ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บทที่9 โชคไมีดี
บทที่9 โชคไม่ดี
(เอมิลี่ เอเมอร์รัล)
เข็มสั้นของนาฬิกาเริ่มจะเฉียดใกล้เลขแปดเข้าไปทุกทีแล้ว
ขณะนี้เวลาเจ็ดนาฬิกาห้าสิบแปดนาที
หากเป็นนักเรียนปกติทั่วไปที่มีความประพฤติเรียบร้อยคงนั่งเล่นสบายใจเฉิบอยู่ในห้องเรียนของตัวเองแล้ว
แต่สำหรับลิลิน่า เบลล์กับมิเรียน่า แอสโทเรียหาเป็นเช่นนั้นไม่
ทั้งที่วันนี้เป็นวันอังคารที่ควรจะตื่นแต่เช้าเพื่อมาเข้าโรงเรียนให้ทันเวลา
ทั้งคู่กลับพากันเล่นเกมจนดึกแล้วตื่นกันสายโด่ง
สุยท้ายจึงต้องมาวิ่งแบบลืมตายเพื่อให้ทันโรงเรียนด้วยประการฉะนี้ .
"แฮกๆ...มะ...มินา...วิ่ง...วิ่งสิย๊าาา!!"
"อืม..."ข
ในความเป็นจริงแล้วนั้น ขณะที่ลิลินผู้เป็นเพื่อนสนิทวิ่งแบบเอาเป็นเอาตายเพื่อให้เข้าโรงเรียนทัน...
แต่แทนที่จะรีบวิ่งตาลีตาเหลือกแบบนางเอกนิยายรักสีชมพูหวานจ๋อยทั่วไป
ตัวต้นเหตุที่ลิลินหนีบมาด้วยนามว่ามินากลับวิ่งเอื่อยๆแบบขอไปทีอย่างไม่กลัวเกรงการลงโทษจากสภานักเรียนเลยแม้แต่น้อย(เพราะโดนบ่อย)
แก๊ง! แก๊ง!
ดั่งความหวังสุดท้ายของชีวิตลิลินได้มลายหายสิ้นไปตรงหน้า ทั้งที่เหลืออีกไม่กี่ย่างก้าวก็จะถึงโรงเรียนแล้วแท้ๆ แต่สัญญาณที่บ่งบอกว่าทั้งคู่มาสายแล้วก็ดังขึ้นเสียก่อน
ซ้ำร้ายหน้าโรงเรียนที่ควรจะมีสมาชิกสภานักเรียนหน้านิ่งยืนจดชื่อนักเรียนดังเช่นทุกวัน
เช้านี้กลับกลายเป็นว่ามีหนุ่มหน้าหวานหยดย้อยแต่แผ่รังสีอำมหิตเต็มพิกัดมายืนแทนเสียนี่!!
"ไง มาสายนะเราน่ะ..."
ชายหนุ่มหน้าหวานเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งๆพลางฉีกยิ้มจนเห็นเขี้ยวสวยๆ
แต่กลับให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกสันหลัง
"ระ...รุ่นพี่ลีโอ...!"
"ท่านลีโอสิเฟ้ย!!!"
ยังไม่ทันที่ลิลินจะพูดได้จบประโยค ลูกสมุนหัวแดงนามว่าเซตก็เอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน
ทำลิลินถึงกับสะดุ้งโยง เธอไม่เคยเห็นเพื่อนร่วมชั้นน่ากลัวขนาดนี้มาก่อนเลย
บางทีอาจเป็นเพราะเขามากับลีโอผู้เป็นหัวหน้าก็ได้ และการที่เห็นหัวหน้าแก๊งไลออนมายืนอยู่ตรงนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า...
...วันนี้พวกเธอโชคร้ายเสียแล้ว...
วันนี้คือวันซวยที่สุดในรอบปีนี้แน่นอน!! การที่เจอนักเลงมารอไถตังแต่เช้าแบบนี้มันซวยสุดๆ
ที่สำคัญไม่ใช่นักเลงธรรมดาด้วย นี่มันระดับหัวหน้าแก๊ง!! นี่คือบอสใหญ่ที่สุดในหมู่นักเรียนโรงเรียนนี้!!
...ถ้าเผลอทำอะไรขัดหูขัดตาพี่ท่าน มีหวังอยู่โรงเรียนนี้ไม่สงบแน่!!...
"ขะ...ขออภัยค่ะ ท่านลีโอ คือฉัน..."
ลิลินพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ความกลัวแล่นเข้ามาจับถึงขั้วหัวใจ
ร่างเล็กไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นไปมองคนตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ
แม้ว่าลีโอจะกำลังยิ้มให้เธอเหมือนไม่มีพิษภัยอะไร แต่ลึกๆแล้วเธอรู้ดีว่าเขากำลังข่มขู่เธออยู่
"เงยหน้าขึ้นมาแล้วพูดดีๆสิ..."
หัวหน้าแก๊งไลออนเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ต่างจากเดิมเลยแม้แต่น้อย
หากแต่รังสีอำมหิตที่แผ่กระจายอยู่รอบๆตัวเขากลับทำให้คำพูดทุกคำที่ผ่านออกมาจากริมฝีปากสีสวยนั้นแฝงด้วยอำนาจเสมอ...
ลิลินค่อยๆเงยหน้าไปมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาด้วยความหวาดกลัว
'ลีโอ อี. เฟเลด'เป็นนักเรียนปีสามของโรงเรียนมัธยมแห่งนี้
ถ้าจะให้พูดกันตามตรงแล้วเขาคือหนึ่งในหนุ่มหล่ออันดับต้นๆของโรงเรียนนี้เลยล่ะ
เขาเป็นชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดย่างเข้าสิบแปดปี รูปร่างสูงโปร่งได้สัดส่วน(คะเนด้วยสายตา ลิลินคิดว่าเขาน่าจะสูงน้อยกว่า'ไอ้สิ่งมีชีวิตเพศผู้ที่ตอแหลที่สุด'ประมาณสามถึงห้าเซนติเมตร)
ผิวขาวจัดจนดูเหมือนคุณชายบอบบางผู้น่าทะนุถนอม ใบหน้าก็หวานหยดย้อยเสียจนเกือบเหมือนผู้หญิง ใบหน้ารูปไข่ จมูกโด่งคมสันอย่างพอเหมาะพอดี ริมฝีปากสีสวยไร้ซึ่งการแต่งแต้มใดๆ หากแต่ยามแย้มยิ้มกลับเรียกให้พวกผู้หญิงที่'คลั้งใคล้แบดบอย'วิ่งเข้าใส่แทบจะทันที
ยิ่งได้ดวงตาสีทองเรียบเฉยที่ล้อมกรอบไว้ด้วยแพขนตาที่ยาวกว่าของบุรุษเพศทั่วไปยิ่งขับให้ใบหน้าของเขาดูหวานขึ้นไปอีก
สิ่งที่พอจะยืนยันได้ว่าเขาเป็นชายชาตรีอย่างแน่นอนคือรูปร่างสูงโปร่งแต่กำยำของเขา มีกล้ามเนื้อให้เห็นอยู่บ้างประปรายจากการออกกำลังกลางแจ้ง(ชกต่อย)ที่เขาทำเป็นประจำ
เส้นผมของเขาเป็นสีน้ำตาลอมส้มทอประกายไว้ยาวเลยต้นคอเล็กน้อย
เข้ากันได้อย่างลงตัวกับใบหน้าอันหวานหยดย้อยชวนฝัน ถึงแม้ลีโอจะไว้ผมยาวจนผิดระเบียบของโรงเรียนแต่ก็ไม่มีใครกล้าว่าอะไรเขาเพราะเกรงอำนาจของพ่อเขาที่เป็นผู้อำนวยการ
...แน่นอนว่าหลายคนที่เห็นเขาครั้งแรกก็คงต้องเผลอคิดว่าเขาเป็นเพียงหนุ่มน้อยขี้โรคบอบบางที่ต้องการให้ใครสักคนมาปกป้องไปบ้าง...
แต่ในความเป็นจริงนั้นเปล่าเลย หากได้คุยกับเขาถึงสามนาที ทุกคนจะรู้ว่าลีโอไม่ใช่คนที่ต้องการให้ใครมาคอยปกป้องแต่อย่างใด
ในทางกลับกัน มีหลายคนที่ต้องขอให้ลีโอคอยคุ้มกะลาหัวให้พวกเขาต่างหาก
ลีโอตั๊งแก๊งอันธพาลของตนขึ้นมาในนาม'ไลออน' ให้พ้องกับชื่อของเขาที่แปลว่าสิงโต มีลูกสมุนมากหน้าหลายตาคอยรับใช้เขาได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ
ทั้งเขาและพวกลูกน้องต่างก็มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับแก๊งอันธพาลต่างโรงเรียนได้แทบทุกวัน ซึ่งเขาก็ถือเป็นการประกาศศักดาของตัวเองไปในตัวด้วย(แน่นอนว่าเขาถูกท่านผอ.เรียกไปด่าทุกครั้งที่มีเรื่อง...แต่เขาก็ไม่เคยเข็ดหลาบสักที)
และที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือ ทั้งที่เขาออกไปมีเรื่องต่อยตีนอกโรงเรียนแทบทุกวัน
แต่ผลสอบของเขากลับติดหนึ่งในสามของรุ่นเสมอ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในโรงเรียน(รองจากนักเรียนดีเด่นสุดตอแหลที่หนีเที่ยวกลางคืน แต่กลับมาเรียนแต่เช้าได้ด้วยหน้าตาสดใสแอ๊บไร้เดียงสา)เลยก็ว่าได้
ส่วนเรื่องที่เขาชอบทะเลาะวิวาทนั้น
ถึงแม้ว่าเขาจะถูกท่านผู้อำนวยการเรียกไปตักเตือนอยู่บ่อยๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเพราะมีเขา พวกอันธพาลโรงเรียนอื่นจึงไม่กล้ามาระรานโรงเรียนนี้
เพระไม่ได้มีเพียงพวกอันธพาลเท่านั้นที่เกรงกลัวเขา แม้แต่นักเรียนโรงเรียนเดียวกันยังมีน้อยคนนักที่จะกล้าสบตา
...ดังเช่นที่ลิลินเป็นอยู่ตอนนี้ เธอกำลังถูกลีโอแผ่รังสีอำมหิตใส่ อีกไม่นานเขาต้องเริ่มการข่มขู่เพื่อไถตังแน่ๆ(บ้านมันก็รวยแท้ๆ มันยังมาไถตังชาวบ้านอีก)
"ชื่ออะไรน่ะเรา?"
ลีโอยังคงถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยไม่เคยเปลี่ยน และรังสีอำมหิตที่ปล่อยออกมาก็ยังคงที่เช่นกัน
ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้เธออีกเล็กน้อย ในยามนี้เหงื่อเม็ดโตๆเริ่มผุดขึ้นมาบนหน้าสวยๆของลิลินบ้างแล้วเนื่องจากความกดดันที่เธอได้รับมาจากเขา
"ลิ...ลิลิน่า เบลล์ค่ะ...ลิลิน่า เบลล์ ปีสองห้องบี"
"ปีสองห้องบี... ห้องเดียวกับแกเหรอเซต?"
ลีโอว่าพลางหันไปถามลูกน้องคนสนิท ฝ่ายหนุ่มหัวแดงก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟังสุดๆ
"ครับลูกพี่"
"หน้าตายัยนี่ก็ใช้ได้นะเนี่ย"
ลีโอยังคงพูดกับลูกสมุนต่อโดยไม่ได้มีความเกรงใจคนที่ถูกเอ่ยถึงเลย
"ยัยเตี้ยนี่เป็นดาวเด่นรุ่นผมครับ"
ลูกน้องหัวแดงปากเสียรีบตอบลูกพี่ทันทีแบบไร้ซึ่งความเกรงอกเกรงใจเพื่อนร่วมชั้น
"โอ้! ดาวเด่นของพวกปีสองเหรอเนี่ย..."
ลิลินได้แต่ยืนตัวสั่นไม่กล้าตอบ ตอนนี้เส้นขนแทบทุกเส้นบนตัวเธอกำลังลุกขึ้นตั้งชัน
เธอรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้เขาน่ากลัวกว่าเดิมเสียอีก
"ก็น่ารักใช้ได้นะ...แต่ดูแห้งแล้งไปหน่อย"
ลิโอพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เหมือนว่าที่ชมไปเมื่อครู่เพียงพูดไปตามน้ำเท่านั้น
...ไอ้!...
ลิลินสบถด่าลีโอในใจ ความกลัวที่มีอยู่เดิมถูกเจือไปด้วยความโมโหที่ถูกชายหนุ่มด่าว่า'แห้งแล้ง'เมื่อสักครู่
"แล้วทำไมถึงมาโรงเรียนสาย?"
ร่างสูงถามต่อ แม้ว่าจะยิ้มอยู่แต่น้ำเสียงก็ยังคงนิ่งเรียบและรังสีอำมหิตก็ยังคงเต็มเปี่ยม
"ตะ...ตื่นสายค่ะ"
ลิลินยังคงตอบด้วยน้ำเสียงสั่นๆเช่นเดิม ถึงแม้เธอจะโมโหแต่เธอก็ยอมรับว่าหมอนี่มันน่ากลัวจริงๆ
แค่ตอนที่เดินผ่านเธอไกลๆก็รู้สึกแล้วว่าผู้ชายคนนี้น่ากลัว
พอได้มาเจอกับตัวเธอจึงได้รู้ว่าเขาน่ากลัวยิ่งกว่าแมลงสาบ(ลิลินกลัวแมลงสาบ)เสียอีก
...ใช่แล้ว ไอ้หมอนี่คือหัวหน้าแมลงสาบไงล่ะ!!...
"ทำไมถึงตื่นสาย?"
ลีโอยังคงซักต่อไม่หยุด บทสนทนาก็ชักจะใกล้เคียงอาจารย์ฝ่ายปกครองเวลาสอบสวนเข้าไปทุกที
"นอน...นอนดึกค่ะ พวกเรา...ละ...เล่นเกมกัน"
"พวกเรา? โอ้ เธอไม่ได้มาแค่คนเดียวสินะ"
ลีโอทำเป็นยิ้มแล้วเดินผ่านลิลินมา เมื่อคนตัวเล็กรวบรวมความกล้าแล้วหันกลับไปมองตาม
จึวได้เห็นว่าเพื่อนสนิทของตนยืนตัวสั่นหลบอยู่หลังกำแพงโรงเรียน
"ว้าว! เธอน่ารักมากเลยนะเนี่ย"
คิ้วของลิลินกระตุกเล็กน้อย ความรู้สึกกลัวเมื่อครู่ลดลงถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์
"ชื่ออะไรฮึ เรานะ?"
"..."
คำตอบมีเพียงความเงียบ มินาเพียงแต่มองกลับไปทั้งที่ยังตัวสั่นเท่านั้น
"ตัวสั่นด้วยแฮะ น่ารักดีจริงๆ"
ลีโอพูดด้วยรอยยิ้ม พลางเดินเข้าไปมกล้มินามากขึ้นอีก
เด็กสาวผมสีคารเมลถอยหลังกลับไปเล็กน้อย ตัวสั่นมากกว่าเดิมเสียอีก
"ไม่ต้องกลัวไมหรอกน่า กับเด็กน่ารักๆแบบนี้ฉันไม่ทำอะไรหรอก"
แก้มสองข้างของลิลินถูกอมลมจนป่อง ประโยคเมื่อครู่ทำให้ความกลัวหายไปอีกสามสิบเปอร์เซ็นต์
...หน็อยแน่ไอ้แมงสาบ!!...
ลีโอเดินเข้ามาใกล้มินามากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่มินานั้นถอยหนีจนแทบจะสิงกำแพงโรงเรียนได้อยู่แล้ว
หัวหน้าแก๊งไลออนยกยิ้มที่มุมปากอย่างอารมณ์ดี ด้วยว่าไม่บ่อยนักที่เขาจะรู้สึกอยาก'รังแก'ใครแบบสุดๆขนาดนี้
...น่ารักเป็นบ้า...
"มานี่เถอะน่า ไม่ทำอะไรหรอก..."
หากแต่มินากลับยังเดินหนีเขาอยู่ดี แถมยังทำหน้าราวกับขยะแขยงเขาสุดๆอีก
เมื่อเห็นปฏิกริยาเช่นนี้ลีโอก็เริ่มหัวเสียขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน
...เขามันน่าขยะแหยงขนาดนั้นรึไงฟะ!!?...
"นี่ ใจคอจะหนีแบบนั้นไปตลอดเลยรึไง?"
ลีโอถามพลางสาวเท้าเข้ามาใกล้อีก มินาผู้หวาดหลัวรีบวิ่งหนีทันทีแต่ก็ไม่ทันความเร็วของลีโอ
ร่างสูงรีบเดินไปคว้าแขนเธอไว้แล้วพูดด้วยสีหน้าหน่ายๆ
"หน้าฉันมันเหมือนผีรึไงฟะ! ทำไมต้องหนีขนาดนี้ด้วย!!"
ลีโอพูดด้วยสีหน้ายุ่งๆเล็กน้อย ปกติเขาก็พออกพอใจอยู่หรอกเวลามีคนเคารพยำเกรง
...แต่กับยัยเด็กนี่มันไม่ใช่แค่เคารพเเล้ว!! ท่าทางแบบนี้มันเหมือนเขาเป็นตัวเชื้อโรคอะไรสักอย่างที่ตัวมีแต่แผลพุพองพอเข้าใกล้แล้วจะติดโรคอะไรทำนองเนี้ยะ!! คิดว่ามันน่าดีใจรึไงฟะ!!?...
"ปะ...เปล่าค่ะ ระ...รุ่นพี่...ไม่ได้เหมือนผี"
มินาตอบด้วยน้ำเสียงสั่นระริก ตอนนี้เธอกลัวเขาจนแทบจะเสียสติแล้ว
อย่างที่เซตเคยบอกจริงๆ ชายคนนี้น่ากลัวมาก รังสีอำมหิตที่แผ่กระจายราวกับจะขยี้ใครก็ตามที่ขวางทางแบบนี้ก็สมแล้วที่ใครๆต่างก็หวาดกลัว เพียงแค่จ้องตาเขาเธอก็อาจทรุดไปเลยก็ได้
"แล้วทำไมต้องหนี!!?"
"ก็รุ่นพี่...อึก...น่ากลัว..."
มินาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ หยาดน้ำใสๆเริ่มคลอในดวงตากลมโตของเธอทีละน้อย
"เฮ้ยยย!! อย่าร้องไห้เซ่ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะเฟ้ย!!"
ลีโอพูดพลางถอยห่างออกมาจากร่างเล็ก ถึงแม้ว่าเขาจะดูน่ากลัวในสายตาคนอื่นเพียงใด
แต่จุดอ่อนที่แก้ไม่หายสักทีของเขาคือการ'แพ้น้ำตาผู้หญิง'นั่นเอง
"ฮึก...ฮือออ อย่าเอาเงินพวกเราไป...อย่าเอาเงินพวกเราไปเลยนะคะ ไม่งั้นพวกเราคงไม่มีเงินกินข้าวแน่ๆเลย ฮือออ"
"เออๆ ฉันไม่เอาเงินเธอก็ได้... หยะ...หยุดร้องนะ หยุดร้องๆ"
ลีโอได้แต่ปลอบอย่างเก้ๆกังๆ ชีวิตนี้นอกจากน้องสาว(และพวกน้องสาวห่างๆ)ของเขาแล้ว
แทบไม่มีผู้หญิงที่ไหนมาร้องไห้ให้เขาปลอบเลย แถมวิธีปลอบยัยพวกนั้นยัง...
"ฮือๆ ฉันไม่มีเงินหรอกค่าาา ฮือออ"
มินายังคงร้องไห้ไม่หยุด หากเป็นแค่พวกขี้หลีมาเข้าใกล้เธอก็คงจับทุ่มไปแล้ว แต่กับพวกสายโหดแบบนักเลงพวกนี้เธอกลัวมากจริงๆ
จะบอกว่าพวกนักเลงเป็นจุดอ่อนของเธอก็คงไม่ผิดนัก
...ใช่แล้ว เธอกลัวคนประเภทนี้จนขึ้นสมองเลยล่ะ...
ทั้งท่าทีที่วางอำนาจ ทั้งคำพูดที่ขู่กรรโชก มันทำให้เธอนึกถึงสมัยเด็กๆที่เคยโดนล้อบ่อยๆ
คนพวกนี้คือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เธอกลายเป็นคนขี้อายมาจนถึงทุกวันนี้
พอเห็นคนพวกนี้พูดด้วยความมั่นใจว่าเธอเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เธอก็รู้สึกอับอายจนแทบจะไม่กล้ายืนอยู่ในรัศมีใกล้ๆนั้นเลย
ทุกวันนี้เวลาเธออยู่ท่ามกลางฝูงชน ต่อให้ไม่ใช่จุดเด่นเธอก็ยังต้องระแวงอยู่ดีว่าคนประเภทนี้จะโผล่มากันไหม
เธอกล้ายอมรับเลยว่า...เธอไม่ถูกกับคนประเภทนี้จริงๆ
"เออๆ ไม่เอาเงินแล้วไง หยุดร้องนะ..."
ลีโอยังคงไม่ละความพยายามในการปลอบขวัญ(ที่ยิ่งทำคนรอบข้างเขายิ่งกลัว)
ในขณะที่คนร้องไห้ก็เอาแต่ร้องไม่หยุดอยู่ดี
"อึกๆ ฮือออออ"
"โว้ยยยย!!! หยุดร้องสักทีสิฟะ!!!"
"ลีโอ!! นายรังแกรุ่นน้องอีกแล้วเหรอยะ!!?"
"พี่ลีโอนิสัยไม่ดี!"
ก่อนที่ลีโอจะได้พูดอะไรต่อ ก็มีเสียงของหญิงสาวสองคนดังขึ้นเสียก่อน
ตามด้วยร่างเพรียวระหงของนักเรียนปีสามหนึ่งคนและร่างเล็กๆของนักเรียนปีสองอีกหนึ่งคน
"เอลิน่างั้นเหรอ...?"
ร่างสูงหันขวับไปทันทีตามเสียงเรียก ผู้ที่มาหยุดการปลอบขวัญ(ที่ดูเหมือนการขู่กรรโชกเสียมากกว่า)ของเขาคือเอลิน่า เอเมอร์รัลเพื่อนร่วมชั้นที่พ่วงตำแหน่งน้องสาว(ห่างๆ)ของเขานั่นเอง
"นี่พี่ลีโอเห็นแค่เอลี่งั้นเหรอ!? ใจร้าย!!"
เด็กสาวร่างเล็กที่อย่ด้านหลังเอลิน่าเอ่ยประท้วงด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
จากหน้าตา สีผิว สีผม และสีตา ลิลินที่ดูอยู่ห่างๆบอกได้เลยว่าเธอเป็นน้องสาวของเอลิน่าแน่นอน(ถึงแม้จะเพิ่งเห็นหน้าครั้งแรกก็ตาม)
"เอมิลี่!! ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ!?"
ดูเหมือนว่าเด็กสาวผู้มาโรงเรียนสายทั้งสองคนจะถูกลืมเสียแล้วในยามนี้ เนื่องด้วยหัวหน้าแก๊งไลออนกำลังมุ่งความสนใจไปที่ญาติห่างๆทั้งสองของตนมากกว่า
ลิลินถือโอกาสนี้สะกิดแขนมินาที่หยุดร้องไห้แล้วให้(แอบ)หนีกลับห้องเรียนไปด้วยกัน
"อ้ะ!! เธอ... เดี๋ยวก่อน!!"
อยู่ๆเอลิน่าก็ละสายตาจากลีโอที่พยายามง้องอนน้องสาวของเธอแล้วตรงเข้ามาดึงแขนของมินาเอาไว้
"อะ...!"
"คุยกับฉันสักเดี๋ยวสิ!!"
เอลิน่าพูดรัวเร็วพลางลากมินาออกไปทันที ทิ้งให้ลิลินอมแก้มจนป่องอยู่ตรงนั้น
...
..
.
"..."
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าโรงเรียนทั้งหมดต่างก็อยู่ในการรับรู้ของนักเรียนดีเด่น ตอนนี้เขากำลังลอบมองไปด้านล่างเป็นระยะๆจากกระจกหน้าต่างในห้องทำงานของท่านผู้อำนวยการ แม้จะไม่ได้ยินเสียงแต่ก็พอเดาได้ว่าไอ้เจ้าลีโอตัวแสบกำลังทำให้มินาของเขาร้องไห้
ปัญหาคือเขาไม่สามารถลงไปดูให้แน่ชัดได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะติดการสนทนากับเจ้าของห้องทำงานห้องนี้อยู่...
"ฟังฉันอยู่หรือเปล่า...?"
ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกกับคำถามเรียบๆของประมุขแห่งสถานศึกษาแห่งนี้ เขาหันหน้ากลับไปมองท่านผู้อำนวยการช้าๆก่อนจะถาม
"ว่ายังไงนะครับ"
"ฉันถามว่าเมื่อคืนวันศุกร์... แกไปจูบกับนักเรียนของฉันใช่ไหม"
ท่านผู้อำนวยการเพเธอร์ อี. เฟเลดถามอีกครั้งพลางประสานมือทั้งสองข้างลงบนโตะทำงาน
นัยน์ตาสีดำคมกริบทว่าทรงอำนาจสบเข้ากับดวงตาสีฟ้าเข้มสว่างไสวของผู้อ่อนวัยกว่าตรงหน้า
ซาเบิ้ลทำได้เพียงมองตอบด้วยความเคารพยำเกรงอย่างที่ไม่มีกับใครคนอื่นก่อนพยักหน้า
"ครับ... เธอเมามากแล้วตอนที่คว้าผมไปจูบ มันเป็นอุบัติเหตุครับ"
ชายหนุ่มตอบไปตามความจริงซึ่งผิดไปจาดวิสัยปกติของเขา เพราะเขาจากรู้ดีว่าไม่เคยโป้ปดผู้มากด้วยวัยวุฒิตรงหน้าได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
แต่ในใจลึกๆก็นึกขอบคุณร่างเล็กที่อ้วกใส่เขาหลังจากนั้น ทำให้เขาได้สติจากความคิดชั่วๆที่อยู่ในมโนสำนึกของเขา(เพราะน้ำเมา)ในยามนั้นได้ ไม่เช่นนั้นแล้ว...
เขาคงถูกท่านผู้อำนวยการเรียกมาตำหนิเรื่องกระทำชำเราเด็กอายุสิบหกแน่ๆ
"ถ้าอย่างนั้นก็แล้วไป คราวหลังก็ระวังตัวด้วยล่ะ"
"ครับ..."
ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ท่านผู้อำนวยการมองเขาอยู่ครู่หนึ่งเหมือนจะพูดอะไร
แต่สุดท้ายก็เพียงแต่ถอนใจ แล้วหยิบซองบางอย่างส่งให้เขา
"นี่ค่าใช้จ่ายของเดือนนี้ จะใช้อะไรก็คิดดีๆล่ะ"
"ครับ..."
ซาเบิ้ลพยักหน้ารับก่อนจะหยิบเอาซองนั้นไป
แม่ของเขาไม่ใช่คนที่ร่ำรวยพอจะส่งเขาเรียนโรงเรียนเอกชนค่าเทอมสูงลิ่วแบบนี้ได้
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เขาใช้ในการเรียนโรงเรียนนี้ตลอดหกปีที่ผ่านมาล้วนเป็นเงินของท่านผู้อำนวยการทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็นค่าเครื่องแบบ ค่าหนังสือ ค่าอาหาร หรือแม้แต่เงินที่เขาเอาไปท่องราตรีหรือเล่นการพนันก็เป็นเงินของท่านผู้อำนวยการเช่นกัน!!
ซึ่งความสะดวกสบายทั้งหลายนี้ก็แลกมาจากการที่เขาพยายามอ่านหนังสือสอบ เพื่อให้ชื่อของเขาอยู่สูงสุดบนแผ่นกระดาษในวันประกาศผลการศึกษา
ฝึกว่ายน้ำทั้งวันทั้งคืนโดยแทบจะไม่พักผ่อน เพื่อเป็นที่หนึ่งในการแข่งขันทุกๆครั้ง
เขาต้องตะเกียกตะกายทุกอย่าง แม้แต่โหมงานหนักจนเข้าโรงพยาบาลเขาก็เคยมาแล้ว
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพื่อนำพาชื่อเสียงและเกียรติยศมาให้ท่านผู้อำนวยการและโรงเรียนที่ท่านแสนจะภาคภูมิใจให้มากที่สุด
"แล้วก็..."
ท่านผู้อำนวยการเว้นจังหวะเล็กน้อยก่อนจะเอ่ย
"การแข่งที่จะมีอีกสองเดือนข้างหน้า... เริ่มซ้อมได้แล้วนะ ที่สำคัญแกต้องชนะให้ได้!!"
"ครับ..."
"แล้วก็เตรียมตัวอ่านหนังสือให้ดี ผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยแกต้องได้ที่หนึ่งเท่านั้น!! อย่าทำให้ฉันเสียชื่อเชียวล่ะ!!"
"ครับ..."
"แล้วก็คอยดูเจ้าลีโอมันด้วย คอยคุมมันให้ดีๆ อย่าให้มันออกนอกลู่นอกทางมากนักเดี๋ยวจะเสียมาถึงฉัน"
"ครับ..."
"แล้วก็บอกบอมเบย์ด้วยนะ ว่าอย่าไปทำตามเจ้าลีโอให้มันมากนัก...
บอมเบย์ยังเด็กมาก คงไม่ทันคนเหมือนเจ้าลีโอหรอก"
"ครับ..."
"แกเองก็เหมือนกัน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเมื่อคืนแกไปไหนมา ถ้าใครมาเห็นขึ้นมาจะทำยังไง!? หัดระวังตัวให้มากกว่านี้หน่อยสิ!"
"ขอโทษครับ..."
"แล้วเรื่องที่แอบไปสูบบุหรี่บนดาดฟ้าอย่านึกว่าฉันไม่รู้นะ คราวหน้าคราวหลังจะทำอะไรก็รู้จักทำลายหลักฐานให้มันแนบเนียนเข้าใจไหม!!?"
"ครับ..."
ท่านผู้อำนวยการถอนใจเฮือกใหญ่ให้ชายหนุ่มตรงหน้า แม้ดูเผินๆจะเหมือนเด็กที่เชื่อฟังทุกอย่างแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเด็กคนนี้'แอบ'มีพฤติกรรมต่อต้านให้เห็นอยู่บ่อยๆ
ถึงในเวลาปกติจะยิ้มแย้มแจ่มใสและปฏิบัติตามกฎระเบียบทุกอย่างเหมือนเป็นคนดี แต่ลึกๆแล้วท่านรู้ดีว่านักเรียนดีเด่นที่โรงเรียนแสนจะภาคภูมิใจนั้นไม่ได้แตกต่างอะไรกับ'ระเบิดเวลา'ที่พร้อมจะปลดปล่อยความเก็บกดออกมาได้ทุกเมื่อ
"แกไปได้แล้ว หลังจากนี้ก็ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ..."
"ครับ..."
ชายหนุ่มหันหลังเดินออกจาห้องผู้อำนวยการโดยไม่ได้พูดอะไร...
ไม่แม้แต่จะปั้นหน้ายิ้มเหมือนยามปกติ ชายหนุ่มทำเพียงแต่ตีหนานิ่งขรึมแล้วปฏิบัติตามคำสั่งทุกอย่างของท่านผ้อำนวยการดังเช่นที่ผ่านมาเท่านั้น...
ซาเบิ้ลมาหยุดอยู่ที่ประตูทางออก ฝ่ามือใหญ่ค่อยๆหมุนลูกปิดเพื่อเปิดประตูออกไปข้างนอกเหมือนดังที่เคยทำ แต่แล้วเขากลับถูกท่านผู้อำนวยการเรียกไว้เสียก่อน
"ซาเบิ้ล..."
"ครับ?"
"ยังไงก็อย่าหักโหมนักล่ะ"
ชายหนุ่มมองผู้มากด้วยวัยวุฒิที่เรียกเขาเข้ามาพบทุกอาทิตด้วยรู้สึกอึดอัดอย่างบอกได้ชัด
มองบุคคลที่สั่งให้เขาเป็นอะไรที่ไม่ใช่ตัวของเขาเองโดยใช้คำว่าบุญคุณเป็นข้ออ้าง ทั้งที่ยัดเยียดภาระตั้งมากมากมายให้เขาแต่กลับบอกว่าอย่าหักโหมงั้นหรือ
ทั้งที่ยัดเยียดความสมบูรณ์แบบมาให้เขาโดยที่ไม่เคยถามอะไรสักคำ!! ทั้งที่ควบคุมเขาแทบทุกอย่างจนเขาเกือบจะสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองอยู่แล้วแต่กลับมาบอกเขาว่าอย่าหักโหมเนี่ยนะ!!...
...เรื่องแบบนั้นเขาคงทำไม่ได้หรอก...
"ครับ"
ปึง!
เสียงปิดประตูดังขึ้นแทบจะทันทีที่ชายหนุ่มตอบรับคำพูดนั้น ราวกับว่าเขาไม่ต้องการเจรจาพาทีกับผู้มากด้วยวัยวุฒที่อยู่เบื้องหลังอีกต่อไป
ท่านผู้อำนวยการทำได้เพียงถอนหายใจกับกิริยานั้นของชายหนุ่มที่เพิ่งกลับออกไปเท่านั้น เนื่องจากท่านมีภาระมากมายก่ายกองที่ต้องรับผิดชอบจึงไม่มีเวลาดูแลลูกๆของตนเท่าที่ควร
สิ่งที่ทำได้มีเพียงการฝากฝังให้ชายหนุ่มเมื่อครู่ช่วยดูแลให้บ้างเท่านั้น แม้ท่านจะรู้อยู่เต็มอกว่าชายหนุ่มเองก็มีสิ่งที่ต้องแบกรับไว้มากมายเช่นกัน
ท่านผู้อำนวยการทำได้เพียงถอนใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมาให้ความสนใจกับกองเอกสารมากมายที่ท่านต้องรับผิดชอบต่อไป...
...
..
.
"เธอน่ะ เป็นลูกของอาจารย์สินะ"
"คะ...?"
มินาได้แต่ถามกลับไปด้วยความงุนงง เนื่องจากอยู่ดีๆเธอก็ถูกรุ่นพี่สาวผู้ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโรงเรียนลากแขนมาจนถึงหลังอาคารเรียน จากนั้นก็ยิง'คำถามชวนงง'ใส่แบบกระทันหัน
"เธอน่ะ เป็นลูกสาวของอาจารย์ใช่ไหม?"
เอลิน่าถามย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงรัวเร็วจนไม่สามารถบอกได้ว่าอยู่ในอารมณ์แบบไหน
เล่นเอามินาถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว เนื่องจากจับอารมณ์ของรุ่นพี่สาวไม่ได้
แต่ในที่สุดเธอก็ต้องใช้สมองในการตีความคำถามอยู่ดี เเละเมื่อประมวลผลได้สักพักเธอจึงตอบออกไป...
"ฉันไม่ได้เป็นลูกของอาจารย์หรอกค่ะ...คุณพ่อของฉันเป็นนักดนตรี ส่วนคุณแม่...!"
"คุณแม่ของเธอก็คืออาจารย์โมนิก้าไงละ!"
ยังไม่ทันได้พูดจบเอลิน่าก็พูดขัดขึ้นมาเสียก่อน เท่านั้นแหละเธอถึงได้เข้าใจความหมายของคำว่า'อาจารย์'ที่ผู้มากด้วยวัยกว่าเอ่ยถึง(ตอนแรกเธอคิดว่าเอลิน่าจะหมายถึงอาจารย์ที่สอนในโรงเรียนเสียอีก)
"อ่าาา ถ้าหมายถึงอาจารย์แบบนั้นก็ใช่ค่ะ"
มินาพยักหน้าอย่างเชื่องช้าตามนิสัยเอือยเฉื่อยของตน โดยหารู้ไม่ว่าพลาดแล้วที่พูดออกไปแบบนั้น
"สุดยอดเลยนะ!! ในที่สุดฉันก็ได้คุยกับเธอเสียที!!!"
เอลิน่าพูดด้วยแววตาที่เป็นประกายในขณะที่มินาได้แต่อึ้งรับประทานเท่านั้น ด้วยนึกไม่ถึงว่าคนที่สวยที่สุดในโรงเรียนจะมองเธอด้วยสายตาชื่นชมแบบนี้
"อ่า...!"
"ฉันตั้งใจว่าจะหาโอกาสคุยกับเธอตั้งหลายครั้งแล้ว แต่คลาดกันทุกทีสิน่า"
"เอ่อ...คือว่า"
"เธอเหมือนอาจารย์สุดๆเลยนะรู้ไหม ฉันเคยสาบานกับอาจารย์เอาไว้ว่าฉันจะดูแลเธอให้ดีที่สุด!!"
มินาตกใจเล็กน้อยที่เอลิน่าพูดอย่างนั้น ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแม่ของเธอจะเคยสัญญาอะไรแบบนั้นกับใครด้วย
"เอ่อ รุ่นพี่เอลิน่าคะ..."
"โอ้ ไม่เอาน่า! อย่าเรียกเต็มยศแบบนั้นสิ เรียกฉันว่าเอลี่สิ!! เ-อ-ลี่~~~"
"เอลี่!!"
เสียงเล็กๆดังมาจากด้านหลังของทั้งคู่ เมื่อหันมองกลับไปมินาจึงเห็นว่าต้นเสียงคือเด็กสาวร่างเล็กที่เดินมากับเอลิน่าก่อนกน้านี้
เธอเป็นคนที่ตัวเล็กยิ่งกว่าลิลินเสียอีก ถ้าจะให้เดาไม่น่าจะสูงเกินหนึ่งร้อยห้าสิบเซนติเมตร
ผิวขาวใสแบบเดียวกับเอลิน่าไม่ผิดเพี้ยน เส้นผมสีทองสว่างหยิกสลวยเหมือนเกลียวคลื่นถูกมัดรวบไว้ด้วยกันเป็นทรงTwin Tail(ผมแกละ,หางคู่) ดวงตาสีมรกตกลมโตกว่าเอลิน่าเล็กน้อยกำลังหรี่ลงอย่างไม่พอใจขณะที่กำลังจับจ้องมายังเอลิน่าซึ่งมีท่าทีเหมือนจะกระโดดกอดมินาตอนนี้
และแม้จะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แต่มินาก็เพิ่งจะสังเกตได้ว่าเด็กสาวผู้นี้สวมเครื่องแบบม.ปลายของโรงเรียนนี้อยู่ แถมโบว์สีแดงที่ติดอยู่กลางอกยังบ่งชี้ได้ดีด้วยว่า เด็สาวคนนี้คือนักเรียนปีสองของโรงเรียนแห่งนี้แน่นอน!!
"เอมี่ ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ?"
เอลิน่ายอมถอยห่างจากมินาเพื่อที่จะคุยกับเด็กสาวผู้มาใหม่
และไม่ต้องเดาอะไรให้มากความ แค่ดูครั้งแรกมินาก็เดาได้แล้วว่าเธอเป็นน้องสาวของเอลิน่าชัวร์ป้าบ!!
"ก็เอลี่นั่นแหละเป็นอะไรไป อยู่ๆก็ลากเด็กคนนั้นมาหลังอาคารยังกับจะทำมิดีมิร้าย!!"
"พูดอะไรน่ะเอมี่ ไม่ใช่แบบนั้นนะ!!"
"ขอโทษทีนะ เธอคงจะตกใจ พี่สาวของฉันเป็นคนที่เห็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับ'โมนิก้า แอสโทเรีย'แล้วจะวิ่งเข้าใส่น่ะ"
เด็กสาวที่ถูกเรียกว่าเอมี่หันมาเอ่ยกับมินา ถึงแม้จะพูดห้วนๆไปบ้างแต่ก็สัมผัสได้ว่าไม่มีพิษสงอะไร
"อืม... ไม่เป็นไร"
มินาพูดอย่างอายๆพลางยิ้มน้อยๆ
"ฉันชื่อเอมิลี่ เอเมอร์รัล เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ฝากตัวด้วยนะ^^"
เอมิลี่เอ่ยด้วยรอยยิ้มซึ่งดูเป็นมิตรอย่างไม่น่าเชื่อ
"ฉันมิเรียน่า แอสโทเรีย เรียกว่ามินาก็ได้จ้ะ"
มินาตอบรับไมตรีของเอมิลี่ด้วยความยินดี ถึงแม้เธอจะขี้อายอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้มนุษย์สัมพันธ์แย่ขนาดที่เข้ากับใครไม่ได้เลยทีเดียวหรอกนะ
"ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะมินา"
เอมิลี่เอ่ยพลางเขย่ามือมินาเบาๆ
"โอ้ะโอ!! เลยเวลาเข้าเรียนแล้วสิ พวกเราไปก่อนนะมินา หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะ"
เอมิลี่พูดขึ้นเมื่อเหลือบไปเห็นนาฬิกาข้อมือของตัวเอง และจริงดังว่า ตอนนี้เลยเวลาเข้าเรียนไปสิบนาทีแล้ว
เอมิลี่รีบจูงมือพี่สาวแล้ววิ่งออกไป ในขณะที่มินาวิ่งหน้าตั้งไปอีกทางหนึ่งเพื่อไปสมทบกับลิลินเช่นกัน
ยัยนั่นต้องงอนแก้มป่องอีกแน่ๆ
...
..
.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น