ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF SHINee Yaoi&Yuri] HOOn Only!

    ลำดับตอนที่ #9 : Rabbit Boy Part.1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 699
      3
      23 พ.ค. 57

     


    Rabbit  Boy

                สายลมพัดเอื่อยๆทำให้ต้นหญ้าต้นเล็กต้นน้อยพลิ้วไหวไปตามสายลม บนเนินดินที่ยกระดับสูงกว่าพื้นที่อื่นมีต้นไม้ต้นใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาเป็นร่มบังแดดให้กับภูตกระต่ายตัวน้อย

                แขนเรียวสองข้างตอนนี้ถูกใช้หนุนหัวตัวเองแทนหมอน บนใบหน้าใสกระจ่างมีรอยยิ้มประดับแต่งแต้มเล็กน้อย หูยาวมีสีขาวขนปุยกระดิกไปมารับฟังเสียงต้นหญ้ายามถูกสายลมพัดผ่าน ดวงตาเรียวรีนั้นจับจ้องไปยังก้อนเมฆที่ดูนุ่มน่าไปนอนบนนั้นเสียเหลือเกิน

                “อยากขึ้นไปนอนบนนั้นจังเลย”อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา อีจินกิได้แต่เม้มปากแน่นด้วยความเสียดาย..เขาอยากเกิดเป็นกระต่ายตำโมจิบนดวงจันทร์!

                ภูตกระต่ายมีความเชื่อว่าเทพเจ้าของพวกเขาอยู่บนดวงจันทร์สีเหลืองสวยนั่น ภูตกระต่ายบางตัวที่โชคดีก็จะตายตั้งแต่ยังไม่เกิดเพื่อไปตำโมจิบนด้วงจันทร์ให้เทพเจ้าได้กิน

                แต่ก็แน่ล่ะ..มันก็แค่นิทานหลอกเด็กเท่านั้นแหละ! แต่ที่แน่ๆคือกระต่ายน้อยทุกตัวเชื่อเรื่องนี้สนิทใจ เรื่องเล่านี้ก็ไว้เพื่อปลอบใจพ่อแม่กระต่ายที่เสียลูกตั้งแต่ยังไม่เกิดต่างหากล่ะ

                เสียงเหยีบย่ำพื้นดินดังแว่วเข้ามาจากที่ไกลๆทำเอากระต่ายน้อยถึงกับสะดุ้งแล้วลุกขึ้นยืน ช่วงนี้นายพรานออกล่าเหยื่อกันอย่างสนุกสนานจนเหล่าสัตว์น้อยใหญ่รวมทั้งภูตทั้งหลายต้องพากันหลบหนีจ้าละหวั่น

                ใบหน้าใสหันขวับไปตามทิศทางเสียงอย่างระวังภัย หูสองข้างยังกระดิกรับเสียงไปมาไม่หยุด เสียงนั้นดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในขณะที่เจ้าตัวยังคิดไม่ตกว่าจะหนีกลับเข้าเมืองดีหรือไม่ เพราะทางเข้าเมืองดันอยู่ตรงทิศเดียวกับเสียงฝีเท้านั้น มือปริศนามือหนึ่งก็คว้าหมับเข้าให้ที่ไหล่บาง

                “จับตัวกระต่ายดื้อได้แล้ว!”กระต่ายดื้อตัวน้อยที่แอบมาเที่ยวเล่นนอกเมืองถึงกับสะดุ้งเฮือก ริมฝีปากอิ่มเผยอขึ้นเตรียมร้องสุดเสียง แต่กลับถูกมืออีกข้างนั้นปิดไว้แน่น

                “ชู่ว! ข้าจงฮยอนเอง ขวัญอ่อนเสียจริง”น้ำเสียงทะเล้นดังขึ้นทำให้จินกิยอมนิ่ง เจ้าตัวรีบแกะมือของอีกฝ่ายออกแล้วหันไปจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง

                “เล่นบ้าอะไรเนี่ย!”ภูตจิ้งจอกที่มีหางขนฟูสีน้ำตาลยิ้มแยกเขี้ยวอวดเขี้ยวแหลมใส่กระต่ายขี้ตกใจ หางนุ่มโบกสะบัดไปมา

                “ก็เจ้ามันขี้ตกใจน่าแกล้งนี่นา”อีกเสียงดังขึ้นจากด้านหลังทำเอาจินกิสะดุ้งสุดตัวอีกรอบแล้วรีบหันไปมอง ก็เห็นเจ้าจิ้งจอกตัวแสบอีกตัวที่มีหูสีน้ำตาลอ่อนกว่าอีกคน

                “คีย์ก็แกล้งข้าด้วยหรอ!”เสียงนุ่มร้องแหวออกมาด้วยท่าทางหงุดหงิดเสียเต็มประดา คู่รักจิ้งจอกหัวเราะร่าด้วยความสนุกสนาน

                “ก็แหม เจ้ามันน่ารักน่าแกล้งจะตาย เสียงเดินเมื่อกี้เสียงข้าเองแหละ ตัวสั่นเชียวนะ~”มือเรียวหยิกแก้มนุ่มอีกฝ่ายด้วยความหมั่นเขี้ยว แต่คนโดนแกล้งกลับงอนเสียจนไม่มีอารมณ์เล่นด้วยจึงหันหน้าหนีอีกฝ่าย

                “แล้วพวกเจ้ารู้ได้ไงว่าข้าอยู่นี่”

                “โธ่ ที่ๆเจ้าจะไปก็มีไม่กี่ที่หรอกนะ เราเป็นเพื่อนกันมานานทำไมจะไม่รู้ พ่อแม่เจ้าฝากมาบอกให้รีบกลับบ้าน นี้ก็เริ่มเย็นแล้ว”จงฮยอนรีบบอกเพราะกลัวลืม กระต่ายน้อยพยักหน้ารับหงึกหงักทันที

                “ข้าจะไม่ขอบใจพวกเจ้าเพราะเมื่อกี้พวกเจ้าแกล้งข้า! เดี๋ยวอีกสักพักข้าจะกลับบ้าน พวกเจ้ากลับไปก่อนเถอะ”อีจินกอมองท้องฟ้าที่เริ่มจะเปลี่ยนสี แต่เขายังไม่อยากเข้าเมือง กลับเข้าบ้านไปอุดอู้ในห้อง เขาขออยู่อีกเพียงชั่วครู่ก็พอ

                “อื้ม อย่าลืมรีบกลับนะ ไปเถอะคีย์ เรารีบกลับกัน”ภูตจิ้งจอกและภูตกระต่ายอยู่เมืองเดียวกัน เพราะอาศัยในแถบทุ่งหญ้า สองหนุ่มเดินควงแขนกันไปเรื่อยๆจนลับสายตาของคนตัวเล็ก ประตูที่ตั้งเข้าเมืองเป็นความลับของเหล่าภูต เพราะหากมนุษย์รู้..พวกเขาเดือดร้อนเป็นแน่

                อีจินกิล้มตัวลงนอนแผ่หลับตาอีกครั้ง ผ่านไปซักพัก เสียงฝีเท้าก็กลับมาอีกครั้งและใกล้เข้ามาเรื่อยๆ คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความขุ่นเคือง

                “ข้ารู้ทันแล้วนะ! พวกเจ้าไม่ต้องมาแกล้งเลย”พูดออกไปทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา แต่อีกฝ่ายยังเงียบกริบ เสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาเร็วขึ้นๆ จนกระทั่งหยุดอยู่ใกล้ๆ

                “จุ๊ๆ ดูสิ วันนี้เราเจอของดีแล้วสิ”เสียงใหญ่ห้าวดังขึ้นทำเอาอีจินกิลืมตาแล้วลุกพรวดทันที เบื้องหน้าเขาคือชายฉกรรจ์ร่างใหญ่สองคน ทั้งคู่มีธนูกับตาข่ายอยู่

                “อะ..อะไรกัน นายพราน!!”หูสองข้างนั้นลู่ลงด้วยความหวาดกลัว ร่างเล็กสั่นระริกอย่างหนัก อาการเหล่านี้ทำเอานายพรานทั้งสองพึงพอใจไม่น้อย

                “ฮ่า ฮ่า! ดูสิ กระต่ายน้อยนี่น่ารักเสียจริง ถ้าเราทำอะไรกับมันก่อนขายราคาจะตกมั้ย”

                “ไม่หรอกน่า ภูตกระต่ายหายากจะตาย วิ่งไวอย่างกับเหาะเอา วันนี้ได้แต่กระต่ายป่า กินก็ไม่อิ่มเงินก็ไม่ดี จับมันทำอะไรซะก่อนจะได้ไม่มีแรงดิ้นหนีทีหลังไง”อีกคนพูดพลางส่งสายตาหื่นกระหายมาให้จนเห็นได้ชัด ทั้งสองพากันสาวเท้าไปหากระต่ายน้อยที่ไร้ทางสู้

                “อย่าเข้ามา..อย่าเข้ามานะ!”ขาเรียวถอยหลังไปเรื่อยๆ ดวงตาเรียวมองอีกฝ่ายไม่ละสายตา สมองพยายามคิดหาทางหนีเอาตัวรอด หากหันหลังวิ่ง คงโดนธนูยิงเป็นแน่ แต่ถ้ายอม..มันคงแย่กว่าโดนยิงเป็นร้อยเท่า!

                “หนีไปก็ไม่รอดหรอก อย่าหนีเลยกระต่ายน้อย”น้ำตาของร่างเล็กไหลเป็นทางด้วยความหวาดกลัว หากเสี่ยงวิ่งไปมีโอกาสรอดมากกว่า แต่จะไปทางไหนเล่า..นอกจากป่าทางด้านนั้น! ถึงจะไกล แต่ถ้าไม่ลองซักตั้ง ก็คงถูกจับไปขายแน่นอน

                ร่างเล็กหันหลังกลับแล้วออกฝีเท้าวิ่งทันที การกระทำเหนือความคาดหมายทำเอาสองพรานสบถลั่น ภูตกระต่ายใช้ความเร็ววิ่งไปยังป่าทึบ ไม่หันกลับมามองข้างหลังซักนิด แต่เสียงฝีเท้าที่วิ่งตามมาก็รู้ได้เลยว่าสองคนนั้นไม่เลิกราแต่โดยดีเป็นแน่

                หนึ่งในพรานหยิบธนูแล้วง้างออกเตรียมยิง ดวงตาเล็งไปยังขากระต่ายน้อยที่วิ่งสุดชีวิต ก่อนจะปล่อยธนูวิ่งไปตามวิถีของมัน เสียงธนูแหวกอากาศมาทำเอาเจ้ากระต่ายขวัญหนีดีฝ่อมากกว่าเดิม แต่ก็ยังมีสติพอจะกลายร่างเป็นกระต่ายขนปุยแล้วกระโดดไป..รอดธนูได้หวุดหวิด

                “บ้าเอ๊ย!”พอพลาดเป้าก็สบถด้วยความหงุดหงิด แต่พวกเขาก็ยังตัดสินใจที่จะตามต่อ กระต่ายมักวิ่งระยะไกลได้ไม่นานนักหรอก เดี๋ยวความเร็วมันก็ตก!

                จากกระต่ายตัวน้อยก็กลายเป็นคนที่มีหูกระต่ายอีกครั้งเพราะช่วงขาที่สั้นกว่า ทำให้เขาต้องตัดสินใจกลับร่างเดิม อีกนิดเดียว..อีกนิดเดียวก็จะถึงป่าแล้ว!

                นายพรานทั้งสองก็ไม่ยอมเสียเหยื่อไปง่ายๆแน่นอน ทั้งสองต่างยิงธนูใส่ร่างเล็กไม่ยั้ง เจ้าตัวก็ได้แต่หลบซ้ายหลบขวา กลายร่างเป็นกระต่ายบ้าง กลับเป็นร่างคนบ้าง แล้วแต่ทิศทางของลูกธนูที่พุ่งมา

                จินกิวิ่งด้วยความเร็วเต็มที่มาได้ระยะหนึ่งก็เริ่มหมดแรง แต่ช่างโชคดีที่เข้าเขตป่าทึบแล้ว คนร่างเล็กกลายเป็นกระต่ายขนปุยกระโจนหายไปยังต้นไม้รกครึ้มทันที ทิ้งให้พรานทั้งสองร้องตะโกนด้วยความหงุดหงิดแล้วแหวกกอไม้เพื่อหากระต่ายตัวน้อยนั้น

                ตอนนี้กระต่ายตัวน้อยกลับเป็นร่างมนุษย์เหมือนเดิมแล้ว ร่างเล็กทรุดนั่งพิงต้นไม้ใหญ่แล้วหายใจหอบหนักหน่วงพร้อมกับแหงนหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มใกล้มืดเข้าไปทุกที

                “บ้าจริง!..ข้าจะกลับไปก่อนมืดได้ยังไง”ความกังวลเริ่มถาโถมใส่คนตัวเล็กมากขึ้นเรื่อยๆ จินกิตัดสินใจหลับตาพักผ่อนเพียงชั่วครู่ก่อนจะเดินทางกลับ รอเวลาให้พรานสองคนนั้นออกจากป่าไปซักที

                นายพรานทั้งสองเริ่มหัวเสียมากยิ่งขึ้นเพราะหาเท่าไหร่ก็หากระต่ายน้อยตัวนั้นไม่เจอเสียที แต่เขาก็ได้ยินเสียงหายใจเบาๆ ถึงจะเบาแต่ในป่าแบบนี้มันก็ชัดเจน พวกเขาค่อยๆก้าวเดินไปอย่างเงียบกริบไปทิศทางของเสียง

                และภาพที่พวกเขาก็ทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพราะเจ้ากระต่ายที่ตามหากำลังนอนพักเอาแรง และกระต่ายตัวนี้ก็เผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยเพลียแล้วเรียบร้อย ตาข่ายในมือเลยคลุมรวบร่างเล็กนั้นไว้ทันที

                ทันทีที่ตาข่ายหยาบสัมผัสตัวร่างเล็กก็สะดุ้งเฮือกแล้วร้องลั่นทันที สองมือป่ายปัดไปทั่วให้ตาข่ายหลุดออก แต่ยิ่งดิ้นก็เหมือนยิ่งพันกันเข้าไปใหญ่

                “ปล่อยนะ ปล่อย! ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย! ช่วยด้วย!

    Rabbit  Boy

                กวางตัวผู้แข็งแรงกำลังยืนแทะเล็มต้นไม้ในทุ่งโล่งกว้างของผืนป่าอย่างสบายใจโดยไม่รับรู้ถึงสายตาที่จับจ้องของร่างร่างหนึ่ง ดวงตานั้นเปล่งประกายนักล่าจนเห็นได้ชัด เล็บมือที่ตอนนี้ยาวแหลมจนน่ากลัว เหยื่อที่เขาเฝ้ารอเพื่อเป็นอาหารค่ำฉลองคืนจันทร์เต็มดวงกำลังจะถูกจับในไม่ช้า ในฐานะลูกชายของประมุขภูตสิงโต เหยื่อที่จับได้ต้องแข็งแรง เขาถึงจะได้รับการยอมรับจากภูตสิงโตที่เหลือ

                ร่างสูงก้าวกระโจนไปในทีทีพร้อมกับกลับร่างเป็นสิงโตตัวใหญ่ในจังหวะกระโดด อุ้งเท้าหน้าที่ใหญ่มีเล็บแหลมตะปปลงกลางหลังกวางผู้แสนโชคร้ายอย่างแม่นยำ กวางหนุ่มร้องออกมาก่อนจะพยายามวิ่ง แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เขี้ยวคมฝังลงช่วงคอตรงจุดตายในทันที

                กวางหนุ่มล้มลงกับพื้นโดยมีเจ้าป่ายืนกดไว้รอจนกว่าเหยื่อจะสิ้นฤทธิ์จึงกลับคืนร่างมนุษย์อีกครั้ง ฝ่ามือหนาเช็ดเลือดออกจากปากก่อนถ่มเลือดในปากทิ้ง เหล่าภูตสิงโตที่เหลือต่างเข้ามารุมล้อมสิงห์หนุ่มด้วยความดีใจ ต่างช่วยกันเอาซากกวางป่ากลับไปยังทางเข้าเมือง

                “มินโฮ เจ้านี่มันเจ๋งเป็นบ้าเลย!

                “รีบไปล้างหน้าล้างตาเถอะ เหม็นคาวชะมัดเลย รีบกลับมานะ!”มินโฮพยักหน้าแล้วหัวเราะร่ากับความสำเร็จครั้งนี้ เขารีบสาวเท้าไปยังบ่อน้ำในละแวกนี้ทันที

                “ปล่อยนะ ปล่อย! ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย! ช่วยด้วย!”ยังไม่ทันที่จะได้จุ่มมือลงน้ำใส เขาก็รีบวิ่งไปทางต้นเสียงทันที เพราะเขาจำได้แม่นว่าเป็นเสียงของจินกิ กระต่ายน้อยที่เขาแอบไปเฝ้ามองตลอด สิงห์หนุ่มมินโฮหลงรักกระต่ายตัวน้อยจินกิตั้งแต่แรกพบ..

                “ฮึก..ปล่อยนะ! อย่ามาจับข้านะ ใครก็ได้ ช่วยด้วย!”เสียงร้องอย่างน่าสงสารพร้อมกับสะอื้นทำเอาร่างสูงอยากฉีกกระชากคนทำร้ายกระต่ายตัวเล็กยิ่งนัก

                “อย่าร้องไปเลย! ข้าจะพาเจ้าไปขึ้นสวรรค์เองนะ ฮ่าๆๆๆ”

                ...รอข้าอีกหน่อยนะจินกิ!...


     
    `Snoωωhite™ Cute Polka Dotted Beige Bow Tie Ribbon
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×