ลำดับตอนที่ #13
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : บทที่10 สับสน
บทที่10 สับสน
(บอมเบย์-บุตรคนเล็กของท่านผู้อำนวยการ)
"มาสายสิบห้านาที!! เพราะเธอเราถึงต้องโดนลงโทษแบบนี้!!"
ลิลินเอ่ยเสียงรอดไรฟัน(และไม้บรรทัดที่คาบอยู่)ขณะที่ทั้งคู่ยืนอยู่หน้าห้องเรียน
นับว่าเป็นโชคดีอย่างยิ่งที่เพื่อนรักนามว่าลิลินยังรอเธออยู่หน้าบันได
แต่ก็นับว่าเป็นโชคร้ายอย่างใหญ่หลวงที่พวกเธอเข้าห้องเรียนช้ากว่าอาจารย์(สุดโหดที่เซตเรียกว่าตาแก่หัวโล้นหน้าโหดหนังเหี่ยว)ไปสิบห้านาที
ด้วยเหตุนั้นทั้งคู่จึงต้องมายืนคาบไม้บรรทัดหน้าห้องเรียนแบบน่าอนาถสุดๆ
"ขอโทษ..."
เป็นคำเดียวที่มินาจะพูดกับเพื่อนได้ เพราะจะว่าไปมันก็เป็นความผิดของเธอนั่นแหละ
ถ้าเธอไม่มัวแต่ไปเอ้อระเหยลอยชาย ป่านนี้ทั้งเธอและลิลินคงจะได้นั่งที่สบายใจเฉิบไปแล้ว
"เอาเถอะ คราวนี้ฉันก็ผิดด้วยนั่นแหละเนอะ"
เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักยอมรับผิดแต่โดยดี คนใจอ่อนอย่างลิลินก็ยอมให้อภัยแต่โดยง่าย เพราะถึงเธอจะขี้งอนไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นคนที่หายโกรธใครยากไปเสียทีเดียว
ฝ่ายคนทำผิดเมื่อเห็นเพื่อนรักให้อภัยก็หันมายิ้มให้ สองสาวยิ้มให้กันพลางแอบหัวเราะเงียบๆโดยที่ไม่ได้สำนึกเลยว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์แบบไหน
"อ้าว นั่นมินานี่นา!! ดีจังที่เจอคนรู้จัก"
น้ำเสียงแสดงความยินดีที่ดังขึ้นจากเบื้องหลังทำให้มินาตกใจเล็กน้อย เมื่อหันไปตามต้นเสียงมินาก็ได้พบกับเอมิลี่ เอเมอร์รัลที่ถือเอกสารบางอย่างในมือมาด้วย
"เอมิลี่!!"
ลิลินหุบยิ้มทันทีที่เห็นเพื่อนสนิทไปทักทายคนอื่น คนตัวเล็กแอบส่งสายตาขุ่นเคืองไปให้ผู้มาใหม่อยู่แวบหนึ่งโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว
"เธอรู้จักเด็กคนนั้นด้วยเหรอ?"
ลิลินถามพลางหันไปมองคนตัวเล็กกว่า
"อ๋อ นี่เอมิลี่ เอเมอร์รัล เขาบอกว่าเขาเพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่วันแรกน่ะ"
นับว่าการที่มินาจะรู้จักใครก่อนลิลินนั้นเป็นเรื่องแปลกอยู่ไม่น้อย แต่ดูจากรูปลักษณ์ที่เด่นสะดุดตาของเอมิลี่ก็คงไม่แปลกที่คนความจำสั้นจะจำได้
และถึงแม้จะเคืองๆอยู่บ้างที่เอมิลี่มาเกาะเเกะ(?)มินา แต่ลิลินก็เลือกที่จะผูกมิตรกับนักเรียนใหม่ผู้นี้
"ฉันลิลิน 'ลิลิน่า เบลล์'ยินดีที่ได้รู้จัก"
"ยินดีที่...!"
"นี่พวกเธอเอะอะอะไรกัน!!?"
ไม่ทันที่เอมิลี่พูดจบประโยค อาจารย์หน้าโหดก็เดินเข้ามาเสียก่อน ลิลินกับมินารีบ(ทำเป็น)คาบไม้บรรทัดนิ่งๆด้วยรู้กิตติศัพท์ของอาจารย์ดีอยู่แล้ว มีเพียงนักเรียนใหม่นามเอมิลี่เท่านั้นที่ยืนมองอาจารย์ด้วยท่าทีสบายๆ
"แล้วเธอเป็นใครเนี่ย?"
อาจารย์พูดต่อทันทีที่เห็นผู้มาใหม่
"หนูเป็นนักเรียนใหม่ค่ะ ชื่อเอมิลี่ เอเมอร์รัล"
เอมิลี่ว่าพลางยื่นเอกสารการย้ายโรงเรียนให้ อาจารย์ผู้ไร้เส้นผมบนศีรษะรับเอกสารจากเอมิลี่มาอ่านอยู่ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า
"เธอรออยู่ตรงนี้สักครู่นะ ส่วนแอสโทเรียกับเบลล์เข้าห้องได้!"
อาจาย์หน้าโหดบอกกับเอมิลี่ก่อนจะหันมาเอ่ยคำอภัยโทษ(?)กับนักเรียนที่มาสาย
ลิลินกับมินาเอ่ยขอบคุณอาจารย์ก่อนจะเดินเดินไปยังโต๊ะเรียนของตนด้วยสีหน้าปกติ(เพราะสายบ่อย)
จากนั้นไม่นานอาจารย์กับเอมิลี่ก็เดินมายืนอยู่หน้าชั้นเรียน แน่นอนว่ารูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเอมิลี่เรียกความสนใจจากนักเรียนทั้งห้องได้เป็นอย่างดี(โดยเฉพาะนักเรียนชาย) แต่ถึงกระนั้นคนมาสายอย่างมินากลับฟุบตัวลงกับโต๊ะเรียนเพราะรู้อยู่แล้วว่าจากนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
สติของร่างบางค่อยๆถูกความง่วงงุนกลืนกินไปทีละน้อย...ทีละน้อย
ท่ามกลางเสียงแนะนำตัวของนักเรียนใหม่ จนกระทั่งอาจารย์เรียกชื่อนั่นแหละเธอถึงต้องขืนตัวขึ้นมา
ให้ตาย!! เมื่อคืนเธอได้นอนแค่สามชั่วโมงเองนะ...ของีบหน่อยเถอะ!!
"เธอหลับในห้องเรียนอีกแล้วนะ แอสโทเรีย!!"
อาจารย์หน้าโหดเดินมาดุเธอถึงหน้าโต๊ะเรียน ในขณะที่คนทำผิดทำได้แค่...
"ขอโทษค่าาา"
"คิกๆๆ"
เสียงหัวเราะแผ่วเบาดังขึ้นจากข้างหลัง มินาเพิ่งสังเกตได้ว่าเอมิลี่นั่งอยู่โต๊ะถัดจากเธอนี่เอง
"ไหนเธอลองตอบคำถามบนกระดานนี่ซิ!!"
อาจารย์หน้าโหดสั่งเสียงดังพลางชี้ไม้เรียวในมือไปยังโจทย์มหาหินที่ยากที่สุดบนกระดาน
และแน่นอน...ถ้าเธอตอบไม่ได้ก็ต้องไปยืนคาบไม้บรรทัดอีก(ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็หลับไม่ค่อยสบาย)
เมื่อเป็นเช่นนี้มินาจึงรีบหันไปหาเพื่อนข้างกายทันที...แต่อนิจจา!!
...ยัยลิลินก็หลับงั้นเหรอ!!? แล้วทำไมยัยนี่ไม่โดนดุล่ะ!!!...
"สิบห้านาฬิกาสามสิบแปดนาทีวันที่ยี่สิบหกกรกฎาคมในศตวรรษที่สิบแปด..."
เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้นจากเบื้องหลัง แม้จะเบลอๆอยู่บ้างแต่มินาก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป
"สะ...สิบห้านาฬิกาสามสิบ...เอ่อ...สามสิบแปดนาที วันที่ยี่สิบหกกรกฎาคม ใน...อ่าาา...ศตวรรษที่...สิบเเปด มั้งคะ"
"ผิด...เอ้ย! ถูกงั้นเรอะ!?"
อาจารย์ดูจะตกใจไม่น้อยที่เด็กสาวตอบคำถามถูก แต่สุดท้ายก็จำต้องอนุญาตให้เธอนั่งลงได้
"ขอบใจมากนะ"
มินากระซิบกับเพื่อนใหม่เบื้องหลัง
"อื้อ~~~"
เอมิลี่ตอบเธอด้วยรอยยิ้มที่มินาเห็นแล้วรู้สึกว่า'น่ารัก'อย่างไม่น่าเชื่อ ดูเหมือนระยะนี้เธอจะมีเพื่อนใหม่หลายคนเลยนะเนี่ย...
...ไม่สิ เธอคิดว่าหมอนั่นเป็นเพื่อนรึเปล่านะ?...
...
..
.
เสียงสัญญาณบอกเวลาดังได้สักสิบห้านาทีแล้ว นักเรียนดีเด่นที่นั่งอยู่เดียวดายชะเง้อไปทางประตูทางเข้าตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้ยินเสียง ด้วยหวังว่าคนที่เขาไม่ได้คุยด้วยมาสามวันจะปรากฏตัวอยู่ตรงนั้น
แต่คอยแล้วคอยเล่าเธอก็ไม่มาเลย
...ทำไมยังไม่มาอีกนะ...
"ดูนายจะหมกมุ่นเรื่องเด็กนั่นมากเลยนะ"
โทมัสเอ่ยจากอีกฟากหนึ่งของดาดฟ้าพลางกระดกน้ำมะเขือเทศลงคออึกใหญ่ ซาเบิ้ลดูจะไม่พอใจเล็กน้อยที่เห็นเพื่อนร่วมชั้น(กวนประสาท)อยู่ตรงนั้น
"ผมไม่ได้หมกมุ่นขนาดนั้น..."
คนถูกกว่าวหารีบแย้งทันที แต่มีหรือที่คนนั่งมองอย่างโทมัสจะดูไม่ออก
"ฉันเห็นนายชะเง้อหาเด็กนั่นตั้งแต่ออดยังไม่ดัง ถ้าอีกสิบนาทีนายยังไม่ได้เห็นหน้าเด็กนั่น อาจจะมีนักเรียนดีเด่นบางคนดีแตกไปฉุดรุ่นน้องมาจากห้องเรียนก็เป็นได้..."
ซาเบิ้ลหน้าแดงทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น
ให้ตาย!! เขาไม่ได้คิดจะอะไรเทือกๆนั้นกับเด็กนั่นซักหน่อย...อย่างน้อยๆก็ไม่ได้คิดตลอดเวลาน่ะนะ
"นี่คุณขึ้นมาบนนี้เพื่อจับผิดผมงั้นเหรอ!!?"
นักเรียนดัเด่นเอ่ยถามเพื่อนร่วมชั้นออกไป ด้วยอารมณ์ที่(เริ่มจะ)หงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้ว
"เปล๊า!"
โทมัสตอบยียวนพลางกระดกน้ำมะเขือเทศจนหมดกระป๋อง จากนั้นก็หยิบกระป๋องใหม่มาเปิดอีก
"งั้นคุณมาทำไมครับ"
"มาถ่ายคลิปนายสูบบุหรี่ไปแบล็กเมล์มั้ง...!"
คนที่ดูภายนอกเหมือนเป็นคนดีไร้พิษสงรีบพุ่งไปหาตัวเพื่อนร่วมชั้นทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น
มือแกร่งรีบคว้าคอเสื้อของคนตรงหน้าไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้ทำอะไร
น้ำเสียงเรียบๆแต่แฝงด้วยความอำมหิตดังกว่าเสียงกระซิบเพียงเล็กน้อยค่อยๆหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากหนาของคนได้เปรียบช้าๆ
"ไหนลองพูดใหม่อีกทีสิครับ..."
"เฮ้ๆ ฉันล้อเล่นน่า"
โทมัสรีบพูดแก้ตัวด้วยน้ำเสียงไม่สะทกสะท้าน(ทั้งที่เขาเสียเปรียบอีกฝ่ายอยู่เห็นๆ)
แต่เมื่อเห็นสายตาเอาเรื่องของนักเรียนดีเด่นจอมปลอมก็จำต้องพูดใหม่
"ฉันก็แค่มานอนรับลมแถวนี้เฉยๆ"
ชายผู้มีผลการเรียนสูงเป็นอันดับสองของโรงเรียนแก้ประโยคของตัวเองอย่างปลงๆ
ด้วยเขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ว่าหากไอ้คนตรงหน้ามัน'ระเบิด'ขึ้นมา ต่อให้เป็นท่านผู้อำนวยการก็อาจเอาไม่อยู่ก็ได้
...ก็เป็นแบบนี้กันทั้งตระกูลนั่นแหละ...
คนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเรียนดีเด่นปล่อยมือจากคอเสื้อของอีกฝ่ายช้าๆ แต่ยังไม่หยุดใช้สายตากดดันจ้องมองคนเสียเปรียบด้านพละกำลังอยู่ดี
"ผมหวังว่าคุณจะล้อเล่นจริงๆนะครับ..."
"..."
"คุณก็รู้ว่าผมทำอะไรได้บ้าง..."
"..."
"ไปซะ!"
โทมัสถอยห่างจากเพื่อนร่วมชั้นของตนอย่างช้าๆ ก่อนจะเปิดประตูออกไปจากดาดฟ้าหลังนี้
...เห็นทีเขาคงต้องไปนอนบนดาดฟ้าตึกอีกหลังแล้วมั้ง...
ซาเบิ้ลมองเพื่อนร่วมชั้นที่เขาเพิ่งไล่ออกไปจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่อยู่ในระยะที่จะรับรู้อะไรแล้ว
ร่างสูงล้วงมือเข้าไปหยิบ'อะไรบางอย่าง'ที่โรงเรียนไม่อนุญาตให้นำเข้ามาออกจากที่ซ่อน
ก่อนที่เขาจะจัดการสูบมันเพื่อดับความหงุดหงิดในใจ
ช่วงนี้มีแต่อะไรไม่รู้ให้เขาหงุดหงิดไปหมด แล้วอะไร!! วันนี้ยิ่งมีแต่ปัญหา!!!
เช้ามาก็โดน'ตาแก่'นั่นเรียกไปคุย แล้วทั้งที่เห็นไอ้ลีโอมันทำให้มินาของเขาร้องไห้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พอจะรอถามกับยัยตัวเล็กก็ไม่มา แล้วยังเจอไอ้บ้าโทมัสมาพูจากวนโอ๊ยอีก นี่เขาจะประสาทเสียจริงๆแล้วนะ!!
อย่างน้อยๆคิดว่าได้คุยกับมินาเขาน่าจะอารมณ์ดีขึ้นแท้ๆ เด็กนั่นก็ยังไม่มาให้เห็นอีก
...นี่เขาหงุดหงิดจนจะเผาโรงเรียนได้แล้วนะเฟ้ย!!!...
ชายหนุ่มได้แต่โวยวายในใจอย่างหัวเสีย แม้ว่าจะอยากเผาโรงเรียนให้หายแค้นตาแก่นั่นจริงๆแต่เขาก็ทำไม่ได้(เพราะเดี๋ยวแม่เขาจะหัวใจวายตายไปเสียก่อน)
ครั้นจะไปท่องราตรีตามปกติตาแก่นั่นก็ดักทางเอาไว้อีก เห็นทีเขาคงต้องไประบายกับ'ไอ้นั่น'อีกแล้วล่ะมั้ง
...
..
.
เสียงสัญญาณบอกเวลาพักขึ้นเมื่อเวลาสิสองนาฬิกา เด็กสาวผมทองผู้ย้ายมาใหม่รีบเอ่ยขอตัวจากกลุ่มนักเรียนที่มาล้องหน้าล้อมหลังแล้วเดินมายังโต๊ะของมินาทันที
"นี่มินา จะเป็นการรบกวนเธอหรือเปล่าถ้าฉันจะขอให้เธอช่วยพาฉันไปโรงอาหารหน่อย"
...คนอื่นก็มีตั้งเยอะแยะ ทำไมยัยนี่ต้องมาชวนมินาด้วย...
ลิลินที่นั่งอยู่ข้างกันคิดอย่างเคืองๆ ไม่ใช่ว่าเธออยากจะอคติกับนักเรียนใหม่เกินไปหรอกนะ แต่ยัยนี่น่ะชักจะเกาะแกะมินามากเกินไปแล้วนะ!!
"อ่าาา ได้สิ ไม่มีปัญหาจ้ะ"
...ยัยนี่ก็เหมือนกัน จะมาใจดีอะไรตอนนี้!!?...
ร้อยวันพันปีเพื่อนสนิทของลิลินไม่เห็นจะยอมเปิดใจให้ใครง่ายๆอย่างนี้ แล้วนี่มันอะไรกัน
อย่าบอกนะว่ามันคือรักแรกพบ นี่ช่วงนี้เธอระแวงเจ้าพวกตัวผู้มากไปจนลืมระวังพวกผู้หญิงงั้นเหรอ!!?
"ฉัน...ฉันไปด้วย!!"
ลิลินรีบพูดขึ้นมาทันที
ไม่ได้ เธอจะปล่อยให้สองคนนี้ไปด้วยกันตามลำพัง(?)ไม่ได้...ต้องขัดขวาง!!
"อื้อ ไปสิคะ คุณลิลิน่า"
เอมิลี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่กลับเพิ่มความขุ่นเคืองให้ลิลินได้เป็นอย่างดี
นั่นเพราะตั้งแต่เอมิลี่เข้ามา ลิลินยังไม่เห็นยัยนี่เรียกชื่อเล่นใครเลยนอกจากมินา
แบบนี้มันชวนให้คิดเสียจริงๆว่ายัยเอมิลี่อะไรนี่มาประกาศตัวเป็นศัตรูหัวใจของเธออีกคน!!?
...
..
.
#หลังเลิกเรียน
บริเวณหลังบ้านพักครูที่เงียบสงบ ห้อมล้อมไปด้วยหมู่พรรณไม้หลากชนิดทั้งไม้ยืนต้น ไม้ดอก และไม้ประดับซึ่งถูกจัดแต่งอย่างดีจากนักการภารโรงที่หมั่นมาดูแลเป็นประจำ
ห่างออกไปจากบ้านพักครูประมาณสองร้อยเมตร ชายหนุ่มหน้าหวามนามว่าลีโอกำลังเดินผ่านหมู่ไม้ที่เริ่มหนาตาขึ้นเรื่อยๆเหมือนจงใจทำขึ้นเพื่อแบ่งเขตระหว่างบ้านพักครูกับบ้านขนาดย่อมหลังหนึ่งซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเขา
บ้านพักหลังนี้ท่านผู้อำนวยการสร้างไว้สำหรับลูกชายของท่านโดยเฉพาะ เผื่อว่าวันไหนลูกชายของท่านทำกิจกรรมของโรงเรียนจนมืดค่ำ อยากไปโรงเรียนให้ทันโดยไม่ต้องตื่นเช้าหรือแม้กระทั่งอยากซึมซับบรรยากาศของโรงเรียนอันเป็นที่รัก(?)จะได้มาค้างที่นี่ได้
แน่นอนว่าบ้านหลังนี้ได้รับการดูแลตกแต่งเป็นอย่างดีเช่นกัน แม้จะไม่ได้เก็บเป็นความลับอะไรแต่ก็มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่ามีบ้านหลังนี้อยู่ในเขตโรงเรียน
...ลูกตัวเองจะได้แอบมามั่วสุมอยู่นี่ได้ง่ายๆสิไม่ว่า...
ลีโอเดินตรงไปยังประตูด้วยสีหน้าเรียบเฉย มือซ้ายล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหากุญแจบ้าน แต่เมื่อเขาจะไขประตูเข้าไปก็พบว่าประตูไม่ได้ล็กอยู่แล้ว
...นอกจากเขามีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละที่เข้ามาที่นี่เป็นประจำ...
"ไงล่ะแก แอบหนีมามั่วอยู่นี่อีกแล้วเหรอ"
ลีโอส่งเสียงทักทาย(ปนถากถาง)ให้กับชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟา
ผู้มาก่อนนั่งเท้าแขนเปลือยท่อนบน เผยให้เห็นรอยสักรูเสือเขี้ยวดาบขนาดเล็กที่ดูเหมือนเพิ่งสักมาไม่นานอยู่บริเวณหน้าท้องด้านซ้าย มือขวาคีบบุหรี่ที่น่าจะสูบมาได้สักพักหนึ่งแล้ว ในขณะที่มือซ้ายยกกระป๋องเบียร์กระป๋องหนึ่งจากหลายกระป๋องที่วางรายอยู่บนโต๊ะขึ้นมาจ่อปากและกระดกเข้าไปอึกใหญ่ ไม่เหลือคราบนักเรียนดีเด่นที่เจ้าตัวทำชอบแอ้บทำเมื่อตอนกลางวันเลยแม้แต่น้อย
"ไง เอาสักหน่อยมั้ย"
ซาเบิ้ลว่าพลางโยนเบียร์กระป๋องหนึ่งให้ลีโอ ซึ่งอีกฝ่ายก็รีบรับเอาไว้ทันที(เพราะถ้าไม่รับมันคงบินมากระแทกหน้าเขาเต็มๆแน่)
"ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากผื่นขึ้นตอนนี้ว่ะ"
ลีโอวางกระป๋องเบี๋ยร์ลงบนโต๊ะแล้วเดินไปหยิบน้ำเปล่าในตู้เย็นออกมาดื่ม
"นี่แกกลายเป็นพวกรักสุขภาพตั้งแต่เมื่อไรวะ"
ชายหนุ่มผมดำถามด้วยน้ำเสียงเยาะๆ เห็นได้ชัดว่าจงใจกวนโมโหอีกฝ่ายอยู่
"เออ! ฉันไม่ได้ถึกแบบแกนี่"
คนถูกแหย่ตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เพราะลีโอเกิดก่อนกำหนดนำให้เขาสุขภาพไม่ค่อยดีนัก แถมยังมีอาการแพ้ง่าย ทั้งแพ้อากาศเย็น แพ้อาหารทะเล และถ้าดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลในปริมาณมากอาจทำให้มีผื่นขึ้นเต็มตัวได้(แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ยังแอบไปดื่มอยู่บ่อยๆ)
"แล้วแกน่ะ มาอยู่นี่แม่แกไม่ว่าเหรอวะ"
ชายหนุ่มผมน้ำตาลถามพลางเทรุดตัวนั่งข้างๆซาเบิ้ล
"ฉันโทร.บอกแม่แล้ว ว่าจะค้างที่นี่"
"ใครไปแหย่ให้แกหงุดหงิดเข้าล่ะ"
แน่นอนว่าเหตุผลที่ไอ้นักเรียนดีเด่นจอมปลอมจะมาค้างที่บ้านหลังนี้มีอยู่ไม่กี่ข้อเท่านั้น ซึ่งเมื่อดูจากรูปการ์ณแล้วก็เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะอยากจะมาปลดปล่อยอารมณ์ด้านมืดโดยที่ไม่อยากให้แม่บังเกิดเกล้ามาเห็น
"ตาแก่นั่น...เรียกฉันไปเทศน์อีกแล้ว"
"เหรอ คราวนี้เรื่องอะไรล่ะ"
ลีโอถามต่ออย่างเคยชิน แม้ดูเผินๆเขาจะเหมือนคนแข็งกระด้าง แต่เขาก็ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาที่ดีและคอยรับฟังปัญหาของนักเรียนดีเด่นเสมอ(ความจริงก็ต่างฝ่ายต่างบ่นใส่กันนั่นแหละ)
"ที่เด็กนั่นจูบฉันกลางงานเลี้ยงน่ะสิ ทำอย่ากับไม่เคยเห็นฉันอยู่กับผู้หญิง
แล้วก็เรื่องสอบเข้ามหา'ลัย 'จำไว้นะว่าแกต้องได้ที่หนึ่ง' เหอะ! พูดแบบนี้มาซักล้านรอบได้แล้วมั้ง ตาแก่งี่เง่าเอ้ย!! แล้วก็เรื่องการแข่งอะไรนั่นอีก 'ซ้อมเยอๆะนะ อย่าทำให้ฉันเสียชื่อล่ะ' ไม่รู้ว่าตาแก่นั่นจะอะไรกับฉันนักหนา เดี๋ยวก็แกล้งแพ้มันซะเลยนี่!!"
ได้ทีนักเรียนดีเด่นจอมปลอมก็บ่นนั่นบ่นนี่เสียยืนยาว โดยไม่ได้สนใจเลยว่า คนรับฟังจะมีสีหน้าเบื่อหน่ายคำพูดพวกนี้แค่ไหน
"ฉันละอยากรู้จริงๆว่าพ่อจะทำหน้ายังไงถ้าได้ยินแกพูดแบบนี้"
คนที่นั่งฟังเสียงบ่นอยู่นานพูดประชดขึ้นมา
"งั้นแกก็ลองโดนเรียกไปเทศน์วันเว้นวันแบบฉันบ้างมั้ยล่ะ?"
คนโดนถากถางถามกลับบ้างด้วยสีหน้ายียวน แน่นอนว่าคำตอบที่ได้คือ...
"ไม่เอาว่ะ อาทิตย์ก่อนก็โดนไปรอบนึงละ"
"ไม่ยุติธรรมเลย!! ฉันทำตัวเรียบร้อยทุกอย่างแต่ต้องไปหาตาแก่นั่นวันเว้นวัน ในขณะที่แกไปไล่ตีนักเรียนโรงเรียนอื่นมากลับไม่ค่อยโดนตาแก่นั่นเทศน์"
นันเรียนดีเด่นบ่นอีกรอบด้วยความเหลืออด ไม่รู้เหตุใดเขาถึงโดนตาแก่นั่นเรียกหาเป็นประจำแม้ว่าจะเป็นสัปดาห์ที่เงียบสงบแค่ไหนก็ตาม ในขณะที่ไอ้หัวหน้าแก๊งอันธพาลข้างๆเขากลับถูกเรียกพบน้อยมากเมื่อเทียบกับเขา(และแน่นอน ท่ายผอ.ก็ฝากให้เขามาเทศน์ลีโอต่อ)
"แต่แกก็มานั่งเทศน์ฉันแทนพ่อประจำไม่ใช่รึไง"
ลีโอพูดขึ้นทันที
"หุบปากน่า เมื่อเช้าฉันเห็นนะว่าแกทำอะไร"
"อะไรของแก..."
คนถูกกล่าวหาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงงุนงง เขาจะไปทำอะไรไอ้บ้านี่ได้ตอนไหน ในเมื่อทั้งวันนี้เขากับไอ้นักเรียนดีเด่นจอมปลอมก็เพิ่งได้เจอกันครั้งแรกเมื่อสักครู่นี้เอง
"ฉันขอเตือนนะลีโอ เด็กผู้หญิงที่แกทำร้องไห้เมื่อเช้าน่ะฉันจองแล้ว"
ลีโอทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะนึกได้
"อะไรวะ ปกติแกไม่เห็นสนใจผู้หญิงโรงเรียนเราเลย"
เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ช่วงนี้รู้สึกว่าไอ้ตอแหลนี่มันชักจะแปลกๆขึ้นทุกที
"ไม่รู้ล่ะ คนนี้ฉันเจอก่อน แกห้ามยุ่ง"
ซาเบิ้ลรีบแสดงความความเป็นเจ้าของทันที แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้มีท่าทีเหมือนอยากแย่งชิงเด็กสาวในบทสนทนาเลยแม้แต่น้อย ยิ่งทำให้ลีโอรู้สึกว่าคนตรงหน้าแปลกไปจริงๆ
"เออ! เอาไปเลย เด็กอะไรไม่รู้ขี้แยชะมัด"
ลีโอกล่าวด้วยน้ำเสียงรำคาญ...เพราะยังไงเสียคนที่เขาสนใจก็มีแค่คนเดียวเท่านั้น
"เฮ้อออ/เฮ้อออ"
เด็กหนุ่มทั้งสองถอนใจพร้อมกันหลังจากพากันเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง
"อะไรอีก?"
เป็นลีโอนั่นเองที่เริ่มถามก่อน
"แม่ฉันบอกว่าตาแก่นั่นโทร.ไปตื๊ออีกแล้ว ทั้งๆที่ตัวเองก็มีเมียมีลูกอยู่แล้วแท้ๆ ตาแก่หัวงูเอ๊ย!!"
ซาเบิ้ลตัดสินใจเล่าปัญหาครอบครัวให้อีกฝ่ายฟัง ในหัวก็นึกไปถึงภาพของแม่บังเกิดเกล้าที่แอบไปร้องไห้สะอึกสะอื้นคนเดียวหลังจากจบบทสทนากับท่านผู้อำนวยการ
เขารู้ดีว่าแม่ไม่อยากให้เขารับรู้เรื่องพวกนี้ อาจเพราะนี่เป็นปัญหาของผู้ใหญ่ที่เด็กอย่างเขาไม่อาจเข้าไปยุ่งได้ แม้ใจจริงเขาอยากจะทำให้แม่มีความสุขมากกว่านี้ก็ตาม
"เหอะ! อายุปูนนี้แล้วก็ยังเจ้าชู้ไม่เลิก อย่าให้แม่ฉันกับคุณย่ารู้เรื่องนี้เชียว มีหวังแม่แกเจอศึกหนักแน่!"
ลีโอพูดด้วยความหงุดหงิดไม่แพ้กัน เป็นที่รู้กันอยู่ในวงในว่าท่านผู้อำนวยการเป็นคนเจ้าชู้มาก แต่ในขณะเดียวกันภรรยาของท่านก็ขี้หึงมากเช่นกัน
รวมไปถึงมารดาของท่านผูอำนวยการที่คอยกำจัดอนุภรรยาทุกคนของลูกชายให้พ้นทางเพื่อรักษาชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลด้วย
"ไม่หรอก แม่ฉันจะแต่งงานใหม่แล้ว"
เด็กหนุ่มผมดำเอ่ยเสียงแผ่ว แม้จะรู้สึกแปลกๆไปบ้างแต่เขาก็อยากให้แม่ของเขาเริ่มต้นชีวิตใหม่มากกว่ามาจมปลักกับอดีตอันแสนเลวร้าย
"เฮ้ย!! แม่แกเนี่ยนะจะแต่งงานใหม่ กับใครวะ"
ลีโอที่เพิ่งรู้ข่าวถามด้วยความตกใจ แม้จะเลิกรากับสามีคนเก่ามาไดสี่ปีแล้ว แต่ลีโอก็ไม่คาดคิดว่า'โรเซีย นัวร์'จะแต่งงานใหม่เร็วขนาดนี้
"พ่อหม้าย มีลูกสาวคนนึง...รู้สึกจะเด็กกว่าฉันมั้ง"
เสียงที่ตอบกลับมาราบเรียบผิดปกติ ในขณะที่นัยน์ตาสีทองของเด็กหนุ่มอีกคนเป็นประกายวาววับขึ้นมาทันที
"น้องสาวเหรอ...แกมันซิสค่อนนี่นะจะว่าไป"
ลีโอกล่าวด้วยน้ำเสียงเยาะๆ ด้วยรู้ถึงกิตศัพท์ความหวงน้องสาวของคนตอแหลข้างกาย ที่ทั้งหวงทั้งตามใจน้องสาวต่างมารดาของตนยิ่งกว่าอะไร
"บ้าน่า ฉันไม่คิดอะไรกับน้องสาวตัวเองหรอก"
แน่นอนว่านักเรียนดีเด่นกำมะลอตอบกลับด้วยน้ำเสียงสูงปี้ดบ่งบอกความตอแหลได้เป็นอย่างดี
"เออ ให้มันจริงเถอะ!!"
...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น