ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF SHINee Yaoi&Yuri] HOOn Only!

    ลำดับตอนที่ #23 : Happy Valentine’s Day [สอบถามการรวมเล่ม&เปิดโพล]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 326
      2
      23 พ.ค. 57

     




    Happy Valentine’s Day

                ลมหายใจอุ่นระบายออกจากริมฝีปากคนตัวสูงที่กำลังเดินทอดน่องไปตามฟุตบาทที่มีของขายอยู่เต็มไปหมดทั้งริมถนนและร้านค้า

                ดอกกุหลาบ..ช็อคโกแลต..ตุ๊กตา..ของกุ๊กกิ๊กหวานแหวว สารพัดสารเพต้อนรับวันวาเลนไทน์

                “น่าเบื่อชะมัด”เสียงทุ้มอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำออกมา วันวาเลนไทน์คือวันสำหรับคนมีคู่ ไอ้พวกไร้คู่แบบเขาก็ทำได้แค่เป็นตัวประหลาดในวันนี้เท่านั้นแหละ

                เมื่อไหร่จะมีคู่กับเขาซักทีวะ!!! ชีวิตชเวมินโฮช่างน่าละเหี่ย!

                ทั้งๆที่เขาก็หน้าตาไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น..

                ถามว่าหล่อมั้ย ทุกคนบอกว่าหล่อมาก

                รูปร่างดีมั้ย ทุกคนก็บอกว่าเพอร์เฟ็ค

                ฉลาดมั้ย ทุกคนก็บอกว่าหัวไวปราดเปรื่อง

                ทักษะทางกีฬา ทุกคนก็บอกว่าเทพสุดๆ

                ฐานะทางบ้าน ทุกคนก็ยังบอกอีกว่ามีใช้อีกสามชาติก็ไม่หมด!

                แล้วเขา..ไม่ดีตรงไหนกันล่ะเนี่ย?

    Happy Valentine’s Day

                ดวงตาเรียวสาดส่องไปทั่วของขายที่ต้อนรับวาเลนไทน์เต็มไปหมด ขนมเอย ดอกไม้เอย หลากสีสันหลากหลายรูปแบบ แค่มีโบว์ติดก็ราคาพุ่งสูงไปแบบไม่น่าเชื่อ..ถ้าเขาได้คงดีใจพิลึก

                ใบหน้านวลเหลียงหลังไปมองคู่รักคู่หนึ่งที่เดินสวนไปด้วยรอยยิ้ม..เกิดมายี่สิบปีบนโลกมนุษย์เข้าไปแล้วยังไม่มีแฟนกับเขาเลยให้ตายสิ

                อีจินกิเป็นผู้ชายที่น่าอนาถที่สุด!

                ทุกคนบอกเขาน่ารัก

                ทุกคนบอกเขานิสัยดี ร่าเริง

                ทุกคนบอกเขามีเสียงที่น่าฟัง

                ทุกคนบอกเขามีเงินทองใช้เหลือเฟือ

                คุณสมบัติดีขนาดนี้..ทำไมถึงไม่มีแฟนกับเขาซักที??

                พอคิดถึงความเป็นจริงที่ตัวเองไม่มีใครเอาก็โมโหราวกับคนวัยทอง กระป๋องน้ำที่วางเกะกะถูกเตะกระเด็นไปสุดแรง

                “โอ๊ย!”งานเข้าแล้วไงอีจินกิ..

    Happy Valentine’s Day

                มือหนายกขึ้นกุมหัวตัวเองที่โดนกระป๋องน้ำอัดเข้ามาโดยไม่รู้ตัว คนที่เดินผ่านผ่านมาหันมามองด้วยความสงสัย จนเขาต้องยิ้มให้แล้วบอกว่าไม่เป็นไร

                ดวงตาคมโตเหลือบมองไปด้านหน้าเห็นคนคนนึงกำลังตั้งท่าจะวิ่งมาดูผลงานฝีเท้าของตน แต่ก็นั่นแหละ..พอเห็นเขาก็หยุดชะงักแล้วตั้งทาวิ่งหนีกลับไปทางเดิมทันที ตายังพร่าจากการโดนกระแทกจึงเห็นไม่ถนัดว่าเป็นใคร แต่อย่างน้อยสีเสื้อกันหนาวนั่นเขาก็จำได้ล่ะ

                ไอ้เจ้าเสื้อกันหนาวสีแดง!!

                “อย่าให้จับตัวได้นะ..”ปากก็ข่มขู่ไป แต่มือยังคงคลึงตรงรอยปูด

                วันนี้วันซวยของชเวมินโฮชัดๆ เกลียดวาเลนไทน์ที่สุด!!

    Happy Valentine’s Day

                “ซวยชะมัดเลย”คนตัวเล็กในเสื้อกันหนาวสีแดงวิ่งมานั่งบนม้านั่งในสวนสาธารณะที่ค่อนข้างไกลพอสมควร เจ้าตัวหายใจหอบเหนื่อยก่อนจะนั่งพิงด้วยท่าทางอ่อนแรง

                “โดนหัวใครไม่โดน ดันโดนหัวไอ้บ้านั่น..โอ๊ยยย มันเห็นหน้าเรามั้ยนะ”ดวงหน้าหวานหันไปยังทิศทางที่วิ่งมา ไอ้บ้าของจินกิคือผู้ชายตัวสูงหน้าตาดีที่ชื่อชเวมินโฮ ว่ากันว่าเป็นพ่อเทพบุตรจุติเดือนแห่งคณะบริหาร การเรียนเป็นเลิศ กีฬาก็ยอดเยี่ยม แต่เสียอย่างเดียวคือนิสัย..

                นิสัยแพ้ไม่เป็นแล้วเจ้าคิดเจ้าแค้นเนี่ยแหละ!

                เขาถึงต้องวิ่งตาตั้งมาถึงนี่

                ถอนหายใจออกมาอีกระลอกก่อนจะหันไปมองบรรยากาศสีชมพูรอบตัว ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเลี่ยนขึ้นมา ถ้าถามว่าเขามีคนมาจีบมั้ย แน่ล่ะมันต้องมี แต่เขาไม่ได้ชอบเลยยังโสดมาตลอดยี่สิบปีนี้ สรุปคือเรื่องมากเองนั่นแหละ

                “ตึกเรียนเรากับมันอยู่คนละฝั่งกันเลยนี่นา..คงไม่มีโอกาสได้เจอหรอกมั้ง”พูดพึมพำออกมาคนเดียวให้ตัวเองรู้สึกสบายใจ แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะมองระแวงไปรอบๆ เพราะถ้าโดนจับได้นี่งานเข้าชิ้นใหญ่เลยนะนั่น

    Happy Valentine’s Day

                ชเวมินโฮวิ่งมาหยุดตรงหลังพุ่มไม้ในสวนสาธารณะ โดยใช้ต้นไม้ต้นใหญ่บังตัวเองไว้ ทำตัวราวสโตรคเกอร์ก็ไม่ปาน

                “นั่นมันอีจินกินี่หว่า”ดวงตาคมโตมองไปยังคนตัวเล็กใส่เสื้อกันหนาวสีแดงที่หันมองไปรอบๆด้วยท่าทางระวังอะไรบางอย่าง..ระวังเขาเนี่ยแหละ!

                อีจินกิเด็กปีสองคณะศิลปศาสตร์ที่เพื่อนๆเขามันหลงนักหลงหนา ว่ากันว่าน่ารักไม่หยอก เขาเองก็เคยเห็นบ้างจากรูปที่พวกมันพยายามยัดเยียดให้เห็น เขามองผ่านๆไม่สนใจอะไรจนมาเจอตัวจริงนี่แหละ

                ถามว่าน่ารักมั้ย..ก็น่ารัก แต่จะน่ารักกว่านี้ถ้าไม่เตะกระป๋องน้ำใส่หัวเขา!

                ถ้าเดินผ่านกันปกติเขาคงจะจีบ แน่ล่ะใครบ้างที่จะไม่สนใจคนหน้าตาดีแบบเขา แต่เขาจีบใครก็มักจะมีเรื่องให้พลาดทุกครั้งไป ทั้งติดธุระ โดนตัดหน้า ไปเรียนที่อื่น สารพัดมารผจญจนไม่อยากจะจีบใคร

                “จะแก้แค้นยังไงดี?”ดวงตาโตยังคงจ้องอีกฝ่ายที่เริ่มผ่อนคลาย นั่งแกว่งขาเล่นราวกับเด็กหกเจ็ดขวบ ริมฝีปากแสยะยิ้มก่อนจะตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง

    Happy Valentine’s Day

                “โอ๊ย!”มือนุ่มยกขึ้นกุมหัวตัวเองที่โดนก้อนหิมะพุ่งเข้าใส่แบบเต็มเหนี่ยว แม่นราวกับจับวางจนเจ็บ ร่างเล็กผุดลุกขึ้นหันไปมองรอบๆ

                “ใครวะเนี่ยยย”พอหันหลังไป หิมะอีกลูกก็พุ่งตามมาซ้ำลงที่เดิม คนโดนแกล้งขมวดคิ้วแน่นก่อนจะตัดสินใจเดินไปยังทิศทางของอาวุธที่พุ่งมาทันที

                “นี่! เรื่องอะไรมาแกล้งกันห๊ะ??”อีจินกิกำลังยืนเผชิญหลังของใครบางคนที่ยืนหันหลังให้ และไม่มีการตอบรับจากคนที่เป็นคนแกล้ง

                “หันมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”มือนุ่มแตะลงไหล่กว้างก่อนจะดึงให้หันมา แล้วก็นั่นแหละ..ขาเรียวเตรียมวิ่งหนีไปทันที

                “อะไรหรอครับคุณอีจินกิ”รอยยิ้มซาตานส่งมาให้เต้าหู้ตัวอุ่นๆ ที่กำลังตั้งท่าวิ่งหนี แต่กลับถูกแขนยาวรั้งเอวเอาไว้แน่น

                “ปะ เปล่าครับ ผมคิดว่าผมเข้าใจอะไรผิด ฮะๆ ผม..มีธุระพอดีเลย”แขนยาวรั้งเอวคอดเข้ามาให้ชิดตัวเองมากกว่าเดิม ดวงตาโตจ้องมายังใบหน้าหวานที่ดูตื่นตระหนก

                “เข้าใจผิดอะไรหรอครับ?”คำถามดูสุภาพแต่เสียงเข้มๆนั้นกำลังแฝงไปด้วยการข่มขู่จนอีจินกิอยากจะร้องไห้

                “ผมคิดว่าคุณชเวมินโฮปาหิมะใส่หัวผมน่ะ ฮะๆ ผมนี่เพี้ยนเนอะ ฮ่าๆๆๆ”หัวเราะเสียงฝืดเฝื่อนพร้อมทั้งพยายามแงะแขนแข็นแรงออกจากช่วงเอว ชเวมินโฮกระตุกยิ้มมองมนุษย์เอสไลน์ตัวนุ่มที่พยายามแงะแขนเขาออก

                “งั้นผมเองก็คงเข้าใจผิดที่คิดว่าคุณอีจินกิเตะกระป๋องน้ำใส่หัวผม”เต้าหู้ตัวขาวเบิกตากว้างมองไปยังรอยช้ำเด่นชัดบนหน้าผาก ริมฝีปากอิ่มยิ้มแหยก่อนจะพูดตอบเสียงสั่น

                “คุณคงจำผิดคนแล้วล่ะ ผมจะไปทำร้ายคุณทำไมล่ะเนอะ”

                “นั่นสิ แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าผมทำร้ายคุณล่ะหือ”อีจินกิเริ่มมึนงงกับบทสนทนาที่ดูยอกย้อนกลับไปกลับมา ทำเพียงแค่ส่งยิ้มหวานให้แล้วพยายามขืนตัวออก

                “อ้า..มันก็แค่ทิศทางเดียวกันเอง ผมต้องรีบไปธุระจริงๆ ปล่อยผมเถอะนะ”

                “ไม่ใช่เพราะคุณเตะกระป๋องน้ำใส่หัวผมรึไง”คนถามถามเสียงเขียวจนคนฟังใจหล่นไปตาตุ่ม เจ้าตัวยุ่งหัวเราะฝืดเฝื่อนก่อนจะเงียบกริบเมื่อโดนสายตาพญามารจ้องแทบไม่กระพริบ

                ฮืออออ ตาก็โตอยู่แล้วยังจะจ้องอีก! น่ากลัวที่สุดเลย

                กระต่ายขี้กลัวก้มหน้างุดหนีความผิดเต็มที่ พยายามคั้นน้ำตาสดๆออกมาเรียกร้องความสงสารก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมน้ำตาที่คลอดวงตาเรียว..

                “ผมขอโทษ..ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมแค่หงุดหงิด”แน่ล่ะว่าหนุ่มนักบริหารผู้ปราดเปรื่องไม่หลงกลกับมารยากระต่ายง่ายๆจึงตอบโต้กลับด้วยการทำเป็นเกลี่ยนหยาดน้ำที่คลอเอ่อให้หมดพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น

                ตาย..อีจินกิกำลังจะตายเพราะรอยยิ้มเทพบุตรนี่! ฮือออ เกิดมายี่สิบปีไม่เคยใจเต้นกับใครเลยนะ

                “แต่ความหงุดหงิดของคุณมันทำให้คนอื่นเจ็บตัวนะ”ว่าที่นักธุรกิจพันล้านใช้วาจาคมคายให้อีกฝ่ายได้สำนึกขึ้นมาจริงๆ คนตัวขาวก้มหน้าหงอยก่อนจะขอโทษออกมาเสียงแผ่ว ดวงตาเรียวช้อนขึ้นมองอีกฝ่าย

                “งั้นให้ผมพาไปทำแผลดีมั้ย”คนตัวสูงมองหันไปรอบๆ เห็นแต่ผู้คนที่นั่งเคียงคู่กัน..ริมฝีปากหยักเม้มแน่นจากการใช้ความคิดก่อนจะตัดสินใจออกมา

                “คุณโสดรึเปล่า”

                “ห๊ะ???”คำถามแปลกๆเล่นเอาอีจินกิมึนไปชั่วขณะ เมื่อคำตอบที่ได้ไม่ใช่คำตอบที่ตรงประเด็น แล้วยังกลายเป็นคำถามคนละเรื่องอีกต่างหาก

                “ผม..เอ้อ โสด”

                “งั้นเราไปเดทวันวาเลนไทน์กัน”

                “ห๊าาาา!~

                ชเวมินโฮเพี้ยนไปแล้วแน่เลย!!

                ฝ่ามือทั้งสองคนประสานกันแน่นแต่กลับทิ้งระยะห่างพอควร ดวงตาเรียวเหลือบขึ้นมองโครงหน้าเข้มที่มีรอยยิ้มแต้มประดับไว้บางเบา

                เขาโง่หรือไอ้สูงนี่บ้ากันแน่..ที่มาเดทกันโดยรู้แค่ชื่อเนี่ยนะ?

                ก็เดทไงล่ะ คุณโสดผมก็โสด วันนี้วาเลนไทน์ก็เหงาๆ มาเดทกันมั้ยล่ะ แค่เดทนะไม่ใช่แฟน แล้วโทษฐานที่คุณทำหน้าผมเป็นแบบนี้จนไม่กล้าไปจีบใครด้วย ผมว่ามันก็เข้าท่าดีนะ

                มันก็เข้าท่านะ..แต่ทำไมเขาต้องมาเขินไอ้เจ้าชเวมินโฮคนี้ด้วยเนี่ยย!

                “อยากกินอะไร”

                “ฉันอยากกินอาหารอิตาลี่!~

                “ไม่เอาอ่ะ เลี่ยนจะตาย ไปกินอาหารญี่ปุ่นกัน”มือหนากระชับมืออีกฝ่ายแน่นก่อนจะลากไปยังอีกทาง ริมฝีปากอิ่มทำท่าจะประท้วงกับท่าทางอีกฝ่ายแล้วขืนมือออก เสียงใสเริ่มโวยวายเสียงลั่น

                “ไม่เอาๆ ฉันจะไปกินอาหารอิตาลี่!

                “ไม่สนล่ะ ฉันขอนายเดท นายต้องตามใจฉัน ฉันอุตส่าห์ยอมมาขอนายเลยนะ”

                ไอ้บ้าเอ๊ย!!!

                ดวงตาคมโตเหลือบขึ้นมองอีกฝ่ายที่นั่งจ้องหน้าเขาตาเขียวปั้ด แก้มใสเหมือนจะพองออกน้อยๆตามอารมณ์ที่ขุ่นมัว

                “กินไปเถอะน่า มันก็อร่อยดีนะ”ว่าแล้วก็จัดแจงคีบข้าหน้าปลาดิบจุ่มซอสที่ข้นคลั่กด้วยวาซาบิของตัวเองจ่อริมฝีปากอิ่ม

                “ไม่กิน! ฉันเกลียดวาซาบิ”คนตัวสูงกว่าเริ่มขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ ข้าวปั้นชิ้นน้อยถูกจับยัดเข้าริมฝีปากอิ่มสวยทันที

                คนโดนป้อนรีบเคี้ยวกลืนไปอย่างรวดเร็ว ไอสำลักค่อกแค่กจนรีบหาน้ำมาซดแทบไม่ทัน

                “อะ..ไอ้บ้า! โอ๊ยย ฉุนชะมัดเลย”ปลายจมูกแดงจนคนเห็นหัวเราะออกมา มือหนายกขึ้นบีบเบาๆเป็นการหยอกก่อนพูดคำบางคำออกมา

                “นายนี่น่ารักชะมัดเลยแฮะ”

                โอ๊ย~เหมือนรู้สึกหน้าตัวเองกำลังไหม้เลยแฮะ อีจินกิสงบสติหน่อยเถอะ!

                “อยากดูหนังอะไร”เสียงเข้มๆเอ่ยถามคนตัวกลมที่หลังจากโดนเขาป้อนข้าวปั้นด้วยความรัก เดินกุมแก้มขาวๆของตัวเองที่ขึ้นสีแดงอ่อนตามเขาต้อยๆ ดวงตาเรียวหวานนั้นช้อนมองก่อนจะหลุบลงต่ำ

                “วันวาเลนไทน์ก็ต้องดูหนังโรแมนติคสิ”คนฟังคำตอบชักสีหน้าปุเลี่ยนให้กับคนทำตัวเป็นสาวน้อย(?)หัดมีความรัก ดวงตาคมโตตวัดมองโปสเตอร์หนังก่อนจะยิ้มด้วยความพึงพอใจ จัดแจงสั่งให้อีกฝ่ายคอยอย่างว่าง่ายแล้วเดินไปซื้อตั๋ว

                “ดูหนังเรื่องอะไรน่ะ”มือนุ่มพยายามยื้อแย่งตั๋วใบน้อยหลังจากที่เห็นอีกฝ่ายเดินยิ้มระรื่นออกมา คนตัวขาวที่เริ่มวาดฝันเดทแรกหลังจากเจอคำหวานอยากจะดูให้แน่ใจว่ามันเป็นหนังโรแมนติค

                “เอาน่า ไม่ต้องดูหรอก ไปซื้อป็อบคอร์นกัน อยากกินแบบไหนชี้เลย ฉันจ่ายเอง”ป๋าชเวพาอีหนู(?)ที่เพิ่งเลือกมาไปซื้อของกินในโรงหนัง หลังจากได้ป็อบคอร์นรสถูกใจจึงมาเดินเตร็ดเตร่คอยเวลาเข้าไปดู

                อีจินกิยังคงพยายามส่องดูว่าหนังที่อีกฝ่ายเลือกมาคืออะไร แต่คนตัวสูงกว่าก็รู้ทันเสมอจัดการพับตั๋วใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะยักคิ้วกวนประสาทอีกคนด้วยท่าทางเหนือชั้นกว่า

                คนตัวขาวเริ่มจะกลัวขึ้นมานิดๆ..ว่าหนังนั่นมันตกลงเรื่องอะไรกันแน่

                คนตัวสูงนั่งมองภาพผีหน้าเละที่มักจะโผล่มาเป็นระยะ เขาเองก็ตกใจนะ..แต่พอเจอคนตกใจกว่าแล้วมันตกใจไม่ออกเนี่ยสิ ดวงตาคมโตเหลือบลงมองกระต่ายตัวเขื่องที่กอดแขนเขาแน่นแล้วพยายามมุดหน้าหนีหายไปให้ได้มากที่สุด

                คนขี้กลัวได้แต่สบถด่าคนเลือกหนังในใจเป็นชุด มือก็พยายามอุดหู หน้าก็ยังพยายามมุดหายเข้าไปต้นแขนใหญ่ๆของอีกฝ่าย เรียกได้ว่าพยายามปิดประสาทการรับรู้ของตัวเองให้หมด จนรู้สึกถึงแรงดึงที่พยายามแงะตัวเองออก แต่คนดื้อก็ยังคงขืนตัวมุดหน้ามุดตาต่อไป

                “อย่าขืนตัวสิ ฉันไม่แกล้งแล้ว”คนเสียงทุ้มพยายามดึงอีกฝ่ายที่นั่งท่าประหลาดออกมาจากแขนของตน ก่อนจับมาซุกช่วงแผ่นอกกว้างนั่นไว้แทน มือข้างนึงโอบรอบไหล่แล้วปิดตาไว้ให้แน่น เสียงทุ้มแผ่วเบาปลอบคนขี้กลัวให้สงบลง

                “ไม่มีอะไรแล้ว ฉันปิดตาให้อยู่นี่ไง ไม่เห็นหรอก ไม่ต้องกลัว”มืออุ่นหนาอีกข้างมากุมมือนุ่มไว้แล้วกระชับแน่น คนตัวขาวเริ่มรู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่ถี่ขึ้นจนราวกับมันจะขาดใจเสียอย่างนั้น ใบหน้านวลขยับเข้ามุดแน่นกว่าเดิมก่อนจะอมยิ้มบาง

                “อื้อ”

                “หนังสนุกเนอะ”ชเวมินโฮพูดขึ้นทันทีที่ย่างเท้าออกมาจากโรงหนัง คนไม่ได้ดูแถมยังเผลอหลับไปเสียเฉยๆแจกค้อนวงเบ้อเริ่มให้อีกฝ่ายก่อนพูดเสียงเขียว

                “สนุกกับผีน่ะสิ! น่ากลัวจะตาย โผล่มาฉากแรกฉันก็แทบตายแล้ว คืนนี้นอนไม่หลับแหงเลย”

                “แต่นายก็นอนซุกอกฉันสบายเลยนี่ ไม่เห็นจะไม่หลับตรงไหน”อีจินกิหน้าแดงเรื่อก่อนจะก้มหน้างุด

                “ก็มันอุ่นนี่”อุ่นจนเคลิ้มหลับไปคาอกคนเพิ่งคุยกันวันแรกเสียด้วย..น่าอับอายมั้ยล่ะอีจินกิ? ตั้งแต่มาเดทกันเขาทำตัวเปิ่นทำตัวน่าอายและเขินไปกับไอ้โย่งคนนี้กี่รอบแล้ววะเนี่ยยย

                “งั้นฉันไปนอนที่บ้านนายทุกวันเลยดีมั้ย ให้ซุกทั้งคืนเลยอ่ะ”คนฟังหน้าแดงแปร๊ดก่อนเบิกตากว้างจ้องคนหน้าหนาที่ยังยิ้มยียวนมาให้ มือนุ่มจึงฟาดไหล่กว้างแก้เขินไปซักที

                “ไอ้บ้า! ฉันแค่ง่วง ไม่ได้ชอบจนอยากได้ซะหน่อย ชิ”

                “ร้อนตัวไปแล้วน่า แค่บอกว่าให้ซุก ไม่ได้บอกว่านายชอบนี่ หรือว่าชอบ?”อีจินกิอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดแล้วเขวี้ยงใส่หัวไอ้คนช่างพูดช่างกวนที่ทำให้เขาเขินจนหัวใจจะวายตาย แต่ทำได้เพียงทำท่าฮึดฮัดแล้วเดินจ้ำหนีออกไป

                “ไปไหนเนี่ย”

                “ไม่รู้โว้ย!!

    Happy Valentine’s Day

                ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มบ่งบอกถึงวันเวลาที่ใกล้หมดลงของวันคู่รัก วันนี้เขา..ชเวมินโฮได้คู่เดทมาหนึ่งคน พากินพาเที่ยวตะลอนไปทั้งวันแบบไม่มีพัก โดนทำร้ายร่างกายบ้าง โดนด่าบ้าง แต่มันก็ยังมีความสุขแบบแปลกๆ อาจจะเป็นเพราะการกระทำที่มาพร้อมกับหน้าแดงๆนี่ล่ะมั้ง?

                “จะมืดแล้ว นายจะเที่ยวต่อมั้ย หรือต้องรีบกลับบ้าน”เขาหันหน้าหันไปมองคนตัวขาวที่นั่งแกว่งขาเล่นบนเก้าอี้ในสวนสาธารณะตัวเดิม ดวงตาเรียวหันมาช้อนมองคนถามแล้วยิ้ม

                “ยังไงก็ได้ ทำไมหรอ นายยังไม่อยากให้ฉันกลับอ่ะดิ”เอาศอกกระทุ้งคนถามเบาๆไปทีนึงก่อนจะเอนตัวมาพิงซบไหล่กว้างไว้

                “ถามไปงั้นแหละน่า”เพราะอีกฝ่ายที่พิงตัวอยู่จึงไม่ทันเห็นว่าแก้มของเขานั้นแดงขึ้นมาแบบห้ามไม่ได้ คนฟังยู่ปากเล็กน้อยก่อนพูดขึ้น

                “โกหกกันหรอ หัวใจนายเต้นโคตรดังเลย รู้ตัวป่ะ”คนตัวนุ่มเอ่ยเย้าทั้งที่ไม่ได้ยิน แต่คนฟังกลับร้อนตัวจึงดัวหัวกลมๆของอีกคนออกแล้วขยับตัวหนี

                “ตลกล่ะ จะไปให้อยากอยู่ด้วยทำไม”

                “ร้อนตัวนะเราน่ะ ชอบฉันล่ะสิ”ประโยคที่เคยพูดกวนไปโดนย้อนกลับใส่จนชเวมินโฮนึกอยากโขกหัวตัวเองกับต้นไม้ซักที ก่อนจะมองดุใส่คนช่างพูดที่ยิ้มหวานแล้วยักคิ้วให้

                เหมือนกันเป๊ะ..

                “วันนี้สนุกมั้ยล่ะ”

                “หือ ก็สนุกดี ไม่เหงาเหมือนทุกๆปี ฮ่าๆๆ”มือหนายกขึ้นโยกหัวกลมทุยไปมาเบาๆ ก่อนจะยิ้มบางให้

                “วันนี้ฉันก็แกล้งนายไปซะเยอะเลย”

                “แกล้งทั้งวันเลยแหละ แก้แค้นที่ฉันเตะกระป๋องน้ำใส่หัวใช่มั้ยล่ะ”อีจินกิพูดไปพลางขมวดคิ้วไปพลาง แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไร เพราะสิ่งที่อีกฝ่ายแกล้งก็คือการขัดใจเขาเสียมากกว่า

                เสียงทุ้มหัวเราะขึ้นก่อนจะจับหัวอีกคนลงมาซบไหล่ตัวเองอีกครั้ง คนตัวสูงระบายลมหายใจออกมาก่อนเลื่อนมือลงลูบต้นแขนนุ่มไปมา

                “วันนี้ได้รู้จักกันมากขึ้นเลย ว่ามั้ย?”

                “อื้อ”ชเวมินโฮเม้มริมฝีปากแน่นก่อนก้มลงมองคนที่ตอบเขาออกมาเสียงเบา วันนี้ถึงจะตั้งใจจะแกล้งคนตัวขาวให้หงุดหงิดให้อายบ้าง แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าอีกฝ่ายนั้นน่ารักและน่าปกป้อง เพราะขนาดเขาไม่ได้แกล้งให้เจ็บตัวอะไร อีจินกิก็สามารถเดินสะดุดฝุ่นได้

                “พอพรุ่งนี้เราก็จะกลับไปเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยกันแล้วหรอ นายจะมาคุยกับฉันบ้างมั้ย”ดวงตาเรียวช้อนขึ้นมองพร้อมกับแววตาออดอ้อนจนคนเห็นอยากจะจับมาตีก้นโทษฐานทำตัวได้น่ารักน่าอ้อนเกินไป

                “ก็ประมาณนั้น ฉันต้องไปคุยกับนายบ้างด้วยหรอ เราเดทกันแค่วันเดียวเองนะ”ร่างสูงอมยิ้มเมื่อเห็นว่าคนตัวขาวดูหงอยลงแบบเห็นได้ชัด

                “อย่างน้อยก็รู้จักกันแล้วนี่..รู้จักกันมากกว่านี้ได้ไม่ใช่หรอ”แก้มอิ่มใสแดงระเรื่อกับการบ่งบอกความนัยว่าเขายังอยากจะสานต่อความสัมพันธ์หนึ่งวันนี้ให้มีต่อไป อีจินกิกำลังจะตกหลุมรักชเวมินโฮเสียแล้ว..

                “นาย..กำลังตกหลุมรักฉันรึไง”

                “จะบ้าหรอ! ฉัน ฉันว่านายคุยสนุกดี ก็แค่นั้นเอง..”พูดพึมพำเสียงแผ่วแต่ก็ทำให้คนได้ยินยิ้มกว้างได้ มืออุ่นดันหัวอีกคนออกอีกครั้งก่อนจะแบมือ

                “เอาโทรศัพท์มาสิ”อีจินกิขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ยอมหยิบส่งให้แต่โดยดี นิ้วยาวกดหมายเลขของตัวเองและโทรเข้าเครื่องตัวเอง ก่อนจะพูดขึ้นต่อ

                “นี่เบอร์ฉันนะ เมมว่าอะไรดี? ว่าที่ที่รักดีมั้ย?”คนโดนแซวหน้าแดงจัดก่อนจะรีบดึงโทรศัพท์ตัวเองคืนมา ก้มลงมองเบอร์ใหม่ที่ยังไม่ได้พิมพ์ชื่อเอาไว้แล้วรีบพิมพ์ชื่อลงไปทันที

                “ตลกแล้ว! ฉันจะกลับบ้านล่ะ”

                “ยังไม่ทันจะมืดเลยนะ”

                “ไม่รู้ล่ะ ก็จะกลับแล้ว บาย”ขาเรียวรีบเดินจ้ำไปโดยไม่หันกลับมามองอีกฝ่าย แต่เดินมายังไม่ถึงสามนาทีดี โทรศัพท์มือถือสุดที่รักก็สั่นครืดถึงข้อความที่เข้ามา

                วันนี้ตอนสามทุ่มจะโทรไปหา เตรียมบอกตารางเรียนไว้ด้วย ทำตัวให้ว่างตอนสามทุ่มด้วยล่ะ!’

                ขาเรียวหยุดเดินก่อนจะยิ้มกว้าง ปลายนิ้วรีบกดตอบไปทันทีก่อนจะก้าวเดินต่อไป

                เตรียมบอกของตัวเองไว้ด้วยละกัน...ว่าที่ที่รัก

                วาเลนไทน์ปีนี้..สนุกกว่าปีไหนๆเลยจริงมั้ย?

    The End

                ฟิคมึนๆพล็อตชัววูบจบแบบไร้แก่นสาร ฮา ก็แค่อยากฉลองวาเลนไทน์ด้วยฟิคกุ๊กกิ๊ก(ถึงมันจะไม่กุ๊กกิ๊กอะไรเลยก็เถอะ!) สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะเจ้าคะ~~ รีดเดอร์ท่านใดที่สมหวัง ก็ขอให้รักกันนานๆมีความสุขกับมันมากๆนะคะ ส่วนรีดเดอร์ท่านใดที่ยังไม่สมหวัง อกหักมาก็ขอให้เจอคนที่ดี เอาฟิคหวานแปลกๆไปเสพแก้ดราม่านะคะ ส่วนท่านที่แอบรักใคร ขอให้เขาหันมามองเห็นด้วยในเร็ววัน!!

                รักรีดเดอร์ทุกคนเลยนะคะ~

             ไรท์อยากจะถามรีดเดอร์ว่า ถ้าไรท์รวมเล่มขายจะมีใครสนใจมั้ย ฮ่าๆๆ แต่คือไรท์ไม่รู้เกี่ยวกับวิธีการพิมพ์การจัดทำเลย และไรท์ก็แอบพ่อแม่เป็นสาววาย...ไรท์อยากรู้ว่าถ้าจะพิมพ์เนี่ย ต้นทุนเงินควรมีเท่าไหร่ แหะๆ

                ถ้าไรท์จัดพิมพ์จริงๆ ไรท์ก็จะใส่ให้หมดเลย อาจจะมีแถมตอนพิเศษที่ไม่เอาลงในเน็ต ของแถม บลาๆๆ แต่ไรท์ก็ไม่ลบเรื่องในเน็ตทิ้งนะคะ แล้วก็ยังจัดส่งเอ็นซีต่อไป เพราะเชื่อว่าหลายๆคนคงขี้เกียจซื้อไว้ยุ่งยาก ฮ่าๆๆ รบกวนตอบด้วยนะคะ จะลองเช็คยอดคนดู ถ้ามันเกินซักร้อยห้าสิบอาจจะทำจริงๆก็ได้ รบกวนด้วยนะคะ

               ไรท์ขออนุญาตแปะทวิตนะคะ @mmaycd ใครที่มีทวิตก็ฟอลไรท์ได้ บอกด้วยว่าเป็นแฟนฟิคไรท์จะฟอลกลับ เพราะไรท์คืดว่าไรท์จะอัพเดทข่าวสาวการอัพและการส่งฟิคให้ด้วย เผื่อรีดเดอร์ท่านใดขี้เกียจมาเช็คในหน้านิยายหรือฮอทเมล์บ่อยๆ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ^[++]^

     

    `Snoωωhite™ Cute Polka Dotted Beige Bow Tie Ribbon
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×