ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Sister Complex :: รักนี้...ต้องห้าม[รึเปล่า!!?]

    ลำดับตอนที่ #1 : อารัมภบท

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 59




    (มินา มิเรียน่า แอสโทเรีย)

    "ผมชอบมินานะ..."

    น้ำเสียงจริงจรังถูกเอื้อนเอ่ยออกมาจากปากของคนที่เอาแต่โกหกตลบแตลงผู้คนรอบข้างตลอดเวลา

    แต่ดวงตาสีฟ้าเข้มสว่างไสวที่สบมองดวงตาของเธออย่างแน่วแน่กลับไม่มีแววของการโป้ปดอยู่เลย

    บ่งบอกให้รู้แน่ชัดว่าสิ่งที่ออกมาจากปากของชายหนุ่มเมื่อครู่เป็นความจริงที่ยากยิ่งหากว่าจะออกจากปากของคนตลบแตลงอย่างเขา

    ภายในอาคารเรียนหลังงามบัดนี้มีเพียงผู้เอ่ยคำสารภาพเมื่อครู่กับเด็กสาวที่ชื่อมินาเท่านั้น

    หยดน้ำเล็กๆจากเบื้องบนตกกระทบอาคารเรียนเป็นระยะๆบ่งบอกได้ว่าก่อนหน้านี้ไม่นานคงจะมีฝนตกอย่างหนัก และนั่นคงเป็นเหตุให้นักเรียนชายหญิงคู่หนึ่งติดฝนจนไปไหนไม่ได้นั่นเอง

    "นายว่าไงนะ?"

    คนอ่อนวัยกว่าถามกลับอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

    "ผมชอบมินา คบกับผมเถอะนะ"

    'ซาเบิ้ล นัวร์'เอ่ยย้ำความรู้สึกของตนอีกครั้ง

    หลังจากที่รู้จักกับเธอไม่นานเขาก็เริ่มมีความรู้สึกประหลาดบางอย่างก่อตัวขึ้น

    เข้ารู้สึกเอ็นดูเธอ แต่ก็ทั้งอยากแกล้ง อยากปกป้อง และอยากทะนุถนอมเด็กคนนี้เช่นกันทั้งที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน

    แล้วเขาก็ได้ค้นพบว่าความรู้สึกนี้มันคือ'ความรัก'ที่ค่อยๆก่อตัวมาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ได้

    รู้ตัวอีกทีเขาก็ชอบเธอเข้าให้เสียแล้ว ชอบในแบบที่ผู้ชายคนหนึ่งจะชอบผู้หญิงสักคนได้ ไม่ใช่ชอบแบบเด็กสักคนที่ชอบของเล่นสักชิ้นเหมือนที่รู้สึกกับคนอื่น

    "แต่ว่าเราเพิ่งรู้จักกันไม่นาน..."

    เด็กสาวแย้ง เธอกับเขาเพิ่งจะรู้จักกันแค่เดือนเดียว แม้ว่าเธอเองก็มีความรู้สึก'พิเศษ'กับเขาอยู่บ้างเหมือนกันแต่เธอก็ยังคิดว่ามันเร็วเกินไปอยู่ดี

    "นี่คือการปฏิเสธสินะ..."

    ชายหนุ่มเอ่ยอย่างผิดหวัง ที่ผ่านมาเขาไม่เคยคิดจะคบใครจริงจังขนาดนี้มาก่อนเลย เธอเป็นคนแรกที่เขามองว่ามีค่าเกินกว่าที่จะคบเล่นๆได้ บางครั้งเขาถึงกับเผลอคิดไปไกลว่าเขาต้องการ'คู่ชีวิต'ที่เป็นแบบเธอคนนี้

    แต่ในเมื่อเธอไม่ได้รักเขามันก็คงช่วยไม่ได้ล่ะนะ...

    ชายหนุ่มหันหลังเดินฝ่าสายฝนที่ตกเปาะแปะออกไป 

    ชีวิตเขาไม่เคยผิดหวังจากความรักมาก่อน

    นี่สินะที่เขาเรียกว่าอกหัก เขาเพิ่งจะเข้าใจความรู้สึกของพวกผู้หญิงที่เขาเคยเล่นๆด้วยก็วันนี้นี่แหละ...

    "ดะ...เดี๋ยวก่อน!"

    เสียงเรียกจากเด็กสาวข้างหลังทำให้ร่างสูงชะงักฝีเท้าเล็กน้อย

    เขาหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าเธอเหมือนจะถามว่ามีอะไรหรือเปล่า

    "ฉะ...ฉัน...ฉันก็ชอบนาย...เหมือนกัน"

    คนตัวเล็กเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก พลางก้มใบหน้างดงามน่ารักที่บัดนี้แดงระเรื่อเพราะความเขินอายกับสิ่งที่ตนเพิ่งพูดออกไป

    แต่เพราะกลัวว่าหากไม่พูดเขาอาจหายไปจากชีวิตเธอตลอดกาล เพราะเขาเป็นคนทำให้ชีวิตเอื่อยเรื่อยเอื่อยเฉื่อยของเธอมีสีสันขึ้นมา เพราะเขาทำให้คนที่เปลี่ยนชีวิตน่าเบื่อของเธอให้สนุกสนานขึ้นมาได้ แต่เธอกลัวเหลือเกินว่าหากวันหนึ่งเธอบอกความรู้สึกต่อเขาออกไประหว่างเธอกับเขาอาจไม่เหมือนเดิม แต่ในเมื่อมีความรู้สึกตรงกันมันก็คงจะไม่มีปัญหา...ถึงแม้เธอจะคิดว่ามันยังเร็วเกินไปก็เถอะ

    ชายหนุ่มเมื่อได้ฟังก็รู้สึกหัวใจพองโตอย่างประหลาด ไม่คิดฝันเลยว่าวันหนึ่งเขาต้องกลายเป็น'หนุ่มน้อยในห้วงรัก'แบบนี้ไปได้

    "ตะ...แต่ว่าฉันยังไม่เคยคบกับใคร...ก็เลย..."

    ร่างเล็กยังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เพราะไม่เคยมีความรักมาก่อนทำให้เธอประหม่า เธอแทบจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าคนที่คบกันเขาต้องทำอะไรบ้าง

    เธอกลัวว่าคบกันไปเขาอาจจะเบื่อเธอเอาได้เพราะความไม่รู้อะไรๆของเธอเอง

    "ไม่ต้องห่วงหรอก...เดี๋ยวผมจะสอนให้เอง สอนให้ทุกอย่าง..."

    ชายหนุ่มผู้ปรับเปลี่ยนอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วบอกพลางเดินเข้ามาใกล้ร่างเธอขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับรอยยิ้มที่เธอลงความเห็นว่ามันดู...เอ่อ เหมือนสายตาของพวกตาแก่หื่นๆ

    "แต่ว่า...!"

    พูดยังไม่ทันจบคนตัวสูงก็เข้ามาประชิดร่างเธอเสียแล้ว

    และโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงเขาก็จัดการประทับจุมพิตลงบนริมฝีปากของเธอทันที

    เด็กสาวไม่ได้ขัดขืน...แต่ก็ไม่ได้ตอบรับอะไรเขาเช่นกัน

    ตอนนี้เธอรู้สึกชาไปทั้งร่างราวกับถูกช็อตด้วยไฟฟ้าแรงสูง  เลือดในกายสูบฉีดจนร้อนวาบไปทั้งตัวแต่กระนั้นในสมองกลับเย็นลงอย่างรวดเร็วจนเหมือนจะหยุดทำงานไปชั่วขณะ หัวใจของเธอเต้นรัวแรงขึ้นเรื่อยๆราวกับว่ามันกำลังจะระเบิดออกมา

    เธอกำลังทำอะไรไม่ถูก...นี่เป็นจูบแรกของเธอ

    และเธอก็ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองควรทำอย่างไรดี ควรจะผลักเขาให้กระเด็นใช่มั้ย? หรือควรจะตอบรับสัมผัสจากเขาด้วยความยินดี?

    เด็กสาวได้แต่ยืนนิ่งเพราะไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ได้แต่ปล่อยให้ชายหนุ่มตรงหน้าจูบจนพอใจและผละริมฝีปากออกไปเอง


    "มินา...ผมขอโทษ..."

    คนอายุมากกว่าเอ่ยเมื่อเห็นว่าเธอเข่าอ่อนและทรุดฮวบลงกับพื้นทันทีที่เขาถอยห่างออกมา ใบหน้าที่แดงก่ำเหมือนจะร้องไห้นั่นทำให้เขารู้ตัวว่าเผลอทำอะไรไม่เหมาะสมลงไปเสียแล้ว

    อาจเพราะดีใจมากเกินไป หรืออาจเพราะความเร่งรีบจนลืมนึกไปว่าเธอยังอ่อนประสบการณ์กว่าเขาอยู่มาก การผลีผลามทำอะไรลงไปจึงทำให้เธอตกใจแบบนี้

    ...เรื่องแบบนี้มันควรจะค่อยเป็นค่อยไป...

    "ฉะ...ฉัน...ฉัน...จูบแรก...ขะ...ของฉัน"

    เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือจนแทบจะจับใจความไม่ได้ หยาดน้ำใสๆไหลรินจากดวงตากลมโตคู่สวย

    เธอไม่ได้ร้องไห้เพราะเสียใจ...เธอก็แค่ตกใจและน้ำตามันก็ไหลมาเองเท่านั้น

    "ผมไม่ได้ตั้งใจ...ก็มินาน่ารัก...ผมก็เลย..."

    ชายหนุ่มแก้ตัวด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงจะแก้ตัวได้ลื่นไหลกว่านี้ แต่ความรู้สึกผิดที่ไม่เคยมีในมโนสำนึกกลับเล่นงานเขาอย่างหนักเมื่อเขากระทำผิดต่อเธอแม้จะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม ดูเหมือนเขาจะเเพ้น้ำตาของเธอทั้งที่ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครที่ไหนทั้งนั้น

    "ผมขอโทษ จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว อย่าร้องเลยนะ"

    เขาปลอบพลางเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน

    เขาไม่อยากเห็นน้ำตาของเธอแบบนี้ เขาอยากให้เธอมีความสุขที่สุดในยามที่เธออยู่กับเขา

    เด็กสาวหยุดร้องไห้ได้สักพักแล้ว ถ้าให้พูดจริงๆคือเธอยังไม่ได้ร้องไห้ด้วยซ้ำ แค่เกือบจะร้องไห้เพราะการกระทำอุกอาจของเขาเท่านั้นเอง...

    "ให้ผมเดินไปส่งที่บ้านนะ"

    ชายหนุ่มเอ่ยหลังจากที่พยุงเด็กสาวให้ลุกขึ้นยืนได้แล้ว

    แม้เธอจะไม่ได้ว่าอะไรเขามากนัก แต่เขาก็ไม่สามารถบอกได้จริงๆว่าเธอยังโกรธเขาอยู่หรือไม่ และเพราะยังรู้สึกผิดต่อเธอทำให้เขาอยากแก้ตัวใหม่

    เริ่มต้นจากอะไรง่ายๆอย่างการส่งเธอกลับบ้านคงจะดีกว่า...

    "อื้อ"

    เด็กสาวรับคำอย่างว่าง่าย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่ได้โกรธเคืองอะไรเขาแล้วหรือเพราะทำอะไรไม่ถูกกันแน่

    มือใหญ่ที่แสนอบอุ่นกุมมือเล็กๆนุ่มนิ่มของเธอเอาไว้

    ชายหนุ่มเดินไปส่งเธอตามทางที่บอกจนเธอถึงบ้านอย่างปลอดภัย

    จากนั้นจึงกลับไปนั่งรอรถประจำทางเพื่อกลับบ้านของตัวเองบ้าง

    .....

    ....

    ...

    ..


    "เธอเป็นคนใจดี พ่อมั่นใจว่าลูกต้องเข้ากับเธอได้ดีแน่ๆ"

    "เหรอคะ..."

    มินานั่งฟังบุพการีของตนเล่าถึงว่าที่ภรรยาใหม่อย่างสงบเสงี่ยม

    ผู้เป็นพ่อของเธอเอ่ยถึงความดีงามของแม่หม้ายคนนั้นให้เธอฟังเป็นรอบที่ร้อยกว่าได้

    ...สงสัยคงจะรักกันมากจริงๆ...

    "แล้วก็...ลูกชายของคุณโรส"

    ผู้เป็นพ่อเว้นจังหวะเล็กน้อยแล้วพูดต่อ

    "รู้สึกว่าจะอายุมากกว่าลูกประมาณปีนึงมั้ง    แล้วก็ดูท่าทางจะเป็นคนดีมากเลยล่ะ"

    พ่อของเธอต่อด้วยการบรรยายสรรพคุณของ(ว่าที่)พี่ชายคนใหม่ของเธอ ซึ่งดูเหมือนจะเคยพบกับพ่อของเธอมาแล้วและพ่อเธอก็ดูจะถูกใจฝ่ายนั้นมากด้วย

    ...หรือจะเป็นเพราะความรักบังตากันนะ...

    ตอนนี้มินาและคุณพ่อของเธอนั่งอยู่ในร้านอาหารตะวันตกแห่งหนึ่งซึ่งค่อนข้างจะหรูหรา

    เพราะนี่เป็นโอกาสพิเศษที่ท่านจะแนะนำให้เธอได้รู้จักกับว่าที่ภรรยาใหม่

    โดยระหว่างที่นั่งรอ'คุณโรส'สุดที่รักของคุณพ่อและว่าที่พี่ชายของเธอ

    พ่อของมินาก็เล่าให้เธอฟังถึงคุณงามความดีของว่าที่ภรรยาใหม่รวมถึงว่าที่ลูกเลี้ยงของท่านด้วย

    "เราเป็นลูกคนเดียวคงจะเหงามาตลอดเลยใช่มั้ยล่ะ แต่ว่าจากนี้ไปลูกจะมีพี่ชายแล้วนะ"

    "ค่ะ"

    มินาฟังพ่อของตัวเองพูดและรับคำเป็นระยะๆ

    หากแต่ในใจของเธอตอนนี้กลับไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับการมาขอว่าที่ภรรยาใหม่ของคุณพ่อเลย

    แต่ภายในมโนสำนึกของเธอกลับนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ที่รุ่นพี่คนสนิทเพิ่งจะขอคบและขโมยจูบแรกของเธอไปอย่างหน้าด้านๆโดยที่เธอไม่สามารถต่อว่าอะไรเขาได้เลย ซ้ำยังเผลอไปตกลงคบกับเขาไปทั้งที่เธอเองก็เพิ่งรู้จักเขาได้แค่เดือนเดียวเท่านั้น

    ...นี่เธอใจง่ายเกินไปหรือเปล่านะ...

    "โอ๊ะ! นั่นไง คุณโรสมาแล้วล่ะ"

    คำพูดของผู้เป็นบิดาทำให้เธอตื่นจากห้วงความคิดพลางเงยหน้าขึ้นไปมองผู้มาใหม่

    'คุณโรส'ของคุณพ่อเป็นผู้หญิงอายุประมาณสามสิบปลายๆแต่ยังคงดูสวยอยู่

    ทุกท่วงท่าที่ก้าวเดินสง่างามราวกับนางพญาหงส์ที่กำลังเริงระบำอยู่ในมหานทีอันแสนสดชื่น

    แม่หม้ายสาวมีเส้นผมสีฟางอ่อนๆดูงดงามและเข้ากันได้ดีกับผิวสีขาวอร่ามราวงาช้างของเธอ แต่สิ่งที่สะกดสายตาคนมองได้มากที่สุดคงไม่พ้นนัยน์ตาสีฟ้าเข้มทว่าสว่างไสวราวอัญมณีล้ำค่าที่สะท้อนแววเศร้าสร้อยอยู่บนใบหน้าของเธอ

    ...นัยน์ตาสีฟ้าเข้มที่ดูสว่างไสวเหมือนกับใครบางคนที่เพิ่งขโมยจูบเธอเมื่อวานนี้...

    เเต่ยามนี้เธอไม่ได้สนใจการมาของคุณโรสเท่าที่ควรจะเป็นนัก

    เพราะเธอกำลังตกตะลึงในความจริงอันแสนโหดร้ายบางประการอยู่

    ความจริงที่ว่า'เขา'ที่กำลังเดินอยู่ด้านหลังของผู้เป็นมารดานั้นคือคนๆเดียวกับที่เพิ่งจะขอเธอคบเมื่อวานนี้

    และดูท่าว่าเขาเองก็ตกใจไม่น้อยเช่นกันที่มาเจอกับเธอที่นี่

    ...ทั้งคู่เพิ่งจะเปลี่ยนจากเพื่อนมาเป็นคนรักได้แค่ข้ามวัน ก็ต้องกลับกลายมาเป็นพี่ชายกับน้องสาวที่รักกันไม่ได้หรือนี่...

    หลังจากนี้ไม่นานพ่อกับแม่ของพวกเขาก็คงจะจดทะเบียบสมรสกัน แม้พวกเขาจะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันแต่ก็จะกลายเป็นพี่น้องกันในทางกฏหมาย...

    หลังจากนี้พวกเขาก็ต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกันโดยที่ไม่สามารถรักกันได้ แม้จะรู้สึกดีต่อกันเพียงใดก็ต้องเก็บซ่อนมันไว้เพื่อความสุขของบุพการีที่เลี้ยงตนมาตั้งแต่เกิด

    พวกเขาคงต้องซ่อนความรู้สึกเป็นทุกข์นี้ไว้ภายใต้ความสุขของผู้ให้กำเนิดใช่ไหม

    ...นี่คือสิ่งที่เขาเรียกกันว่า'รักต้องห้าม'ใช่หรือเปล่า!!?...


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×