันรึ -
" ได้ตาแก่งี้เง้า อย่าเติมคำว่า ซี่ สิเฟ่ย " เอเรียสเรียบท้วงขึ้นมา ในบรรดาคนที่เขาไม่ชอบ ชายคนนี้คืออันดับที่หนึ่ง รองลงมาก็ยัยมิร่านั้นแหล่ะ
" เอเรียสสำรวมหน่อยสิ มีแขกมานะ " ไนท์ดุเอเรียสแล้วตบเกรียนเดย์จนหน้าคว่ำลงไปนอนกับพื้น
" เจ้าเตี้ยนี่น่ะหรอเอเรียส หัวหน้าทีมของฉันคือเจ้าเตี้ยนี่เนี่ยนะ " เชสพูดขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา แล้วมองเอเรียสตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ผลพวงของคำที่เขาพูดออกมาน่ะสิมันไม่ใช่แค่กระทบเอเรียสเท่านั้น มันกระทบถึง'เตี้ย'อีกสองคนที่ต่างส่งรังศีอาฆาตมีให้(ไม่บอกก็รู้นะว่าใคร)
" เตี้ยสมกับที่มิร่าบอกจริงๆด้วย แต่ฉันว่าไม่น่าห่วยเท่าโนบีตะหรกนะ หมอนี่แค่สึนะก็พอแล้ว " แคปพึมพำกับตัวเอง
" เฮ่ยพวกแก อะไรวะคำก็เตี้ยสองคำก็เตี้ย แล้วไอ้แว่นนี้อีกสึนงสึนะอะไรกัน ฉันไม่ได้ห่วยแบบนั้นนะเว่ย อย่าไปเชื่อคำพูดของยัยโรคจิตนั้นสิ " เอเรียสที่เริ่มทนไม่ได้ท้วงออกมายกใหญ่
" พอแค่นี้ก่อน แล้งเรื่องของมิร่าล่ะ " ไนท์ที่ตัดสินใจไม่สนเรื่องเด็กตีกันหันมาถามรูฟ
" ผลจากการใช้ดาวเทียมสัญญาณออกมาแล้วค่ะ " รูฟตอบ
" นี่ค่ะเอกสาร " เอลี่ยื่นซองเอกสารให้ไนท์
" เป็นไงบ้างครับ " เซจิที่ยืนอยู่ใกล้ๆถามไนท์
" ภาระกิจแรกของพวกนายออกมาแล้ว
' ให้ทีมเอเรียสกับทีมเซจิเข้าไปพวตัว มิร่า โอเนะ ออกมาจากสถานีวิจัยเถื่อนของมาเฟียแก๊งหนึ่ง ที่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมภาระกิจกำจัดเงามืดที่ญี่ปุ่น ข้อมูลสถานที่อยู่ในแถนที่ที่แนบอยู่ในถุงพร้อมตั๋วเครื่องบินห้าที่นั่ง บัตรเครดิด และที่พัก ภาระกิจนี้อนุยาติให้ลงมือกับมนุษย์ได้ เนื่องจากเป็นผู้อยู่ฝ่ายกระทำผิดกฎหมาย '
องกรณ์ การ์เดียน สาขาสำนักงานใหญ่รัสเซีย"
" ออกเดินทางพรุ่งนี้เลย ส่วนสมาชิกในทีมที่ยังไม่ครบเอาไว้ค่อยหาเพิ่มทีหลังได้ พีริสช่วยนำสมาชิกใหม่กับแขกไปห้องพักด้วย แล้วก็อย่างแรกเลยช่วยหยุดไอ้เด็กพวกนั้นที " ไนท์ออกคำสั้ง
ในตอนนี้เอเรียส แคป เชสเซียร์และเอไนท์ได้ทำการตะลุมบอลกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีเอลี่ยืนเชียร์เอไนท์อยู่ใกล้ๆ(เพราะโกรธเรื่องพูดถึงความสูงเหมือนกัน)
- มันจะไปกันรอดไหมเนี่ยทีมนี้
___________________________________________________________
จบตอนแรกแล้ว ใช้เวลานานมากTwTเพราะไม่มีเวลานานพอจะพิมจนหมดตอนเลยตองทยอยพิม+อ่านโดเอตาเลียกำลังมัน(โดนรีดเดอร์เสย)
ช่วงนี้อาจอัพช้าไปนิดเพราะเป็นช่วยเครียร์งานค้าง(ที่สะสมอยู่มากมาย)ก่อนสอบ
เสาร์อาทิตนี้ไรท์ต้องทำอังกฤษ60กว่าข้อ(แน่นอนว่าทำครึ่งนึงส่วนอีกครึ่งลอก>w<)
มิร่าที่น่ารักของเราจะออกในตอนหน้าด้วยฉากสุดอลังการงานสร้าง? ใครชอบเลือดต้องไม่พลาด(ไม่ชอบก็อ่านได้)
อธิบายเล็กน้อย- รูฟแม้จะอายุน้อยกว่าแคปแต่เธอเข้ามาอยู่ในการ์เดียนก่อน เพราะงั้นทุกคนก็เคารพในตัวเธอ การ์เดียนส่วนมากไม่นับศักดิ์ตามอายุร่างกาย แต่จะนับว่าใครอยู่นานกว่าคนนั้นเป็นเหมือนพี่มากกว่าค่ะ(แต่30กับ20ก็นับตามอายุตัวนะ)
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์ค่ะ
ความคิดเห็น