ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    War Of Heaven :: สงครามล้างพันธุ์อสูร

    ลำดับตอนที่ #25 : บทที่ 23 :: ร่ำลา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 103
      0
      27 เม.ย. 49

                    แคโรนา... คือเมืองท่าทางตะวันออกที่สำคัญที่สุดของเฮฟเว่น แต่บัดนี้... มันไม่ต่างอะไรกับท่าเรือร้าง...

                    พื้นไม่ส่งเสียงดังออดแอดยามเมื่อเหยียบย่าง รอยดำไหม้มีอยู่เป็นหย่อมๆ ทั้งยังข้าวของที่กระจัดกระจาย ยืนยันถึงสภาพความรุนแรงของการปะทะที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี...

                    "เอาล่ะ... ที่นี่คือที่ๆใกล้กับเฮลที่สุดแล้ว จากท่าเรือเทียร์ไซด์นี่ถึงเฮลอย่างเร็วที่สุดคงจะราวๆสิบวัน" ลูกหมูเอ่ยพลางขยับแว่นตาเลื่อนขึ้นให้อยู่บนสันจมูก ก่อนจะเหลือบมองไปยังคณะทูตทั้งสิบเอ็ดคน อันได้แก่ จิ้ง เจ หลิน พอล ซัน กร เร ทราย เม และสิชา... รายสุดท้ายนี่ต้องไปด้วยความจำใจเนื่องจากหาแพทย์ประจำคณะเดินทางไม่ได้ เธอเลยต้องทิ้งหน้าที่ดูแลแพมแพนมาชั่วคราว

                    เครสเหลือบตามองฝาแฝดทั้งสองที่มาส่งพวกเธอพร้อมเหล่าจตุจันทรา... ไม่รู้สิชาทำยังไงแพมถึงกลับมาเป็นปกติ แถมไอ้ภาคปกติของหนูแพมยังทั้งเอาแต่ใจขี้โวยวาย ทั้งยังซนเป็นที่หนึ่ง ยิ่งมีเพื่อนร่วมก๊วนอย่างแพนที่พูดอะไรก็ทำไปหมดซะทุกอย่าง แน่นอน... คราวนี้เหล่าจตุจันทรารับศึกหนักแน่ๆ

                    "รออีกสักพักเรือคงมา พวกนายก็ร่ำลาให้เสร็จๆไปก่อนละกัน" ลูกหมูเสียเส้นผมสีดำให้พ้นจากใบหน้า ก่อนจะเข้าไปคุยกับจิ้ง ทิ้งให้ลูกคณะที่เหลือยืนถอนหายใจกันอยู่ข้างหลังด้วยความเหนื่อยหน่าย

                    พอล บี. กำลังยืนพิจารณาป้ายไม้หักๆที่เขียนว่า 'เทียร์ไซด์ พอร์ท' อยู่อย่างเบื่อหน่าย โดยไม่สนใจเพื่อนเก่าที่ก้าวตามมาอยู่ข้างหลังอย่างเงียบเชียบ

                    "ว่าไง?" เด็กหนุ่มเอ่ยชับพลางกระชับมือขวาไว้ที่สายกระเป๋าเป้บนไหล่ มืออีกข้างล้วงลงไปในกระเป๋าด้วยท่าทีสบายๆก่อนจะหันกลับมาประจันหน้ากับสตอร์ม...

                    "ดูแล 'ทางนั้น' ให้ดีล่ะ" สตอร์ม่าเอ่ยเรียบ ดวงตาสีเขียวทอดมองไปยังกลุ่มคนข้างหลัง

                    "ไม่ต้องห่วง นั่นมาหน้าที่ฉัน ทำหน้าที่ของนายให้ดีแล้วกัน" พอลบียิ้มรับสบายๆ ขณะที่เด็กหนุ่มอีกคนมีสีหน้านิ่งสนิท...

                    จะกี่ปีผ่านไป... มันก็ยังเป็นคนเดิม มีแต่เขาที่เปลี่ยนไป... ดวงตาสีม่วงจับจ้องสหายเก่าที่รู้จักกันมานาน... จากเพื่อน กลายเป็นศัตรู แล้วก็กลายเป็นคนไม่รู้จักกันในที่สุด... สถานภาพไหนมันน่าปวดร้าวมากกว่ากันนะ?... ในขณะที่การกระทำของเขาเปลี่ยนไปตามสถานภาพ แต่สตอร์ม... ยังคงเหมือนเดิม... ไม่ว่าจะเพื่อน ศัตรู หรือคนไม่รู้จัก ดวงตาสีเขียวเข้มคู่นั้นก็ฉายแววจริงใจ ดวงหน้านั่นก็ยังไม่แสดงออกถึงอารมณ์ รวมทั้งคำพูดเย็นชา...แต่แฝงไปด้วยมิตรภาพ...

                    "ขอบใจนะสตอร์ม..." น้ำเสียงๆสบายๆที่ทำให้คนฟังเดาไม่ออกว่ามันจะขอบคุณเรื่องอะไรกันแน่ และถ้าหากสตอร์มจะเร็วกว่านี้อีกนิด คงจะเห็นแววตาอ่อนโยนอยู่ในดวงตาสีม่วงคู่นั้น... ดวงตาของพอล...

                    "ไว้นายพูดตอนกลับมาดีกว่า" น้ำเสียงเย็นชา กับคำพูดเรียบๆนั่นเรียกรอยยิ้มให้ปรากฏบนใบหน้าเด็กหนุ่ม... ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่เข้าใจ แต่กับเขา... มันหมายถึงว่าเขาต้องรอดกลับมาให้ได้สินะ...

                    "อืม... นายรอฟังแล้วกัน" พอลเอ่ยก่อนจะหันหลังกลับออกไป เจ้าตัวโบกมือซ้ายเป็นเชิงอำลา ภาพของเด็กหนุ่มผมทองที่เดินจากไปชวนให้สตอร์มรู้สึกใจหายลึกๆ...เด็กหนุ่มทอดสายตามองเพื่อนที่เดินกลับเข้าไปรวมกลุ่ม ก่อนจะรำพึงกับตัวเองเบาๆ...

                "ฉันจะรอฟัง ทั้งทำขอโทษ และคำขอบคุณจากปากนาย...พอล..."

                   ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

                   
    "ตื่นเต้นไหม?" เสียงนุ่มๆของใครบางคนดังขึ้นข้างหลัง เรียกให้ดวงตาสีอำพันของเครสหันไปมอง

                    "ไม่หรอกค่ะ แต่เป็นห่วงมากกว่า..."

                    "ไม่หรอกค่ะ แต่เป็นห่วงมากกว่า..."

                    "ห่วงใครหรอ?" อาคเนย์ก้าวเข้ามายืนข้างๆเด็กสาวที่ทอดสายตาออกไปยังผืนน้ำทะเลตรงหน้า

                    "ก็...หลายๆคนที่อยู่ทางนี้น่ะค่ะ" เครสตอบพร้อมรอยยิ้ม ชายหนุ่มยิ้มตอบก่อนจะเอ่ย

                    "ในหลายๆคนนั้นรวมพี่ไปด้วยรึเปล่า?"

                    "ในหลายๆคนนั้นรวมพี่ไปด้วยรึเปล่า?"

                    เครสถึงกับสะอึกไปทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น เธอเหลือบมองใบหน้าที่แย้มรอยยิ้มอ่อนโยนของชายหนุ่มก่อนจะหัวเราะแห้งๆแล้วเกาหัวแก้เก้อด้วยอาการพูดไม่ออก แต่อาคเนย์กลับดึงมือบางนั้นมากุมไว้เรียกให้ดวงหน้าขาวๆของเครสขึ้นสีเรื่อ

                    เครสถึงกับสะอึกไปทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น เธอเหลือบมองใบหน้าที่แย้มรอยยิ้มอ่อนโยนของชายหนุ่มก่อนจะหัวเราะแห้งๆแล้วเกาหัวแก้เก้อด้วยอาการพูดไม่ออก แต่อาคเนย์กลับดึงมือบางนั้นมากุมไว้เรียกให้ดวงหน้าขาวๆของเครสขึ้นสีเรื่อ

                    "พี่เป็นห่วงเครสนะ... กลับมาให้ได้ แล้วพี่จะรอ..." เขาเห็นสีหน้าลำบากใจของครสแล้วก็ยอมปล่อยมือแต่โดยดีก่อนจะเปลี่ยนไปลูบศีรษะเบาๆด้วยความเอ็นดูเหมือนน้องสาว

                    "เครส เรือใกล้จะมาแล้วนะ" น้ำเสียงเย็นเยียบของเรดังขึ้นแทรกบทสนทนาที่ชวนให้อึดอัด เรียกให้เด็กสาวลอบถอานหายใจเบาๆก่อนจะก้าวถอยออกมา

                    "เครส เรือใกล้จะมาแล้วนะ" น้ำเสียงเย็นเยียบของเรดังขึ้นแทรกบทสนทนาที่ชวนให้อึดอัด เรียกให้เด็กสาวลอบถอานหายใจเบาๆก่อนจะก้าวถอยออกมา

                    "เอ่อ... งั้น เครสไปลาแพมกับแพนก่อนนะคะ ขอบคุณมากค่ะพี่เน" เจ้าตัวเอ่ยเสียงใสก่อนจะก้าวฉับๆหนีไปทิ้งให้สองพี่น้อง เน และ เร อยู่กันตามลำพัง...

                    "น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้ไปด้วย..." เนเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาก่อน ทว่าดวงตาสีน้ำเงินเข้มยังคงทอดยาวออกไปยังผืนน้ำที่ไกลสุดลูกหูลูกตา

                    "น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้ไปด้วย..." เนเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาก่อน ทว่าดวงตาสีน้ำเงินเข้มยังคงทอดยาวออกไปยังผืนน้ำที่ไกลสุดลูกหูลูกตา

                    "นายอยู่ที่นี่ ทำหน้าที่ของนายไปจะดีกว่า" เรเอ่ยตอบเรียบๆ ทว่าอาคเนย์กลับขยับรอยยิ้มเย็นชาที่แทบจะแช่แข็งหัวใจของคนมองให้ตายด้านซะตรงนั้น

                    "หน้าที่?...ฐานะคัลลิสโตในจตุจันทราไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับฉันซักเท่าไหร่หรอก" ถ้อยคำที่เจือแววปวดร้าวลึก เรียกให้ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลของผู้ฟังให้กลับมามองใหม่ด้วยความข้องใจ แต่ทว่าอาคเนย์ก็เอ่ยคำกลบเกลื่อนไปได้อย่างรวดเร็ว

                    "ฉันก็ไม่อยากจะรบกวนอะไรนายหรอกนะ แต่ก็ฝากดูแลเครสด้วย หวังว่าคงจะไม่เกินความสามารถของนายมากเกินไปใช่ไหมเร?" รอยยิ้มหยันที่มุมปากนั้นเหมือนจะยั่งโทสะของคนฟัง แต่เรกลับนิ่ง...นิ่งเสียจนคาดเดาอารมณ์ไม่ถูก...

                    "ฉันก็ไม่อยากจะรบกวนอะไรนายหรอกนะ แต่ก็ฝากดูแลเครสด้วย หวังว่าคงจะไม่เกินความสามารถของนายมากเกินไปใช่ไหมเร?" รอยยิ้มหยันที่มุมปากนั้นเหมือนจะยั่งโทสะของคนฟัง แต่เรกลับนิ่ง...นิ่งเสียจนคาดเดาอารมณ์ไม่ถูก...

                    "ฝากพ่อ แม่แล้วก็รินด้วย... ฉันบอกเขาว่ามาเที่ยวยูดาห์ นายแค่บอกว่าฉันอยู่กับพวกซันเขาคงจะวางใจ..."

                    "ฝากพ่อ แม่แล้วก็รินด้วย... ฉันบอกเขาว่ามาเที่ยวยูดาห์ นายแค่บอกว่าฉันอยู่กับพวกซันเขาคงจะวางใจ..."

                    ต่างฝ่ายต่างเงียบกันไปพักหนึ่ง ก่อนที่เรจะหันหลังกลับแล้วก้าวจากไปทิ้งให้อาคเนย์ยืนอยู่ตรงนั้นเพียงผู้เดียว...

                    ต่างฝ่ายต่างเงียบกันไปพักหนึ่ง ก่อนที่เรจะหันหลังกลับแล้วก้าวจากไปทิ้งให้อาคเนย์ยืนอยู่ตรงนั้นเพียงผู้เดียว...

                    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

                    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

                    "เฮ้อ..." ทรายถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยในขณะที่ซันกับเมยืนมองด้วยสีหน้าประหลาดใจ

                    "เฮ้อ..." ทรายถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยในขณะที่ซันกับเมยืนมองด้วยสีหน้าประหลาดใจ

                    "กลุ้มใจอะไรหรอพี่ทราย?" ซันเอ่ยถาม

                    "กลุ้มใจอะไรหรอพี่ทราย?" ซันเอ่ยถาม

                    "เปล่า... พี่ก็แค่หวังว่าแดนมันจะมาส่งพี่สักหน่อย อันที่จริงแล้วพี่ไม่ได้บอกมันนี่นาว่าพี่จะไปไหนแล้วมันจะมาส่งพี่ได้ยังไงล่ะเนี่ย" ทรายเอามือตบหน้าผากก่อนจะถอนหายใจอีกรอบ

                    "เปล่า... พี่ก็แค่หวังว่าแดนมันจะมาส่งพี่สักหน่อย อันที่จริงแล้วพี่ไม่ได้บอกมันนี่นาว่าพี่จะไปไหนแล้วมันจะมาส่งพี่ได้ยังไงล่ะเนี่ย" ทรายเอามือตบหน้าผากก่อนจะถอนหายใจอีกรอบ

                    "แล้วพี่ทรายบอกป้าไดอาน่ารึเปล่า?" เครสเอ่ยถามบ้าง ส่วนคนถูกถามก็ส่ายหัววืด

                    "แล้วพี่ทรายบอกป้าไดอาน่ารึเปล่า?" เครสเอ่ยถามบ้าง ส่วนคนถูกถามก็ส่ายหัววืด

                    "แม่อยู่ที่โรงพยาบาล คงจะงานยุ่งมาก กินนอนอยู่ที่นั่นซักเดือนแหละ แม่ก็เป็นแบบนี้บ่อยๆ เวลาเจอคนไข้เคสหนักๆเข้า ไม่กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์เลยก็มี"

                    "แม่อยู่ที่โรงพยาบาล คงจะงานยุ่งมาก กินนอนอยู่ที่นั่นซักเดือนแหละ แม่ก็เป็นแบบนี้บ่อยๆ เวลาเจอคนไข้เคสหนักๆเข้า ไม่กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์เลยก็มี"

                    "เจริญดีแท้..." กรเปรยเบาๆพอให้ได้ยินกันแค่เมกับเครส แต่ทรายที่หูไวอยู่แล้วกลับส่งสายตาเขียวปั๊ดมาพร้อมๆกับลูกมะเหงกที่ยังไม่ทันจะได้ทำหน้าที่ดี ก็มีอันต้องชะงักกลับกลุ่มคนที่สาวเท้าเข้ามาใกล้

                    "เจริญดีแท้..." กรเปรยเบาๆพอให้ได้ยินกันแค่เมกับเครส แต่ทรายที่หูไวอยู่แล้วกลับส่งสายตาเขียวปั๊ดมาพร้อมๆกับลูกมะเหงกที่ยังไม่ทันจะได้ทำหน้าที่ดี ก็มีอันต้องชะงักกลับกลุ่มคนที่สาวเท้าเข้ามาใกล้

                    และเด็กชายที่เดินนำหน้าขบวนมานั้น ก็เป็นคนที่ทรายไม่คิดว่าจะได้เห็น...

                    และเด็กชายที่เดินนำหน้าขบวนมานั้น ก็เป็นคนที่ทรายไม่คิดว่าจะได้เห็น...

                    "เขตแดน!!!"

                    "เขตแดน!!!"

                    "หน้าที่?...ฐานะคัลลิสโตในจตุจันทราไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับฉันซักเท่าไหร่หรอก" ถ้อยคำที่เจือแววปวดร้าวลึก เรียกให้ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลของผู้ฟังให้กลับมามองใหม่ด้วยความข้องใจ แต่ทว่าอาคเนย์ก็เอ่ยคำกลบเกลื่อนไปได้อย่างรวดเร็ว

                    "ฉันก็ไม่อยากจะรบกวนอะไรนายหรอกนะ แต่ก็ฝากดูแลเครสด้วย หวังว่าคงจะไม่เกินความสามารถของนายมากเกินไปใช่ไหมเร?" รอยยิ้มหยันที่มุมปากนั้นเหมือนจะยั่งโทสะของคนฟัง แต่เรกลับนิ่ง...นิ่งเสียจนคาดเดาอารมณ์ไม่ถูก...

                    "ฉันก็ไม่อยากจะรบกวนอะไรนายหรอกนะ แต่ก็ฝากดูแลเครสด้วย หวังว่าคงจะไม่เกินความสามารถของนายมากเกินไปใช่ไหมเร?" รอยยิ้มหยันที่มุมปากนั้นเหมือนจะยั่งโทสะของคนฟัง แต่เรกลับนิ่ง...นิ่งเสียจนคาดเดาอารมณ์ไม่ถูก...

                    "ฝากพ่อ แม่แล้วก็รินด้วย... ฉันบอกเขาว่ามาเที่ยวยูดาห์ นายแค่บอกว่าฉันอยู่กับพวกซันเขาคงจะวางใจ..."

                    "ฝากพ่อ แม่แล้วก็รินด้วย... ฉันบอกเขาว่ามาเที่ยวยูดาห์ นายแค่บอกว่าฉันอยู่กับพวกซันเขาคงจะวางใจ..."

                    ต่างฝ่ายต่างเงียบกันไปพักหนึ่ง ก่อนที่เรจะหันหลังกลับแล้วก้าวจากไปทิ้งให้อาคเนย์ยืนอยู่ตรงนั้นเพียงผู้เดียว...

                    ต่างฝ่ายต่างเงียบกันไปพักหนึ่ง ก่อนที่เรจะหันหลังกลับแล้วก้าวจากไปทิ้งให้อาคเนย์ยืนอยู่ตรงนั้นเพียงผู้เดียว...

                    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

                    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

                    "เฮ้อ..." ทรายถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยในขณะที่ซันกับเมยืนมองด้วยสีหน้าประหลาดใจ

                    "เฮ้อ..." ทรายถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยในขณะที่ซันกับเมยืนมองด้วยสีหน้าประหลาดใจ

                    "กลุ้มใจอะไรหรอพี่ทราย?" ซันเอ่ยถาม

                    "กลุ้มใจอะไรหรอพี่ทราย?" ซันเอ่ยถาม

                    "เปล่า... พี่ก็แค่หวังว่าแดนมันจะมาส่งพี่สักหน่อย อันที่จริงแล้วพี่ไม่ได้บอกมันนี่นาว่าพี่จะไปไหนแล้วมันจะมาส่งพี่ได้ยังไงล่ะเนี่ย" ทรายเอามือตบหน้าผากก่อนจะถอนหายใจอีกรอบ

                    "เปล่า... พี่ก็แค่หวังว่าแดนมันจะมาส่งพี่สักหน่อย อันที่จริงแล้วพี่ไม่ได้บอกมันนี่นาว่าพี่จะไปไหนแล้วมันจะมาส่งพี่ได้ยังไงล่ะเนี่ย" ทรายเอามือตบหน้าผากก่อนจะถอนหายใจอีกรอบ

                    "แล้วพี่ทรายบอกป้าไดอาน่ารึเปล่า?" เครสเอ่ยถามบ้าง ส่วนคนถูกถามก็ส่ายหัววืด

                    "แล้วพี่ทรายบอกป้าไดอาน่ารึเปล่า?" เครสเอ่ยถามบ้าง ส่วนคนถูกถามก็ส่ายหัววืด

                    "แม่อยู่ที่โรงพยาบาล คงจะงานยุ่งมาก กินนอนอยู่ที่นั่นซักเดือนแหละ แม่ก็เป็นแบบนี้บ่อยๆ เวลาเจอคนไข้เคสหนักๆเข้า ไม่กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์เลยก็มี"

                    "แม่อยู่ที่โรงพยาบาล คงจะงานยุ่งมาก กินนอนอยู่ที่นั่นซักเดือนแหละ แม่ก็เป็นแบบนี้บ่อยๆ เวลาเจอคนไข้เคสหนักๆเข้า ไม่กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์เลยก็มี"

                    "เจริญดีแท้..." กรเปรยเบาๆพอให้ได้ยินกันแค่เมกับเครส แต่ทรายที่หูไวอยู่แล้วกลับส่งสายตาเขียวปั๊ดมาพร้อมๆกับลูกมะเหงกที่ยังไม่ทันจะได้ทำหน้าที่ดี ก็มีอันต้องชะงักกลับกลุ่มคนที่สาวเท้าเข้ามาใกล้

                    "เจริญดีแท้..." กรเปรยเบาๆพอให้ได้ยินกันแค่เมกับเครส แต่ทรายที่หูไวอยู่แล้วกลับส่งสายตาเขียวปั๊ดมาพร้อมๆกับลูกมะเหงกที่ยังไม่ทันจะได้ทำหน้าที่ดี ก็มีอันต้องชะงักกลับกลุ่มคนที่สาวเท้าเข้ามาใกล้

                    และเด็กชายที่เดินนำหน้าขบวนมานั้น ก็เป็นคนที่ทรายไม่คิดว่าจะได้เห็น...

                    และเด็กชายที่เดินนำหน้าขบวนมานั้น ก็เป็นคนที่ทรายไม่คิดว่าจะได้เห็น...

                    "เขตแดน!!!"

                    "เขตแดน!!!"

                    "นายอยู่ที่นี่ ทำหน้าที่ของนายไปจะดีกว่า" เรเอ่ยตอบเรียบๆ ทว่าอาคเนย์กลับขยับรอยยิ้มเย็นชาที่แทบจะแช่แข็งหัวใจของคนมองให้ตายด้านซะตรงนั้น

                    "หน้าที่?...ฐานะคัลลิสโตในจตุจันทราไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับฉันซักเท่าไหร่หรอก" ถ้อยคำที่เจือแววปวดร้าวลึก เรียกให้ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลของผู้ฟังให้กลับมามองใหม่ด้วยความข้องใจ แต่ทว่าอาคเนย์ก็เอ่ยคำกลบเกลื่อนไปได้อย่างรวดเร็ว

                    "ฉันก็ไม่อยากจะรบกวนอะไรนายหรอกนะ แต่ก็ฝากดูแลเครสด้วย หวังว่าคงจะไม่เกินความสามารถของนายมากเกินไปใช่ไหมเร?" รอยยิ้มหยันที่มุมปากนั้นเหมือนจะยั่งโทสะของคนฟัง แต่เรกลับนิ่ง...นิ่งเสียจนคาดเดาอารมณ์ไม่ถูก...

                    "ฉันก็ไม่อยากจะรบกวนอะไรนายหรอกนะ แต่ก็ฝากดูแลเครสด้วย หวังว่าคงจะไม่เกินความสามารถของนายมากเกินไปใช่ไหมเร?" รอยยิ้มหยันที่มุมปากนั้นเหมือนจะยั่งโทสะของคนฟัง แต่เรกลับนิ่ง...นิ่งเสียจนคาดเดาอารมณ์ไม่ถูก...

                    "ฝากพ่อ แม่แล้วก็รินด้วย... ฉันบอกเขาว่ามาเที่ยวยูดาห์ นายแค่บอกว่าฉันอยู่กับพวกซันเขาคงจะวางใจ..."

                    "ฝากพ่อ แม่แล้วก็รินด้วย... ฉันบอกเขาว่ามาเที่ยวยูดาห์ นายแค่บอกว่าฉันอยู่กับพวกซันเขาคงจะวางใจ..."

                    ต่างฝ่ายต่างเงียบกันไปพักหนึ่ง ก่อนที่เรจะหันหลังกลับแล้วก้าวจากไปทิ้งให้อาคเนย์ยืนอยู่ตรงนั้นเพียงผู้เดียว...

                    ต่างฝ่ายต่างเงียบกันไปพักหนึ่ง ก่อนที่เรจะหันหลังกลับแล้วก้าวจากไปทิ้งให้อาคเนย์ยืนอยู่ตรงนั้นเพียงผู้เดียว...

                    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

                    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

                    "เฮ้อ..." ทรายถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยในขณะที่ซันกับเมยืนมองด้วยสีหน้าประหลาดใจ

                    "เฮ้อ..." ทรายถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยในขณะที่ซันกับเมยืนมองด้วยสีหน้าประหลาดใจ

                    "กลุ้มใจอะไรหรอพี่ทราย?" ซันเอ่ยถาม

                    "กลุ้มใจอะไรหรอพี่ทราย?" ซันเอ่ยถาม

                    "เปล่า... พี่ก็แค่หวังว่าแดนมันจะมาส่งพี่สักหน่อย อันที่จริงแล้วพี่ไม่ได้บอกมันนี่นาว่าพี่จะไปไหนแล้วมันจะมาส่งพี่ได้ยังไงล่ะเนี่ย" ทรายเอามือตบหน้าผากก่อนจะถอนหายใจอีกรอบ

                    "เปล่า... พี่ก็แค่หวังว่าแดนมันจะมาส่งพี่สักหน่อย อันที่จริงแล้วพี่ไม่ได้บอกมันนี่นาว่าพี่จะไปไหนแล้วมันจะมาส่งพี่ได้ยังไงล่ะเนี่ย" ทรายเอามือตบหน้าผากก่อนจะถอนหายใจอีกรอบ

                    "แล้วพี่ทรายบอกป้าไดอาน่ารึเปล่า?" เครสเอ่ยถามบ้าง ส่วนคนถูกถามก็ส่ายหัววืด

                    "แล้วพี่ทรายบอกป้าไดอาน่ารึเปล่า?" เครสเอ่ยถามบ้าง ส่วนคนถูกถามก็ส่ายหัววืด

                    "แม่อยู่ที่โรงพยาบาล คงจะงานยุ่งมาก กินนอนอยู่ที่นั่นซักเดือนแหละ แม่ก็เป็นแบบนี้บ่อยๆ เวลาเจอคนไข้เคสหนักๆเข้า ไม่กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์เลยก็มี"

                    "แม่อยู่ที่โรงพยาบาล คงจะงานยุ่งมาก กินนอนอยู่ที่นั่นซักเดือนแหละ แม่ก็เป็นแบบนี้บ่อยๆ เวลาเจอคนไข้เคสหนักๆเข้า ไม่กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์เลยก็มี"

                    "เจริญดีแท้..." กรเปรยเบาๆพอให้ได้ยินกันแค่เมกับเครส แต่ทรายที่หูไวอยู่แล้วกลับส่งสายตาเขียวปั๊ดมาพร้อมๆกับลูกมะเหงกที่ยังไม่ทันจะได้ทำหน้าที่ดี ก็มีอันต้องชะงักกลับกลุ่มคนที่สาวเท้าเข้ามาใกล้

                    "เจริญดีแท้..." กรเปรยเบาๆพอให้ได้ยินกันแค่เมกับเครส แต่ทรายที่หูไวอยู่แล้วกลับส่งสายตาเขียวปั๊ดมาพร้อมๆกับลูกมะเหงกที่ยังไม่ทันจะได้ทำหน้าที่ดี ก็มีอันต้องชะงักกลับกลุ่มคนที่สาวเท้าเข้ามาใกล้

                    และเด็กชายที่เดินนำหน้าขบวนมานั้น ก็เป็นคนที่ทรายไม่คิดว่าจะได้เห็น...

                    และเด็กชายที่เดินนำหน้าขบวนมานั้น ก็เป็นคนที่ทรายไม่คิดว่าจะได้เห็น...

                    "เขตแดน!!!"

                    "เขตแดน!!!"

                    "หน้าที่?...ฐานะคัลลิสโตในจตุจันทราไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับฉันซักเท่าไหร่หรอก" ถ้อยคำที่เจือแววปวดร้าวลึก เรียกให้ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลของผู้ฟังให้กลับมามองใหม่ด้วยความข้องใจ แต่ทว่าอาคเนย์ก็เอ่ยคำกลบเกลื่อนไปได้อย่างรวดเร็ว

                    "ฉันก็ไม่อยากจะรบกวนอะไรนายหรอกนะ แต่ก็ฝากดูแลเครสด้วย หวังว่าคงจะไม่เกินความสามารถของนายมากเกินไปใช่ไหมเร?" รอยยิ้มหยันที่มุมปากนั้นเหมือนจะยั่งโทสะของคนฟัง แต่เรกลับนิ่ง...นิ่งเสียจนคาดเดาอารมณ์ไม่ถูก...

                    "ฉันก็ไม่อยากจะรบกวนอะไรนายหรอกนะ แต่ก็ฝากดูแลเครสด้วย หวังว่าคงจะไม่เกินความสามารถของนายมากเกินไปใช่ไหมเร?" รอยยิ้มหยันที่มุมปากนั้นเหมือนจะยั่งโทสะของคนฟัง แต่เรกลับนิ่ง...นิ่งเสียจนคาดเดาอารมณ์ไม่ถูก...

                    "ฝากพ่อ แม่แล้วก็รินด้วย... ฉันบอกเขาว่ามาเที่ยวยูดาห์ นายแค่บอกว่าฉันอยู่กับพวกซันเขาคงจะวางใจ..."

                    "ฝากพ่อ แม่แล้วก็รินด้วย... ฉันบอกเขาว่ามาเที่ยวยูดาห์ นายแค่บอกว่าฉันอยู่กับพวกซันเขาคงจะวางใจ..."

                    ต่างฝ่ายต่างเงียบกันไปพักหนึ่ง ก่อนที่เรจะหันหลังกลับแล้วก้าวจากไปทิ้งให้อาคเนย์ยืนอยู่ตรงนั้นเพียงผู้เดียว...

                    ต่างฝ่ายต่างเงียบกันไปพักหนึ่ง ก่อนที่เรจะหันหลังกลับแล้วก้าวจากไปทิ้งให้อาคเนย์ยืนอยู่ตรงนั้นเพียงผู้เดียว...

                    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

                    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

                    "เฮ้อ..." ทรายถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยในขณะที่ซันกับเมยืนมองด้วยสีหน้าประหลาดใจ

                    "เฮ้อ..." ทรายถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยในขณะที่ซันกับเมยืนมองด้วยสีหน้าประหลาดใจ

                    "กลุ้มใจอะไรหรอพี่ทราย?" ซันเอ่ยถาม

                    "กลุ้มใจอะไรหรอพี่ทราย?" ซันเอ่ยถาม

                    "เปล่า... พี่ก็แค่หวังว่าแดนมันจะมาส่งพี่สักหน่อย อันที่จริงแล้วพี่ไม่ได้บอกมันนี่นาว่าพี่จะไปไหนแล้วมันจะมาส่งพี่ได้ยังไงล่ะเนี่ย" ทรายเอามือตบหน้าผากก่อนจะถอนหายใจอีกรอบ

                    "เปล่า... พี่ก็แค่หวังว่าแดนมันจะมาส่งพี่สักหน่อย อันที่จริงแล้วพี่ไม่ได้บอกมันนี่นาว่าพี่จะไปไหนแล้วมันจะมาส่งพี่ได้ยังไงล่ะเนี่ย" ทรายเอามือตบหน้าผากก่อนจะถอนหายใจอีกรอบ

                    "แล้วพี่ทรายบอกป้าไดอาน่ารึเปล่า?" เครสเอ่ยถามบ้าง ส่วนคนถูกถามก็ส่ายหัววืด

                    "แล้วพี่ทรายบอกป้าไดอาน่ารึเปล่า?" เครสเอ่ยถามบ้าง ส่วนคนถูกถามก็ส่ายหัววืด

                    "แม่อยู่ที่โรงพยาบาล คงจะงานยุ่งมาก กินนอนอยู่ที่นั่นซักเดือนแหละ แม่ก็เป็นแบบนี้บ่อยๆ เวลาเจอคนไข้เคสหนักๆเข้า ไม่กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์เลยก็มี"

                    "แม่อยู่ที่โรงพยาบาล คงจะงานยุ่งมาก กินนอนอยู่ที่นั่นซักเดือนแหละ แม่ก็เป็นแบบนี้บ่อยๆ เวลาเจอคนไข้เคสหนักๆเข้า ไม่กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์เลยก็มี"

                    "เจริญดีแท้..." กรเปรยเบาๆพอให้ได้ยินกันแค่เมกับเครส แต่ทรายที่หูไวอยู่แล้วกลับส่งสายตาเขียวปั๊ดมาพร้อมๆกับลูกมะเหงกที่ยังไม่ทันจะได้ทำหน้าที่ดี ก็มีอันต้องชะงักกลับกลุ่มคนที่สาวเท้าเข้ามาใกล้

                    "เจริญดีแท้..." กรเปรยเบาๆพอให้ได้ยินกันแค่เมกับเครส แต่ทรายที่หูไวอยู่แล้วกลับส่งสายตาเขียวปั๊ดมาพร้อมๆกับลูกมะเหงกที่ยังไม่ทันจะได้ทำหน้าที่ดี ก็มีอันต้องชะงักกลับกลุ่มคนที่สาวเท้าเข้ามาใกล้

                    และเด็กชายที่เดินนำหน้าขบวนมานั้น ก็เป็นคนที่ทรายไม่คิดว่าจะได้เห็น...

                    และเด็กชายที่เดินนำหน้าขบวนมานั้น ก็เป็นคนที่ทรายไม่คิดว่าจะได้เห็น...

                    "เขตแดน!!!"

                    "เขตแดน!!!"

                ไม่ต้องเรียกเสียงดังก็ได้ ไม่ได้หูหนวก แล้วถ้าไม่หนักหนาอะไรนักก็เลิกเรียกด้วยชื่อนั้นซะที เพราตอนนี้ฉันชื่อคิล เด็กชายเอ่ยเสียงห้วน ซึ่งดูเหมือนว่าจะยิ่งทำให้ทรายงงหนักยิ่งกว่าเดิม

     

                    ทำไมต้องเรียกยังงั้นล่ะ แล้วเธอรู้ได้ไงว่าพี่อยู่นี่?

               

                    ก็เพราะเป็นคำสั่งของท่านซูสน่ะสิ ฉันก็ไม่อยากจะมานักหรอกถ้าไม่เป็นเพราะคำสั่ง คิลยกมือขึ้นกอดอกด้วยท่าทีหงุดหงิด เรียกเสียงหัวเราะเย้ยหยันจากเด็กหญิงเรือนผมสีชมพูให้ดังขึ้นเบาๆ

     

                    รีริส หุบปากไปเลยนะ คิลพูดลอดไรฟัน

     

                    น้ำหน้าอย่างนายจะสั่งฉันได้มันเร็วไปร้อยปี รีริสขู่ฟอดกลับไป

     

                    หึ...เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเธอน่ะหรอ?

     

                    นายมันก็แค่ไอ้เด็กมีปัญหา!!”

     

                    รีริส! คิล!” เพียงน้ำเสียงเย็นเยียบกับสายตาคมกริบของซินเธียปราดมองทั้งคู่ก็ต้องจำยอมหุบปากลงแต่โดยดี ในขณะที่หยกขาวเพียงแต่ยิ้มน้อยๆ

     

                    พอซะทีทั้งคู่ บีบีเอ่ยด้วยน้ำเสียงระอาก่อนจะหันไปแย้มรอยยิ้มเป็นมิตรให้กับทราย ขอโทษนะคะ... พวกเราเป็นเด็กฝึกหัดที่อยู่ใต้อาณัติของจตุจันทรา ฉันชื่อบีบี นั่นซินเธีย หยกขาว รีริสอาร์ แล้วก็คิล หรือเขตแดนที่เป็นน้องชายของคุณค่ะ

     

                    หมายความว่าไง?... ซันถามแทนทรายที่ดูเหมือนจะนิ่งไปด้วยความคาดไม่ถึง

     

                    แหม... พี่ชาย ก็หมายความว่าเราจะได้ขึ้นเป็นจตุจันทราในอนาคตไงคะ แค่นี้ยังไม่เข้าใจอีก รีริสส่ายนิ้วพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนว่าเธอเป็นผู้รู้ทุกสรรพสิ่งมาตั้งแต่เกิด เครสแอบเห็นเส้นเลือดที่ขมับซันเต้นตุบๆเหมือนจะบอกว่าจุดเดือดอารมณ์ของเขาพุ่งปรี๊ดจนแทบจะทะลุปรอทอยู่รอมร่อ

     

                    เอาเป็นว่าจะอะไรก็ช่างเถอะนะ... ตอนนี้เรือมาแล้วและฉันก็คิดว่าพวกเธอจะรีบไป ลูกหมูเอ่ยขัดพลางกุมขมับในขณะที่คณะเดินทางส่วนใหญ่ก็ดูเหมือนว่าจะเห็นด้วยเสียเป็นส่วนมาก

     

                    นี่ๆ ทรายยกมือประท้วง ขอเวลาให้ทรายห้านาทีนะ รับรองว่าไม่มีเลทเด็ดขาด คำที่ดูเหมือนขอร้องนั่นแต่ทว่ากลับส่งประกายสายตาขู่เข็ญไปท่างจิ้ง เล่นเอาชายหนุ่มต้องจำยอมหันไปส่งสายตาวิงวอนให้ลูกหมูแทน ก่อนที่ผู้บัญชาการแห่งจตุจันทราจะตอบตกลงด้วยอาการแบบปลงๆ แล้วทรายก็ลากแดนเดินไปไกลลิบแบบไม่สนใจใคร

     

                    เอ้า พวกที่จะไปน่ะ รู้จักไว้ซะ ไต้ก๋งของเรือลำนี้ แอ๊คกี้ อารัลเฟล ลูกหมูเดินไปตบบ่าชายหนุ่มร่างเล็กด้วยท่าทีสนิทสนม ใบหน้าดูเด็กเสียจนเครสไม่แน่ใจว่าควรจะใช้สรรพนามเรียกว่าอะไรดี เลยตัดสินใจส่งยิ้มแห้งๆไปให้ ส่วนชายหนุ่มเพียงแต่หาวตอบกลับมาเท่านั้น

     

                    แล้วก็ช่างเครื่องประจำเรือ...ชิน กับ อู๋ เด็กหนุ่มร่างสูงหน้าตาค่อนไปทางเอเชียค้อมศีรษะลงน้อยๆพร้อมกับที่เด็กชายอีกคนส่งยิ้มกว้างมาให้

     

                    ยินดีที่ได้รู้จักนะทุกคน ไต้ก๋งเรือหาวอีกครั้งก็จะปรือตาลงทำท่าเหมือนจะยืนหลับอยู่รอมร่อ

     

                    ภาพที่ทำให้คณะเดินทางต้องน้ำลายเฝื่อนคอไปตามๆกัน...

     

                    ไต้ก๋งขี้เซา กับลูกเรืออ่อนโลก...

     

                พระเจ้า!!! แล้วนี่พวกเธอจะรอดไปถึงเฮลได้ยังไงกัน!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×