ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Sister Complex :: รักนี้...ต้องห้าม[รึเปล่า!!?]

    ลำดับตอนที่ #13 : บทที่10 สับสน

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 59


    บทที่10 สับสน


    (บอมเบย์-บุตรคนเล็กของท่านผู้อำนวยการ)

    "มาสายสิบห้านาที!! เพราะเธอเราถึงต้องโดนลงโทษแบบนี้!!"
    ลิลินเอ่ยเสียงรอดไรฟัน(และไม้บรรทัดที่คาบอยู่)ขณะที่ทั้งคู่ยืนอยู่หน้าห้องเรียน 
    นับว่าเป็นโชคดีอย่างยิ่งที่เพื่อนรักนามว่าลิลินยังรอเธออยู่หน้าบันได
    แต่ก็นับว่าเป็นโชคร้ายอย่างใหญ่หลวงที่พวกเธอเข้าห้องเรียนช้ากว่าอาจารย์(สุดโหดที่เซตเรียกว่าตาแก่หัวโล้นหน้าโหดหนังเหี่ยว)ไปสิบห้านาที
    ด้วยเหตุนั้นทั้งคู่จึงต้องมายืนคาบไม้บรรทัดหน้าห้องเรียนแบบน่าอนาถสุดๆ
    "ขอโทษ..."
    เป็นคำเดียวที่มินาจะพูดกับเพื่อนได้ เพราะจะว่าไปมันก็เป็นความผิดของเธอนั่นแหละ
    ถ้าเธอไม่มัวแต่ไปเอ้อระเหยลอยชาย ป่านนี้ทั้งเธอและลิลินคงจะได้นั่งที่สบายใจเฉิบไปแล้ว

    "เอาเถอะ คราวนี้ฉันก็ผิดด้วยนั่นแหละเนอะ"
    เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักยอมรับผิดแต่โดยดี คนใจอ่อนอย่างลิลินก็ยอมให้อภัยแต่โดยง่าย เพราะถึงเธอจะขี้งอนไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นคนที่หายโกรธใครยากไปเสียทีเดียว
    ฝ่ายคนทำผิดเมื่อเห็นเพื่อนรักให้อภัยก็หันมายิ้มให้ สองสาวยิ้มให้กันพลางแอบหัวเราะเงียบๆโดยที่ไม่ได้สำนึกเลยว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์แบบไหน
    "อ้าว นั่นมินานี่นา!! ดีจังที่เจอคนรู้จัก"
    น้ำเสียงแสดงความยินดีที่ดังขึ้นจากเบื้องหลังทำให้มินาตกใจเล็กน้อย เมื่อหันไปตามต้นเสียงมินาก็ได้พบกับเอมิลี่ เอเมอร์รัลที่ถือเอกสารบางอย่างในมือมาด้วย

    "เอมิลี่!!"
    ลิลินหุบยิ้มทันทีที่เห็นเพื่อนสนิทไปทักทายคนอื่น คนตัวเล็กแอบส่งสายตาขุ่นเคืองไปให้ผู้มาใหม่อยู่แวบหนึ่งโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว
    "เธอรู้จักเด็กคนนั้นด้วยเหรอ?"
    ลิลินถามพลางหันไปมองคนตัวเล็กกว่า
    "อ๋อ นี่เอมิลี่ เอเมอร์รัล เขาบอกว่าเขาเพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่วันแรกน่ะ"
    นับว่าการที่มินาจะรู้จักใครก่อนลิลินนั้นเป็นเรื่องแปลกอยู่ไม่น้อย แต่ดูจากรูปลักษณ์ที่เด่นสะดุดตาของเอมิลี่ก็คงไม่แปลกที่คนความจำสั้นจะจำได้
    และถึงแม้จะเคืองๆอยู่บ้างที่เอมิลี่มาเกาะเเกะ(?)มินา แต่ลิลินก็เลือกที่จะผูกมิตรกับนักเรียนใหม่ผู้นี้

    "ฉันลิลิน 'ลิลิน่า เบลล์'ยินดีที่ได้รู้จัก"
    "ยินดีที่...!"
    "นี่พวกเธอเอะอะอะไรกัน!!?"
    ไม่ทันที่เอมิลี่พูดจบประโยค อาจารย์หน้าโหดก็เดินเข้ามาเสียก่อน ลิลินกับมินารีบ(ทำเป็น)คาบไม้บรรทัดนิ่งๆด้วยรู้กิตติศัพท์ของอาจารย์ดีอยู่แล้ว มีเพียงนักเรียนใหม่นามเอมิลี่เท่านั้นที่ยืนมองอาจารย์ด้วยท่าทีสบายๆ
    "แล้วเธอเป็นใครเนี่ย?"
    อาจารย์พูดต่อทันทีที่เห็นผู้มาใหม่

    "หนูเป็นนักเรียนใหม่ค่ะ ชื่อเอมิลี่ เอเมอร์รัล"
    เอมิลี่ว่าพลางยื่นเอกสารการย้ายโรงเรียนให้ อาจารย์ผู้ไร้เส้นผมบนศีรษะรับเอกสารจากเอมิลี่มาอ่านอยู่ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า
    "เธอรออยู่ตรงนี้สักครู่นะ ส่วนแอสโทเรียกับเบลล์เข้าห้องได้!"
    อาจาย์หน้าโหดบอกกับเอมิลี่ก่อนจะหันมาเอ่ยคำอภัยโทษ(?)กับนักเรียนที่มาสาย
    ลิลินกับมินาเอ่ยขอบคุณอาจารย์ก่อนจะเดินเดินไปยังโต๊ะเรียนของตนด้วยสีหน้าปกติ(เพราะสายบ่อย)
    จากนั้นไม่นานอาจารย์กับเอมิลี่ก็เดินมายืนอยู่หน้าชั้นเรียน แน่นอนว่ารูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเอมิลี่เรียกความสนใจจากนักเรียนทั้งห้องได้เป็นอย่างดี(โดยเฉพาะนักเรียนชาย) แต่ถึงกระนั้นคนมาสายอย่างมินากลับฟุบตัวลงกับโต๊ะเรียนเพราะรู้อยู่แล้วว่าจากนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

    สติของร่างบางค่อยๆถูกความง่วงงุนกลืนกินไปทีละน้อย...ทีละน้อย
    ท่ามกลางเสียงแนะนำตัวของนักเรียนใหม่ จนกระทั่งอาจารย์เรียกชื่อนั่นแหละเธอถึงต้องขืนตัวขึ้นมา
    ให้ตาย!! เมื่อคืนเธอได้นอนแค่สามชั่วโมงเองนะ...ของีบหน่อยเถอะ!!
    "เธอหลับในห้องเรียนอีกแล้วนะ แอสโทเรีย!!"
    อาจารย์หน้าโหดเดินมาดุเธอถึงหน้าโต๊ะเรียน ในขณะที่คนทำผิดทำได้แค่...
    "ขอโทษค่าาา"
    "คิกๆๆ"
    เสียงหัวเราะแผ่วเบาดังขึ้นจากข้างหลัง มินาเพิ่งสังเกตได้ว่าเอมิลี่นั่งอยู่โต๊ะถัดจากเธอนี่เอง

    "ไหนเธอลองตอบคำถามบนกระดานนี่ซิ!!"
    อาจารย์หน้าโหดสั่งเสียงดังพลางชี้ไม้เรียวในมือไปยังโจทย์มหาหินที่ยากที่สุดบนกระดาน
    และแน่นอน...ถ้าเธอตอบไม่ได้ก็ต้องไปยืนคาบไม้บรรทัดอีก(ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็หลับไม่ค่อยสบาย)
    เมื่อเป็นเช่นนี้มินาจึงรีบหันไปหาเพื่อนข้างกายทันที...แต่อนิจจา!!

    ...ยัยลิลินก็หลับงั้นเหรอ!!? แล้วทำไมยัยนี่ไม่โดนดุล่ะ!!!...

    "สิบห้านาฬิกาสามสิบแปดนาทีวันที่ยี่สิบหกกรกฎาคมในศตวรรษที่สิบแปด..."
    เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้นจากเบื้องหลัง แม้จะเบลอๆอยู่บ้างแต่มินาก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป
    "สะ...สิบห้านาฬิกาสามสิบ...เอ่อ...สามสิบแปดนาที วันที่ยี่สิบหกกรกฎาคม ใน...อ่าาา...ศตวรรษที่...สิบเเปด มั้งคะ"
    "ผิด...เอ้ย! ถูกงั้นเรอะ!?"
    อาจารย์ดูจะตกใจไม่น้อยที่เด็กสาวตอบคำถามถูก แต่สุดท้ายก็จำต้องอนุญาตให้เธอนั่งลงได้

    "ขอบใจมากนะ"
    มินากระซิบกับเพื่อนใหม่เบื้องหลัง
    "อื้อ~~~"
    เอมิลี่ตอบเธอด้วยรอยยิ้มที่มินาเห็นแล้วรู้สึกว่า'น่ารัก'อย่างไม่น่าเชื่อ ดูเหมือนระยะนี้เธอจะมีเพื่อนใหม่หลายคนเลยนะเนี่ย...

    ...ไม่สิ เธอคิดว่าหมอนั่นเป็นเพื่อนรึเปล่านะ?...

    ...
    ..
    .

    เสียงสัญญาณบอกเวลาดังได้สักสิบห้านาทีแล้ว นักเรียนดีเด่นที่นั่งอยู่เดียวดายชะเง้อไปทางประตูทางเข้าตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้ยินเสียง ด้วยหวังว่าคนที่เขาไม่ได้คุยด้วยมาสามวันจะปรากฏตัวอยู่ตรงนั้น
    แต่คอยแล้วคอยเล่าเธอก็ไม่มาเลย

    ...ทำไมยังไม่มาอีกนะ...

    "ดูนายจะหมกมุ่นเรื่องเด็กนั่นมากเลยนะ"
    โทมัสเอ่ยจากอีกฟากหนึ่งของดาดฟ้าพลางกระดกน้ำมะเขือเทศลงคออึกใหญ่ ซาเบิ้ลดูจะไม่พอใจเล็กน้อยที่เห็นเพื่อนร่วมชั้น(กวนประสาท)อยู่ตรงนั้น
    "ผมไม่ได้หมกมุ่นขนาดนั้น..."
    คนถูกกว่าวหารีบแย้งทันที แต่มีหรือที่คนนั่งมองอย่างโทมัสจะดูไม่ออก
    "ฉันเห็นนายชะเง้อหาเด็กนั่นตั้งแต่ออดยังไม่ดัง ถ้าอีกสิบนาทีนายยังไม่ได้เห็นหน้าเด็กนั่น อาจจะมีนักเรียนดีเด่นบางคนดีแตกไปฉุดรุ่นน้องมาจากห้องเรียนก็เป็นได้..."
    ซาเบิ้ลหน้าแดงทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น
    ให้ตาย!! เขาไม่ได้คิดจะอะไรเทือกๆนั้นกับเด็กนั่นซักหน่อย...อย่างน้อยๆก็ไม่ได้คิดตลอดเวลาน่ะนะ

    "นี่คุณขึ้นมาบนนี้เพื่อจับผิดผมงั้นเหรอ!!?"
    นักเรียนดัเด่นเอ่ยถามเพื่อนร่วมชั้นออกไป ด้วยอารมณ์ที่(เริ่มจะ)หงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้ว
    "เปล๊า!"
    โทมัสตอบยียวนพลางกระดกน้ำมะเขือเทศจนหมดกระป๋อง จากนั้นก็หยิบกระป๋องใหม่มาเปิดอีก
    "งั้นคุณมาทำไมครับ"
    "มาถ่ายคลิปนายสูบบุหรี่ไปแบล็กเมล์มั้ง...!"

    คนที่ดูภายนอกเหมือนเป็นคนดีไร้พิษสงรีบพุ่งไปหาตัวเพื่อนร่วมชั้นทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น
    มือแกร่งรีบคว้าคอเสื้อของคนตรงหน้าไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้ทำอะไร
    น้ำเสียงเรียบๆแต่แฝงด้วยความอำมหิตดังกว่าเสียงกระซิบเพียงเล็กน้อยค่อยๆหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากหนาของคนได้เปรียบช้าๆ
    "ไหนลองพูดใหม่อีกทีสิครับ..."

    "เฮ้ๆ ฉันล้อเล่นน่า"
    โทมัสรีบพูดแก้ตัวด้วยน้ำเสียงไม่สะทกสะท้าน(ทั้งที่เขาเสียเปรียบอีกฝ่ายอยู่เห็นๆ) 
    แต่เมื่อเห็นสายตาเอาเรื่องของนักเรียนดีเด่นจอมปลอมก็จำต้องพูดใหม่
    "ฉันก็แค่มานอนรับลมแถวนี้เฉยๆ"
    ชายผู้มีผลการเรียนสูงเป็นอันดับสองของโรงเรียนแก้ประโยคของตัวเองอย่างปลงๆ
    ด้วยเขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ว่าหากไอ้คนตรงหน้ามัน'ระเบิด'ขึ้นมา ต่อให้เป็นท่านผู้อำนวยการก็อาจเอาไม่อยู่ก็ได้

    ...ก็เป็นแบบนี้กันทั้งตระกูลนั่นแหละ...

    คนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเรียนดีเด่นปล่อยมือจากคอเสื้อของอีกฝ่ายช้าๆ แต่ยังไม่หยุดใช้สายตากดดันจ้องมองคนเสียเปรียบด้านพละกำลังอยู่ดี
    "ผมหวังว่าคุณจะล้อเล่นจริงๆนะครับ..."
    "..."
    "คุณก็รู้ว่าผมทำอะไรได้บ้าง..."
    "..."
    "ไปซะ!"
    โทมัสถอยห่างจากเพื่อนร่วมชั้นของตนอย่างช้าๆ ก่อนจะเปิดประตูออกไปจากดาดฟ้าหลังนี้

    ...เห็นทีเขาคงต้องไปนอนบนดาดฟ้าตึกอีกหลังแล้วมั้ง...

    ซาเบิ้ลมองเพื่อนร่วมชั้นที่เขาเพิ่งไล่ออกไปจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่อยู่ในระยะที่จะรับรู้อะไรแล้ว
    ร่างสูงล้วงมือเข้าไปหยิบ'อะไรบางอย่าง'ที่โรงเรียนไม่อนุญาตให้นำเข้ามาออกจากที่ซ่อน
    ก่อนที่เขาจะจัดการสูบมันเพื่อดับความหงุดหงิดในใจ

    ช่วงนี้มีแต่อะไรไม่รู้ให้เขาหงุดหงิดไปหมด แล้วอะไร!! วันนี้ยิ่งมีแต่ปัญหา!!!

    เช้ามาก็โดน'ตาแก่'นั่นเรียกไปคุย แล้วทั้งที่เห็นไอ้ลีโอมันทำให้มินาของเขาร้องไห้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พอจะรอถามกับยัยตัวเล็กก็ไม่มา แล้วยังเจอไอ้บ้าโทมัสมาพูจากวนโอ๊ยอีก นี่เขาจะประสาทเสียจริงๆแล้วนะ!!
    อย่างน้อยๆคิดว่าได้คุยกับมินาเขาน่าจะอารมณ์ดีขึ้นแท้ๆ เด็กนั่นก็ยังไม่มาให้เห็นอีก

    ...นี่เขาหงุดหงิดจนจะเผาโรงเรียนได้แล้วนะเฟ้ย!!!...

    ชายหนุ่มได้แต่โวยวายในใจอย่างหัวเสีย แม้ว่าจะอยากเผาโรงเรียนให้หายแค้นตาแก่นั่นจริงๆแต่เขาก็ทำไม่ได้(เพราะเดี๋ยวแม่เขาจะหัวใจวายตายไปเสียก่อน)
    ครั้นจะไปท่องราตรีตามปกติตาแก่นั่นก็ดักทางเอาไว้อีก เห็นทีเขาคงต้องไประบายกับ'ไอ้นั่น'อีกแล้วล่ะมั้ง

    ...
    ..
    .

    เสียงสัญญาณบอกเวลาพักขึ้นเมื่อเวลาสิสองนาฬิกา เด็กสาวผมทองผู้ย้ายมาใหม่รีบเอ่ยขอตัวจากกลุ่มนักเรียนที่มาล้องหน้าล้อมหลังแล้วเดินมายังโต๊ะของมินาทันที
    "นี่มินา จะเป็นการรบกวนเธอหรือเปล่าถ้าฉันจะขอให้เธอช่วยพาฉันไปโรงอาหารหน่อย"

    ...คนอื่นก็มีตั้งเยอะแยะ ทำไมยัยนี่ต้องมาชวนมินาด้วย...

    ลิลินที่นั่งอยู่ข้างกันคิดอย่างเคืองๆ ไม่ใช่ว่าเธออยากจะอคติกับนักเรียนใหม่เกินไปหรอกนะ แต่ยัยนี่น่ะชักจะเกาะแกะมินามากเกินไปแล้วนะ!!
    "อ่าาา ได้สิ ไม่มีปัญหาจ้ะ"

    ...ยัยนี่ก็เหมือนกัน จะมาใจดีอะไรตอนนี้!!?...

    ร้อยวันพันปีเพื่อนสนิทของลิลินไม่เห็นจะยอมเปิดใจให้ใครง่ายๆอย่างนี้ แล้วนี่มันอะไรกัน
    อย่าบอกนะว่ามันคือรักแรกพบ นี่ช่วงนี้เธอระแวงเจ้าพวกตัวผู้มากไปจนลืมระวังพวกผู้หญิงงั้นเหรอ!!?
    "ฉัน...ฉันไปด้วย!!"
    ลิลินรีบพูดขึ้นมาทันที

    ไม่ได้ เธอจะปล่อยให้สองคนนี้ไปด้วยกันตามลำพัง(?)ไม่ได้...ต้องขัดขวาง!!

    "อื้อ ไปสิคะ คุณลิลิน่า"
    เอมิลี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่กลับเพิ่มความขุ่นเคืองให้ลิลินได้เป็นอย่างดี
    นั่นเพราะตั้งแต่เอมิลี่เข้ามา ลิลินยังไม่เห็นยัยนี่เรียกชื่อเล่นใครเลยนอกจากมินา
    แบบนี้มันชวนให้คิดเสียจริงๆว่ายัยเอมิลี่อะไรนี่มาประกาศตัวเป็นศัตรูหัวใจของเธออีกคน!!?

    ...
    ..
    .

    #หลังเลิกเรียน
    บริเวณหลังบ้านพักครูที่เงียบสงบ ห้อมล้อมไปด้วยหมู่พรรณไม้หลากชนิดทั้งไม้ยืนต้น ไม้ดอก และไม้ประดับซึ่งถูกจัดแต่งอย่างดีจากนักการภารโรงที่หมั่นมาดูแลเป็นประจำ
    ห่างออกไปจากบ้านพักครูประมาณสองร้อยเมตร ชายหนุ่มหน้าหวามนามว่าลีโอกำลังเดินผ่านหมู่ไม้ที่เริ่มหนาตาขึ้นเรื่อยๆเหมือนจงใจทำขึ้นเพื่อแบ่งเขตระหว่างบ้านพักครูกับบ้านขนาดย่อมหลังหนึ่งซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเขา

    บ้านพักหลังนี้ท่านผู้อำนวยการสร้างไว้สำหรับลูกชายของท่านโดยเฉพาะ เผื่อว่าวันไหนลูกชายของท่านทำกิจกรรมของโรงเรียนจนมืดค่ำ อยากไปโรงเรียนให้ทันโดยไม่ต้องตื่นเช้าหรือแม้กระทั่งอยากซึมซับบรรยากาศของโรงเรียนอันเป็นที่รัก(?)จะได้มาค้างที่นี่ได้
    แน่นอนว่าบ้านหลังนี้ได้รับการดูแลตกแต่งเป็นอย่างดีเช่นกัน แม้จะไม่ได้เก็บเป็นความลับอะไรแต่ก็มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่ามีบ้านหลังนี้อยู่ในเขตโรงเรียน

    ...ลูกตัวเองจะได้แอบมามั่วสุมอยู่นี่ได้ง่ายๆสิไม่ว่า...

    ลีโอเดินตรงไปยังประตูด้วยสีหน้าเรียบเฉย มือซ้ายล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหากุญแจบ้าน แต่เมื่อเขาจะไขประตูเข้าไปก็พบว่าประตูไม่ได้ล็กอยู่แล้ว

    ...นอกจากเขามีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละที่เข้ามาที่นี่เป็นประจำ...

    "ไงล่ะแก แอบหนีมามั่วอยู่นี่อีกแล้วเหรอ"
    ลีโอส่งเสียงทักทาย(ปนถากถาง)ให้กับชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟา
    ผู้มาก่อนนั่งเท้าแขนเปลือยท่อนบน เผยให้เห็นรอยสักรูเสือเขี้ยวดาบขนาดเล็กที่ดูเหมือนเพิ่งสักมาไม่นานอยู่บริเวณหน้าท้องด้านซ้าย มือขวาคีบบุหรี่ที่น่าจะสูบมาได้สักพักหนึ่งแล้ว ในขณะที่มือซ้ายยกกระป๋องเบียร์กระป๋องหนึ่งจากหลายกระป๋องที่วางรายอยู่บนโต๊ะขึ้นมาจ่อปากและกระดกเข้าไปอึกใหญ่ ไม่เหลือคราบนักเรียนดีเด่นที่เจ้าตัวทำชอบแอ้บทำเมื่อตอนกลางวันเลยแม้แต่น้อย

    "ไง เอาสักหน่อยมั้ย"
    ซาเบิ้ลว่าพลางโยนเบียร์กระป๋องหนึ่งให้ลีโอ ซึ่งอีกฝ่ายก็รีบรับเอาไว้ทันที(เพราะถ้าไม่รับมันคงบินมากระแทกหน้าเขาเต็มๆแน่)
    "ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากผื่นขึ้นตอนนี้ว่ะ"
    ลีโอวางกระป๋องเบี๋ยร์ลงบนโต๊ะแล้วเดินไปหยิบน้ำเปล่าในตู้เย็นออกมาดื่ม
    "นี่แกกลายเป็นพวกรักสุขภาพตั้งแต่เมื่อไรวะ"
    ชายหนุ่มผมดำถามด้วยน้ำเสียงเยาะๆ เห็นได้ชัดว่าจงใจกวนโมโหอีกฝ่ายอยู่

    "เออ! ฉันไม่ได้ถึกแบบแกนี่"
    คนถูกแหย่ตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เพราะลีโอเกิดก่อนกำหนดนำให้เขาสุขภาพไม่ค่อยดีนัก แถมยังมีอาการแพ้ง่าย ทั้งแพ้อากาศเย็น แพ้อาหารทะเล และถ้าดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลในปริมาณมากอาจทำให้มีผื่นขึ้นเต็มตัวได้(แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ยังแอบไปดื่มอยู่บ่อยๆ)
    "แล้วแกน่ะ มาอยู่นี่แม่แกไม่ว่าเหรอวะ"
    ชายหนุ่มผมน้ำตาลถามพลางเทรุดตัวนั่งข้างๆซาเบิ้ล

    "ฉันโทร.บอกแม่แล้ว ว่าจะค้างที่นี่"
    "ใครไปแหย่ให้แกหงุดหงิดเข้าล่ะ"
    แน่นอนว่าเหตุผลที่ไอ้นักเรียนดีเด่นจอมปลอมจะมาค้างที่บ้านหลังนี้มีอยู่ไม่กี่ข้อเท่านั้น ซึ่งเมื่อดูจากรูปการ์ณแล้วก็เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะอยากจะมาปลดปล่อยอารมณ์ด้านมืดโดยที่ไม่อยากให้แม่บังเกิดเกล้ามาเห็น

    "ตาแก่นั่น...เรียกฉันไปเทศน์อีกแล้ว"
    "เหรอ คราวนี้เรื่องอะไรล่ะ"
    ลีโอถามต่ออย่างเคยชิน แม้ดูเผินๆเขาจะเหมือนคนแข็งกระด้าง แต่เขาก็ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาที่ดีและคอยรับฟังปัญหาของนักเรียนดีเด่นเสมอ(ความจริงก็ต่างฝ่ายต่างบ่นใส่กันนั่นแหละ)
    "ที่เด็กนั่นจูบฉันกลางงานเลี้ยงน่ะสิ ทำอย่ากับไม่เคยเห็นฉันอยู่กับผู้หญิง
    แล้วก็เรื่องสอบเข้ามหา'ลัย 'จำไว้นะว่าแกต้องได้ที่หนึ่ง' เหอะ! พูดแบบนี้มาซักล้านรอบได้แล้วมั้ง ตาแก่งี่เง่าเอ้ย!! แล้วก็เรื่องการแข่งอะไรนั่นอีก 'ซ้อมเยอๆะนะ อย่าทำให้ฉันเสียชื่อล่ะ' ไม่รู้ว่าตาแก่นั่นจะอะไรกับฉันนักหนา เดี๋ยวก็แกล้งแพ้มันซะเลยนี่!!"

    ได้ทีนักเรียนดีเด่นจอมปลอมก็บ่นนั่นบ่นนี่เสียยืนยาว โดยไม่ได้สนใจเลยว่า คนรับฟังจะมีสีหน้าเบื่อหน่ายคำพูดพวกนี้แค่ไหน
    "ฉันละอยากรู้จริงๆว่าพ่อจะทำหน้ายังไงถ้าได้ยินแกพูดแบบนี้"
    คนที่นั่งฟังเสียงบ่นอยู่นานพูดประชดขึ้นมา
    "งั้นแกก็ลองโดนเรียกไปเทศน์วันเว้นวันแบบฉันบ้างมั้ยล่ะ?"
    คนโดนถากถางถามกลับบ้างด้วยสีหน้ายียวน แน่นอนว่าคำตอบที่ได้คือ...

    "ไม่เอาว่ะ อาทิตย์ก่อนก็โดนไปรอบนึงละ"
    "ไม่ยุติธรรมเลย!! ฉันทำตัวเรียบร้อยทุกอย่างแต่ต้องไปหาตาแก่นั่นวันเว้นวัน ในขณะที่แกไปไล่ตีนักเรียนโรงเรียนอื่นมากลับไม่ค่อยโดนตาแก่นั่นเทศน์"
    นันเรียนดีเด่นบ่นอีกรอบด้วยความเหลืออด ไม่รู้เหตุใดเขาถึงโดนตาแก่นั่นเรียกหาเป็นประจำแม้ว่าจะเป็นสัปดาห์ที่เงียบสงบแค่ไหนก็ตาม ในขณะที่ไอ้หัวหน้าแก๊งอันธพาลข้างๆเขากลับถูกเรียกพบน้อยมากเมื่อเทียบกับเขา(และแน่นอน ท่ายผอ.ก็ฝากให้เขามาเทศน์ลีโอต่อ)

    "แต่แกก็มานั่งเทศน์ฉันแทนพ่อประจำไม่ใช่รึไง"
    ลีโอพูดขึ้นทันที
    "หุบปากน่า เมื่อเช้าฉันเห็นนะว่าแกทำอะไร"
    "อะไรของแก..."
    คนถูกกล่าวหาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงงุนงง เขาจะไปทำอะไรไอ้บ้านี่ได้ตอนไหน ในเมื่อทั้งวันนี้เขากับไอ้นักเรียนดีเด่นจอมปลอมก็เพิ่งได้เจอกันครั้งแรกเมื่อสักครู่นี้เอง
    "ฉันขอเตือนนะลีโอ เด็กผู้หญิงที่แกทำร้องไห้เมื่อเช้าน่ะฉันจองแล้ว"
    ลีโอทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะนึกได้ 

    "อะไรวะ ปกติแกไม่เห็นสนใจผู้หญิงโรงเรียนเราเลย"
    เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ช่วงนี้รู้สึกว่าไอ้ตอแหลนี่มันชักจะแปลกๆขึ้นทุกที
    "ไม่รู้ล่ะ คนนี้ฉันเจอก่อน แกห้ามยุ่ง"
    ซาเบิ้ลรีบแสดงความความเป็นเจ้าของทันที แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้มีท่าทีเหมือนอยากแย่งชิงเด็กสาวในบทสนทนาเลยแม้แต่น้อย ยิ่งทำให้ลีโอรู้สึกว่าคนตรงหน้าแปลกไปจริงๆ
    "เออ! เอาไปเลย เด็กอะไรไม่รู้ขี้แยชะมัด"
    ลีโอกล่าวด้วยน้ำเสียงรำคาญ...เพราะยังไงเสียคนที่เขาสนใจก็มีแค่คนเดียวเท่านั้น

    "เฮ้อออ/เฮ้อออ"
    เด็กหนุ่มทั้งสองถอนใจพร้อมกันหลังจากพากันเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง
    "อะไรอีก?"
    เป็นลีโอนั่นเองที่เริ่มถามก่อน
    "แม่ฉันบอกว่าตาแก่นั่นโทร.ไปตื๊ออีกแล้ว ทั้งๆที่ตัวเองก็มีเมียมีลูกอยู่แล้วแท้ๆ ตาแก่หัวงูเอ๊ย!!"

    ซาเบิ้ลตัดสินใจเล่าปัญหาครอบครัวให้อีกฝ่ายฟัง ในหัวก็นึกไปถึงภาพของแม่บังเกิดเกล้าที่แอบไปร้องไห้สะอึกสะอื้นคนเดียวหลังจากจบบทสทนากับท่านผู้อำนวยการ
    เขารู้ดีว่าแม่ไม่อยากให้เขารับรู้เรื่องพวกนี้ อาจเพราะนี่เป็นปัญหาของผู้ใหญ่ที่เด็กอย่างเขาไม่อาจเข้าไปยุ่งได้ แม้ใจจริงเขาอยากจะทำให้แม่มีความสุขมากกว่านี้ก็ตาม
    "เหอะ! อายุปูนนี้แล้วก็ยังเจ้าชู้ไม่เลิก อย่าให้แม่ฉันกับคุณย่ารู้เรื่องนี้เชียว มีหวังแม่แกเจอศึกหนักแน่!"
    ลีโอพูดด้วยความหงุดหงิดไม่แพ้กัน เป็นที่รู้กันอยู่ในวงในว่าท่านผู้อำนวยการเป็นคนเจ้าชู้มาก แต่ในขณะเดียวกันภรรยาของท่านก็ขี้หึงมากเช่นกัน
    รวมไปถึงมารดาของท่านผูอำนวยการที่คอยกำจัดอนุภรรยาทุกคนของลูกชายให้พ้นทางเพื่อรักษาชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลด้วย

    "ไม่หรอก แม่ฉันจะแต่งงานใหม่แล้ว"
    เด็กหนุ่มผมดำเอ่ยเสียงแผ่ว แม้จะรู้สึกแปลกๆไปบ้างแต่เขาก็อยากให้แม่ของเขาเริ่มต้นชีวิตใหม่มากกว่ามาจมปลักกับอดีตอันแสนเลวร้าย
    "เฮ้ย!! แม่แกเนี่ยนะจะแต่งงานใหม่ กับใครวะ"
    ลีโอที่เพิ่งรู้ข่าวถามด้วยความตกใจ แม้จะเลิกรากับสามีคนเก่ามาไดสี่ปีแล้ว แต่ลีโอก็ไม่คาดคิดว่า'โรเซีย นัวร์'จะแต่งงานใหม่เร็วขนาดนี้

    "พ่อหม้าย มีลูกสาวคนนึง...รู้สึกจะเด็กกว่าฉันมั้ง"
    เสียงที่ตอบกลับมาราบเรียบผิดปกติ ในขณะที่นัยน์ตาสีทองของเด็กหนุ่มอีกคนเป็นประกายวาววับขึ้นมาทันที
    "น้องสาวเหรอ...แกมันซิสค่อนนี่นะจะว่าไป"
    ลีโอกล่าวด้วยน้ำเสียงเยาะๆ ด้วยรู้ถึงกิตศัพท์ความหวงน้องสาวของคนตอแหลข้างกาย ที่ทั้งหวงทั้งตามใจน้องสาวต่างมารดาของตนยิ่งกว่าอะไร
    "บ้าน่า ฉันไม่คิดอะไรกับน้องสาวตัวเองหรอก"
    แน่นอนว่านักเรียนดีเด่นกำมะลอตอบกลับด้วยน้ำเสียงสูงปี้ดบ่งบอกความตอแหลได้เป็นอย่างดี

    "เออ ให้มันจริงเถอะ!!"
    ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×