ยัวรักพยัคร้าย
ผู้เข้าชมรวม
77
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
...นักฆ่าต้องไร้หัวใจ คือสิ่งเดียวที่เขายึดมั่น... ...กำจัดนักฆ่าต้องล่าหัวใจ...คือสิ่งเดียวที่เธอต้องทำ... ...เมื่อพยัคฆ์ร้ายงามสง่าแต่ไร้หัวใจ... ...เธอจึงต้องยั่วยวนด้วยร่างกายเพื่อให้ได้ความรักมา... เวลาราว 5 ทุ่มรถที่แล่นมาด้วยความเร็วค่อยๆ ชะลอตัวจอดเทียบหน้าประตูรั้ว เมื่อรถจอดสนิทร่างโปร่งระหงจึงขยับตัวเอื้อมมือเพื่อเปิดประตูรถ ดวงตากลมโตหรี่ลงและชะงักมือและทำท่าลังเลเมื่อเห็นมีรถยนต์คันใหญ่สามคันจอดอยู่หน้าคฤหาสน์หรูสไตล์โรมัน บนเนื้อที่มากกว่าห้าไร่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาขนาดย่อมโอบล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่จนดูร่มรื่น รติญาเขม้นมองผู้ชายในชุดสูทสีดำที่ยืนกระจายอยู่รอบๆ ตัวรถและหน้าบ้านด้วยท่าทางสงบนิ่งอย่างสงสัย ดวงตากลมโตดำสนิทดุจสีนิลเหลือบไปมองชายแปลกหน้าอีกสองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านแล้วขมวดคิ้วน้อยๆ เมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ในบริเวณกำลังไพล่มือไปด้านหลัง และยืนอย่างสงบในอิริยาบถแบบเดียวกัน เรือนร่างบางระหงในชุดทะมัดทะแมงนั่งนิ่งอยู่กับที่เมื่อรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติ แม้จะทราบว่าบิดามักมีการติดต่อและเจรจาธุรกิจกับคนใหญ่คนโตอยู่เสมอ แต่เพราะเธอใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนเสียมากกว่าจึงทำให้ไม่ค่อยได้สัมผัสกับกลุ่มคนที่บิดาติดต่อมากนัก ขอโทษครับคุณผู้หญิง...ผมต้องรีบไป เสียงที่ดังขึ้นเบาๆ หยุดความสงสัยของหญิงสาวไปชั่วขณะ เธอหันไปเอ่ยขอโทษคนขับรถพร้อมกับหยิบธนบัตรส่งให้ตามราคาบนมิเตอร์ ก่อนจะเปิดประตูรถดึงกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่แล้วลากไปวางที่หน้าประตูรั้ว เมื่อแท็กซี่ขับออกไปเธอจึงเดินไปกดกริ่ง ขณะกำลังเอื้อมมือไปที่กริ่งเสียงใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น คุณโรสอย่าเข้าไป! เสียงแหบพร่าของชายวัยกลางคนที่ดังขึ้นจากด้านหลังหยุดมือที่กำลังกดลงบนกริ่งไปชั่วขณะ รติญาหันขวับไปทางต้นเสียงเมื่อเห็นว่าคนที่ทักเป็นใครใบหน้าฉงนฉงายก็ยิ้มพรายออกมา อ้าวลุงเจตน์นั่นเอง...สวัสดีค่ะ หญิงสาวยักมือขึ้นไหว้าทักทายคนที่สูงวัยกว่าอย่างคุ้นเคย คุณโรสรีบหนีก่อนเร็ว... เจตน์รีบพุ่งเข้าไปหิ้วกระเป๋าเดินทางแล้วเดินรีบๆ ไปที่รถ จะไปไหนคะ...แล้วทำไมโรสถึงเข้าไปในบ้านไม่ได้ อย่าพึ่งถามเร็วเข้าเราต้องรีบหนี หนี!...ทำไมต้องหนีคะ รติญาหยุดเดินเอียงหน้ามองคนสนิทของบิดาด้วยประกายตาสงสัย ก่อนจะเบนกลับไปมองชายแปลกหน้าในชุดสูทที่กระจายอยู่เต็มบ้านแล้วครุ่นคิด ขึ้นรถก่อนเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟัง...เร็วเถอะครับ แต่ก่อนที่หญิงสาวจะทันตัดสินใจ อยู่ๆ รถเก๋งสีดำคันใหญ่สองคันก็แล่นเข้ามาด้วยความเร็วที่แทบเสยเข้าหาเธอ รติญาสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับกระโดดไปด้านหลังตามสัญชาตญาณ ร่างบางระหงยืดตัวขึ้นเมื่อคลายจากความตระหนก ดาวตาสีดำสนิทเบิกกว้างเมื่อเห็นมีชายในชุดสูทสีดำสองคนก้าวยาวๆ เข้ามาและจับตัวเธอไว้ พวกแกเป็นใคร? ปล่อยฉันนะ! หญิงสาวสะบัดตัวแรงๆ พร้อมกับแผดเสียงขึ้น จะไปไหนกัน? ชายหนุ่มหน้าตาดีรูปร่างสูงเปรียวก้าวลงจากรถด้วยท่าทางนิ่งสงบ เขามองท่าทางเดือดดาลของหญิงสาวด้วยประกายตาเฉยเมยก่อนจะปรายตาไปทางเจตน์แล้วถามเสียงเย็น เอ่อ... เจตน์ทำท่าอึกอักก่อนจะเบือนหน้าหลบไม่ยอมสบตากับคนถาม อย่าทำให้เรื่องมันยุ่งยาก...มากไปกว่าที่เป็นดีกว่า...พาพวกเขาเข้าไปข้างใน คำพูดที่เปล่งออกมาฟังดูเรียบเฉยในคราแรกแต่น้ำเสียงยามออกคำสั่งสุดท้ายกลับเฉียบขาดและดุดัน รติญาหยุดดิ้นรนแล้วประเมินสถานการณ์ หญิงสาวจ้องชายแปลกหน้าที่กำลังปรายตามองดูเธอและเบนกลับไปทางเจตน์อีกครั้งด้วยประกายตาตื่นตระหนกระคนสงสัย ลุงเจตน์...คนพวกนี้เป็นใครกัน...พวกเขามาทำอะไรที่บ้านของเราเหรอคะ ไม่มีคำตอบใดๆ หลุดออกจากปากคนสนิทของบิดา เจตน์เม้มปากแน่นก่อนจะหันไปทางชายหนุ่มร่างเปรียวแล้วเอ่ยขึ้น อย่าแตะต้องเธอ... คำพูดของชายวันกลางคนหยุดร่างสูงเปรียวที่กำลังก้าวไปขึ้นรถ ชายหนุ่มหันไปมองหญิงสาวผิวขาวนวลเนียน...รูปร่างสูงโปร่ง...ดวงหน้าเรียวละมุน...ดวงตากลมโตสีดำสนิทที่ฉายแววตื่นตระหนกด้วยความรู้สึกทึ่งในทุกสิ่งที่ประกอบขึ้นเป็นเธอ ก่อนจะเบนกลับไปจ้องหน้าผู้สูงวัยกว่าแล้วเลิกคิ้วอย่างเป็นต่อ ถ้าไม่อยากให้แตะต้องคุณก็ควรหาทางออกสวยๆ ไว้แลกเปลี่ยน รอยยิ้มเยาะหยันราวกับทุกสิ่งทุกอย่างกำลังอยู่ในกำมือผุดออกจากมุมปากสีคล้ำ ชายหนุ่มพยักหน้าให้คนติดตามพาหมากตัวสำคัญไปขึ้นรถ ชายร่างใหญ่เดินไปดึงกระเป๋าเสื้อผ้าของหญิงสาวจากมือเจตน์และโยนลงไปในกระโปรงรถอีกคัน รติญามองเห็นชายคนหนึ่งวิ่งตรงมาเปิดประตูรั้วให้ด้วยความแปลกใจ เมื่อรถจอดสนิททั้งหมดจึงคุมตัวเธอและคนสนิทของบิดาเข้าไป ตลอดเส้นทางระหว่างเดินเข้าไปในบ้านหญิงสาวปรายตามองไปทางคนติดตามของบิดาบ่อยครั้ง บ่อยจนคนถูกมองไม่กล้าหันไปสบตากับเธออีก คุณแม่!...พี่รัช!.... เมื่อเท้าเหยียบเข้าไปในบ้านดวงตากลมโตเบิกขึ้นพร้อมกับอุทานออกมาเมื่อเห็นสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงของมารดาที่นั่งดวงตาแดงช้ำอย่างเหม่อลอยอยู่บนพื้น ข้างๆ มีร่างหมดสติของรัชพลที่ศีรษะอาบไปด้วยเลือดถูกมัดปากมัดมืออย่างแน่นหนาพิงกับโซฟา ลุงเจตน์เรียกรถพยาบาลสิคะ....ใครก็ได้ทำอะไรสักอย่างสิ...พี่รัช!... รติญาหันไปผลักคนที่จับยึดเธอไว้ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี เมื่อได้รับอิสระหญิงสาวจึงพุ่งตัวเข้าไปหาพี่ชาย มือเรียวประคองใบหน้าเปื้อนเลือดของรัชพลขึ้นมาแล้วเหลือบไปทางมารดา คุณแม่...เกิดอะไรขึ้น? คำถามที่เธอคิดว่าจะพรั่งพรูออกมาถูกกลืนกลับลงคอในทันใดเมื่อเห็นความผิดปกติของมารดา รติญามองดวงตาแดงก่ำที่ฉายประกายว่างเปล่าด้วยความรู้สึกหนาวยะเยือกไปทั้งความรู้สึก ดวงตาสีนิลกวาดไปรอบๆ พอเห็นร่างไร้สติของคนในครอบครัวนอนเกลื่อนกระจายอยู่บนพื้นและโซฟาใบหน้าเรียวละมุนก็ถึงกับเผือดซีด...รติญารู้สึกใจหายจนร่างกายเริ่มสั่นเทาเมื่อเห็นคนติดตามของบิดาสามคนนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ห่างออกไป...มันเกิดอะไรขึ้น...หญิงสาวปรายตาไปมองชายแปลกหน้าในชุดสูทสีดำนับสิบคนที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ อย่างหวาดหวั่น พวกคุณต้องการอะไร? เมื่อพอเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรหญิงสาวจึงลุกขึ้นหันไปเผชิญหน้ากับชายหนุ่มที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยประกายตาที่คนถูกถามนึกสนุกกับความแข็งกร้าวของเธอแม้ใบหน้างดงามจะหวาดหวั่นจนเห็นชัดว่าร่างกายของเธอกำลังสั่นสะท้านเพราะหวาดกลัวก็ตามที ตอบเธอไปสิเจตน์ว่าพวกผมต้องการอะไร? และคำถามของเธอก็ถูกโยนไปยังอีกคนด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน พวกเขาต้องการอะไรคะลุงเจตน์ เจตน์หลบตาคนถามแล้วเบนไปมองชายหนุ่มรุ่นลูกแววตาอาฆาต อย่ามองผมแบบนั้นสิ...เพราะทุกอย่างเริ่มจากพวกคุณทั้งนั้น ชายหนุ่มยักไหล่แล้วผุดรอยยิ้มเย็นยะเยือกออกมา ในบ้านหลังนี้ไม่มีสิ่งที่พวกคุณต้องการ...คนบ้านนี้ไม่มีสิ่งที่คุณต้องการเลยสักอย่าง...อย่าทำอะไรพวกเขา เจตน์หันไปตวาดเมื่อสุดจะทนกับหายนะที่กำลังเผชิญ ใช่บ้านนี้อาจจะไม่มีสิ่งที่พวกผมต้องการ...แต่คุณก็รู้นี่ว่าสิ่งที่พวกผมต้องการมันอยู่ที่ไหน...และใครจะนำทางไปเอามันกลับคืนมา น้ำเสียงคนที่ตอบกลับมาฟังดูเรียบเฉย แต่กระแสเสียงที่เอ่ยบ่งบอกชัดถึงความเด็ดขาด ก็ได้ผมจะพาไปเอง...แต่คุณต้องปล่อยเธอไป...และสัญญาว่าจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก เจตน์บอกอย่างหมดทางเลือก แค่ตัวคุณมันคงไม่มีความสำคัญกับเจ้านายมากถึงเพียงนั้นหรอกมั้งเจตน์ และที่สำคัญเวลานี้คุณไม่มีสิทธิ์ต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น คุณโรสไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้...และคนบ้านนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณเด่นชัยทำปล่อยพวกเขาไป ผิดแล้ว...ทุกคนเกี่ยวข้องกับทุกอย่างที่เจ้านายคุณเป็นคนทำ...บอกผมได้หรือยังว่าเด่นชัยมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ผมขอร้องล่ะอย่าทำร้ายพวกเขา...ได้โปรดเถอะ ทุกอย่างอยู่ที่คำสั่งนาย...คุณก็รู้นี่ว่าพวกผมไม่ใช่คนตัดสิน...อีกสักครู่เมื่อนายมาถึงคุณก็ลองอ้อนวอนดูสิ แต่คุณขอนายได้...ได้โปรดเถอะอย่าแตะต้องเธอ พอได้ยินคำอ้อนวอนของคนต่างวัย ร่างสูงปราดเปรียวจึงหมุนตัวเบนสายตาไปจ้องดวงหน้าเรียวละมุนที่ขาวซีดราวแผ่นกระดาษด้วยประกายตาบางอย่าง... เมื่อเห็นประกายตาของอีกฝ่ายจ้องเธอราวกับกำลังพึงพอพอใจรสิตาจึงก้าวถอยไปด้านหลัง เธอหมุนไปมองมารดาที่นั่งเหม่อลอยแล้วค่อยๆ ทรุดลงข้างๆ พร้อมกับโอบกอดนางและซบหน้ากับไหล่ลู่อย่างหมดทางช่วยเหลือ...และไม่คิดสนใจกับใครอีก... เสียงรถที่ดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงสมาร์ทเดินมาดมั่นเข้ามาหยุการสายตาที่กำลังจ้องท่าทางสิ้นหวังของหญิงสาวก่อนจะหันไปทางประตู ให้ตายเถอะ...มันเกิดบ้าอะไรขึ้น? เสียงทุ้มดุดันของใครคนหนึ่งที่ดังมาจากหน้าประตูหยุดมือที่กำลังลูบหลังมารดาไปชั่วขณะ แม้จะสงสัยว่าคนเข้ามาเป็นใครแต่เธอก็ไม่คิดหันไปมอง ธงไชยถ้าใครขยับช่วยจับลูกปืนยัดลงบนสมองมันให้ด้วยเดี๋ยวผมมา ชายหนุ่มร่างสูงปราดเปรียวหันไปสั่งพร้อมกับผุดลุกขึ้นก้าวยาวๆ ไปหาเจ้านายก่อนจะพาออกไปด้านนอกพร้อมกับปิดงับประตู บัดซบ! เอ๊ย...นายทำบ้าอะไรกับคนในนั้นฉันสั่งแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าฆ่าใคร...เราต้องการแค่ของกับคนสนิทของมันทำแบบนี้เดี๋ยวไอ้หมาบ้าราชก็ได้หาเรื่องลากฉันไปไว้ในคุกหรอก อลันทำท่าหงุดหงิดเมื่อเห็นสภาพของคนในบ้านกำลังจะสร้างปัญหาให้กับตน สารวัตรอยู่ตากนะคุณอลันที่นี่มันกรุงเทพฯ มายังไงก็ไม่ถึงหรอก ไม่ถึงบ้าอะไร...มันยิ่งขู่ๆ ฉันอยู่ด้วยว่าถ้าฉันฆ่าคนในราชอาณาจักรไทยมันจะจับฉันใส่กุญแจมือแล้วโยนเข้าคุก อ้าวตกลงคุณอลันกลัวสารวัตรเหรอครับ เอกทัศน์ถามออกไปด้วยระดับเสียงที่แสดงความประหลาดใจ ฉันเนี่ยนะจะกลัวไอ้สารวัตรหมาบ้านั่น...ไม่มีวันเสียล่ะ...คนที่ฉันเกรงใจคือคุณแม่ต่างหาก...แล้วไหนจะยัยหมีขาวขั้วโลกนั่นอีก...อลิสได้ฉีกอกฉันพอดีถ้าทำงานนี้ไม่สำเร็จ...ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมฉันต้องรับทำเรื่องบ้าๆ นี่เพื่อเธอด้วย... ที่คุณเลือกทำก็เพราะรักคุณอลิสยังไงล่ะครับ ถ้าฉันเลิกรักยัยหมีขั้วโลกนั่นได้คงจะดี และจะดีมากถ้าพวกนั้นจะยอมให้เราทำงานตามวิธีที่ฉันถนัดโอ๊ย...หงุดหงิดยัยอลิสมันห้ามไม่ให้ฉันฆ่าใครแม้แต่ทรมานก็ถูกห้าม...ฉันเป็นนักฆ่านะทัศน์ไม่ใช่บาทหลวงมันคิดมาได้ยังไงกับข้อห้ามพวกนั้น อลันบอกอย่างหงุดหงิดเมื่อมองเห็นความยากลำบากของภาระอันหนักอึ้งที่แบกอยู่เต็มบ่า ทุกอย่างเป็นแค่ฉากน่าคุณอลันมันไม่ถึงกับเป็นเรื่องใหญ่อะไร เอกทัศน์มองท่าทางหงุดหงิดงุ่นง่านของเจ้านายด้วยประกายตาขบขัน บอกไปใครจะเชื่อว่าเจ้านายจอมวายร้ายจะยอมอยู่ในโอวาทของน้องสาวจนไม่กล้าหือกับคำสั่ง นายกำลังจะบอกว่าไอ้ที่นอนกันกระจายอยู่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรงั้นสิ...ฉันให้นายไปจับตัวนายเจตน์คนสนิทของนายเด่นชัยไม่ใช่เรอะทำไมต้องถ่อมาที่นี่... เพราะเหยื่อล่ออยู่ที่นี่ไงครับพวกเราใช้ตัวลูกสาวของนายเด่นชัยที่เพิ่งเดินทางกลับจากอเมริกามาเป็นตัวล่อให้นายเจตน์ออกมาและมันก็ใช้ได้ผลเกินคาดเมื่อเราได้ทั้งเหยื่อและปลาตัวใหญ่ ฉันไม่ได้ต้องการเหยื่อล่อบ้าบออะไรนั่น...วันนี้นอกจากนายจะอาจหาญโทรไปตามฉันมาที่นี่...นายยังทำนอกเหนือคำสั่งของฉันอีกด้วยนะทัศน์ แม้คุณอลันจะไม่ได้สั่งแต่พวกผมก็จำเป็นต้องทำครับ เอกทัศน์มองสีหน้าขุ่นเคืองของเจ้านายด้วยประกายตาหวาดหวั่น นายมีความจำเป็นอะไรถึงกล้าขัดคำสั่งของฉัน มาดามเกรงว่าคุณเจตน์จะไม่ยอมให้ความร่วมมือจึงวางหมากให้พวกเราแบ่งกันออกเป็นสองทีมทีมหนึ่งเข้ามาสร้างสถานการณ์ที่บ้านอีกทีมประกบอยู่ที่สนามบินเพื่อรอนายเจตน์...แม้แผนจะพลาดตรงที่คุณโรสเธอเลือกเดินทางกลับบ้านเองแต่เราก็มาทันก่อนที่นายเจตน์จะพาเธอหนี มาดามให้คุณใช้คุณโรสเป็นตัวต่อรองอีกชั้นหนึ่งหากทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ไม่มีทางฉันไม่ใช้หมากที่เป็นผู้หญิงแน่ไปลากคอนายเจตน์นั่นออกมาแล้วพาทุกคนกลับ ให้ตายเถอะแค่ปวดหัวกับอลิสฉันก็จะบ้าตายอยู่แล้วนายยังจะไปหาผู้หญิงมาสร้างปัญหาให้ฉันอีกเหรอ พอได้ยินว่าหมากที่มารดาวางไว้อีกชั้นคืออิสตรี...อลันที่นึกผวาผู้หญิงจนเข้ากระดูกก็ถึงกับเต้นผาง มาดามให้เหตุผลว่าคุณโรสคือหมากสำคัญที่เราจะใช้บีบนายเด่นชัย อ้อ...แม่นั่นคงสำคัญกับมันมากล่ะสิคุณแม่ถึงคิดเอามารุกฆาต...งั้นบอกมาเลยว่าจะให้ฉันฆ่าแม่นั่นแล้วส่งเธอไปให้มันที่ไหน...ทุกอย่างจะได้จบๆ สักทีฉันอยากมีชีวิตเป็นของตัวเองเต็มแก่แล้ว อลันบอกอย่ากระตือรือร้น คุณอลันจะฆ่าโดยไม่คิดดูหน้าเธอหน่อยเหรอ เฮอะ...นายจะบอกฉันว่าแม่นั่นสวยล่ะสิ...หยุดยัดเยียดชีวิตอันน่าหวาดผวามาให้ฉันเสียที...ผู้หญิงสำหรับฉันมันคือหายนะอย่าได้เอามาแผ้วพานเชียว แต่เธอสวยนะครับ...ผมเห็นยังอดตะลึงไม่ได้...ไม่คิดจริงๆ ว่านายเด่นชัยจะมีลูกสาวสวยขนาดนี้ เอกทัศน์สาธยายพร้อมกับทำตาแพรวพราว สวยยังไงก็น่าสยองอยู่ดีนั่นแหละ...นายไม่เห็นเรอะว่าผู้หญิงสวยๆ มันน่าสยดสยองขนาดไหน...ทั้งคุณแม่ทั้งอลิสยังไม่รวมถึงสองผู้กองจอมผวานั่นอีก...ฉันไม่เอาชีวิตไปแขวนอยู่บนความสมเพชเวทนาเพราะผวาเมียอย่างไอ้พวกผู้ชายไร้เกรดพวกนั้นแน่ หนุ่มหล่อผู้ไร้หัวใจยังยึดมั่นกับอุดมการณ์อันแรงกล้าของตัวเอง ถ้าวันหนึ่งคุณรู้จักรักผู้หญิงสักคนคุณจะเข้าใจเองว่าทำไมทุกคนถึงได้ผวาเมีย... เอกทัศน์บอกยิ้มๆ สาบานได้เลยว่าฉันจะไม่มีวันหวั่นไหวกับใครทั้งนั้น...เซ็กส์ของฉันคือการซื้อขายที่ไม่ต้องมีอะไรมาผูกมัด...ฉันไม่โง่กระโจนลงหุบเหวเพราะเอาตัวเองไปผูกพันกับพวกผู้หญิงแน่...จำเอาไว้ อลันผู้ไม่เคยคิดก้มหัวอยู่ตรงแทบเท้าของอิสตรีนางใดยังแสดงวิสัยทัศน์ของตนออกไปด้วยความมาดมั่น |
ผลงานอื่นๆ ของ ครีมก๊าบ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ครีมก๊าบ
ความคิดเห็น