ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF SHINee Yaoi&Yuri] HOOn Only!

    ลำดับตอนที่ #6 : ...CURSE...IV

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 446
      2
      24 เม.ย. 55



    …CURSE...

                ดวงตาเรียวของอนยูองไปยังเด็กหนุ่มที่เขาเพิ่งเคยเจอ อีกฝ่ายกำลังกินข้าวจานที่สองทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เพิ่งจะกินขนมปลาไป

                “นายมาจากไหน”

                “ผมมาจากไหนก็ไม่สำคัญหรอกฮะ พี่รังเกลียดผมมากเลยรึไง”ดวงตากลมนั้นดูทอประกายกร้าวเกินวัยทั้งๆที่อีกฝ่ายท่าทางอายุราวๆสิบเจ็ดถึงสิบแปดปีเท่านั้น ร่างเล็กเลือกที่จะเงียบแล้วเสมองไปทางอื่นแทน เพราะเขาถามไปอีกฝ่ายคงไม่ตอบอะไรออกมา

                “อยู่คนเดียวหรอฮะ”คราวนี้เป็นเด็กหนุ่มที่ร้องถาม บรรยากาศน่าอึดอัดนี้แทนที่จะหายไปเมื่อเริ่มคุยกับกลับกลายเป็นความตึงเครียดแทน

                “อยู่กับรูมเมท ชื่อชเวมินโฮน่ะ”

                “หรอฮะ..ผมกับพี่เขาเคยมีความสัมพันธ์กันมาก่อนแหละ”ดวงตาเรียวหันมาแทยจะทันที รอยยิ้มบางบนใบหน้าสวยนั้นยิ่งทำให้บรรยากาศเลวร้ายลง

                “มั่นใจหรอว่าใช่คนเดียวกัน?”ไม่รู้ทำไมถึงต้องโมโหทั้งที่ไม่เกี่ยวข้อง ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทีเป็นเชิงบอกว่าต้องการยุติบทสนทนานี้

                “พี่เองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกฮะ คนโดนผนึกความทรงจำจะไปจำอะไรได้ล่ะ”น้ำเสียงเหมือนเยอะเย้ยทำเอาอนยูรู้สึกโกรธและเกลียดอีกฝ่ายมากกว่าเดิม ร่างเล็กผุดลุกขึ้นก่อนจะเดินไปยังห้องนอน

                “กินเสร็จแล้วก็รีบๆไปซะ”

                “พี่ไม่อยากรู้เรื่องอดีตหรืออยากรู้ว่าทำไมผมถึงรู้ชื่อของพี่หรอ”คนที่เป็นเจ้าของห้องกำมือแน่น เขาอยากรู้มาก..เรื่องราวสมัยก่อนนั้นเหมือนไม่ใช่บนโลกใบนี้ มันดูมีอะไรมากกว่านั้น แต่เขาก็ไม่อยากรู้จากปากของเด็กคนนี้แม้แต่นิดเดียว

                “ฉันไม่สนอะไรทั้งนั้นแหละ ออกไปซะ”เป็นครั้งแรกที่อนยูไล่คนออกไปจากบ้าน ภูตหนุ่มเหยียดยิ้มก่อนสาวเท้าเดินมาหา

                “เทพแห่งความรักนี่ท่านมายังไงกันแน่? ใช้ร่างกายหาท่านมหาเทพรึเปล่านะ ไม่ได้เหมาะสมกับตำแหน่งเลยสักนิด!”ไหล่บางถูกกระชากจากด้านหลังให้หันมาอย่างรุนแรง ในขณะที่ร่างกายยังมึนงงกับคำพูดและการกระทำที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมือเล็กของอีกฝ่ายก็ตรงเข้าบีบขมับเขาทันที

                พอสบดวงตากลมร่างกายเหมือนถูกตรึง ไม่สมารถขยับหรือทำอะไรได้ซักอย่างนอกจกาจับจ้องดวงตาอีกฝ่ายไว้

                “ผมอยากให้พี่รู้เรื่องราวในอดีตทั้งหมดนะ เผื่อจะคุยกันง่ายขึ้น ไม่สิ..พี่จะได้ตายแบบไม่ติดค้างไง”อีแทมินหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจ อนยูที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากคิดได้แค่ว่าอีกฝ่ายนั้นน่ากลัวมากขนาดไหน

                “ท่านมินโฮก็ซื่อเหลือเกิน..แทนที่จะปลดผนึกความทรงจำของพี่ ไม่สิ..ท่านอนยู แต่กลับจะทำให้ท่านกลับไปรักเขาเหมือนเดิม ถ้าท่านมินโฮทำแบบนั้นท่านก็อาจจะไม่ต้องตายก็ได้นะ~

    …CURSE...

                ชายหนุ่มร่างสูงที่ตอนนี้ไปยังที่พักของคิมจงฮยอนกับคิมคีบอมกำลังเร่งฝีเท้ากลับมายังที่ห้องพักของตนอย่างรวดเร็ว บทสนทนายังคงอยู่ในหัวครบถ้วน

                “ท่านมหาเทพส่งข่าวมาว่าแทมินหนีออกมาได้ราวอาทิตย์นึงแล้ว และกำลังลงตามหาอนยูอยู่”

              “แล้วทำไมท่านมหาเทพถึงเพิ่งส่งข่าวมา!”ฝ่ามือหนาทุบลงโต๊ะไม้ดังปึ้งจนอีกสองคนสะดุ้ง คิ้วเข้มหนาขมวดมุ่นด้วยความโมโห

              “ท่านบอกว่าสถานการณ์ในแดนเทพวุ่นวายมาก พวกภูตเริ่มสร้างความรุนแรงและคอยเฝ้ารอบบ่อน้ำซึ่งเป็นทางเดียวที่จะติดต่อกับโลกมนุษย์ไว้ตลอด โชคดีที่สถานการณ์ดีขึ้นเยอะจึงรีบส่งข่าวมา แทมินคงจะมาตามหาอนยูแน่ และแทมินมีพลังที่แข็งแกร่งมากด้วย อย่าไปสบตาด้วยเด็ดขาด พวกภูตเลยได้ใจถล่มแดนเทพไงล่ะ”

              “ไอ้พวกภูตนั่น ถ้าข้ากลับขึ้นไปเมื่อไหร่ข้าจะฆ่ามันให้หมด!”ท่านเทพแห่งสงครามตวาดกร้าวก่อนรีบเดินออกจากที่พักของเทพทั้งสอง คิมจงฮยอนและคิมคีบอมหันมองหน้ากันและถอนหายใจ..หากเขาไม่ได้อยู่ในร่างมนุษย์คงจะดีกว่านี้

                ประตูไม้ถูกกระชากออกอย่างรุนแรงโดยที่ดวงตาคมโตกวาดมองไปรอบๆก่อนจะเห็นคนตัวเล็กนั่งดูทีวีอยู่

                “มีใครมาหานายรึเปล่า?”

                “เจ้าไปไหนมา”ดวงหน้าคมเผยสีหน้าตกใจเพียงแว่บเดียวก่อนจะกลับเป็นเรียบเฉยดั่งเดิม ขายาวสาวเท้าไปหาอีกฝ่าย

                “ไปธุระน่ะ มีใครมาหานายรึเปล่า”

                “ข้าจำทุกอย่างได้หมดแล้ว”เสียงนุ่มนั้นเรียบนิ่งจนเทพสงครามรู้สึกหวั่นใจ เพราะเขากลัวว่าอีกฝ่ายจำเรื่องทุกอย่างได้ในทันทีแล้วจะโกรธเขาและหนีไป..ต้องทำให้อีกฝ่ายรักและเชื่อใจเขาก่อนถึงจะเปิดเผยความจริง เพราะท่านมหาเทพรู้ดีว่านิสัยของอนยูเป็นอย่างไร การที่ได้เห็นภาพคนรักของตนกับคนอื่นอยู้ด้วยกันมันน่าเจ็บปวด และอาจจะโกรธเขาขึ้นมาอีกก็ได้ ถึงแม้ว่าก่อนลงมาโลกมนุษย์จะเข้าใจแล้วก็ตาม

                ความเข้าใจกับความรู้สึกมันแยกออกจากันยาก..

                “อนยู..”ชายหนุ่มร่างสูงรู้สึกเหมือนทั้งร่างเกร็งไปหมด กลิ่นหอมอ่อนๆโชยมาแตะจมูกอีกครั้ง กลิ่นกุหลาบ..

                “แต่ข้าก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด”ร่างเล็กยันตัวลุกขึ้นก่อนจะเดินมาโอบรอบคอคนตัวสูงกว่า ดวงตาเรียวเป็นประกาย ริมฝีปากอิ่มเผยอยิ้มหวาน

                “ข้าคิดถึงเจ้าจัง”ฝ่ามือหนาผลักตัวอีกฝ่ายออกก่อนจะถอยห่างออกมา

                “แทมิน!”คนเบื้องหน้าชายหนุ่มค่อยๆสลายกลายเป็นฝุ่นก่อนจะมีร่างภูตรูปงามปรากฏขึ้นแทน รอยยิ้มหวานที่มอบให้ไม่ทำให้เขารู้สึกดีแม้แต่นิดเดียว

                “ท่านมินโฮเก่งขึ้นอีกแล้วนะ~

                “อนยูอยู่ไหน!”อีแทมินหัวเราะคิกคักก่อนจะเดินไปนั่งโซฟา ปลายนิ้วเรียวชี้ไปยังแก้วน้ำก่อนที่แก้วใบนั้นจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

                “ตู้ม~เอ..หรือว่าข้ายังไม่ได้ทำกันนะ”มินโฮตัดสินใจที่จะปล่อยแทมินไปก่อนเพราะเขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางทำร้ายเขา ขายาวรีบสาวเท้าเดินไปยังห้องนอน พอเปิดประตูไปก็พบร่างเล็กนอนสลบไสลอยู่บนเตียง

                “ข้าแค่ปลดผนึกความทรงจำให้ แต่ดูเหมือนข้อมูลจะเยอะไปหน่อยเจ้านั่นเลยสลบไปเลย”เสียงภูตหนุ่มดังขึ้นระยะประชิด แขนยาวของเทพสงครามหมายจะคว้าตัวไว้แต่อีกฝ่ายกลับถอยหลังหลบไปอย่างรวดเร็ว

                “ขนาดเห็นมันสลบท่านยังเผยสีหน้าเจ็บปวดเลย ข้าเลยคิดว่าข้าจะเก็บไว้เชือดต่อหน้าท่านดีกว่า..”เด็กหนุ่มร่างบางยิ้มหวานก่อนจะใช้มือลูบไล้ใบหน้าคม มือหยาบปัดมือเรียวนั้นออกไปแทบทันที

                “อย่ามาโดนตัวข้า!”ดวงตาโตฉายแววโทสะออกมาก่อนจะเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งอีกครั้ง ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มหวานก่อนจะเดินถอยออกไปอย่างว่าง่าย การกระทำของแทมินนั้นทำให้ชเวมินโฮไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย

                “ข้าเป็นคนใจดีมากพอตัวอยู่ ใจดีกว่าเทพแห่งความรักซะอีกนะ~ข้าจะยอมให้ท่านคุยกับพวกชอบแย่งคนของชาวบ้านละกัน”

                “อนยูไม่ได้แย่งใคร มีแต่เจ้าที่ทำให้เรื่องวุ่นวาย เมื่อไหร่จะเข้าใจเสียทีว่าคืนนั้นมันเป็นเรื่องผิดพลาด!

                “แล้วเมื่อไหร่ท่านจะเข้าใจล่ะว่าคืนนั้นข้าเป็นของท่าน!”ดวงตากลมใสเผยความเจ็บปวดออกมา แต่แล้วก็แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้น สายตานั้นตวัดมองไปยังเทพในร่างมนุษย์ที่สลบไสล

                “ข้าไม่อยากอดทนอะไรอีกแล้ว!”อีแทมินคือภูตที่เสียสติ กระจกหน้าต่างในห้องแตกละเอียดโดยที่ร่างสูงใหญ่นั้นรีบขึ้นคร่อมร่างเล็กปกป้องไม่ให้กระจกนั้นกระเด็นโดนตัว เศษกระจกกระเด็นเข้าปักต้นแขนแกร่งจนเลือดไหลซึม แต่ก็ไม่เจ็บปวด..

                “ข้าเพิ่งรู้ว่าผลดีของการไม่รู้สึกมันเป็นยังไง”มือหนาดึงเศษกระจกใสนั้นทิ้งก่อนสาวเท้าเข้าไปหาภูตหนุ่ม เขาต้องจัดการอีกฝ่ายขั้นเด็ดขาดเสียที หากแต่ร่างบางไม่รู้สึกหวาดหวั่นกับท่าทางอีกฝ่าย ดาบใหญ่ปรากฏขึ้นในมือหยาบ และทันทีที่ตวัดไป..อีแทมินก็กลายเป็นอนยู

                แขนยาวชะงักกึกก่อนจะลดตัวดาบลง ร่างเล็กตรงหน้าน้ำตาคลอหน่วย ดวงตาเรียวใสช้อนมองเขาอย่างน่าสงสาร

                “เจ้าจะทำร้ายข้าหรอ”ริมฝีปากหยักเม้มแน่นพร่ำบอกตนเองในใจว่านั่นคือแทมิน ไม่ใช่คนรักของเขา แต่ดวงตาเรียวที่เขาชอบนั้นทำให้อดไม่ได้ที่จะจ้องมองกลับไป และท่านเทพสงครามก็เพิ่งนึกได้ว่าตนเสียท่าแล้ว..

                ร่างกายไม่สามารถขยับได้ ดวงตาเขาทำได้เพียงจับจ้องอีกฝ่ายที่เดินมาอย่างช้าๆแล้วประชิดตัวเขา มือนุ่มนั้นค่อยๆดึงดามเล่มใหญ่ออกจากมือแล้วจับร่างเขาไปหลบในตู้เสื้อผ้า แง้มออกพอให้เขามองเห็นอนยูตัวจริงที่นอนนิ่ง

                “ท่านมินโฮนี่ทั้งเข้มแข็งทั้งอ่อนแอ..ข้าล่ะชอบนัก~”กลับมาเป็นแทมินคนเดิม มือเรียวอีกข้างที่ว่างเขย่าตัวคนนอนสลบอย่างรุนแรง

                “ถ้าท่านได้เห็นคนรักอ้อนวอนก่อนตายคงจะดีไม่น้อย..ท่านจะได้รังเกียจเทพผู้อ่อนแอแบบนี้ อืมม แล้วข้าก็จะกลับขึ้นแดนเทพทำลายร่างอนยู พอเสร็จก็ค่อยมาตวบคุมท่านให้รักข้า..ข้าฉลาดพอที่จะเคียงคู่ท่านใช่มั้ย”คนโดนปลุกค่อยๆกระพริบตาถี่มองไปรอบๆอย่างงุนงง แล้วต้องผงะถอยเมื่อเจอชายหนุ่มถือดาบเล่มใหญ่อยู่ข้าวตัว

                “มะ..มินโฮ! นี่มันเรื่องอะไร..”มือนุ่มยกขึ้นกุมศีรษะที่ปวดหนึบ เหมือนได้ยินเสียงดังตุ้บๆจากข้างในหัว ดวงตาเรียวที่ยังพร่าเบลอกวาดไปมองไปรอบๆก่อนจะช้อนตามองชายหนุ่มร่างสูงที่ถือดาบเล่มใหญ่

                “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”ภูตหนุ่มที่ตอนนี้อยู่ในร่างเทพสงครามยิ้มอบอุ่นให้อีกฝ่าย ดวงหน้าใสพยักรับก่อนจะมองไปรอบๆ

                “ข้าสลบไป..ข้าไม่โกรธเจ้าแล้วล่ะ ข้าเข้าใจดี..ถึงมันจะลืมไม่ได้แต่ข้าก็จะพยายามปล่อยให้ผ่านไป ข้าขอโทษที่สาปเจ้า”ร่างเล็กโผเข้ากอดชายหนุ่มร่างสูงที่แสยะยิ้มร้าย ค่อยๆใช้มือลูบแผ่นหลังอีกฝ่ายเบาๆ

                “ไม่เป็นไรหรอก”

                “แล้วแทมินล่ะ? เจ้ารู้ใช่มั้ยว่าแทมินมาที่นี่ เจ้าจัดการแทมินไปแล้วหรอ?”ฝ่ามือที่ถือดาบกระชับแน่น น้ำเสียงที่เปล่งออกเย็นชาและแข็งกระด้าง

                “เปล่า..แทมินยังอยู่ที่นี่ แล้วเจ้าจะไปสนใจคนอื่นทำไมล่ะ ในเมื่อเจ้า..กำลังจะตาย”

                “อะไรนะ!..”เสียงนุ่มขาดห้วงพร้อมกับร่างกายที่กระตุกเฮือก ดาบคู่ใจของท่านเทพสงครามตวัดแทงเข้าหน้าท้องอีกฝ่าย ชายหนุ่มที่ถูกจับซ่อนทำได้เพียงนั่งมอง..มองด้วยความเจ็บปวด

                “ลาก่อนนะท่านอนยู”ดาบเล่มใหญ่ถูกกระชากออกพร้อมกายบางที่ล้มฟุบลงกับเตียง ชเวมินโฮที่หัวเราะร่าหายไป..กลายเป็นภูตหนุ่มที่หัวเราะราวกับเสียสติ ขาเรียวก้าวเข้าเปิดประตูตู้เสื้อผ้าก่อนจะคว้าแขนแกร่งให้มายืนเคียงข้างตนเอง มองคนรักที่กำลังจะตาย..

                “มินโฮ..ข้าขอโทษ”ทั้งโกรธทั้งเจ็บปวดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ อยากจะสังหารแทมิน อยากเข้าไปรับคมดาบแทน อยากปกป้องคนรัก หากแต่ร่างกายกลับทรยศ..ไม่สามารถขยับได้เลย

                “ดูสิๆ ท่านอนยูเหมาะกับสีแดงนะท่านว่ามั้ย? อ๋า~ข้าดีใจจัง! แล้วข้าจะไปเอาร่างอนยู ท่านช่วยนั่งเฝ้ามองเขาตอนข้าไม่อยู่ด้วยนะ! อ้อ..ข้าจะให้ท่านได้คุยกับมันเป็นครั้งสุดท้ายละกัน”และแล้วร่างภูตหนุ่มก็หายไป ทิ้งให้เทพหนุ่มนั่งเฝ้ามองคนรักที่กำลังจะตาย ริมฝีปากหยักคลายออกจากกัน

                “อนยู ข้ามันแย่..ข้าปกป้องเจ้าไม่ได้”ดวงตายังคงฉายแววเรียบเฉยดั่งเดิมแต่น้ำเสียงนั้นสั่นเครือ มือนุ่มที่เปื้อนเลือดคว้ามือของเขาไว้..กลิ่นเลือดคาวคละคลุ้ง อยากรู้สึกถึงสัมผัสอีกครั้ง ถึงนี่จะเป็นร่างมนุษย์แต่เขาก็ไม่อาจทนเห็นความตายต่อร่างนี้ได้

                หากร่างเทพโดนทำลาย วิญญาณก็จะแตกสลาย..หวนคืนสู่ความว่างเปล่า

                “แค่เจ้ายอมทำเพื่อข้า ข้าก็ดีใจแล้วนะ”เสียงนั้นแหบแห้งและแผ่วเบา ลมหายใจเริ่มเบาบางลงทุกที ตอนนี้ร่างกายรู้สึกด้านชา ไม่เจ็บปวดอีกต่อไป ดวงตาเรียวมีน้ำรื้นร่างกายพยายามที่จะขยับตัวเข้าใกล้ชายหนุ่มที่ตนรัก มือนุ่มพยายามจับดวงหน้าคมที่เฝ้ารอมานานไว้

                “อย่าร้องไห้..ข้าเชื่อว่าข้าไม่ตายง่ายๆหรอก ถึงร่างนี้จะตาย แต่ดวงวิญญาณของข้าก็ยังอยู่นะ”อนยูรับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังร้องไห้ ชเวมินโฮไม่เคยร้องไห้ให้กับใครนอกจากเขาเท่านั้น ดวงตานั้นพร่าเบลอไปหมด ประสาทสัมผัสแต่ละด้านเหมือนจะถดถอยไปจนแทบไม่รับรู้

                “แทมินร้ายกาจเกินไป ข้ามันอ่อนแอและไม่เอาไหน ข้าขอโทษ..”

                “กลับมาแล้วล่ะ~พรรคพวกของข้ากำลังโจมตีแดนเทพทำให้ร่างของเจ้าและเพื่อนอีกสองคนไม่มีใครเฝ้าเลย แต่สองคนนั้นไม่ผิดอะไรข้าเลยไม่อยากทำลายทิ้ง”อีแทมินกลับมาพร้อมร่างจริงของเทพแห่งความรัก เจ้าตัวโยนลงกับพื้นอย่างไม่ใยดี

                ขาเรียวสาวเท้าก่อนขึ้นไปบนเตียงที่มีเลือดแดงฉานเประเปื้อนเป็นวงใหญ่ มือเรียวบางค่อยๆบีบลงบนลำคอขาวที่หายใจรวยริน

                “อ่อนแอน่าสมเพช..”กดน้ำหนักลงไปจนร่างขาวกระตุกเฮือก แต่ร่างกายที่อ่อนล้าไม่สามารถดีดดิ้นเรียกร้องขอได้อีก กายบางกระตุกเล็กน้อยก่อนจะล้มตัวลงแล้วแน่นิ่ง..ร่างมนุษย์ตายแล้ว

                ชายหนุ่มคนรักทำได้เพียงนิ่งเงียบ ไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกจากลำคอแกร่ง ดวงตาคมโตทำได้เพียงมองร่างมนุษย์ที่ถูกตัดเส้นชีวิตไป รู้ดีว่าแค่ร่างจำลองแต่หัวใจมันก็เจ็บปวด..

                ต้องการคำสาป..สาปให้เขาไร้ความรู้สึกด้านจิตใจ ความโหดร้ายที่พบเจอมากเกินกว่าจะรับไหว

                ดวงวิญญาณคล้ายลูกไฟสีขาวค่อยๆลอยออกจากร่างที่เริ่มเย็นชืด ลอยวนไปวนมารอบกายชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งนิ่ง ภูตหนุ่มหัวเราะหึก่อนจะใช้มือปัดลูกไฟนั้นให้ห่างออกไป ใบหน้าคมถูจับหันให้มองร่างบนพื้น

                “ถ้าไม่ทำพิธี วิญญาณก็เข้าร่างเดิมไม่ได้ สนุกจริงๆ! ถึงเวลาชำระความแค้นกันแล้วนะ~”มือเรียววางลงบนตำแหน่งหัวใจของร่างเทพ สัมผัสได้ถึงอัตราการเต้นอ่อนๆที่ส่งผ่านมา

                “ลาขาด..ตลอดกาล”และแล้วร่างเทพแห่งความรักก็ระเบิดออก เลือดสีแดงสดกระเด็นเข้าเปรอะเปื้อนใบหน้าหวานสวยของภูตรูปงาม เสียงหัวเราะเริงร่าดังก้องทั่วห้อง หยดเลือดบางส่วนกระเด็นโดนใบหน้าหล่อคมของเทพร่างสูง

                ดวงวิญญาณหายไปพร้อมกับหัวใจที่แตกสลาย เหลือเพียงสองร่างที่อยู่ในห้อง

                “ท่านรู้สึกอย่างไรบ้างท่านมินโฮ? ถือซะว่าเป็นการแก้แค้นเล็กน้อยของข้าที่มอบให้ท่านนะ เพราะท่านทอดทิ้งข้า..ข้าก็ทำให้ท่านโดนทอดทิ้ง โดดเดี่ยว อ้างว้าง เจ็บปวดมากขนาดไหน ท่านรับรู้แล้วใช่มั้ย แต่ท่านไม่ต้องห่วงไปหรอก ข้าจะทำให้ท่านมีความสุขเอง..”ร่างผอมบางเดินไปนั่งตักอีกฝ่าย ฝ่ามือที่เปรอะเปื้อนเลือดลูบไล้ใบหน้าคมเข้มอย่างหลงใหล

                “อย่ามาแตะต้องตัวข้า!!

                “เดี๋ยวข้าจะพาท่านไปรักษาคำสาปนะ ข่มขู่ท่านมหาเทพคงจะได้อยู่..ท่านไปอยู่แดนภูตกับข้ามั้ย”คราวนี้ไม่มีเสียงตอบกลับจากเทพร่างสูง ดวงตาโตช้อนมองใบหน้าคมที่มองตรงไปยังกองเลือดกองหนึ่ง หยาดน้ำใสไหลรินจากดวงตาใสราวเด็กน้อย

                “ทำไมท่านถึงไม่รักข้า? ทั้งๆที่มันก็สูญสลายไปแล้วทำไมท่านถึงไม่มองข้า ทำไม!!

                “เพราะเจ้าคือแทมิน เพราะเจ้าไม่ใช่คนที่ข้ารัก..เจ้าไม่ใช่อนยู!

    …CURSE...

                “อนยู..”เสียงใครกัน? ทำไมข้าถึงยังได้ยิน ข้าแตกสลายไปแล้วไม่ใช่หรือ?

                “เจ้ารู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง”เสียงนี้ช่างคุ้นหู เปลือกตาบางสีมุกกระพริบถี่ก่อนมองไปยังต้นเสียง ดวงหน้าเพื่อนรักทั้งสองกำลังจ้องมองมา

                “จงฮยอน..คีย์..”ทำไมข้าถึงยังไม่ดับสูญ?

                “ค่อยๆลุกนะ ช้าๆ กลับเข้าร่างแรกๆอาจจะรู้สึกติดขัดนิดหน่อยนะ”เทพแห่งศิลปะที่มีฐานะคนรักขององค์มหาเทพส่งยิ้มบางให้

                “ท่านแจจุง..นี่มันอะไร? ทำไมข้าถึงยังอยู่?”

                “โชคดีที่พวกเราจัดการภูตได้ก่อนที่แทมินจะขึ้นมาอีกครั้ง พวกเราทำการย้ายร่างของพวกเจ้าทั้งสามลงมายังโลกมนุษย์เมื่อครู่ก่อนนี้เอง แล้วข้าก็สร้างร่างจำลองไว้ จงฮยอนกับคีย์ก็เพิ่งฟื้น ข้าไปดึงวิญญาณพวกเขากลับมาเองแหละ”

                “ไม่งั้นเจ้าได้กลับสู่ความว่างเปล่าเป็นแน่”จงฮยอนเสริมทันก่อนจะเอาน้ำเย็นมาให้เพื่อนรักของตน

                “รีบฟื้นตัวซะ! เรามีหน้าที่ต้องไปจัดการกันอีก เทพแห่งความรักอย่างเจ้าคงไม่อยากสูญเสียของรักไปให้กับพวกภูตหรอกจริงมั้ย?”ริมฝีปากอิ่มเหยียดยิ้มก่อนมองไปรอบห้องที่เป็นห้องพักของจงฮยอนกับคีย์ เพื่อนรักทั้งสองรวมทั้งแจจุงส่งยิ้มให้เขา

                “ให้มันรู้ไปสิว่าข้าจะแพ้เจ้าเด็กนั่น!

    TBC.

             

    THE★FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×