คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่4 สามมหาอำนาจ
บทที่4 สามมหาอำนาจ
(วงทริปเปิ้ล)
ลิลินเดินลงมาจากชั้นดาดฟ้าด้วยความเงียบเชียบ
ในอกข้างซ้ายรู้สึกหนักอึ้งราวกับมีเหล็กหนักๆมาถ่วงเอาไว้
...ทำไมกันนะ...
น่าแปลกที่ความรู้สึกน้อยใจเข้าเล่นงานจิตใจของลิลิน
น้อยใจ...ที่มินาไปสนิทสนมกับคนอื่นมากกว่าเธอ
น้อยใจ...ที่มินาไม่เล่าอะไรให้เธอฟังซักคำ
และน้อยใจ...ที่มินาผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเธอครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะผู้ชายคนนั้น!
ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ
หมู่นี้มินาไม่ได้กินข้าวกลางวันกับเธอเลย
เดินกลับบ้านด้วยกันก็เหม่อบ่อยๆเหมือนคิดถึงใครอยู่
แล้วก็ที่เธอเห็นวันนี้อีก!
มินายอมให้หมอนั่นป้อนข้าวป้อนน้ำทั้งๆที่ไม่เคยมีใครได้ทำแบบนี้กับยัยนั่นมาก่อน
ทำไมมินาต้องไปสนิทสนมกับหมอนั่นด้วย มีเธอแค่คนเดียวไม่พอรึไง!
ลิลินคิดไปต่างๆนาๆด้วยความน้อยใจ
แก้มใสๆทั้งสองข้างที่อมลมจนป่องบ่งบอกอารมณ์ของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี
ร่างเล็กเดินไปตามระเบียงด้วยอารมณ์หงุดหงิดคล้ายกับเตาถ่านยามติดไฟใหม่ๆ
...ความโมโหในระยะแรกเริ่มกำเริบแล้ว!...
ลิลินเดินป่องๆไปโดยแทบจะไม่มองทางเลย และแล้วอุบัติเหตุเล็กๆก็เกิดขึ้น
พลั่ก!
'เจ็บ' คือความรู้สึกแรกที่เธอได้รับรู้หลังจากที่ร่างของเธอกระแทกกับอะไรบางอย่างที่คล้ายกับกำแพงจนล้มลงกระแทกพื้นอีกระลอก
"โอ๊ย! วันนี้มันวันซวยอะไรของฉันเนี่ย!"
ลิลินสบถอย่างหัวเสียพลางเอามือลูบก้นที่กระแทกพื้นไปเมื่อสักครู่
"ขอโทษนะ ฉันเดินไม่ระวังเอง เธอเจ็บมากรึเปล่า?"
เสียงทุ้มนุ่มของใครบางคนเอ่ยก่อนจะส่งมือเรียวสวยมาให้เธอ
เธอปัดกระโปรงอย่างลวกๆแล้วหันไปมองหน้าคู่สนทนา รู้สึกตกใจเล็กน้อยเมื่อพบว่าเขาคือเรย์แห่งวงทริปเปิล กลุ่มนักร้องวัยรุ่นชื่อดังหนึ่งในสามมหาอำนาจของโรงเรียนอันประกอบไปด้วย
1.วงทริปเปิล กลุ่มศิลปินวัยรุ่นชื่อดังซึ่งมีสมาชิกหนุ่มรูปงาม3คนที่ล้วนแต่เรียนอยู่โรงเรียนนี้ทั้งสิ้น(เจย์ปีสาม เรย์ปีสอง และเคย์ปีหนึ่ง)
ด้วยความที่มีหน้าตาหล่อเหลา ทำให้นักเรียนหญิงเกือบทั้งโรงเรียนยอมศิโรราบอย่างง่ายดาย
ไม่ว่าจะสั่งการอะไรเหล่าสาวกก็เชื่อฟังไม่มีบิดพลิ้วเลยล่ะ
::ก็แค่ไอ้พวกหน้าภาชนะหุงต้มที่วันหนึ่งๆไม่ทำงานทำการ สาระก็ไม่มีแค่หน้าตาดีไปวันๆ
กิจวัตรหลักของเจ้าพวกนี้คือการแบกหน้าหล่อๆไปหลีสาว
สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตสำหรับเจ้าพวกนี้ก็คือไอ้หน้าหล่อๆของมันนั่นแหละ แล้วก็ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า
มันแต่งหน้าจัดกว่าผู้หญิงอีก!
2.แก๊งไลออน ปกครองโดยลีโอลูกชายผู้อำนวยการ ถ้าจะกล่าวว่าวงทริปเปิลมีอำนาจสั่งการนักเรียนหญิงได้ล่ะก็ แก๊งไลออนนี่แหละที่ควบคุมนักเรียนชาย! ลีโอเป็นหัวโจกในการมีเรื่องชกต่อยกับต่างโรงเรียน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเพราะมีเขา จึงทำให้พวกนักเลงโรงเรียนอื่นไม่กล้าเข้ามายุ่งย่ามในโรงเรียนแห่งนี้ แก๊งไลออนจึงเป็นเสมือนอำนาจมืดที่คอยปกป้องคุ้มครองโรงเรียนนั่นเอง
::ก็แค่ไอ้พวกนักเลงหัวไม้ที่หนังสือหนังหาตำราเรียนไม่ค่อยอ่านกัน วันๆใช้ชีวิตอยู่แต่ในดงเลือดและฝ่าเท้า
ทั้งชีวิตมีอยู่สองอย่างถ้าไม่โดนแก๊งอื่นไล่ตีก็ไล่ตีคนอื่นเขา สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้านร้านตลาดอยู่ร่ำไป
เงินพ่อเงินแม่ให้มาก็เอาไปผลาญกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง แถมวันดีคืนดีก็มีการนองเลือดให้ผู้ปกครองปวดขมองเล่นๆอีก
เรียกง่ายๆก็พวกจิ๊กโก๋นั่นแหละ!
3.สภานักเรียน มหาอำนาจที่ปกครองโรงเรียนอย่างชอบธรรม จากคะแนนโหวตของนักเรียนทั้งโรงเรียน
เหล่าสมาชิกของสภานักเรียนล้วนแล้วแต่ผลการเรียนดีและมีความรับผิดชอบสูงทั้งสิ้น
สภานักเรียนจะรับงานจากท่านปผู้อำนวยการโดยตรง
คอยดูแลความสงบเรียบร้อยต่างๆภายในโรงเรียน
ร่างกฏต่างๆและคอยป้องกันไม่ให้ใครทำผิดกฏ(ยกเว้นอีกสองขั้วอำนาจที่เหลือ และนักเรียนระดับ'พิเศษ'บางคนเท่านั้นที่ดูจะคุมยากไปซักหน่อย) เป็นตัวแทนจัดกิจกรรมต่างๆทั้งงานกีฬาสี การทัศนศึกษา งานโรงเรียน หรือแม้กระทั่งกำหนดวันสอบ พวกเขามีอำนาจในการกำหนดกิจกรรมต่างๆหรือยกเลิกกิจกรรมใดๆก็ได้
::ที่จริงไอ้พวกนี้มันก็แค่พวกจืดจางของจืดจางที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง ตัวประกอบในหมู่ตัวประกอบ แม้แต่ชื่อเจ้าพวกนี้ยังแทบจะไม่มีใครจำได้ ถึงพวกจะทำตัวดีมีสาระกว่าไอ้สองพวกข้างบน
แต่ความจริงพวกนี้มันก็แค่ขี้ข้านักเรียนที่วันๆทำงานอยู่แต่ในซอกในหลืบไร้ซึ่งคนสนใจ
หรือไม่ก็คอยตามล้างตามเช็ดเรื่องที่ไอ้สองพวกบนมันก่อไว้เท่านั้นแหละ!
...ทั้งสามกลุ่มนี้ต่างเป็นคานอำนาจซึ่งกันและกัน คอยควบคุมโรงเรียนอย่างสงบสุข(?)เรื่อยมา
และถึงแม้บุคลากรของทั้งสามมหาอำนาจจะเดินไปเดินมาทั่วโรงเรียนทุกวัน แต่ใช่ว่าจะมีใครได้พูดคุยกับพวกเขาเป็นการส่วนตัวได้ง่ายๆ(หรืออาจเพราะไม่มีใครกล้าสุงสิงกับคนเพี้ยนๆแบบนี้มากกว่า)
"ไม่เป็นไร ฉันเองก็เหม่อมากไปหน่อยเหมือนกัน ขอโทษนะ"
ลิลินเอ่ยขอโทษเขาก่อนที่จะเดินจากมา
"ลิลิน"
เท้าที่เดินไปได้2-3ก้าวหยุดชะงัก
ลิลินแปลกใจเล็กน้อยที่เขารู้จักชื่อเธอ แต่เธอเองก็เป็นถึงดาวเด่นของรุ่นแถมยังเคยเรียนห้องเดียวกับเขาอยู่ระยะหนึ่งด้วย เขาจะรู้จักก็คงไม่แปลก
เมื่อลิลินหันหลังกลับไปมองก็พบว่าเรย์ยืนหน้าแดงก่ำอยู่ข้างหลัง
"คือฉันน่ะ...มีธุระกับเธอนะ"
เรย์พูดพลางเกาท้ายทอย
ลิลินชะงัก
...อย่าบอกนะว่าไอ้หน้าหม้อนี่ก็ด้วยน่ะ!...
วันนี้มีผู้ชายมาสารภาพรักกับเธอสามคนแล้ว!
มันก็คงเป็นเรื่องปกติของสาวฮอตที่จะมีคนมาบอกชอบใช่มั้ยล่ะ
แต่วันนี้แปลกมาก โดยปกติแล้วมีคนมาสารภาพรักกับเธออาทิตย์ละคนสองคนเท่านั้น
แต่วันนี้ถ้านับหมอนี่ก็เป็นรายที่สี่แล้วนะ
แถมปกติเวลาแบบนี้ยัยมินาจะคอยกันท่าให้
แต่ตอนนี้มินาไม่อยู่...ไม่สิ! เธองอนมินาอยู่นี่นา
แล้วจะเอาไงล่ะทีเนี้ย!
"มะ...มีอะไรเหรอ"
ลิลินถามตะกุกตะกัก
เอาล่ะสิ ปฏิเสธหมอนี่ยังไงดี(วะ)
...ถ้าบอกว่าไม่ชอบไปตรงๆจะโดนแฟนคลับมันรุมกระทืบมั้ยเนี่ย!!?...
"คืนวันศุกร์นี้ว่างรึเปล่า"
คืน...วันศุกร์?
ลิลินทวนคำอยู่ในใจ
หมอนี่ไม่ได้จะมาสารภาพรักหรอกเหรอ รึจะชวนไปดินเนอร์
...ฉันไม่อยากไปดินเนอร์กับพวกขี้หลีเฟ้ย!...
"คะ...คืนวันศุกร์งั้นเหรอ...?"
"คือฉันอยากชวนเธอไปเป็นคู่เต้นรำในงานเลี้ยงคืนวันศุกร์นี้น่ะ"
งานเลี้ยงที่เขาว่านี้ก็คือ งานที่จะจัดขึ้นทุกปีเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของสามกลุ่มมหาอำนาจในโรงเรียน(หรือเรียกง่ายๆว่างานเลี้ยงผลาญงบประมาณ)
ซึ่งงานนี้จะเชิญเฉพาะนักเรียนที่สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน สมาชิกของกลุ่มมหาอำนาจ และคนที่เป็นคู่เต้นรำของสมาชิกกลุ่มมหาอำนาจบางคนเท่านั้น
แน่นอนว่าพวกบ้าดาราอย่างทริปเปิลแฟน(แฟนคลับวงทริปเปิล)ต่างใฝ่ฝันที่จะได้รับเชิญเป็นคู่เต้นรำของหนึ่งในสามหนุ่มวงทริปเปิลกันทั้งนั้น
...แต่ฉันไม่ใช่แฟนคลับมันโว้ยยย!...
"เอ่อ คือ"
ลิลินอึกอักไม่รู้จะตอบ(ปฎิเสธ)อย่างไรดี
เพราะพวกทริปเปิลอะไรนี่ไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอเลย
ไอ้หมอนี่ก็เหมือนเด็กหนุ่มจากต่างโรงเรียนบางคนที่รูปหล่อไม่แพ้กัน แต่ถึงแม้จะรูปงามเพียงใดเธอกับชายหนุ่มก็ไม่ได้รู้จักมักคุ้นกันมาก่อน จะให้ไปเดทรึออกงานด้วยมันคงจะทำไม่ได้
"ไม่เป็นไร เธอคิดก่อนตัดสินใจก็ได้ พรุ่งนี้ฉันจะมาเอาคำตอบนะ"
เรย์พูดตัดบทก่อนจะส่งจูบวิ่งออกไป(เมื่อตะกี้มันยังหน้าแดงอยู่เลยไม่ใช่เรอะ=[]=)
ทิ้งลิลินไว้ให้คิดหาข้ออ้างปฏิเสธเขาอยู่ตรงนั้น
...
..
.
สายลมยามเย็นพัดคลอใบหล้อหล่อใสไร้รอยตำหนิของซาเบิ้ล เขาสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะลืมตาตื่น
วันนี้เขาเผลอหลับไปหลังจากที่สละใหล่กว้างของตัวเองต่างหมอนให้มินาหนุน
...นี่เขาติดนิสัยขี้เซาจากคนตัวเล็กแล้วเหรอเนี่ย...
ซาเบิ้ลลอบมองคนตัวเล็กที่นั่งหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ข้างกายด้วยความเอ็นดู
แค่ยามตื่นยัยนี่ก็ไร้เดียงสาเหมือนเด็กๆอยู่แล้ว ยิ่งตอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวยิ่งดูใสซื่อเข้าไปใหญ่
ยิ่งมองยิ่งเกิดอาการมันเขี้ยวอย่างไม่ทราบสาเหตุ
สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้อำนาจมืดอีกจนได้
จุ้บ~
ซาเบิ้ลก้มลงจุมพิตบนหน้าผากใสอย่างแผ่วเบาดังเช่นเคยทำทุกวัน
ในใจก็รู้สึกผิดอยู่หรอก แต่หลับลึกขนาดนี้มันก็น่าลักหลับนี่นา...รึวันนี้จะจูบปากไปด้วยเลยนะ
ดวงตาสีฟ้าเข้มเป็นประกายขึ้นมาเมื่อก้มลงมองริมฝีปากสีหวานพลางจินตนาการรสสัมผัสจากริมฝีปากอิ่มสวยนั้น
...จะหวานขนาดไหนกันนะ...
ร่างสูงเหยียดยิ้มเจ้าเลห์ เขามองร่างบางด้วยความกระหายเหมือนดั่งเสือร้ายที่เพิ่งหลอกให้กวางน้อยแสนซื่อมาติดกับได้สำเร็จ
แต่แล้วสัญญาณบ่งบอกว่าหมดคาบสุดท้ายก็ดังขึ้นขัดความคิดอันแสนชั่วร้าย(?)ของชายหนุ่มอย่างทันท่วงที
...มันจะเหมาะเจาะเกินไปรึเปล่าฟะ!...
เขาหัวเสียเล็กน้อยแต่ก็ต้องตัดใจจากริมฝีปากสีลิ้นจี่นั้นแล้วเปลี่ยนเป็นเขย่าแขนเธอแทน
"มินาครับ ตื่นได้แล้ว เลิกเรียนแล้วนะ"
"อืมมม ขออีกห้านาทีนะค้าา~า"
นั่นคือคำตอบที่ได้รับจากเด็กสาวผมสีคารเมล ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองยังหลับอุตุอยู่ที่บ้านตัวเองกระมัง=___=
...ก็ปลุกยากแบบนี้ทุกวันนั่นแหละ...
"มินา เลิกเรียนแล้วนะ เดี๋ยวภารโรงก็มาปิดประตูหรอก"
ชายหนุ่มบอกเธออีกครั้ง
ฝ่ายเด็กสาวนิ่งไปครู่หนึ่ง ในหัวเหมือนกำลังประมวลผลคำว่าปิดประตูอยู่
"ปิด...ประตู?"
"..."
"ปิดประตูเหรอ...?"
"..."
"ยะ...แย่แล้ว!"
ร่างบางดีดตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้สนใจเลยว่าตัวเองสวมกระโปรงอยู่
ส่วนซาเบิ้ลก็ได้แต่เบือนหน้าหน(ีแม้ใจจริงอยากจะมองให้เต็มตาก็ตาม)
...ความทรงจำเมื่อปีหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของมินา
เพราะวันนั้นเธอหลับลึกเกินไปทำให้เกือบจะโดนขังอยู่บนนี้ โชคดีที่ภารโรงทันเห็นเธอเข้า
แต่หลังจากนั้นเรื่องก็ไปถึงสภานักเรียน เธอถูกทำโทษให้บำเพ็ญประโยชน์อยู่หนึ่งเดือนเต็มๆ จากนั้นเธอก็ไม่กล้าขึ้นมาที่นี่พักหนึ่งเลย
"นี่ฉันเผลอหลับไปอีกแล้วเหรอ"
มินาถามคนตัวสูงที่ลุกขึ้นยืนตามหลังจากที่เก็บข้าวเก็ยของเรียบร้อยแล้ว
"ใช่ วันนี้หลับคาหน้าหนังสือเลยล่ะ"
เพราะวันนี้เขาเห็นยัยตัวเล็กบอกว่าไม่อยากหลับเลยเอาตำราเรียนที่เขาถือติดมือมาอ่านเล่นให้เธอยืมอ่านดู
ผลปรากฏว่าร่างบางหลับไปหลังจากอ่านไม่ถึงครึ่งบทด้วยซ้ำ!
"งะ...งั้นเหรอ"
คนไม่ถูกกับตำราเรียนถามกลับอย่างอายๆ
เพราะอ่านไอ้สูตรการหาคลื่นความถี่ของชั้นบรรยากาศบนดาวเนปจูน(?)รึอะไรซักอย่างเนี่ยแหละ ทำให้เธอมึนหัวแล้วเผลอหลับไปในที่สุด
"เราลงไปข้างล่างกันเถอะ"
ร่างสูงเอ่ยชวน มินาพยักหน้าเห็นด้วย
เธอใช้มือแง้มประตูดาดฟ้าเบาๆ เมื่อมองจนแน่ใจว่าไม่มีคนแล้วจึงกวักมือเรียกคนตัวสูงกว่าให้ตามมา
ทั้งคู่เดินลงมาตามบันไดอย่างเงียบเชียบจนมาถึงชั้นเรียนของพวกปีสามซึ่งร้างผู้คนไปแล้ว
ซาเบิ้ลขอให้เธอรอเขาก่อนจากนั้นจึงรีบวิ่งไปเอากระเป๋ามาจากห้องเรียนอย่างรวดเร็ว
"มินากลับบ้านยังไงล่ะ"
เขาถามขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินลงบันไดเพื่อไปยังชั้นเรียนของนักเรียนปีสอง
มินาหันมามองเขาเล็กน้อยก่อนตอบ
"เดินกลับกับ...ว้าย!"
"มินา!"
ยังไม่ทันพูดจบประโยคมินาก็ต้องร้องเสียงหลง
อาจเพราะเพิ่งตื่นประกอบกับไม่ได้มองทางจึงทำให้มินาก้าวเท้าพลาดตรงบับไดขั้นสุดท้ายพอดี
เคราะห์ดีที่ซาเบิ้ลรวบตัวเธอไว้ได้อย่างทันท่วงที
ทำให้ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ในสภาพชวนเข้าใจผิดอย่างมาก นั่นคือร่างบอบบางของมินาถูกซาเบิ้ลกอดจากด้านหลัง โดยที่มีมือของเธอรั้งเเขนของเขาเอาไว้เป็นที่ยึดแทนราวบันไดที่จับไว้ไม่ทัน
มองเผินๆเหมือนกับคู่รักที่กำลังพลอดรักกันอยู่
ถ้านึกภาพไม่ออกก็ให้นึกถึงหนังที่มีชู้รักที่กอดกันบนหัวเรือเดินสมุทรชื่อก้องโลก...ภาพมันก็ออกมาประมาณนั้นแหละ
ตุบ!
เสียงแปลกปลอมที่ดังขึ้นทำให้ทั้งคู่พร้อมใจมองไปที่หน้าห้อง2-B
แล้วก็พบกับที่มาของเสียงซึ่งก็คือลิลินที่ทำกระเป๋าร่วงจากมือนั่นเอง
"ลิลิน..."
มินารีบผละจากอ้อมแขนของร่างสูงด้วยกลัวว่าเพื่อนจะเข้าใจผิด
"คือมัน..."
"ขอโทษที ไม่ได้ตั้งใจจะแอบดูหรอก"
ลิลินพูดขัดก่อนที่เธอจะพูดจบเสียอีก
ยัยเพื่อนตัวเล็กส่งยิ้มที่ขนาดซาเบิ้ลดูยังรู้ว่า'ฝืน'มาให้
"คือฉันกำลังจะไปตามเธอพอดีน่ะ^^"
ถึงจะพูดมากเหมือนเดิมแต่มินาก็ยังสัมผัสได้ว่าเพื่อนรักของตนดูแปลกไป รอยยิ้มนั่นก็ดูเศร้าๆไม่สมกับเป็นลิลินเลย
"ลิลิน เธอโกรธที่ฉันโดดเรียนเหรอ"
มินาถามด้วยความรู้สึกผิด เธอคงทำตัวเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไปที่โดดเรียนแล้วทิ้งเพื่อนให้นั่งแลคเชอร์ให้แบบนี้ คิดว่าพรุ่งนี้เธอคงจะไม่โดดเรียนแล้วล่ะ
"ก็โกรธน่ะสิ อาทิตย์นี้เธอไม่เข้าคาบบ่ายซักวันเลยนะ!"
ลิลินแกล้งทำเป็นโกรธแล้วอมลมจนแก้มป่อง
"รุ่นพี่น่ะพายัยนี่โดดเรียนใช่ไหมคะ!"
ลิลินหันไปเล่นงานอีกคนที่อยู่ข้างๆต่อ แม้ความจริงจะเจ็บอยู่ลึกๆแต่ยังแสร้งทำเป็นคนสดใสอยู่
"ไหนว่ารุ่นพี่เป็นนักเรียนดีเด่นไงคะ โดดเรียนแบบนี้ได้ยังไงกัน!"
ว่าแล้วก็อมลมจนแก้มป่องอีกที
"ละ...ลิลิน อย่าพูดอย่างงั้น...!"
มินารีบห้ามทัพเมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวเองเริ่มพาล แม้จะรู้ดีว่าลิลินไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่คนข้างๆอาจเข้าใจผิดได้
หากแต่พูดไม่ทันจบประโยคดี คนถูกพาดพิงก็แก้ข้อกล่าวหาเสียแล้ว
"พี่เรียนอยู่ห้องเอสนะครับน้องลิลิน เรื่องเวลาเรียนไม่ใช่ปัญหาหรอก แค่ทำงานที่อาจารย์มอบหมายทั้งหมดและสามารถทำข้อสอบได้ก็ไม่มีปัญหาแล้วครับ"
ซาเบิ้ลตอบคำถามของลิลินด้วยรอยยิ้ม...รอยยิ้มเคลือบยาพิษ
ส่วนคนถามโดยไม่ตั้งใจอย่างลิลินก็ตีความหมายที่แท้จริงของคำตอบได้ไม่ยาก
'ถ้าคิดจะเล่นกับอัจฉริยะอย่างพี่ ก็ไปหาข้อมูลมาดีๆก่อนนะน้อง!'
...หน็อยแน่ไอ้บ้านี่!...
ลิลินรู้สึกติดลบกับคนตัวสูงมากขึ้นไปอีก ด้วยรู้ตั้งแต่ก่อนที่หมอนี่จะมาเกาะแกะเพื่อนเธอแล้วว่า นักเรียนดีเด่นผู้โด่งดังคนนี้ดูถูก'ทุกสิ่ง'ที่ไม่ใช่ตัวของเขาเอง
ภายนอกอาจดูสุภาพและมีเหตุผลทุกการกระทำ
แต่หากมองลึกๆแล้ว แทบทุกการกระทำที่แสดงออกมาให้เห็นคือการดูถูกคนรอบข้างว่า'โง่'ดีๆนี่เอง
"ขอโทษจริงๆค่ะที่ฉันลืมเรื่องสำคัญแบบนั้นไป"
ลิลินก้มหัวขอโทษเขาก่อนพูดต่อด้วยรอยยิ้มหวานๆ
"แต่เพื่อนของฉันไม่ใช่นักเรียนชั้น'พิเศษ'แบบรุ่นพี่ ฉันคงจะปล่อยให้ยัยนี่ทำตัวเอ้อระเหยลอยชายแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ ยัยมินาเองก็เอ๋อๆแบบนี้ด้วย ถ้าไปด้วยกันคงลำบากแย่"
แน่นอนว่าลิลินยังคงยิ้มหวานอยู่เช่นเดิม หากแต่วาจาหวานๆที่เอ่ยออกมานั้นกลับแฝงความในไว้ว่า
'งั้นก็เชิญแกเอ้อระเหยไปคนเดียวเถอะย่ะ อย่าลากเพื่อนฉันไปเกี่ยวด้วยสิยะ ไอ้เบื๊อกเอ้ย!'เสียนี่
"โธ่ลิลิน อย่าพูดแบบนั้นสิ"
มินาผู้ไม่รับรู้ถึงบรรยากาศมาคุเอ่ยขัดขึ้น
เด็กสาวผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรคงไม่รู้หรอกว่าสองคนนี้น่ะแทบจะฆ่ากันได้อยู่แล้ว
"พี่ดูแลมินาได้อยู่แล้วครับ ไม่ต้องห่วง"
ซาเบิ้ลบอกกับลิชินด้วยรอยยิ้ม จากนั้นจึงหันมาลูบผมสีคารเมลของมินาพลางกล่าวกับเธอด้วยรอยยิ้ม...รอยยิ้มสำหรับมินาคนเดียว
"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับมินา พรุ่งนี้เจอกันนะครับ"
"อื้อ พรุ่งนี้เจอกันนะ"
มินายืนโบกมือให้กับคนตัวสูงทั้งๆที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน
ร่างบางยังคงยืนโบกมืออยู่อย่างนั้นจนแผ่นหลังของเขาลับสายตาไป
"นี่เธอคงไม่คิดจะโดดเรียนอีกหรอกใช่มั้ย"
ลิลินที่เห็นปฏิกริยาของเพื่อนรีบดักคอทันที
"เปล่า แค่ไปกินข้าวกับเขาน่ะ"
มินาตอบเรียบๆ โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่า คำตอบนั้นทำให้ลิลินรู้สึกน้อยใจแค่ไหน
"งั้นเหรอ..."
...
..
.
#พักเที่ยงของวันต่อมา
ร่างเล็กๆของลิลินก้าวขาไปตามระเบียงทางเดิน โดยมีสายตาของนักเรียนรุ่นเดียวกันเหลียวหลังตามดังเช่นทุกวันแต่เจ้าของใบหน้าเรียบเฉยนั้นกลับไม่ยิ้มให้ใครเหมือนดังที่เคยเป็น
ตอนนี้ความรู้สึกน้อยใจที่เกิดจากยัยมินาตัวดีสั่งการให้เธอทำในสิ่งที่ไม่คิดจะทำมาก่อน
...ในเมื่อเธอไปเกาะแกะกับหมอนั่นได้ ฉันก็ไปกุ้กกิ้กกับคนอื่นได้เหมือนกัน!...
ร่างเล็กเดินมาจนถึงจุดหมายซึ่งมีป้ายสลักอักษรสวยงามน่าอ่านว่า'2-S' เท้าเล็กๆหยุดลงตรงหน้าประตูก่อนที่เสียงใสๆจะถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากสีเชอร์รี่
"เรย์อยู่รึเปล่า?"
.
ความคิดเห็น