คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่8 พนัน
บทที่8 พนัน
(โทมัส)
...เช้าวันเสาร์คือสิ่งที่เด็กๆทั้งหลายต่างก็ใฝ่ฝันถึง
เพราะมันคือวันแรกของสัปดาห์ที่พวกเขาจะได้หยุดอยู่ที่บ้าน
ไม่ต้องไปโรงเรียนเพื่อนั่งมองตำราเรียนที่มีแต่เรื่องวิชาการน่าเบื่อ หรือฟังเสียงอาจารย์ขี้บ่นพร่ำพรรณาถึงเรื่องกฏระเบียบอะไรก็ไม่รู้ให้ฟังทั้งวัน
พูดง่ายๆวันเสาร์คือวันที่เด็กๆทั้งหลายจะได้พักผ่อนหย่อนกายใจจากเรื่องปวดเศียรเวียนเกล้าทั้งหลายรวมถึงวันแห่งการออกไปเที่ยวเล่นตามใจฉันนั่นเอง
...หากแต่เช้าวันนี้กลับสดใสเจิดจ้ากว่าที่ควรจะคาดหวัง
ถ้าจะพูดให้ถูกคือมันทั้งร้อนและอบอ้าวเสียมากกว่า
บัดนี้พระอาทิตย์ของยามสายช่างแสดงอานุภาพแห่งตนรุนแรงยิ่งนัก
ทำเอาทั่วทั้งบริเวณที่แดดสาดถึงสว่างจ้าเต็มพิกัดราวกับเรืองเเสงเองได้
แม้ว่าบัดนี้จะเป็นเวลาที่สายมากแล้วก็ตาม
แต่ประมุขแห่งสุริยะจักรวาลก็ยังคงไม่สิ้นฤธิ์สิ้นเดชง่ายๆ
พระอาทิตย์ยังคงลอยขึ้นสูงกว่าเดินได้เรื่อยๆ เป็นการเพิ่มรัศมีของแดดเเละแผ่กระจายความร้อนไปในตัว
สร้างความรำคาญน้อยๆให้กับหลายคนที่กำลังนอนขึ้นอืดได้เป็นอย่างดี
ภายในห้องนอนสีเหลี่ยมขนาดกลางห้องหนึ่งที่ถูกพระอาทิตย์แผ่รังสีเข้ามาอย่างจงใจก็เช่นกัน
บัดนี้รัศมีอันแรงกล้าของดวงอาทิตย์ส่องเข้ามาเกือบๆครึ่งค่อนห้อง
เป็นเหตุให้เด็กสาวร่างเล็กที่นอนหลับอย่างสบายอกสบายใจบนที่นอนลายการ์ฟิลด์ต้องแหกขี้ตาตื่นอย่างไม่สู้จะเต็มใจนักเพราะแดดมันแยงตา
"อืมมม~~ กี่โมงแล้วง่าาา"
'ลิลิน่า เบลล์'เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงยานคางพลางแคะขี้ตาตัวเองอย่างลวกๆ ไม่เหลือมาดสาวฮอตที่สุดในรุ่นเลยแม้แต่น้อย
เด็กสาวหันไปมองทางด้านซ้ายของเตียงหมายจะดูเวลา
แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อพบกับโคมไฟลายแมวกับรูปถ่ายสมัยเด็กของใครอีกคนแทน
ไม่ใช่ความนาฬิกาปลุกสีเหลืองลายจุดของเธอ
...ดะ เดี๋ยวนะ!!?...
ลิลินหันซ้ายหันขวาสำรวจรอบๆตัวอีกครั้ง
ตอนนี้เธอกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนที่นอนลายแมวการ์ฟิลด์ที่ไม่ใช่ของเธอแน่ๆ
ผ้าปูที่นอนลายการ์ฟิลด์ หมอนการ์ฟิลด์ ผ้าห่มการ์ฟิลด์ หมอนข้างการ์ฟิวด์ ตุ๊กตาแมวอีกสามสี่ตัว
ยิ่งมองไปรอบห้องยิ่งเจอแต่แมว! แมว!! และแมว!!!
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่มันห้องมินาชัดๆ!
...หรือว่าเมื่อคืนนี้มีอะไรๆที่ล้ำเส้นกั้นแห่งมิตรภาพลูกผู้หญิงเกิดขึ้นแล้ว!!?...
ลิลินก้มลงมองสภาพตัวเองอีกครั้ง
ตอนนี้เธออยู่ในชุดนอนสีส้มอ่อนๆลายการ์ฟิลด์เขากั๊นนนเข้ากันกับที่นอนที่เธอนอนอยู่
แน่นอนว่ามันค่อนข้างจะหลวมไปเสียหน่อยเพราะมันไม่ใช่ชุดนอนเธอแต่เป็นของเจ้าของห้องต่างหาก
ตามเนื้อตามตัวมีรอยแดงๆขนาดเล็กปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน
ใบหน้าอ่อนหวานหน้ารักพลันขึ้นสีแดงเหมือนมะเขือเทศสุก
...นี่มันไม่ใช่ความจริงใช่มั้ย!!?...
ขณะที่ลิลินกำลังจะหยิกแก้มตัวเองเพื่อพิสูจน์ว่าทั้งหมดนี่คือความฝัน ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับเจ้าของห้องที่เดินเข้ามาโดยนุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
"ไง ตื่นแล้วเหรอ..."
มินาเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม
หากแต่ลิลินไม่ได้อารมณ์ดีมากพอที่จะยิ้มตอบ
ตอนนี้เธอกำลังหงุดหงิดเพราะจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เลย
ที่สำคัญคือเธอไม่ได้เป็นฝ่ายรุก...เอ้ย! ไม่ใช่ๆๆ
เมื่อคืนยัยมินาทำเรื่องต้องห้ามระหว่างผู้หญิงด้วยกันกับเธอต่างหาก!!
"มินา..."
ลิลินเอ่ยชื่อของเพื่อนด้วยเสียงเรียบๆพร้อมกับแผ่รังสีอำมหิตเต็มพิกัด
ทำให้มินาที่กำลังเลือกชุดชั้นในอยู่ชะงักแล้วหันมาขานรับ
"หืม? ว่าไง"
"เมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้น..."
มินานิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆ
"เมื่อคืนเธอเมาแล้วไปจูบผู้ชายเข้าน่ะสิ"
มินาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยในขณะที่มือก็ควานหาชุดชั้นในไปด้วย
"หา!!! เธอว่าอะไรนะ!!?"
ลิลินตกใจกับเรื่องที่เพื่อนรักเล่าให้ฟังจนลืมเรื่องที่กังวลเมื่อครู่ไปเสียสิ้น
...นี่เธอเสียจูบแรกให้สิ่งมีชีวิตเพศผู้ตัวไหนก็ไม่รู้เพราะน้ำเมางั้นเหรอ!!?...
"ละ...แล้วผู้ชายตัว...เอ้ย! คนไหนที่ฉันไปจูบ...?"
'ฉันจะได้ไปฆ่ามันถูก'
ลิลินคิดต่อแต่ไม่ได้พูดออกไป
"นักเรียนดีเด่น ซาเบิ้ล นัวร์"
เด็กสาวผมสีคารเมลตอบพลางยกบราเซียลายลูกไม้สีหวานสองตัวเทียบกันไปด้วย
ดูท่าทางไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจกับสิ่งที่ตัวเองพูดออกไปเลย
ผิดกับลิลินที่แทบจะลมจับเมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอไปจูบกับศัตรูหัวใจ...เอ้ย!
สิ่งมีชีวิตเพศผู้ที่มาเกาะแกะยัยมินาเพื่อนรัก
ที่สำคัญยัยนี่จำทั้งชื่อ นามสกุล และตำแหน่งของไอ้หมอนั่นได้ถูกต้องเป๊ะๆทั้งที่ไม่ค่อยจะจำชื่อใครแบบนี้มันหมายความว่ายังไงกันยะ!!
"ฉันจะไปฆ่ามัน!!!"
ลิลินหลุดปากพูดสิ่งที่คิดออกไปจนได้ ร่างเล็กลุกพรวดออกจากที่นอนโดยไม่แม้แต่จะพิจารณาดูสภาพสังขารของตัวเองในยามนี้เลย
"เธอจะไปทั้งชุดแบบนั้นเนี่ยนะ"
มินาท้วงขึ้นมาหลังจากที่เลือชุดชั้นในที่ตัวเองพอใจได้แล้ว
"อ้ะ! นั่นสิ ทำไมฉันถึงมาอยู่ในห้องเธอทั้งสภาพนี้ล่ะ?"
ลิลินที่เพิ่งนึกได้ถามออกไป เธอจำได้ว่าเมื่อคืนเธอไม่ได้ใส่ชุดนี้...ไม่สิ!
นี่มันชุดยัยมินาเธอจะไปใส่เองได้ยังไงกันเล่า!!!
"ก็เมื่อคืน หลังจากที่เธอจูบซาเบิ้ลไป..."
มินาเริ่มต้นเล่าในขณะที่ลิลินยอมกลับมานั่งลงบนเตียงแล้วฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ
"อืมๆ แล้วยังไงต่อ?"
"หลังจากที่จูบแล้วเธอก็อ้วกใส่พี่เขาแล้วจากนั้นก็ล้มพับลงไปเลย"
'สมน้ำหน้า!'ลิลินคิดในใจ
"ฉันเห็นว่าเธอสภาพเละเทะเลยไม่อยากไห้กลับบ้าน กลัวว่าแม่เธอจะดุเอา"
ลิลินพยักหน้าหงึกหงัก จริงอย่างที่มินาว่า
ถ้าเธอเมาเละกลับบ้านมีหวังโดนคุณแม่สวดยับเเน่ๆ
"ฉันก็เลยโทร.บอกคุณป้าว่าเธอจะค้างที่นี่"
นับว่าเป็นโชคดีของทั้งคู่ เนื่องจากลิลินเคยมาค้างบ้านมินาอยู่หลายครั้ง(ทำรายงาน) ทำให้คุณแม่ของลิลินไม่ได้สงสัยอะไรมาก
"ละ...แล้วทำไมฉันถึงใส่ชุดนอนเธอล่ะ?"
ลิลินเริ่มถามสิ่งที่ตัวเองสงสัย
"ก็เธอทั้งเมาทั้งอ้วกซะขนาดนั้น ใครจะไปปล่อยให้นอนเหม็นๆได้ล่ะ"
"อะ...อ้าวเหรอ"
ลิลินพยักหน้ารับรู้
จะว่าไปเธอก็รู้สึกคันๆตรงไอ้รอยแดงๆนี่เหมือนกัน คาดว่าไอ้รอยแดงพวกนี้น่าจะเป็นผื่นที่เกิดจากยุงกัดเสียมากกว่า
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ลิลินก็เริ่มที่จะรู้สึกอายตัวเองหน่อยๆแล้ว
เนื่องจากเธอจินตนาการอะไรเตลิดเปิดเปิงไปคนเดียวทั้งๆที่ความจริงไม่ได้มีอะไรเลย
"จะว่าไปเธอก็ไม่ได้เปลี่ยนชุดชั้นในให้ฉันนี่เนอะ"
ลิลินก้มลงมองชุดชั้นในของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่ามันยังคงเป็นชุดเดิมที่เธอใส่เมื่อคืน
"ที่จริงก็ตั้งใจว่าจะเปลี่ยนให้นะ แต่เหมือนเธอจะใส่ไซด์ฉันไม่ได้"
มินาตอบหน้าตาเฉย หากแต่คนฟังกลับหน้าร้อนวาบขึ้นมาอีกครั้ง
"ยะ...ยัยบ้า!! ฉันจะใส่ชุดชั้นในซ้ำกับเธอได้ยังไงกันยะ! ของแบบนี้เขาไม่ใส่ซ้ำกันหรอก!!!"
เด็กสาวตัวเล็กเอ็ดตะโรชุดใหญ่ ในขณะที่เด็กสาวอีกคนส่ายหน้าแล้วค้นอะไรยุกยิกในลิ้นชักอีกครั้ง
"ก็ไม่ได้จะให้ใส่ซ้ำนี่...พอดีมันมีตัวที่ฉันซื้อมาแต่ใส่ไม่ได้อยู่น่ะ"
มินาว่าพลางชูบราสีขาวประดับด้วยลูกไม้สีม่วงอ่อนและมีโบว์เล็กๆสีชมพูตรงกลางแบบน่ารักน่ากรี้ดสุดๆให้ลิลินดู
แต่จากขนาด(คัพซี)ของมันแล้วก็ไม่แปลกเลยที่ลิลินจะใส่ไม่ได้
และถ้าให้เดาเธอคิดว่ามินาก็คงใส่ไม่ได้เช่นกัน
"มันคงหลวมเกินไปใช่ม้า..."
ลิลินถามไปอย่างที่ตัวเองคิด
แน่นอนว่าคัพซีมันคงใหญ่เกินไปสำหรับเธอ อ้อ คงจะสำหรับยัยมินาด้วยนั่นแหละ
"เปล่าหรอก มันตัวเล็กไปน่ะ"
ตำตอบของมินาทำให้ลิลินชะงักไปสามวิ...
...เดี๋ยวนะ ตัวเล็กไปงั้นเหรอ...
ลิลินก้มลงมองอกไข่ดาวของตัวเอง แล้วเงยหน้าไปมองเพื่อนของตนอีกครั้ง...
จากนั้นก็ก้มมองหน้าอกของตัวเองแล้วหันไปมองหน้าอกเพื่อนอีก
สิ่งที่โผล่พ้นผ้าเช็ดตัวลายแมวสีส้มของเพื่อนสนิทนั้น แม้จะโผล่พ้นออกมาเพียงน้อยนิดแต่ก็พอจะคาดเดาได้ว่าบางสิ่งบางอย่างที่ผ้าเช็ดตัวผืนหนานุ่มนั้นห่อหุ้มอยู่มันอุดมสมบูรณ์เพียงใด
...ยัยเพื่อนทรยศ!!...
ลิลินอ้าปากเตรียมจะตัดพ้อต่อโชคชะตาอย่างเต็มที่
แต่ในขณะที่ลิลินกำลังจะโวยวายอะไรไร้สาระออกไป
โทรศัพท์มือถือที่มีที่ห้อยลายการ์ฟิลด์ก็ชิงโวยวาย(?)ขึ้นเสียก่อน
"ค่ะคุณพ่อ..."
จากที่มินาพูดทำให้ลิลินรู้ได้เลยว่าใครเป็นคนโทร.มา
[ว่าไงลูก ไม่ได้คุยกันนานเลยนะ สบายดีไหมเอ่ย?]
เสียงที่ตอบกลับมานั้นค่อนข้างจะดังทีเดียว แม้ไม่ต้องเปิดลำโพงแต่คนฟังอย่าลิลินก็พอจะจับใจความได้อย่างง่ายดาย
"ก็ดีค่ะ คุณพ่อล่ะคะ"
[พ่อสบายดี เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็จะขึ้นเครื่องกลับบ้านแล้ว ลูกอยากได้ของฝากอะไรไหม?]
"คุณลุงงง หนูขอช็อคโกเเลตค่าาา"
แน่นอนว่ามินาไม่ใช่คนพูดหรอก ยัยลิลินต่างหากที่ตะโกนแข่งเข้ามาแบบไม่มีการรักษามารยาทใดๆทั้งสิ้น
ช่างเป็นคนที่ห่วงของกินอะไรเช่นนี้
...ยัยเพื่อนเห็นแก่กิน!!...
[โอ้ ลิลินก็อยู่ด้วยงั้นเหรอ]
'อยู่ในสภาพเละเทะไม่น่าดูด้วยค่ะ'
มินาแอบต่อให้ในใจ
"ค่ะ คุณลุง เมื่อคืนหนูมาค้างห้องมินาค่ะ"
ลิลินตอบด้วยน้ำเสียงสดใส
[งั้นของลิลินเป็นช็อคโกแลตนะ...]
ผู้เป็นพ่อของมินาตอบอย่างใจดีพลางกลั้วหัวเราะไปด้วย
ท่านค่อนข้างจะเอ็นดูเพื่อนสนิทของลูกสาวคนนี้พอตัวเลย
อาจจะเป็นเพราะนิสัยที่เข้ากับทุกคนได้ง่ายของลิลินบวกกับคุณพ่อของมินาเป็นคนใจดีอยู่แล้ว
ทำให้พ่อของมินารักลิลินเหมือนกับเป็นลูกสาวอีกคนของท่านไปเลย
"ค่ะ!!"
มินาทำได้เพียงมองเพื่อนตัวเองอย่างปลงๆเท่านั้น
เนื่องจากลิลินเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เห็นเธอคุยโทรศัพท์กับคุณพ่ออยู่แล้ว
เธอคุยกับพ่ออีกสองถึงสามประโยคแล้วก็วางสายไป
"คุณพ่อบอกว่าจะมาถึงวันจันทร์ ฉันขอลาโรงเรียนวันหนึ่งนะ"
เธอหันไปบอกกับเพื่อนสนิทพลางเก็บโทรศัพท์มือถือให้เข้าที่
"อื้อ ได้สิ"
ถึงแม้ว่าในยามปกติลิลินจะคัดค้านไม่ให้มินาหยุดเรียนอย่างสุดชีวิต
แต่ในโอกาสพิเศษเช่นนี้คนตัวเล็กก็ยังคงเป็นเพื่อนที่น่ารักเสมอ
นี่คืออีกเหตุผลที่ทำให้มิตรภาพของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งนัก
"แล้วเธอก็ไปอาบน้ำได้แล้วนะ"
"เหหห นี่ฉันอยู่สภาพนี้ตลอดเลยเหรอ!!?"
"ก็ใช่น่ะสิ ขี้ตากรังหมดแล้ว"
"ไม่ต้องมาพูดดี! ตัวเองน่ะไปใส่เสื้อผ้าเลยไป๊!!"
"ใส่...?
ว้ายยย!!! อย่ามองฉันนะลิลิน!"
เสียงพูดคุยอันแสนร่าเริง(?)ของทั้งสองดังก้องในตอนสายของวันเสาร์ที่แสนสดใสนี้
มิตรภาพลูกผู้หญิงของทั้งคู่ยังคงงดงามอยู่เสมอ
...
..
.
ซาเบิ้ลขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจปนหงุดหงิดน้อยๆ
นับว่าวันนี้เป็นวันที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอนับตั้งแต่รู้จักกับมินาเลยก็ว่าได้
เนื่องด้วยวันนี้ผู้ที่มาหาเขาบนดาดฟ้าไม่ใช่เด็กสาวผมสีคารเมลดังเช่นปกติ
หากแต่เป็นยัยเด็กเตี้ยตัวเกะกะที่อ้วกใส่เขาเมื่ออาทิตย์ก่อนต่างหาก
"โอ้ ไม่นึกเลยนะครับว่าน้องลิลินจะขึ้นมาหาพี่บนนี้ หรือว่าจะติดใจรสจูบ
ของพี่กันน้าาา น่าเสียดายนะ ตอนนี้คนที่พี่สนใจมีแค่มินาเท่านั้น"
ร่างสูงเอ่ยพลางแย้มยิ้มเสแสร้งดังที่เคยทำตามปกติ
แน่นอนว่าถ้อยคำที่เอ่ยออกไปมีแววเย้ยหยันในน้ำเสียงอย่างชัดเจน
"แต่ถ้าคิดว่าจะแตกคอกันเพราะพี่ พี่ก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะครับ แต่เกรงว่ายังไงพี่ก็คงจะเลือคนที่ได้จูบกันไปแล้วหลายครั้งอย่างมินามากกว่า"
...หน็อยแน่! ฝากไว้ก่อนเถอะ!! ไอ้ตอแหล!!...
ลิลินทำได้เพียงกัดฟันข่มความอับอายปนหมั่นไส้เอาไว้ในใจเท่านั้น
ไอ้ตอแหลนี่ทั้งเยาะเย้ยเรื่องที่เธอเมาเมื่ออาทิตย์ก่อน
รวมถึงเรื่องที่ว่าเขาได้จูบกับมินาไปหลายครั้งแล้วด้วย(โดยหารู้ไม่ ความจริงไอ้ชั่วซาเบิ้ลมันลักหลับมินาต่างหาก)
"ฉันไม่คิดจะแตกคอกับยัยมินาเพราะเรื่องไร้สาระพรรค์นั้นหรอกค่ะ..."
ลิลินเว้นระยะเล็กน้อยก่อนพูดต่อ
"ที่ฉันขึ้นมาบนนี้เพราะยัยมินาฝากมาบอกรุ่นพี่ว่าวันนี้ไม่ต้องรอกินข้าว...ก็แค่นั้น"
ประโยคหลังนั้นเอ่ยด้วยเสียงแผ่วด้วยไม่ได้เต็มใจขึ้นมาบนนี้เท่าใดนัก
แต่เมื่อเพื่อนรักร้องขอก็มีแต่ต้องขึ้นมาเพราะยัยนั่นก็ย้ำนักย้ำหนาว่าต้องมาให้ได้
โดยหารู้ไม่ว่าเธอต้องฝืนแค่ไหนที่ต้องขึ้นมาบนนี้
คิดแล้วให้รู้สึกคับแค้นระคนน้อยใจเพื่อนสนิทของตนยิ่งนัก
..ทำไมยัยนั่นต้องห่วงความรู้สึกไอ้ตอแหลนี่มากขนาดนี้ด้วยนะ...
"โอ้ะโอ มินาเป็นห่วงพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ"
แล้วก็เป็นอย่างที่ลิลินคิด ไอ้สิ่งมีชีวิตเพศผู้นี่มันเห่าหอนด้วยคำพูดหลงตัวเองสุดๆใส่เธอจริงๆด้วย!!
"ก็แบบนี้แหละน้าาา คนที่เขาผูกพันแน่นแฟ้นมันก็ต้องมีห่วงกันบ้างเป็นธรรมดา"
"เหอะ! หลงตัวเอง!!"
ลิลินพูดต่อแทบจะทันทีทีชายหนุ่มพูดจบ
"ก็คนมันมีดีให้หลงนี่ครับ... ทำไงได้"
ซาเบิ้ลยืดอกพูดแบบไม่อายฟ้าอายดิน
"หน้าตาพี่ก็ดี"
เขาว่าพลางเสยผมอย่างน่าหมั่นไส้
ลิลินถึงกับสาบานกับตัวเองเอาไว้เลยว่า
หากตอนนี้เธอไม่ได้ใส่กระโปรงเธอจะกระโดดถีบยอดหน้า...เอ้ย! ข่วนหน้าเขาทันที!!
"การเรียนก็เยี่ยม กีฬาก็สุดยอด"
คนหลงตัวเองยังคง'พล่าม'ต่อไม่หยุด สร้างความรำคาญปนหมั่นไส้ให้คนที่ฟังอยู่ไม่น้อยเลย
"ก็ไม่แปลกถ้ามินาจะรักคนสมบูรณ์แบบอย่างพี่... มากกว่า'ผู้หญิงที่มีรสนิยมทางเพศผิดเพี้ยน'บางคนแถวนี้"
ราวกับเส้นความอดทนของลิลินจะขาดผึงลงให้ได้
ยามเมื่อได้ยินคำพูดทิ่มแทงที่สิ่งมีชีวิตเพศผู้โสโครกสกปรกโสมมและสุดแสนจะตอแหลกล่าวหาเธอ
...เธอไม่ได้ชอบผู้หญิงด้วยกันสักหน่อย! แค่คนที่เธอชอบบังเอิญเป็นผู้หญิงเหมือนเธอก็เท่านั้นเอง!!...
"หน็อยแน่ไอ้ตอแหล!! อย่าคิดว่าแกจะทำอะไรเพื่อนฉันได้นะยะ!
คอยดูนะฉันจะคอยขัดขวาง! ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้แกหลอกลวงมินาของฉันไม่ได้อีกเลย!! ไอ้ตอแหล!! ไอ้มิจฉาชีพ!! ไอ้นักต้มตุ๋น!!!"
ลิลินชี้หน้าคนตัวสูงด้วยความเดือดดาลพลางกระโดดเหยงๆเพราะทำอะไรไม่ได้(ใส่กระโปรงอยู่) ความโกรธของเธอพุ่งสูงจนทะลุปรอท
แต่ในขณะเดียวกันไอ้ตัวปัญหามันก็ยังยิ้มราวกับไม่สะทกสะท้านต่อคำครหาใดเลย
ยิ่งสร้างความโมโหโกรธให้ลิลินที่แทบจะกระโดดถีบ...เอ้ย! ข่วนหน้าเขาได้อยู่แล้ว
มันรู้...มันรู้ว่าเธอคิดยังไงกับมินา
ถ้ามันเอาเรื่องนี้ไปบอกมินามีหวังมิตรภาพของพวกเธอได้จบสิ้นแน่!!
...ต้องรีบกำจัดมัน ต้องรีบกำจัดมันให้เร็วที่สุด!!...
"หึๆๆ คิดว่าทำได้ก็ลองดูสิ"
ต่อมโรคจิตของซาเบิ้ลเริ่มทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง
ทั้งน้ำเสียงและสีหน้ายามที่เอ่ยคำพูดแต่ละคำออกมาก็เริ่มจะใกล้เคียงตัวร้ายในหนังสมัยก่อนมากขึ้นทุกทีเช่นกัน
"เอาเถอะ เห็นแก่'ผู้หญิงที่มีรสนิยมทางเพศผิดเพี้ยน'ผู้น่าสงสาร พี่จะยอมต่อให้สักนิดก็ได้..."
ลิลินหน้าตึงขึ้นทันทีกับคำพูดดูถูกนั้น
...ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ชอบผู้หญิง! แค่คนที่ชอบเป็นผู้หญิงเท่านั้นเอง!!...
"ฉันไม่...!"
"เรามาพนันกันมั้ยล่ะ...?"
ไม่ทันที่ลิลินจะพูดจบ นักเรียนดีเด่นสันดานแย่ก็พูดขัดขึ้นเสียก่อน
"พนัน?"
จากที่คิดจะด่าเขาในทีแรก กลับกลายเป็นว่าคนตัวเล็ก(เริ่ม)สนใจข้อเสนอของเขาเสียอย่างนั้น
...ก็ไม่เลวนี่...
จริงอยู่ว่าไอ้ตอแหลตรงหน้าเธอเป็นคนฉลาด มีเลห์เหลี่ยมแพรวพราวพอที่จะชนะพนันอะไรก็ตามได้ง่ายๆ
แต่เธอเองก็ฉลาดมากเหมือนกัน แล้วถ้าหากว่าเธอชนะ ไอ้สิ่งมีชีวิตเพศผู้นี่คงจะเสียหน้าไม่น้อย
"แล้วจะพนันอะไรล่ะ...?"
ร่างเล็กถามอย่างไว้เชิง
ถึงอย่างไรเสียคนตรงหน้าก็มีชื่อเสียงเป็นเลิศด้านการหาช่องว่างเพื่อตลบหลัง
ถ้าหากเป็นการพนันที่เธอเสียเปรียบเกินไปก็คงไม่ดี
"ถ้าปีนี้น้องลิลินทำให้พี่ตกจากตำแหน่งนักเรียนดีเด่นได้ พี่จะหยุดความคิดที่จะหลอกลวงมินา"
ดาวเด่นของชั้นปีที่สองยังคงนิ่งเงียบเพื่อฟังรายละเอียดต่อไป
"แต่ถ้าทำไม่ได้ น้องลิลินห้ามมาขัดขวางพี่กับมินาอีก"
"ฉันไม่คิดจะใช้เพื่อนตัวเองเป็นเครื่องมือในการพนันหรอก!"
ลิลินเชิดหน้าขึ้นแล้วตอบทันที
เพราะมิตรภาพที่มีให้กันมาตั้งแต่จำความได้ทำให้เธอผูกพันกับมินามาก
ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องยอมยกเพื่อนให้เป็น'เครื่องมือ'แสวงหาความสนุกของคนนิสัยไม่ดีอย่างซาเบิ้ลเลย
"สื่งที่ใช้พนันไม่ใช่มินา แต่เป็น'โอกาสใกล้ชิด'มินาต่างหากเล่า"
ร่างสูงเหยียดยิ้มชั่วร้ายอย่างปกปิดไม่มิดอีกต่อไป
และหากไม่ใช่เพราะคิดไปเองแล้วไซร้
ลิลินสัมผัสได้ว่ามีรังสีแห่งความชั่วร้ายแผ่กระจายออกมาจากร่างของนักเรียนดีเด่นผู้นี้ด้วย
"พี่ไม่ได้บอกว่าคนที่ชนะจะได้มินาไปสักหน่อย แต่คนที่แพ้ต้องยอมถอยให้ผู้ชนะต่างหาก"
ลิลินกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
...ถ้าเธอชนะ ไอ้หมอนี่ก็จะมาต้มตุ๋นมินาไม่ได้อีก...
และถึงแม้ซาเบิ้ลจะมีผลการเรียนสูงสุดในชั้นปี
แต่ในหมู่รุ่นพี่ปีสามเองก็มีนักเรียนอีกสองคนที่ทำคะแนนสอบได้ใกล้เคียงกับเขาเสมอ
ถ้าหากกล่อมให้หนึ่งในสองคนนี้มุ่งเอาชนะหมอนี่ให้ได้...
จากนั้นก็หาจุดบกพร่องอะไรสักอย่างของมันมาตีแผ่
...ถ้าตั้งใจจริงๆก็ยังพอมีโอกาส...
"ตกลงค่ะ! ฉันจะทำให้รุ่นพี่ร่วงจากตำแหน่งนักเรียนดีเด่นให้ได้!! แล้วหลังจากนั้นรุ่นพี่ต้องเลิกตอแยพวกเราด้วย!!"
ร่างเล็กตอบหลังจากตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่...หลังจากนี้ต้องลากหนึ่งในสองคนที่มีผลสอบสูงลิบลิ่วนั่นมาคุยให้ได้!!
"ระยะเวลาคือก่อนวันจบการศึกษา...
ถ้าพี่ไม่ได้ขึ้นไปรับตำแหน่งนักเรียนดีเด่นก็ถือว่าน้องลิลินชนะไป แต่ถ้าพี่ได้เกียรติบัติใบที่หกมาพี่ก็เป็นผู้ชนะ
เข้าใจตรงกันนะ"
"หึ รุ่นพี่เตรียมบอกลาสถิตินักเรียนดีเด่นหกปีซ้อนได้เลย!"
ดาวเด่นของชั้นปีที่สองกล่าวพลางชี้หน้านักเรียนดีเด่นด้วยสีหน้ามั่นใจเต็มเปี่ยม
จากนั้นร่างเล็กก็หันหลังกลับออกไปทางเดิมที่ตนเข้ามา
...
..
.
"หึ ทั้งที่ไม่มีทางเป็นไปได้แท้ๆ"
ซาเบิ้ลพูดพลางมองไปยังประตูดาดฟ้าอย่างเหม่อลอย
ไม่อาจทราบได้ว่าพูดถึงตัวเขาเองหรือลิลินกันแน่
นี่เขานึกบ้าอะไรกันนะ
ถึงไปพนันอะไรกับเด็กแบบนั้น
ร่างสูงถอนหายใจเฮือกใหญ่ขณะที่ใช้มือควานหาอะไรบางอย่างจากกระเป๋าเสื้อ
"นายคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่..."
น้ำเสียงเอื่อยๆเนือยๆที่ดังขึ้นจากที่ไหนสักแห่งทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือก
บุหรี่ที่ตั้งใจจะเอามาจุดสูบก็จำต้องเก็บเข้าที่ซ่อนของมันดังเดิม
ซาเบิ้ลมองไปรอบกายเพื่อจะหาที่มาของเสียง
และแล้วเขาก็พ
บกับเด็กหนุ่มในเครื่องแบบเดียวกันกับเขากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนทางเข้าดาดฟ้า
เนคไทค์สีดำที่เด็กหนุ่มผูกอยู่บ่งบอกได้อย่างดีว่าเขาเรียนอยู่ชั้นปีที่สามเหมือนซาเบิ้ล
ยิ่งเห็นเส้นผมหยักศกสีหมอกจางๆกับแว่นตากรอบหนาที่เขาสวมใส่อยู่ รวมถึงถุงพลาสติกบรรจุน้ำมะเขือเทศกระป๋องกับผลมะเขือเทศสดๆจำนานมากที่เจ้าตัวหิ้วติดตัวตลอดเวลา
ทำให้ซาเบิ้ลจำได้ทันทีว่าชายคนนี้คือเพื่อนร่วมชั้นของตน
"คุณมาอยู่ตรงนี้นานขนาดไหนแล้วครับเนี่ย..."
นักเรียนดีเด่นจอมปลอมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่(พยายามที่จะ)นิ่งๆ
"มานานพอที่จะได้เห็นนายเดินขึ้นมาสูบบุหรี่สามมวนแรกเสร็จแล้วอมลูกอมสองลูกกับฉีดน้ำหอมดับกลิ่น หลังจากนั้นลิลิน่า เบลล์ก็มาหาแล้วมีปากเสียงกับนายพักหนึ่งก่อนที่จะตกลงกันได้ แล้วตอนนี้นายก็กำลังจะสูบบุหรี่มวนที่สี่..."
เม็ดเหงื่อเล็กๆจำนวนมากผุดขึ้นมาบนใบหน้าของซาเบิ้ล
ถึงภายนอกจะดูเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูดค่อยจา(รวมถึงไม่สนใจอะไรภายนอก) แต่ยามที่พูดอะไรออกมาเด็กหนุ่มตรงหน้าเขาก็สามารถทำให้คนฟังร้อนๆหนาวๆได้เป็นอย่างดีเลย
ด้วยชายคนนี้มีหน่วยจัดเก็บความทรงจำชั้นเลิศ สามารถจดจำรายละเอียดของข้อมูลเกือบทุกอย่างที่รับรู้มาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
ซ้ำยังเป็นคนที่ทำคะแนนสอบได้อันดับต้นๆของชั้นปีอีก
เรียกได้ว่าระดับสมองใกล้เคียงกับซาเบิ้ลเลยล่ะ!
...แล้วถ้าหมอนี่เอาเรื่องที่เขาสูบบุหรี่ไปบอกท่านผู้อำนวยการล่ะก็ ชีวิตเขาจบสิ้นแน่!!...
ความรู้สึกเครียดจัดเข้าเล่นงานเขาเป็นรอบที่สองของเดือน
เพราะถ้าเขาถูกถอดจากตำแหน่งนักเรียนดีเด่น หมอนี่ก็เป็นคนต่อไปที่จะได้รับตำแหน่งนั้น
พูดง่ายๆคือมีแต่เสียกับเสีย
ทั้งเสียตำแหน่งนักเรียนดีเด่น
ทั้งเสียหน้าจากการแพ้พนันที่เริ่มต้นไม่ถึงวันอีกด้วย!!
"คะ...คุณจะไม่เอาเรื่องนี้...ไปบอกท่านผอ.ใช่ไหมครับ"
"ไม่อ่ะ ขี้เกียจ"
เด็กหนุ่มคนนั้นตอบก่อนจะเปิดประป๋องน้ำมะเขือเทศแล้วยกขึ้นดื่ม
แต่คำตอบที่ได้รับทำให้ซาเบิ้ลถึงกับเงิบไปเลย
...ขี้เกียจ!!? แค่ขี้เกียจเนี่ยนะ!!?...
"ถ้าจะบอกฉันคงบอกไปนานแล้ว ฉันขึ้นมาอยู่บนนี้นานพอที่จะเห็นว่านายแอบขึ้นมาสูบบุหรี่ทุกวัน แถมยังชอบหลอกเด็กปีสองที่ชื่อมิเรียน่า แอสโทเรียให้มากับนายเป็นประจำอีก นอกจากนี้นายยังแอบลวนลามมิเรียน่า แอสโทเรียตอนที่เธอหลับทุกครั้งด้วย โดยเฉพาะครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว นายทำหน้าหื่นแล้วขโมยจูบมิเรียน่า แอสโทเรียไปสามครั้ง หลังจากนั้นก็ทำหน้าแดง แล้วหลังจากนั้น...!"
"เดี๋ยววว เดี๋ยวๆๆๆ เดี๋ยวก่อนนะครับ!! ทำไมคุณถึงรู้อะไรๆละเอียดขนาดนี้ นี่คุณขึ้นมาบนนี้ทุกวันเลยงั้นเหรอ!!!"
ก่อนที่เด็กหนุ่มอีกคนจะพูดจบ นักเรียนดีเด่นกำมะลอก็ได้ทำการเบรกไว้เสียก่อน
นี่เขาจะเสียสติไปแล้วจริงๆนะ!!
ตั้งแต่เรียนห้องเดียวกับหมอนี่ห้าปีจนย่างเข้าปีที่หก ก็มีครั้งนี้แหละที่เขา'หลุด'ขึ้นมาจริงๆ
"ตรงนี้เป็นที่ประจำของฉันตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว"
เด็กหนุ่มผู้สวมแว่นตากรอบหนาตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆเหมือนคนไม่ได้หลับไม่ได้นอนหลังจากที่กระดกน้ำมะเขือเทศกระป๋องไปอึกใหญ่
"ขึ้นมาก่อนที่มิเรียน่า แอสโทเรียจะใช้ที่นี่เป็นที่งีบหลับเสียอีก"
เด็กหนุ่มพูดต่อแล้วดื่มน้ำมะเขือเทศกระป๋องเข้าไปอีก
"งั้นคุณก็เห็นทุกอย่าง...?"
"อืม"
หมดกัน!! ภาพลักษณ์คนดีที่เขาสร้างมาตลอดสิบแปดปีที่มีชีวิตอยู่อันตรธานหายไปหมดสิ้นแล้ว!!!
"ละ...แล้วทำไมคุณเพิ่งจะมาแสดงตัวตอนนี้ล่ะครับ"
เด็กหนุ่มผู้มีเส้นผมสีดำสนิทเอ่ยถาม
"ฉันก็แค่รู้สึกว่านายแปลกๆไปน่ะ..."
"ฮ่ะๆ ผมไม่ได้มีอะไรแปลกไปสักหน่อย"
ซาเบิ้ลหัวเราะแห้งๆพลางเอ่ยตอบ
"ทำไมนายถึงพนันอะไรแปลกๆกับเด็กนั่นล่ะ"
เด็กหนุ่มผู้แสนเอื่อยเฉื่อยถามต่อ
"กะ...ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ ผมก็แค่อยากสร้างความร้าวฉาน...!"
"ไม่ใช่ว่านายกำลังหาคนที่จะหยุดตัวนายเองได้อยู่เหรอ"
"ผมไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น"
"นายไม่อยากทำร้ายมิเรียน่า แอสโทเรีย"
"ไม่ใช่!"
"นายอยากปกป้องเด็กคนนั้นจากตัวนายเอง"
"เปล่าซักหน่อย..."
"นายกลัวที่จะเผลอใจไปรักมิเรียน่า แอสโทเรีย"
"..."
"นายชอบเด็กคนนั้น"
"ผมไม่รู้..."
เด็กหนุ่มผมดำตอบอย่างยอมจำนน
นานมากแล้วที่ไม่มีใครต้อนเขาให้จนมุมได้ง่ายๆแบบนี้
แม้แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเขาก็เพิ่งเถียงชนะเขาครั้งนี้ครั้งแรกเท่านั้น
ดูเหมือนช่วงนี้เขาจะอ่อนแอลงจริงๆ อาจเพราะความเครียดจากปัญหาชีวิตมันเริ่มจะสะสมจนเต็มพิกัดแล้วล่ะมั้ง...
เขาถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ก่อนจะเอ่ยคำขอร้องกับคนตรงหน้า
"คุณ'โทมัส'ครับ คุณช่วยทำเป็นลืมทุกเรื่องของผมบนดาดฟ้านี้ได้ไหม..."
เด็กหนุ่มนามโทมัสเงียไปครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า
"ยังไงมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันอยู่แล้วนี่นะ..."
.
ความคิดเห็น