ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนพิเศษ เผลอ
ย้อนไปเมื่อเย็นวันศุกร์ / ก่อนเริ่มงานเลี้ยงประมาณ3-5ชั่วโมง
...สายลมยามบ่ายแก่ๆยังคงพัดผ่านบริเวณดาดฟ้าของโรงเรียนดังเช่นปกติ...เด็กสาวผู้มีนามว่ามิเรียน่า แอสโทเรียก็เช่นกัน
วันนี้เธอก็ยังคงนั่งหลับสนิทอยู่ข้างกายของชายหนุ่มผู้ได้ชื่อว่านักเรียนดีเด่นดังเช่นทุกวัน
ซึ่งก็ไม่แตกต่างกันเท่าใดนักสำหรับชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักเรียนดีเด่น วันนี้เขาก็ยังคงกวาดดวงตาสีฟ้าเข้มซึ่งซ่อนแววสว่าไสวนั้นไปตามแผ่นกระดาษอันเต็มไปด้วยหยดหมึกที่รวมกันเป็นตัวอักษรบอกเล่าเกี่ยวกับทฤษฎีที่คนทั่วๆไปยากจะทำความเข้าใจ เขาพลิกหน้ากระดาษหน้าแล้วหน้าเล่าขณะซึมซับเรื่องวิชาการอันแสนน่าเบื่อนี้เข้าสมอง
ใจจริงเขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้มากมายนักหรอก ออกจะเบื่อหน่ายมันเสียด้วยซ้ำ
หากแต่เขาจำต้องมีเรื่องพวกนี้บรรจุอยู่ในสมองดังที่'ใครบางคน'ต้องการให้เขามีก็เท่านั้น...
ฉับ!!
แต่แล้วเขาก็ต้องปิดหน้าหนังสือลงด้วยความเบื่อหน่ายเมื่ออ่านมันจนถึงหน้าสุดท้ายแล้ว
ชายหนุ่มถอนหายใจด้วยความเมื่อยล้าเซลล์สมองเนื่องจากรับเอาเรื่องวิชาการเข้ามาในหัวมากเกินไป ใจจริงเขาอยากจะนอนหลับอุตุเหมือนคนที่อยู่ข้างๆมากกว่า
คิดแล้วซาเบิ้ลก็หันหน้ามามองคนตัวเล็กข้างกายซึ่งบัดนี้หลับสนิท...ก็เหมือนทุกครั้ง
ลมหายใจของคนตัวเล็กแผ่วเบาเป็นจังหวะสมำเสมอ บ่งบอกเป็นอย่างดีว่าเธอกำลังหลับสบาย
...คิดๆดูแล้วเขาก็อิจฉาเธออยู่ไม่น้อย...
แม้ว่าจากการบอกเล่าของเธอจะทำให้เขารู้ว่าผลการเรียนของเธอย่ำแย่ไม่น้อย หากแต่เธอก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องทำให้ผลการเรียนออกมาดีนักหรอกในความคิดของเขา เธอก็แค่มานั่งเรียนสบายๆ ขี้เกียจก็โดด ไม่จำเป็นต้องไปเรียนแข่งกับใคร
การใช้ชีวิตก็เช่นกัน ชายหนุ่มเดาได้ไม่ยากเลยว่าเธอเป็นคนที่ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระพอตัว สามารถทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองอยากทำโดยไม่มีแรงกดดันอะไรมาคอยควบคุมชีวิตทั้งสิ้น
...ไม่เหมือนเขา ไม่เหมือนกันเลยสักนิดเดียว...
นักเรียนดีเด่นถอนหายใจให้กับความคิดแย่ๆของตัวเอง นี่เขาเก็บกดมากจนอิจฉาเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่โดดเรียนมาหลับได้เลยหรือนี่
...ดูสิ เธอออกจะน่ารักขนาดนี้ ควรหรือที่เขาจะไปริษยา...
ชายหนุ่มนึกในใจพลางเพ่งพินิจพิจารณาใบหน้าอ่อนหวานของคนข้างกาย
ใบหน้ารูปไข่ที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็น่ารักน่าเอ็นดูไปเสียหมด ดวงตาสีน้ำผึ้งกลมโตชวนหลงใหลซึ่งบัดนี้ปิดสนิทเพราะเจ้าตัวกำลังเข้าสู่ห้วงนิทราอันสุขสม พวงแก้มทั้งสองข้างมีเลือดฝาดน้อยๆเห็นแล้วให้นึกมันเขี้ยวอยากจะลองหอมดูสักครั้ง
จมูกเล็กๆที่รั้นขึ้นเหมือนคนเอาแต่ใจ...ซึ่งที่จริงแล้วเจ้าตัวก็แอบเอาแต่ใจจริงๆนั่นแหละ
ยิ่งมองไล่ลงมาจนถึงริมฝีปากสีลิ้นจี่น่าสัมผัสก็พลันให้เขาต้องลอบกลืนน้ำลายตัวเองช้าๆ
...ริมฝีปากของเธอนี่สวยชะมัด...
จริงอยู่ที่ว่าเขาแอบลักหลับเธออยู่บ่อยๆโดยที่เธอไม่รู้ตัว แต่ก็ไม่เคยมีเลยแม้สักครั้งที่เขาจะลองลิ้มชิมรสริมฝีปากสีหวานของคนตัวเล็ก
...ทำไมเขาไม่ลองจูบปากเธอดูบ้างล่ะ...
ชายหนุ่มโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆใบหน้าหวานของคนที่หลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราว ริมฝีปากของทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้นทีละน้อย...ทีละน้อย
แต่แล้วเขากลับหยุดตัวเองเอาไว้เมื่อริมฝีปากของทั้งคู่ห่างกันไม่ถึงเซนติเมตร...เขาควรทำอย่างนี้จริงๆหรือ
หากมีใครรู้เข้าว่านักเรียนดีเด่นที่ใครๆต่างก็ชื่นชมล่อลวงเด็กอายุสิบหกมาลวนลามบนดาดฟ้า...ถ้าเรื่องไปถึงหูท่านผู้อำนวยการล่ะก็
มีหวังเขาโดนสวดยับแน่ๆ ไหนจะภาพพจน์ที่อุตสาห์เพียรรักษามาตลอดสิบแปดปีนั่นอีกเล่า เขายินดีที่จะแลกทั้งหมดนั้นกับการ(ขโมย)จูบกับเธอเพียงครั้งเดียวงั้นหรือ?
...อย่าปอดแหกไปหน่อยเลยน่า!...
พลันความคิดด้านชั่วร้ายของเขาก็เข้ามาบงการ นั่นสิ...ทั้งแอบหนีเที่ยว แอบกินเหล้า แอบเข้าบ่อนเขาก็ยังแอบทำมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน กะอีแค่ขโมยจูบเด็กผูหญิงคนเดียวจะต้องไปกลัวอะไร
...ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยจูบกับผู้หญิงสักหน่อย มากกว่านี้ก็ทำมาแล้วแท้ๆ...
ชายหนุ่มโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆอีกนิด ใช่แล้ว...อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวก็จะได้สัมผัสกับริมฝีปากสีหวานนั้นแล้ว
เขาค่อยๆลดระยะห่างระหว่างเขาและเธอลงทีละน้อย...ทีละน้อย
แล้วในที่สุด...ระยะห่างนั้นก็หมดลง
เขาสัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มทันทีที่ที่ริมฝีปากทั้งสองแนบชิดติดกัน หากแต่เขากลับต้องกระเด้งกระดอนตัวออกมาทันทีที่ได้ลิ้มรสริมฝีปากสีหวานของเธอ
...เปล่าเลย มันไม่ได้มีรสชาติหอมหวานใดๆเลยแม้แต่สักนิด...ไม่มีรสชาติอะไรเลยด้วยซ้ำ
มีเพียงแค่ความรู้สึกนุ่มนิ่มดุจปุยนุ่นซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างกับริมฝีปากของผู้หญิงๆหลายๆคนที่เขาเคยจูบเลย
แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากตอนที่เขาจูบกับผู้หญิงคนอื่น...คือทันทีที่ริมฝีปากของเขาและเธอสัมผัสกัน
หัวใจของเขากลับสั่นไหวอย่างแปลกประหลาด...สั่นไหวรุนแรงยิ่งกว่าตอนที่เขาเพิ่งจะจูบกับผู้หญิงครั้งแรกหลายเท่านัก มันแกว่งไปแกว่งมาไม่หยุดราวกับว่าจะระเบิดออกมาจากอกแกร่งของเขาให้ได้
...บ้าน่า!! นี่ไม่ใช่จูบแรกของเขาเสียหน่อย อย่ามาทำตัวใสซื่อไปหน่อยเลย...
ใช่แล้ว!! เขาไม่ได้ใสซื่อขนาดนั้นสักหน่อย กะอีแค่จูบ...จะทำเหมือนปอดแหกไปทำไม
ก็แค่กับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียว ทำไมเขาต้องทำเหมือนว่ากลัวขนาดนี้ด้วย!!
แล้วทำไมเขาจะต้องกลัวเธอ เธอก็แค่...ก็แค่ ก็แค่
...น่ารัก...
'ไม่ใช่ว้อยยยยย!!!'
คนคลั่งที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองคลังสู้รบตบตีกลับตัวเองอยู่ในใจ พลางทึ้งหัวตัวเองราวกับคนบ้า
นั่นสิ...ทำไมเขาต้องมานั่งทะเลาะกับตัวเองแบบนี้ด้วย นี่เขากำลังรู้สึกผิดงั้นเหรอ!!?
กะอีแค่ขโมยจูบเธอทำไมเขาต้องเป็นขนาดนี้ด้วยวะ!!!?
ไม่มีทาง!! เขาก็แค่ไม่ทันตั้งตัว(?)เฉยๆเท่านั้นเองแหละน่า มากกว่านี้เขาก็กล้าทำ!!
...กล้าทำ...
กะ...กล้าทำ
กล้าหน่อยสิฟะ!!!
ชายหนุ่มหลับตาปี๋ พลางโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆเธออีกครั้ง จิตใต้สำนึกฝ่ายดีกำลังตั้งคำถามว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ หากแต่จิตใต้สำนึกฝ่ายชั่วกลับบอกให้เขาทำมันต่อไป
นักเรียนดีเด่น ซาเบิ้ล นัวร์แนบริมฝีปากลงกับริมฝีปากของเด็กสาวอีกครั้ง...แนบชิดลงไปมากกว่าครั้งแรก...หากแต่เขาก็ต้องถอยกลับมาอีกครั้งพร้อมกับใบหน้าที่แดงระเรื่อ
...เขานี่คงบ้าไปแล้วกระมัง...
เห็นอยู่ชัดๆว่าที่เขาทำอยู่น่ะมันผิด ลูกผ้ชายดีๆที่ไหนเขาจะมาขโมยจูบผู้หญิงที่กำลังหลับแบบนี้บ้าง แบบนี้มันเสียศักดิ์ศรี ไม่เคยมีคนดีๆที่ไหนมันทำแบบนี้หรอก
ยิ่งรวมกับเรื่องที่เขาแอบลักหลับเธอบ่อยๆอีก...ทำไมเขาถึงได้ชั่วอย่างนี้ เขามันไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย ไม่ได้มีความสามารถพอที่จะทำให้เธอเป็นฝ่ายยินยอมพร้อมใจให้เขา...เขานี่มันเลวจริงๆ...!!
...เดี๋ยวก่อนนะ นี่เขากำลังสำนึกผิดงั้นเหรอ...!!?
บ้า!!! บ้าๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!
เขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ทำไมเขาต้องมานั่งสำนึกผิดด้วย มินาต่างหากที่ผิด
รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองน่ารักก็ยังจะมาทำตัวน่ารักใกล้ๆเขาอีก แบบนี้ใครมันจะอดใจไหวกัน!!
ชายหนุ่มกล่าวโทษคนตัวเล็กในใจอยากหงุดหงิดก่อนจะตัดสินใจประกบจูบกับเธออีกครั้ง...คราวนี้ไม่ใช่แค่เอาริมฝีปากแตะกันอีกแล้ว เขาค่อยๆรุกสัมผัสเข้าไปในริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบาและอ่อมโยน
อย่างที่เขาคิดจริงๆ...เธอมันน่ารักเกินไปจริงๆนั่นแหละ
เขาเผลอจูบเธอเนิ่นนานด้วยความหลงใหล เขาไม่รู้หรอกว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว เขารู้แต่เพียงว่ายิ่งผ่านไปนานเท่าไรความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเขายิ่งเบาบางลงไปเท่านั้น
สัมผัสอ่อนหวานที่เธอมอบให้เขาโดยไม่รู้ตัวนั้นช่างมอมเมาเขาได้อย่างดีเยี่ยมจริงๆ ความอดทนของเขาถดถอยลงทีละน้อย...ทีละน้อย และเห็นทีว่ายามที่ความอดทนของเขาสิ้นสุดลง เขาก็คงจะได้ตบะแตกทำอะไรคนหลับไม่รู้เรื่องไปมากกว่านี้แน่ๆ
"อืม..."
เสียงครางงึมงำบ่งบอกอารมณ์ขัดใจของคนตัวเล็กเรียกสติของชายหนุ่มให้กลับเข้าร่างอีกครั้ง
นี่เขาเผลอทำให้เธอตื่นเสียแล้วหรื...
คนตัวสูงจำต้องรีบผละริมฝีปากออกมาอย่างรวดเร็ว ด้วยกลัวว่าเธอจะรู้ว่าเขาได้ก่อกรรมทำชั่วอะไรไว้บ้างเมื่อตอนที่เธอหลับอยู่
"นี่ฉันเผลอหลับไปอีกแล้วเรอออ หาวววว"
เด็กสาวถามอย่างงัวเงียพลางขยี้ตาตัวเองไปด้วย ดูเหมือนความงัวเงียของเธอจะช่วยชีวิตของชายหนุ่มให้รอดพ้นจากข้อหาพรากผู้เยาว์แบบเฉียดฉิว
"ชะ...ใช่ครับ ผมกำลังจะปลุกมินาพอดีเลย"
ชายหนุ่มรีบแถไปตามน้ำ แม้จะดูตะกุกตะกักอยู่บ้างแต่ความง่วงงุนก็สั่งไม่ให้เด็กสาวสงสัยอะไรไปมากกว่านี้
"อืออ ฉันนอนน้ำลายยืดอีกแล้ว"
เด็กสาวบ่นกับตัวเองเบาๆแต่ก็ไม่พ้นรัศมีการได้ยินของนักเรียนดีเด่นผู้ชั่วร้าย แน่นอนว่าทันทีที่เขาได้ยินคำว่า'น้ำลายยืด'หน้าของเขาก็ขึ้นสีเข้มจัดจนเกือบถึงใบหูทันที
...ก็นำลายนั่นมันได้ยืดเพราะเธอเผลอหลับเสียที่ไหนล่ะ!!...
"อ่าาา นายหน้าแดงนี่นา ไม่สบายหรือเปล่า?"
เด็กสาวคนซื่อถามทันทีที่เห็นว่าเขาไม่ได้อยู่ในสภาพปกติ พลางเอื้อมมือขาวผ่องนุ่มนิ่มของตนขึ้นมาแตะหน้าผากคนตัวสูงหมายจะวัดไข้ให้
"ผะ...ผมไม่เป็นไรครับ นี่ก็จะเลิกเรียนแล้ว ลงไปข้าล่างกันเถอะ"
ชายหนุ่มรีบคว้ามือเธอไว้ทันที พลางลากแขนเธอให้ลงไปข้างล่างด้วยกันด้วย
"อ่ะ! เดี๋ยวสิซาเบิ้ล ฉันยังไม่ได้เก็บขยะเลยนะ"
เด็กสาวประท้วงเบาๆแต่เขาหาได้สนใจไม่ ชายหนุ่มเพียงแต่ลากมือของเธอเดินดุ่มๆมาตามทางเท่านั้น
...ยัยเด็กบ้าเอ้ย!! อยู่สองต่อสองกับเขาน่ะมันโคตรอันตรายเลยนะ ไม่รู้รึไง!!?...
END
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น